Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
1 ซามูเอล 24

ดาวิดไว้ชีวิตซาอูล

24 เมื่อซาอูลกลับจากการตามรบพวกฟีลิสเตีย มีคนบอกท่านว่า “ดูเถิด ดาวิดอยู่ในถิ่นทุรกันดารที่เอนเกดี” ซาอูลจึงคัดเลือกคนของท่านจากชนชาวอิสราเอลทั้งหมดได้ 3,000 คน ให้ไปตามหาดาวิดและพรรคพวกของท่านที่ทางด้านตะวันออกของศิลาแพะป่า ท่านมาถึงคอกแกะที่ริมทางซึ่งมีถ้ำแห่งหนึ่ง และซาอูลเข้าไปในถ้ำเพื่อถ่ายทุกข์ ฝ่ายดาวิดกับพรรคพวกกำลังนั่งอยู่ที่ท้ายถ้ำ[a] พรรคพวกของดาวิดพูดกับท่านว่า “วันนี้เป็นวันที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับท่านว่า ‘ดูเถิด เราจะมอบศัตรูของเจ้าไว้ในมือเจ้า และเจ้าจะกระทำกับเขาตามที่เจ้าเห็นสมควร’” แล้วดาวิดก็ลุกขึ้น และแอบตัดชายเสื้อคลุมของซาอูล หลังจากนั้นดาวิดรู้สึกเสียใจที่ตัดชายเสื้อคลุมของซาอูล ท่านพูดกับพรรคพวกว่า “พระผู้เป็นเจ้าทราบว่าเราไม่ควรกระทำเช่นนั้นต่อนายของเรา ท่านเป็นผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเจิมไว้ ไม่ควรยื่นมือไปต่อสู้กับท่าน ทั้งที่รู้ว่าท่านเป็นผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเจิมไว้” ดาวิดได้จูงใจพรรคพวกตามถ้อยคำดังกล่าว และห้ามไม่ให้พวกเขาทำร้ายซาอูล และซาอูลก็ไปจากถ้ำ ไปตามทางของท่านต่อ

หลังจากนั้นดาวิดก็ออกไปจากถ้ำเช่นกัน และตะโกนตามหลังซาอูลว่า “เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์” ครั้งซาอูลหันหลังไปมอง ดาวิดก็ก้มหน้าลงและคำนับ ดาวิดพูดกับซาอูลว่า “ทำไมท่านจึงฟังคำของคนที่พูดว่า ‘ดูเถิด ดาวิดมุ่งร้ายท่าน’ 10 ดูเถิด วันนี้ท่านเห็นด้วยตาของท่านแล้วว่า พระผู้เป็นเจ้าได้มอบท่านไว้ในมือของข้าพเจ้าในถ้ำ และมีบางคนบอกให้ข้าพเจ้าฆ่าท่าน แต่ข้าพเจ้าไว้ชีวิตท่านไว้ ข้าพเจ้าพูดว่า ‘เราจะไม่ยื่นมือไปต่อสู้กับนายท่าน เพราะท่านเป็นผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเจิมไว้’ 11 เจ้านายของข้าพเจ้า ดูนี่ ดูว่าชายเสื้อคลุมของท่านอยู่ในมือข้าพเจ้า ด้วยว่าข้าพเจ้าตัดชายเสื้อคลุมของท่านแต่ก็ไม่ได้ฆ่าท่าน ขอให้ท่านทราบและเข้าใจด้วยว่า ข้าพเจ้าไม่ได้กระทำผิดหรือเป็นกบฏ ข้าพเจ้าไม่ได้กระทำบาปต่อท่าน แม้ว่าท่านจะตามล่าเอาชีวิตข้าพเจ้าไป 12 ขอให้พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ตัดสินระหว่างท่านและข้าพเจ้า ขอให้พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ลงโทษตามสิ่งที่ท่านกระทำต่อข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าจะไม่เป็นผู้สนองตอบท่าน 13 ตามสุภาษิตโบราณกล่าวว่า ‘ความชั่วมาจากคนชั่ว’ แต่ข้าพเจ้าจะไม่เป็นผู้สนองตอบท่าน 14 กษัตริย์แห่งอิสราเอลออกมาตามใคร ท่านไล่ล่าใคร ตามล่าสุนัขที่ตายแล้ว ตามล่าตัวหมัด 15 ฉะนั้นขอให้พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ตัดสินและคาดโทษระหว่างท่านและข้าพเจ้า ขอพระองค์ดำเนินการช่วยปกป้องข้าพเจ้า และให้ข้าพเจ้ารอดจากมือท่านเถิด”

16 ทันทีที่ดาวิดพูดกับซาอูลจบ ซาอูลถามว่า “ดาวิดลูกเรา นี่เป็นเสียงของเจ้าหรือ” และซาอูลส่งเสียงร้องไห้ 17 ท่านกล่าวกับดาวิดว่า “เจ้ามีความชอบธรรมยิ่งกว่าเรา เพราะเจ้าตอบสนองเราด้วยความดี แต่เราได้สนองตอบเจ้าด้วยความเลวร้าย 18 และเจ้าได้แสดงให้เห็นในวันนี้ว่า เจ้าได้กระทำต่อเราเป็นอย่างดี เพราะเจ้าไม่ได้ฆ่าเราเมื่อพระผู้เป็นเจ้ามอบเราไว้ในมือของเจ้า 19 ถ้าชายใดพบศัตรูของเขา เขาจะปล่อยให้ไปอย่างปลอดภัยหรือ ดังนั้นขอให้พระผู้เป็นเจ้าอวยพรเจ้าด้วยรางวัลสำหรับสิ่งที่เจ้าปฏิบัติต่อเราในวันนี้ 20 บัดนี้เรารู้ว่าเจ้าจะเป็นกษัตริย์อย่างแน่แท้ และอาณาจักรของอิสราเอลจะยืนยงอยู่ในมือของเจ้า 21 ฉะนั้นขอให้เจ้าสาบานกับเราในพระนามของพระผู้เป็นเจ้าว่า เจ้าจะไม่ตัดขาดบรรดาผู้สืบทอดต่อจากเรา และเจ้าจะไม่ลบชื่อของเราออกไปจากตระกูล” 22 ดาวิดก็สาบานต่อซาอูลตามนั้น ซาอูลจึงกลับบ้านไป ส่วนดาวิดกับพรรคพวกขึ้นไปยังที่หลบภัย

1 โครินธ์ 5

ขับไล่คนชั่วร้าย

มีผู้แจ้งมาว่ามีการประพฤติผิดทางเพศในหมู่ท่าน ชนิดที่คนนอก[a]ก็ยังมิกระทำ คือบุตรเอาภรรยาของพ่อมาเป็นภรรยาของตน ท่านกลับหยิ่งผยองทั้งๆ ที่ควรจะเศร้าโศกมากกว่า และควรตัดขาดคนที่กระทำสิ่งนี้ไปเสียจากพวกท่าน ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้อยู่กับท่านฝ่ายกาย แต่ก็อยู่ด้วยฝ่ายวิญญาณ ข้าพเจ้าจึงกล่าวโทษคนที่ประพฤติเยี่ยงนี้แล้ว ราวกับว่าข้าพเจ้าอยู่ด้วยกับท่าน เมื่อท่านประชุมกันในพระนามของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ข้าพเจ้าย่อมอยู่ด้วยกับท่านฝ่ายวิญญาณพร้อมกับอานุภาพของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา จงมอบชายผู้นี้ให้ซาตาน[b]ทำลายฝ่ายเนื้อหนังเสีย เพื่อให้วิญญาณของเขารอดในวันที่พระผู้เป็นเจ้าจะมา

การโอ้อวดของท่านเป็นสิ่งไม่ดี ท่านไม่ทราบหรือว่า เชื้อยีสต์เพียงเล็กน้อยทำให้แป้งที่นวดแล้วฟูทั้งก้อน จงกำจัดเชื้อยีสต์เก่าเสีย เพื่อท่านจะได้เป็นแป้งนวดก้อนใหม่ที่ปราศจากเชื้อยีสต์ตามที่ท่านเป็นอยู่จริง เพราะพระคริสต์ซึ่งเป็นลูกแกะปัสกาของเราถูกสังเวยแล้ว ฉะนั้นเรามาฉลองเทศกาลกันด้วยขนมปังไร้เชื้อแห่งความจริงใจและความจริง มิใช่ด้วยเชื้อยีสต์เก่าๆ แห่งการปองร้ายและความชั่วร้าย

ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่านแล้วว่า ไม่ให้คบกับคนที่ประพฤติผิดทางเพศ 10 ข้าพเจ้ามิได้หมายความถึงคนในโลกนี้ที่ประพฤติผิดทางเพศ หรือโลภ โกง หรือบูชารูปเคารพ ถ้าท่านจะหลีกเลี่ยงคนเหล่านั้น ท่านจะต้องออกไปเสียจากโลกนี้ 11 แต่ว่าขณะนี้ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพื่อไม่ให้คบกับคนที่นับว่าตนเป็นพี่น้องแต่ก็ยังประพฤติผิดทางเพศ มีความโลภ บูชารูปเคารพ หรือว่าร้ายคน เป็นคนขี้เมา หรือคดโกง แม้ในเรื่องอาหารก็จงอย่ารับประทานร่วมกับคนเช่นนั้นเลย

12 ไม่ใช่เรื่องของข้าพเจ้าที่จะไปกล่าวโทษคนนอกคริสตจักร ท่านควรกล่าวโทษคนภายในมิใช่หรือ 13 พระเจ้าจะเป็นผู้กล่าวโทษพวกคนนอกคริสตจักร “จงกำจัดคนชั่วร้ายออกไปเสียจากพวกท่านเถิด”[c]

เอเสเคียล 3

และพระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงกินสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้า จงกินหนังสือม้วนนี้ แล้วจงไปพูดกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล” ดังนั้น ข้าพเจ้าอ้าปาก และพระองค์ให้ข้าพเจ้ากินหนังสือม้วนนั้น และพระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกินหนังสือม้วนที่เราให้เจ้า ให้มันซึมซับเข้าไปทั่วร่างกายของเจ้า” และข้าพเจ้าก็กินหนังสือม้วนนั้น มันมีรสหวานปานน้ำผึ้งในปากของข้าพเจ้า

และพระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงไปยังพงศ์พันธุ์อิสราเอล และบอกพวกเขาถึงสิ่งที่เราพูด ด้วยว่า เจ้าไม่ได้ถูกส่งไปยังชนชาติที่ใช้คำพูดของชนต่างชาติและภาษาที่ยาก แต่จะไปยังพงศ์พันธุ์อิสราเอล ไม่ได้ให้ไปยังหลายชนชาติซึ่งใช้คำพูดของชนต่างชาติและภาษาที่ยาก จึงจะทำให้เจ้าไม่เข้าใจภาษาของเขา แต่เราได้ส่งเจ้าไปยังชนชาติเหล่านั้น พวกเขาก็ควรจะฟังเจ้าอย่างแน่นอน แต่พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะไม่ต้องการฟังเจ้า เพราะพวกเขาไม่ต้องการฟังเรา เพราะพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งปวงหัวรั้นและใจดื้อด้าน ดูเถิด เราได้ทำให้หน้าของเจ้าขมึงทึงและหัวรั้นเหมือนกับที่พวกเขาเป็น ให้หน้าผากของเจ้าเป็นอย่างหินแข็งที่สุด แข็งยิ่งกว่าหินคม จงอย่ากลัวพวกเขา หรือตกใจกลัวเมื่อเห็นพวกเขา เพราะพวกเขาเป็นพงศ์พันธุ์ที่ขัดขืน” 10 ยิ่งกว่านั้น พระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงรับไว้ในใจเจ้า และใช้หูรับฟังทุกคำพูดที่เราจะกล่าวกับเจ้า 11 และจงไปยังชนร่วมชาติของเจ้าซึ่งลี้ภัยอยู่ และพูดกับพวกเขาว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้’ ไม่ว่าพวกเขาจะฟังหรือไม่ยอมฟังก็ตาม”

12 ครั้นแล้ว พระวิญญาณก็ยกตัวข้าพเจ้าขึ้น ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังกระหึ่มดั่งแผ่นดินไหวที่เบื้องหลังว่า “ขอพระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการสรรเสริญในที่พระองค์สถิต” 13 เป็นเสียงปีกของบรรดาสิ่งมีชีวิตสัมผัสกัน และเป็นเสียงล้อที่อยู่ข้างตัว และเป็นเสียงดังกระหึ่ม 14 พระวิญญาณพัดข้าพเจ้าขึ้นและพาข้าพเจ้าไป จิตวิญญาณข้าพเจ้าฉุนเฉียวและไปด้วยความขมขื่น มืออันมั่นคงของพระผู้เป็นเจ้าสถิตกับข้าพเจ้า 15 และข้าพเจ้าก็ไปยังบรรดาผู้ลี้ภัยที่เทลอาบิบ พวกเขาอาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำเคบาร์ และข้าพเจ้านั่งในท่ามกลางพวกเขา ข้าพเจ้านั่งตกตะลึงอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 7 วัน

ผู้เฝ้ายามของอิสราเอล

16 หลังจาก 7 วันผ่านไป พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ 17 “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราได้ให้เจ้าเป็นผู้เฝ้ายามของพงศ์พันธุ์อิสราเอล เมื่อใดก็ตามที่เจ้าได้ยินคำพูดจากปากของเรา เจ้าจะต้องตักเตือนพวกเขาให้เรา 18 ถ้าเราพูดกับคนชั่วร้ายว่า ‘เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน’ และถ้าเจ้าไม่ให้คำเตือน หรือพูดตักเตือนคนชั่วร้ายให้ละจากวิถีทางชั่วเพื่อรักษาชีวิตไว้ คนชั่วคนนั้นก็จะตายเนื่องจากบาปของเขา แต่เราจะให้ชีวิตของเขาอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้า 19 แต่ถ้าเจ้าเตือนคนชั่วร้าย และเขาไม่หันไปจากความชั่วร้ายหรือจากวิถีทางชั่ว เขาจะตายเนื่องจากบาปของเขา แต่เจ้าจะรักษาจิตวิญญาณของเจ้าไว้ได้ 20 และในวิธีเดียวกันคือ ถ้าผู้มีความชอบธรรมหันไปจากความชอบธรรม และไร้ความยุติธรรม เราจะวางเครื่องกีดขวางกั้นเขา เขาก็จะตาย เพราะเจ้าไม่ได้ตักเตือนเขา เขาจะตายเพราะบาปของเขา และการกระทำอันชอบธรรมของเขาที่เคยทำไว้ก็จะไม่เป็นที่ระลึกถึง แต่ชีวิตของเขาอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้า 21 แต่ถ้าเจ้าเตือนผู้ที่มีความชอบธรรมผู้นั้นไม่ให้กระทำบาป และเขาไม่กระทำบาป เขาจะมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน เพราะเขารับคำเตือน และเจ้าจะรักษาจิตวิญญาณของเจ้าไว้ได้”

22 มือของพระผู้เป็นเจ้าสถิตกับข้าพเจ้าที่นั่น และพระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ “จงลุกขึ้น และเข้าไปในหุบเขา และเราจะพูดกับเจ้าที่นั่น” 23 ข้าพเจ้าลุกขึ้น และเข้าไปในหุบเขา ดูเถิด พระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ที่นั่น เหมือนกับพระบารมีที่ข้าพเจ้าได้เห็นแล้วที่ข้างแม่น้ำเคบาร์ และข้าพเจ้าซบหน้าลงกับพื้น 24 แต่พระวิญญาณก็เข้าสู่ตัวข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้ายืนขึ้น และพระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ “เจ้าจงไป และอยู่ในบ้านของเจ้าตามลำพัง 25 ดูเถิด บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจะถูกเชือกมัดตัว และเจ้าจึงออกไปอยู่ท่ามกลางผู้คนไม่ได้ 26 และเราจะทำให้ลิ้นของเจ้าติดอยู่กับเพดานปาก เจ้าจะเป็นใบ้และพูดตักเตือนว่ากล่าวพวกเขาไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพงศ์พันธุ์ที่ขัดขืน 27 แต่เมื่อเราพูดกับเจ้า เราจะเปิดปากเจ้า และเจ้าจะพูดกับพวกเขาว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้’ ผู้ที่จะฟัง ให้เขาฟัง และผู้ที่ไม่ยอมฟัง ก็ช่างเขา เพราะว่าพวกเขาเป็นพงศ์พันธุ์ที่ขัดขืน

สดุดี 39

การสารภาพของชายผู้ได้รับทุกข์ทรมาน

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ถึงเยดูธูน เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะเฝ้าระวังวิถีทางของข้าพเจ้า
    และไม่ทำบาปด้วยลิ้นของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะครอบปากด้วยตะกร้อ
    ตราบที่คนชั่วอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า”
ข้าพเจ้านิ่งเงียบ ข้าพเจ้าไม่ปริปาก
    แม้แต่ในเรื่องดีใดๆ
และความทุกข์ก็ยิ่งทวีขึ้น
    ใจข้าพเจ้าร้อนรุ่มในทรวงอก
ยิ่งข้าพเจ้ากังวล ข้าพเจ้ายิ่งรู้สึกแย่ลง
    ครั้นแล้วลิ้นของข้าพเจ้าขยับและพูดว่า

พระผู้เป็นเจ้า ให้ข้าพเจ้าล่วงรู้ถึงบั้นปลายชีวิตเถิด
    และมีชีวิตอยู่นานเพียงไร
    ให้ข้าพเจ้าทราบว่าชีวิตข้าพเจ้าผ่านไปรวดเร็วเพียงไร
ดูเถิด พระองค์ให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่เพียงระยะสั้นๆ
    และในสายตาของพระองค์ ช่วงชีวิตข้าพเจ้าเป็นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม
แน่ละ ชีวิตของมนุษย์ทุกคนยืนยาวเพียงแค่ลมหายใจเท่านั้น เซล่าห์

แน่นอนทีเดียว คนที่ไปโน่นมานี่เป็นเช่นเดียวกับเงา
    เขาดิ้นรนโดยเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน
    คนสะสมความมั่งมีไว้ แต่ไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ที่กอบโกยในภายหลัง

โอ พระผู้เป็นเจ้า มาบัดนี้ ข้าพเจ้าหวังอะไรเล่า
    ความหวังของข้าพเจ้ามีในพระองค์
โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากบาปทั้งปวงของข้าพเจ้า
    อย่าให้ข้าพเจ้าเป็นที่ดูหมิ่นของคนโง่เขลา
ข้าพเจ้านิ่งเงียบ ข้าพเจ้าไม่ปริปากพูด
    เพราะพระองค์ทำให้เป็นเช่นนี้
10 ให้ข้าพเจ้าได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติที่มาจากพระองค์เถิด
    ข้าพเจ้าหมดกำลังเพราะพลังแรงจากมือของพระองค์
11 พระองค์ทำโทษมนุษย์เพราะบาปของเขาเป็นการตักเตือน
    พระองค์เผาผลาญสิ่งที่เขารักหวงแหนประหนึ่งแมลงกัดกิน
    แน่ละ ชีวิตของมนุษย์ทุกคนเป็นเพียงแค่ลมหายใจเท่านั้น เซล่าห์

12 โอ พระผู้เป็นเจ้า ฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้าเถิด
    เงี่ยหูฟังเสียงร้องของข้าพเจ้า
    และอย่าเมินเฉยกับน้ำตาของข้าพเจ้า
ด้วยว่าข้าพเจ้าเป็นผู้มาเยี่ยมเพียงชั่วครู่ชั่วยาม
    ผู้อาศัยชั่วคราวเหมือนบรรพบุรุษทั้งปวงของข้าพเจ้า
13 อย่าเอาเรื่องกับข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าจะได้ทราบว่าความสุขคืออะไร
    ก่อนข้าพเจ้าจะจากไปและหามีชีวิตอีกไม่”

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation