Old/New Testament
พวกผู้นำ นำอิสราเอลและยูดาห์ไปทำบาป
5 พวกนักบวช ฟังให้ดี
ครอบครัวของอิสราเอลตั้งใจฟังให้ดี
ราชวงศ์กษัตริย์ฟังไว้
เพราะพวกเจ้าถูกตัดสินแล้ว
พวกเจ้าเคยเป็นกับดักตอนที่อยู่มิสปาห์นั้น
และเป็นตาข่ายที่กางอยู่บนเขาทาโบร์[a]
2 พวกเจ้าได้ขุดหลุมกับดักลึกที่ชิทธิม
ดังนั้นเราจะลงโทษพวกเจ้าทั้งหมด
3 เรารู้จักเอฟราอิม
และสิ่งที่อิสราเอลทำก็ไม่สามารถปิดซ่อนไว้จากเรา
เอฟราอิม เรารู้ว่าตอนนี้เจ้ามีชู้
และอิสราเอลก็สกปรกเพราะบาป
4 สิ่งที่พวกเขาทำ ดึงพวกเขาไม่ให้กลับไปหาพระเจ้า
เพราะใจของพวกเขามีแต่การเล่นชู้ และพวกเขาไม่รู้จักพระยาห์เวห์
5 ความเย่อหยิ่งจองหองของอิสราเอลเป็นพยานต่อต้านพวกเขาเอง
ทั้งอิสราเอลและเอฟราอิมสะดุดล้มเพราะความผิดชั่วร้ายของพวกเขาเอง
และยูดาห์สะดุดล้มกับพวกเขาด้วย
6 เมื่อคนอิสราเอลนำฝูงแพะแกะและฝูงวัว[b] ไปตามหาพระยาห์เวห์
พวกเขาจะไม่พบพระองค์เพราะพระองค์ทอดทิ้งพวกเขาไปแล้ว
7 พวกเขาไม่ซื่อสัตย์กับพระยาห์เวห์
พวกเขาคลอดลูกที่ไม่ใช่ลูกของพระองค์
แต่ในไม่ช้านี้ พระยาห์เวห์จะพลิกสถานการณ์
และทำลายพวกเขาพร้อมกับไร่นาทั้งหลายของพวกเขา
การทำนายถึงความล่มจมของอิสราเอล
8 ให้เป่าแตรเขาสัตว์[c] ในกิเบอาห์
ให้เป่าแตรในรามาห์
ให้ตะโกนเตือนภัยในเบธาเวน
เบนยามิน ระวังข้างหลังให้ดี
9 ในวันแห่งการลงโทษ เอฟราอิม จะกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
ในท่ามกลางเผ่าต่างๆของอิสราเอล เรากำลังประกาศสิ่งนี้ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ
10 พวกผู้นำของยูดาห์ เป็นเหมือนกับคนชั่วพวกนั้นที่ย้ายหลักเขต
เราจะเทความโกรธของเราลงบนคนพวกนั้นเหมือนน้ำ
11 เอฟราอิมจะถูกลงโทษ พวกเขาจะถูกบีบจนบี้แบน
เพราะเขาตั้งใจไล่ตามสิ่งที่ไร้ประโยชน์
12 เราจะทำลายเอฟราอิม เหมือนมอดกัดกินเสื้อผ้า
และทำลายครอบครัวยูดาห์ เหมือนความผุที่ทำลายไม้
13 เมื่อเอฟราอิมเห็นว่าตัวเองป่วย
และยูดาห์เห็นบาดแผลของตน
เอฟราอิมไปขอความช่วยเหลือจากอัสซีเรีย
และยูดาห์ส่งคนไปหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่นั้น
แต่อัสซีเรียไม่สามารถรักษาเจ้าหรือเยียวยาบาดแผลของเจ้าได้
14 เพราะว่าเราจะโจมตีเอฟราอิมเหมือนสิงโต
เราจะโจมตีชนชาติยูดาห์เหมือนสิงโตหนุ่ม
เรา ยาห์เวห์ จะฉีกพวกมันออกเป็นชิ้นๆ
เราจะคาบพวกมันไปกินในถ้ำของเราและจะไม่มีใครมาช่วยพวกมันได้
15 เราจะกลับไปยังที่ของเรา จนกว่าพวกเขาจะยอมรับผิดและหันกลับมาหาเราเมื่อพวกเขาเจอความทุกข์
พวกเขาจะได้ค้นหาเราอย่างจริงจัง
คำพูดแห่งการกลับใจ
6 ผู้คนต่างพูดกันว่า “พวกเรากลับไปหาพระยาห์เวห์กันเถอะ
ถึงแม้พระองค์ได้ฉีกเราเป็นชิ้นๆ แต่พระองค์จะรักษาเรา
ถึงแม้พระองค์ได้ตีเรา แต่พระองค์ก็จะพันแผลให้เรา
2 หลังจากสองวันผ่านไปแล้ว พระองค์จะให้ชีวิตใหม่
ในวันที่สามนั้น พระองค์จะทำให้เรายืนขึ้น
แล้วเราจะมีชีวิตอยู่ต่อหน้าพระองค์
3 ให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับพระยาห์เวห์ ให้เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะรู้จักพระองค์
พระยาห์เวห์จะมาแน่นอนเหมือนกับดวงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า
พระยาห์เวห์จะมาหาเราเหมือนฝนที่ตกลงมาในหน้าหนาว
เหมือนน้ำฝนที่โปรยปรายลงมาบนแผ่นดินในฤดูใบไม้ผลิ”
พระยาห์เวห์เรียกร้องให้กลับใจจริง
4 พระยาห์เวห์พูดว่า
เอฟราอิม เราจะทำยังไงดีกับเจ้า
ยูดาห์ เราจะทำยังไงดีกับเจ้า
ความจงรักภักดีของเจ้าที่มีต่อเรานั้นเหมือนกับหมอกในตอนเช้า
เหมือนกับน้ำค้างที่จางหายไปอย่างรวดเร็ว
5 ดังนั้น เราจึงใช้ผู้พูดแทนพระเจ้ามาโค่นพวกเขาลง
เราฆ่าพวกเขาด้วยกฎต่างๆที่ออกมาจากปากของเรา
คำตัดสินต่างๆของเราส่องออกมาเหมือนฟ้าแลบ
6 เพราะ เรา ยาห์เวห์ ต้องการความจงรักภักดี ไม่ใช่เครื่องบูชา
เราต้องการให้คนรู้จักพระเจ้า ไม่ใช่ถวายเครื่องเผาบูชา
7 แต่เอฟราอิมและยูดาห์ทำผิดข้อตกลงเหมือนกับที่พวกเขาเคยทำที่เมืองอาดัม[d]
พวกเขาทรยศต่อเราที่นั่น
8 กิเลอาดเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยคนทำชั่ว
เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยรอยเท้าเปื้อนเลือด
9 พวกเขาเป็นเหมือนพวกโจรที่คอยซุ่มโจมตีคนที่เดินผ่านไปมา
พวกนักบวชก็เหมือนกันคอยซุ่มอยู่บนถนน
และฆ่าคนบนทางไปเชเคม
พวกเขาได้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายน่าอับอาย
10 เราเห็นสิ่งที่เหลืออดเหลือทนเกิดขึ้นท่ามกลางครอบครัวของอิสราเอล
เอฟราอิมเล่นชู้
อิสราเอลแปดเปื้อนไปแล้ว
11 ยูดาห์ เวลาที่เจ้าจะถูกเก็บเกี่ยว
ถูกกำหนดไว้แล้วด้วยเหมือนกัน
พอเราคิดที่จะทำให้คนของเรากลับมามีสภาพดีเหมือนเดิม
7 พอเราคิดที่จะรักษาอิสราเอล
เมื่อนั้นความผิดของเอฟราอิมก็โผล่ขึ้นมา
การกระทำที่ชั่วร้ายของสะมาเรีย[e] ก็แดงขึ้น
พวกเขามีแต่การหลอกลวงกัน
พวกขโมยบุกขึ้นบ้านต่างๆ
พวกอันธพาลก็ปล้นคนบนท้องถนน
2 พวกเขาไม่ได้นึกถึงเลยว่าเราได้จดจำการกระทำชั่วร้ายทั้งหมดของพวกเขา
การกระทำเหล่านั้นล้อมรอบพวกเขาอยู่
และพวกมันอยู่ต่อหน้าเรา
3 กษัตริย์ชอบใจความชั่วร้ายของพวกเขา
พวกผู้นำชอบใจการโกหกของพวกเขา
4 พวกเขาทั้งหมดเป็นคนทรยศ
พวกเขาร้อนรุ่มยังกับเตาอบที่คนอบขนมได้ก่อไฟไว้
แล้วคนอบไม่ต้องใส่เชื้อไฟอีก
ตั้งแต่ช่วงที่นวดแป้งจนแป้งฟู
5 ในวันของกษัตริย์ พวกข้าราชการร้อนผ่าวไปด้วยฤทธิ์เหล้าองุ่นจนจับไข้
กษัตริย์เองก็ไปร่วมมือกับคนที่เยาะเย้ยพระเจ้า
6 จิตใจของพวกเขาสุมไปด้วยไฟเหมือนเตาอบ
จิตใจของพวกเขาคุกรุ่นไปด้วยแผนชั่วทั้งคืน
พอรุ่งเช้า มันก็ลุกเป็นไฟ
7 พวกเขาทุกคนร้อนเหมือนกับเตาอบ
และเขมือบกินบรรดากษัตริย์ของเขา[f]
กษัตริย์ทั้งหลายของพวกเขาก็ล้มลง
ไม่มีใครสักคนร้องขอความช่วยเหลือจากเรา
8 เอฟราอิมนั้นผสมปนเปกับชนชาติต่างๆ
เอฟราอิมเป็นเหมือนขนมปังที่ไหม้ข้างหนึ่งดิบข้างหนึ่ง
9 พวกคนต่างชาติกินแรงของเขา
แต่เขาไม่รู้ตัว
ผมของเขาก็หงอก
แต่เขาก็ไม่รู้ตัว
10 ความเย่อหยิ่งของอิสราเอลเป็นพยานปรักปรำเขา
พวกเขาไม่ยอมหันกลับมาหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเขา
ทั้งๆที่มีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับพวกเขา
พวกเขาก็ยังไม่แสวงหาพระองค์อยู่ดี
11 เอฟราอิมเป็นเหมือนนกพิราบที่หลอกง่ายและไร้ความคิด
พวกเขาร้องขอความช่วยเหลือจากอียิปต์
พวกเขาไปขอความช่วยเหลือจากอัสซีเรีย
12 พระยาห์เวห์พูดว่า ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนก็ตาม
เราจะโยนตาข่ายของเราขึ้นไปครอบเขาไว้
เราจะดึงพวกเขาลงมาเหมือนนกในท้องฟ้า
เราจะตีสอนพวกเขาตามจำนวนครั้งที่พวกเขาทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับชนชาติอื่นๆ
13 พวกเขาทำตัวน่าอับอายจริงๆที่หลงไปจากเรา
พวกเขาจะถูกทำลายเพราะพวกเขาทำผิดต่อเรา
เราก็อยากจะไถ่พวกเขา
แต่พวกเขาพูดโกหกเกี่ยวกับเรา
14 พวกเขาร้องคร่ำครวญอยู่บนเตียง
แต่พวกเขาไม่ได้ร้องเรียกเราจากใจ
พวกเขาเชือดเฉือนตัวเอง[g] เพื่อแลกข้าวกับเหล้าองุ่นใหม่
พวกเขาหันไปจากเรา
15 ถึงแม้เราเองได้ฝึกฝนพวกเขามา ถึงแม้เราทำให้แขนของเขาแข็งแรง
แต่พวกเขาวางแผนชั่วร้ายต่อเรา
16 พวกเขาเปลี่ยนความคิดอยู่เรื่อย แต่ไม่เคยคิดที่จะหาสิ่งที่สูงส่งกว่า
พวกเขาเป็นเหมือนกับคันธนูที่บิดเบี้ยวไป
พวกผู้นำของเขาจะล้มตายด้วยดาบ
เพราะลิ้นที่โอหังของพวกเขา
คนที่อยู่ในอียิปต์จะหัวเราะเยาะพวกเขา
การกราบไหว้รูปเคารพทำให้ล่มจม
8 เอาแตรวางไว้ที่ริมฝีปากของเจ้าแล้วเป่าเตือน
นกอีแร้งตัวหนึ่งบินวนเวียนอยู่เหนือแผ่นดินของพระยาห์เวห์
เพราะว่าคนอิสราเอลหักข้อตกลงของเรา
และฝ่าฝืนกฎของเรา
2 พวกเขาร้องต่อเราว่า
“พระเจ้าเจ้าข้า พวกเราที่อิสราเอลนี้รู้จักพระองค์”
3 แต่อิสราเอลทอดทิ้งสิ่งที่ดีไป
ดังนั้นศัตรูจะไล่ล่าพวกเขา
4 พวกเขาได้แต่งตั้งพวกกษัตริย์ขึ้นมาโดยไม่ได้ปรึกษาเรา
พวกเขาตั้งพวกผู้นำขึ้นมาแต่เราไม่รู้เรื่อง
พวกเขาสร้างรูปเคารพขึ้นมาจากทองและเงินของพวกเขา
ดังนั้นอิสราเอลจะถูกตัดออกไป
5 สะมาเรีย ลูกวัวของเจ้าถูกทอดทิ้งไปแล้ว[h] ความโกรธของเราได้เผาผลาญใส่เจ้า
อีกนานแค่ไหน ที่พวกเจ้าจะไม่สามารถทำตัวให้บริสุทธิ์
6 ช่างฝีมือจากอิสราเอลสร้างลูกวัวตัวนั้นขึ้นมา
มันไม่ใช่พระเจ้า
ลูกวัวของสะมาเรียตัวนั้นจะถูกทุบให้แตกเป็นชิ้นๆ
7 พวกเขาจะหว่านพืชตอนลมพัด
และเก็บเกี่ยวตอนมีพายุแรง
สิ่งที่ปลูกจะงอกขึ้นมา
แต่จะไม่แตกหน่อและไม่ออกรวง
แต่ถ้าออกรวงบ้าง
คนต่างชาติก็จะมาเก็บกินหมด
8 อิสราเอลถูกกลืนไปแล้ว
ตอนนี้พวกเขาถูกทอดทิ้งท่ามกลางชนชาติอื่นๆ
เหมือนกับหม้อที่ไม่มีใครอยากได้
9 เพราะอิสราเอลยืนกรานที่จะขึ้นไปอัสซีเรีย
พวกเขาเป็นเหมือนลาป่าที่เดินหาคู่อยู่ลำพัง
คนเอฟราอิมต้องจ้างคู่รักมา
10 ถึงพวกเขาจะจ้างชนชาติอื่นๆให้มาช่วยพวกเขา
เราจะรวบรวมพวกเขาไว้เดี๋ยวนี้
ในไม่ช้า พวกเขาจะอ่อนแอเพราะเครื่องบรรณาการที่พวกเขาต้องให้กับกษัตริย์อัสซีเรียที่ยิ่งใหญ่
อิสราเอลลืมพระเจ้าและนมัสการพวกรูปเคารพ
11 ถึงแม้เอฟราอิมได้สร้างแท่นบูชาเพิ่มขึ้นเพื่อลบล้างบาปต่างๆของพวกเขา
แต่แท่นบูชาพวกนั้นกลับกลายเป็นแท่นบูชาสำหรับการทำบาป
12 ถึงแม้เราได้เขียนคำสั่งสอนมากมายให้กับเอฟราอิม
แต่พวกเขากลับมองว่าเป็นเรื่องของคนอื่น
13 คนอิสราเอลชอบถวายเครื่องบูชา
พวกเขาเอาเนื้อมาถวายและกินมัน
แต่พระยาห์เวห์ไม่ชอบเครื่องบูชาพวกนั้นเลย
พระองค์ระลึกถึงความชั่วช้าของพวกเขาเดี๋ยวนี้
และพระองค์จะลงโทษพวกเขาเพราะความบาปพวกนั้น
พระองค์จะส่งพวกเขากลับไปที่อียิปต์[i]
14 พวกคนอิสราเอลลืมผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นมา
แต่กลับสร้างวังขึ้นมากมายสำหรับกษัตริย์ของเขา
ยูดาห์สร้างป้อมปราการขึ้นมามากมาย
แต่เราจะส่งไฟลงมายังเมืองทั้งหลายของพวกเขา
และไฟจะเผาผลาญป้อมปราการต่างๆเหล่านั้น
ข่าวที่ส่งไปถึงหมู่ประชุมเมืองเอเฟซัส
2 ให้เขียนถึงทูตสวรรค์ของหมู่ประชุมในเมืองเอเฟซัสว่า
“พระองค์ผู้ที่ถือดาวทั้งเจ็ดดวงในมือขวา และเดินอยู่ท่ามกลางตะเกียงทองคำที่มีขาตั้งทั้งเจ็ดอันพูดว่า 2 เรารู้การกระทำของเจ้า รู้ถึงงานหนักที่เจ้าทำ รู้ถึงความทรหดอดทนของเจ้า รู้ว่าเจ้าทนพวกคนชั่วนั้นไม่ได้ และเจ้าก็ได้ทดสอบคนพวกนั้นที่แอบอ้างว่าเป็นพวกศิษย์เอกทั้งๆที่ไม่ใช่ แล้วเจ้าจับได้ว่าพวกเขาโกหก 3 เรารู้ว่าเจ้าทนทุกข์เพราะเห็นแก่เรา และไม่ได้เลิกติดตามเรา”
4 “แต่เราอยากจะต่อว่าเจ้าในเรื่องที่เจ้าได้ทิ้งความรักที่เจ้ามีอยู่ในตอนแรกนั้น 5 ดังนั้นลองนึกดูสิว่า เจ้าได้ผิดไปจากสภาพเดิมแค่ไหน กลับตัวกลับใจ แล้วกลับไปทำเหมือนเดิมที่ทำตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้น เราจะมาหาเจ้า และจะเอาตะเกียงทองคำที่มีขาตั้งของเจ้าไปจากที่ของมัน 6 แต่เจ้าก็ยังดีที่ว่า เจ้าเกลียดสิ่งที่พวกนิโคไลตัน[a]ทำ ซึ่งเราเองก็เกลียดเหมือนกัน”
7 “ใครที่มีหู ก็ให้ฟังสิ่งที่พระวิญญาณบอกกับหมู่ประชุมต่างๆ แล้วใครที่ได้รับชัยชนะ เราจะให้กินผลจากต้นไม้ที่ให้ชีวิตซึ่งอยู่ในสวนของพระเจ้า”[b]
ข่าวที่ส่งไปถึงหมู่ประชุมเมืองสเมอร์นา
8 ให้เขียนถึงทูตสวรรค์ของหมู่ประชุมในเมืองสเมอร์นาว่า “พระองค์ที่เป็นจุดเริ่มต้นและจุดจบ ผู้ที่เคยตายและกลับฟื้นขึ้นมาใหม่พูดว่า 9 เรารู้ว่าเจ้าต้องทนทุกข์ทรมาน และยากจนแค่ไหน แต่จริงๆแล้วเจ้าเป็นคนรวย เรารู้ว่าเจ้าถูกใส่ร้ายป้ายสีจากคนพวกนั้นที่เรียกตัวเองว่าเป็นยิว ทั้งๆที่ไม่ใช่ แต่เป็นกลุ่มคนของซาตาน 10 ไม่ต้องกลัวเลยถึงสิ่งที่เจ้ากำลังจะต้องทนทุกข์ทรมานนั้น ฟังให้ดี ซาตานกำลังจะจับเจ้าบางคนขังคุกเพื่อทดสอบเจ้า เจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานเป็นเวลาสิบวัน แต่ให้ซื่อสัตย์ต่อเรา ถึงแม้จะต้องตายก็ตาม แล้วเราจะให้รางวัล[c]ที่จะทำให้เจ้าได้อยู่กับพระเจ้าตลอดไป
11 ใครที่มีหู ก็ให้ฟังสิ่งที่พระวิญญาณบอกกับหมู่ประชุมต่างๆ แล้วใครที่ได้รับชัยชนะ จะไม่ได้รับอันตรายจากการตายในครั้งที่สอง”
ข่าวที่ส่งไปถึงหมู่ประชุมเมืองเปอร์กามัม
12 ให้เขียนถึงทูตสวรรค์ของหมู่ประชุมในเมืองเปอร์กามัมว่า
“พระองค์ผู้ที่มีดาบสองคมพูดว่า 13 เรารู้จักที่ที่เจ้าอยู่นั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์ซาตาน และเรารู้ว่าเจ้ายังจงรักภักดีต่อเรา เจ้าไม่เคยหยุดไว้วางใจเราเลย แม้ในเวลาที่อันทีพา พยานผู้ซื่อสัตย์[d]ของเราถูกฆ่าในเมืองของเจ้า เป็นเมืองที่ซาตานอาศัยอยู่
14 แต่อย่างไรก็ตาม เรามีบางเรื่องที่จะต่อว่าเจ้า คือ เรื่องที่บางคนในพวกเจ้าทำตามคำสอนของบาลาอัม คนที่สอนให้บาลาครู้ว่า จะทำให้พวกอิสราเอลทำบาปได้อย่างไร ดังนั้นบาลาคจึงชักชวนให้พวกอิสราเอลกินอาหารที่เซ่นไหว้รูปเคารพ และทำผิดบาปทางเพศ 15 ดังนั้นพวกเจ้าบางคนจึงเป็นเหมือนกับพวกอิสราเอลนั้น คือไปทำตามคำสอนของพวกนิโคไลตัน 16 ให้กลับตัวกลับใจเสีย ไม่อย่างนั้นเราจะมาหาเจ้าในเร็วๆนี้ และต่อสู้กับคนพวกนั้นด้วยดาบที่ออกมาจากปากของเรา”
17 “ใครมีหู ก็ให้ฟังสิ่งที่พระวิญญาณบอกกับหมู่ประชุมต่างๆ แล้วใครที่ได้รับชัยชนะ เราจะให้อาหารทิพย์[e]ที่เก็บซ่อนอยู่ และจะให้หินสีขาวกับคนนั้นด้วย โดยที่หินนั้นได้จารึกชื่อใหม่เอาไว้ ไม่มีใครรู้ชื่อนั้นนอกจากคนที่ได้รับเท่านั้น”
ข่าวที่ส่งไปถึงหมู่ประชุมเมืองธิยาทิรา
18 ให้เขียนถึงทูตสวรรค์ของหมู่ประชุมในเมืองธิยาทิราว่า
“พระองค์ผู้ที่เป็นบุตรของพระเจ้า ซึ่งมีดวงตาเหมือนกับเปลวไฟที่กำลังลุกโชน และมีขาเหมือนกับทองสัมฤทธิ์ที่มันวาววับพูดว่า 19 เรารับรู้การกระทำของเจ้า ความรัก ความไว้วางใจ การดูแลรับใช้ และความทรหดอดทนที่เจ้ามี และเรารู้ว่าตอนนี้เจ้าได้ทำมากกว่าตอนที่เจ้าเพิ่งมาไว้วางใจเราใหม่ๆ 20 แต่เรามีเรื่องที่จะต่อว่าเจ้า คือเจ้าได้อดทนต่อผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อเยเซเบล[f] ผู้ที่ยกตัวเองว่าเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า คำสอนของนางได้ทำให้ทาสของเราหลงไปทำผิดบาปทางเพศ และไปกินของที่ใช้เซ่นไหว้รูปเคารพ 21 เราได้ให้โอกาสกับนางกลับตัวกลับใจ แต่นางก็ไม่ยอม 22 ดูสิ เราจะทำให้นางต้องล้มหมอนนอนเสื่อและจะทำให้คนที่เล่นชู้กับนางได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เว้นแต่ว่าคนเหล่านั้นจะหยุดทำบาปที่ได้ทำกับนาง 23 เราจะฆ่าพวกลูกศิษย์ของนาง และทุกหมู่ประชุมจะได้รู้ว่า เราคือผู้ที่หยั่งรู้ความคิดและความตั้งใจของทุกคน และเราจะตอบแทนพวกเจ้าแต่ละคนตามสิ่งที่พวกเจ้าได้ทำลงไป”
24 “ตอนนี้เรามีเรื่องบางอย่างที่จะพูดกับคนอื่นๆที่เหลือในเมืองธิยาทิราที่ไม่ได้ทำตามคำสอนของนาง และยังไม่รู้จักสิ่งที่บางคนเรียกว่า ‘ความจริงอันล้ำลึกที่มาจากซาตาน’ เราจะไม่มอบภาระอะไรเพิ่มเติมให้กับพวกเจ้า 25 แต่ให้พวกเจ้ายึดมั่นในความไว้วางใจที่มีต่อเรา จนกว่าเราจะมา”
26 “เราจะให้อำนาจเหนือชนชาติต่างๆกับคนที่ได้รับชัยชนะ และคนที่ทำตามคำสั่งของเราจนถึงที่สุด 27 ‘เขาจะปกครองชนชาติต่างๆที่กบฏต่อพระเจ้าด้วยกระบองเหล็ก เขาจะทำให้พวกมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆเหมือนกับหม้อดินเผาที่โดนทุบ’[g] 28 เราจะให้อำนาจกับเขาแบบเดียวกับที่เราได้รับมาจากพระบิดาของเราและนอกจากนี้เราจะให้ดาวประจำรุ่ง[h] กับคนนั้นด้วย 29 ใครที่มีหูก็ให้ฟังสิ่งที่พระวิญญาณบอกกับหมู่ประชุมต่างๆ”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International