Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อพยพ 29-30

คำสั่งต่างๆเรื่องการแต่งตั้งนักบวช

(ลนต. 8:1-36)

29 นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องทำให้กับพวกเขา ที่จะทำให้พวกเขาศักดิ์สิทธิ์ เพื่อพวกเขาจะสามารถเป็นนักบวชให้กับเรา ให้เอาวัวตัวผู้หนึ่งตัว และแกะตัวผู้สองตัวที่ไม่มีตำหนิอะไรเลย ขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟู พวกขนมปังคลุกน้ำมันที่ไม่ใส่เชื้อฟู และขนมปังบางๆที่ไม่ใส่เชื้อฟูทาด้วยน้ำมัน เจ้าต้องเอาแป้งสาลีอย่างดีมาทำขนมพวกนี้ ให้เอาขนมพวกนี้ใส่ในตะกร้า และเอาตะกร้าใบนี้ไปพร้อมกับวัวตัวผู้และแกะสองตัว

ให้เจ้านำตัวอาโรนและพวกลูกชายของเขาไปที่ประตูของเต็นท์นัดพบ และเอาน้ำมาชำระตัวพวกเขา เจ้าต้องเอาเสื้อผ้ามาแต่งตัวให้กับอาโรน ให้เขาใส่เสื้อคลุม ใส่เสื้อชุดยาวของเอโฟด เอโฟด และถุงผ้าทับอก ให้เจ้าเอาผ้าคาดเอวที่ปักลวดลายมาผูกเอโฟดบนตัวเขา แล้วพันผ้าโพกหัวบนหัวเขา และสวมมงกุฎศักดิ์สิทธิ์ไว้บนผ้าโพกหัวของเขา ให้เจ้าเอาน้ำมันสำหรับเจิม มาเทบนหัวเขา และเจิมเขา

ให้เจ้านำพวกลูกชายของอาโรนมา และเอาเสื้อคลุมไปแต่งตัวให้กับพวกเขา ผูกผ้าคาดเอวให้กับอาโรนและพวกลูกชายของเขา และพันผ้าโพกหัวให้กับพวกเขา หลังจากนั้นแล้ว พวกเขาจะได้เป็นนักบวช ตามกฎที่จะใช้ตลอดไป และนี่คือวิธีที่เจ้าจะใช้แต่งตั้งอาโรนกับพวกลูกชายของเขา

10 เจ้าต้องนำวัวตัวผู้ตัวนั้น มาไว้หน้าเต็นท์นัดพบ อาโรนกับพวกลูกชายของเขา จะวางมือลงบนหัวของวัวตัวนั้น 11 และเจ้าต้องฆ่าวัวตัวนั้นต่อหน้าพระยาห์เวห์ตรงประตูเต็นท์นัดพบ 12 ต่อจากนั้นเจ้าต้องเอาเลือดของมันบางส่วนไปที่แท่นบูชา แล้วเอานิ้วของเจ้าจุ่มเลือดมาทาบนเชิงงอนของแท่นบูชา และเทเลือดส่วนที่เหลือลงที่ฐานของแท่นบูชา 13 แล้วเจ้าก็เอาไขมันทั้งหมดที่ติดอยู่กับเครื่องใน ตับ ไตทั้งสองข้าง และไขมันรอบๆมัน ไปเผาบนแท่นบูชา 14 ส่วนเนื้อกับหนังและขี้ของมันให้เอาไปเผานอกค่าย มันเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง

15 เจ้าต้องเอาแกะตัวแรกมาให้อาโรนและพวกลูกชายของเขาวางมือลงบนหัวของมัน 16 แล้วให้เจ้าฆ่าแกะตัวนั้น นำเลือดของมันไปพรมรอบๆแท่นบูชาให้ทั่ว 17 เจ้าต้องหั่นแกะตัวนั้นเป็นชิ้นๆ เจ้าต้องล้างเครื่องในและขาของมัน แล้วเอาไปวางรวมไว้กับส่วนอื่นๆ รวมทั้งหัวของมัน 18 แล้วเผาแกะตัวนั้นทั้งตัวบนแท่นบูชา มันเป็นเครื่องเผาบูชาให้กับพระยาห์เวห์ อันมีกลิ่นหอมเป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ 19 ให้เจ้าเอาแกะตัวที่สองมา แล้วให้อาโรนกับพวกลูกๆของเขาวางมือลงบนหัวของแกะตัวนั้น 20 ให้เจ้าฆ่าแกะตัวนั้น แล้วเอาเลือดของมันบางส่วน มาป้ายที่ติ่งหูข้างขวาของอาโรนกับพวกลูกชายของเขา และป้ายลงที่หัวแม่มือข้างขวา กับหัวแม่เท้าข้างขวาของพวกเขา แล้วนำเลือดไปพรมรอบๆแท่นบูชาให้ทั่ว 21 ให้เจ้าเอาเลือดบางส่วนบนแท่นบูชาและน้ำมันสำหรับเจิม พรมลงบนตัวอาโรนและบนเสื้อผ้าของเขา บนตัวพวกลูกชายของเขา และบนเสื้อผ้าของพวกเขา วิธีนี้จะทำให้อาโรนพร้อมกับพวกลูกชายของเขาและเสื้อผ้าของพวกเขาศักดิ์สิทธิ์

22 ให้เจ้าเอาไขมันของแกะ และไขมันส่วนหาง ไขมันที่ติดอยู่กับเครื่องใน ตับ ไตสองข้าง ไขมันส่วนอื่นๆและขาข้างขวามา เพราะมันคือแกะที่จะใช้ในการแต่งตั้งอาโรน 23 ให้เอาขนมปังหนึ่งก้อน ขนมปังคลุกน้ำมันหนึ่งแผ่น ขนมปังแผ่นบางๆหนึ่งชิ้น จากตะกร้าขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟู ที่วางอยู่ตรงหน้าพระยาห์เวห์ 24 เจ้าต้องเอาของทั้งหมดนี้ มาใส่ไว้ในมือของอาโรนและพวกลูกชายของเขา และให้เจ้ายื่นพวกมันขึ้น เหมือนกับเครื่องยื่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์ 25 แล้วเจ้าค่อยเอาพวกมันมาจากมือของพวกเขา แล้วเอาไปเผาบนแท่นบูชา พร้อมกับแกะที่เป็นเครื่องเผาบูชานั้น เป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์

26 ให้เจ้าเอาส่วนอกของแกะที่ใช้ในการแต่งตั้งอาโรน มายื่นเป็นเครื่องยื่นบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ มันจะเป็นส่วนแบ่งของเจ้า 27 เจ้าต้องเอาเนื้อส่วนอกและส่วนขาของแกะ ที่ใช้ในการแต่งตั้งอาโรน มาเป็นเครื่องยื่นบูชาให้กับเรา ให้เจ้าทำให้พวกมันศักดิ์สิทธิ์ และมอบทั้งสองส่วนนั้นให้กับอาโรนและพวกลูกชายของเขา 28 เนื้อแกะส่วนนี้จะเป็นส่วนแบ่งของอาโรนและพวกลูกชายของเขาจากประชาชนชาวอิสราเอลตลอดไป เพราะมันเป็นส่วนที่ประชาชนชาวอิสราเอลเอามาถวาย เป็นเครื่องสังสรรค์บูชา เป็นส่วนที่พวกเขาถวายให้กับพระยาห์เวห์

29 ชุดศักดิ์สิทธิ์ของอาโรน ก็จะตกเป็นของลูกชายคนต่อๆไปของเขาที่จะได้รับการเจิมและแต่งตั้งให้เป็นนักบวช 30 ลูกชายของอาโรน คนที่มาแทนเขา ก็จะสวมเสื้อนี้เป็นเวลาเจ็ดวัน เมื่อเขาเข้ามาในเต็นท์นัดพบเพื่อรับใช้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

31 เจ้าต้องเอาเนื้อแกะที่ใช้ในการแต่งตั้ง ไปต้มในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 32 อาโรนกับพวกลูกชายของเขา ต้องกินเนื้อแกะนี้ กับขนมปังที่อยู่ในตะกร้าที่ประตูของเต็นท์นัดพบ 33 พวกเขาจะกินของบูชาเหล่านั้น ที่ถวายเพื่อกำจัดบาปและความไม่บริสุทธิ์ของพวกเขา เพื่อจะแต่งตั้งพวกเขาและทำให้พวกเขาบริสุทธิ์ คนนอกห้ามกิน เพราะเป็นอาหารที่ศักดิ์สิทธิ์ 34 ถ้ามีเนื้อแกะที่ใช้ในการแต่งตั้งกับขนมปังเหล่านั้น เหลืออยู่จนถึงวันรุ่งขึ้น เจ้าต้องเอาไปเผาไฟทิ้งให้หมด อย่าเอามากินอีก เพราะมันเป็นของศักดิ์สิทธิ์

35 ให้ทำกับอาโรนและพวกลูกชายของเขา ตามที่เราสั่ง พิธีแต่งตั้งพวกเขาเป็นนักบวชจะมีขึ้นเจ็ดวัน 36 ในเจ็ดวันนี้ เจ้าต้องฆ่าวัววันละหนึ่งตัว สำหรับเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เพื่อชำระแท่นบูชานี้ เจ้าจะต้องทำให้แท่นบูชาไม่เสื่อมไปโดยชำระมัน และเจ้าต้องเจิมมันด้วยน้ำมันเพื่อทำให้มันศักดิ์สิทธิ์ 37 ในเจ็ดวันนี้ เจ้าต้องชำระแท่นบูชา และทำให้แท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ แล้วแท่นบูชานั้นจะศักดิ์สิทธิ์มาก จนทุกสิ่งทุกอย่างที่มาถูกแท่นบูชานี้ ก็จะกลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย

38 ต่อไปนี้คือสิ่งที่เจ้าต้องถวายบนแท่นบูชา ให้เจ้าฆ่าลูกแกะอายุหนึ่งปีจำนวนสองตัว 39 ถวายตัวหนึ่งในตอนเช้าอีกตัวหนึ่งในตอนเย็น 40 เมื่อเจ้าถวายลูกแกะตัวแรก ก็ให้ถวายแป้งสาลีขนาดหนึ่งในสิบเอฟาห์[a] ผสมน้ำมันที่คั้นไว้หนึ่งในสี่ฮิน[b] และเหล้าองุ่นหนึ่งในสี่ฮินสำหรับเป็นเครื่องเทบูชา 41 เมื่อเจ้าถวายลูกแกะตัวที่สองในตอนเย็น ก็ให้ถวายพวกธัญพืชและเครื่องดื่มเหมือนกับที่ถวายในตอนเช้า มันจะเป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

42 มันจะเป็นเครื่องเผาบูชาที่จะทำต่อไปเรื่อยๆตลอดชั่วลูกชั่วหลานของเจ้า ที่ประตูเต็นท์นัดพบ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ซึ่งเป็นที่ที่เราจะมาพบเจ้าและพูดกับเจ้า 43 เราจะพบกับประชาชนชาวอิสราเอลที่นั่น และรัศมี[c] ของเราจะทำให้เต็นท์นัดพบนั้นศักดิ์สิทธิ์

44 เราจะทำให้เต็นท์นัดพบและแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ เราจะทำให้อาโรนและพวกลูกชายของเขาศักดิ์สิทธิ์ เพื่อพวกเขาจะได้เป็นนักบวชให้กับเรา 45 เราจะอยู่ท่ามกลางประชาชนชาวอิสราเอล และจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา 46 แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาที่นำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อที่เราจะได้อยู่กับพวกเขา เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา

แท่นบูชาเผาเครื่องหอม

(อพย. 37:25-28)

30 เจ้าต้องสร้างแท่นบูชาเผาเครื่องหอมจากไม้กระถิน เป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านเท่า ขนาดยาวหนึ่งศอก[d] กว้างหนึ่งศอก สูงสองศอก[e] ส่วนปลายเชิงงอนให้ทำเป็นเนื้อเดียวกัน หุ้มทองคำบริสุทธิ์ทับที่ด้านบนและด้านข้างให้ทั่ว รวมทั้งที่ปลายเชิงงอน และทำขอบให้กับมันโดยรอบ เจ้าต้องทำห่วงทองคำสองห่วง ติดไว้ที่ใต้ขอบทั้งสองข้าง ให้อยู่ตรงข้ามกัน ห่วงนี้เอาไว้สอดไม้คานยกแท่นบูชา เจ้าต้องทำไม้คานหามจากไม้กระถินและหุ้มทองทับ ให้วางแท่นนั้นไว้ตรงหน้าฝาหีบใส่คำสอนที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ เราจะแสดงตัวของเราต่อเจ้าตรงนั้น

อาโรนจะเผาเครื่องหอมบนแท่นบูชานั้น และจะต้องทำทุกเช้าเมื่อเข้ามาดูแลตะเกียง เมื่ออาโรนเข้ามาดูแลตะเกียงในตอนเย็น เขาจะเผามันอีก อย่างต่อเนื่องต่อหน้าพระยาห์เวห์ และจะต้องทำอย่างนี้ไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน พวกเจ้าจะต้องไม่เอาเครื่องหอมอื่นๆมาเผา หรือใช้แท่นนี้สำหรับเครื่องเผาบูชา พวกเจ้าต้องไม่ใช้แท่นบูชานี้สำหรับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช หรือเครื่องดื่มบูชา

10 อาโรนจะต้องชำระแท่นบูชา โดยเอาเลือดมาป้ายที่ปลายเชิงงอนของแท่นบูชานี้ปีละครั้ง เขาจะต้องใช้เลือดของเครื่องบูชาชำระล้าง เพื่อชำระล้างให้กับแท่นบูชานี้ปีละครั้ง และพวกเจ้าจะต้องทำอย่างนี้ตลอดไปทุกรุ่น แท่นบูชานี้ศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับพระยาห์เวห์”

เงินภาษีวิหาร

11 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 12 “เมื่อเจ้านับประชาชนชาวอิสราเอลเพื่อจะลงทะเบียน พวกเขาแต่ละคนจะต้องจ่ายค่าไถ่สำหรับชีวิตของเขากับพระยาห์เวห์เมื่อเขาถูกนับ จะได้ไม่เกิดภัยพิบัติขึ้นกับพวกเขาเพราะพวกเขาถูกนับ 13 คนที่ถูกนับจะต้องจ่ายครึ่งเชเขล[f] (ตามมาตรฐานการชั่ง คือหนึ่งเชเขลเท่ากับยี่สิบเกราห์) ครึ่งเชเขลนี้จะเป็นของถวายให้กับพระยาห์เวห์ 14 ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปที่ถูกนับจะต้องจ่ายเงินถวายนี้ให้กับพระยาห์เวห์ 15 คนรวยก็ห้ามจ่ายมากกว่านี้ ส่วนคนจนก็ห้ามจ่ายน้อยกว่านี้ ทุกคนจ่ายครึ่งเชเขลเท่ากันหมด เพราะเมื่อเจ้าถวายเงินนี้ให้กับพระยาห์เวห์ มันเป็นค่าไถ่สำหรับชีวิตของเจ้า 16 เงินค่าไถ่ชีวิตที่เก็บได้จากชาวอิสราเอลนี้ ให้เอาไปใช้สำหรับงานรับใช้ภายในเต็นท์นัดพบ ทำอย่างนี้พระยาห์เวห์จะได้ระลึกถึงประชาชนชาวอิสราเอลที่ได้จ่ายค่าไถ่ชีวิตของพวกเขาทุกคน”

อ่างสำหรับชำระล้าง

(อพย. 38:8)

17 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 18 “ให้เจ้าใช้ทองสัมฤทธิ์ หล่อเป็นอ่างน้ำหนึ่งใบ พร้อมฐานรอง เอาไว้สำหรับการล้างทำความสะอาด แล้วให้ใส่น้ำ เอาไปวางไว้ระหว่างเต็นท์นัดพบกับแท่นบูชา 19 อาโรนกับพวกลูกชายของเขาจะได้ใช้ล้างมือและล้างเท้า 20 เมื่อพวกเขาจะเข้ามาในเต็นท์นัดพบ หรือจะเข้าใกล้แท่นบูชาเพื่อรับใช้พระเจ้า หรือเพื่อถวายของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ พวกเขาจะต้องเอาน้ำในอ่างนี้ล้างมือและเท้าก่อน เพื่อพวกเขาจะได้ไม่ตาย 21 ทั้งอาโรนและลูกหลานรุ่นต่อๆไปของเขาต้องทำตามกฎข้อนี้ตลอดไป”

น้ำมันเจิม

(อพย. 37:29)

22 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 23 “ให้เจ้านำเครื่องเทศต่อไปนี้คือ ยางไม้หอมเหลวอย่างดีที่สุดห้าร้อยเชเขล[g] อบเชยหอมครึ่งหนึ่งของยางไม้หอมเหลวคือประมาณสองร้อยห้าสิบเชเขล[h] ตะไคร้หอมสองร้อยห้าสิบเชเขล 24 การบูรห้าร้อยเชเขล ตามมาตรฐานการชั่ง และน้ำมันมะกอกหนึ่งฮิน[i]

25 เอาของพวกนี้ผสมกัน เป็นน้ำหอมชนิดหนึ่ง ใช้เป็นน้ำมันสำหรับเจิม 26 เจ้าต้องเอาน้ำมันนี้ไปเจิมที่เต็นท์นัดพบ ที่หีบใส่คำสอน 27 ที่โต๊ะและภาชนะทุกชิ้น ที่ตะเกียงที่มีขาตั้ง กับอุปกรณ์ทุกชิ้นของมัน ที่แท่นบูชาเครื่องหอม 28 ที่แท่นบูชาเผาเครื่องบูชา และภาชนะทุกอย่างของมัน รวมทั้งอ่างน้ำกับฐานของมันด้วย 29 เจ้าจะทำให้สิ่งเหล่านี้ศักดิ์สิทธิ์ และมันก็จะศักดิ์สิทธิ์มาก ทุกอย่างที่ถูกต้องสิ่งเหล่านี้ก็จะกลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์

30 เจ้าต้องเจิมให้อาโรนกับพวกลูกชายของเขา เจ้าต้องทำให้พวกเขาศักดิ์สิทธิ์ เพื่อพวกเขาจะได้เป็นนักบวชให้กับเรา 31 เจ้าต้องพูดกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘นี่จะเป็นน้ำมันศักดิ์สิทธิ์สำหรับการเจิมของเรา สำหรับลูกหลานของพวกเจ้าตลอดไป 32 เจ้าต้องไม่เอาไปเทลงบนตัวคนทั่วไป และห้ามทำเลียนแบบน้ำมันนี้ เพราะมันศักดิ์สิทธิ์ และมันจะศักดิ์สิทธิ์สำหรับเจ้า 33 ใครก็ตามที่ทำเลียนแบบน้ำมันนี้ขึ้นมา หรือเอาไปเทบนคนต่างชาติ จะต้องถูกตัดออกจากการเป็นประชาชน’”

เครื่องหอม

34 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้เอาเครื่องเทศเหล่านี้ คือ กำยาน ชะมด มหาหิงคุ์ และกำยานบริสุทธิ์ ในสัดส่วนที่เท่าๆกัน 35 ผสมกันเป็นเครื่องหอม เติมเกลือลงไปด้วย เพื่อทำให้เครื่องหอมนี้บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ 36 แบ่งเครื่องหอมออกมาส่วนหนึ่ง นำมาบดและใส่ไว้ที่หน้าหีบใส่คำสอน[j] ในเต็นท์นัดพบซึ่งเป็นที่ที่เราจะแสดงตัวกับเจ้า กลิ่นของมันจะเป็นกลิ่นที่ศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับพวกเจ้า 37 เจ้าต้องไม่ทำเลียนแบบเครื่องหอมนี้ไว้ใช้เอง เพราะมันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเจ้าจะต้องสงวนไว้ สำหรับพระยาห์เวห์ 38 ใครที่ทำเลียนแบบเครื่องหอมนี้เอาไว้ดมเอง คนๆนั้นจะต้องถูกตัดออกจากการเป็นประชาชนของเขา”

มัทธิว 21:23-46

ผู้นำชาวยิวสงสัยเรื่องสิทธิอำนาจของพระเยซู

(มก. 11:27-33; ลก. 20:1-8)

23 พระเยซูเข้าไปในวิหาร เมื่อพระองค์กำลังสอนอยู่นั้น พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโส เข้ามาถามพระองค์ว่า “แกมีสิทธิ์อะไรไปไล่พวกพ่อค้านั้น ใครให้สิทธิ์นี้กับแก”

24 พระเยซูตอบว่า “เราขอถามคุณเรื่องหนึ่งเหมือนกัน ถ้าคุณตอบเรา แล้วเราจะบอกว่าเราใช้สิทธิ์ของใครทำอย่างนี้ 25 ตอบหน่อยสิว่า พิธีจุ่มน้ำของยอห์นมาจากสวรรค์หรือมาจากมนุษย์” พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโสต่างก็ปรึกษากันว่า “ถ้าเราตอบว่า ‘มาจากสวรรค์’ มันก็จะย้อนถามเราว่า ‘แล้วทำไมพวกคุณถึงไม่เชื่อยอห์นละ’ 26 แต่ถ้าเราตอบว่า ‘มาจากมนุษย์’ เราก็กลัวฝูงชนจะโกรธ เพราะพวกนั้นต่างก็เชื่อว่า ยอห์นเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า”

27 พวกเขาจึงตอบพระเยซูว่า “ไม่รู้สิ” พระเยซูก็เลยบอกว่า “ถ้าอย่างนั้น เราก็จะไม่บอกเหมือนกัน ว่าเราใช้สิทธิ์ของใครในการทำสิ่งเหล่านี้”

เรื่องลูกชายสองคน

28 “บอกหน่อยว่า คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชายคนหนึ่งมีลูกสองคน เขาบอกลูกชายคนโตว่า ‘ลูกพ่อ วันนี้ไปทำงานในไร่องุ่นของพ่อนะ’

29 เขาตอบว่า ‘ไม่ได้ครับ’ แต่ต่อมาเขาเปลี่ยนใจ แล้วไปทำงานในไร่องุ่น

30 จากนั้นพ่อไปบอกลูกชายอีกคนว่า ‘ลูกพ่อ วันนี้ไปทำงานในไร่องุ่นของพ่อนะ’ เขาตอบว่า ‘ครับพ่อ ผมจะไป’ แต่เขาก็ไม่ได้ไป”

31 “ลูกสองคนนี้ คนไหนที่เชื่อฟังพ่อของเขา” พวกหัวหน้าชาวยิวตอบว่า “ลูกคนแรก” พระเยซูจึงบอกพวกเขาว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คนเก็บภาษีและโสเภณีกำลังเข้าไปในอาณาจักรของพระเจ้าก่อนพวกคุณเสียอีก 32 ยอห์นได้มาชี้ให้เห็นว่า จะใช้ชีวิตที่ถูกต้องกับพระเจ้าได้อย่างไร พวกคุณก็ไม่ยอมเชื่อเขา แต่คนเก็บภาษีและโสเภณีกลับเชื่อยอห์น ถึงแม้คุณเห็นพวกเขาทำอย่างนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมกลับตัวกลับใจมาเชื่อยอห์นเลย

เรื่องเปรียบเทียบเกี่ยวกับชาวสวนชั่ว

(มก. 12:1-12; ลก. 20:9-19)

33 ฟังเรื่องเปรียบเทียบนี้ให้ดี เจ้าของที่แปลงหนึ่งได้ทำสวนองุ่นไว้ ล้อมรั้วไว้รอบ ขุดบ่อย่ำองุ่น[a] และสร้างหอคอย แล้วให้ชาวสวนมาเช่าสวนองุ่นนั้น ส่วนตัวเขาเดินทางไปต่างประเทศ 34 เมื่อถึงฤดูเก็บองุ่น เจ้าของสวนส่งพวกทาสของเขามารับส่วนแบ่งองุ่นจากพวกคนเช่า

35 แต่พวกคนเช่าจับทาสของเขาไว้ ทุบตีคนหนึ่ง ฆ่าอีกคนหนึ่ง แล้วเอาหินขว้างอีกคนหนึ่ง 36 เจ้าของสวนจึงส่งพวกทาสมามากกว่าครั้งแรก แต่ก็ถูกพวกคนเช่าสวน ทำเหมือนเดิม 37 สุดท้าย เจ้าของสวนจึงส่งลูกชายของเขามาเอง เขาว่า ‘พวกนั้นจะต้องเคารพยำเกรงลูกชายของเราแน่ๆ’

38 แต่เมื่อพวกคนเช่าเห็นลูกชายของเขามา ก็พูดกันว่า ‘นี่ไง ผู้รับมรดก เร็วเข้าพวกเรา ฆ่ามันซะ สวนนี้จะได้ตกเป็นของพวกเรา’ 39 พวกคนเช่าสวนจึงจับตัวลูกชายเจ้าของสวนโยนออกไปนอกสวนแล้วฆ่าเขา 40 เมื่อเจ้าของสวนมา เขาจะทำอย่างไรกับคนเช่าพวกนี้”

41 พวกหัวหน้านักบวชและพวกผู้นำอาวุโสตอบว่า “เขาจะต้องฆ่าคนชั่วพวกนั้นอย่างโหดเหี้ยม และให้ชาวสวนคนอื่นที่ยอมแบ่งองุ่นให้กับเขาเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวมาเช่าต่อ”

42 พระเยซูบอกพวกเขาว่า “พวกคุณไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ข้อนี้หรือที่ว่า

‘หินก้อนนี้ที่ช่างก่อสร้างทิ้งแล้ว กลับกลายมาเป็นหินก้อนที่สำคัญที่สุด
    องค์เจ้าชีวิตทำให้เป็นอย่างนั้น สำหรับเราแล้วนี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ’(A)

43 เราจะบอกให้รู้ว่า อาณาจักรของพระเจ้าจะถูกริบเอาไปจากคุณ และยกไปให้กับคนที่ทำตามความต้องการของพระเจ้า 44 คนที่ล้มทับหินนี้ ร่างกายก็จะหักเป็นชิ้นๆ แต่ถ้าถูกหินนี้ล้มทับ คนนั้นก็จะแหลกละเอียด”[b]

45 เมื่อพวกหัวหน้านักบวชและพวกฟาริสีได้ยินเรื่องเปรียบเทียบนี้ ก็รู้ทันทีว่าพระองค์กำลังว่าพวกเขาเป็นคนเช่าชั่วร้ายพวกนั้น 46 พวกเขาจึงหาทางที่จะจับพระเยซู แต่ก็กลัวฝูงชน เพราะพวกนี้เชื่อว่าพระองค์เป็นผู้พูดแทนพระเจ้า

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International