Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
ปฐมกาล 16-17

นางฮาการ์ ทาสหญิง

16 ถึงเดี๋ยวนี้ซารายเมียของอับรามก็ยังไม่มีลูกให้กับอับรามเลย แต่นางมีทาสหญิงชาวอียิปต์คนหนึ่งชื่อฮาการ์ ซารายจึงพูดกับอับรามว่า “ดูสิ พระยาห์เวห์ไม่ยินยอมให้น้องมีลูก ไปร่วมหลับนอนกับทาสหญิงของน้องเถิด บางทีนางอาจมีลูกชายให้กับน้องก็ได้” อับรามก็ทำตามที่นางซารายแนะนำ

หลังจากที่อับรามอยู่ที่แผ่นดินคานาอันสิบปี ซารายเมียของอับราม ได้ยกทาสหญิงของนาง ที่ชื่อฮาการ์ให้เป็นเมียของอับราม อับรามก็เข้าไปร่วมหลับนอนกับฮาการ์ และนางก็ตั้งท้อง เมื่อนางตั้งท้อง นางก็เริ่มลืมตัวแล้วดูถูกซารายผู้เป็นนายหญิงของนาง ซารายจึงบอกกับอับรามว่า “พี่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น น้องได้ยกหญิงรับใช้ของน้องให้อยู่ในอ้อมอกพี่ พอนางเห็นว่านางตั้งท้อง น้องก็ไม่อยู่ในสายตานางอีกต่อไป ขอให้พระยาห์เวห์ตัดสินว่าระหว่างน้องกับพี่ใครถูกกันแน่”

แต่อับรามพูดกับซารายว่า “ทาสของน้องก็อยู่ในกำมือของน้องอยู่แล้ว น้องจะทำอะไรกับนางก็ได้ตามที่น้องพอใจ” ซารายจึงดุด่าฮาการ์ จนนางหนีไป

อิชมาเอล ลูกชายนางฮาการ์

ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์พบนางฮาการ์ อยู่ข้างแอ่งน้ำพุแห่งหนึ่งในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง แอ่งน้ำนั้นอยู่ติดถนนที่มุ่งไปสู่เมืองชูร์ ทูตสวรรค์พูดว่า “ฮาการ์ทาสของซาราย เจ้ามาจากไหนและกำลังจะไปไหน”

นางจึงตอบว่า “ข้าพเจ้าหนีซารายนายหญิงของข้าพเจ้ามา”

แล้วทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ก็พูดกับนางว่า “กลับไปหานายหญิงของเจ้าและให้ยอมอยู่ใต้อำนาจของนาง” 10 และทูตสวรรค์องค์นั้นพูดว่า “เราจะทำให้ลูกหลานของเจ้าทวีเป็นจำนวนมากมายมหาศาลจนนับไม่ถ้วน”

11 ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์บอกกับนางว่า

“ดูสิ ตอนนี้เจ้ากำลังตั้งท้อง
    เจ้าจะคลอดลูกชาย
และเจ้าจะเรียกเขาว่าอิชมาเอล[a]
    เพราะพระยาห์เวห์ได้ยินถึงความทุกข์ของเจ้า
12 ลูกชายคนนี้จะเหมือนลาป่า
    มือของเขาจะต่อต้านทุกคน
    มือของทุกๆคนก็จะต่อต้านเขา
เขาจะอาศัยอยู่ใกล้ๆกับพี่น้องของเขา[b]

13 ฮาการ์เรียกชื่อพระยาห์เวห์ที่พูดกับนางว่า “พระองค์คือพระเจ้าผู้มองเห็นฉัน[c]” ที่นางเรียกอย่างนั้น ก็เพราะนางคิดว่า “ที่นี่ฉันได้เห็นพระองค์ที่มองเห็นฉันจริงๆหรือ[d] 14 บ่อน้ำพุจึงได้ชื่อว่า เบเออลาไฮรอย[e] บ่อนี้ยังคงอยู่ระหว่างเมืองเคเดชและเมืองเบเรด

15 นางฮาการ์ได้คลอดลูกชายให้กับอับราม แล้วอับรามก็ตั้งชื่อลูกของเขาว่าอิชมาเอล 16 ตอนที่ฮาการ์คลอดอิชมาเอลนี้ อับรามมีอายุแปดสิบหกปี

การขลิบ

17 เมื่ออับรามมีอายุเก้าสิบเก้าปี พระยาห์เวห์ได้มาปรากฏต่ออับรามและพูดกับเขาว่า “เราคือพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์[f] ให้เชื่อฟังเราและทำตัวไร้ที่ติ ถ้าเจ้าทำอย่างนี้ เราจะทำสัญญาระหว่างเรากับเจ้า และเราจะทำให้ลูกหลานของเจ้าเพิ่มทวีขึ้นอย่างมหาศาล”

อับรามก็ก้มกราบลงและพระองค์ก็พูดกับเขาว่า “นี่เป็นส่วนของเรา ที่เราได้ทำสัญญากับเจ้า คือเจ้าจะได้เป็นบรรพบุรุษของหลายชนชาติ ชื่อของเจ้าจะไม่ใช่อับราม[g] อีกต่อไป แต่เจ้าจะมีชื่อใหม่ว่า อับราฮัม[h] เพราะเราได้ทำให้เจ้าเป็นพ่อของหลายชนชาติ เราจะทำให้เจ้ามีลูกหลานมากมาย และเราจะทำให้มีหลายๆชนชาติเกิดมาจากเจ้า กษัตริย์ต่างๆจะมาจากเจ้า เราจะทำสัญญาระหว่างเรากับเจ้าและกับลูกหลานของเจ้าและลูกหลานของพวกเขาตลอดไป นี่จะเป็นสัญญาตลอดกาล เราสัญญาว่าเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้าและลูกหลานของเจ้า แผ่นดินทั้งหมดนี้ที่เป็นของชาวคานาอัน ที่เจ้ากำลังอยู่ในฐานะคนต่างด้าวนี้ เราจะยกให้กับเจ้าและลูกหลานของเจ้าตลอดไป และเราจะเป็นพระเจ้าของลูกหลานเจ้าด้วย”

แล้วพระเจ้าก็พูดกับอับราฮัมว่า “ส่วนเจ้า เจ้าจะต้องรักษาสัญญานี้ ทั้งเจ้าและลูกหลานของเจ้า ตลอดจนลูกหลานของเขา 10 นี่คือสัญญาของเราที่พวกเจ้าจะต้องรักษา เป็นสัญญาระหว่างเรากับเจ้าและลูกหลานของเจ้า ผู้ชายทุกคนในพวกเจ้าจะต้องขลิบ 11 พวกเจ้าจะต้องขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ นี่จะเป็นสัญลักษณ์ว่าเจ้ายอมรับคำสัญญาระหว่างเรากับพวกเจ้า 12 ตลอดชั่วลูกชั่วหลานของเจ้า เด็กผู้ชายทุกคนที่เกิดมาได้แปดวันจะต้องถูกขลิบ เด็กผู้ชายที่เกิดมาในครัวเรือนของเจ้า รวมทั้งทาสชายที่เจ้าซื้อมาจากชาวต่างชาติ ก็ต้องขลิบกันหมดทุกคน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ลูกหลานของเจ้าก็ตาม 13 ทั้งทาสที่เกิดในครัวเรือนของเจ้าและทาสที่เจ้าเอาเงินไปซื้อมา ก็ต้องถูกขลิบกันทุกคน ด้วยวิธีนี้ สัญญาของเราก็จะติดอยู่กับเนื้อหนังของเจ้าไปตลอดกาล 14 ผู้ชายที่ไม่ได้ขลิบจะถูกตัดออกจากกลุ่ม เพราะไม่รักษาสัญญาของเรา”

อิสอัค ลูกชายที่พระเจ้าสัญญาว่าจะให้

15 พระเจ้าพูดกับอับราฮัมว่า “ซาราย[i] เมียของเจ้าจะไม่ชื่อซารายอีกต่อไป เพราะนางจะเปลี่ยนชื่อเป็นซาราห์[j] 16 เราจะอวยพรนาง และเราจะให้ลูกชายกับเจ้าผ่านทางนาง และเราจะอวยพรนางให้เป็นแม่ของหลายชนชาติ พวกกษัตริย์ของชนชาติต่างๆจะมาจากนาง”

17 อับราฮัมก้มกราบลง แต่เขาหัวเราะและพูดกับตัวเองว่า “ผู้ชายอายุร้อยปีจะมีลูกได้ยังไง หรือซาราห์ที่มีอายุเก้าสิบปีแล้วจะมีลูกได้ยังไง”

18 อับราฮัมจึงพูดกับพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าหวังว่าอิชมาเอลจะมีชีวิตที่มีความสุขอยู่ต่อหน้าพระองค์”

19 พระเจ้าพูดว่า “จะเป็นอย่างนั้น แต่ซาราห์ เมียของเจ้าเองต่างหากที่จะเป็นคนคลอดลูกชายให้กับเจ้า และเจ้าจะตั้งชื่อเด็กว่าอิสอัค[k] เราจะรักษาสัญญาของเรากับเขาและลูกหลานของเขาไว้ตลอดกาล

20 ส่วนอิชมาเอลนั้น เราได้ยินคำขอร้องของเจ้าแล้ว เราจะอวยพรเขา เราจะให้เขามีลูกหลานมากมายมหาศาล และเขาจะได้เป็นพ่อของเจ้าชายสิบสององค์ และเราจะทำให้เขาเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ 21 แต่เราจะทำสัญญาของเรากับอิสอัค ที่ซาราห์จะคลอดให้กับเจ้าในปีหน้าเวลานี้”

22 เมื่อพระเจ้าพูดกับอับราฮัมเสร็จ พระองค์ก็ลอยขึ้นไปจากเขา 23 แล้วในวันนั้นเองอับราฮัมก็พาอิชมาเอล พวกทาสชายทุกคนที่เกิดในครัวเรือนของเขา รวมทั้งทาสที่เขาซื้อมา และผู้ชายทั้งหมดในครัวเรือนของเขา ไปขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศทุกคน ตามที่พระเจ้าได้บอกเขาไว้

24 วันที่อับราฮัมเข้าพิธีขลิบนั้น เขามีอายุเก้าสิบเก้าปี 25 ส่วนอิชมาเอลมีอายุสิบสามปีตอนเข้าพิธีขลิบ 26 ในวันนั้นทั้งอับราฮัมและลูกชายก็ได้เข้าพิธีขลิบ 27 และผู้ชายทุกคนในครัวเรือนของอับราฮัม พวกทาสที่เกิดในครัวเรือนของเขาและพวกทาสที่ซื้อมาจากคนต่างชาติ ก็เข้าพิธีขลิบพร้อมกับอับราฮัมด้วย

มัทธิว 5:27-48

เรื่องการมีชู้

27 พวกคุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘อย่าเป็นชู้กับสามีภรรยาเขา’[a] 28 แต่เราจะบอกคุณว่า แค่มองผู้หญิงแล้วเกิดความใคร่ ก็ถือว่าคุณเป็นชู้ทางใจกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว 29 ดังนั้น ถ้าตาขวาของคุณทำให้คุณทำบาป ก็ให้ควักทิ้งไปเลย เพราะเสียอวัยวะไปส่วนหนึ่ง ก็ยังดีกว่าถูกโยนลงไปในนรกทั้งตัว 30 ถ้ามือขวาของคุณทำให้คุณทำบาป ก็ให้ตัดทิ้งไปเลย เพราะเสียอวัยวะไปส่วนหนึ่งก็ยังดีกว่าจะต้องตกนรกทั้งตัว

เรื่องการหย่าร้าง

(มธ. 19:9; มก. 10:11-12; ลก. 16:18)

31 มีคำพูดว่า ‘ถ้าใครจะหย่ากับภรรยา ก็ให้ทำหนังสือหย่า[b] ให้กับภรรยา’ 32 แต่เราจะบอกคุณว่า ใครก็ตามที่หย่ากับภรรยา ยกเว้นหย่าเพราะเรื่องการทำบาปทางเพศ ก็ทำให้ภรรยามีชู้เมื่อเธอไปแต่งงานใหม่ และผู้ชายที่มาแต่งงานกับเธอก็ถือว่ามีชู้ด้วย

เรื่องการสาบาน

33 พวกคุณคงเคยได้ยินที่เขาพูดกับคนสมัยก่อนว่า ‘อย่าผิดคำสาบาน ต้องทำตามคำสาบานที่ให้ไว้กับองค์เจ้าชีวิต[c] 34 แต่เราขอบอกว่าอย่าสาบานเลย ไม่ต้องอ้างถึงสวรรค์ เพราะสวรรค์นั้นเป็นที่นั่งของพระเจ้า 35 ไม่ต้องอ้างถึงโลกนี้ เพราะโลกนี้เป็นที่วางเท้าของพระเจ้า[d] ไม่ต้องอ้างถึงเมืองเยรูซาเล็ม เพราะเมืองเยรูซาเล็มเป็นเมืองของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ 36 ไม่ต้องอ้างโดยเอาหัวเป็นประกัน เพราะเส้นผมสักเส้นคุณก็ยังไม่มีปัญญาทำให้มันขาวหรือดำได้เลย 37 ถ้า ‘ใช่’ ก็บอกว่า ‘ใช่’ ถ้า ‘ไม่’ ก็บอกว่า ‘ไม่’ พูดแค่นี้พอแล้ว พูดมากกว่านี้ก็มาจากมาร

เรื่องการแก้แค้น

(ลก. 6:29-30)

38 พวกคุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’[e] 39 แต่เราขอบอกว่า อย่าคิดแก้แค้นคนที่ทำผิดต่อคุณ ถ้าใครตบแก้มขวาของคุณ ก็หันแก้มซ้ายให้เขาตบด้วย 40 ถ้าใครฟ้องร้องเอาเสื้อของคุณ ก็แถมเสื้อคลุมให้เขาไปด้วย 41 ถ้าใครบังคับให้คุณแบกของไปกับเขาหนึ่งกิโลเมตร ก็แบกไปสองกิโลเมตรเลย 42 ถ้าใครมาขออะไรจากคุณก็ให้เขาไป อย่าหันหน้าหนีไปจากคนที่มาขอยืมคุณเลย

ให้รักศัตรู

(ลก. 6:27-28, 32-36)

43 พวกคุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘รักเพื่อนบ้าน[f] และเกลียดชังศัตรู’ 44 แต่เราขอบอกคุณว่า ให้รักศัตรูของคุณ และอธิษฐานเผื่อคนที่ข่มเหงคุณ 45 เพราะถ้าทำอย่างนี้ คุณก็จะเป็นลูกที่แท้จริงของพระบิดาในสวรรค์ พระองค์ทำให้ดวงอาทิตย์ส่องสว่างให้ทั้งคนดีและคนชั่ว ให้ฝนตกกับทั้งคนที่ทำถูกและคนที่ทำผิดเหมือนกัน 46 ถ้าคุณรักแต่คนที่รักคุณ แล้วมันมีอะไรพิเศษตรงไหน แม้แต่คนเก็บภาษี ก็ยังรักคนที่รักเขาเหมือนกัน 47 ถ้าทักทายแต่เพื่อน คุณได้ทำอะไรพิเศษไปกว่าคนอื่นๆหรือ เพราะคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า[g] ก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน 48 ดังนั้นพระบิดาของพวกคุณบนสวรรค์ดีพร้อมขนาดไหน ก็ให้พวกคุณดีพร้อมขนาดนั้นด้วย

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International