Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 23-25

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับเมืองไทระและดินแดนฟีนีเซีย

23 นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับเมืองไทระ

เรือบรรทุกทั้งหลายของทารชิช เอ๋ย
    ร้องไห้คร่ำครวญซะ
เพราะท่าจอดเรือของเจ้าถูกทำลายหมดแล้ว
    พวกเขาได้ข่าวเรื่องนี้ในระหว่างที่มาจากแผ่นดินไซปรัส
พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่ง คร่ำครวญซะ
    พ่อค้าของเมืองไซดอนเคยข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำให้เจ้าร่ำรวย
ข้าวสาลีแห่งเมืองชิโหร์ในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ส่งมาทางเรือผ่านทะเลอันกว้างใหญ่
    รายได้ของเมืองไทระมาจากการเก็บเกี่ยวจากแถบลุ่มแม่น้ำไนล์
    และไทระก็ได้กลายเป็นตลาดการค้าของชนชาติต่างๆ
ไซดอนเอ๋ย เจ้าควรจะอับอาย
ป้อมปราการของทะเลเอ๋ย
    ทะเลได้พูดกับเจ้าว่า
    “ข้าไม่เคยเจ็บปวดคลอดลูก ข้าไม่เคยคลอดลูก
    ข้าไม่เคยเลี้ยงลูกจนเป็นหนุ่ม ข้าไม่เคยเลี้ยงลูกจนเป็นสาว”

เมื่อข่าวพวกนั้นมาถึงอียิปต์
    พวกเขาจะเป็นทุกข์เพราะข่าวที่เกี่ยวกับเมืองไทระนั้น
พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเล
    ให้ร้องไห้คร่ำครวญและให้ขึ้นเรือหนีไปเมืองทารชิชเถิด
นี่หรือเมืองไทระที่เคยเป็นเมืองที่พวกเจ้าภูมิใจนักหนาซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาช้านานแล้ว
    เป็นเมืองที่เคยส่งคนไปสร้างอาณานิคมทั้งหลายในแดนไกล
ไทระเคยมีอำนาจแต่งตั้งพวกกษัตริย์ได้
    พวกนักธุรกิจของไทระเคยได้รับการยกย่องอย่างกับเป็นเจ้าชาย
    พวกพ่อค้าของไทระเคยเป็นพวกที่ได้รับเกียรติมากที่สุดในโลก
ใครได้บังอาจวางแผนต่อต้านเมืองไทระอย่างนี้
พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นเป็นผู้วางแผนนี้เอง
    เพื่อทำลายความหยิ่งในศักดิ์ศรีทั้งหมดของมัน
    เพื่อทำให้ผู้มีเกียรติทุกคนในโลกขายหน้าไป
10 พวกเรือทั้งหลายของทารชิชเอ๋ย
    ข้ามกลับไปยังแผ่นดินของเจ้าได้แล้ว
    เจ้าจะมาใช้ที่นี่เป็นท่าเรือไม่ได้อีกแล้ว[a]
11 พระองค์ได้ยื่นมือของพระองค์ออกเหนือทะเล
    พระองค์เขย่าอาณาจักรต่างๆ
พระยาห์เวห์ออกคำสั่งให้ทำลายพวกป้อมปราการของคานาอัน[b]
12 พระองค์พูดว่า
“ไซดอนสาวพรหมจรรย์เอ๋ย เจ้าจะถูกข่มขืน
    เจ้าจะไม่ชื่นชมยินดีอีกต่อไป
ลุกขึ้น ไปที่ไซปรัสสิ
    แต่ที่นั่นก็จะไม่มีที่ให้เจ้าหยุดพักเหมือนกัน”
13 ดูแผ่นดินของคนบาบิโลนสิ เป็นชนชาตินี้แหละ ไม่ใช่คนอัสซีเรีย
    ที่ทำให้ไทระเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า
พวกเขาก่อเนินดินขึ้นมาบุกโจมตีป้อมปราการ
    พวกเขารื้อวังต่างๆทิ้งไป พวกเขาทำให้มันกลายเป็นซากปรักหักพัง
14 เรือบรรทุกทั้งหลายของทารชิชเอ๋ย ร้องไห้คร่ำครวญซะ
    เพราะท่าจอดเรือของเจ้าถูกทำลายหมดแล้ว

15 ในเวลานั้น ไทระจะถูกลืมไปเป็นเวลาเจ็ดสิบปี

นานเท่ากับชั่วชีวิตของกษัตริย์หนึ่งองค์ พอจบเจ็ดสิบปีนั้นแล้ว ไทระก็จะเป็นเหมือนโสเภณีในเพลงที่ร้องว่า

16 “หญิงโสเภณีที่ถูกลืมเอ๋ย
    เอาพิณขึ้นมาและเดินไปให้ทั่วเมือง
เล่นพิณนั้นให้เพราะๆร้องเพลงหลายๆเพลง
    เพื่อผู้ชายจะได้จดจำเจ้าได้”

17 เมื่อเจ็ดสิบปีนั้นจบไปแล้ว พระยาห์เวห์ก็จะมาฟื้นฟูเมืองไทระ แล้วไทระก็จะกลับมาค้าขายอีก และเธอก็จะขายตัวให้กับอาณาจักรทุกแห่งบนแผ่นดินโลกนี้ 18 แต่ว่าสินค้าและรายได้ของหล่อน หล่อนจะถวายให้กับพระยาห์เวห์ หล่อนจะไม่ได้เก็บสะสมกำไรของหล่อนเอาไว้ใช้เอง แต่สินค้าของหล่อนจะกลายเป็นอาหารอย่างเหลือเฟือ และเสื้อผ้าอย่างดีสำหรับพวกนักบวชที่อยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์

พระเจ้าจะลงโทษอิสราเอล

24 ดูสิ พระยาห์เวห์กำลังจะทำลายโลกนี้แล้วและปล่อยให้มันรกร้างว่างเปล่า
    พระองค์จะทำให้พื้นผิวโลกบิดเบี้ยวไปและทำให้พลเมืองของมันกระจัดกระจายไป
เรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับทุกคนเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไปหรือนักบวช
    ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือเจ้านาย
    ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้หรือนายผู้หญิง
ไม่ว่าจะเป็นคนซื้อหรือคนขาย
    ไม่ว่าจะเป็นคนยืมหรือคนให้ยืม
    ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้
โลกจะถูกทำลายลงอย่างราบคาบทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกปล้นไปจนเกลี้ยง
    เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนี้
โลกก็จะแห้งแล้งและเหี่ยวเฉาไป
    โลกก็จะอ่อนกำลังลงและเหี่ยวเฉาไป
    ฟ้าสวรรค์ก็จะอ่อนแอไปพร้อมกับโลก
ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกได้ทำให้แผ่นดินแปดเปื้อนไปในสายตาพระเจ้า
    พวกเขาได้ฝ่าฝืนกฎต่างๆและละเมิดคำสั่งทั้งหลาย
    และหักทิ้งคำมั่นสัญญานิรันดร์ที่เขากับพระเจ้ามีต่อกัน
เพราะอย่างนั้น โลกก็ถูกคำสาปกลืนกิน
    และคนที่อาศัยอยู่ในโลกก็ถูกลงโทษเพราะความผิดของพวกเขา
ดังนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกจึงได้ร่อยหลอไป เหลือไม่กี่คน
เหล้าองุ่นใหม่ก็เศร้าโศกเสียใจ
    เถาองุ่นก็อ่อนแอไป
    ทุกคนที่เคยร่าเริงก็ครวญคราง
การเฉลิมฉลองกันด้วยกลองได้หยุดไป
    เสียงของคนที่ดีอกดีใจก็ไม่มีอีกแล้ว
    การเฉลิมฉลองด้วยพิณก็ได้หยุดไป
พวกเขาไม่ดื่มเหล้าองุ่นพร้อมกับร้องเพลงอีกแล้ว
    รสชาติเบียร์ก็ขมเกินไปสำหรับคนที่ดื่มมัน
10 เมืองแตกกระจายและสับสนอลหม่านไป
    บ้านทุกหลังก็ปิดไม่ให้คนเข้า
11 ตามท้องถนนก็มีเสียงร้องเพราะขาดเหล้าองุ่นดื่ม
    ความสนุกสนานได้จางหายไป
    ความยินดีของโลก[c]ถูกกวาดต้อนไป
12 ในเมืองไม่เหลืออะไรเลยนอกจากความรกร้างว่างเปล่า
    ประตูเมืองก็โดนกระหน่ำซะเละไปหมด
13 มันจะเป็นอย่างนี้ในศูนย์กลางของโลก[d]
    ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
    จะเป็นเหมือนตอนที่กิ่งต้นมะกอกถูกตีไปแล้วในช่วงเก็บเกี่ยว
    หรือตอนที่เหลือองุ่นไม่กี่ลูกตอนที่ฤดูเก็บเกี่ยวองุ่นผ่านไปแล้ว

14 คนที่เหลือเหล่านั้นตะโกนเสียงดัง
    พวกเขาร้องสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์อย่างมีความสุข พวกเขาร้องว่า
15 “ตะโกนจากตะวันตก เฉลิมฉลองในทางตะวันออกถวายเกียรติให้กับพระยาห์เวห์
    ที่แถบชายฝั่งทะเลถวายเกียรติให้กับชื่อของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล”

16 พวกเราได้ยินเสียงเพลงจากที่สุดปลายโลกว่า
    “ถวายเกียรติให้กับพระองค์ผู้สัตย์ซื่อนั้น”
แต่ผมพูดว่า “ผมกำลังจะตาย ผมกำลังจะตาย
    ผมรู้สึกอับอายขายหน้า
เพราะพวกที่ทรยศไม่สัตย์ซื่อ
    พวกทรยศ ไม่สัตย์ซื่อเลย”

17 คนที่อาศัยอยู่ในโลกเอ๋ย
    ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องตื่นตระหนกตกใจ ตกหลุมพรางและติดตาข่ายแล้ว
18 คนที่วิ่งหนีเสียงที่น่าตกใจกลัวก็จะตกลงไปในหลุมพราง
    และคนที่ปีนขึ้นมาจากหลุมพรางก็จะติดตาข่ายอีก
เพราะพวกช่องสวรรค์ทั้งหลายถูกเปิดเทน้ำลงมา
    และรากฐานต่างๆของโลกก็สั่นสะเทือน
19 โลกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    โลกฉีกเป็นชิ้นๆ
    โลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
20 โลกส่ายโซเซเหมือนคนเมา
    และมันเอนเอียงไปมาเหมือนเพิงใต้พายุ
มันแบกความผิดของมันไว้จนหนักอึ้ง
    และมันก็ล้มลงและจะไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีก

ชัยชนะของพระยาห์เวห์

21 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์จะลงโทษพวกพระแห่งดวงดาวบนสวรรค์เบื้องบน
    และพวกกษัตริย์ในโลกเบื้องล่าง
22 และพวกเขาจะถูกรวบรวมเหมือนกับนักโทษในหลุม
    พวกเขาจะถูกขังไว้ในคุก
    และหลังจากนั้นอีกหลายวันพวกเขาก็จะถูกลงโทษ
23 พระจันทร์จะได้รับความอับอาย
    พระอาทิตย์จะถูกทำให้ขายหน้า
เพราะพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะปกครองเป็นกษัตริย์บนภูเขาศิโยนในเมืองเยรูซาเล็ม
    และสง่าราศีของพระองค์จะปรากฏต่อหน้าพวกผู้อาวุโสของเมืองนั้น

เพลงสรรเสริญพระเจ้า

25 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เป็นพระเจ้าของผม
    ผมจะยกย่องพระองค์และสรรเสริญพระนามของพระองค์
เพราะสิ่งน่าทึ่งทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำ
    พระองค์ได้วางแผนพวกมันมานานแล้วและพวกมันก็เกิดขึ้นจริงตามนั้น
พระองค์ทำให้เมืองกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
    พระองค์ทำลายเมืองที่มีป้อมปราการลง
ป้อมปราการของคนต่างชาติก็ไม่เป็นเมืองอีกต่อไป
    และมันจะไม่มีวันถูกสร้างขึ้นมาอีกแล้ว
ดังนั้น พวกชนชาติเข้มแข็งจึงถวายเกียรติให้กับพระองค์
    พวกเมืองต่างๆของชนชาติที่โหดเหี้ยมทั้งหลายจะยำเกรงพระองค์
เพราะพระองค์ได้เป็นที่หลบภัยสำหรับคนจน
    เป็นที่หลบภัยสำหรับคนที่ขัดสนเมื่อเขาเดือดร้อน
    เป็นที่กำบังจากพายุ และเป็นร่มเงากันความร้อน
เมื่อคนโหดเหี้ยมโหมพัดเข้าใส่เหมือนกับพายุในหน้าหนาว
หรือเหมือนกับความร้อนในที่แห้งแล้ง
    พระองค์หยุดเสียงเอะอะของพวกคนต่างชาติพวกนี้ลง
พระองค์ดับเสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะของคนเหี้ยมโหดลง
    เหมือนกับที่เมฆดับความร้อนลง

พระยาห์เวห์จะจัดงานเลี้ยงให้กับพวกผู้รับใช้ของพระองค์

บนภูเขานี้ พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะจัดงานเลี้ยงให้กับทุกชนชาติ
    เป็นงานเลี้ยงที่มีอาหารเลิศรสและเหล้าองุ่นที่บ่มมาอย่างดี
    มีเนื้อที่นุ่มนวลและเหล้าองุ่นที่กรองตะกอนแล้ว
และบนภูเขานี้พระองค์จะทำลายผ้าที่คลุมหน้าคนทั้งหลาย
    ผ้าทอที่ครอบคลุมอยู่เหนือทุกชนชาติ
พระองค์จะกลืนกินความตายตลอดไปและพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะเช็ดน้ำตาจากทุกๆใบหน้า
    และพระองค์จะขจัดความอับอายที่คนของพระองค์ได้รับให้หายไปจากทั้งโลก
    เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนั้น

ในเวลานั้นผู้คนจะพูดว่า
    “ดูสิ นี่คือพระเจ้าของเรา
เรารอคอยพระองค์
    และพระองค์ก็ได้มาช่วยกู้พวกเราแล้ว
นี่แหละพระยาห์เวห์ผู้ที่พวกเราได้ตั้งตารอคอย
    ขอให้พวกเราชื่นชมยินดีและมีความสุขเมื่อพระองค์มาช่วยกู้พวกเรา”
10 เพราะมือของพระองค์จะวางปกป้องอยู่บนภูเขาของพระองค์
    แต่พวกชาวโมอับจะถูกเหยียบย่ำลงในที่ของพวกเขานั้น เหมือนกับฟางที่ถูกเหยียบย่ำลงในกองขี้
11 และพวกชาวโมอับก็จะกางแขนของพวกเขาในกองขี้นั้นเหมือนกับนักว่ายน้ำกางแขนออกว่ายน้ำ
    พระยาห์เวห์จะกดความหยิ่งจองหองของพวกเขาลง ถึงแม้จะมีฝีมือเก่งกาจแค่ไหนก็ตาม
12 ชาวโมอับ พระองค์จะรื้อป้อมปราการที่สูงใหญ่ของพวกเจ้า
    ทำให้มันพังลง โยนลงกับพื้น คลุกฝุ่นไปเลย

ฟีลิปปี 1

จากเปาโลและทิโมธี พวกทาสของพระเยซูคริสต์

ถึงคนของพระเจ้าทุกคนที่มีส่วนร่วมในพระเยซูคริสต์ในเมืองฟีลิปปี รวมทั้งพวกผู้ดูแล และพวกผู้รับใช้พิเศษ[a]

ผมขอพระเจ้าพระบิดาของเราและพระเยซูคริสต์เจ้าให้ความเมตตาและให้สันติสุขกับพวกคุณด้วยเถิด

คำอธิษฐานของเปาโล

ผมขอบคุณพระเจ้าของผมทุกครั้งที่ผมคิดถึงพวกคุณ ผมดีใจตลอดเวลาที่ผมอธิษฐานขอพระเจ้าให้กับคุณทุกคน ผมดีใจเพราะพวกคุณได้ร่วมประกาศข่าวดีกับผม ตั้งแต่วันแรกที่คุณเชื่อจนถึงเดี๋ยวนี้ พระเจ้าได้เริ่มต้นการงานที่ดีในพวกคุณ และผมแน่ใจว่าพระองค์จะทำงานนี้ต่อไปจนกว่าจะสำเร็จในวันที่พระเยซูคริสต์กลับมา

สมควรแล้วที่ผมจะคิดอย่างนี้กับพวกคุณทุกคน เพราะคุณอยู่ในใจผม เพราะคุณคอยสนับสนุนงานของพระเจ้าที่พระองค์ให้ผมทำ ทั้งเวลาที่ผมติดคุกอยู่และเวลาที่ผมแก้ตัวเพื่อพระองค์และพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับข่าวดีนี้ พระเจ้าเป็นพยานได้ ผมคิดถึงพวกคุณทุกคนมากๆ ผมรักคุณเหมือนกับที่พระเยซูคริสต์รักคุณ

ผมอธิษฐานขอพระเจ้าให้คุณมีความรักอย่างเปี่ยมล้น ด้วยความรู้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเข้าใจว่าจะทำอย่างไรในทุกๆสถานการณ์ 10 เพื่อคุณจะได้เลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุด และจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ ไม่มีความผิดบาปในวันที่พระคริสต์กลับมา 11 คุณจะได้เต็มไปด้วยความดีงามที่มาจากฤทธิ์อำนาจที่พระเยซูคริสต์ให้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อพระเจ้าจะได้รับเกียรติและคำสรรเสริญ

ปัญหาของเปาโลในการประกาศ

12 พี่น้องครับ ผมอยากให้คุณรู้ว่าเหตุการณ์ร้ายที่ได้เกิดขึ้นกับผมนี้ ความจริงแล้วได้ช่วยทำให้ข่าวดีแพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวางมากขึ้น 13 ตอนนี้ ทหารรักษาวังของจักรพรรดิโรมัน รวมทั้งคนอื่นๆทุกคนที่นี่รู้ว่าผมถูกล่ามโซ่อยู่นี้ก็เพื่อพระคริสต์ 14 นอกจากนั้นการที่ผมติดคุกทำให้พี่น้องส่วนใหญ่ที่นี่พึ่งความช่วยเหลือขององค์เจ้าชีวิตมากขึ้น พวกเขามีใจกล้ามากขึ้นที่จะประกาศเรื่องพระคริสต์อย่างไม่กลัวใคร

15 จริงอยู่บางคนประกาศเรื่องของพระคริสต์ เพราะอิจฉาและอยากชิงดีชิงเด่น แต่ก็มีคนที่ประกาศเพราะความหวังดีด้วยเหมือนกัน 16-17 พวกแรกนั้นประกาศเพราะอยากชิงดีชิงเด่นกับผม และเพราะมีความตั้งใจที่ไม่ดี คือพวกเขาคิดว่าจะเพิ่มความทุกข์ให้กับผมในระหว่างที่ผมยังติดคุกอยู่ แต่คนอื่นๆนั้นประกาศเพราะความรัก พวกเขารู้ว่าพระเจ้าให้ผมอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องข่าวดีอันนั้น

18 อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะทำเพราะมีแรงจูงใจที่ผิดหรือทำเพราะหวังดี สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเรื่องพระคริสต์ก็ได้ประกาศออกไปอยู่ดี ซึ่งทำให้ผมดีใจ ใช่แล้ว ผมจะยังดีใจต่อไปอีก 19 เพราะรู้ว่าทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้นกับผมนี้จะนำผมไปถึงความรอดโดยคำอธิษฐานของคุณและโดยพระวิญญาณของพระเยซูคริสต์ที่พระเจ้าได้ให้กับผม 20 ซึ่งตรงกับสิ่งที่ผมคาดหวังอย่างยิ่งว่า ผมจะไม่ต้องอับอายในเรื่องอะไรเลย แต่จะกล้าหาญมาก (เหมือนกับที่เคยกล้าหาญมาตลอด) และพระเยซูคริสต์จะได้รับเกียรติเพราะตัวผม ไม่ว่าผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือจะตายก็ตาม 21 ในความคิดของผม จะอยู่ก็อยู่เพื่อพระคริสต์ ถ้าจะตายก็ถือว่าได้กำไร[b] 22 แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมก็จะทำงานให้เป็นประโยชน์ ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี 23 สองทางนี้มันเลือกยากมาก จริงๆแล้วผมอยากจะตายและไปอยู่กับพระคริสต์ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ดีกว่ามาก 24 แต่มันจะดีกว่าสำหรับพวกคุณ ที่ผมจะอยู่ในร่างนี้ต่อไป 25 เมื่อผมมั่นใจอย่างนี้ ผมจึงรู้ว่าผมจะอยู่ต่อไปเพื่อช่วยคุณทุกคนให้เจริญขึ้นและมีความสุขกับความเชื่อที่คุณมี 26 ดังนั้น คุณก็จะยกย่องพระเยซูคริสต์เพราะเรื่องของผม เมื่อผมกลับมาอยู่กับคุณอีกครั้งหนึ่ง

27 แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ให้ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสอดคล้องกับข่าวดีของพระคริสต์ แล้วไม่ว่าผมจะมาเจอคุณหรือแค่ได้ฟังข่าวคราวของคุณ ผมจะได้รู้ว่าคุณได้ตั้งมั่นคงอยู่ในพระวิญญาณองค์เดียวกัน และได้ต่อสู้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อความเชื่อที่เกิดมาจากข่าวดีนั้น 28 แล้วคุณก็จะไม่กลัวคนที่ต่อต้านคุณเลยสักนิดเดียว เพราะความเป็นหนึ่งเดียวและความกล้าของคุณ จะทำให้เห็นว่าพวกมันจะถูกทำลาย แต่พวกคุณจะได้รับความรอด ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากพระเจ้า 29 ที่ผมพูดอย่างนี้เพราะพระเจ้าไม่ได้ให้คุณมีสิทธิ์แค่มาเชื่อในพระคริสต์เท่านั้น แต่ให้มาทนทุกข์เพื่อพระองค์ด้วย 30 ตอนนี้พวกคุณกำลังต่อสู้ เหมือนกับที่คุณเคยเห็นผมต้องต่อสู้มาก่อน และยังได้ยินอีกว่าผมก็กำลังต่อสู้อยู่เดี๋ยวนี้ด้วย

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International