Read the New Testament in 24 Weeks
3 เราเริ่มโอ้อวดตัวเองอีกแล้วหรือ หรือว่าเราจำเป็นต้องถือจดหมายแนะนำตัวมาให้ท่าน หรือไม่ก็เป็นจดหมายที่มาจากท่าน เหมือนกับที่บางคนทำ 2 พวกท่านเองเป็นเสมือนจดหมายของเรา ซึ่งเขียนไว้ในจิตใจของพวกเรา ที่คนทั่วไปได้ทราบและได้อ่าน 3 เป็นที่ประจักษ์ว่าท่านเป็นเสมือนจดหมายจากพระคริสต์ ซึ่งเป็นผลจากงานรับใช้ของพวกเรา จดหมายนี้ไม่ได้เขียนไว้ด้วยน้ำหมึก แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าผู้ดำรงอยู่ มิใช่บนแผ่นศิลา แต่บนหัวใจของมนุษย์
4 เรามีความมั่นใจในพระเจ้าโดยพระคริสต์ เราจึงพูดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ 5 เราไม่มีอะไรที่จะอ้างได้ว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดจากความสามารถของเราเอง แต่ความสามารถของเรานั้นมาจากพระเจ้า 6 พระองค์ให้เรามีความสามารถของผู้รับใช้แห่งพันธสัญญาใหม่ มิใช่ด้วยกฎบัญญัติที่เขียนไว้แล้ว แต่ด้วยพระวิญญาณ เพราะกฎบัญญัตินั้นนำความตายมา ส่วนพระวิญญาณให้ชีวิต
7 แต่ถ้ากฎบัญญัติแห่งพันธสัญญาเดิม[a]ซึ่งสลักเป็นตัวอักษรไว้บนหินซึ่งนำไปสู่ความตาย ยังนำพระสง่าราศีมาจนทำให้บรรดาบุตรของอิสราเอลไม่อาจเพ่งดูใบหน้าของโมเสสได้ ทั้งๆ ที่ความเจิดจ้าจากพระสง่าราศีที่ใบหน้าของท่านได้จางลงไปแล้ว 8 แล้วพันธสัญญาใหม่แห่งพระวิญญาณจะไม่เปล่งพระสง่าราศียิ่งกว่านั้นอีกหรือ 9 เพราะถ้ากฎบัญญัติแห่งพันธสัญญาเดิม อันนำมาซึ่งการกล่าวโทษยังมีพระสง่าราศี พันธสัญญาใหม่แห่งความชอบธรรมก็จะมีพระสง่าราศีมากยิ่งกว่าเพียงไร 10 สิ่งที่เคยมีพระสง่าราศีกลับไม่มีสง่าราศีหลงเหลือเลย เพราะถูกพระสง่าราศีที่ยิ่งใหญ่กว่าข่มเสีย 11 ถ้าสิ่งที่จางลงเคยมีพระสง่าราศีแล้ว สิ่งที่ดำรงอยู่ย่อมมีพระสง่าราศีมากยิ่งกว่าเพียงไร
12 ในเมื่อเรามีความหวังเช่นนั้น เราจึงพูดด้วยความกล้ายิ่งนัก 13 เราไม่เป็นเช่นโมเสสที่ใช้ผ้าคลุมหน้าของท่าน เพื่อว่าชาวอิสราเอลจะได้ไม่เพ่งดูความเจิดจ้าที่จางหายตอนปลาย 14 แต่ในเวลานั้น จิตใจของพวกเขาแข็งกระด้าง ด้วยว่าจนถึงทุกวันนี้ เมื่อได้ยินคนอ่านพันธสัญญาเดิม ผ้าคลุมหน้าผืนเดียวกันก็ยังคลุมอยู่ และจะเปิดออกได้ก็ด้วยพระคริสต์เท่านั้น 15 แม้กระทั่งทุกวันนี้ เมื่อมีคนอ่านหมวดกฎบัญญัติของโมเสส ผ้าคลุมหน้าก็ยังปิดบังใจของพวกเขาอยู่ 16 แต่เมื่อใดก็ตามที่คนหันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า ผ้าคลุมนั้นก็ถูกเปิดออก 17 พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระวิญญาณ และพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ที่ไหน ความเป็นอิสระก็อยู่ที่นั่น 18 ส่วนเราทุกคนผู้ไม่มีผ้าคลุมหน้า ก็จะสะท้อนพระสง่าราศีของพระผู้เป็นเจ้า ผู้เปลี่ยนแปลงเราให้มีคุณลักษณะเหมือนพระองค์ด้วยพระสง่าราศีเป็นลำดับยิ่งๆ ขึ้นไป สิ่งนี้เป็นมาจากพระผู้เป็นเจ้า ผู้เป็นพระวิญญาณ
ความสว่างส่องออกมาจากความมืด
4 ฉะนั้น เรารับใช้งานนี้ได้โดยความเมตตาของพระเจ้า พวกเราไม่ท้อถอย 2 เราไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งอันน่าอับอายและเร้นลับ เราไม่หลอกลวงคนหรือพลิกแพลงคำกล่าวของพระเจ้า แต่เราประกาศความจริงอย่างเปิดเผย เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักด้วยมโนธรรมของเขาว่า เราเป็นอย่างไรในสายตาของพระเจ้า 3 ถึงแม้ว่าข่าวประเสริฐของเราถูกปิดบังไว้ แต่ก็ถูกปิดบังไว้เฉพาะคนที่กำลังพินาศเท่านั้น 4 ในกรณีของคนพวกนี้ เจ้าแห่งยุคนี้[b]พรางความคิดของเขา จึงทำให้ไม่เห็นความสว่างจากข่าวประเสริฐแห่งพระสง่าราศีของพระคริสต์ ผู้มีคุณลักษณะเหมือนพระเจ้าทุกประการ 5 เราไม่ประกาศเรื่องตัวเราเอง แต่เป็นเรื่องของพระเยซูคริสต์ว่า พระองค์เป็นพระผู้เป็นเจ้า และตัวเราเองเป็นผู้รับใช้ของท่านเพื่อพระเยซู 6 เพราะพระเจ้าผู้กล่าวไว้ว่า “ให้ความสว่างส่องออกมาจากความมืด”[c] ก็คือองค์ที่ได้ส่องเข้าไปในจิตใจของเรา เพื่อให้เราทราบถึงพระสง่าราศีของพระเจ้า ที่เปล่งจากใบหน้าของพระคริสต์
7 แต่เรามีสมบัติอันมีค่านี้อยู่ในหม้อดิน เพื่อจะได้แสดงให้เห็นว่าอานุภาพอันใหญ่ยิ่งนั้นมาจากพระเจ้า มิใช่มาจากตัวเราเอง 8 เราทนทุกข์ทรมานทุกทางแต่ก็ไม่พ่ายแพ้ แม้จะงุนงงแต่ก็ไม่สิ้นหวัง 9 ถูกกดขี่ข่มเหงแต่ก็ไม่ถูกทอดทิ้ง ถูกทำให้ล้มลงแต่ก็ไม่ถูกทำลาย 10 เราแบกความตายของพระเยซูไว้ในตัวเราเสมอ เพื่อว่าชีวิตของพระเยซูจะได้ปรากฏในตัวเราด้วย 11 ขณะที่เราดำเนินชีวิต เราเสี่ยงกับความตายเพื่อพระเยซูอยู่เสมอ เพื่อว่าชีวิตของพระเยซูจะได้ปรากฏในร่างกายของเราที่ตายได้ 12 ดังนั้นความตายกำลังปฏิบัติงานในตัวเราอยู่ แต่ชีวิตกำลังปฏิบัติงานในตัวท่านทั้งหลาย
13 เพราะเรามีวิญญาณแห่งความเชื่อเดียวกัน ตามที่มีบันทึกไว้ว่า “ข้าพเจ้าเชื่อ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงประกาศ”[d] เราก็เชื่อด้วย ดังนั้นเราจึงประกาศด้วย 14 เราทราบว่า พระองค์ผู้ให้พระเยซูฟื้นคืนชีวิตจะให้เราฟื้นคืนชีวิตกับพระเยซูด้วย และนำเราไปเข้าเฝ้าพระองค์พร้อมกับพวกท่าน 15 สิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน เพื่อว่าขณะที่พระคุณได้แผ่ขยายไปยังคนมากยิ่งขึ้นนั้น ก็จะทำให้มีคนขอบคุณพระเจ้าเพิ่มขึ้นเพื่อพระบารมีของพระเจ้า
16 ฉะนั้น เราไม่ท้อถอย แม้ว่าส่วนกายภายนอกของเรากำลังทรุดโทรมไป แต่ส่วนลึกในใจของเรากำลังถูกเสริมสร้างใหม่ทุกวัน 17 เพราะความลำบากเล็กน้อยเพียงชั่วขณะหนึ่งนี้ กำลังเตรียมเราให้พร้อมเพื่อบารมีอันเป็นนิรันดร์ซึ่งไม่มีอะไรมาเทียบเทียมได้ 18 ดังนั้นเราจึงไม่จับตาดูสิ่งที่มองเห็น แต่จับตาดูสิ่งที่มองไม่เห็น เพราะสิ่งที่มองเห็นเป็นสิ่งไม่ยั่งยืน แต่สิ่งที่มองไม่เห็นนั้นเป็นนิรันดร์
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation