Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เอเสเคียล 47-48

แม่น้ำที่ ไหลมาจากวิหาร

47 ชายผู้นั้นได้พาผมกลับมาที่ประตูทางเข้าวิหาร

และผมได้เห็นน้ำไหลออกมาจากใต้ธรณีประตูของวิหาร ไหลไปทางทิศตะวันออก (เพราะวิหารหันหน้าไปทางทิศตะวันออก) น้ำไหลลงมาจากทางด้านทิศใต้ของธรณีประตูของวิหาร และไหลผ่านทางด้านทิศใต้ของแท่นบูชา

แล้วชายผู้นั้นได้นำผมออกมา โดยใช้ประตูทิศเหนือ และพาผมอ้อมไปทางด้านนอกไปถึงประตูด้านนอกที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และน้ำนั้นได้ไหลออกมาจากทางทิศใต้ของประตูนั้น

ชายผู้นั้นเดินไปทางทิศตะวันออกพร้อมกับถือสายวัดเส้นหนึ่งในมือ เขาวัดสายน้ำได้หนึ่งพันศอก แล้วเขาพาผมลุยน้ำที่ลึกถึงตาตุ่ม

เขาวัดสายน้ำได้อีกหนึ่งพันศอก และเขาพาผมเดินลุยน้ำที่ลึกถึงหัวเข่า

เขาวัดสายน้ำได้อีกหนึ่งพันศอก และเขาพาผมเดินลุยน้ำที่ลึกถึงเอว

เขาวัดสายน้ำได้อีกหนึ่งพันศอก แต่ตอนนี้มันคือแม่น้ำสายหนึ่งที่ผมลุยข้ามไปไม่ได้ เพราะน้ำขึ้นสูงและลึกมากจนไม่มีใครลุยข้ามไปได้นอกจากจะว่ายน้ำข้ามไป

ชายผู้นั้นถามผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ เจ้าได้สังเกตเรื่องเหล่านี้หรือเปล่า”

แล้วเขาก็พาผมกลับไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ

เมื่อผมมาถึงที่นั้น

ผมได้เห็นต้นไม้จำนวนมากขึ้นอยู่ริมแม่น้ำทั้งสองฝั่ง

ชายผู้นั้นได้พูดกับผมว่า

“แม่น้ำสายนี้ไหลไปที่แคว้นทางทิศตะวันออกและไหลไปที่อาราบา[a] และไหลลงสู่ทะเลตายและทำให้ทะเลตายกลายเป็นน้ำจืด

แม่น้ำนี้ไหลผ่านที่ไหน ก็จะมีสิ่งมีชีวิตมาอาศัยอยู่ที่นั่น จะมีปลาอยู่มากมาย เพราะเมื่อน้ำนี้ไหลลงทะเล มันจะทำให้น้ำเค็มกลายเป็นน้ำจืด ดังนั้น ไม่ว่าแม่น้ำสายนี้จะไหลผ่านที่ใด ก็จะมีสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมาอาศัยอยู่ที่นั่น

10 ชาวประมงจะยืนอยู่ตามริมฝั่ง ตั้งแต่เอนเกดีไปจนถึงเอนเอกลาอิม จะมีที่มากมายให้ทอดแห จะมีปลามากมายหลายชนิดเหมือนกับปลาที่มีอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

11 แต่น้ำตามหนองตามบึงจะไม่เป็นน้ำจืด มันจะถูกทิ้งไว้ให้เป็นเกลือ 12 ต้นไม้ทุกชนิดที่ให้ผล จะเจริญเติบโตอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำ ใบไม้ของมันจะไม่แห้งเหี่ยว และจะออกผลไม่หยุดหย่อน มันจะออกผลให้ทุกๆเดือน เพราะน้ำจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่านพวกมัน ผลของมันจะใช้เป็นอาหาร และใบของมันจะใช้เป็นยารักษา”

การแบ่งที่ดินให้กับสิบสองเผ่าของอิสราเอล

13 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด

“ต่อไปนี้คือเขตแดนที่ดินที่เจ้าต้องแบ่งไว้เป็นมรดกให้กับสิบสองเผ่าของอิสราเอล โยเซฟจะได้สองส่วน

14 เจ้าต้องแบ่งมันให้กับพวกเขาอย่างเท่าเทียมกัน

เพราะเราได้ยกมือสาบานไว้ว่าจะให้มันกับบรรพบุรุษของเจ้า ที่ดินนี้จะเป็นมรดกของเจ้า

15 ต่อไปนี้จะเป็นเขตแดนของที่ดิน

เขตแดนทางทิศเหนือ เริ่มจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปตามถนนเฮทโลน ผ่านทางเข้าเมืองฮามัทจนถึงเศดัด 16 ต่อไปจนถึงเบโรธาห์และสิบราอิม (ซึ่งติดอยู่กับเขตแดนของดามัสกัสกับฮามัท) ไปจบที่ฮาเซอร์ฮัททิโคน ซึ่งติดกับเขตแดนของเฮาราน

17 ดังนั้นเขตแดนทางทิศเหนือ เริ่มจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงฮาซาเรโนน (ซึ่งอยู่เหนือเขตแดนของเมืองดามัสกัส และอยู่ใต้เขตแดนของฮามัท)

18 เขตแดนทางทิศตะวันออก จะทอดยาวไประหว่างเฮารานกับเมืองดามัสกัส และเรียบแม่น้ำจอร์แดนลงไปทางใต้ ซึ่งแยกระหว่างเขตแดนของกิเลอาดกับแผ่นดินของชาวอิสราเอล และจะเลยทะเลตายไปทางใต้ไกลถึงเมืองทามาร์

19 เขตแดนทางทิศใต้ เส้นเขตแดนจะเริ่มจากเมืองทามาร์ทอดยาวไปจนถึงพวกตาน้ำแห่งเมรีบาห์คาเดช แล้วเลาะไปตามลำธารของอียิปต์ ไปจบที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

20 เขตแดนทางทิศตะวันตก จะขนานไปกับชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนขึ้นไปทางเหนือ ไปจนถึงจุดที่อยู่ตรงข้ามกับทางเข้าเมืองฮามัท

21 เจ้าต้องแบ่งที่ดินในหมู่พวกเจ้า ตามเผ่าต่างๆของอิสราเอล 22 เจ้าต้องแบ่งมันให้เป็นมรดกกับตัวพวกเจ้าเอง และกับชาวต่างชาติที่มาตั้งรกรากอยู่ในหมู่พวกเจ้า และมีลูกหลาน เจ้าต้องถือว่าพวกเขาเป็นชาวอิสราเอลโดยกำเนิด พวกเจ้าต้องจัดแบ่งมรดกให้กับพวกเขาในท่ามกลางชนเผ่าของอิสราเอลด้วย 23 พวกเจ้าจะต้องแบ่งมรดกให้กับเขา ไม่ว่าพวกเขาจะตั้งรกรากอยู่ท่ามกลางชนเผ่าใดของอิสราเอลก็ตาม”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

ที่ดินสำหรับเผ่าต่างๆของอิสราเอล

48 “ต่อไปนี้คือรายชื่อของเผ่าต่างๆของอิสราเอลกับที่ดินที่พวกเขาจะได้รับ

เริ่มจากทางทิศเหนือ ชนเผ่าดานจะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่เลียบไปตามถนนเฮทโลนไปจนถึงทางเข้าเมืองฮามัท ไปจนถึงฮาซาเรโนน (ซึ่งติดกับเขตแดนทางด้านเหนือของเมืองดามัสกัส ที่อยู่ถัดจากเมืองฮามัท) เริ่มจากเขตแดนด้านตะวันออกยาวไปจนถึงด้านตะวันตก

ชนเผ่าอาเชอร์จะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของดาน

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

ชนเผ่านัฟทาลีได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของอาเชอร์

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

ชนเผ่ามนัสเสห์จะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของนัฟทาลี

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

ชนเผ่าเอฟราอิมจะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของมนัสเสห์

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

ชนเผ่ารูเบนจะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเอฟราอิม

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

ชนเผ่ายูดาห์จะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของรูเบน

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

เขตพิเศษ

ส่วนที่ถัดจากเขตแดนของยูดาห์ลงมา จากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก จะเป็นส่วนของแผ่นดินที่เจ้าต้องแยกออกมาเป็นพิเศษ ซึ่งมีความกว้างสองหมื่นห้าพันศอกและมีความยาวจากทางตะวันออกไปถึงตะวันตกเท่ากับส่วนแบ่งของแต่ละเผ่า จะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ตรงกลางของที่ดินแปลงนี้

เขตพิเศษที่เจ้าต้องถวายให้กับพระยาห์เวห์ จะมีความยาวสองหมื่นห้าพันศอกและกว้างสองหมื่นศอก[b]

10 ส่วนแบ่งที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ที่เจ้าได้แยกออกไว้ต่างหาก จะถูกจัดสรรให้กับกลุ่มต่อไปนี้ สำหรับพวกนักบวช จะได้รับเขตที่ดินที่มีความยาวสองหมื่นห้าพันศอกทางด้านเหนือและด้านใต้และกว้างหนึ่งหมื่นศอกทางด้านตะวันตกและตะวันออก และมีที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์อยู่ตรงกลาง

11 เฉพาะพวกนักบวชที่เป็นลูกหลานของศาโดกเท่านั้น ที่จะได้รับส่วนแบ่งอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เพราะ พวกนี้ได้รับการเลือกให้มาเป็นนักบวชที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำหน้าที่เฝ้ายามให้กับเรา และไม่ได้หันเหไปจากเรา ตอนที่พวกชาวเลวีอื่นๆและชาวอิสราเอลหลงไปจากเรา

12 ที่ดินส่วนนี้จะเป็นของขวัญพิเศษที่มอบให้แก่พวกนักบวชนี้ ส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของเขตศักดิ์สิทธิ์ เป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ที่อยู่ถัดจากเขตของชาวเลวีขึ้นไป

13 ติดกับเขตแดนของนักบวชนั้น ชาวเลวีจะได้รับส่วนแบ่ง ขนาดยาวสองหมื่นห้าพันศอกและกว้างหนึ่งหมื่นศอก

รวมขนาดทั้งหมดของเขตแดนนั้นยาวสองหมื่นห้าพันศอก กว้างสองหมื่นศอก

14 พวกเขาต้องไม่ขายหรือเอามันไปแลกเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็ตาม มันเป็นที่ดินส่วนที่ดีที่สุดและต้องไม่ตกไปอยู่ในมือของคนกลุ่มอื่น เพราะมันเป็นส่วนศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์

ส่วนที่เป็นที่ดินของเมือง

15 พื้นที่ส่วนที่เหลือที่กว้างห้าพันศอก ยาวสองหมื่นห้าพันศอกนั้น จะไว้สำหรับใช้ประโยชน์ทั่วไปของชุมชน คือใช้เป็นที่อยู่อาศัย และใช้เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ตัวเมืองจะตั้งอยู่ตรงกลางของส่วนนี้ 16 เมืองนี้จะเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่า คือทั้งทิศเหนือใต้ออกตก มีความยาวสี่พันห้าร้อยศอกเท่ากันหมด

17 ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์จะยื่นออกไปจากเมืองสองร้อยห้าสิบศอกทั้งทิศเหนือใต้ออกตก

18 ส่วนพื้นที่ที่เหลือทางด้านตะวันออกและตะวันตกของเมือง ที่ติดกับเขตแดนของส่วนศักดิ์สิทธิ์ มีขนาดยื่นออกไปหนึ่งหมื่นศอกทั้งสองด้าน

พื้นที่ส่วนนี้จะใช้สำหรับปลูกพืชผลเพื่อเป็นอาหารให้กับพวกคนงานในเมือง

19 พวกคนงานที่อยู่ในเมือง จะมาเพาะปลูกในพื้นที่นี้ พวกเขาจะมาจากเผ่าทั้งหลายของอิสราเอล

20 ดังนั้นจุดศูนย์กลางของเขตศักดิ์สิทธิ์นี้ จะเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่าขนาดสองหมื่นห้าพันศอก เจ้าจะต้องแยกส่วนนี้ออกมาให้กับเรา และให้เป็นที่ตั้งของเมืองด้วย

21 ส่วนที่เหลือทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ที่ถัดจากส่วนศักดิ์สิทธิ์และที่ดินของเมืองออกไปนั้นจะตกเป็นของผู้นำของอิสราเอล มันจะยื่นออกไปสองหมื่นห้าพันศอกทั้งสองด้าน พื้นที่ทั้งสองแห่งนี้ที่ขนานกับเขตแดนของเผ่าอื่น จะตกเป็นของผู้นำอิสราเอล และจะมีส่วนศักดิ์สิทธิ์กับวิหารศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงกลางระหว่างสองแปลงนี้ 22 ดังนั้นที่ดินของชาวเลวีและที่ดินของเมืองจะขั้นกลางระหว่างที่สองแปลงของผู้นำอิสราเอล ที่ดินของผู้นำอิสราเอลจะตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนของเผ่ายูดาห์และเผ่าเบนยามิน

23 ส่วนชนเผ่าที่เหลือมีเขตแดนดังนี้คือ

ชนเผ่าเบนยามินจะได้รับส่วนถัดลงมา

ทอดยาวจากด้านตะวันออกไปถึงด้านตะวันตก

24 ชนเผ่าสิเมโอนจะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าเบนยามินลงมา

ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

25 ชนเผ่าอิสสาคาร์จะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าสิเมโอนลงมา

ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

26 ชนเผ่าเศบูลุนจะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าอิสสาคาร์ลงมา

ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

27 ชนเผ่ากาดจะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าเศบูลุนลงมา

ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

28 พรมแดนทางใต้ของชนเผ่ากาดจะทอดยาวจากเมืองทามาร์ไปจนถึงพวกตาน้ำแห่งเมรีบาห์คาเดช แล้วเลาะไปตามลำธารแห้งของอียิปต์ไปจบที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

29 นี่คือที่ดินที่เจ้าต้องจัดแบ่งเพื่อให้เป็นมรดกแก่ชนเผ่าต่างๆของอิสราเอล และนั่นคือสัดส่วนที่พวกเขาจะได้รับ”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

พวกประตูเมืองของเยรูซาเล็ม

30 ต่อไปนี้จะเป็นพวกประตูของเมืองเยรูซาเล็ม

เริ่มต้นจากทิศเหนือซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก

31 ประตูสามประตูทางทิศเหนือ ตั้งชื่อตามเผ่าของรูเบน ยูดาห์และเลวี

32 ทางทิศตะวันออกซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก จะมีสามประตูที่ตั้งชื่อตามเผ่าของโยเซฟ เบนยามินและดาน

33 ทางทิศใต้ซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก จะมีสามประตูที่ตั้งชื่อตามเผ่าของสิเมโอน อิสสาคาร์และเศบูลุน

34 ทางทิศตะวันตกซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก จะมีสามประตูที่ตั้งชื่อตามเผ่ากาด อาเชอร์และนัฟทาลี

35 รวมระยะทางโดยรอบของกำแพงเมือง จะมีความยาวหนึ่งหมื่นแปดพันศอก และนับตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป เมืองนี้จะมีชื่อว่า “พระยาห์เวห์อยู่ที่นั่น”[c]

1 ยอห์น 3

เราเป็นลูกของพระเจ้า

ดูสิ ความรักที่พระบิดามีต่อพวกเรานั้น มันมากมายมหาศาลแค่ไหน ถึงขนาดได้เรียกเราว่าเป็นลูกของพระองค์ และเราก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ โลกนี้ไม่รู้จักพระองค์ ซึ่งเป็นเหตุที่โลกไม่รู้จักเราเหมือนกัน เพื่อนๆที่รัก ตอนนี้เราได้เป็นลูกของพระเจ้าแล้ว เรายังไม่รู้ว่าต่อไปข้างหน้าเราจะเป็นอย่างไร แต่เรารู้ว่าเมื่อพระคริสต์มาปรากฏ เราจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะเราจะเห็นพระองค์ตามที่พระองค์เป็นจริงๆ ทุกคนที่มีความหวังอย่างนี้ ก็จะทำตัวเองให้บริสุทธิ์เหมือนอย่างที่พระคริสต์บริสุทธิ์

ทุกคนที่ทำบาปก็ฝ่าฝืนกฎของพระเจ้า เพราะความบาปก็คือการฝ่าฝืนกฎนั่นเอง พวกคุณรู้แล้วว่า ที่พระคริสต์มาปรากฏก็เพื่อมารับเอาความบาปของทุกคนไปจนหมด และคุณก็รู้ว่าในพระคริสต์นั้นไม่มีความบาปเลย ทุกคนที่ตั้งมั่นคงในพระคริสต์จะไม่ทำบาปอีกต่อไป ส่วนคนที่ยังทำบาปอยู่ ก็ไม่เคยเห็นพระองค์ และไม่ได้รู้จักกับพระองค์ด้วย

ลูกๆที่รัก อย่าให้ใครมาหลอกลวงเอาได้ คนที่ทำในสิ่งที่พระเจ้าชอบใจก็เป็นคนที่พระเจ้ายอมรับ เหมือนกับที่พระเจ้ายอมรับพระคริสต์นั้น คนที่ยังทำบาปอยู่ก็เป็นพวกของมาร เพราะมารได้ทำบาปมาตั้งแต่ต้น นี่เป็นเหตุที่พระบุตรของพระเจ้ามาปรากฏ เพื่อพระองค์จะได้ทำลายการงานของมารเสีย

ทุกคนที่เป็นลูกของพระเจ้าจะไม่ทำบาปอีกต่อไปเพราะธรรมชาติของพระเจ้าได้เข้าไปอยู่ในคนๆนั้นแล้ว ด้วยเหตุนี้คนๆนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำบาปได้อีกต่อไป เพราะเขาได้มาเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว 10 แบบนี้สิ ถึงจะรู้ว่าใครเป็นลูกของพระเจ้า หรือใครเป็นลูกของมาร คือทุกคนที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ได้รักพี่น้องของเขา ก็ไม่ใช่ลูกของพระเจ้า

เราต้องรักซึ่งกันและกัน

11 พวกคุณได้ยินได้ฟังคำสอนนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วว่า ให้เรารักกันและกัน 12 อย่าให้เราเป็นเหมือนคาอินที่เป็นพวกของมารและได้ฆ่าน้องชายของเขา เขาฆ่าน้องทำไม ก็เพราะการกระทำของเขาชั่ว แต่ของน้องชายเขานั้นถูกต้อง

13 พี่น้องครับ ไม่ต้องแปลกใจหรอกถ้าโลกนี้เกลียดพวกคุณ 14 เรารู้ว่าเราได้ผ่านจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว ก็เพราะเรารักพี่น้องของเรา ส่วนคนที่ไม่รักคนอื่นก็ยังคงอยู่ในความตาย 15 ทุกคนที่เกลียดชังพี่น้องของเขาก็เป็นฆาตกร พวกคุณรู้ว่าคนที่เป็นฆาตกรนั้นจะไม่มีชีวิตตลอดไปกับพระเจ้า 16 แบบนี้สิเราถึงรู้ว่าความรักเป็นอย่างไร คือพระคริสต์ได้ให้ชีวิตของพระองค์เพื่อเรา เราจึงควรให้ชีวิตของเรา เพื่อพี่น้องของเราด้วย 17 คนที่มีทรัพย์สมบัติมากมายในโลกนี้ เมื่อเห็นพี่น้องของเขาขัดสนและต้องการความช่วยเหลือ แต่ใจจืดใจดำไม่ช่วย ก็แสดงว่าความรักของพระเจ้าไม่ได้อยู่ในคนๆนี้เลย 18 ลูกเล็กๆที่รัก อย่าให้เรารักกันแค่คำพูดหรือรักแต่ปากเท่านั้น แต่ให้เรารักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริงใจ

19-20 แบบนี้สิเราถึงแน่ใจว่าเราอยู่ฝ่ายความจริง ถึงแม้ว่าบางครั้งใจของเราอาจจะฟ้องว่าเราผิด แต่เราก็ยังสามารถที่จะมีสันติสุขต่อหน้าพระเจ้าได้ เพราะพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่าใจเรา และพระองค์รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง

21 เพื่อนๆที่รัก ถ้าใจเราไม่ได้ฟ้องว่าเราทำผิด เราก็มีความมั่นใจที่จะเข้าพบพระเจ้า 22 และเราจะได้รับทุกสิ่งที่เราขอจากพระเจ้า เพราะได้ทำตามคำสอนของพระองค์และได้ทำสิ่งที่พระองค์พอใจ 23 คำสั่งสอนของพระองค์คือให้เราไว้วางใจในพระเยซูคริสต์เจ้าพระบุตรของพระองค์ และให้เรารักกันและกันเหมือนกับที่พระองค์ได้สั่งเราไว้แล้ว 24 คนที่ทำตามคำสั่งสอนของพระเจ้าก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็อยู่ในใจของเขาด้วย เรารู้ว่าพระเจ้าอยู่ในเราเพราะว่าพระเจ้าได้ให้พระวิญญาณไว้กับเรา

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International