Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
กันดารวิถี 5-6

กฎเกี่ยวกับความสะอาด

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้สั่งชาวอิสราเอลว่า พวกเขาจะต้องไล่คนพวกนี้ออกจากค่าย คือคนที่เป็นโรคผิวหนัง คนที่มีน้ำหนองไหล[a] ออกจากร่างกาย รวมทั้งคนที่กลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์เพราะไปแตะต้องศพ เจ้าต้องขับไล่พวกเขาออกไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ไล่พวกเขาออกไปนอกค่าย เพื่อพวกเขาจะได้ไม่ทำให้ค่ายสกปรก เพราะเราอยู่ในค่ายนั้น”

ชาวอิสราเอลจึงทำตาม ไล่คนพวกนั้นออกไปนอกค่าย ชาวอิสราเอลได้ทำตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้

การชดใช้เมื่อทำผิด

(ลนต. 6:1-7)

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้บอกชาวอิสราเอลว่า เมื่อผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม ไปทำบาปต่อคนอื่น และได้สาบานว่าตัวเองไม่ผิด ทั้งๆที่ผิด อย่างนี้ถือว่าได้ทำผิดต่อพระยาห์เวห์ คนๆนั้นต้องรับผิด เขาจะต้องสารภาพความบาปที่เขาได้ทำไป ต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด และยังต้องเพิ่มอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของค่าเสียหายนั้น ให้กับคนที่เขาไปโกงมา แต่ถ้าคนที่ถูกโกงนั้นตายไปแล้ว และไม่มีญาติสนิทที่จะรับค่าชดใช้นั้น ค่าชดใช้นั้นก็จะเป็นของพระยาห์เวห์ ให้เอาไปให้กับนักบวช นอกจากนั้นแล้ว คนๆนั้นต้องเอาแกะตัวผู้มาตัวหนึ่งสำหรับเป็นเครื่องบูชาชดใช้ นักบวชจะถวายแกะตัวนี้แทนเขาเพื่อกำจัดบาป[b] ให้กับเขา

ถ้าชาวอิสราเอลเอาของขวัญพิเศษมาถวายพระเจ้า นักบวชที่รับของขวัญนั้น ก็เก็บเอาไว้เองได้ มันจะเป็นของนักบวชคนนั้น 10 ของขวัญพิเศษนี้จะให้หรือไม่ให้ก็ได้ แต่ถ้าคนอิสราเอลจะให้ มันก็จะตกเป็นของนักบวช”

สามีที่ขี้ระแวง

11 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 12 “ให้บอกชาวอิสราเอลว่า เมื่อเมียของชายคนหนึ่งไปทำผิดศีลธรรมหรือไม่ซื่อสัตย์ต่อเขา 13 และไปมีเพศสัมพันธ์กับชายคนอื่น แล้วปกปิดไม่ให้สามีรู้ นางเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ถึงแม้นางจะทำตัวเสื่อมเสีย แต่ไม่มีพยานและจับไม่ได้คาหนังคาเขา 14 ถ้าในสถานการณ์อย่างนี้ สามีเกิดหึงหวงนางขึ้นมา และนางได้ทำตัวเสื่อมเสียจริงๆ หรือสามีหึงหวงนาง ทั้งๆที่นางไม่ได้ทำตัวเสื่อมเสีย 15 ก็ให้ผู้ชายคนนี้พาภรรยาของเขาไปหานักบวช และเขาต้องเอาเครื่องบูชาสำหรับภรรยาไปด้วยคือ แป้งบาร์เลย์สองลิตร[c] เขาต้องไม่เทน้ำมันและเครื่องหอม ลงไปในแป้งนั้น เพราะเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชนี้เกิดมาจากความหึงหวงของสามี เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชนี้จะบอกให้รู้ว่านางผิดหรือไม่

16 จากนั้นนักบวชจะนำตัวนางเข้ามาใกล้ๆ มายืนอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ 17 แล้วนักบวชจะเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์มาใส่ในไหดินเหนียว และนักบวชจะหยิบเอาฝุ่นจากพื้นของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ใส่ลงไปในน้ำนั้น 18 แล้วนักบวชจะให้หญิงคนนั้นมายืนอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ เขาจะปล่อยผมนางออกและวางเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชไว้บนมือนาง เป็นเครื่องบูชาที่จะบอกให้รู้ว่านางผิดหรือไม่ เครื่องบูชานี้เกิดมาจากความหึงหวงของสามีนาง และนักบวชก็จะถือน้ำที่จะก่อปัญหาที่จะนำคำสาปแช่งมา

19 นักบวชจะให้หญิงคนนั้นสาบานและเขาจะพูดกับนางว่า ‘ถ้าเจ้าไม่เคยนอนกับผู้ชายคนอื่น และไม่เคยผิดศีลธรรมจนทำให้เจ้าเสื่อมเสีย ตอนที่ยังอยู่กินกับสามีของเจ้านั้น น้ำที่จะก่อปัญหาที่จะนำคำสาปแช่งนี้ ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อเจ้า 20 แต่ถ้าเจ้าทำผิดศีลธรรม ตอนที่เจ้ายังอยู่กินกับสามี และไปนอนกับผู้ชายอื่นจนทำให้เจ้าเสื่อมเสียแล้วละก็ 21 นักบวชจะต้องทำให้ผู้หญิงนั้นสาบานตามคำแช่งสาปนี้ และพูดกับนางว่า ขอให้พระยาห์เวห์ทำให้ปัญหานั้นเกิดกับเจ้า จนเวลาที่คนของเจ้าจะสาปแช่งใคร ก็จะพูดว่าขอให้เป็นเหมือนเจ้า เพราะพระองค์จะทำให้เจ้าไม่มีลูกและถ้าท้องอยู่ก็จะแท้ง[d] 22 และขอให้น้ำที่จะก่อปัญหาและนำคำสาปแช่งนี้ ตกลงไปในท้องของเจ้า และทำให้เจ้าแท้งและไม่มีลูก’ แล้วหญิงผู้นั้นต้องพูดว่า ‘ขอให้เป็นอย่างนั้น ขอให้เป็นอย่างนั้น’

23 แล้วนักบวชจะเขียนคำสาปแช่งพวกนี้ลงบนม้วนกระดาษหนัง และนำไปล้างในน้ำที่จะก่อให้เกิดปัญหานั้น 24 แล้วนักบวชจะให้หญิงคนนั้นดื่มน้ำที่จะก่อให้เกิดปัญหาที่จะนำคำสาปแช่งมา น้ำนั้นจะเข้าสู่ตัวนางและก่อให้เกิดความเจ็บปวดยิ่งนัก

25 นักบวชจะเอาเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชจากมือของนาง เครื่องบูชาที่มาจากสามีที่หึงหวงของนาง และยื่นให้พระยาห์เวห์ แล้วนักบวชจะนำมันไปไว้บนแท่นบูชา 26 นักบวชจะหยิบเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชนั้นมาหนึ่งกำมือ เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาทั้งหมด และเอาไปเผาบนแท่นบูชา หลังจากนั้นก็จะให้หญิงนั้นดื่มน้ำ 27 เมื่อเขาทำให้หญิงคนนั้นดื่มน้ำแล้ว ก็จะรอดู ถ้านางทำตัวเสื่อมเสีย และไม่ซื่อสัตย์ต่อสามีของนาง น้ำที่นำคำสาปแช่งนั้นก็จะเข้าไปในตัวนางและทำให้เกิดความเจ็บปวดยิ่งนัก ทำให้นางไม่สามารถมีลูกได้ และถ้าท้องก็จะแท้ง และหญิงนั้นก็จะกลายเป็นคำสาปแช่งในหมู่คนของนาง 28 ถ้าหญิงคนนั้นไม่ได้ทำตัวเสื่อมเสีย แต่นางบริสุทธิ์ นางก็จะได้รับการตัดสินให้เป็นผู้บริสุทธิ์และสามารถมีลูกได้

29 นั่นคือกฎสำหรับคดีหึงหวง เมื่อผู้หญิงได้ทำผิดศีลธรรม ตอนที่ยังอยู่กินกับสามี และทำตัวเสื่อมเสีย 30 หรือถ้าผู้ชายเกิดหึงหวงเพราะสงสัยว่าเมียจะไม่ซื่อกับเขา เขาต้องนำตัวนางไปยืนต่อหน้าพระยาห์เวห์ และนักบวชจะทำพิธีต่างๆนั้นกับเมียเขาเอง 31 ถ้าผู้ชายเข้าใจผิด เขาจะไม่ถูกลงโทษ แต่ถ้าผู้หญิงผิดจริง นางจะต้องรับโทษ”

พวกนาศีร์

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้บอกกับชาวอิสราเอลว่า ถ้าผู้ชายหรือผู้หญิงคนใดได้สาบานตนเป็นพิเศษ เป็นการสาบานเพื่อจะเป็นพวกนาศีร์[e] คือพวกที่แยกตัวออกมาเพื่อพระยาห์เวห์ คนๆนั้นจะต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มมึนเมาอื่นๆและเขาต้องไม่กินน้ำส้มสายชูที่ทำจากเหล้าองุ่นหรือน้ำส้มสายชูที่ทำจากเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด รวมทั้งต้องไม่ดื่มน้ำองุ่น และต้องไม่กินทั้งองุ่นสดและองุ่นแห้ง ตลอดเวลาที่เขาเป็นนาศีร์ เขาต้องไม่กินสิ่งใดก็ตามที่ได้จากต้นองุ่นหรือแม้แต่เมล็ดหรือเปลือกขององุ่น

ตลอดช่วงเวลาที่เขาแยกตัวออกมาเพื่อพระยาห์เวห์ เขาต้องไม่โกนผม เขาเป็นของพระยาห์เวห์โดยเฉพาะ เขาต้องไว้ผมยาว ห้ามตัด จนกว่าจะสิ้นสุดช่วงที่เขาเป็นนาศีร์นั้น

ตลอดช่วงเวลาที่เขาแยกตัวออกมาเพื่อพระยาห์เวห์ คนๆนั้นต้องไม่เข้าใกล้ศพ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือพี่น้องชายหญิงของเขา เขาจะต้องไม่แตะต้องศพนั้น เพื่อจะไม่ทำให้ผมของเขาเป็นมลทิน เพราะผมนั้นบ่งบอกให้รู้ว่าเขาได้แยกตัวออกมาให้กับพระเจ้าโดยเฉพาะ ตลอดช่วงเวลาที่คนๆนั้นเป็นนาศีร์ เขาเป็นของพระยาห์เวห์โดยเฉพาะ

แต่ถ้าคนที่อยู่ใกล้ๆกับนาศีร์นั้นตายอย่างกระทันหัน ผมของเขาที่ได้อุทิศให้กับพระเจ้านั้นก็จะไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป หลังจากนั้นอีกเจ็ดวัน เขาจะต้องโกนผมทิ้ง ในวันเดียวกับที่เขาจะต้องชำระตัวนั้น 10 ในวันต่อมา เขาจะต้องเอานกเขาสองตัวหรือนกพิราบหนุ่มสองตัวไปให้นักบวชที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 11 นักบวชจะใช้นกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา โดยวิธีนี้นักบวชจะกำจัดความไม่บริสุทธิ์และความผิดให้กับคนนั้นที่ทำผิดพลาดไปแตะต้องถูกศพ ในวันนั้นนาศีร์คนนั้นต้องอุทิศผมบนหัวของเขาให้กับพระยาห์เวห์ใหม่ 12 เขาจะต้องสาบานที่จะอุทิศตัวเองเพื่อพระยาห์เวห์อีกครั้งหนึ่ง ตลอดเวลาที่เขาเป็นนาศีร์ และเขาจะต้องเอาลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีมาเป็นของถวายชดใช้ ส่วนช่วงก่อนหน้านี้ก็ไม่นับอีกต่อไป เพราะผมบนหัวของเขาที่ได้อุทิศให้พระยาห์เวห์นั้นไม่บริสุทธิ์แล้ว

13 นี่คือกฎสำหรับพวกนาศีร์ เมื่อเขาเป็นนาศีร์ครบตามกำหนดเวลาแล้ว ให้คนนำตัวเขาไปที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 14 นาศีร์คนนั้นจะต้องเอาเครื่องบูชาต่อไปนี้มาถวายให้พระยาห์เวห์

ลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิใดๆ เพื่อเป็นเครื่องเผาบูชา

ลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิใดๆ เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง

แกะผู้หนึ่งตัวที่ไม่มีตำหนิใดๆ เป็นเครื่องสังสรรค์บูชา

15 ขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟูหนึ่งตะกร้า ขนมปังที่ทำจากแป้งอย่างดีคลุกด้วยน้ำมัน

ขนมปังแผ่นบางๆที่ไม่ใส่เชื้อฟูและทาด้วยน้ำมัน

และเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชา

16 นักบวชต้องยื่นเครื่องบูชาเหล่านี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ และทำเครื่องบูชาชำระล้าง และเครื่องเผาบูชาให้คนๆนั้น 17 นักบวชต้องบูชาแกะตัวนั้นเป็นเครื่องสังสรรค์บูชาให้พระยาห์เวห์พร้อมๆกับขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูตะกร้านั้น พร้อมกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช และเครื่องดื่มบูชา

18 นาศีร์คนนั้นต้องโกนผมของเขาที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบและเอาผมที่เขาได้อุทิศนั้นใส่ลงในกองไฟที่อยู่ใต้เครื่องสังสรรค์บูชา

19 หลังจากนั้นนักบวชจะเอาเนื้อสันขาหน้าของแกะตัวผู้ที่ต้มแล้ว กับขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูหนึ่งก้อนจากตะกร้าและขนมปังแผ่นบางๆไม่ใส่เชื้อฟูหนึ่งชิ้นมาวางไว้บนฝ่ามือทั้งสองของนาศีร์คนนั้น หลังจากที่เขาโกนผมที่ได้อุทิศนั้นเสร็จแล้ว 20 แล้วนักบวชจะยื่นของพวกนี้ เป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ มันจะเป็นของขวัญที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักบวช พร้อมกับเนื้อส่วนอกของเครื่องยื่นบูชาและส่วนสะโพกของเครื่องบูชาของขวัญ หลังจากนี้ นาศีร์คนนั้นก็ดื่มเหล้าองุ่นได้

21 นี่เป็นกฎสำหรับคนที่สาบานตัวเป็นนาศีร์ และนั่นก็คือเครื่องบูชาที่เขาจะต้องเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ สำหรับการอุทิศตัวของเขา ถ้าคนนั้นสามารถให้ได้มากกว่านี้ และเขาสาบานว่าจะให้ ก็ให้เขาทำตามนั้น แต่อย่างน้อยเขาจะต้องให้ตามกฎของการอุทิศตัว”

การอวยพรของนักบวช

22 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 23 “ให้บอกอาโรนกับลูกชายของเขาว่า พวกเจ้าต้องอวยพรชาวอิสราเอลอย่างนี้ ให้พูดกับพวกเขาว่า

24 ‘ขอให้พระยาห์เวห์อวยพรเจ้า
    และปกป้องดูแลเจ้า
25 ขอให้ใบหน้าของพระยาห์เวห์ส่องลงบนเจ้า
    และเอ็นดูเจ้า
26 ขอให้พระยาห์เวห์มองเจ้าด้วยความเมตตาปรานี
    และให้ความสงบสุขกับเจ้า’

27 อย่างนั้นแหละ ทั้งอาโรน ลูกชายของเขา รวมทั้งพวกนักบวช จะใช้ชื่อของเราอวยพรชาวอิสราเอล และเราก็จะอวยพรพวกเขา”

มาระโก 4:1-20

เรื่องชาวนาหว่านพืช

(มธ. 13:1-9; ลก. 8:4-8)

พระองค์สั่งสอนอยู่ริมทะเลสาบอีก มีคนเป็นจำนวนมากมาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์จึงลงไปนั่งอยู่ในเรือแล้วลอยอยู่ข้างๆฝั่ง ส่วนประชาชนยืนฟังอยู่ริมฝั่ง พระเยซูใช้เรื่องเปรียบเทียบสอนพวกเขาหลายอย่าง พระองค์เล่าให้ฟังว่า “ฟังให้ดีๆมีชาวนาคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช ขณะที่หว่านอยู่นั้น บางเมล็ดก็ตกบนทางเดิน นกก็มาจิกกินหมด บางเมล็ดก็ตกบนดินที่ชั้นล่างเป็นหิน มีดินไม่มาก เมล็ดนั้นก็งอกขึ้นอย่างรวดเร็วแต่เนื่องจากมีดินไม่ลึก เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นพืชนั้นถูกแดดแผดเผาและเนื่องจากมีรากตื้นๆพืชนั้นก็เหี่ยวแห้งตายไป บางเมล็ดตกในพงหนาม หนามก็งอกขึ้นมาปกคลุมพืชนั้นไว้จึงไม่ออกดอกออกผล และบางเมล็ดตกลงในดินดีก็เจริญงอกงามขึ้นมาเกิดดอกออกผลสามสิบเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง และหนึ่งร้อยเท่าบ้าง”

แล้วพระองค์ก็พูดว่า “ใครมีหูก็ฟังไว้ให้ดี”

สาเหตุที่พระเยซูใช้เรื่องเปรียบเทียบ

(มธ. 13:10-17; ลก. 8:9-10)

10 ต่อมาเมื่อพระเยซูอยู่คนเดียว ศิษย์ทั้งสิบสองคนพร้อมกับคนที่ติดตามก็มาถามถึงความหมายของเรื่องเปรียบเทียบพวกนั้น

11 พระองค์บอกว่า “มีแต่พวกคุณเท่านั้นที่เราจะบอกให้รู้เรื่องความลับของอาณาจักรของพระเจ้านี้ ส่วนพวกคนนอกนั้นเราจะใช้แต่เรื่องเปรียบเทียบสอน 12 เพื่อว่า

‘พวกเขาจะดูแล้วดูอีก แต่ก็จะไม่เห็น
ฟังแล้วฟังอีก แต่ก็จะไม่เข้าใจ เพราะถ้าเขาเห็นและเข้าใจ
เขาจะกลับมาหาพระเจ้าและได้รับการยกโทษ’”(A)

พระเยซูอธิบายเรื่องชาวนาหว่านพืช

(มธ. 13:18-23; ลก. 8:11-15)

13 แล้วพระองค์ถามพวกเขาว่า “คุณยังไม่เข้าใจเรื่องเปรียบเทียบเรื่องนี้อีกหรือ แล้วคุณจะไปเข้าใจเรื่องเปรียบเทียบอื่นๆได้ยังไง 14 ชาวนาคนนี้หว่านถ้อยคำของพระเจ้า 15 เมล็ดที่ตกลงบนถนนหนทางก็เหมือนกับคนที่ฟังถ้อยคำของพระเจ้า แต่ซาตานมาแย่งเอาถ้อยคำที่ได้หว่านไว้ในพวกเขานั้นไปทันที 16 ส่วนเมล็ดที่ตกลงบนดินตื้นๆที่มีหินอยู่ข้างล่าง ก็เหมือนกับคนที่ฟังถ้อยคำนั้น แล้วรีบรับไว้ด้วยความยินดี 17 แต่รากไม่ลึกจึงไม่ทนทาน เมื่อเจอกับความทุกข์เดือดร้อนหรือถูกข่มเหงเพราะเชื่อในถ้อยคำนั้น เขาก็เลิกเชื่อทันที 18 เมล็ดที่ตกลงในพงหนามก็เหมือนกับคนที่ฟังถ้อยคำแล้ว 19 แต่ยังเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับชีวิตในโลกนี้ หลงไหลอยู่กับทรัพย์สมบัติและความโลภที่ไม่สิ้นสุด สิ่งเหล่านี้มาคลุมถ้อยคำไว้เลยไม่เกิดผล 20 เมล็ดที่ตกในดินดี ก็เหมือนกับคนที่ฟังถ้อยคำแล้วรับไว้ และออกดอกออกผล สามสิบเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง และหนึ่งร้อยเท่าบ้าง”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International