Old/New Testament
30 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 2 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดแทนเราว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
ให้ร้องคร่ำครวญและพูดว่า
“ซวยแน่ๆวันนั้น”
3 วันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
วันของพระยาห์เวห์ใกล้มาถึงแล้ว
จะเป็นวันที่เมฆมืดครึ้มไปหมด
จะเป็นเวลาแห่งการตัดสินชนชาติทั้งหลาย
4 ดาบจะมาต่อสู้กับอียิปต์
ความปวดร้าวใจจะมาอยู่ที่คูช
เมื่อเกิดการฆ่าฟันขึ้นในอียิปต์
เมื่อทรัพย์สมบัติของเมืองอียิปต์ถูกขนไป
เมื่อรากฐานของตึกทั้งหลายในเมืองอียิปต์แตกสลาย
5 คูช พูต ลูดและอาระเบียทั้งหมด
ลิเบีย[a] กับประชาชนของแผ่นดินที่เข้าเป็นพันธมิตรกับอียิปต์[b] จะล้มลงด้วยดาบพร้อมกับอียิปต์ด้วย
6 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด
“พวกที่อยู่ฝ่ายเดียวกับประเทศอียิปต์จะล้มลง
ความแข็งแกร่งที่พวกเขาลำพองจะล้มครืนลง
ตั้งแต่มิกดลไปจนถึงอัสวัน พวกเขาจะล้มลงด้วยดาบในแผ่นดินอียิปต์”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
7 พวกเขาจะถูกทิ้งให้รกร้างท่ามกลางประเทศต่างๆที่รกร้าง
เมืองทั้งหลายของพวกเขาจะอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของเมืองอื่นๆ
8 เราจะจุดไฟเผาแผ่นดินอียิปต์
และพวกคนที่มาช่วยเมืองนี้จะถูกบดขยี้
แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
9 ในวันนั้นเราจะส่งพวกผู้ส่งข่าวออกไปทางเรือ เพื่อทำให้พวกคูชที่ตอนนี้คิดว่าปลอดภัย ตื่นตระหนก ความปวดร้าวใจจะมาอยู่กับพวกเขา ในวันที่อียิปต์ถูกลงโทษ เพราะเหตุการณ์นี้กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว’”
10 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“เราจะทำให้กองทัพอียิปต์สิ้นสุดลง
ด้วยน้ำมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน
11 เขากับกองทัพของเขาเป็นชนชาติที่เหี้ยมโหดที่สุด
เราจะนำพวกเขาเข้ามาเพื่อทำลายแผ่นดินอียิปต์
พวกเขาจะชักดาบต่อสู้อียิปต์
และทำให้แผ่นดินเต็มไปด้วยซากศพ
12 เราจะทำให้น้ำในแม่น้ำไนล์แห้งไป
เราจะขายแผ่นดินอียิปต์ให้กับคนชั่ว
เราจะให้คนต่างชาติมาทำให้แผ่นดินอียิปต์และทุกสิ่งทุกอย่างในมันรกร้างว่างเปล่า
เรา ยาห์เวห์ ได้ลั่นคำพูดออกไปแล้ว”
13 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“เราจะทำลายพวกรูปเคารพ
และกำจัดพวกรูปปั้นพระในเมืองเมมฟิสให้หมดไป
จะไม่มีผู้นำในอียิปต์อีก
เราจะแผ่กระจายความกลัวไปทั่วแผ่นดิน
14 เราจะทิ้งอียิปต์ตอนบน[c] ให้ร้าง
เราจะจุดไฟเผาเมืองโศอัน
และลงโทษเมืองเธเบส[d]
15 เราจะเทความเดือดดาลของเราลงบนเมืองเปลูเซียม[e] ซึ่งเป็นป้อมปราการของอียิปต์
และเราจะตัดชาวเมืองเธเบสออกไป
16 เราจะจุดไฟเผาอียิปต์
เมืองเปลูเซียมจะดิ้นพราดด้วยความเจ็บปวด
เมืองเธเบสจะถูกบุกทะลวงเข้าไป
ส่วนเมืองเมมฟิสจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูตลอดเวลา
17 คนหนุ่มของเมืองเฮลิโอโพลิสและเมืองบูบัสติส[f] จะล้มลงด้วยดาบ
และคนในเมืองต่างๆจะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย
18 ความมืดจะปกคลุมเมืองทาปานเหสในกลางวัน
เมื่อเราทำลายอำนาจการควบคุมของอียิปต์[g]
ความแข็งแกร่งที่เมืองนั้นลำพองนักหนาจะสิ้นสุดลงที่นั่น
มันจะถูกปกคลุมด้วยเมฆและคนตามหมู่บ้านต่างๆก็จะถูกจับไปเป็นเชลย
19 เราจะลงโทษอียิปต์อย่างนี้แหละ
แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”
อียิปต์จะอ่อนแอตลอดไป
20 ในวันที่เจ็ดเดือนหนึ่ง ปีที่สิบเอ็ด[h] คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 21 “เจ้าลูกมนุษย์ เราได้หักแขนของกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ มันยังไม่ได้ต่อกลับคืนหรือเข้าเฝือก เพื่อให้แข็งแรงพอที่จะถือดาบได้”
22 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“เราต่อต้านกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ เราจะหักแขนทั้งสองข้างของเขา
ทั้งแขนข้างที่ดีและข้างที่หักอยู่แล้ว และทำให้ดาบหลุดจากมือของเขา
23 เราจะทำให้ชาวอียิปต์แตกกระจายไปอยู่ตามชนชาติต่างๆและทำให้พวกเขากระเจิดกระเจิงไปอยู่ตามประเทศอื่นๆ
24 เราจะทำให้แขนของกษัตริย์บาบิโลนแข็งแกร่งและวางดาบของเราไว้ในมือของเขา
แต่เราจะหักแขนของกษัตริย์ฟาโรห์
เขาจะร้องครวญครางต่อหน้ากษัตริย์บาบิโลนเหมือนกับคนบาดเจ็บสาหัส
25 เราจะทำให้มือของกษัตริย์บาบิโลนแข็งแกร่ง แต่มือของกษัตริย์ฟาโรห์จะตกลงอย่างอ่อนปวกเปียก
เมื่อเราวางดาบของเราไว้ในมือของกษัตริย์บาบิโลน เขาก็จะยื่นมันออกสู้กับอียิปต์ แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
26 เราจะทำให้ชาวอียิปต์แตกกระจายไปอยู่ตามชนชาติต่างๆและทำให้พวกเขากระเจิดกระเจิงไปอยู่ตามประเทศอื่นๆ แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”
อัสซีเรียเป็นเหมือนกับต้นสนซีดาร์
31 ในวันที่หนึ่งเดือนสาม ปีที่สิบเอ็ด[i]
คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 2 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดกับกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์และประชาชนของเขาว่า
‘เราจะเปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ของเจ้ากับใครดี
3 ลองนึกถึงอัสซีเรียสิ แต่ก่อนเคยเป็นต้นสนซีดาร์ในเลบานอนที่มีกิ่งก้านสาขาสวยงาม
มีร่มเงาปกคลุมป่า
มีลำต้นที่สูงมาก
ยอดของมันอยู่ท่ามกลางเมฆ
4 น้ำได้หล่อเลี้ยงมัน
มหาสมุทรใต้ดินได้ทำให้มันเติบโตสูงขึ้น
ลำธารที่ไหลออกจากมหาสมุทรใต้ดินนั้นต่างไหลไปรอบๆที่ที่ต้นนั้นปลูกอยู่
และมหาสมุทรใต้ดินได้ส่งธารน้ำของมันออกไปหล่อเลี้ยงต้นไม้ทั้งหลายของท้องทุ่ง
5 ต้นนั้นจึงเติบโตสูงขึ้น สูงกว่าต้นใดๆในท้องทุ่ง
กิ่งของมันแตกออกมามากมาย
และก้านก็ยาวออกไป
มันแผ่ขยายเพราะมีน้ำมาก
6 นกบนท้องฟ้าทั้งหมดได้มาทำรังอยู่บนกิ่งของมัน
สัตว์ป่าต่างๆในท้องทุ่งได้ออกลูกอยู่ใต้กิ่งก้านสาขาของมัน
ชนชาติที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายได้อาศัยอยู่ภายใต้ร่มเงาของมัน
7 มันงดงามด้วยความยิ่งใหญ่ของมัน
และด้วยกิ่งก้านที่แผ่กระจายออก
เพราะรากของมันได้หยั่งลงไปถึงน้ำมากมาย
8 ต้นสนซีดาร์ทั้งหลายในสวนของพระเจ้ายังไม่อาจแข่งกับมันได้
ทั้งเหล่าต้นสนก็ไม่อาจเทียบกับกิ่งของมันได้
ต้นเปลนก็เปรียบไม่ได้กับกิ่งก้านของมัน
ไม่มีต้นไม้ไหนเลยในสวนของพระเจ้าที่จะสวยสู้มันได้
9 เราได้สร้างมันให้สวยงามด้วยกิ่งก้านมากมาย
ต้นไม้ทั้งหมดในสวนเอเดน ที่เป็นสวนของพระเจ้า ก็ยังอิจฉามันเลย’”
10 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“เพราะว่ามันสูงลิบลิ่วจนยอดของมันอยู่ท่ามกลางเมฆ
และมันลำพองในความสูงของมัน
11 เราจึงได้มอบมันให้กับผู้ครอบครองของชนชาติทั้งหลาย และคนนั้นได้ลงโทษมันให้สาสมกับความชั่วร้ายของมัน เราได้โยนมันทิ้งไป 12 ชนต่างชาติที่เหี้ยมโหดที่สุดได้โค่นมันลงและทิ้งมันไว้ กิ่งทั้งหลายของมันได้ตกลงตามเทือกเขาและตามหุบเขา ก้านที่แตกหักของมันได้ตกอยู่ตามหุบเขาลึกทั้งหมดในแผ่นดิน ชนชาติทั้งหมดบนโลกได้ออกมาจากภายใต้ร่มเงาของมันและทิ้งมันไว้
13 นกทั้งหลายบนท้องฟ้าได้มาอยู่ตามลำต้นที่ล้มลงของมัน สัตว์ป่าทั้งหมดแห่งท้องทุ่งได้มาอาศัยอยู่ตามกิ่งก้านของมัน
14 เรื่องนี้เกิดขึ้นเพื่อ จะได้ไม่มีต้นไม้อื่นที่ขึ้นอยู่ข้างแม่น้ำ ที่จะเติบโตสูงใหญ่ด้วยความหยิ่งผยอง และมียอดอยู่ท่ามกลางเมฆอย่างนั้นอีก จะไม่มีต้นไม้ใดที่จะมีน้ำหล่อเลี้ยงให้มีลำต้นสูงขนาดนั้นอีก
เพราะพวกมันทั้งหมดถูกกำหนดให้ตายไปอยู่ยังโลกเบื้องล่างท่ามกลางคนตาย และให้ไปอยู่กับพวกที่ลงไปอยู่ในหลุมลึกนั้น”
15 นี้คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“ในวันที่มันลงไปอยู่ในแดนคนตาย
เราได้ทำให้มีการไว้ทุกข์เพื่อมัน เรากลบมันด้วยมหาสมุทรใต้ดิน เราได้ทำเขื่อนกั้นแม่น้ำทั้งหลายของมัน เราทำให้เลบานอนไว้ทุกข์ให้กับมัน และต้นไม้ทั้งหมดในท้องทุ่งได้เหี่ยวแห้งไปเพราะมัน 16 เราได้ทำให้ชนชาติต่างๆสั่นสะท้านด้วยเสียงล้มลงของมัน เมื่อเราได้นำมันลงสู่แดนคนตาย ไปอยู่ร่วมกันกับพวกที่ลงไปในหลุมลึกนั้น ต้นไม้ในสวนเอเดนทั้งหมด และต้นไม้ที่ได้รับเลือกมาและดีที่สุดของเลบานอน คือต้นไม้ทั้งหมดที่ได้รับน้ำอย่างอุดม ได้รับการปลอบใจในโลกเบื้องล่าง[j]
17 พวกที่อาศัยอยู่ภายใต้ร่มเงาของมัน คือชนชาติที่อยู่ฝ่ายเดียวกับมัน ได้ลงไปในแดนผู้ตายกับมันด้วย และไปอยู่ร่วมกับพวกที่ถูกฆ่าด้วยดาบ
18 กษัตริย์ฟาโรห์ เคยมีต้นไม้ต้นไหนในสวนเอเดน ที่ยิ่งใหญ่และมีบารมีเหมือนกับเจ้าไหม
ตอนนี้ เจ้าจะต้องลงไปอยู่กับต้นไม้ของสวนเอเดนเหล่านั้นในโลกเบื้องล่าง และเจ้าจะต้องนอนอยู่ท่ามกลางพวกที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบ[k] และอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้นที่ถูกฆ่าด้วยดาบ
ฟาโรห์และประชาชนทั้งหมดของเขาก็จะเป็นอย่างนั้นแหละ”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
บทเพลงไว้อาลัยให้กับฟาโรห์
32 ในวันที่หนึ่ง เดือนที่สิบสอง ปีที่สิบสอง[l]
คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 2 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้ร้องเพลงไว้อาลัยบทหนึ่งให้กับกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ และพูดกับเขาว่า
‘เจ้าถือว่าตัวเองเป็นสิงโตในหมู่ชนชาติทั้งหลาย
แต่อันที่จริง เจ้าเป็นจระเข้ยักษ์[m] ในท้องทะเล
ที่ฟาดตัวไปมาตามลำธารของเจ้า
กวนน้ำไปมาด้วยเท้าของเจ้า
ทำให้น้ำขุ่นคลัก’”
3 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“ต่อหน้าชนชาติมากมายเราจะเหวี่ยงตาข่ายของเราเหนือเจ้า
และพวกเขาจะดึงเจ้าขึ้นมาจากน้ำด้วยตาข่ายของเรา
4 เราจะขว้างเจ้าลงบนพื้นดิน
จะโยนเจ้าลงในท้องทุ่งกลางแจ้ง
เราจะปล่อยให้นกในท้องฟ้ามาทำรังบนตัวเจ้า
เราจะให้สัตว์ป่าทั้งหมดในโลกเหยียบย่ำเจ้า
5 เราจะกระจายเนื้อของเจ้าไปตามเทือกเขา
และเอาซากของเจ้าไปถมหุบเขาทั้งหลาย
6 เราจะทำให้แผ่นดินไปจนถึงเทือกเขาเปียกชุ่มไปด้วยเลือดของเจ้า
และหุบเขาลึกทั้งหลายจะเต็มไปด้วยเนื้อของเจ้า
7 เมื่อเราดับเจ้า
เราจะคลุมฟ้าสวรรค์ไว้ เราจะทำให้ดวงดาวมืดลง
เราจะเอาเมฆมาบดบังดวงอาทิตย์ไว้และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสงในตอนกลางคืน
8 เราจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ส่องแสงอยู่บนฟ้ามืดลงเหนือแผ่นดินเจ้า
เราจะนำความมืดมาสู่แผ่นดินของเจ้า”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
9 “เราจะทำให้หลายชนชาติใจฝ่อ เมื่อเราเอาเศษที่แตกเป็นชิ้นๆของเจ้ามาอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆในดินแดนทั้งหลายที่เจ้าไม่รู้จักนั้น 10 เราจะทำให้ผู้คนมากมายหันมาจ้องเจ้าอย่างตะลึงงัน และบรรดากษัตริย์ของพวกเขาจะหวาดกลัวเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้า ในวันที่เจ้าล่มสลาย เมื่อเรากวัดแกว่งดาบของเราต่อหน้าพวกเขา พวกเขาทุกคนจะตัวสั่นเทิ้มเพราะกลัวตายทุกขณะจิต”
11 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“ดาบของกษัตริย์แห่งบาบิโลนจะมาต่อสู้กับเจ้า 12 เราจะทำให้ประชาชนของเจ้าล้มลงด้วยดาบของคนเก่งกล้าเหล่านั้น ซึ่งเป็นชนชาติที่โหดเหี้ยมที่สุดในบรรดาชนชาติทั้งหมด พวกเขาจะทำให้ความหยิ่งผยองของอียิปต์แตกสลาย และทำให้กองทัพทั้งหมดของอียิปต์ย่อยยับไป
13 เราจะทำลายฝูงสัตว์ทั้งหมดที่อยู่ข้างแม่น้ำให้หมดไป จะไม่มีมนุษย์คนใดหรือกีบของสัตว์ตัวใดมากวนให้น้ำขุ่นอีกต่อไป
14 แล้วเราจะปล่อยให้แม่น้ำในดินแดนแห่งนี้ตกตะกอน และทำให้ลำธารทั้งหลายไหลลื่นเหมือนน้ำมันมะกอก 15 ตอนที่เราทำให้แผ่นดินอียิปต์รกร้างว่างเปล่า ตอนที่แผ่นดินนั้นสูญเสียทุกอย่าง ตอนที่เราฟาดฟันทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น แล้วเมื่อนั้น พวกเขาจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”
16 “นี่คือบทเพลงไว้อาลัยที่จะใช้ร้องกัน พวกผู้หญิงของชนชาติต่างๆจะร้องเพลงไว้อาลัยนี้ พวกเขาจะร้องเพลงนี้ที่พูดถึงอียิปต์และประชาชนทั้งหมดของมัน”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
ประเทศอียิปต์จะถูกทำลาย
17 วันที่สิบห้าของเดือนนั้น ในปีที่สิบสอง[n]
คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 18 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้ร้องคร่ำครวญให้กับประชาชนชาวอียิปต์ ให้ส่งทั้งอียิปต์และพวกผู้หญิงของชาติมหาอำนาจเหล่านั้น ลงไปอยู่ร่วมกับคนเหล่านั้นที่อยู่ในหลุมลึกนั้น
19 ‘เจ้าอียิปต์
เจ้าคิดว่าเจ้าสวยงามกว่าคนอื่นหรือ ลงไป ไปนอนกับพวกที่ไม่ได้ขลิบซะ’
20 พวกเขาจะตกไปอยู่กับพวกที่ถูกฆ่าด้วยดาบ ดาบถูกชักออกจากฝักแล้ว ลากอียิปต์กับประชาชนของมันออกไปซะ
21 จากแดนคนตาย พวกวีรบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุด จะพูดเรื่องของอียิปต์และพวกที่อยู่ฝ่ายเดียวกับมันว่า
‘พวกเขาได้ลงมาแล้ว พวกเขาได้นอนอยู่กับพวกที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบ[o] ที่ถูกฆ่าด้วยดาบ’
22 อัสซีเรียกับกองทัพทั้งหมดของเขา[p] ก็อยู่ที่นั่นด้วย หลุมฝังศพของพวกเขาอยู่ล้อมรอบเขา พวกมันทั้งหมดถูกฆ่าด้วยดาบ
23 หลุมฝังศพของอัสซีเรียอยู่ที่ก้นเหวของหลุมลึกนั้น กองทัพของเขาก็ฝังอยู่รอบๆหลุมฝังศพของเขานั้น ทั้งหมดต่างก็ถูกฆ่าด้วยดาบ พวกนี้เคยสร้างความกลัวไปทั่วแผ่นดินของคนที่ยังมีชีวิตอยู่
24 เอลามก็อยู่ที่นั่นด้วย ชาวเมืองของเขาก็ฝังอยู่รอบๆหลุมฝังศพของเขา พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าด้วยดาบ ทุกคนที่เคยสร้างความหวาดกลัวไปทั่วแผ่นดินของผู้ที่มีชีวิต ต่างก็ลงไปสู่โลกเบื้องล่างท่ามกลางพวกที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบ พวกเขาต้องแบกรับความอับอายร่วมกับทุกคนที่ลงไปในหลุมลึกนั้น
25 มีการจัดเตียงหลังหนึ่งให้กับหลายชนชาติเอลามและกองทัพทั้งหมดของเขาที่ถูกฆ่าด้วยดาบ กองทัพทั้งหมดของเอลามถูกฝังอยู่รอบๆหลุมฝังศพของเขา พวกเขาทั้งหมดยังไม่ได้ทำพิธีขลิบและถูกฆ่าด้วยดาบ ทั้งๆที่พวกเขาเคยสร้างความหวาดกลัวไปทั่วแผ่นดินของผู้ที่มีชีวิต
พวกเขาต้องแบกรับความอับอายร่วมกับทุกคนที่ลงไปในหลุมลึกนั้น พวกเขาถูกวางลงท่ามกลางคนที่ถูกฆ่า
26 เมเชคกับทูบัลก็อยู่ที่นั่นด้วย พร้อมกับกองทัพของพวกเขา ซึ่งฝังอยู่รอบๆหลุมฝังศพของเขาทั้งสอง
พวกเขาทั้งหมดยังไม่ได้ทำพิธีขลิบและถูกฆ่าด้วยดาบ ทั้งๆที่พวกเขาเคยสร้างความหวาดกลัวไปทั่วแผ่นดินของผู้ที่มีชีวิต
27 แต่พวกเขาไม่ได้นอนฝังร่วมอยู่กับพวกวีรบุรุษที่ล้มลงในสมัยก่อนนานมาแล้ว ที่ลงไปในแดนผู้ตาย พร้อมกับอาวุธของเขา ที่มีดาบของพวกเขาหนุนหัวอยู่ และมีโล่วางทับอยู่บนกระดูก ทั้งๆที่พวกวีรบุรุษเหล่านี้เคยสร้างความหวาดกลัวไปทั่วแผ่นดินของผู้ที่มีชีวิตอยู่
28 ฟาโรห์ เจ้าก็จะโดนอย่างนั้นเหมือนกัน
เจ้าจะถูกทำลายและจะไปนอนอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้นที่ไม่ได้เข้าพิธีขลิบ ไปอยู่กับพวกนั้นที่ถูกฆ่าด้วยดาบ
29 เอโดมก็อยู่ที่นั่นด้วย พร้อมกับบรรดากษัตริย์และเจ้าชายทั้งหลายของเขา ถึงแม้ว่าพวกเขาเคยมีพลังมาก แต่พวกเขาก็ถูกวางรวมอยู่กับคนที่ถูกฆ่าด้วยดาบ นอนอยู่กับพวกที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบ และอยู่กับพวกที่ลงไปอยู่ในหลุมลึกนั้น
30 บรรดาเจ้าชายทุกคนของทางเหนือ และพวกชาวไซดอนทั้งหมดก็อยู่ที่นั่นด้วย
พวกเขาได้ลงไปอย่างอับอาย ไปอยู่ร่วมกับพวกที่ถูกฆ่า ทั้งๆที่แต่ก่อนพวกเขาเคยสร้างความหวาดกลัวให้กับคนอื่น
พวกเขานอนอยู่ที่นั่นยังไม่ได้ทำพิธีขลิบ ไปอยู่กับคนที่ถูกฆ่าด้วยดาบ
และพวกเขาต้องแบกรับความอับอาย ร่วมกับทุกคนที่ลงไปในหลุมลึกนั้น
31 เมื่อฟาโรห์เห็นสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับคนเหล่านั้น เขาก็จะได้ไม่รู้สึกแย่มากนัก ที่เขาและกองทัพทั้งหมดของเขาถูกฆ่าด้วยดาบ”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
32 “เราจะทำให้แผ่นดินของผู้ที่มีชีวิตอยู่ยำเกรงเรา ฟาโรห์กับกองทัพทั้งหมดของเขาก็จะถูกวางลงท่ามกลางพวกที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบ ที่ถูกฆ่าด้วยดาบ” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
เปลี่ยนชีวิตเสียใหม่
4 ในเมื่อพระคริสต์ได้ทนทุกข์ทรมานในร่างกายนี้แล้ว คุณก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อมและคิดอย่างเดียวกันกับพระองค์ คือคนที่ยอมทนทุกข์ในร่างกายก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกทำบาป 2 ผลที่เกิดขึ้นคือ ในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่นี้ เขาไม่ได้อยู่ตามกิเลสตัณหาชั่วๆของมนุษย์ แต่เขามีชีวิตอยู่ตามความต้องการของพระเจ้า 3 ในอดีตคุณก็ได้ใช้ชีวิตอย่างคนที่ไม่เชื่อพระเจ้ามามากพอแล้ว ทั้งมั่วโลกีย์ กามราคะ เมาเหล้า มั่วสุมทางเพศ เลี้ยงฉลองเมามาย และกราบไหว้รูปเคารพ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง 4 เพื่อนๆของคุณก็สงสัยว่า ทำไมคุณถึงได้เลิกสำมะเลเทเมากับพวกเขา พวกเขาเลยแช่งด่าคุณ 5 แต่พวกเขาจะต้องให้การกับพระเจ้าผู้ที่พร้อมจะตัดสินโทษทุกคน ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และที่ตายไปแล้วด้วย 6 นั่นเป็นเหตุที่มีการประกาศข่าวดีนี้ในอดีตให้กับผู้เชื่อซึ่งตอนนี้ได้ตายไปแล้ว ถึงแม้ว่าในสายตาของคนอื่นจะตัดสินว่าเขาผิดตอนที่เขายังอยู่ในร่างกาย แต่เขามีชีวิตอยู่ด้วยพระวิญญาณในสายตาของพระเจ้า
ใช้พรสวรรค์ที่พระเจ้าให้อย่างฉลาด
7 ใกล้จะถึงวันสิ้นโลกแล้ว ตั้งสติไว้ให้ดีและรู้จักควบคุมตัวเอง คุณจะได้อธิษฐาน 8 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ให้รักกันและกันอย่างลึกซึ้ง เพราะความรักจะปกปิดความบาปได้มากมาย 9 ให้เลี้ยงดูปูเสื่อกัน อย่าบ่นเลย 10 ให้แต่ละคนเป็นผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อ แล้วใช้พรสวรรค์ที่รับมาเพื่อรับใช้ซึ่งกันและกัน 11 ถ้าคุณมีพรสวรรค์ในด้านการพูด ก็ให้พูดในฐานะคนที่ประกาศคำพูดที่ได้ยินมาจากพระเจ้า ถ้าคุณมีพรสวรรค์ในด้านการรับใช้ ก็ให้รับใช้สุดกำลังที่พระเจ้าให้มา เพื่อพระเจ้าจะได้รับเกียรติยศจากทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำ ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ผ่านทางพระเยซูคริสต์ ขอให้เกียรติยศและฤทธิ์เดชมีกับพระเยซูคริสต์ตลอดไป อาเมน
ทนทุกข์เพราะเป็นคริสเตียน
12 เพื่อนรัก อย่าเพิ่งแปลกใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับพวกคุณ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย แต่ปัญหาก็คือการลองใจคุณ 13 ให้ดีใจที่คุณได้ร่วมทุกข์กับพระคริสต์ เพราะคุณจะได้ดีใจเป็นล้นพ้นเมื่อพระคริสต์กลับมาอย่างมีเกียรติ 14 เมื่อมีคนประณามคุณเพราะคุณเป็นของพระคริสต์ คุณก็มีเกียรติอย่างแท้จริง เพราะแสดงว่าพระวิญญาณผู้ทรงเกียรติของพระเจ้านั้นอยู่กับพวกคุณ 15 ถ้าคุณจะต้องทนทุกข์ ก็ขออย่าให้เป็นเพราะคุณไปฆ่าคนมา ไปขโมย ไปทำชั่ว หรือไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเลย 16 แต่ถ้าคุณต้องทนทุกข์เพราะเป็นคริสเตียน ก็อย่าอายเลย แต่ให้สรรเสริญพระเจ้า เพราะคุณได้ชื่อว่าคริสเตียน 17 ถึงเวลาสำหรับการตัดสินโทษแล้ว การตัดสินนั้นจะเริ่มต้นจากครอบครัวของพระเจ้าก่อน แล้วลองคิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ไม่เชื่อฟังข่าวดีจากพระเจ้า 18 เหมือนกับที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า
“ขนาดคนที่ทำตามใจพระเจ้า ยังเกือบจะไม่รอด
แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกับคนชั่วและคนบาปเล่า”[a]
19 ถ้าอย่างนั้น คนที่ต้องทนทุกข์เพราะเป็นความต้องการของพระเจ้านั้น ก็ต้องมอบตัวเองไว้กับพระผู้สร้างที่ซื่อสัตย์ และให้ทำดีต่อไป
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International