Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 47-49

ข่าวสารของพระเจ้าถึงชาวบาบิโลน

47 พระยาห์เวห์พูดว่า “บาบิโลนสาวพรหมจรรย์เอ๋ย
    ลงมานั่งบนฝุ่น
นางสาวเคลเดียเอ๋ย
    มานั่งบนพื้นโดยไม่มีบัลลังก์
เพราะจะไม่มีใครเรียกเจ้าว่าเจ้าหญิงเนื้อนุ่ม และเจ้าหญิงเนื้อเนียน อีกต่อไป
ไปจับโม่หินและโม่แป้งซะ
    เอาผ้าคลุมหน้าออก
ให้ถอดกระโปรงออกจนเห็นขาของเจ้า
    แล้วเดินข้ามแม่น้ำไป
เจ้าจะเปลือยเปล่าไม่มีอะไรปกปิด
    คนจะเห็นส่วนที่น่าอับอายของเจ้า[a]
เราจะแก้แค้นเจ้า
    และเราจะไม่ไว้ชีวิตใครเลย”
ผู้ที่ไถ่พวกเราให้เป็นอิสระคือองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
    พระองค์มีชื่อว่าพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
พระยาห์เวห์ พูดว่า “นางสาวเคลเดียเอ๋ยเข้าไปในที่มืดและนั่งเงียบๆ
    เพราะจะไม่มีใครเรียกเจ้าว่า ‘ราชินีแห่งอาณาจักรทั้งหลาย’ อีกต่อไป

ตอนนั้นเราโกรธคนของเรา
    เราทำให้ทรัพย์สมบัติของเราเสื่อมเสียเกียรติไป
เราได้มอบพวกเขาไว้ในมือเจ้า
    แต่เจ้าไม่ได้มีความเมตตาต่อพวกเขาเลย
เจ้าทำให้แอกของเจ้าหนักมากแม้แต่บนบ่าของคนชรา
เจ้าได้พูดว่า ‘ข้าจะเป็นราชินีตลอดชั่วนิรันดร์’
    เจ้าไม่ได้คิดถึงสิ่งที่เจ้าทำลงไป
    เจ้าไม่ได้นึกถึงผลที่จะตามมา
ตอนนี้ ฟังไว้ให้ดี เจ้าที่รักความสนุกสนาน
    เจ้าที่นั่งอยู่ในความปลอดภัย
เจ้าพูดในใจของตนว่า
    ‘ข้านี่แหละพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นนอกจากข้า
    ข้าจะไม่มีวันเป็นแม่หม้ายและข้าจะไม่มีวันสูญเสียลูกๆของข้าไป’
แต่ทั้งสองอย่างนี้จะเกิดขึ้นกับเจ้า ในทันทีทันใด ภายในวันเดียว
    เจ้าจะสูญเสียทั้งลูกๆและสามีไป ทั้งๆที่เจ้ามีเวทมนตร์มากมาย
    ทั้งๆที่เจ้ามีคาถาอาคมที่มีฤทธิ์อันยิ่งใหญ่
10 เจ้ารู้สึกปลอดภัยอยู่ในความเลวทรามของเจ้า
    เจ้าคิดว่า ‘ไม่มีใครเห็นข้า’
ความฉลาดและความรู้ของเจ้านำเจ้าหลงทางไป
    เจ้าคิดในใจว่า ‘ข้านี่แหละพระเจ้า ไม่มีผู้อื่นนอกจากข้า’

11 ดังนั้น เรื่องเลวร้ายจะตกมาบนเจ้า
    เจ้าไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ความพินาศจะตกมาบนเจ้า
    เจ้าจะไม่มีทางกำจัดมันไปได้
ความหายนะจะเกิดขึ้นกับเจ้าในทันทีทันใด
    เจ้าจะไม่มีวันรู้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไหร่
12 ใช้คาถาอาคมของเจ้าต่อไปและใช้เวทมนตร์ทั้งหมดของเจ้า
    ที่เจ้ายุ่งอยู่กับมันตั้งแต่เป็นเด็กมาแล้ว
ไม่แน่เจ้าอาจจะสำเร็จก็ได้
    ไม่แน่เจ้าอาจจะทำให้บางคนกลัวก็ได้
13 เจ้าปรึกษาพวกหมอดูมากมายจนเหนื่อย
    ให้พวกโหราจารย์ลุกขึ้นมาช่วยชีวิตเจ้าสิ
ให้พวกที่ดูดวง ดูดาว และดวงจันทร์ใหม่ทุกเดือน
    ทำนายสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า
14 ดูสิ พวกเขาเป็นเหมือนฟาง
    ไฟก็จะเผาผลาญพวกมันจนหมด
พวกเขาไม่สามารถเอาตัวรอดให้พ้นจากฤทธิ์แห่งเปลวไฟ
    มันไม่ใช่ถ่านไฟสำหรับผิงอุ่นกาย
    หรือเป็นแสงไฟให้กับใครมานั่งชม
15 นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเจ้า
    คือคนพวกนั้นที่เจ้าร่วมงานด้วยจะทำให้เจ้าผิดหวังอย่างนั้น
คนที่เจ้าค้าขายด้วยตั้งแต่สาวๆ
    ก็จะแยกย้ายไปตัวใครตัวมันจนไม่เหลือใครที่จะมาช่วยกู้เจ้าได้”

พระเจ้าปกครองโลกของพระองค์

48 พระยาห์เวห์พูดว่า “ฟังสิ่งนี้ให้ดีครอบครัวของยาโคบ ผู้ที่มีชื่อเรียกว่าอิสราเอล
    ผู้สืบเชื้อสายมาจากยูดาห์
เจ้าอ้างชื่อของพระยาห์เวห์ในการสาบาน
เจ้าสรรเสริญพระเจ้าของอิสราเอล
    แต่เจ้าไม่ได้ทำด้วยความซื่อสัตย์และความจริงใจ

พวกเจ้าเรียกตัวเองว่าประชากรของเมืองศักดิ์สิทธิ์
    ที่เชื่อพึ่งในพระเจ้าของอิสราเอล
    ที่มีชื่อเรียกว่าพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น

พระยาห์เวห์พูดว่า เราได้ทำนายนานมาแล้วถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นนี้
    สิ่งเหล่านั้นได้ออกมาจากปากของเรา
เราได้ทำให้พวกมันเป็นที่รู้กันไปทั่ว
    แล้วจู่ๆ เราก็ลงมือทำ แล้วมันก็เกิดขึ้น
เพราะเรารู้ว่าเจ้านั้นดื้อดึง
    คอเจ้าเหมือนเอ็นเหล็กจูงยาก
    หัวแข็งเหมือนกับทองเหลือง
เราได้ประกาศให้เจ้ารู้นานมาแล้ว
    ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิด เราก็ได้บอกเจ้าแล้ว
เพื่อเจ้าจะไม่สามารถพูดได้ว่า ‘รูปเคารพของฉันทำสิ่งเหล่านั้น
    รูปแกะสลักไม้และรูปหล่อของฉันได้สั่งให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น’”
เจ้าเคยได้ยินคำทำนายของเราแล้ว
    ดูสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นสิ
แล้วพวกเจ้าจะยอมรับว่าสิ่งที่เราได้ทำนายนั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่
    ต่อจากนี้ไป เราจะบอกเจ้าเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆที่แอบซ่อนอยู่ ที่เจ้ายังไม่รู้
พวกมันเพิ่งถูกสร้างขึ้นมาเดี๋ยวนี้เอง ไม่ใช่นานมาแล้ว
    ก่อนหน้านี้เจ้ายังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้
    ดังนั้น เจ้าไม่สามารถพูดได้ว่า
    “เออ เรารู้แล้ว”
เจ้าไม่เคยได้ยินหรือรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
    หูของเจ้าไม่ได้เปิดตั้งนานมาแล้ว
เพราะเรารู้ว่าเจ้านั้นชอบหักหลัง
    และเรารู้ว่าตั้งแต่เกิดแล้ว เจ้าได้ชื่อว่า “ไอ้กบฏ”
เพราะเราไม่อยากเสียชื่อของเรา เราจึงได้ยับยั้งความโกรธของเราไว้
    เพื่อให้คนสรรเสริญเรา
    เราจึงได้ระงับมันไว้เพื่อเจ้าและไม่ได้ทำลายเจ้า
10 เราได้หลอมเจ้าแล้ว แต่ไม่ได้หลอมด้วยไฟอย่างเงิน
    แต่เราได้ทดสอบเจ้าด้วยเตาหลอมแห่งความทุกข์ยาก
11 เพื่อเกียรติของเรา เพื่อเกียรติของเราเอง เราจะจัดการแล้ว
    เราจะปล่อยให้ชื่อเสียงของเราเสื่อมเสียได้ยังไง
    เราจะไม่ยอมมอบเกียรติที่เราสมควรจะได้รับให้กับผู้อื่น

12 ฟังเราให้ดี ยาโคบ
    อิสราเอล ผู้ที่เราได้เรียกมา
เราคือพระองค์ผู้นั้น เราเป็นผู้แรก
    และผู้สุดท้าย
13 มือของเราได้วางรากฐานของโลก
    มือขวาของเราได้แผ่ฟ้าสวรรค์ออก
เมื่อเราเรียกพวกมันมา
    พวกมันก็จะมายืนพร้อมอยู่ต่อหน้าเรา

14 เจ้าทั้งหลาย รวมกันเข้ามา และฟังให้ดี
    ในพวกพระนั้นมีใครบ้างที่เคยทำนายสิ่งเหล่านี้
พระยาห์เวห์ได้เลือกไซรัสมาเป็นพันธมิตร
    เขาจะทำตามความต้องการของพระองค์
    ต่อบาบิโลน ต่อเชื้อสายของเคลเดีย
15 เราเองเป็นผู้ที่ออกคำสั่ง เราได้เรียกเขามา
    เราได้นำเขามาที่นี่ และงานของเขาจะประสบผลสำเร็จแน่
16 เข้ามาใกล้ๆเรา และฟังเรื่องนี้
    “ตั้งแต่เริ่มต้น เราไม่เคยพูดในที่ลับ
และเมื่อมันเป็นจริงขึ้นมา เราก็อยู่ที่นั่น”

ตอนนี้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ได้ส่งผมและพระวิญญาณของพระองค์มาแล้ว 17 พระยาห์เวห์ ผู้ที่ปกป้องพวกเจ้าไว้ ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล พูดว่า

“เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า
    เราสอนเจ้าเพื่อเป็นประโยชน์กับเจ้า
    เรานำเจ้าไปในทางที่เจ้าควรไป
18 เสียดาย ที่พวกเจ้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องคำสั่งสอนของเรา
    ไม่อย่างนั้นเจ้าคงสุขสบายไปแล้วเหมือนแม่น้ำที่ไหลตลอดไม่หยุด
    และคงประสบความสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนคลื่นซัดมาครั้งแล้วครั้งเล่า
19 ลูกหลานของเจ้าก็คงมีมากมายเหมือนกับเม็ดทราย
    เชื้อสายของเจ้าก็คงมีมากมายดั่งกับเม็ดทราย
แล้วชื่อของพวกเขาคงไม่โดนลบออกไป
    และพวกเขาคงไม่ถูกทำลายไปต่อหน้าเรา”

20 ออกมาจากบาบิโลนซะ ให้วิ่งหนีจากชาวเคลเดีย
    โห่ร้อง ประกาศมันด้วยความยินดี
ให้เล่าเรื่องนี้ ให้มันกระจายไปไกลถึงสุดขอบโลกให้พูดว่า
    “พระยาห์เวห์ได้ไถ่ยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์แล้ว”
21 เมื่อพระองค์ได้นำพวกเขาผ่านทะเลทราย พวกเขาก็ไม่ขาดน้ำดื่ม
    พระองค์ให้น้ำไหลออกมาจากก้อนหินเพื่อพวกเขา
    พระองค์ได้ผ่าหินและน้ำก็ทะลักออกมา
22 แต่พระยาห์เวห์พูดว่า
    “ไม่มีสันติสุขสำหรับคนชั่วช้า”

งานของผู้รับใช้ของพระองค์

49 พวกเจ้าที่อยู่แถบชายฝั่งและหมู่เกาะต่างๆฟังเราให้ดี
    ชนชาติทั้งหลายที่มาจากแดนไกล ตั้งใจฟังให้ดี
พระยาห์เวห์ได้เรียกผมให้มารับใช้พระองค์ก่อนที่ผมจะเกิดเสียอีก
    พระองค์ตั้งชื่อให้ผม ตั้งแต่ผมยังอยู่ในท้องแม่
พระองค์ทำให้ปากของผมเหมือนกับดาบที่คมกริบ
    พระองค์ซ่อนและปกป้องผมไว้ใต้มือพระองค์
พระองค์ทำให้ผมเป็นเหมือนลูกธนูที่ขัดมัน
    พระองค์ซ่อนผมไว้ในซองธนูของพระองค์
พระองค์พูดกับผมว่า “อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
    เราจะได้รับเกียรติเพราะเจ้า”
แต่ผมคิดว่า “ผมได้ทำงานเหนื่อยเปล่า”
    ผมได้ทุ่มแรงไปจนหมด เสียแรงเปล่าๆไม่ได้อะไรซักอย่าง
แต่อย่างไรก็ตามพระยาห์เวห์จะให้สิ่งที่ผมสมควรจะได้รับอย่างแน่นอน
    และรางวัลของผมอยู่กับพระเจ้าของผม
พระยาห์เวห์ได้ปั้นผมในครรภ์ให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
    พระองค์ทำอย่างนี้เพื่อพระองค์จะได้นำครอบครัวของยาโคบกลับมาหาพระองค์ และเพื่อรวบรวมคนอิสราเอลกลับมาหาพระองค์
ผมจะได้รับเกียรติในสายตาของพระยาห์เวห์
    และพระเจ้าของผมได้เป็นพละกำลังของผมแล้ว

ตอนนี้พระยาห์เวห์พูดว่า “เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเราที่กำลังช่วยเราฟื้นฟูเผ่าต่างๆของยาโคบ
    และนำผู้รอดชีวิตของชนชาติอิสราเอลกลับมา
แค่นั้นยังน้อยเกินไป เราจะทำให้เจ้าเป็นแสงสว่างให้กับชนชาติต่างๆด้วย
    เพื่อความรอดของเราจะได้ไปถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”

พระยาห์เวห์พระผู้ไถ่และผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
    ได้พูดกับคนนั้นที่ถูกดูหมิ่นที่ชนชาติอื่นๆเกลียดชัง
    และที่เป็นทาสของผู้ครอบครองทั้งหลายอย่างนี้ว่า
“เมื่อพวกกษัตริย์เห็นเจ้า พวกเขาก็จะยืนขึ้นให้เกียรติเจ้า เมื่อพวกเจ้านายเห็นเจ้าก็จะโค้งคำนับเจ้า”
    เพราะพระยาห์เวห์องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ที่ได้เลือกเจ้ามานั้นรักษาคำสัญญาของพระองค์เสมอ

วันแห่งความรอด

พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ “ในเวลาที่เราแสดงความเมตตา เราจะตอบคำอธิษฐานของเจ้า
    ในวันแห่งความรอด เราจะช่วยเจ้าและปกป้องเจ้า
เราจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวกลางแห่งคำสัญญาที่เรามีกับมนุษย์
    เพื่อว่าเราจะได้ฟื้นฟูแผ่นดินขึ้นมาใหม่ และคืนแผ่นดินที่ถูกทำลายกลับไปให้เจ้าของเดิม
เราจะบอกกับพวกนักโทษว่า ‘ออกมาได้แล้ว’
    เราจะบอกกับคนเหล่านั้นที่อยู่ในความมืดว่า
    ‘โผล่ออกมาได้แล้ว’
พวกเขาจะเป็นเหมือนแกะที่กินไปตามทางเดิน
    และพวกเขาจะมีทุ่งหญ้าบนเนินเขาโล้นทั้งหลาย
10 พวกเขาจะไม่ขาดอาหารหรือน้ำ
    แสงแดดและลมร้อนของทะเลทรายจะไม่โจมตีพวกเขา
เพราะพระองค์ผู้ปลอบโยนพวกเขาจะนำหน้าพวกเขา
    และพระองค์จะนำทางพวกเขาไปถึงตาน้ำทั้งหลาย
11 เราจะทำให้ภูเขาทั้งหลายของเราแบนเป็นถนน
    และถมที่ต่ำขึ้นมาเป็นทางหลวงของเรา
12 ดูสิ จะมีบางคนมาจากแดนไกล
    จะมีบางคนมาจากทิศเหนือและทิศตะวันตก
    และจะมีบางคนมาจากทางภาคใต้ของอียิปต์”

13 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ร้องเพลงเถิด แผ่นดินโลกเอ๋ย ชื่นชมยินดีเถิด
    ภูเขาทั้งหลายเอ๋ย ระเบิดเป็นเสียงเพลงแห่งความชื่นชมยินดีเถิด
เพราะพระยาห์เวห์ได้ปลอบโยนคนของพระองค์
    และพระองค์จะให้ความรักกับคนของพระองค์ที่ทุกข์ยากลำบาก
14 แต่ศิโยน ได้พูดว่า
    “พระยาห์เวห์ทอดทิ้งฉัน องค์เจ้าชีวิตลืมฉัน”

15 พระยาห์เวห์พูดว่า “ผู้หญิงที่ให้นมลูก จะลืมลูกของเธอได้หรือ
    หรือ ผู้หญิงที่คลอดลูกออกมาจะไม่ให้ความรักต่อลูกของเธอ ได้หรือ
ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะลืมได้
    แต่เราจะไม่มีวันลืมเจ้า
16 ดูสิ เยรูซาเล็ม เราวาดเมืองของเจ้าลงบนฝ่ามือของเรา
    กำแพงของเจ้าอยู่ต่อหน้าต่อตาเราเสมอ
17 ลูกๆของเจ้ากำลังรีบกลับมาหาเจ้า
    และคนพวกนั้นที่พังทลายเจ้าและทำลายเจ้าก็จะจากเจ้าไป
18 ลืมตาขึ้นมามองไปรอบๆ
    พวกลูกหลานของเจ้ากำลังรวมตัวกันกลับมาหาเจ้า”
พระยาห์เวห์พูดว่า “เจ้ารู้ว่าเรามีชีวิตอยู่แน่ ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า
    เจ้าจะได้สวมใส่ลูกหลานของเจ้าเหมือนเครื่องเพชร
    หรือเหมือนกับเจ้าสาวที่สวมใส่เครื่องเพชร

19 เราได้ทำลายเจ้าและทำให้เจ้ากลายเป็นซากปรักหักพัง และรื้อเจ้าลงกับพื้น
    แต่ต่อไปนี้แผ่นดินของเจ้าก็จะแคบเกินไปแล้วสำหรับประชาชนมากมายของเจ้า
    และคนพวกนั้นที่เคยกลืนกินเจ้าก็อยู่ห่างไกล
20 และลูกๆของเจ้าที่เจ้าคิดว่าสูญเสียไปแล้ว
    วันหนึ่งพวกเขาจะกลับมาพูดใส่หูเจ้าว่า
‘ที่นี่แคบเกินไปสำหรับเราแล้ว
    หาที่ใหม่ให้พวกเราอยู่กันหน่อย’
21 แล้วเจ้าก็จะพูดกับตัวเองว่า
    ‘ใครกันนะที่คลอดเด็กพวกนี้มาให้กับข้า
ข้าได้สูญเสียลูกของข้าไป และข้าเป็นหมัน
    ข้าถูกขับไล่ออกจากแผ่นดินของข้า
ข้าถูกสามีทิ้ง
    อย่างนั้น ใครได้เลี้ยงเด็กๆพวกนี้ขึ้นมา
ข้าถูกทิ้งไว้ตัวคนเดียว
    แล้วนี่ เด็กๆพวกนี้มาจากไหนกัน’”

22 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูด “เราจะยกมือของเราขึ้นเป็นสัญญาณให้กับชนชาติต่างๆ
    เราจะยกธงของเราขึ้นให้คนเห็น
และพวกเขาก็จะอุ้มพวกลูกชายของเจ้ามาในอ้อมอกของเขา
    และพวกเขาก็จะแบกพวกลูกสาวของเจ้าไว้บนบ่า
23 พวกกษัตริย์จะสอนพวกลูกๆของเจ้า
    พวกราชินีของพวกเขาก็จะดูแลลูกๆของเจ้า
พวกเขาจะก้มหน้ากราบลงถึงพื้นต่อหน้าเจ้า
    และพวกเขาก็จะเลียฝุ่นที่เท้าของเจ้า
แล้วเจ้าก็จะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
    คนพวกนั้นที่ไว้วางใจในเราจะไม่มีวันผิดหวัง”

24 จะแย่งของที่ยึดมาได้จากทหารได้หรือ
    หรือจะไปช่วยกู้เชลยจากผู้ก่อการร้ายได้หรือ
25 พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้ “ได้สิ ของที่ยึดมาได้จะถูกแย่งไปจากผู้ก่อการร้าย
    และเชลยก็จะได้รับการช่วยกู้จากทหาร
เพราะเราจะต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ต่อสู้กับเจ้า
    และเราจะช่วยกู้ลูกๆของเจ้า
26 เราจะทำให้พวกที่กดขี่เจ้าต้องกินเนื้อตัวเอง
    และเมาเลือดของตัวเองเหมือนดื่มเหล้าองุ่น
และทุกคนจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์ พระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า
    พระผู้ไถ่ของเจ้า ผู้มีฤทธิ์อำนาจของยาโคบ”

1 เธสะโลนิกา 4

ชีวิตที่พระเจ้าพอใจ

พี่น้องครับ เรายังมีเรื่องอื่นที่จะบอก ตามที่เราได้สอนคุณแล้วว่า ให้ใช้ชีวิตอย่างไร พระเจ้าถึงจะชอบใจเรา คุณก็กำลังทำอย่างนี้อยู่แล้วในเวลานี้ พวกเราขอร้องและขอปลุกใจพวกคุณในนามของพระเยซูเจ้า ให้ทำแบบนี้มากยิ่งขึ้น คุณก็รู้อยู่แล้วว่า เราได้สั่งอะไรไว้กับคุณบ้างด้วยสิทธิอำนาจของพระเยซูเจ้า พระเจ้าต้องการให้พวกคุณบริสุทธิ์ และอยู่ห่างจากความผิดบาปทางเพศ ให้แต่ละคนหาภรรยาของตัวเองมาในทางที่บริสุทธิ์และมีเกียรติ[a] ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในราคะตัณหา เหมือนกับคนนอกศาสนาที่ไม่รู้จักพระเจ้าทำกัน อย่าเอาเปรียบหรือทำบาปต่อพี่น้องด้วยการเป็นชู้กับภรรยาเขา เพราะพวกเราได้บอกและเตือนคุณไปแล้วว่าองค์เจ้าชีวิตจะลงโทษคนที่ทำเรื่องพวกนี้ พระเจ้าไม่ได้เรียกให้พวกเรามาเป็นคนสกปรกลามก แต่เรียกให้พวกเรามาเป็นคนบริสุทธิ์สำหรับพระองค์ ดังนั้นคนที่ปฏิเสธคำสอนนี้ ก็ไม่ได้ปฏิเสธมนุษย์ แต่ได้ปฏิเสธพระเจ้าผู้ที่มอบพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ให้กับคุณ

ส่วนเรื่องที่จะรักพี่น้องนั้น พวกเราไม่จำเป็นต้องเขียนถึงเลย เพราะเป็นพระเจ้าเองที่ได้สอนให้พวกคุณรักซึ่งกันและกันอยู่แล้ว 10 แน่นอน พวกคุณรักพี่น้องทุกคนทั่วทั้งมาซิโดเนีย แต่พี่น้องครับ เราขอหนุนใจให้คุณรักกันมากขึ้นเรื่อยๆ

11 ให้ตั้งเป้าไว้เลยว่า จะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ยุ่งแต่เรื่องของตัวเอง ลงมือทำงานด้วยตัวเอง เหมือนกับที่เราได้บอกไว้แล้ว 12 ถ้าคุณทำอย่างนี้ คนภายนอกก็จะเคารพนับถือชีวิตของคุณ และคุณจะได้ไม่ต้องไปพึ่งพาใครเลย

องค์เจ้าชีวิตกำลังจะมา

13 เราอยากให้พี่น้องเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับคนที่ล่วงลับไปแล้ว คุณจะได้ไม่เศร้าโศกเสียใจเหมือนกับคนอื่นๆที่ไม่มีความหวัง 14 ถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูตายไปแล้วและได้ฟื้นขึ้นมาอีก เราก็ต้องเชื่อว่า พระเจ้าจะนำผู้เชื่อเหล่านั้นที่ได้ตายไปแล้วกลับมาพร้อมกับพระเยซู โดยทางพระเยซู 15 เรื่องที่พวกเราจะบอกคุณต่อไปนี้ องค์เจ้าชีวิตเป็นผู้พูดเอง คือว่าในวันนั้นตอนที่องค์เจ้าชีวิตมา พวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่จะไม่ได้เปรียบคนพวกนั้นที่ตายไปแล้วหรอก 16 เพราะเมื่อคนได้ยินคำสั่งอันดังกึกก้องของหัวหน้าทูตสวรรค์ และเสียงเป่าแตรของพระเจ้าดังขึ้น องค์เจ้าชีวิตเองก็จะลงมาจากสวรรค์ และบรรดาคนที่ได้ตายไปแล้วในพระคริสต์ จะฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาก่อน 17 หลังจากนั้นพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ก็จะถูกนำตัวขึ้นไปในเมฆพร้อมๆกับคนเหล่านั้น เพื่อไปพบกับองค์เจ้าชีวิตบนท้องฟ้า และพวกเราก็จะได้อยู่กับพระองค์ตลอดไป 18 ขอให้พูดเรื่องนี้เพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International