Old/New Testament
กฎเกี่ยวกับการกินเนื้อสัตว์
(ฉธบ. 14:3-8)
11 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า 2 “ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘ต่อไปนี้คือสัตว์ที่พวกเจ้ากินได้ จากท่ามกลางสัตว์ใหญ่ทั้งหมดในโลกนี้ 3 สัตว์อะไรก็ตามที่มีเท้าเป็นกีบ แยกจากกันและเคี้ยวเอื้อง[a] เจ้าก็กินสัตว์นั้นได้
4 แต่สัตว์ที่มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง คือเคี้ยวเอื้องหรือมีเท้าเป็นกีบ เจ้าต้องไม่กินสัตว์นั้น เช่น อูฐ มันเคี้ยวเอื้องแต่เท้าไม่เป็นกีบแยกออก มันไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า 5 ตัวไฮแรกซ์[b] เท้าไม่เป็นกีบแยกออก ถึงแม้จะเคี้ยวเอื้อง มันจึงไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า 6 กระต่ายก็เหมือนกัน เคี้ยวเอื้องแต่เท้าไม่เป็นกีบแยกออก จึงไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า 7 ส่วนหมู ถึงแม้เท้าจะเป็นกีบ แต่ไม่เคี้ยวเอื้อง มันจึงไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า 8 เจ้าต้องไม่กินเนื้อของพวกมันและต้องไม่แตะต้องซากของพวกมันด้วย เพราะมันไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า
กฎเกี่ยวกับอาหารทะเล
(ฉธบ. 14:9, 10)
9 จากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในน้ำ เจ้ากินสิ่งต่อไปนี้ได้ คือสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในน้ำที่มีทั้งครีบและเกล็ด ไม่ว่าจะมีอยู่ในทะเลหรือแม่น้ำก็ตาม 10 แต่ถ้าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นที่อยู่ในทะเลและในแม่น้ำ ไม่มีครีบและเกล็ด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เลื้อยคลานในน้ำ หรือสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นที่อาศัยอยู่ในน้ำ ถือเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับพวกเจ้า 11 และเจ้าต้องเห็นพวกมันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ เจ้าต้องไม่กินเนื้อของพวกมัน และต้องไม่แตะต้องซากของพวกมัน 12 สิ่งมีชีวิตทุกอย่างในน้ำที่ไม่มีครีบและเกล็ด เจ้าต้องเห็นมันเป็นสิ่งน่ารังเกียจ
นกที่ไม่ควรกิน
(ฉธบ. 14:11-18)
13 พวกนกต่อไปนี้ เจ้าจะต้องถือว่ามันน่ารังเกียจ และต้องไม่กินพวกมัน มันเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน คือ นกอินทรี นกแร้ง นกเหยี่ยว 14 นกเหยี่ยวหางยาว เหยี่ยวทุกชนิด 15 นกที่มีขนสีดำทุกประเภท 16 นกกระจอกเทศ นกเค้าโมง นกนางนวล เหยี่ยวนกเขาทุกชนิด 17 นกฮูก นกกาน้ำ นกแสก 18 นกอีโก้ง นกกระทุง นกแร้ง 19 นกกระสาดำ นกกระสาทุกชนิด นกกะรางหัวขวานและค้างคาว
กฎของการกินแมลง
(ฉธบ. 14:19-20)
20 พวกแมลงมีปีกที่คลาน[c] เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับเจ้า 21 ยกเว้นแมลงมีปีกที่คลานต่อไปนี้ เจ้ากินได้ คือ พวกที่มีข้อต่ออยู่เหนือขาของพวกมันเพื่อใช้กระโดดบนพื้นดิน 22 เจ้าสามารถกินตั๊กแตนทุกชนิด ตั๊กแตนที่มีปีกทุกชนิด จิ้งหรีดทุกชนิด และเรไรทุกชนิด
23 แต่แมลงที่คลานนอกเหนือไปจากนี้ เจ้าต้องไม่กิน 24 เพราะพวกมันจะทำให้เจ้าไม่บริสุทธิ์ ใครที่ไปแตะต้องซากของสัตว์ต่อไปนี้ก็จะเป็นผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น 25 และคนที่ไปจับส่วนใดส่วนหนึ่งของซากพวกมัน จะต้องเอาเสื้อไปซัก และตัวเขาก็จะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น
26 คือซากของสัตว์ทุกชนิดที่มีเท้าเป็นกีบแต่กีบไม่แยกออกเป็นสองส่วนหรือไม่เคี้ยวเอื้องเป็นของไม่บริสุทธิ์สำหรับเจ้า ทุกคนที่แตะต้องพวกมันจะไม่บริสุทธิ์ 27 รวมทั้งซากของสัตว์ที่เดินด้วยอุ้งตีน[d] ที่แบนราบทั้งสี่ข้าง เป็นสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า ทุกคนไปแตะต้องพวกมันจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น 28 และทุกคนที่ถือซากของพวกมัน ต้องเอาเสื้อไปซักและตัวเขาก็จะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น เพราะพวกมันเป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า
กฎเกี่ยวกับสัตว์ที่คลาน
29 สัตว์ที่คลานไปบนพื้น ที่ไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้าคือ ตัวตุ่น หนู สัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ 30 ตุ๊กแก จระเข้ จิ้งจก จิ้งเหลน กิ้งก่า 31 สัตว์ที่คลานเหล่านี้ไม่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า ทุกคนที่ไปแตะต้องซากของพวกมัน คนๆนั้นจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น
กฎเกี่ยวกับสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์
32 ถ้าสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์เหล่านี้ตาย และตกไปบนอะไรก็ตาม ของนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นของที่ทำด้วยไม้ ผ้า หนัง ขนแพะ หรือภาชนะใดก็แล้วแต่ จะต้องเอาของนั้นไปแช่น้ำ และมันจะคงไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น หลังจากนั้นมันก็จะบริสุทธิ์เหมือนเดิม 33 และถ้าสัตว์เหล่านั้นตกไปบนภาชนะที่ทำจากดิน ของทุกอย่างที่อยู่ในภาชนะนั้นจะไม่บริสุทธิ์ และเจ้าต้องทำลายภาชนะใบนั้นทิ้งเสีย 34 ถ้าเจ้าเทน้ำที่อยู่ในภาชนะที่ไม่บริสุทธิ์นั้น ลงไปในของที่กินได้ ของนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ตามไปด้วย[e] สิ่งที่ดื่มได้ถ้าอยู่ในภาชนะที่ไม่บริสุทธิ์ มันก็จะไม่บริสุทธิ์เหมือนกัน[f] 35 ถ้าส่วนหนึ่งส่วนใดของซากสัตว์นั้นตกลงบนอะไรก็ตาม ของนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ไปด้วย ถ้าไปตกบนเตาอบหรือเตา ก็ให้ทำลายของพวกนั้นเสีย เพราะมันจะกลายเป็นของไม่บริสุทธิ์และจะไม่บริสุทธิ์ตลอดไป
36 แต่ถ้าเป็นตาน้ำหรือบ่อเก็บน้ำ มันจะยังคงบริสุทธิ์อยู่ แต่คนที่ไปแตะต้องซากสัตว์ที่อยู่ในนั้นจะเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ 37 และถ้าซากสัตว์เหล่านี้ตกลงไปในเมล็ดพืชที่กำลังจะนำไปปลูก เมล็ดพืชเหล่านั้นจะยังบริสุทธิ์อยู่ 38 แต่ถ้าเจ้าเทน้ำลงบนเมล็ดพืชแล้วเกิดมีซากสัตว์เหล่านี้ตกลงไป เมล็ดพืชเหล่านั้นจะไม่บริสุทธิ์สำหรับเจ้าอีก
39 ถ้าสัตว์ที่เจ้าใช้เป็นอาหารตายเองตามธรรมชาติ คนที่ไปจับต้องซากของมันจะกลายเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์จนถึงเย็น 40 ใครที่ไปกินซากของมัน ต้องเอาเสื้อไปซักและจะกลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์จนถึงเย็น และใครที่ไปเก็บส่วนใดส่วนหนึ่งของซากนั้นมา เขาต้องเอาเสื้อไปซักและจะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น
41 สัตว์เลื้อยคลานทุกประเภท เจ้าต้องรังเกียจและไม่กินมัน 42 สัตว์เลื้อยคลานทุกชนิด ที่เลื้อยไปมาบนพื้นดิน หรือที่คลานสี่ขา หรือที่มีหลายขา เจ้าก็ต้องไม่กินพวกมัน เพราะพวกมันน่ารังเกียจ 43 อย่าทำตัวเจ้าให้เป็นที่น่ารังเกียจเพราะพวกมัน อย่าทำให้ตัวเจ้าต้องไม่บริสุทธิ์เพราะพวกมัน เพราะเจ้าจะต้องกลายเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ 44 เพราะเราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเจ้า ให้รักษาตัวเองให้แตกต่างจากคนอื่น เพราะเราเองก็แตกต่าง ดังนั้น พวกเจ้าจึงต้องไม่ทำตัวเองให้ไม่บริสุทธิ์ ด้วยสัตว์ที่เลื้อยคลานเหล่านั้น 45 เพราะเราคือยาห์เวห์ ที่ได้นำพวกเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเราจะได้เป็นพระเจ้าของพวกเจ้า พวกเจ้าจึงต้องทำตัวให้แตกต่างจากคนอื่น เพราะเราเองก็แตกต่างจากผู้อื่น’”
46 นี่คือกฎต่างๆเกี่ยวกับสัตว์ นก สิ่งมีชีวิตในน้ำ และสิ่งมีชีวิตที่เลื้อยคลานบนพื้นดิน 47 กฎต่างๆเหล่านี้ช่วยให้คนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างสัตว์ที่สะอาดและไม่สะอาด และสัตว์ที่กินได้กับสัตว์ที่กินไม่ได้
กฎสำหรับแม่คนใหม่
12 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 2 “ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ผู้หญิงที่ตั้งท้องและคลอดลูกมาเป็นเด็กผู้ชาย นางจะไม่บริสุทธิ์เป็นเวลาเจ็ดวันเหมือนกับตอนที่นางมีประจำเดือน 3 ในวันที่แปด เด็กชายจะต้องถูกขลิบ 4 เพราะเลือดที่เกิดจากการคลอดบุตร นางจะต้องคอยอีกสามสิบสามวัน และต้องไม่แตะต้องของศักดิ์สิทธิ์ใดๆหรือเข้าไปในพื้นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ จนกว่าช่วงเวลานี้จะสิ้นสุดลง 5 ถ้านางคลอดลูกสาว นางจะไม่บริสุทธิ์เป็นเวลาสิบสี่วัน เหมือนกับตอนที่นางมีประจำเดือน และเพราะเลือดที่เกิดจากการคลอดบุตร นางจะต้องคอยอีกหกสิบหกวัน จนกว่านางจะบริสุทธิ์อีกครั้ง
6 เมื่อช่วงเวลานั้นหมดลง ไม่ว่านางจะได้ลูกชายหรือลูกสาว นางต้องนำลูกแกะอายุหนึ่งปีมาตัวหนึ่ง เพื่อเป็นเครื่องเผาบูชา และนกพิราบหนุ่มหรือนกเขาตัวหนึ่งมาเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง แล้วเอาไปให้นักบวชที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 7 แล้วนักบวชจะนำของเหล่านี้ไปถวายต่อหน้าพระยาห์เวห์ และชำระแท่นบูชาแทนนาง และนางจะบริสุทธิ์จากเลือดที่เกิดจากการคลอดบุตร นี่คือกฎสำหรับผู้หญิงที่คลอดลูกไม่ว่าจะได้ลูกชายหรือลูกสาว 8 ถ้านางไม่มีเงินที่จะซื้อแกะตัวผู้ นางก็ต้องใช้นกเขาสองตัวหรือนกพิราบสองตัว ตัวหนึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชา อีกตัวใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และนักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนนาง แล้วนางก็จะบริสุทธิ์”
ผู้นำชาวยิววางแผนฆ่าพระเยซู
(มก. 14:1-2; ลก. 22:1-2; ยน. 11:45-53)
26 เมื่อพระเยซูพูดเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว พระองค์บอกกับพวกศิษย์ว่า 2 “พวกคุณก็รู้แล้วว่า อีกสองวันจะถึงเทศกาลวันปลดปล่อย และบุตรมนุษย์จะถูกส่งมอบไปให้ศัตรูเพื่อเอาไปตรึงที่กางเขน”
3 พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโสมาประชุมกันที่บ้านของคายาฟาสนักบวชสูงสุด 4 พวกเขาวางแผนจับตัวพระเยซูไปฆ่า 5 แต่พวกเขาตกลงกันว่า “อย่าเพิ่งทำในช่วงเทศกาล เพราะประชาชนจะก่อการจลาจลขึ้น”
หญิงคนหนึ่งชโลมน้ำหอมบนศีรษะพระเยซู
(มก. 14:3-9; ยน. 12:1-8)
6 ในเมืองเบธานี ขณะที่พระเยซูอยู่ที่บ้านของซีโมนที่เคยเป็นโรคผิวหนังร้ายแรง 7 มีผู้หญิงคนหนึ่งถือขวดใส่น้ำหอมราคาแพงมากมาหาพระองค์ เธอชโลมน้ำหอมลงบนศีรษะของพระองค์ ขณะที่พระองค์กำลังกินอาหารอยู่
8 เมื่อพวกศิษย์เห็นอย่างนั้นก็โกรธ ต่างพูดกันว่า “ทำไมถึงทำให้เสียของอย่างนี้ 9 มันคงขายได้เงินมากทีเดียว แล้วก็เอาเงินนั้นไปแจกจ่ายให้กับคนจน”
10 เมื่อพระเยซูได้ยิน จึงห้ามพวกศิษย์ว่า “ไปวุ่นวายกับเธอทำไม เธอได้ทำสิ่งที่ดีงามให้กับเรา 11 พวกคุณจะมีคนจนอยู่ด้วยเสมอ[a] แต่เราจะไม่อยู่กับพวกคุณเสมอไป 12 ที่เธอเทน้ำหอมลงบนตัวเรานั้น ก็เพื่อเตรียมเราไว้สำหรับการฝังศพ 13 เราจะบอกให้รู้ว่า ไม่ว่าข่าวดีนี้จะประกาศออกไปที่ไหนๆในโลกนี้ ก็จะมีคนพูดถึงเรื่องที่เธอทำให้กับเรานี้เสมอ เพื่อเป็นการระลึกถึงเธอ”
ยูดาสกลายเป็นศัตรูของพระเยซู
(มก. 14:10-11; ลก. 22:3-6)
14 ยูดาส อิสคาริโอท ศิษย์เอกคนหนึ่งในสิบสองคนของพระเยซู ได้ไปพบพวกหัวหน้านักบวช 15 เขาถามว่า “ถ้าผมส่งตัวพระเยซูให้ จะจ่ายให้ผมเท่าไหร่” แล้วพวกเขาก็ให้เงินยูดาสสามสิบเหรียญ 16 ตั้งแต่นั้นมา ยูดาสก็คอยจ้องหาโอกาสที่จะส่งพระเยซูให้กับพวกเขา
พระเยซูกินอาหารมื้อพิเศษในเทศกาลวันปลดปล่อย
(มก. 14:12-21; ลก. 22:7-14, 21-23; ยน. 13:21-30)
17 วันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ พวกศิษย์ได้เข้ามาถามพระเยซูว่า “อาจารย์จะให้พวกเราเตรียมอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยให้อาจารย์ที่ไหนครับ”
18 พระเยซูตอบว่า “ให้เข้าไปในเมืองหาชายคนหนึ่ง แล้วบอกเขาว่า ‘อาจารย์บอกว่า เวลาของเราใกล้มาถึงแล้ว เราจะเลี้ยงฉลองเทศกาลวันปลดปล่อยกับพวกศิษย์ของเราที่บ้านของคุณ’” 19 พวกศิษย์ทำตามที่พระเยซูบอก และจัดเตรียมอาหารสำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยที่นั่น
20 เมื่อถึงตอนเย็น พระเยซูเอนตัวอยู่ที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับศิษย์ทั้งสิบสองคน 21 ขณะที่กำลังกินกันอยู่นั้น พระเยซูได้พูดขึ้นว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คนหนึ่งในพวกคุณจะหักหลังเรา”
22 พวกศิษย์ตระหนกตกใจมาก ต่างถามพระองค์ว่า “คงไม่ใช่ผมนะ อาจารย์”
23 พระเยซูตอบว่า “คนที่เอามือจิ้มลงในชามเดียวกับเราจะเป็นคนที่หักหลังเรา 24 บุตรมนุษย์จะต้องตาย เหมือนกับที่พระคัมภีร์ได้เขียนไว้แล้ว แต่คนที่หักหลังบุตรมนุษย์นี้น่าละอายจริงๆ ถ้าเขาไม่ได้เกิดมา ก็คงจะดีกว่า”
25 พอยูดาสคนที่จะหักหลังพระองค์ถามว่า “คงไม่ใช่ผมนะ อาจารย์” พระองค์จึงตอบว่า “คุณนั่นแหละ”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International