Old/New Testament
ดาเนียลเห็นนิมิตที่มีแกะตัวผู้และแพะ
8 ในปีที่สามที่กษัตริย์เบลชัสซาร์ขึ้นครองราชย์ ผม ดาเนียลก็ได้เห็นนิมิตอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้เห็นนิมิตครั้งแรกไปแล้ว
2 ในนิมิตผมเห็นตัวผมเองอยู่ในเขตของวัง วังนี้อยู่ที่เมืองสุสา ในจังหวัดเอลาม ในนิมิตนั้นผมเห็นตัวผมเองกำลังอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำอุลัย
3 ผมเงยหน้าขึ้นมาเห็นแกะตัวผู้ตัวหนึ่งยืนอยู่ริมแม่น้ำ มันมีเขาสูงใหญ่คู่หนึ่ง เขาข้างหนึ่งยาวกว่าอีกข้างหนึ่ง เขาข้างที่ยาวกว่านั้นงอกขึ้นมาทีหลัง
4 ผมเห็นแกะตัวผู้ตัวนั้นวิ่งตะลุยไปทางตะวันตก ทางเหนือ และทางใต้ ไม่มีสัตว์ตัวไหนต้านทานมันได้ ไม่มีสัตว์ตัวไหนสามารถยืนขวางมันได้ และไม่มีใครสามารถที่จะช่วยเหยื่อของมันได้ มันทำทุกอย่างตามที่มันอยากทำ และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
5 ขณะที่ผมจ้องมองอยู่นั้น ก็มีแพะตัวผู้ มาจากทางทิศตะวันตก เหาะข้ามไปเหนือพื้นผิวโลก เท้าของมันไม่ได้แตะพื้นเลย แพะตัวผู้นี้มีเขาที่โดดเด่นมากอยู่ระหว่างตาของมัน 6 แล้วมันก็วิ่งห้อเต็มกำลังไปที่แกะผู้ที่มีสองเขาที่ยืนอยู่ริมแม่น้ำ ที่ผมเห็นก่อนหน้านี้ 7 ผมเห็นมันวิ่งเข้าใส่แกะผู้ตัวนั้นอย่างแรง ตอนที่มันพุ่งชนนี้ ทำให้เขาทั้งสองของแกะตัวผู้นั้นหัก แกะตัวผู้นั้นก็ไม่สามารถต่อสู้กับมันได้ แพะตัวผู้นี้ก็เหวี่ยงแกะนั่นลงกับพื้น แล้วกระทืบซ้ำ ไม่มีใครช่วยแกะตัวผู้นั้นให้พ้นจากพละกำลังของมันได้เลย
8 จากนั้นแพะตัวผู้ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น แต่ในขณะที่มันมีกำลังถึงจุดสูงสุดนั้น เขาอันใหญ่ของมันได้หักไป แล้วมีเขาที่โดดเด่นสี่อันงอกขึ้นมาแทนที่[a] เขาทั้งสี่อันนี้ แต่ละอันชี้ไปคนละทิศ 9 มีเขาเล็กๆอันหนึ่งงอกออกมาจากเขาอันหนึ่งในสี่อันนี้ เขาเล็กๆนี้ได้งอกขึ้นมาใหญ่โตมุ่งไปทางทิศใต้ มุ่งไปทางทิศตะวันออก และมุ่งไปยังที่ที่สวยงาม[b] 10 เขาอันนี้งอกขึ้นไปถึงสวรรค์ มันเหวี่ยงเอาดวงดาวและดาวเคราะห์ต่างๆล่วงลงมาบนโลก แล้วก็เหยียบย่ำพวกมัน 11 เขาอันนี้แข็งแกร่งขึ้น และได้ท้าทายพระเจ้า ผู้เป็นจอมทัพสวรรค์ และมันได้เอาเครื่องเผาบูชาประจำวันของพระองค์ไป และทำลายวิหารของพระองค์ด้วย 12 การมีอำนาจเหนือเครื่องเผาบูชาประจำวันของพระเจ้าถือว่าเป็นการกบฏ แต่พระเจ้าจะปล่อยให้กองทัพนั้นทำอย่างนั้น และกองทัพนั้นจะเหวี่ยงความจริงลงบนพื้นโลก และกองทัพนั้นก็จะสำเร็จในทุกเรื่องที่มันทำ
13 ผมได้ยินผู้ศักดิ์สิทธิ์ท่านหนึ่งพูดขึ้น แล้วผู้ศักดิ์สิทธิ์อีกท่านหนึ่งก็ถามผู้ศักดิ์สิทธิ์ท่านที่พูดขึ้นนั้นว่า
“สิ่งต่างๆเหล่านี้ในภาพนิมิต จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน แล้วเครื่องเผาบูชาประจำวันนี้จะถูกยกเลิกไปอีกนานแค่ไหน การกบฏที่มุ่งทำลายนี้จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน พระเจ้าจะปล่อยให้วิหารตกอยู่ในกำมือของศัตรูไปอีกนานแค่ไหน และกองทัพสวรรค์จะถูกเหยียบย่ำไปอีกนานแค่ไหน”
14 ท่านบอกกับผมว่า “มันจะเป็นอย่างนี้ไปอีก สองพันสามร้อยเย็นและเช้า[c] แล้ววิหารนั้นก็จะได้รับการฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม”[d]
ความหมายของนิมิตนั้น
15 ตอนที่ผมดาเนียล กำลังดูนิมิตอยู่นั้น และพยายามจะเข้าใจความหมายของมัน จู่ๆก็มีผู้หนึ่งดูเหมือนมนุษย์มายืนอยู่ข้างหน้าผม
16 แล้วผมก็ได้ยินเสียงมนุษย์ ออกมาจากเหนือบนแม่น้ำอุลัยว่า “กาเบรียล[e] อธิบายนิมิตนี้ให้ชายคนนั้นฟังหน่อยสิ”
17 ผู้นั้นก็เลยเดินตรงมาที่ผมยืนอยู่ เมื่อเขาเข้ามาใกล้ ผมก็ตกใจกลัวจนล้มลงซบหน้าลงกับพื้น เขาบอกกับผมว่า “มนุษย์เอ๋ย ให้รู้ไว้เถอะว่า นิมิตนั้นเป็นเรื่องของเวลาของจุดสิ้นสุดนั้น”
18 ในขณะที่ท่านกำลังพูดกับผมนั้น ผมกำลังนอนซบหน้าอยู่กับพื้น แล้วผมก็เคลิ้มหลับไป แต่ท่านก็มาสะกิดผมและพยุงให้ผมลุกขึ้นยืน
19 แล้วพูดว่า “ฟังนะ เรากำลังจะบอกเจ้าว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อช่วงเวลาแห่งความโกรธแค้นของพระเจ้าใกล้จะถึงจุดจบนั้น เมื่อเวลาที่ได้กำหนดไว้นั้นมาถึง มันก็จะถึงจุดสิ้นสุด
20 แกะผู้ที่มีสองเขาที่เจ้าเห็นนั้นหมายถึงพวกกษัตริย์ของอาณาจักรมีโดเปอร์เซีย
21 ส่วนแพะตัวผู้นั้น หมายถึงอาณาจักรของกรีซ เขาอันใหญ่ที่อยู่ระหว่างดวงตาของมันก็คือกษัตริย์องค์แรก 22 เขาอันนั้นที่หักไปในขณะที่มีอีกสี่เขางอกขึ้นมาแทนนั้น ก็คืออาณาจักรสี่อาณาจักร ที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่กษัตริย์องค์แรกนั้นตายไป แต่ทั้งสี่อาณาจักรนี้จะไม่แข็งแรงเท่ากับกษัตริย์องค์แรก
23 เมื่อเวลาครอบครองของพวกเขาใกล้สิ้นสุดลง และเมื่อพวกเขาได้ทำชั่วอย่างสุดๆแล้ว แล้วกษัตริย์ที่ดูโหดเหี้ยมและเก่งกาจในการหลอกลวง จะขึ้นมายึดอำนาจ 24 พระองค์จะมีพลังแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่มากเท่ากษัตริย์องค์แรก พระองค์จะทำลายล้างอย่างน่าตกตะลึง พระองค์จะสำเร็จในทุกสิ่งที่พระองค์ทำ พระองค์จะทำลายหลายคนของพวกผู้ศักดิ์สิทธิ์
25 พระองค์จะหลอกลวงได้อย่างเก่งกาจ เพราะด้วยเล่ห์เหลี่ยมและอำนาจของพระองค์ พระองค์จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่างๆด้วยความกล้าหาญ พระองค์จะทำลายคนของพระเจ้าได้อย่างง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นพระองค์ก็จะต่อต้านจอมทัพผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด แต่กษัตริย์องค์นี้ก็จะถูกทำลาย โดยไม่ใช่เป็นฝีมือของมนุษย์เลย
26 คำอธิบายของนิมิตเกี่ยวกับเวลาเย็นและเวลาเหล่านั้นเชื่อถือได้ ส่วนเจ้า ดาเนียล ให้เก็บเรื่องนิมิตนี้ไว้เป็นความลับก่อน เพราะมันเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นอีกนานหลังจากนี้”
27 ผม ดาเนียล ได้ล้มป่วยลงหลายวัน จากนั้นถึงได้ลุกขึ้นกลับไปทำงานให้กษัตริย์เหมือนเดิม นิมิตนี้ทำให้ผมกลุ้มใจมาก เพราะผมไม่เข้าใจมัน
ดาเนียลอธิษฐาน
9 ในช่วงปีแรกของดาริอัส (ดาริอัสคนนี้เป็นลูกของเซอร์เซส[f]ผู้สืบเชื้อสายมาจากชาวมีเดียน ดาริอัสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ของพวกคาสดิม) 2 ในช่วงปีแรกที่ดาริอัสปกครองนั้น ผม ดาเนียลได้สังเกตในเอกสารต่างๆเกี่ยวกับเรื่องที่พระยาห์เวห์บอกกับเยเรมียาห์ ผู้พูดแทนพระองค์ ที่ว่า “เมืองเยรูซาเล็มจะต้องเป็นซากปรักหักพังอยู่อย่างนั้นไปจนกว่าจะครบเจ็ดสิบปี[g] ถึงจะมีการสร้างขึ้นมาใหม่”
3 ดังนั้นผมจึงตัดสินใจแสวงหาพระเจ้าองค์เจ้าชีวิตของผม ด้วยการอธิษฐาน ขอความเมตตาจากพระองค์ ในขณะที่ผมอดอาหาร สวมใส่ผ้ากระสอบไว้ทุกข์ และโรยขี้เถ้าบนหัว 4 ผมอธิษฐานกับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของผม และสารภาพบาป ผมพูดว่า
“ได้โปรดเถิด องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม ผู้ที่รักษาข้อตกลงของพระองค์ และแสดงความรักที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ กับคนที่รักพระองค์ ซึ่งก็คือคนที่ทำตามคำสั่งของพระองค์
5 พวกเราทำบาป ทำผิด และทำสิ่งที่ชั่วร้าย เราได้กบฏและเบือนหน้าหนีจากคำสั่งและกฎเกณฑ์ของพระองค์ 6 เราไม่ยอมฟังพวกผู้รับใช้ของพระองค์ พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่มาพูดตามคำสั่งของพระองค์ ที่พระองค์สั่งให้มาพูดกับกษัตริย์ของเรา พวกผู้นำ พวกพ่อของเรา และทุกคนในประเทศ
7 องค์เจ้าชีวิตเจ้าข้า พระองค์ทำถูกต้องแล้ว แต่เรานำความอับอายขายหน้ามาสู่พวกเราเองจนถึงทุกวันนี้ คือมาสู่คนยูดาห์ พลเมืองของเยรูซาเล็ม และชาวอิสราเอลทุกคน ทั้งใกล้และไกล มาสู่คนในทุกประเทศที่พระองค์ทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปนั้น หลังจากที่พวกเขาทรยศต่อพระองค์
8 ใช่แล้วพระยาห์เวห์ เราได้นำความอับอายมาสู่พวกเราเอง ทั้งพวกเรา พวกกษัตริย์ พวกผู้นำ และพวกพ่อของเรา เพราะพวกเราทุกคนได้ทำบาปต่อพระองค์
9 แต่องค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเรามีความเมตตาและให้อภัยพวกเราที่ได้กบฏต่อพระองค์ 10 เราไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา นั่นคือเราไม่ได้ใช้ชีวิตตามคำสอนของพระองค์ ที่พระองค์ให้กับเรา ผ่านมาทางพวกผู้รับใช้ของพระองค์ คือพวกผู้พูดแทนพระเจ้านั่นเอง 11 คนอิสราเอลทุกคนละเมิดคำสั่งสอนของพระองค์ และทำผิดที่ไม่ฟังพระองค์ ดังนั้นคำสาปแช่งและคำปฏิญาณ[h] ที่เขียนไว้ในกฎของโมเสส ผู้รับใช้ของพระเจ้า ได้ตกอยู่บนเรา เพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์
12 พระองค์ก็เลยทำตามที่พระองค์ขู่ไว้ว่า จะให้เกิดขึ้นกับพวกเรา และกับพวกผู้นำของเรา พระองค์นำความหายนะครั้งใหญ่มาใส่เรา ความหายนะที่เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มนั้นร้ายแรงมาก ไม่เหมือนกับความหายนะอันไหนเลยที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทั่วใต้ฟ้านี้ 13 ความทุกข์ยากที่ได้เขียนไว้ในกฎของโมเสส ก็ได้เกิดขึ้นกับเรา เหมือนกับที่ได้เขียนไว้ในกฎทุกอย่าง แต่พวกเราก็ไม่ได้พยายามที่จะทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราพอใจ ด้วยการหันจากการทำชั่วของเรา และเรียนรู้จากความซื่อสัตย์ของพระองค์
14 พระยาห์เวห์ได้เตรียมความหายนะนี้สำหรับเวลาที่เหมาะสม แล้วพระองค์ก็ให้มันตกลงมาบนเรา ทุกอย่างที่พระยาห์เวห์พระเจ้าได้ทำไปนั้นยุติธรรมแล้ว แต่เราไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์
15 และบัดนี้ ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าของเรา พระองค์เป็นผู้ที่นำคนของพระองค์ออกจากอียิปต์
ด้วยมืออันทรงพลังของพระองค์ ด้วยพลังอำนาจที่พระองค์ได้แสดงให้เห็นนั้น ทำให้พระองค์มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วจนถึงทุกวันนี้ เราได้ทำบาปและทำสิ่งที่ชั่วร้าย 16 องค์เจ้าชีวิตของข้าพระองค์ เพื่อเห็นแก่ความเมตตาปรานี ขอได้โปรดเลิกโกรธเยรูซาเล็มเมืองของพระองค์ ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ด้วยเถิด เพราะความเลวทรามของบรรพบุรุษของเราและความบาปของพวกเรานี่เองที่ทำให้ชนชาติอื่นๆทั้งหมดที่อยู่รอบข้างเกลียดชังเยรูซาเล็มและคนของพระองค์
17 บัดนี้ พระเจ้าของพวกเราได้โปรดฟังคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์ และคำอ้อนวอนขอความเมตตาของเขาด้วยเถิด ขอให้ใบหน้าของพระองค์ส่องสว่างลงมาบนวิหารที่ปรักหักพังนี้ด้วย เพื่อเห็นแก่พระองค์เอง 18 พระเจ้าของข้าพระองค์ โปรดเงี่ยหูฟัง โปรดเปิดตาดู ซากปรักหักพังของเมืองที่ผู้คนรู้ว่าเป็นของพระองค์ ที่เราขอความเมตตาต่อพระองค์นี้ ไม่ใช่เพราะเราดีและสมควรจะได้รับ แต่เพราะพระองค์มีความเมตตาสงสารต่างหาก 19 องค์เจ้าชีวิตของผม ได้โปรดฟังด้วย องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า ได้โปรดยกโทษให้ด้วย องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า ได้โปรดสนใจด้วย พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดทำตามที่ขอด้วย เพื่อเห็นแก่พระองค์เอง และโปรดอย่ารอช้าเลย ได้โปรดทำสิ่งนี้ เพราะผู้คนรู้ว่าทั้งคนพวกนี้และเมืองนี้เป็นของพระองค์”
นิมิตเรื่องเจ็ดสิบอาทิตย์
20 ในขณะที่ผมกำลังพูด อธิษฐาน และสารภาพความผิดบาปของผมเองและของชาวอิสราเอลคนของผมนั้น ขณะที่กำลังวิงวอนขอความเมตตาต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของผม ให้กับภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์นั้น 21 ในขณะที่ผมกำลังร้องอธิษฐานนั้นเอง กาเบรียล ผู้ชายคนที่ผมเห็นในนิมิตของผมก่อนหน้านี้ ก็ลอยมาหาผม ในช่วงการถวายเครื่องบูชาตอนเย็น 22 เขามาพูดกับผม เพื่อช่วยให้ผมเข้าใจ เขาพูดว่า “ดาเนียล เราได้มาที่นี่เดี๋ยวนี้ เพื่อช่วยให้เจ้าเข้าใจ 23 ในตอนที่เจ้าเริ่มอธิษฐานขอความเมตตานั้น พระเจ้าให้คำตอบ และเราก็ได้มาบอกมัน เพราะพระเจ้ารักเจ้ามาก ดังนั้นตั้งใจฟังคำตอบให้ดี และให้เข้าใจนิมิตนั้น
24 พระเจ้าให้เวลากับคนของเจ้าและเมืองศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเจ็ดสิบอาทิตย์[i] เจ็ดสิบอาทิตย์นี้มีไว้เพื่อให้พวกเจ้าหยุดการกบฏ ทำให้บาปนั้นสิ้นสุดลง ชำระความผิดบาปของพวกเจ้า และนำความยุติธรรมอันถาวรกลับมา ทำให้คนเห็นว่านิมิตที่ผู้พูดแทนพระเจ้ามาบอกนั้นเป็นจริง และเพื่อจะเจิมสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
25 ดาเนียล ให้รู้และเข้าใจไว้ด้วยว่า นับตั้งแต่เวลาที่ได้ออกคำสั่ง ให้ฟื้นฟูและสร้างเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ ไปจนถึงเวลาที่ผู้นำที่ถูกเจิมไว้มานั้น มีเจ็ดอาทิตย์ แล้วเวลาที่ใช้สร้างเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ รวมทั้งในลานกลางเมือง พร้อมกับคูป้องกันเมือง จะใช้เวลาหกสิบสองอาทิตย์ ในช่วงนี้จะเต็มไปด้วยปัญหามากมาย 26 และผู้นำที่ถูกเจิมไว้ก็จะถูกกำจัดไปและผู้นำคนนั้นจะไม่มีอำนาจเหนือเมืองและวิหารอีกต่อไป คนที่ติดตามผู้นำคนใหม่ในอนาคตก็จะทำตัวเลวร้าย จุดจบของผู้นำคนใหม่นั้นจะมาเหมือนกับน้ำท่วมทะลัก
พระเจ้าได้ออกคำสั่งให้เกิดการทำลายมากมายจนกว่าสงครามจะสิ้นสุดลง
27 ผู้นำคนใหม่นั้นจะทำสนธิสัญญาที่เข็มแข็งกับคนจำนวนมาก และในกลางอาทิตย์นั้น การถวายเครื่องบูชาและเซ่นไหว้จะถูกหยุดไป และจะมีสิ่งที่น่าขยะแขยงมาแทนที่ จนถึงจุดจบที่พระเจ้าสั่งให้มาท่วมท้นผู้ทำลายคนนั้น”
ดาเนียลมีนิมิตที่แม่น้ำไทกริส
10 ในปีที่สาม[j]ของกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซีย พระเจ้าได้เปิดเผยเรื่องหนึ่งให้กับดาเนียลรู้ (ดาเนียลมีอีกชื่อหนึ่งว่าเบลเทชัสซาร์) เรื่องที่เปิดเผยนี้เชื่อถือได้ มันเข้าใจยาก แต่คำอธิบายได้มาถึงดาเนียลในนิมิต
2 ในเวลานั้น ผม ดาเนียล เป็นทุกข์เศร้าโศกอยู่ถึงสามอาทิตย์เต็มๆ 3 ผมไม่ได้กินอาหารที่อร่อยๆ ไม่มีเนื้อหรือเหล้าองุ่นตกเข้าปากผมเลย ผมไม่ได้เอาน้ำมันทาผิวหรือน้ำมันใส่ผมเป็นเวลาถึงสามอาทิตย์เต็มๆ
4 แล้วในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง ในขณะที่ผมยืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอันยิ่งใหญ่นั้น คือแม่น้ำไทกริส
5 ผมเงยหน้าขึ้นมาและมองเห็นชายคนหนึ่ง สวมผ้าคลุมลินิน เขาคาดเข็มขัดที่ทำจากทองของเมืองอุฟาส
6 ร่างกายของเขาดูเหมือนพลอยระยิบระยับ ใบหน้าของเขาส่องสว่างเหมือนฟ้าแลบ ดวงตาของเขาเหมือนกับคบไฟที่ลุกโชติช่วง แขนและขาของเขาดูเหมือนทองเหลืองที่ขัดมัน เมื่อเขาพูด เสียงของเขาก็ฟังเหมือนเสียงของฝูงชนกลุ่มใหญ่
7 ผม ดาเนียล เห็นนิมิตนี้แค่คนเดียว คนอื่นๆที่อยู่กับผมไม่ได้เห็นนิมิตนี้ แต่พวกเขาตกใจกลัวมากและวิ่งหนีไปแอบ 8 เหลือผมคนเดียว ในขณะที่ผมจ้องมองนิมิตอันยิ่งใหญ่นั้น ผมก็หมดเรี่ยวแรงไป หน้าผมก็ซีดเหมือนคนตาย เรี่ยวแรงก็เหือดหายไปหมด 9 แล้วผมก็ได้ยินเขาพูด เมื่อได้ยินเสียงเขา ผมก็ตกอยู่ในภวังค์ นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น
10 แล้วมีมือข้างหนึ่งยื่นมาจับและโยกผม และช่วยพยุงให้ผมยันตัวขึ้นมาด้วยมือและเข่า
11 แล้วเขาก็พูดกับผมว่า “ดาเนียล ชายที่พระเจ้ารัก ให้ตั้งใจฟังสิ่งที่เรากำลังจะบอกกับเจ้านี้ ลุกขึ้นมา เพราะเราถูกส่งมาหาเจ้า” เมื่อเขาพูดอย่างนั้นกับผม ผมก็ยืนขึ้นตัวสั่น 12 แล้วเขาก็บอกผมว่า “ดาเนียล ไม่ต้องกลัว เพราะตั้งแต่วันแรกที่เจ้าตั้งใจจะเข้าใจและตัดสินใจที่จะอดอาหารและถ่อมตัวลงต่อหน้าพระเจ้าของเจ้า พระเจ้าก็ได้ยินคำอธิษฐานของเจ้า และเราก็ได้มาเพราะคำอธิษฐานของเจ้านั้น 13 เทพเจ้าผู้เป็นเจ้าฟ้าแห่งอาณาจักรเปอร์เซียต่อต้านเราอยู่เป็นเวลายี่สิบเอ็ดวัน แต่ทันใดนั้น มีคาเอล หนึ่งในพวกเจ้าฟ้าชั้นผู้นำ ก็ได้มาช่วยเรา ตอนที่เราถูกทิ้งไว้คนเดียวกับพวกกษัตริย์ของเปอร์เซีย 14 เรามาเพื่อช่วยให้เจ้าเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประชาชนของเจ้าในอนาคต เพราะยังจะมีอีกนิมิตหนึ่งมา ที่พูดถึงวันเวลานั้นที่จะต้องอธิบายให้เข้าใจ”
15 ตอนที่เขาพูดสิ่งนี้ ผมได้แต่ก้มมองที่พื้นพูดอะไรไม่ออก
16 แล้วมีผู้หนึ่งที่ดูเหมือนมนุษย์ได้มาแตะริมฝีปากของผม ผมจึงสามารถอ้าปากพูดได้ แล้วผมก็บอกผู้นั้นที่ยืนอยู่ต่อหน้าผมว่า “ท่านครับ หลังจากที่ผมเห็นนิมิตนั้น ผมก็ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด และผมก็หมดเรี่ยวแรง 17 แล้วจะให้ผมผู้รับใช้ของท่านพูดอะไรกับท่านเจ้านายของผมได้ล่ะครับ ถึงเดี๋ยวนี้ก็เถอะ ผมก็ยังไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะหายใจ”
18 แต่แล้วผู้นั้นที่ดูเหมือนมนุษย์ก็จับตัวผมอีกครั้ง และทำให้ผมมีเรี่ยวแรงขึ้น
19 แล้วเขาก็พูดว่า “อย่ากลัวไปเลย พระเจ้ารักเจ้า ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีกับเจ้า อย่าได้ท้อใจไปเลย เข้มแข็งไว้” ขณะที่เขาพูดกับผม ผมก็เริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้นและพูดออกไปว่า “ท่านครับ พูดต่อไปเถอะครับ เพราะตอนนี้ผมได้เรี่ยวแรงกลับคืนมาแล้ว”
20-21 แล้วเขาก็พูดว่า “เจ้ารู้ไหมว่า ทำไมเราถึงมาหาเจ้า เรามาเพื่อบอกเจ้าว่ามีอะไรเขียนไว้ในหนังสือแห่งความจริง แต่ตอนนี้เราจะต้องกลับไปสู้รบกับพวกเจ้าฟ้าแห่งเปอร์เซีย เมื่อเราจากไป เจ้าฟ้าแห่งกรีซก็จะเข้ามา ไม่มีใครช่วยเราสู้รบกับพวกเจ้าฟ้านี้ นอกจากมีคาเอลผู้เป็นเจ้าฟ้าของคนของเจ้า
1 จากผู้นำอาวุโส[a]
ถึงกายอัสเพื่อนรัก เพื่อนที่ผมรักจริงๆ
2 เพื่อนรัก ผมขออธิษฐานให้คุณเจริญรุ่งเรืองในทุกอย่างและมีสุขภาพที่ดีเหมือนกับที่คุณกำลังเป็นอยู่ 3 ผมดีใจมากเมื่อมีพี่น้องบางคนมาบอกว่า คุณยังยึดมั่นอยู่ในความจริง[b] และยังใช้ชีวิตตามความจริงนั้น 4 ไม่มีอะไรทำให้ผมดีใจมากไปกว่านี้อีกแล้ว เมื่อได้ยินว่าลูกๆของผมใช้ชีวิตตามความจริง
5 เพื่อนรัก คุณแสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ของคุณ เมื่อคุณช่วยเหลือพี่น้อง ทั้งๆที่บางคนคุณไม่เคยรู้จักมาก่อน 6 พวกเขาได้รายงานเรื่องความรักของคุณให้กับหมู่ประชุมที่นี่ฟัง จะเป็นการดีมากถ้าคุณจะช่วยสนับสนุนส่งพวกเขาเดินทางต่อไป ถ้าคุณทำอย่างนี้พระเจ้าก็จะพอใจ 7 เพราะพวกเขาเดินทางไปเพื่อรับใช้พระคริสต์ และไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า 8 ดังนั้นพวกเราจึงควรจะช่วยเหลือคนเช่นนี้ เพื่อจะได้ร่วมมือกับพวกเขาในการเผยแพร่ความจริงด้วย
9 ผมได้เขียนถึงหมู่ประชุม แต่ดิโอเตรเฟส คนที่ชอบทำตัวใหญ่โตสั่งโน่นสั่งนี่ในหมู่ประชุมนั้นไม่ยอมฟังเรา 10 รอให้ผมมาถึงก่อน แล้วผมจะชี้ให้เห็นว่าเขาได้ทำอะไรลงไปบ้าง รวมถึงเรื่องที่เขาไปนินทาให้ร้ายพวกเรา แค่นั้นยังไม่พอ ตัวเขาเองไม่ยอมต้อนรับพี่น้องพวกนั้นที่เดินทาง แล้วยังไปสั่งห้ามพี่น้องที่อยากต้อนรับคนพวกนี้อีกด้วย ถ้าใครไม่ทำตาม เขาก็จะไล่ออกจากหมู่ประชุม
11 เพื่อนรักอย่าไปเลียนแบบสิ่งที่ชั่วร้าย แต่ให้เลียนแบบสิ่งที่ดี คนที่ทำดีนั้นก็เป็นของพระเจ้า ส่วนคนที่ทำชั่วนั้นก็ไม่เคยเห็นพระเจ้า
12 ทุกคนพูดยกย่องเดเมตริอัส พวกเราก็ยกย่องเขาด้วย แม้แต่ความจริงของพระเจ้าเองก็ยังยกย่องเขาเลย และคุณก็รู้ว่าที่เราพูดมาทั้งหมดนี้เป็นความจริง
13 ผมยังมีอีกหลายเรื่องที่จะบอกคุณ แต่ไม่อยากเขียนเป็นจดหมาย 14 ผมหวังว่าจะได้เจอคุณในเร็วๆนี้ แล้วเราจะได้คุยกันซึ่งๆหน้า
15 ขอพระเจ้าให้สันติสุขกับคุณ เพื่อนๆที่นี่ฝากความคิดถึงมาให้คุณ ช่วยฝากความคิดถึงให้กับเพื่อนๆแต่ละคนที่นั่นด้วย
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International