M’Cheyne Bible Reading Plan
ผลของการเชื่อฟัง
30 เมื่อสิ่งต่างๆทั้งหมดที่เราพูดมานี้ เกิดขึ้นกับท่าน ทั้งคำอวยพรและคำสาปแช่ง และถ้าท่านหวนคิดถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ ตอนที่ท่านอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านบังคับให้ท่านไปอยู่นั้น 2 ถ้าท่านหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และถ้าตัวท่านและลูกๆของท่านเชื่อฟังพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ ตามที่เรากำลังสั่งท่านอยู่ในวันนี้ 3 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะทำให้ท่านกลับมาเหมือนเดิม พระองค์จะสงสารท่าน และจะรวบรวมท่านอีกครั้งจากชนชาติต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทำให้ท่านกระจัดกระจายไปอยู่นั้น 4 ถึงแม้ท่านจะถูกบังคับให้ไปอยู่ไกลสุดขอบฟ้า พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะรวบรวมท่านกลับมา 5 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะนำท่านกลับมาสู่แผ่นดินที่บรรพบุรุษของท่านเคยเป็นเจ้าของ และท่านจะได้เป็นเจ้าของมัน และพระองค์จะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น และมีจำนวนมากกว่าบรรพบุรุษของท่าน 6 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเตรียมจิตใจของท่านและลูกหลานท่านให้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดใจสุดจิตของท่าน เพื่อท่านจะได้มีชีวิตอยู่
7 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเอาคำสาปแช่งทั้งหมดไปให้กับศัตรูของท่าน คนที่เกลียดท่านและคนที่กลั่นแกล้งท่าน 8 แล้วท่านจะกลับมาเชื่อฟังพระองค์อีกครั้ง และทำตามคำสั่งทุกข้อของพระองค์ตามที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ 9 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรืองอย่างเต็มที่ในทุกสิ่งที่ท่านทำ ท่านจะมีลูกดก ฝูงสัตว์ของท่านจะออกลูกมากมาย และที่ดินของท่านจะผลิตพืชผลมากมาย เพราะพระยาห์เวห์ยินดีที่จะทำให้ท่านเจริญรุ่งเรืองอีก เหมือนที่พระองค์เคยยินดีที่ทำให้บรรพบุรุษของท่านเจริญรุ่งเรืองมาแล้ว 10 เมื่อท่านเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านโดยรักษาบัญญัติ กฎของพระองค์ที่เขียนไว้ในหนังสือคำสอนนี้ เมื่อท่านกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดใจสุดจิตของท่าน
ชีวิตหรือความตาย
11 แน่นอน คำสั่งนี้ที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ ไม่ยากเกินกว่าที่ท่านจะเข้าใจได้ มันไม่ไกลเกินกว่าที่จะคว้าได้ 12 คำสั่งนี้ไม่ได้อยู่ในสวรรค์ จนท่านต้องพูดว่า ‘ใครจะขึ้นไปบนสวรรค์ เอามันลงมาให้เรา เพื่อเราจะได้ฟังและทำตามมันล่ะ’ 13 และคำสั่งนี้ก็ไม่ได้อยู่อีกฝั่งของทะเลจนท่านต้องพูดว่า ‘ใครจะข้ามทะเลไปถึงอีกฝั่ง เอามันกลับมาให้เรา เพื่อเราจะได้ฟังและทำตามมันล่ะ’ 14 เพราะคำนี้อยู่ใกล้ท่านมาก มันอยู่ที่ริมฝีปากและอยู่ในใจท่าน ท่านถึงทำตามมันได้
15 เห็นไหมว่า วันนี้เราให้ทางเลือกกับท่าน ระหว่างชีวิตกับความตาย ความรุ่งเรืองกับความล่มจม 16 ถ้าท่านเชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน[a] ที่เรากำลังสั่งท่านในวันนี้ โดยรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และเดินในทางของพระองค์ และเชื่อฟังคำสั่ง กฎ และข้อบังคับของพระองค์ แล้วท่านจะมีชีวิตอยู่และเพิ่มจำนวนมากขึ้น และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จะอวยพรท่านในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดเป็นเจ้าของ 17 แต่ถ้าใจของท่านหันเหไปจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และไม่เชื่อฟังพระองค์ และถูกชักนำไปในทางที่ผิด ไปบูชาและรับใช้พระอื่น 18 ถ้าอย่างนั้น เราขอเตือนพวกท่านในวันนี้ว่า พวกท่านจะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน พวกท่านจะไม่มีชีวิตอยู่ยืนยาวในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเพื่อไปยึดเป็นเจ้าของนั้น
19 เราเรียกฟ้าและดินมาเป็นพยาน วันนี้เราจะให้ทางเลือกกับท่านระหว่างชีวิตกับความตาย คำอวยพรกับคำสาปแช่ง ให้เลือกชีวิตเพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป 20 โดยรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เชื่อฟังพระองค์และติดสนิทกับพระองค์ เพราะการทำอย่างนั้นจะทำให้ท่านมีชีวิตอยู่ และท่านจะมีชีวิตยืนยาวบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์สัญญาว่าจะให้กับบรรพบุรุษของท่าน คืออับราฮัม อิสอัค และยาโคบ”
โยด
73 มือของพระองค์สร้างข้าพเจ้าและค้ำจุนข้าพเจ้าไว้
โปรดให้ความเข้าใจกับข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะได้เรียนรู้บัญญัติทั้งหลายของพระองค์
74 คนเหล่านั้นที่ยำเกรงพระองค์จะดีใจเมื่อเห็นข้าพเจ้า
เพราะข้าพเจ้าฝากความหวังไว้ในคำสัญญาของพระองค์
75 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้ารู้ว่ากฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์นั้นยุติธรรม
พระองค์ตีสอนข้าพเจ้าเพราะพระองค์ซื่อสัตย์ต่อข้าพเจ้า
76 แต่ตอนนี้ โปรดแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ต่อข้าพเจ้าและปลอบโยนข้าพเจ้าด้วยเถิด
เหมือนกับที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์
77 ช่วยส่งความเมตตาของพระองค์มายังทางของข้าพเจ้าด้วยเพื่อข้าพเจ้าจะได้มีชีวิตต่อไป
เพราะข้าพเจ้าเพลิดเพลินกับคำสั่งสอนของพระองค์
78 ขอให้พวกเย่อหยิ่งจองหองพวกนั้นได้รับความอับอายเพราะพวกเขาใส่ร้ายข้าพเจ้า
แต่ข้าพเจ้ายังใคร่ครวญอยู่กับคำสั่งต่างๆของพระองค์
79 ขอให้คนเหล่านั้นที่ยำเกรงพระองค์และรู้จักกฎต่างๆของพระองค์
กลับมาหาข้าพเจ้าด้วยเถิด
80 ขอให้ข้าพเจ้ารักษากฎระเบียบของพระองค์ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์
เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่ต้องอับอาย
คัฟ
81 ข้าพเจ้าอ่อนระโหยโรยแรง ในขณะที่รอคอยให้พระองค์มาช่วยกู้
แต่ข้าพเจ้าฝากความหวังของข้าพเจ้าไว้ในคำสัญญาของพระองค์
82 ดวงตาของข้าพเจ้าเหนื่อยล้าเพราะเฝ้ามองว่าเมื่อไหร่คำสัญญาของพระองค์จะเกิดขึ้นเสียที
เมื่อไหร่หนอ พระองค์จะปลอบโยนข้าพเจ้า
83 แม้ว่า ข้าพเจ้าจะเปรียบเหมือนกับถุงหนังเหล้าองุ่นที่แขวนรมควันจนเหี่ยวแห้ง
แต่ข้าพเจ้าก็จะไม่ลืมกฎระเบียบต่างๆของพระองค์
84 ข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์จะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน
เมื่อไหร่พระองค์จะตัดสินคนที่ข่มเหงข้าพเจ้า
85 พวกคนหยิ่งยโสนั้นได้ขุดพวกหลุมพรางดักข้าพเจ้า
พวกเขาไม่ทำตามคำสั่งสอนของพระองค์
86 บัญญัติทุกข้อของพระองค์เชื่อถือได้
พวกเขาไล่ล่าข้าพเจ้าทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขา โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
87 คนพวกนั้นเกือบจะดับข้าพเจ้าไปจากแผ่นดินโลก
แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ละทิ้งคำสั่งต่างๆของพระองค์
88 โปรดแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ต่อข้าพเจ้าเพื่อข้าพเจ้าจะได้มีชีวิตต่อไป
เพื่อข้าพเจ้าจะได้รักษากฎทั้งหลายจากปากของพระองค์
ลาเม็ธ
89 ข้าแต่พระยาห์เวห์ คำบัญชาของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป
มันยืนหยัดมั่นคงในฟ้าสวรรค์
90 ความซื่อสัตย์ของพระองค์จะคงอยู่ทุกชั่วอายุคนตลอดไป
เหมือนกับโลกนี้ที่พระองค์สร้างขึ้นมา
91 ทุกสิ่งทุกอย่างคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้เพราะกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
92 ถ้าหากข้าพเจ้าไม่ได้เพลิดเพลินในคำสั่งสอนของพระองค์
ข้าพเจ้าก็คงพินาศไปแล้วด้วยความทุกข์ทรมาน
93 ข้าพเจ้าจะไม่มีวันลืมคำสั่งต่างๆของพระองค์
พระองค์ให้ข้าพเจ้ามีชีวิตโดยทำตามคำสั่งเหล่านั้น
94 ข้าพเจ้าเป็นของพระองค์ ช่วยกู้ข้าพเจ้าด้วยเถิด
เพราะข้าพเจ้าอยากจะทำตามคำสั่งต่างๆของพระองค์
95 คนชั่วช้าดักซุ่มทำลายข้าพเจ้า
แต่ข้าพเจ้ายังใคร่ครวญถึงกฎต่างๆของพระองค์
96 ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีขีดจำกัด
แต่บัญญัติต่างๆของพระองค์นั้นไม่มีขีดจำกัด
อิสราเอลไม่ได้ติดตามพระเจ้า
57 คนดีๆตาย แต่ก็ไม่มีใครสนใจ
คนที่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้าถูกเอาไป ก็ไม่มีใครเข้าใจ
สาเหตุที่คนที่ดีๆถูกรับเอาไป
เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องเจอกับเรื่องเดือดร้อนกว่านั้น
2 และพวกเขาก็จะเข้าไปสู่ความสงบสุข
คนที่ใช้ชีวิตอย่างเที่ยงตรงก็จะได้พักผ่อนเมื่อนอนตายบนเตียงของเขา
3 แต่ส่วนพวกเจ้า มานี่เลย
พวกเจ้าที่เป็นลูกๆของแม่มด
พวกเจ้าที่เป็นลูกๆของคนเล่นชู้และโสเภณี
4 พวกเจ้าหัวเราะเยาะใครหรือ
พวกเจ้าทำหน้าและแลบลิ้นใส่ใครหรือ
พวกเจ้าเป็นลูกที่ชอบกบฏ
เป็นลูกหลานที่ชอบหลอกลวง ไม่ใช่หรือ
5 พวกเจ้าเผาผลาญไปด้วยตัณหาราคะท่ามกลางพวกต้นโอ๊กอันศักดิ์สิทธิ์
และใต้ต้นไม้ที่ให้ร่มเงาทุกต้น[a] เจ้าได้ฆ่าลูกๆเพื่อเซ่นไหว้ในหุบเขาต่างๆตามซอกผาต่างๆ
6 หินเกลี้ยงในธารน้ำแห้งนั้นเป็นพวกพระของเจ้า พวกหินเหล่านั้นก็เลยเป็นส่วนแบ่งของเจ้า
พวกมันเป็นมรดกของเจ้าไม่ใช่เรา
เจ้าได้เทเครื่องดื่มบูชาให้กับหินเหล่านั้น
และพวกเจ้าได้นำเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชมาถวายให้กับพวกมัน
เมื่อเห็นเรื่องต่างๆเหล่านี้ เจ้าคิดว่าเราจะพอใจและไม่ลงโทษเจ้าหรือ
7 เจ้าวางเตียงของเจ้าไว้บนภูเขาสูง
แล้วเจ้าก็ขึ้นไปที่นั่นเพื่อถวายเครื่องบูชา
8 เจ้าตั้งรูปเคารพของเจ้าไว้ด้านหลังประตูและเสาประตู
ใช่แล้ว เจ้าห่างไกลจากเรา
เจ้าทำตัวเปลือยเปล่าและปีนขึ้นไปบนเตียงของเจ้า
และเปิดเตียงให้กว้าง
เจ้าก็ได้เสนอค่าตัวกับพวกมัน
เจ้ารักเตียงของพวกมัน
เจ้าจ้องมองอวัยวะเพศของพวกมัน
9 เจ้าเอาน้ำมันมะกอกเดินทางไปหาพระโมเลค[b]
และเจ้าก็ใส่น้ำหอมของเจ้าซะมากมาย
เจ้าส่งพวกตัวแทนของเจ้าไปแดนไกล
เจ้าส่งพวกเขาไปไกลถึงแดนคนตาย
10 เจ้าเริ่มเหนื่อยล้าจากการเดินทางบ่อยๆ
แต่เจ้าไม่ยอมพูดว่า “แบบนี้คงจะไม่ได้อะไรแน่”
เจ้ามีกำลังขึ้นมาใหม่
เจ้าจึงไม่เป็นลมไป
11 ตอนนั้นเจ้ายำเกรงและหวาดกลัวใครกัน
เจ้าถึงได้โกหกและไม่ได้ระลึกถึงเราหรือคิดถึงเรา
เรายังเก็บตัวเงียบๆและซ่อนตัวอยู่
เจ้าถึงได้ไม่ยำเกรงเรา ใช่ไหม
12 เราจะพูดถึงความดีและการงานต่างๆของเจ้าก็ได้
แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้หรอก
13 เมื่อเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ ก็ให้รูปปั้นที่เจ้าได้สะสมนั้นช่วยเจ้าก็แล้วกัน
ลมจะพัดพวกมันไปหมด
ลมจะเป่าพวกมันไปหมด
แต่คนที่ลี้ภัยในเราก็จะได้เป็นเจ้าของแผ่นดินนั้น และได้เป็นเจ้าของภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
พระยาห์เวห์จะช่วยคนของพระองค์
14 พระองค์จะพูดว่า “สร้างมันขึ้นมา สร้างมันขึ้นมา เตรียมทางไว้
กำจัดสิ่งกีดขวางต่างๆออกไปจากทางของคนของเรา”
15 พระเจ้า ผู้อยู่ในที่สูงและได้รับการยกย่อง
ผู้ที่อยู่ตลอดกาล
และผู้ที่มีชื่ออันศักดิ์สิทธิ์
พูดว่า “เราอาศัยอยู่ในที่สูงและศักดิ์สิทธิ์
แต่เราก็อยู่กับคนเหล่านั้นที่สำนึกผิดและถ่อมตัวลง
เราจะฟื้นฟูจิตใจของคนที่ถ่อมตัวลงและฟื้นฟูจิตใจของคนที่สำนึกผิด
16 เพราะเราจะไม่กล่าวหาตลอดเวลา
และเราก็จะไม่โกรธไปตลอดกาล
เพราะถ้าอย่างนั้นจิตวิญญาณของมนุษย์ที่เราสร้างขึ้นมา
ก็จะตายต่อหน้าเรา
17 เราโกรธในเรื่องความโลภอันชั่วร้ายของพวกเขา
เราจึงลงโทษพวกเขา
เราได้ซ่อนตัวเราเองและโกรธ
แต่พวกเขาก็ยังหันเหไปตามทางทั้งหลายของพวกเขา
18 เราได้เห็นทางของพวกเขาแล้ว แต่เราจะรักษาพวกเขาไว้
เราจะนำทางพวกเขาและปลอบโยนพวกเขาคือคนเหล่านั้นที่ไว้ทุกข์ และเราจะให้ปากพวกเขากลับพูดคำสรรเสริญแทน”
19 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะให้สันติสุข สันติสุขแท้จริงกับทุกคน ทั้งคนที่อยู่ใกล้และคนที่อยู่ไกล
แล้วเราจะรักษาพวกเขาไว้
20 แต่คนชั่วเป็นเหมือนทะเลที่ปั่นป่วนไม่สามารถสงบนิ่งได้
คลื่นของมันกวนทั้งโคลนและดินขึ้นมา
21 คนชั่วจะไม่มีสันติสุข”
พระเจ้าของผมพูดไว้ว่าอย่างนั้น
เกียรติที่มาจากพระเจ้า
(ลก. 6:20-23)
5 เมื่อพระเยซูเห็นผู้คนตามมาเป็นจำนวนมาก พระองค์ได้ขึ้นไปบนภูเขาและนั่งอยู่ที่นั่น พวกศิษย์เข้ามาหาพระองค์ 2 พระองค์จึงเริ่มสอนพวกเขาว่า
3 “คนที่รู้ตัวว่าต้องการพระเจ้า มีเกียรติจริงๆ
เพราะเขาได้เป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรแห่งสวรรค์
4 คนที่โศกเศร้า มีเกียรติจริงๆ
เพราะพระเจ้าจะปลอบโยนเขา
5 คนที่มีจิตใจอ่อนโยน มีเกียรติจริงๆ
เพราะพระเจ้าจะให้โลกนี้กับเขา
6 คนที่หิวกระหายที่จะทำตามใจพระเจ้า
มีเกียรติจริงๆเพราะพระเจ้าจะทำให้เขาอิ่มใจ
7 คนที่มีจิตใจเมตตา มีเกียรติจริงๆ
เพราะพระเจ้าจะเมตตาเขา
8 คนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ มีเกียรติจริงๆ
เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า
9 คนที่สร้างสันติ มีเกียรติจริงๆ
เพราะพระเจ้าจะเรียกเขาว่าเป็นลูก
10 คนที่โดนข่มเหงรังแกเพราะทำตามความต้องการของพระเจ้า
มีเกียรติจริงๆเพราะเขาได้เป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรแห่งสวรรค์
11 คนที่โดนดูถูก โดนข่มเหงรังแก และโดนใส่ร้ายป้ายสี
เพราะติดตามเรา มีเกียรติจริงๆ
12 ให้ดีใจและมีความสุขเถอะ เพราะพระเจ้าได้เก็บรางวัลอันยิ่งใหญ่ไว้ให้กับคุณแล้วที่บนสวรรค์ เพราะพวกผู้พูดแทนพระเจ้าในสมัยก่อนก็โดนข่มเหงอย่างเดียวกับคุณนี่แหละ
เกลือและแสงสว่าง
(มก. 9:50; 4:21; ลก. 14:34-35; 8:16)
13 พวกคุณเป็นเกลือ[a]ของโลกนี้ ถ้าเกลือหมดรสเค็มแล้ว จะทำให้เค็มอีกได้อย่างไร มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว นอกจากเอาไปทิ้งให้คนเหยียบย่ำ 14 พวกคุณเป็นแสงสว่างของโลก เมืองที่สร้างอยู่บนภูเขาจะเอาไปซ่อนไว้ไม่ให้คนเห็นก็ไม่ได้ 15 เหมือนกับเมื่อจุดตะเกียง ก็ไม่มีใครเอาไปไว้ใต้ถัง แต่จะเอาไปตั้งไว้บนเชิงตะเกียง เพื่อจะได้ส่องสว่างให้กับทุกคนที่อยู่ในบ้าน 16 พวกคุณก็เหมือนกัน ให้ส่องสว่างออกไปเพื่อคนจะได้เห็นความดีที่คุณทำ และจะได้สรรเสริญพระบิดาของคุณที่อยู่บนสวรรค์
พระเยซูสั่งสอนเกี่ยวกับกฎปฏิบัติ
17 อย่าคิดว่าเรามายกเลิกกฎปฏิบัติของโมเสส หรือมายกเลิกข้อความที่ผู้พูดแทนพระเจ้าเขียนไว้ เราไม่ได้มายกเลิกแต่มาทำให้มันสำเร็จ[b] 18 เราจะบอกให้รู้ว่า ตราบใดที่ฟ้าและดินยังอยู่ จะไม่มีวันที่ตัวหนังสือตัวเล็กๆหรือจุดเล็กๆสักจุดเดียวจะหายไปจากกฎปฏิบัติ จนกว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นจริงตามนั้น 19 คนที่ไม่ยอมเชื่อฟังข้อเล็กๆข้อหนึ่งในกฎปฏิบัติ แล้วยังสอนให้คนอื่นไม่เชื่อฟังด้วย คนนั้นก็จะเป็นคนที่เล็กน้อยที่สุดในอาณาจักรแห่งสวรรค์ แต่คนที่เชื่อฟังกฎปฏิบัติและสอนให้คนอื่นเชื่อฟังด้วย คนๆนั้นก็จะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรแห่งสวรรค์ 20 เพราะเราจะบอกให้รู้ว่า ถ้าพวกคุณไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้ามากไปกว่าที่พวกครูสอนกฎปฏิบัติและพวกฟาริสีเชื่อฟังพระองค์ คุณก็จะไม่มีวันได้เข้าไปในอาณาจักรแห่งสวรรค์
เรื่องความโกรธ
21 พวกคุณคงเคยได้ยินที่เขาพูดกับคนสมัยก่อนว่า ‘อย่าฆ่าคน’[c] แต่ถ้าใครทำ คนนั้นจะต้องถูกลงโทษ 22 แต่เราจะบอกให้รู้ว่า แค่คนที่โกรธพี่น้องของตัวเองก็ถูกตัดสินว่าผิดแล้ว และคนที่ว่าพี่น้องของตัวเองว่า ‘ไอ้ปัญญาอ่อน’ เขาจะต้องถูกสอบสวนในศาลสูง และใครก็ตามที่ว่าคนอื่น ‘ไอ้โง่’ เขาก็เสี่ยงต่อบึงไฟนรกแล้ว
23 ดังนั้นถ้าคุณนำเครื่องบูชามาถึงแท่นบูชา และนึกขึ้นได้ว่า พี่น้องมีปัญหากับคุณในสิ่งที่คุณทำไป 24 ให้วางเครื่องบูชานั้นไว้ และกลับไปคืนดีกับพี่น้องคนนั้นก่อน แล้วค่อยกลับมาถวายเครื่องบูชา
25 ถ้ามีใครฟ้องร้องคุณ ก็ให้รีบปรับความเข้าใจกับเขาในระหว่างทางที่กำลังไปศาล ไม่อย่างนั้นเขาจะส่งตัวคุณให้ผู้พิพากษา แล้วผู้พิพากษาจะส่งคุณไปให้ผู้คุมเอาไปขังคุก 26 เราจะบอกให้รู้ว่า คุณจะถูกขังจนกว่าจะใช้หนี้ครบทุกบาททุกสตางค์
เรื่องการมีชู้
27 พวกคุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘อย่าเป็นชู้กับสามีภรรยาเขา’[d] 28 แต่เราจะบอกคุณว่า แค่มองผู้หญิงแล้วเกิดความใคร่ ก็ถือว่าคุณเป็นชู้ทางใจกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว 29 ดังนั้น ถ้าตาขวาของคุณทำให้คุณทำบาป ก็ให้ควักทิ้งไปเลย เพราะเสียอวัยวะไปส่วนหนึ่ง ก็ยังดีกว่าถูกโยนลงไปในนรกทั้งตัว 30 ถ้ามือขวาของคุณทำให้คุณทำบาป ก็ให้ตัดทิ้งไปเลย เพราะเสียอวัยวะไปส่วนหนึ่งก็ยังดีกว่าจะต้องตกนรกทั้งตัว
เรื่องการหย่าร้าง
(มธ. 19:9; มก. 10:11-12; ลก. 16:18)
31 มีคำพูดว่า ‘ถ้าใครจะหย่ากับภรรยา ก็ให้ทำหนังสือหย่า[e] ให้กับภรรยา’ 32 แต่เราจะบอกคุณว่า ใครก็ตามที่หย่ากับภรรยา ยกเว้นหย่าเพราะเรื่องการทำบาปทางเพศ ก็ทำให้ภรรยามีชู้เมื่อเธอไปแต่งงานใหม่ และผู้ชายที่มาแต่งงานกับเธอก็ถือว่ามีชู้ด้วย
เรื่องการสาบาน
33 พวกคุณคงเคยได้ยินที่เขาพูดกับคนสมัยก่อนว่า ‘อย่าผิดคำสาบาน ต้องทำตามคำสาบานที่ให้ไว้กับองค์เจ้าชีวิต[f]’ 34 แต่เราขอบอกว่าอย่าสาบานเลย ไม่ต้องอ้างถึงสวรรค์ เพราะสวรรค์นั้นเป็นที่นั่งของพระเจ้า 35 ไม่ต้องอ้างถึงโลกนี้ เพราะโลกนี้เป็นที่วางเท้าของพระเจ้า[g] ไม่ต้องอ้างถึงเมืองเยรูซาเล็ม เพราะเมืองเยรูซาเล็มเป็นเมืองของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ 36 ไม่ต้องอ้างโดยเอาหัวเป็นประกัน เพราะเส้นผมสักเส้นคุณก็ยังไม่มีปัญญาทำให้มันขาวหรือดำได้เลย 37 ถ้า ‘ใช่’ ก็บอกว่า ‘ใช่’ ถ้า ‘ไม่’ ก็บอกว่า ‘ไม่’ พูดแค่นี้พอแล้ว พูดมากกว่านี้ก็มาจากมาร
เรื่องการแก้แค้น
(ลก. 6:29-30)
38 พวกคุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’[h] 39 แต่เราขอบอกว่า อย่าคิดแก้แค้นคนที่ทำผิดต่อคุณ ถ้าใครตบแก้มขวาของคุณ ก็หันแก้มซ้ายให้เขาตบด้วย 40 ถ้าใครฟ้องร้องเอาเสื้อของคุณ ก็แถมเสื้อคลุมให้เขาไปด้วย 41 ถ้าใครบังคับให้คุณแบกของไปกับเขาหนึ่งกิโลเมตร ก็แบกไปสองกิโลเมตรเลย 42 ถ้าใครมาขออะไรจากคุณก็ให้เขาไป อย่าหันหน้าหนีไปจากคนที่มาขอยืมคุณเลย
ให้รักศัตรู
(ลก. 6:27-28, 32-36)
43 พวกคุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘รักเพื่อนบ้าน[i] และเกลียดชังศัตรู’ 44 แต่เราขอบอกคุณว่า ให้รักศัตรูของคุณ และอธิษฐานเผื่อคนที่ข่มเหงคุณ 45 เพราะถ้าทำอย่างนี้ คุณก็จะเป็นลูกที่แท้จริงของพระบิดาในสวรรค์ พระองค์ทำให้ดวงอาทิตย์ส่องสว่างให้ทั้งคนดีและคนชั่ว ให้ฝนตกกับทั้งคนที่ทำถูกและคนที่ทำผิดเหมือนกัน 46 ถ้าคุณรักแต่คนที่รักคุณ แล้วมันมีอะไรพิเศษตรงไหน แม้แต่คนเก็บภาษี ก็ยังรักคนที่รักเขาเหมือนกัน 47 ถ้าทักทายแต่เพื่อน คุณได้ทำอะไรพิเศษไปกว่าคนอื่นๆหรือ เพราะคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า[j] ก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน 48 ดังนั้นพระบิดาของพวกคุณบนสวรรค์ดีพร้อมขนาดไหน ก็ให้พวกคุณดีพร้อมขนาดนั้นด้วย
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International