Old/New Testament
เทศกาลวันปลดปล่อย
(อพย. 12:1-20; ลนต. 23:4-8)
16 ให้จดจำเดือนอาบีบ[a] และให้เฉลิมฉลองเทศกาลวันปลดปล่อย[b] เพื่อเป็นเกียรติกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะในเดือนอาบีบ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ในตอนกลางคืน 2 ให้ฆ่าสัตว์ถวายพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน สำหรับเทศกาลวันปลดปล่อย โดยเอาสัตว์จากฝูงแพะแกะหรือฝูงวัว ไปถวายในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ 3 ท่านจะต้องไม่กินอะไรที่ใส่เชื้อฟู ตอนกินเนื้อสัตว์ที่เอามาบูชาพวกนั้น ท่านต้องกินขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟูเป็นเวลาเจ็ดวัน (คนเรียกขนมปังนี้ว่า ‘ขนมปังแห่งความทุกข์ยากลำบาก’) เพราะท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์อย่างเร่งรีบ ท่านจะกินขนมปังนี้เพื่อตลอดชีวิตของท่านจะได้จดจำวันที่ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ 4 จะต้องไม่มีเชื้อฟูที่ไหนเลยในแผ่นดินของท่านเป็นเวลาเจ็ดวัน และจะต้องไม่มีเนื้อสัตว์ที่ท่านฆ่าในตอนเย็นของวันแรกเหลือค้างคืนถึงวันรุ่งขึ้น
5 ท่านไม่สามารถถวายเครื่องบูชาสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยในเมืองต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน 6 ท่านต้องไปถวายในที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกสำหรับนมัสการพระองค์เท่านั้น ท่านต้องถวายเครื่องบูชานี้ในตอนเย็น หลังดวงอาทิตย์ตกดินแล้ว มันเป็นเวลาเดียวกับวันที่ท่านออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ 7 ท่านต้องทำอาหารกินในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือก แล้วในตอนเช้า ท่านถึงค่อยกลับไปเต็นท์ของท่านได้ 8 ท่านต้องกินขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูเป็นเวลาหกวัน และในวันที่เจ็ดจะมีการชุมนุมพิเศษ เพื่อให้เกียรติกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน วันนั้นท่านต้องไม่ทำงานใดๆ
เทศกาลสัปดาห์
(อพย. 34:22; ลนต. 23:15-21)
9 นับจากวันที่เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวเป็นครั้งแรกไปอีกเจ็ดอาทิตย์ 10 ให้ฉลองเทศกาลสัปดาห์[c] สำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จำนวนของเครื่องบูชาที่ท่านสมัครใจจะให้ ก็เป็นไปตามขนาดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้อวยพรท่าน 11 ท่าน ลูกชายลูกสาวของท่าน ทาสชายหญิงของท่าน ชาวเลวี ในเมืองของท่าน ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้า และแม่หม้ายในหมู่ท่าน ให้ชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ 12 จำไว้ว่าท่านเคยเป็นทาสอยู่ในอียิปต์ และให้ทำตามกฎพวกนี้ทั้งหมดอย่างระมัดระวัง
เทศกาลอยู่เพิง
(ลนต. 23:33-43; กดว. 29:12-38)
13 ให้ฉลองเทศกาลอยู่เพิงเป็นเวลาเจ็ดวัน หลังจากที่ท่านได้เก็บรวบรวมผลผลิตจากลานนวดข้าวและที่บ่อย่ำองุ่น[d] ของท่าน 14 ในระหว่างงานเลี้ยง ให้ท่าน ลูกชายลูกสาวของท่าน ทาสชายหญิงของท่าน ชาวเลวี ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้ายในเมืองของท่าน ชื่นชมยินดี 15 และเฉลิมฉลองงานเทศกาลให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นเวลาเจ็ดวันในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะอวยพรท่าน ในผลผลิตทั้งหมดที่ท่านเก็บเกี่ยวและในงานทุกอย่างที่ท่านทำ และท่านจะมีความสุขอย่างครบถ้วน
16 ผู้ชายทุกคนต้องมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านปีละสามครั้ง ในสถานที่นั้นที่พระองค์จะเลือกไว้ คือในเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อฟู เทศกาลสัปดาห์และเทศกาลอยู่เพิง ชายทุกคนที่มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ต้องไม่มามือเปล่า 17 ชายแต่ละคนจะต้องให้ตามความสามารถที่เขาจะทำได้ ตามขนาดที่พระยาห์เวห์ได้ให้กับท่าน
ผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่
18 ท่านจะต้องแต่งตั้งผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่สำหรับเผ่าต่างๆของท่าน ในแต่ละเมืองที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน พวกเขาต้องตัดสินประชาชนอย่างยุติธรรม 19 ท่านต้องไม่ตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม ท่านต้องไม่ลำเอียง ท่านต้องไม่รับสินบน เพราะสินบนทำให้คนฉลาดต้องตาบอด และเปลี่ยนคนดีให้พูดหลอกลวง 20 ความยุติธรรม ท่านต้องให้แต่ความยุติธรรม เพื่อท่านจะได้มีชีวิตอยู่และเป็นเจ้าของแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะยกให้กับท่าน
พระเจ้าเกลียดรูปเคารพ
21 เมื่อท่านสร้างแท่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องไม่ตั้งเสาไม้เพื่อให้เกียรติกับพระอาเชริมที่ด้านข้างของแท่นบูชานั้น 22 ท่านต้องไม่ตั้งเสาหินอุทิศให้กับพระเทียมเท็จ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเกลียดของพวกนี้
ใช้แต่สัตว์ดีๆเป็นเครื่องบูชา
17 ท่านต้องไม่เอาวัวตัวผู้หรือแกะที่มีตำหนิหรือมีสิ่งผิดปกติมาถวายเป็นเครื่องบูชาให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเกลียด
การลงโทษคนที่บูชารูปเคารพ
2 ถ้าเจอว่าในเมืองหนึ่งเมืองใดของท่านที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน มีชายหรือหญิงในหมู่พวกท่านทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของของท่านเห็นว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายและฝ่าฝืนข้อตกลงของพระองค์ 3 คือว่าพวกเขาไปรับใช้พวกพระอื่นๆและกราบไหว้พระพวกนั้น ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์หรือดาวดวงต่างๆซึ่งเราไม่ได้สั่งให้ทำอย่างนั้น 4 ถ้ามีคนมารายงานเรื่องนี้ให้ท่านฟัง ท่านต้องสืบดูให้แน่นอน เมื่อพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง ที่มีคนทำเรื่องชั่วร้ายอย่างนี้ในอิสราเอล 5 ท่านต้องเอาตัวชายหรือหญิงคนนั้น ที่ทำเรื่องชั่วร้ายนี้มาที่ประตูเมือง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ต้องเอาหินขว้างให้ตาย 6 แต่จะต้องมีพยานสองหรือสามคนขึ้นไปถึงจะฆ่าคนๆนั้นได้ แต่ถ้ามีพยานแค่คนเดียวก็ห้ามฆ่าเขา 7 พยานพวกนั้นจะเป็นพวกแรกที่เอาหินขว้างเพื่อฆ่าเขา และตามด้วยประชาชนทั้งหมด ด้วยวิธีนี้ ท่านจะกำจัดความชั่วร้ายไปจากท่ามกลางพวกท่าน
การตัดสินคดียากๆในศาล
8 ถ้ามีเรื่องที่ยากเกินกว่าที่ท่านจะตัดสินได้ เช่น การตายนั้นเกิดจากความตั้งใจหรือเป็นอุบัติเหตุ เป็นการฆาตกรรมหรือไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน หรือเป็นเรื่องฟ้องร้องว่าใครเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หรือเรื่องการทำร้ายร่างกายกัน เรื่องทะเลาะกัน ที่เกิดขึ้นในเมืองต่างๆของท่าน ท่านต้องไปในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้ 9 ท่านต้องไปหานักบวชที่เป็นชาวเลวีและไปหาผู้ตัดสินที่เข้าเวรอยู่ในตอนนั้น บอกปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วพวกเขาจะตัดสินปัญหานั้นให้ 10 ท่านต้องทำตามสิ่งที่เขาบอกท่าน จากสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้ และท่านต้องทำตามคำสั่งของพวกเขาอย่างระมัดระวัง 11 ท่านต้องทำตามคำแนะนำที่พวกเขาให้กับท่านและยอมรับคำตัดสินที่พวกเขาบอกท่าน ท่านต้องไม่โยกโย้คำตัดสินที่พวกเขาได้ประกาศให้กับท่านไปทางซ้ายหรือทางขวา
12 คนที่เย่อหยิ่งจองหองไม่ยอมเชื่อฟังนักบวชที่ยืนอยู่ที่นั่น ที่คอยรับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน หรือไม่ยอมฟังผู้ตัดสิน คนๆนั้นจะต้องตาย ทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากอิสราเอลได้ 13 และทุกคนจะได้ยินเรื่องนั้น แล้วจะได้ไม่กล้าเย่อหยิ่งจองหองอีกต่อไป
วิธีเลือกกษัตริย์
14 เมื่อท่านเข้าสู่แผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะให้ท่านและยึดมันเป็นเจ้าของแล้ว และได้ตั้งรกรากแล้ว และท่านได้พูดว่า ‘ให้เราตั้งกษัตริย์ปกครองเราเหมือนชนชาติอื่นๆที่อยู่รอบๆเรากันเถอะ’ 15 ท่านต้องแน่ใจว่ากษัตริย์ที่ท่านจะตั้งเหนือท่านนั้นเป็นคนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเลือก กษัตริย์องค์นั้นจะต้องมาจากพี่น้องร่วมชาติของท่านเท่านั้น ห้ามไม่ให้ตั้งคนต่างชาติที่ไม่ใช่พี่น้องร่วมชาติของท่านขึ้นมาเหนือท่าน 16 แต่กษัตริย์องค์นั้นจะต้องไม่สะสมม้ามากมายสำหรับตัวเอง และเขาจะต้องไม่ส่งคนกลับไปซื้อม้า[e]ที่อียิปต์มาเพิ่ม เพราะพระยาห์เวห์พูดกับพวกท่านไว้ว่า ‘พวกท่านจะต้องไม่หวนกลับไปทางนั้นอีก’ 17 เขาต้องไม่มีเมียหลายคน ไม่อย่างนั้นเขาจะหันเหไปจากพระยาห์เวห์ และเขาจะต้องไม่ทำให้ตนเองร่ำรวยด้วยเงินทอง
18 เมื่อเขาขึ้นนั่งบัลลังก์ เขาต้องลอกคำสอนนี้ไว้สำหรับตัวเอง เขียนลงบนม้วนกระดาษจากต้นฉบับคำสอนที่พวกนักบวชชาวเลวีเก็บรักษาไว้ 19 กษัตริย์ต้องเก็บหนังสือเล่มนั้นไว้กับตัวเขา และเขาต้องอ่านมันตลอดชีวิต เพื่อเขาจะได้เรียนรู้ที่จะเคารพยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และจะได้ทำตามทุกๆคำพูดที่เขียนไว้ในกฎ และข้อบังคับพวกนี้อย่างระมัดระวัง 20 เพื่อเขาจะได้ไม่คิดว่าตัวเขาดีกว่าพี่น้องร่วมชาติของเขา และเพื่อที่เขาจะได้ไม่หันเหจากคำสั่งนั้นไปทางใดทางหนึ่ง เพื่อกษัตริย์องค์นั้นและลูกหลานของเขาจะได้ปกครองเหนืออาณาจักรอิสราเอลไปนานๆ
สนับสนุนนักบวชและชาวเลวี
18 นักบวชชาวเลวี เผ่าเลวีทั้งหมดจะไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินเหมือนกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆ ชาวเลวีจะกินจากพวกของขวัญที่นำมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ นั่นเป็นส่วนแบ่งของพวกเลวี[f] 2 แต่เผ่าเลวีจะไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินในหมู่พี่น้องของเขา พระยาห์เวห์คือส่วนแบ่งของพวกเขาตามที่พระองค์ได้สัญญากับเขาไว้
3 เมื่อท่านฆ่าวัวหรือแกะเพื่อเอามาเป็นเครื่องถวาย ท่านจะต้องแบ่งส่วนต่างๆพวกนี้ให้กับนักบวช คือส่วนไหล่ ส่วนแก้ม และส่วนท้อง 4 ท่านต้องให้ข้าวที่เกี่ยวชุดแรก เหล้าองุ่นใหม่และน้ำมัน รวมทั้งขนแกะที่ตัดครั้งแรกจากแกะของท่านกับนักบวช 5 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้เลือกชาวเลวีและลูกหลานของเขาออกมาจากเผ่าทั้งหลายของท่าน เพื่อมายืนรับใช้พระยาห์เวห์ในฐานะนักบวชตลอดไป
6 ถ้าชาวเลวีคนหนึ่งจากเมืองหนึ่งของท่านมา ไม่ว่าจะมาจากที่ไหนก็ตามในอิสราเอล และมายังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์ได้เลือกไว้ เขาอยากจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ 7 เขาก็มาทำหน้าที่รับใช้ในนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาได้ เหมือนกับที่พี่น้องชาวเลวีของเขายืนอยู่ที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์ 8 พวกเขาจะได้รับส่วนแบ่งอาหารเท่าๆกัน นอกเหนือจากสิ่งที่พวกเขาได้รับจากการขายทรัพย์สมบัติของครอบครัวเขา[g]
ชาวอิสราเอลต้องแตกต่าง
9 เมื่อท่านเข้ามาอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน ท่านต้องไม่เลียนแบบชนชาติพวกนั้นที่ทำแต่สิ่งชั่วๆ 10 อย่าเอาลูกชายและลูกสาวของท่านไปบูชายัญ อย่าให้ใครทำนายโชคชะตา โหราพยากรณ์ หรือหมอดูอนาคต อย่าให้ใครทำตัวเป็นพ่อมดหมอผี 11 หรือพยายามใช้เวทมนตร์สะกดคนอื่น และอย่าให้ใครปรึกษากับผีหรือวิญญาณ หรือพยายามพูดกับคนที่ตายไปแล้ว 12 คนที่ทำแบบนี้เป็นคนที่พระยาห์เวห์รังเกียจ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะขับไล่ชนชาติเหล่านี้ออกไปจากดินแดนนั้นต่อหน้าพวกท่าน เพราะพวกเขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจพวกนี้ 13 ท่านต้องซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอย่างครบถ้วน 14 เพราะชนชาติพวกนี้ที่ท่านกำลังจะขับไล่ออกไปนั้น ไปฟังพวกทำนายโชคชะตา และพวกโหราพยากรณ์ แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ยอมให้ท่านทำอย่างนั้น
ผู้พูดแทนพระเจ้าคนใหม่แทนโมเสส
15 แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะส่งผู้พูดแทนพระเจ้าเหมือนเรา มาจากท่ามกลางพวกท่าน จากท่ามกลางพี่น้องของท่าน พวกท่านต้องเชื่อฟังเขา 16 นี่คือสิ่งที่ท่านได้ขอจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่ภูเขาซีนายในวันที่ท่านได้ชุมนุมกัน ท่านพูดว่า ‘ขออย่าให้เราได้ยินเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราอีกเลย และขออย่าให้เราเห็นไฟที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้อีกเลย เพื่อว่าเราจะได้ไม่ตาย’
17 แล้วพระยาห์เวห์ได้พูดกับเราว่า ‘ข้อเสนอของพวกเขานั้นดี 18 เราจะส่งผู้พูดแทนพระเจ้าเหมือนกับเจ้า ที่มาจากพี่น้องของพวกเขาเองมาให้พวกเขา และเราจะบอกเขาว่าจะพูดอะไร และเขาจะบอกคนพวกนั้นทุกอย่างที่เราสั่งเขา 19 ใครที่ไม่เชื่อฟังคำของเราที่พูดผ่านมาทางเขานั้น เราจะเป็นคนลงโทษคนนั้นเอง’
ลักษณะผู้พูดแทนพระเจ้าปลอม
20 แต่ผู้พูดแทนพระเจ้าคนไหนที่บังอาจพูดในสิ่งที่เราไม่ได้สั่งให้เขาพูด แต่อ้างว่าเราพูด จะต้องตาย และผู้พูดแทนพระอื่นๆจะต้องตาย 21 ถ้าท่านนึกในใจว่า ‘แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ได้มาจากพระยาห์เวห์’ 22 เมื่อผู้พูดแทนพระเจ้านั้นอ้างว่าเขาพูดแทนพระยาห์เวห์ แต่สิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นและมันไม่เป็นจริง ท่านก็รู้เลยว่าผู้พูดแทนพระเจ้านั้นพูดมั่วๆเอาเอง พระยาห์เวห์ไม่ได้บอกให้เขาพูด ท่านไม่ต้องไปกลัวเขา
พระเยซูทำนายว่าวิหารจะถูกทำลาย
(มธ. 24:1-25; ลก. 21:5-24)
13 เมื่อพระเยซูกำลังเดินออกจากวิหาร ศิษย์คนหนึ่งพูดขึ้นว่า “อาจารย์ ดูตึกพวกนี้สิครับ สวยจริงๆสร้างจากหินก้อนใหญ่ๆทั้งนั้น”
2 พระเยซูตอบเขาว่า “เห็นตึกใหญ่โตพวกนี้กันแล้วใช่ไหม มันจะถูกทำลายจนหมดสิ้น ไม่เหลือแม้แต่ซากหินเรียงซ้อนทับกันอีกเลย”
3 เมื่อพระเยซูนั่งอยู่บนภูเขามะกอกเทศ ที่อยู่ตรงข้ามกับวิหารนั้น เปโตร ยากอบ ยอห์น และอันดรูว์ มาถามพระองค์เป็นการส่วนตัวว่า 4 “สิ่งต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ครับ แล้วจะมีอะไรบอกเหตุให้รู้ก่อนไหมครับว่ามันจะเกิดขึ้นแล้ว”
5 พระองค์ก็ตอบว่า “ระวังให้ดี อย่าให้ใครหลอกเอาล่ะ 6 เพราะจะมีหลายคนมาแอบอ้างชื่อของเราว่าพวกเขาเป็นพระคริสต์ และจะมีหลายคนหลงเชื่อ 7 เมื่อคุณได้ยินเสียงสงคราม หรือได้ยินข่าวลือว่าเกิดสงครามก็ไม่ต้องตกใจ เพราะมันต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่นั่นยังไม่ใช่วันสุดท้าย 8 ชนชาติหนึ่งจะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับอีกชนชาติหนึ่ง อาณาจักรนี้จะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับอาณาจักรโน้น จะเกิดแผ่นดินไหวไปทั่ว และจะเกิดกันดารอาหาร นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเอง เหมือนเจ็บท้องเตือนก่อนคลอดลูก
9 ระวังตัวให้ดี พวกคุณจะถูกจับไปขึ้นศาล จะถูกเฆี่ยนในที่ประชุมของชาวยิว และพวกคุณจะต้องยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าเมืองและกษัตริย์เพราะคุณเป็นศิษย์ของเรา คุณจะต้องเป็นพยานเล่าเรื่องของเราให้พวกเขาฟัง 10 แต่ก่อนที่วันสุดท้ายจะมาถึง ข่าวดีจะต้องได้ประกาศออกไปทั่วทุกชนชาติเสียก่อน 11 ตอนที่พวกคุณถูกนำตัวไปขึ้นศาล ไม่ต้องห่วงว่าจะพูดแก้ตัวอย่างไร ให้พูดไปตามที่พระเจ้าบอกในเวลานั้น เพราะคนที่พูดนั้นไม่ใช่ตัวคุณเอง แต่เป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์
12 พี่น้องจะหักหลังกันเองให้ไปถูกฆ่า พ่อจะหักหลังลูกให้ไปถูกฆ่า ลูกๆจะต่อต้านพ่อแม่ และส่งพ่อแม่ให้ไปถูกฆ่า 13 ทุกคนจะเกลียดพวกคุณ เพราะคุณเป็นศิษย์ของเรา แต่ใครที่ทนได้จนถึงที่สุดก็จะได้รับความรอด
ความน่าสยดสยอง
14 เมื่อพวกคุณเห็นสิ่งที่น่าขยะแขยง[a] ที่เป็นต้นเหตุของความหายนะ อยู่ในที่ที่ไม่ควรจะอยู่ (ผู้อ่านน่าจะรู้ว่าหมายถึงอะไร) ก็ให้คนที่อยู่ในแคว้นยูเดียหนีไปที่ภูเขา 15 อย่าให้คนที่อยู่บนดาดฟ้าบ้านกลับเข้าไปเก็บของในบ้าน 16 อย่าให้คนที่อยู่ในไร่นากลับไปเอาเสื้อคลุม 17 ในวันนั้นจะน่ากลัวมากสำหรับผู้หญิงท้องและแม่ลูกอ่อนที่ให้นมลูก 18 อธิษฐานขออย่าให้เรื่องน่ากลัวนี้เกิดขึ้นในหน้าหนาวเลย 19 เพราะในเวลานั้นจะเกิดความทุกข์ยากอย่างใหญ่หลวงชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่พระเจ้าสร้างโลกมาจนถึงเดี๋ยวนี้ จะไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่านี้อีกแล้วในอนาคต 20 ถ้าองค์เจ้าชีวิตไม่ทำให้วันนั้นสั้นลงก็จะไม่มีใครรอดชีวิตเลย แต่เพราะเห็นแก่คนที่พระองค์ได้เลือกไว้ พระองค์ก็เลยทำให้วันเวลาเหล่านั้นสั้นลง
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International