Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 7-9

ชาวอิสราเอลคนพิเศษของพระเจ้า

เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านนำท่านเข้าสู่แผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดเป็นเจ้าของ พระองค์จะขับไล่ชนชาติพวกนี้ออกไปต่อหน้าท่าน คือ ชาวฮิตไทต์ ชาวเกอร์กาชี ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์และชาวเยบุส รวมเจ็ดชาติ ที่ใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่าท่าน เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านมอบคนพวกนั้นให้อยู่ใต้อำนาจของท่านและท่านได้เอาชนะพวกเขาแล้ว ท่านจะต้องทำลายพวกเขาให้หมดสิ้น ท่านจะต้องไม่ทำสัญญาสงบศึกใดๆกับพวกเขา และท่านจะต้องไม่แสดงความเมตตาใดๆกับพวกเขาด้วย อย่าแต่งงานกับพวกเขา อย่ายกลูกสาวให้เป็นเมียของลูกชายพวกเขา และอย่าเอาลูกสาวของพวกเขามาเป็นเมียลูกชายท่านด้วย เพราะพวกเขาจะทำให้ลูกๆของท่านหันเหไปจากเราและลูกๆของท่านก็จะไปรับใช้พวกพระอื่นๆ และพระยาห์เวห์ก็จะโกรธพวกท่านและทำลายท่านอย่างรวดเร็ว

ทำลายพวกพระเทียมเท็จ

พวกท่านจะต้องทำอย่างนี้กับพวกชนชาติเหล่านั้น คือ พวกท่านต้องรื้อแท่นบูชาของพวกเขาทิ้งและทุบเสาหิน[a] ของพวกเขาเสีย และตัดเสาเจ้าแม่อาเชราห์ของพวกเขาทิ้ง และเผาพวกรูปเคารพของพวกเขา เพราะท่านคือประชาชนที่ถูกแยกออกมาเพื่อเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้เลือกท่านจากบรรดาชนชาติทั้งหมดบนโลกนี้ ให้เป็นของรักของหวงที่มีค่าของพระองค์ พระยาห์เวห์ไม่ได้รักพวกท่านและเลือกพวกท่านเพราะพวกท่านมีจำนวนมากที่สุดในบรรดาชนชาติอื่นๆทั้งหมด เพราะความจริงแล้วพวกท่านมีจำนวนน้อยที่สุด แต่เป็นเพราะพระยาห์เวห์รักพวกท่าน และเพราะพระองค์รักษาคำสัญญาที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกท่านว่าพระยาห์เวห์จะนำพวกท่านออกจากประเทศอียิปต์ ด้วยมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ และพระองค์ได้ปล่อยให้ท่านเป็นอิสระจากการเป็นทาส จากเงื้อมมือของฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์

ดังนั้นให้รู้ไว้ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว เป็นพระเจ้าที่ซื่อสัตย์ที่รักษาคำสัญญา พระองค์รักคนเหล่านั้นที่รักพระองค์ และเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์ พระองค์จะรักพวกเขาไปอีกเป็นพันๆรุ่น 10 แต่พระยาห์เวห์จะลงโทษคนที่เกลียดชังพระองค์ พระองค์จะไม่ลังเลที่จะทำลายเขา พระองค์จะลงโทษคนที่เกลียดพระองค์ 11 ดังนั้นท่านต้องเชื่อฟังคำสั่งสอน กฎ และข้อบังคับที่เราได้สั่งท่านในวันนี้

12 ถ้าพวกท่านเชื่อฟังข้อบังคับเหล่านี้ และทำตามอย่างระมัดระวัง พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะรักษาข้อตกลงแห่งความรักกับท่านที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน 13 พระองค์จะรักท่านและอวยพรท่านและเพิ่มจำนวนคนของท่าน พระองค์จะอวยพรให้ท่านมีลูกหลานมากมาย และพระองค์จะอวยพรให้ที่นาเกิดผลดี พระองค์จะอวยพรท่านด้วยเมล็ดพืช เหล้าองุ่นใหม่และน้ำมัน พระองค์จะอวยพรให้ฝูงวัวและฝูงแพะแกะเกิดลูกมากมาย พระองค์จะอวยพรทั้งหมดนี้ให้กับท่าน ในแผ่นดินที่พระองค์สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่านว่าจะยกให้ท่าน

14 ท่านจะได้รับการอวยพรมากกว่าชนชาติอื่น ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและฝูงสัตว์ของท่านจะไม่เป็นหมัน 15 พระยาห์เวห์จะไม่ให้ท่านเจ็บป่วย พระองค์จะไม่ให้ท่านติดโรคที่ร้ายแรงทั้งหลายที่ท่านเคยเห็นในแผ่นดินอียิปต์ แต่พระองค์จะเอาสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดไปให้กับคนที่เกลียดชังท่าน 16 ท่านต้องทำลายประชาชนทั้งหมดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้มอบไว้ให้อยู่ใต้อำนาจของท่าน อย่าไปสงสารพวกเขา และอย่าไปบูชาพวกพระของพวกเขา เพราะมันจะเป็นกับดักสำหรับท่าน

พระยาห์เวห์ช่วยคนของพระองค์

17 ถ้าท่านพูดอยู่ในใจว่า ‘ชนชาติพวกนี้มีมากกว่าเรามาก เราจะขับไล่พวกเขาออกไปได้อย่างไร’ 18 อย่ากลัวพวกเขา ให้จำไว้ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทำอะไรกับกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ และกับประชาชนชาวอียิปต์ทั้งหมด 19 ให้จำความทุกข์ยากอันยิ่งใหญ่ที่ท่านเห็น และให้จำเหตุการณ์พิเศษต่างๆและการอัศจรรย์ต่างๆที่พระองค์ได้ทำ และให้จำมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ และแขนที่ยื่นออกมาช่วย ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านใช้ในการนำท่านออกจากประเทศอียิปต์ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทำอย่างเดียวกันนี้กับทุกๆชนชาติที่ท่านกลัวอยู่นี้

20 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะส่งฝูงแตน[b] มาต่อยพวกเขา จนกว่าคนที่ยังเหลืออยู่และหลบซ่อนจากท่านจะถูกทำลายหมด 21 อย่ากลัวพวกเขา เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอยู่กับท่าน และพระองค์คือพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่และคนก็กลัวพระองค์ 22 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะขับไล่ชนชาติต่างๆที่อยู่ก่อนหน้าท่านออกไปทีละเล็กทีละน้อย ท่านอย่าเพิ่งทำลายพวกเขาทีเดียวหมด ไม่อย่างนั้นจะมีสัตว์ป่าเพิ่มมากขึ้นสำหรับท่าน 23 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะมอบชนชาติเหล่านั้นให้อยู่ใต้อำนาจของท่าน และพระองค์จะทำให้คนเหล่านั้นสับสนวุ่นวาย จนพวกเขาถูกทำลายจนหมดสิ้น 24 พระยาห์เวห์จะมอบกษัตริย์ของพวกเขาให้อยู่ในกำมือของท่าน และท่านจะฆ่าพวกเขาและทำให้พวกเขาสิ้นชื่อไปจากใต้ฟ้านี้ ไม่มีใครจะยืนขวางท่านได้ จนกว่าท่านจะทำลายพวกเขาจนหมดสิ้น

25 พวกท่านต้องเอารูปเคารพของพวกเขาไปเผาไฟ ท่านต้องไม่โลภเงินทองที่ติดอยู่กับรูปเคารพเหล่านั้น ท่านต้องไม่เอาเงินและทองนั้นมาเป็นของตัวเอง ถ้าท่านทำอย่างนั้นท่านจะติดกับดักของมัน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเกลียดชังรูปเคารพพวกนั้น 26 ท่านต้องไม่เอารูปเคารพพวกนี้ไปไว้ในบ้าน ไม่อย่างนั้นท่านจะถูกทำลายจนหมดสิ้นเหมือนรูปเคารพนั้น ท่านต้องเกลียดชังและดูถูกรูปเคารพนั้น เพราะมันต้องถูกทำลายจนหมดสิ้น

ให้จดจำถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์ทำให้

พวกท่านต้องเชื่อฟังและทำตามคำสั่งทุกข้อ ที่เราให้กับท่านในวันนี้อย่างระมัดระวัง เพื่อพวกท่านจะได้มีชีวิตและเพิ่มจำนวนมากขึ้นและได้เข้าไปเป็นเจ้าของแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน ท่านต้องจดจำถึงการเดินทางในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งตลอดสี่สิบปีที่ผ่านมา ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้นำท่าน เพื่อท่านจะได้ถ่อมตัวลง พระองค์ได้ทดสอบท่าน เพื่อจะได้รู้ว่าท่านคิดอะไรอยู่ในใจ จะได้รู้ว่าท่านจะเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์หรือไม่ พระยาห์เวห์ทำให้ท่านต้องทนทุกข์จากความหิวแล้วพระองค์ก็เลี้ยงพวกท่านด้วยมานา ที่ทั้งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน เพื่อที่พระองค์จะได้สอนท่านว่า คนเราไม่ได้มีชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงอย่างเดียว แต่คนเราจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกๆคำพูดที่ออกมาจากปากของพระยาห์เวห์ เสื้อผ้าของท่านก็ไม่ขาด เท้าของท่านก็ไม่บวมตลอดสี่สิบปีนี้ จำไว้ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้อบรมสั่งสอนเหมือนพ่อที่อบรมสั่งสอนลูกของเขา

ดังนั้นให้เชื่อฟังบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ด้วยการเดินในทางของพระองค์และเกรงกลัวพระองค์ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังนำท่านเข้าไปในดินแดนที่ดี แผ่นดินที่มีลำธาร ตาน้ำและน้ำใต้ดินที่ไหลทะลักออกมาในหุบเขาและเนินเขา เป็นแผ่นดินที่เต็มไปด้วยข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ ไร่องุ่น ต้นมะเดื่อและพวกผลทับทิม เป็นแผ่นดินที่ให้น้ำมันมะกอกและน้ำเชื่อมผลไม้ เป็นแผ่นดินที่ท่านจะไม่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างอดๆอยากๆและที่ที่ท่านจะไม่ขาดอะไรเลย แผ่นดินที่ก้อนหินเป็นเหล็กและที่ที่ท่านสามารถทำเหมืองทองแดงจากเนินเขาของมัน 10 เมื่อท่านได้กินทุกอย่างจนพอใจแล้ว ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสำหรับแผ่นดินที่ดีที่พระองค์ได้ยกให้กับท่าน

อย่าลืมสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ให้ไว้

11 ระวังให้ดี อย่าลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน โดยไม่ทำตามคำสั่ง กฎและข้อบังคับของพระองค์ที่เราได้สั่งท่านไว้ในวันนี้ 12 เมื่อท่านกินทุกอย่างจนพอใจแล้ว ท่านได้สร้างบ้านที่สวยงามและเข้าไปอยู่อาศัย 13 ฝูงวัว ฝูงแพะแกะและฝูงสัตว์ของท่านเพิ่มจำนวนมากขึ้น ท่านมีเงินทองมากขึ้น และทุกอย่างที่ท่านมีได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น 14 ระวังให้ดี อย่าได้หยิ่งผยอง และลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้ที่ได้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ ออกจากการเป็นทาสนั้น 15 พระองค์คือผู้ที่นำท่านไปสู่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งที่กว้างใหญ่และน่ากลัว ที่เต็มไปด้วยงูพิษและแมงป่อง ดินแดนที่แห้งแล้งไม่มีน้ำ พระองค์คือผู้ที่ทำให้น้ำไหลออกมาจากก้อนหินแข็งเพื่อท่าน 16 พระองค์คือผู้ที่เลี้ยงดูท่านด้วยมานาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง มานาที่บรรพบุรุษท่านเองก็ไม่เคยรู้จัก เพื่อจะทำให้ท่านถ่อมตัวลง เพื่อทดสอบท่าน แล้วในที่สุดจะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรือง 17 ระวังให้ดี อย่าคิดในใจว่า ‘เป็นเพราะพลังและอำนาจของฉันเอง ที่ทำให้ฉันร่ำรวยขนาดนี้’ 18 แต่อย่าลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะพระองค์คือผู้ที่ให้อำนาจนั้น ที่ทำให้ท่านร่ำรวยขึ้นมา เพื่อพระองค์จะได้รักษาข้อตกลงที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน อย่างที่พระองค์กำลังทำอยู่ตอนนี้

19 ถ้าท่านลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และไปติดตามพระอื่น แล้วยังไปรับใช้ กราบไหว้บูชาพระพวกนั้น เราขอเตือนพวกท่านในวันนี้ว่า พวกท่านจะต้องถูกทำลายแน่ๆ 20 เหมือนชนชาติที่พระยาห์เวห์กำลังทำลายอยู่ต่อหน้าพวกท่านเมื่อท่านเข้าในแผ่นดินนั้น พวกท่านก็จะถูกทำลายแบบนั้นเหมือนกัน เพราะท่านไม่ยอมฟังเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน

พระยาห์เวห์จะอยู่กับชาวอิสราเอล

ชาวอิสราเอลเอ๋ย ฟังให้ดี วันนี้ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเพื่อเข้าไปขับไล่ชนชาติที่ยิ่งใหญ่กว่าและเข้มแข็งกว่าท่าน และเมืองต่างๆที่ยิ่งใหญ่พร้อมกำแพงสูงเสียดฟ้า ชาวอานาค[c] ที่แข็งแรงและสูงใหญ่ ท่านรู้จักพวกเขาและเคยได้ยินเกี่ยวกับพวกเขามาว่า ‘มีใครบ้างที่จะหยุดพวกอานาคได้ ไม่มีเลย’ ท่านแน่ใจได้เลยในวันนี้ว่า เป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเอง ที่ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปก่อนท่าน เป็นเหมือนไฟที่ทำลายล้าง พระองค์จะกวาดล้างพวกชนชาติเหล่านั้น และพระองค์จะเอาชนะพวกเขาเมื่อท่านเดินทางเข้าไป ท่านจะไล่พวกเขาออกไปและทำลายพวกเขาอย่างรวดเร็วเหมือนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้สัญญาไว้กับท่าน

เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ขับไล่พวกนั้นออกไปต่อหน้าท่าน พวกท่านไม่ต้องคิดในใจว่า ‘เพราะฉันเป็นคนดี พระยาห์เวห์ถึงได้นำฉันเข้ามาเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้’ แต่ที่พระยาห์เวห์ขับไล่ชนชาติเหล่านั้นออกไปต่อหน้าท่านก็เพราะพวกเขาเป็นคนชั่วต่างหาก ที่ท่านกำลังจะเข้าไปเป็นเจ้าของแผ่นดินของคนพวกนั้น ไม่ใช่เพราะท่านเป็นคนดีและซื่อสัตย์หรอกนะ แต่ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านขับไล่ชนชาติเหล่านั้นออกไปต่อหน้าท่าน ก็เพราะพวกเขาเป็นคนชั่ว และพระยาห์เวห์ต้องการรักษาสัญญาที่พระองค์ได้ทำไว้กับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ บรรพบุรุษของท่าน ให้รู้ไว้เลยว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ได้ให้แผ่นดินที่ดีนี้กับท่าน เพราะท่านเป็นคนดี แต่ความจริงแล้วท่านเป็นคนที่ดื้อรั้น

จดจำความดื้อรั้นที่มีต่อพระยาห์เวห์

จำไว้ให้ดี อย่าลืมว่าท่านเคยทำให้พระยาห์เวห์โกรธ ตอนที่อยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง พวกท่านไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์ตั้งแต่วันที่พวกท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์จนกระทั่งมาถึงที่นี่ พวกท่านทำให้พระยาห์เวห์โกรธตอนที่อยู่บนภูเขาซีนาย พระยาห์เวห์โกรธถึงขนาดที่จะทำลายพวกท่าน เมื่อเราขึ้นไปบนภูเขาเพื่อรับแผ่นหินซึ่งเป็นแผ่นหินของข้อตกลงที่พระยาห์เวห์ทำไว้กับพวกท่าน เราอยู่บนภูเขาเป็นเวลาถึงสี่สิบวันสี่สิบคืน ไม่ได้กินอาหารหรือดื่มน้ำ 10 พระยาห์เวห์ได้ให้แผ่นหินสองแผ่นกับเรา เป็นแผ่นหินที่พระเจ้าใช้นิ้วมือของพระองค์เขียนขึ้นมา บนแผ่นหินนั้นคือคำสั่งสอนทั้งหมดที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้กับพวกท่าน พระองค์พูดออกมาจากไฟบนภูเขาในวันที่พวกท่านรวมตัวกันอยู่ที่นั่น

11 เมื่อครบสี่สิบวันสี่สิบคืนแล้ว พระยาห์เวห์ได้ให้แผ่นหินสองแผ่นนั้นกับเรา เป็นแผ่นหินของข้อตกลง 12 พระยาห์เวห์พูดกับเราว่า ‘ลุกขึ้นและรีบลงไปจากที่นี่ เพราะประชาชนของเจ้าที่เจ้านำออกมาจากประเทศอียิปต์นั้น ได้ทำตัวเสื่อมทราม พวกเขาได้หันเหไปอย่างรวดเร็วจากสิ่งที่เราได้สั่งให้พวกเขาทำ พวกเขาได้ทำรูปเคารพจากโลหะสำหรับตัวเอง’

13 พระยาห์เวห์ได้พูดกับผมว่า ‘เราได้มองดูคนพวกนี้ เขาเป็นคนที่ดื้อรั้นจริงๆ 14 โมเสส เจ้าไม่ต้องมายุ่งกับเรา เราจะทำลายพวกเขา และจะลบชื่อพวกเขาออกจากใต้ฟ้านี้ และเราจะทำให้เจ้าเป็นชาติที่เข้มแข็งและมีจำนวนมากกว่าพวกเขา’

ลูกวัวทองคำ

15 แล้วเราก็กลับลงมาจากภูเขา ภูเขากำลังลุกไหม้เป็นไฟ หินของข้อตกลงทั้งสองแผ่นนั้นอยู่ในมือเรา 16 แล้วเรามองดู เห็นว่าพวกท่านได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์ พวกท่านได้ทำรูปเคารพจากโลหะเป็นรูปลูกวัวให้กับตัวพวกท่านเอง พวกท่านหันเหไปอย่างรวดเร็วจากสิ่งที่พระยาห์เวห์เคยสั่งท่านไว้ 17 เราจึงขว้างหินทั้งสองแผ่นนั้นด้วยมือทั้งสองของเราเอง และทำให้มันแตกต่อหน้าต่อตาพวกท่าน 18 และก็เหมือนกับครั้งก่อน เราได้ก้มหน้ากราบลงกับพื้นดินต่อหน้าพระยาห์เวห์เป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืน ไม่ได้กินอาหารหรือดื่มน้ำ เราทำสิ่งต่างๆนี้ก็เพราะบาปทั้งหมดที่พวกท่านได้ทำไป คือพวกท่านได้ทำในสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระยาห์เวห์ เพราะอย่างนี้จึงทำให้พระองค์โกรธ 19 เรากลัวความโกรธและความเดือดดาลของพระองค์ เพราะพระยาห์เวห์โกรธถึงขนาดที่จะทำลายพวกท่าน แต่ตอนนั้นพระยาห์เวห์ได้ฟังเรา 20 พระยาห์เวห์โกรธอาโรนถึงขนาดที่จะทำลายเขา แต่เราได้อธิษฐานเผื่ออาโรนเหมือนกันในตอนนั้น 21 เราได้เอาสิ่งที่เป็นบาปที่พวกท่านได้สร้างขึ้นมา คือลูกวัวไปเผาไฟ และเราก็ทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆ บดมันจนละเอียดเป็นผุยผง แล้วเราก็โปรยผงนั้นลงในลำธารที่ไหลลงมาจากภูเขา

โมเสสร้องขอพระยาห์เวห์อย่าทำลายคนอิสราเอล

22 ที่ทาเบราห์ ที่มัสสาห์ และที่ขิบโรท-หัทธาอาวาห์ก็เหมือนกัน พวกท่านทำให้พระยาห์เวห์โกรธ 23 เมื่อพระยาห์เวห์ส่งพวกท่านจากคาเดช-บารเนีย และพูดว่า ‘ขึ้นไปยึดเป็นเจ้าของแผ่นดินที่เราได้ให้ไว้กับพวกเจ้า’ พวกท่านขัดขืนคำสั่งของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน พวกท่านไม่ไว้วางใจพระองค์และไม่เชื่อฟังพระองค์ 24 พวกท่านได้ขัดขืนพระยาห์เวห์มาตลอด ตั้งแต่วันที่เรารู้จักพวกท่านเป็นครั้งแรก

25 เมื่อเราก้มหน้าลงกราบพระยาห์เวห์เป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืน เพราะพระยาห์เวห์บอกว่า พระองค์จะทำลายพวกท่าน 26 เราได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า อย่าได้ทำลายคนของพระองค์ที่เป็นของรักของหวงที่มีค่าของพระองค์เลย พระองค์ไถ่ให้พวกเขาเป็นอิสระด้วยฤทธิ์อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์นำพวกเขาออกมาจากอียิปต์ด้วยมืออันทรงพลังของพระองค์ 27 โปรดระลึกถึงอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ ผู้รับใช้ของพระองค์ อย่าไปสนใจกับความดื้อดึง ความชั่วร้ายและความบาปของคนพวกนี้เลย 28 ไม่อย่างนั้นชาวอียิปต์จะพูดว่า “เพราะพระยาห์เวห์ไม่สามารถนำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่พระองค์สัญญาไว้กับพวกเขา และเพราะพระองค์เกลียดพวกเขา พระองค์จึงนำพวกเขาออกไปและฆ่าพวกเขาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง” 29 พวกเขาคือคนของพระองค์ เป็นสมบัติของพระองค์เอง พระองค์ได้นำพวกเขาออกมาด้วยความแข็งแกร่งและอำนาจของพระองค์’

มาระโก 11:19-33

19 เย็นวันนั้นพระเยซูและพวกศิษย์ก็ออกนอกเมืองไป

บทเรียนจากต้นมะเดื่อ

(มธ. 21:20-22)

20 วันรุ่งขึ้นเมื่อพระเยซู และพวกศิษย์เดินผ่านต้นมะเดื่อต้นเดิม พวกศิษย์เห็นต้นมะเดื่อเหี่ยวแห้งตายตั้งแต่ยอดถึงโคน 21 เปโตรก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานพระเยซูสาปมันไว้ เขาจึงบอกพระเยซูว่า “อาจารย์ ดูนั่นสิครับ ต้นมะเดื่อที่อาจารย์สาปแช่งไว้แห้งตายแล้ว”

22 พระเยซูบอกพวกศิษย์ว่า “เชื่อในพระเจ้าสิ 23 เรารับรองว่า ถ้าคุณเชื่อโดยไม่สงสัยเลย แม้คุณสั่งให้ภูเขานี้ลอยลงไปในทะเล มันก็จะเป็นไปตามนั้น 24 ถ้าคุณเชื่อ คุณจะได้ทุกอย่างที่คุณอธิษฐานขอนั้น 25 ตอนที่คุณอธิษฐาน ถ้าโกรธใครอยู่ก็ต้องยกโทษให้กับเขาก่อน แล้วพระบิดาของคุณที่อยู่บนสวรรค์ก็จะยกโทษให้กับความบาปของคุณเหมือนกัน” 26 [a]

ผู้นำชาวยิวสงสัยในสิทธิอำนาจของพระเยซู

(มธ. 21:23-27; ลก. 20:1-8)

27 พวกเขาก็เข้าไปในเมืองเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่พระเยซูกำลังเดินอยู่ในวิหารนั้น พวกหัวหน้านักบวช พวกครูสอนกฎปฏิบัติ และพวกผู้อาวุโสเดินเข้ามาถามพระองค์ว่า 28 “แกมีสิทธิ์อะไรไปไล่พ่อค้าพวกนั้น ใครให้สิทธิ์นี้กับแกที่จะทำสิ่งเหล่านั้น”

29 พระเยซูพูดว่า “เราขอถามท่านเรื่องหนึ่ง ตอบเรามา แล้วเราจะบอกว่าเราใช้สิทธิ์ของใครทำอย่างนี้ 30 ช่วยตอบหน่อยว่าพิธีจุ่มน้ำของยอห์นมาจากสวรรค์หรือมาจากมนุษย์”

31 พวกเขาก็ปรึกษากันว่า “ถ้าเราตอบว่า ‘มาจากสวรรค์’ มันก็จะย้อนถามเราว่า ‘แล้วทำไมไม่เชื่อยอห์นล่ะ’ 32 แต่ถ้าตอบว่า ‘มาจากมนุษย์’ ก็กลัวฝูงชน เพราะพวกนั้นเชื่อว่า ยอห์นเป็นผู้พูดแทนพระเจ้าอย่างแน่นอน”

33 พวกเขาจึงตอบพระเยซูว่า “ไม่รู้สิ” พระเยซูก็เลยบอกว่า “ถ้าอย่างนั้น เราก็จะไม่บอกเหมือนกันว่าเราใช้สิทธิ์ของใครทำสิ่งเหล่านี้”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International