Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
กันดารวิถี 29

เทศกาลแตร

(ลนต. 23:23-25)

29 ในวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ด จะมีการชุมนุมศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกเจ้า พวกเจ้าต้องไม่ทำงานใช้แรงงานใดๆ วันนั้นจะเป็นวันเป่าแตร[a] ของพวกเจ้า เจ้าจะถวายสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องเผาบูชาอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ คือวัวหนุ่มหนึ่งตัวจากฝูง แกะตัวผู้หนึ่งตัวและลูกแกะอายุหนึ่งปีเจ็ดตัว พวกมันต้องไม่มีตำหนิใดๆ เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชพร้อมกับพวกมัน โดยใช้แป้งอย่างดีหกลิตรครึ่ง[b] ผสมน้ำมันสำหรับวัวแต่ละตัว แป้งสี่ลิตรครึ่ง[c] สำหรับแกะตัวผู้แต่ละตัว แป้งสองลิตร[d] สำหรับลูกแกะแต่ละตัวจากลูกแกะทั้งเจ็ดตัวนั้น และต้องถวายแพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เพื่อชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเจ้า เครื่องบูชาเหล่านี้เป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมา ไม่นับรวมเครื่องเผาบูชารายเดือนกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชของมัน และไม่รวมเครื่องเผาบูชาประจำวันกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชของมัน และเครื่องดื่มบูชาตามที่กำหนดไว้แต่ละอย่าง พวกมันจะเป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

วันชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

(ลนต. 23:26-32)

ในวันที่สิบของเดือนเจ็ด เจ้าจะมีการชุมนุมศักดิ์สิทธิ์ เจ้าต้องไม่กินอาหารหรือทำงานใดๆ เจ้าต้องถวายสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องเผาบูชาอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ คือวัวหนุ่มตัวหนึ่งจากฝูง แกะตัวผู้หนึ่งตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีเจ็ดตัว เจ้าต้องแน่ใจว่าพวกมันไม่มีตำหนิใดๆ และเจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชพร้อมๆกันด้วย โดยใช้แป้งอย่างดีผสมน้ำมัน ใช้แป้งหกลิตรครึ่งสำหรับวัวแต่ละตัว ใช้แป้งสี่ลิตรครึ่งสำหรับแกะแต่ละตัว 10 และใช้แป้งสองลิตรสำหรับลูกแกะแต่ละตัว จากลูกแกะทั้งเจ็ดตัวนั้น 11 เจ้ายังต้องบูชาแพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องบูชาเหล่านี้ เป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาต่างหากจากเครื่องบูชาชำระล้าง ที่ใช้ในวันชำระล้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์[e] และเครื่องเผาบูชาประจำวันกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชของมัน และเครื่องดื่มบูชาที่มาในชุดเดียวกันนั้นด้วย

เทศกาลอยู่เพิง

(ลนต. 23:33-44)

12 ในวันที่สิบห้าเดือนเจ็ด[f] เจ้าจะมีการชุมนุมศักดิ์สิทธิ์ เจ้าต้องไม่ทำงานที่ใช้แรงงานและต้องจัดเทศกาลเฉลิมฉลองให้เกียรติกับพระยาห์เวห์เป็นเวลาเจ็ดวัน 13 เจ้าต้องถวายเครื่องเผาบูชา เป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ คือวัวหนุ่มสิบสามตัวจากฝูง แกะตัวผู้สองตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีสิบสี่ตัว พวกมันต้องไม่มีตำหนิใดๆ 14 เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชพร้อมๆกันด้วย โดยใช้แป้งอย่างดีผสมน้ำมัน ใช้แป้งหกลิตรครึ่งสำหรับวัวแต่ละตัวจากวัวทั้งสิบสามตัวนั้น แป้งสี่ลิตรครึ่งสำหรับแกะแต่ละตัวจากแกะสองตัวนั้น 15 และใช้แป้งสองลิตรสำหรับลูกแกะแต่ละตัวจากลูกแกะทั้งสิบสี่ตัวนั้น 16 และต้องถวายแกะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง นอกเหนือไปจากเครื่องเผาบูชาประจำวันกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชของมัน และเครื่องดื่มบูชาในชุดเดียวกัน

17 ในวันที่สอง ต้องถวายวัวหนุ่มสิบสองตัวจากฝูง แกะตัวผู้สองตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีสิบสี่ตัว ทุกตัวต้องไม่มีตำหนิใดๆ 18 เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาไปพร้อมๆกับวัว แกะและลูกแกะเหล่านั้นโดยใช้ตามจำนวนที่ได้กำหนดไว้ 19 และบูชาแพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องบูชาเหล่านี้เป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากเครื่องเผาบูชาประจำวันกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาในชุดเดียวกัน

20 ในวันที่สาม ต้องบูชาวัวหนุ่มสิบเอ็ดตัวจากฝูง แกะตัวผู้สองตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีสิบสี่ตัว ทุกตัวต้องไม่มีตำหนิใดๆ 21 เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาไปพร้อมๆกับวัว แกะและลูกแกะเหล่านั้นโดยใช้ตามจำนวนที่ได้กำหนดไว้ 22 และต้องบูชาแพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องบูชาเหล่านี้เป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาต่างหากจากเครื่องเผาบูชาประจำวันกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาในชุดเดียวกัน

23 ในวันที่สี่ ต้องบูชาวัวหนุ่มสิบตัวจากฝูงแกะตัวผู้สองตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีสิบสี่ตัว ทุกตัวต้องไม่มีตำหนิใดๆ 24 เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาไปพร้อมๆกับวัว แกะและลูกแกะเหล่านั้นโดยใช้ตามจำนวนที่ได้กำหนด 25 และต้องบูชาแพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องบูชาเหล่านี้เป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาต่างหากจากเครื่องเผาบูชาประจำวันกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาในชุดเดียวกัน

26 ในวันที่ห้า ต้องบูชาวัวหนุ่มเก้าตัวจากฝูง แกะตัวผู้สองตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีสิบสี่ตัว ทุกตัวต้องไม่มีตำหนิใดๆ 27 เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาไปพร้อมๆกับวัว แกะและลูกแกะเหล่านั้นโดยใช้ตามจำนวนที่กำหนด 28 และต้องบูชาแพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องบูชาเหล่านี้เป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาต่างหากจากเครื่องเผาบูชาประจำวันกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาในชุดเดียวกัน

29 ในวันที่หก ต้องบูชาวัวหนุ่มแปดตัวจากฝูง แกะตัวผู้สองตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีสิบสี่ตัว ทุกตัวต้องไม่มีตำหนิใดๆ 30 เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชไปพร้อมๆกับวัว แกะและลูกแกะเหล่านั้นโดยใช้ตามจำนวนที่กำหนด 31 และต้องบูชาแพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องบูชาเหล่านี้เป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาต่างหากจากเครื่องเผาบูชาประจำวันกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาในชุดเดียวกัน

32 ในวันที่เจ็ด ต้องบูชาวัวหนุ่มเจ็ดตัวจากฝูง แกะตัวผู้สองตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีสิบสี่ตัว ทุกตัวต้องไม่มีตำหนิใดๆ 33 เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาไปพร้อมๆกับวัว แกะและลูกแกะเหล่านั้นโดยใช้ตามจำนวนที่กำหนด 34 และต้องบูชาแพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องบูชาเหล่านี้เป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาต่างหากจากเครื่องเผาบูชาประจำวันกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาในชุดเดียวกัน

35 ในวันที่แปด เจ้าจะมีพิธีปิดการประชุม เจ้าต้องไม่ทำงานใช้แรงงานในวันนั้น 36 เจ้าต้องนำเครื่องบูชาต่อไปนี้มาเป็นเครื่องเผาบูชาและของถวายที่มีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ คือ มีวัวหนึ่งตัว แกะตัวผู้หนึ่งตัวและลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีเจ็ดตัว ทุกตัวต้องไม่มีตำหนิใดๆ 37 และต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาไปพร้อมๆกับวัว แกะและลูกแกะเหล่านั้นโดยใช้ตามจำนวนที่กำหนด 38 และเจ้าต้องถวายแพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องบูชาเหล่านี้เป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมา ไม่รวมถึงเครื่องเผาบูชาประจำวันกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชาในชุดเดียวกัน

39 เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาเหล่านี้ให้พระยาห์เวห์ในวันหยุดพิเศษของเจ้า เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาเหล่านี้เป็นเครื่องเผาบูชาของเจ้า เป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช เครื่องดื่มบูชาและเป็นเครื่องสังสรรค์บูชาของเจ้านอกเหนือไปจากเครื่องบูชาที่เจ้าสัญญาไว้และของขวัญพิเศษของเจ้า’”

40 ดังนั้นโมเสสจึงบอกกับประชาชนชาวอิสราเอลตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขาไว้

สดุดี 73

หนังสือเล่มที่สาม

(สดุดี 73-89)

ดูเหมือนคนชั่วได้ดีคนดีได้ชั่ว

บทเพลงสดุดีของอาสาฟ[a]

แน่นอน พระเจ้าทรงดีต่ออิสราเอล
    คือดีต่อคนอิสราเอลเหล่านั้นที่มีจิตใจบริสุทธิ์
แต่เท้าของข้าพเจ้าเองเกือบลื่นล้ม
    ย่างเท้าของข้าพเจ้าเกือบจะลื่นหงายหลังแล้ว
เพราะข้าพเจ้าเริ่มจะอิจฉาคนที่หยิ่งจองหอง
    เมื่อข้าพเจ้าเห็นถึงความร่ำรวยของพวกคนชั่วเหล่านั้น

พวกเขาไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอะไรเลย
    ร่างกายพวกเขาแข็งแรงและพวกเขาอยู่ดีกินดี[b]
พวกเขาไม่ต้องดิ้นรนต่อสู้เหมือนคนอื่น
    และไม่เดือดร้อนเหมือนคนอื่น
ดังนั้นพวกเขาใส่ความเย่อหยิ่งเหมือนสร้อยคอ
    และสวมความทารุณโหดร้ายเหมือนเสื้อผ้า
พวกเขาอ้วนจนตาถลน
    จิตใจเต็มไปด้วยความคิดชั่วร้าย
พวกเขาเย้ยหยันผู้อื่นและวางแผนการร้ายต่อผู้อื่น
    พวกเขาใช้ฐานะทางสังคมที่สูงกว่าวางแผนเอาเปรียบผู้คน
ปากของพวกเขาพูดราวกับว่าเป็นผู้ครอบครองฟ้าสวรรค์
    ลิ้นของพวกเขาพูดยังกับว่าเป็นเจ้าของโลกนี้

10 ดังนั้น แม้แต่คนของพระเจ้าก็หันไปหาพวกเขา
    และยินดีทำตามที่พวกเขาบอก
11 คนหยิ่งจองหองพวกนั้นพูดว่า “พระเจ้าจะรู้ได้ยังไงว่าพวกเราทำอะไรอยู่
    พระเจ้าสูงส่งนั้นจะรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”
12 ดูเอาเถอะ คนชั่วก็เป็นอย่างนั้นแหละ
    พวกเขาอยู่กันอย่างสบายๆและยังรวยเอารวยเอา
13 ดังนั้น ข้าพเจ้าคิดในใจว่า “มันจะมีประโยชน์อะไร ที่ข้าพเจ้าจะต้องรักษาใจให้บริสุทธิ์
    และล้างมือของข้าพเจ้าเพื่อแสดงว่าข้าพเจ้าบริสุทธิ์
14 ข้าพเจ้าต้องทนทุกข์ตลอดเวลา
    และถูกลงโทษทุกๆเช้าอยู่”

15 แต่ถ้าข้าพเจ้าตั้งใจที่จะพูดอย่างนั้น
    ก็จะเป็นการหักหลังคนของพระองค์
16 ข้าพเจ้าพยายามอย่างหนักที่จะเข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้
    แต่มันยากเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้
17 จนกระทั่งข้าพเจ้าได้เข้าไปยังวิหารของพระเจ้า
    ตอนนั้นแหละข้าพเจ้าถึงได้เข้าใจจุดจบของพวกเขา
18 ข้าแต่พระเจ้า แน่นอน พระองค์ได้วางพวกเขาไว้บนทางลื่น
    และพระองค์พร้อมที่จะให้พวกเขาตกลงไปสู่ความพินาศ
19 แล้วพวกเขาจะถูกทำลายในชั่วพริบตา
    พวกเขาจะพบกับจุดจบจากความตายอันน่าสะพรึงกลัว
20 พวกเขาจะเป็นเหมือนกับฝันที่พอเราตื่นขึ้นมาก็ลืมหมด
    องค์เจ้าชีวิต เมื่อพระองค์ลุกขึ้นมา
พระองค์จะทำให้พวกเขาหายไปเหมือนภาพในฝันนั้น

21 เมื่อจิตใจของข้าพเจ้าขมขื่น
    และความเจ็บปวดเสียบแทงเข้าในใจ
22 ตอนนั้นข้าพเจ้าช่างโง่เขลาเบาปัญญา
    และสิ้นคิดเหมือนสัตว์ต่อหน้าพระองค์
23 แต่ข้าพเจ้ายังคงอยู่กับพระองค์เสมอ
    พระองค์จับมือขวาของข้าพเจ้าไว้
24 พระองค์นำทางข้าพเจ้าด้วยคำชี้แนะของพระองค์
    และหลังจากนั้นพระองค์จะนำข้าพเจ้าเข้าไปสู่เกียรติยศ[c]
25 ในฟ้าสวรรค์ ข้าพเจ้าไม่มีใครเลยนอกจากพระองค์
    ในโลกนี้ มีแต่พระองค์เท่านั้นที่ข้าพเจ้าอยากได้
26 กายใจของข้าพเจ้าอาจอ่อนแอลง
    แต่พระเจ้าคือหินกำบังแห่งจิตใจของข้าพเจ้าและเป็นมรดกของข้าพเจ้าตลอดไป

27 แต่คนเหล่านั้นที่อยู่ห่างไกลจากพระองค์จะพบกับความหายนะ
    เพราะพระองค์จะทำลายล้างคนเหล่านั้นที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
28 แต่ส่วนข้าพเจ้านั้น มันช่างดีจริงที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับพระองค์
    ข้าพเจ้าเอาพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตเป็นที่ลี้ภัย
    และข้าพเจ้าจะเล่าถึงทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำ

อิสยาห์ 21

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับบาบิโลน

21 นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับบาบิโลน[a]

มีสิ่งหนึ่งมาจากทะเลทราย
    เหมือนกับพายุใหญ่พัดมาจากเนเกบ
    มันมาจากดินแดนอันน่าสะพรึงกลัว
ผมได้เห็นนิมิตที่เลวร้าย ในนิมิตนั้น
    ผมเห็นพวกคนทรยศกำลังหักหลังเจ้า
    ผมเห็นพวกผู้ทำลายกำลังยึดทรัพย์สมบัติเจ้า
พระยาห์เวห์ว่า “เอลาม ขึ้นไปโจมตีเลย
    มีเดีย โอบล้อมโจมตีบาบิโลนเลย
    เราจะหยุดเสียงร้องครวญครางของชนชาติทั้งหลายที่บาบิโลนก่อขึ้น”
เมื่อผมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ผมเจ็บปวดไปทั่วท้อง
    อย่างกับผู้หญิงเจ็บตอนคลอดลูก
สิ่งที่ผมได้ยินมาทำให้ผมวุ่นวายใจ
    สิ่งที่ผมเห็นมาทำให้ผมหวาดกลัว
จิตใจของผมหมุนติ้วไปหมด ผมตัวสั่นงันงกไปด้วยความกลัว
    ค่ำคืนอันแสนหวานของผมกลับทำให้ผมกลัวจนตัวสั่น

พวกเขาตั้งโต๊ะ
    ปูพรม
    กินและดื่มกัน
แล้วมีคนร้องว่า ลุกขึ้น พวกแม่ทัพนายกองทั้งหลาย
    เตรียมโล่สำหรับรบ

พระยาห์เวห์บอกกับผมว่า “ไปตั้งทหารยามคนหนึ่ง
    เมื่อเขาเห็นอะไร ก็ให้มารายงาน
เมื่อเขาเห็นพวกรถรบลากด้วยม้าเป็นคู่ๆ
    คนขี่ลา คนขี่อูฐ
ให้เขาตื่นตัวเต็มที่
    ให้ระวังอย่างเต็มที่”
แล้วทหารยาม[b]ก็ร้องว่า “ข้าแต่องค์เจ้าชีวิตข้าพเจ้ายืนเฝ้ายามอยู่บนหอคอยทุกวัน
    และข้าพเจ้ายืนอยู่ประจำที่ทุกคืน
ดูสิ มีรถรบคันหนึ่งที่ลากด้วยม้าคู่หนึ่ง
แล้วคนบนรถรบนั้นร้องตะโกนว่า
    ‘บาลิโลนล่มสลายแล้ว[c] มันล่มสลายแล้ว
และพวกรูปปั้นเทพเจ้าของมันทั้งหมดก็ถูกทำลายแตกเป็นชิ้นๆอยู่บนดิน’”

10 คนของเราเอ๋ย พวกเจ้าที่ถูกนวด พวกเจ้าที่ถูกฝัดร่อน
    ผมได้ยินอะไรมาจากพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพระเจ้าแห่งอิสราเอล
    ผมก็ประกาศไปอย่างนั้น

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับดูมาห์

11 นี่เป็นข่าวสารเกี่ยวกับดูมาห์[d]
มีคนหนึ่งเรียกผมจากเมืองเสอีร์
    “ยาม คืนนี้มีข่าวอะไรจากดูมาห์ไหม
    ยาม คืนนี้มีข่าวอะไรไหม”

12 ทหารยามตอบว่า
    “ผ่านไปวันหนึ่งกับคืนหนึ่งแล้วไม่มีข่าวอะไรเลย[e]
ถ้าอยากจะถาม
    ค่อยกลับมาถามใหม่นะ”

ข่าวสารของพระเจ้าถึงอาระเบีย

13 นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับอาระเบีย[f]

ขบวนพ่อค้าจากเดดานเอ๋ย
    เจ้าจะค้างคืนอยู่ตามพุ่มไม้ในทะเลทรายอาระเบีย
14 ชาวแผ่นดินเทมาเอ๋ย
    ให้เอาน้ำออกมาให้คนที่หิวกระหายด้วย
    ให้เอาขนมปังออกมาเลี้ยงคนที่ลี้ภัยด้วย
15 เพราะพวกเขาได้หนีจากคมดาบมา
    หนีจากดาบที่ชักจากฝักพร้อมฟันแล้ว
หนีจากคันธนูที่ง้างพร้อมยิงแล้ว
    หนีจากการสู้รบอย่างหนัก

16 องค์เจ้าชีวิต พูดกับผมอย่างนี้ว่า “ในหนึ่งปี ตรงเผงอย่างกับที่ลูกจ้างนับเวลาที่เขาตกลงจะทำงาน ศักดิ์ศรีทั้งหมดของเคดาร์[g] จะจบสิ้นไป 17 จำนวนนักรบแม่นธนูในกองทัพเคดาร์จะเหลือน้อยมาก” เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลได้ลั่นคำพูดไปแล้ว

2 เปโตร 2

ผู้สอนเท็จ

แต่ก็มีผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมเกิดขึ้นในกลุ่มคนของพระเจ้า ซึ่งก็เหมือนกับที่จะมีครูจอมปลอมเกิดขึ้นในกลุ่มพวกคุณนั่นแหละ พวกนี้จะเอาความคิดนอกลู่นอกทางมาสอนกัน คำสอนพวกนี้ทำให้คนถูกทำลายได้ ถึงแม้องค์เจ้าชีวิตได้ซื้อเขาไว้แล้ว เขาก็ยังปฏิเสธองค์เจ้าชีวิตอยู่ดี ซึ่งจะทำให้เขาถูกทำลายโดยเร็ว จะมีหลายคนหันไปทำชั่วตามคนพวกนี้ คนพวกนี้แหละที่ทำให้คนดูหมิ่นทางแห่งความจริง ด้วยความโลภ พวกนี้จะกุเรื่องขึ้นมาสอน หวังจะหลอกเอาเงินของคุณ คำตัดสินโทษต่อคนพวกนี้ที่ได้ประกาศไว้ตั้งนานแล้วนั้น ไม่ได้เอาไว้ขู่เล่นๆ แต่ความพินาศนั้นพร้อมแล้วและกำลังจะมาในเร็วๆนี้

พระเจ้าไม่ได้ละเว้นโทษแก่ทูตสวรรค์เมื่อพวกเขาทำบาป แต่ส่งไปขังไว้ในหลุมที่ลึกมาก ล่ามโซ่ไว้ในความมืดเพื่อรอวันพิพากษา ในสมัยโบราณ พระเจ้าก็ไม่ได้ละเว้นโทษให้กับโลกนี้ที่เต็มไปด้วยคนที่ต่อต้านพระองค์ แต่ส่งน้ำมาท่วมโลก อย่างไรก็ตามพระองค์ได้คุ้มครองโนอาห์ซึ่งเป็นคนที่ไปประกาศให้คนใช้ชีวิตอย่างถูกต้องกับพระองค์ และพระเจ้าก็ได้คุ้มครองอีกเจ็ดคนด้วย พระเจ้าได้ตัดสินลงโทษเผาเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ไปทั้งเมือง เพื่อให้คนที่ต่อต้านพระเจ้าเห็นเป็นตัวอย่างว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา แต่พระองค์ได้ช่วยกู้โลทคนที่ทำตามใจพระองค์ ความลามกของคนชั่วช้านั้นทำให้โลทเจ็บปวดรวดร้าวใจ (โลทเป็นคนดี แต่เพราะอยู่กับคนชั่ว ได้เห็นการกระทำชั่วๆและได้ยินคำพูดเลวๆของพวกเขาทุกๆวัน ทำให้จิตใจที่ดีของเขาเจ็บปวดรวดร้าว) ถ้าเป็นอย่างนี้ องค์เจ้าชีวิตย่อมรู้ว่าจะช่วยกู้คนที่อุทิศตัวให้กับพระองค์ได้อย่างไรเมื่อเขาตกทุกข์ได้ยาก แล้วจะเก็บคนชั่วไว้ลงโทษในวันพิพากษา 10 โดยเฉพาะคนพวกนั้นที่หลงระเริงไปกับความสกปรกโสมมของสันดาน และดูถูกสิทธิอำนาจขององค์เจ้าชีวิต คนพวกนี้ยโสโอหังและหัวรั้น กล้าดูหมิ่นแม้แต่ทูตสวรรค์ที่เต็มไปด้วยสง่าราศี 11 ขนาดทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์และอำนาจมากกว่า ยังไม่ฟ้องดูหมิ่นพวกนี้ต่อหน้าองค์เจ้าชีวิต 12 พวกครูจอมปลอมนี้ พูดใส่ร้ายในสิ่งที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ พวกนี้เป็นเหมือนกับสัตว์ที่ทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณ เพราะคิดไม่เป็น เกิดมาเพื่อถูกจับและถูกฆ่าเท่านั้น แล้วครูพวกนี้ก็จะถูกทำลายไปเหมือนกับสัตว์ด้วย 13 เขาจะได้รับความทุกข์เป็นการตอบแทนให้สมกับความทุกข์และความผิดที่เขาทำไว้กับคนอื่น ความสนุกสนานของเขาคือการจัดงานมั่วสุมเมากันกลางวันแสกๆ เขาเป็นจุดสกปรกและมีตำหนิท่ามกลางพวกคุณ และชอบสำมะเลเทเมากันเมื่อกินเลี้ยงกับพวกคุณ 14 พวกนี้สอดส่ายสายตา หาแต่ผู้หญิงมาหลับนอนด้วยตลอดเวลา ไม่เคยรู้จักพอ เขาล่อลวงพวกที่มีใจโลเลให้ทำบาป ใจพวกนี้ช่ำชองในความโลภ และอยู่ภายใต้คำสาปแช่ง 15 พวกนี้ได้ทิ้งทางที่ถูกต้องและหลงไปติดตามทางของบาลาอัม ลูกของเบโอร์คนที่รักเงินค่าจ้างที่ได้มาจากการทำผิด 16 แต่ลาที่ปกติแล้วพูดไม่ได้ กลับพูดเป็นเสียงคน ต่อว่าเขาในความผิดที่เขาทำและได้หยุดการกระทำโง่ๆของผู้พูดแทนพระเจ้าคนนี้

17 พวกครูสอนผิดนี้ เป็นตาน้ำที่แห้งขอด และเป็นเมฆที่ถูกพายุพัดพาไป ขุมนรกมืดถูกเตรียมไว้แล้วสำหรับคนพวกนี้ 18 พวกนี้ดีแต่โม้เรื่องไร้สาระของตน และใช้ราคะตัณหาของร่างกายมายั่วคนที่เพิ่งจะหลุดพ้นมาจากการใช้ชีวิตผิดๆ 19 ครูพวกนี้ได้สัญญาว่าจะให้เสรีภาพกับคนพวกนั้น ทั้งๆที่ตัวเองยังตกเป็นทาสของนิสัยชั่วๆอยู่เลย คนที่พ่ายแพ้กับอะไร เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น 20 ดังนั้นคนไหนที่หลุดพ้นออกมาจากความสกปรกโสมมของโลกนี้ได้แล้ว เพราะได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่กลับพ่ายแพ้ และกลับไปพัวพันกับสิ่งเหล่านั้นอีก สภาพของเขาตอนหลังนี้จะเลวร้ายยิ่งกว่าตอนแรกเสียอีก 21 เพราะถ้าคนนี้ไม่ได้รู้จักทางที่ถูกต้องนี้ตั้งแต่แรก ก็ยังดีกว่าได้รู้จัก แล้วหันหน้าหนีไปจากคำสั่งสอนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ให้เขาไว้ 22 สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนพวกนี้ก็เป็นไปตามคำสุภาษิตที่ว่า “หมาก็หันกลับไปกินอ้วกของมัน”[a] หรือที่ว่า “หมูที่ล้างสะอาดแล้ว ก็กลับไปเกลือกกลิ้งอยู่ในโคลนตมอีก”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International