M’Cheyne Bible Reading Plan
อย่านมัสการพระอื่น
13 หากมีผู้เผยพระวจนะหรือผู้ที่ทำนายอนาคตโดยอ้างความฝันอยู่ในหมู่พวกท่าน และประกาศกับพวกท่านว่าจะเกิดหมายสำคัญหรือปาฏิหาริย์ 2 และหากหมายสำคัญหรือปาฏิหาริย์ที่เขาบอกไว้เป็นจริงขึ้นมา และเขากล่าวว่า “ให้เราไปติดตามพระอื่นๆ เถิด” (บรรดาพระที่ท่านไม่รู้จัก) “ให้เราไปกราบไหว้พระเหล่านั้นเถิด” 3 อย่าไปฟังคำของผู้เผยพระวจนะหรือผู้ฝันเห็นเหตุการณ์คนนั้นเลย พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทดสอบดูว่าท่านรักพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจหรือไม่ 4 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านคือผู้ที่ท่านต้องติดตามและยำเกรง จงปฏิบัติตามพระบัญชาและเชื่อฟังพระองค์ จงปรนนิบัติและยึดมั่นในพระองค์ 5 ผู้เผยพระวจนะและผู้ฝันเห็นเหตุการณ์นั้นจะต้องถูกประหาร เพราะเขาสั่งสอนให้กบฏต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้ได้ทรงนำท่านออกจากอียิปต์และทรงไถ่ท่านจากแดนทาส ผู้นั้นพยายามชักจูงท่านให้หันเหจากทางที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงสั่งให้ท่านเดินตาม ท่านต้องขจัดความชั่วออกไปจากหมู่พวกท่าน
6 หากพี่น้องของท่านเอง หรือบุตรชายบุตรสาว หรือภรรยาที่รัก หรือเพื่อนสนิท แอบชักจูงท่านโดยกล่าวว่า “ให้เราไปนมัสการพระอื่นๆ เถิด” (พระซึ่งท่านหรือบรรพบุรุษไม่เคยรู้จักมาก่อน 7 พระของชนชาติต่างๆ รอบตัวท่าน ไม่ว่าใกล้หรือไกลจากสุดปลายแผ่นดินข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง) 8 อย่าคล้อยตามหรือรับฟัง อย่าสงสารเขา ไม่ต้องไว้ชีวิตหรือปกป้องเขาเลย 9 จงประหารเขา ตัวท่านเองจงลงมือประหารเขาเป็นคนแรก แล้วให้ประชาชนทั้งปวงลงมือด้วย 10 จงเอาหินขว้างเขาให้ตาย เพราะเขาพยายามชักจูงท่านให้หันเหจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้ทรงนำท่านออกจากอียิปต์ จากแดนทาส 11 แล้วอิสราเอลทั้งปวงจะได้ยินเรื่องราวและจะได้เข็ดขยาด และไม่มีใครในพวกท่านทำสิ่งชั่วร้ายแบบนั้นอีก
12 หากท่านได้ยินคนกล่าวถึงเมืองใดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานให้ท่านเป็นที่พักอาศัย 13 ว่ามีกลุ่มคนชั่วชักจูงชาวเมืองให้หลงผิดไปโดยกล่าวว่า “ให้เราไปนมัสการพระอื่นๆ เถิด” (พระซึ่งท่านไม่รู้จักมาก่อน) 14 ท่านต้องสืบสวนไล่เลียงไต่ถามอย่างถี่ถ้วน หากเป็นความจริงและพิสูจน์ได้ว่ามีการกระทำอันน่ารังเกียจเช่นนั้นในหมู่ท่าน 15 ท่านจงประหารชาวเมืองทั้งหมดด้วยดาบ ทำลายล้าง[a]ทั้งประชาชนและฝูงสัตว์ให้สิ้นซาก 16 แล้วนำข้าวของทั้งหมดที่ยึดได้มากองไว้กลางลานเมืองและจุดไฟเผาทั้งเมืองและข้าวของให้สิ้น เป็นเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เมืองนั้นจะกลายเป็นซากปรักหักพังตลอดไป อย่าสร้างขึ้นใหม่อีกเลย 17 อย่าให้พบสิ่งที่ต้องทำลายทิ้งในมือของท่านเลย แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงหันจากพระพิโรธอันรุนแรงมาเมตตาและรักเอ็นดูท่าน และให้ท่านทวีจำนวนขึ้นตามที่ทรงสัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน 18 เพราะท่านเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ปฏิบัติตามพระบัญชาทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้ และทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระองค์
อาหารที่ไม่เป็นมลทิน และอาหารที่เป็นมลทิน(A)
14 ท่านทั้งหลายเป็นบุตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ฉะนั้นเมื่อท่านไว้ทุกข์ให้ผู้ตาย อย่าเชือดเนื้อเถือหนังตัวเองหรือโกนหัว 2 ท่านเป็นประชาชาติบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกสรรท่านจากประชาชาติทั้งหลายบนพื้นโลกให้เป็นกรรมสิทธิ์ล้ำค่าของพระองค์
3 อย่ารับประทานสิ่งใดๆ ซึ่งน่าขยะแขยง 4 สัตว์ต่อไปนี้ท่านรับประทานได้ คือ วัว แกะ แพะ 5 กวาง ละมั่ง เก้ง แพะป่า สมัน โครำขาว และแกะภูเขา 6 ท่านรับประทานสัตว์ที่มีกีบแยกและเคี้ยวเอื้องได้ 7 แต่อย่ารับประทานสัตว์ใดที่ไม่มีคุณสมบัติครบทั้งสองข้อนี้ ฉะนั้นอย่ารับประทานอูฐ กระต่าย กระจงผา ซึ่งเคี้ยวเอื้องแต่กีบไม่แยก สัตว์เหล่านี้เป็นมลทินตามระเบียบพิธีสำหรับท่าน 8 อย่ารับประทานหมู ซึ่งแม้กีบแยกแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง และอย่าแตะต้องซากของสัตว์เหล่านี้
9 ท่านรับประทานสัตว์น้ำทั้งปวงที่มีครีบและเกล็ดได้ 10 ท่านอย่ารับประทานสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ที่ไม่มีครีบและเกล็ดเพราะถือว่าเป็นมลทินสำหรับท่าน
11 ท่านรับประทานสัตว์ปีกทั้งหลายที่ไม่เป็นมลทินได้ 12 แต่นกเหล่านี้ท่านอย่ารับประทานคือ นกอินทรี แร้งหนวดแพะ แร้งดำ 13 เหยี่ยวแดง เหยี่ยวดำ เหยี่ยวปีกแหลมพันธุ์ต่างๆ 14 กาพันธุ์ต่างๆ 15 นกเค้าใหญ่ นกเค้า นกนางนวล เหยี่ยวพันธุ์ต่างๆ 16 นกฮูก นกทึดทือ นกแสก 17 นกเค้าป่า นกออก นกกาน้ำ 18 นกกระสา นกยางพันธุ์ต่างๆ นกกะรางหัวขวาน และค้างคาว
19 แมลงมีปีกเป็นมลทินสำหรับท่าน อย่ารับประทานเลย 20 ส่วนสัตว์มีปีกที่ไม่เป็นมลทิน ท่านรับประทานได้
21 อย่ารับประทานสัตว์ที่ตายเอง ท่านอาจจะยกหรือขายให้คนต่างด้าวที่อาศัยในเมืองของท่าน เขารับประทานได้ ส่วนท่านอย่ารับประทานเพราะท่านเป็นชนชาติบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
อย่าต้มลูกแพะในน้ำนมแม่ของมัน
บทบัญญัติเรื่องสิบลด
22 จงแยกหนึ่งในสิบของผลิตผลทั้งหมดจากไร่นาของท่านในแต่ละปีไว้ต่างหาก 23 จงนำสิบลดนี้มารับประทานต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในที่ซึ่งพระองค์จะทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์ คือสิบลดจากเมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมัน และลูกหัวปีจากฝูงแพะแกะและฝูงวัว เพื่อท่านจะได้เรียนรู้ที่จะยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเสมอ 24 หากที่นั่นไกลมากและพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงอวยพรท่าน และท่านไม่สามารถขนสิบลดมา (เนื่องจากสถานที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามนั้นอยู่ไกลมาก) 25 ท่านก็จงแลกสิบลดเป็นเงินแล้วนำมายังสถานที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือก 26 จงใช้เงินนั้นซื้อสิ่งใดก็ได้ที่ท่านต้องการ ไม่ว่าจะเป็นวัว แกะ เหล้าองุ่นใหม่ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ได้จากการหมัก หรือสิ่งของอื่นๆ ที่ท่านต้องการ แล้วท่านและครอบครัวจะรับประทานด้วยความปีติยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 27 อย่าละเลยคนเลวีในเมืองของท่าน เพราะพวกเขาไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมีกรรมสิทธิ์ของตน
28 ทุกปลายปีที่สามจงนำสิบลดทั้งหมดของพืชผลของปีนั้นมาสะสมไว้ในเมืองของท่าน 29 เพื่อชนเลวี (ผู้ซึ่งไม่มีส่วนแบ่งหรือกรรมสิทธิ์ของเขา) คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่ายที่อยู่ในเมืองของท่านจะได้รับประทานอย่างอิ่มหนำ แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรท่านในการงานทุกอย่างที่ท่านทำ
99 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครอง ประชาชาติทั้งหลายจงครั่นคร้าม
พระองค์ประทับบนบัลลังก์ระหว่างเครูบ แผ่นดินโลกจงสั่นสะท้าน
2 องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทับในศิโยนทรงยิ่งใหญ่
พระองค์ทรงเป็นที่เทิดทูนเหนือมวลประชาชาติ
3 ให้พวกเขาสรรเสริญพระนามอันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามของพระองค์
พระองค์ทรงบริสุทธิ์
4 จอมกษัตริย์องค์นี้ทรงฤทธิ์ พระองค์ทรงรักความยุติธรรม
พระองค์ได้ทรงสถาปนาความเสมอภาคไว้
พระองค์ทรงกระทำ
สิ่งที่ยุติธรรมและถูกต้องในอิสราเอล[a]
5 จงยกย่องเทิดทูนพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
จงกราบนมัสการที่แท่นรองพระบาทของพระองค์
พระองค์ทรงบริสุทธิ์
6 โมเสสและอาโรนอยู่ในกลุ่มปุโรหิตของพระองค์
ซามูเอลเป็นคนหนึ่งในกลุ่มผู้ร้องทูลออกพระนามของพระองค์
พวกเขาร้องทูลต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
และพระองค์ทรงตอบพวกเขา
7 พระองค์ตรัสกับพวกเขาจากเสาเมฆ
เขาเหล่านั้นเชื่อฟังกฎเกณฑ์และกฎหมายที่พระองค์ประทานแก่พวกเขา
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย
พระองค์ทรงตอบเขาเหล่านั้น
ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงให้อภัยสำหรับอิสราเอล[b]
แม้ทรงลงโทษเมื่อพวกเขาทำผิด[c]
9 จงเทิดทูนพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
และนมัสการที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงบริสุทธิ์
(บทสดุดี เพื่อขอบพระคุณ)
100 ชาวโลกทั้งสิ้นเอ๋ย จงโห่ร้องยินดีถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
2 จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความเปรมปรีดิ์
จงมาเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยบทเพลงชื่นบาน
3 จงรู้เถิดว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า
พระองค์นี่แหละที่ทรงสร้างเรา และเราเป็นของพระองค์[d]
เราเป็นประชากรของพระองค์ เป็นแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์
4 จงเข้าประตูของพระองค์ด้วยการขอบพระคุณ
เข้ามาในพระนิเวศของพระองค์ด้วยการสรรเสริญ
จงขอบพระคุณพระองค์และสรรเสริญพระนามของพระองค์
5 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสนดี และความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
ความซื่อสัตย์ของพระองค์คงอยู่ตลอดทุกชั่วอายุ
(บทสดุดีของดาวิด)
101 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงและความยุติธรรมของพระองค์
ข้าพระองค์จะร้องบทเพลงสรรเสริญพระองค์
2 ข้าพระองค์จะระแวดระวังรักษาชีวิตให้ไร้ตำหนิ
เมื่อใดหนอ พระองค์จะเสด็จมาหาข้าพระองค์?
ข้าพระองค์จะดำเนินชีวิตในบ้านของข้าพระองค์
ด้วยจิตใจที่ไม่มีตำหนิ
3 ข้าพระองค์จะไม่เห็นดีเห็นงาม
กับสิ่งชั่วช้าเลวทรามใดๆ
ข้าพระองค์เกลียดชังการกระทำของคนปลิ้นปล้อนตลบตะแลง
และไม่ข้องเกี่ยวในกิจการเหล่านั้น
4 ข้าพระองค์จะหลีกห่างจากคนจิตใจดื้อด้าน
จะไม่ยอมมีส่วนร่วมใดๆ กับความชั่ว
5 ข้าพระองค์จะปิดปากคนที่แอบใส่ร้ายเพื่อนบ้าน
ข้าพระองค์จะไม่ทนกับคนที่วางท่ายโสและมีจิตใจเย่อหยิ่ง
6 ตาของข้าพระองค์จะมองผู้ที่ซื่อสัตย์ในแผ่นดิน
เพื่อเขาจะอยู่กับข้าพระองค์
ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างไร้ตำหนิ
จะมาปรนนิบัติข้าพระองค์
7 คนหลอกลวงจะไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของข้าพระองค์
คนโป้ปดมดเท็จจะไม่ได้ยืนอยู่ต่อหน้าข้าพระองค์
8 ทุกๆ เช้าข้าพระองค์จะกำจัดคนชั่วทั้งปวงใน แผ่นดิน
ข้าพระองค์จะขจัดคนทำชั่วให้หมดสิ้นจากนครขององค์พระผู้เป็นเจ้า
องค์พระผู้ช่วยแห่งอิสราเอล
41 “เกาะทั้งหลายเอ๋ย จงเงียบและฟังเรา!
ให้ประชาชาติต่างๆ ฟื้นกำลังขึ้นใหม่!
ให้พวกเขาก้าวออกมาพูดข้างหน้านี้
ให้เรามาพบกันในสถานพิพากษา
2 “ใครหนอดลใจบุคคลผู้นี้จากตะวันออก
ให้มาทำหน้าที่ของตนอย่างชอบธรรม[a]?
พระองค์ทรงมอบประชาชาติต่างๆ แก่เขา
และสยบบรรดากษัตริย์ต่อหน้าเขา
พระองค์ทรงใช้ดาบของเขาฟาดฟันกษัตริย์เหล่านั้นเป็นธุลี
คันธนูของเขาทำให้กษัตริย์เหล่านั้นเหมือนแกลบปลิวฟุ้งไป
3 เขาตามล่าคนเหล่านั้นไปโดยไม่ได้รับอันตราย
ตามเส้นทางซึ่งเขาไม่เคยเหยียบย่างมาก่อน
4 ใครหนอกระทำเช่นนี้จนสำเร็จ
ที่เป็นผู้เรียกคนในชั่วอายุต่างๆ มาตั้งแต่ต้น?
เรา พระยาห์เวห์เป็นปฐมและอวสาน
เราคือผู้นั้น”
5 เกาะทั้งหลายเห็นแล้วก็หวาดกลัว
สุดปลายแผ่นดินโลกสั่นสะท้าน
พวกเขาเข้ามาใกล้และออกมาข้างหน้า
6 ต่างช่วยเหลือกัน
และกล่าวแก่พี่น้องของตนว่า “เข้มแข็งเข้าไว้!”
7 ช่างฝีมือให้กำลังใจช่างทอง
ผู้ใช้ค้อนก็ให้กำลังใจผู้ตีทั่ง
เขากล่าวถึงงานบัดกรีว่า “ดี”
เขาเอาตะปูตอกรูปเคารพ มันจะได้ไม่ล้มคว่ำลง
8 “ส่วนเจ้า อิสราเอลผู้รับใช้ของเรา
ยาโคบผู้ซึ่งเราได้เลือกสรรไว้
เจ้าผู้เป็นลูกหลานของอับราฮัมสหายของเรา
9 เราพาเจ้ามาจากสุดปลายแผ่นดินโลก
เราเรียกเจ้ามาจากมุมไกลโพ้นที่สุด
เราบอกเจ้าว่า ‘เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา’
เราได้เลือกสรรเจ้า และไม่เคยทอดทิ้งเจ้า
10 ดังนั้น อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า
อย่าท้อแท้ เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า
เราจะทำให้เจ้าเข้มแข็งขึ้นและจะช่วยเจ้า
เราจะชูเจ้าไว้ด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา
11 “บรรดาผู้ที่เกรี้ยวกราดต่อเจ้า
จะอับอายขายหน้าและอัปยศอดสูอย่างแน่นอน
ผู้ที่ต่อต้านเจ้า
จะสิ้นค่าและพินาศไป
12 ถึงแม้เจ้าจะมองหาศัตรู
เจ้าก็จะไม่พบ
บรรดาผู้ที่รบกับเจ้า
จะหมดค่าอย่างสิ้นเชิง
13 เพราะเราคือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า
ผู้จับมือขวาของเจ้าไว้
และบอกกับเจ้าว่า อย่ากลัวเลย
เราจะช่วยเจ้า
14 อย่ากลัวเลย เจ้าหนอนยาโคบเอ๋ย
อิสราเอลน้อยๆ เอ๋ย
เพราะเราเองจะช่วยเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ไถ่เจ้า
15 “ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าเป็นดั่งเลื่อนนวดข้าว
ที่ใหม่และคม มีฟันหลายซี่
เจ้าจะนวดและบดขยี้ภูเขาต่างๆ
ทำให้เนินเขาทั้งหลายเป็นเหมือนแกลบ
16 เจ้าจะซัดมัน ลมจะหอบมันขึ้น
และพายุจะพัดมันกระจายไป
ส่วนเจ้าจะปีติยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า
และภาคภูมิใจในองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
17 “คนยากไร้และขัดสนเสาะหาน้ำดื่ม แต่ไม่มีเลย
ลิ้นของเขาแห้งผากด้วยความกระหาย
แต่เรา พระยาห์เวห์จะตอบเขา
เรา พระเจ้าแห่งอิสราเอลจะไม่ทอดทิ้งพวกเขาเลย
18 เราจะทำให้แม่น้ำไหลบนที่สูงซึ่งแห้งแล้ง
และให้มีธารน้ำพุในหุบเขา
เราจะเปลี่ยนถิ่นกันดารเป็นสระน้ำ
และเปลี่ยนผืนดินแตกระแหงให้กลายเป็นธารน้ำพุ
19 เราจะปลูกต้นสนซีดาร์และต้นกระถินเทศ
ต้นน้ำมันเขียวและต้นมะกอกในทะเลทราย
และเราจะปลูกต้นสนชนิดต่างๆ ไว้ในถิ่นกันดาร
ทั้งสนเฟอร์และสนไซเปรสด้วย
20 เพื่อคนทั้งปวงจะเห็นและรู้
จะพิเคราะห์และเข้าใจ
ว่าพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำการนี้
องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลทรงสร้างมันขึ้น”
21 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงเสนอคดีความของเจ้า”
องค์กษัตริย์ของยาโคบตรัสว่า “จงแสดงข้อพิสูจน์ของเจ้ามาเถิด”
22 “จงนำบรรดารูปเคารพของเจ้าเข้ามาบอกพวกเรา
ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
จงเล่าความเป็นไปแต่เดิม
เพื่อเราจะพิจารณาและรับรู้จุดจบ
หรือจะเล่าให้พวกเราฟังถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
23 จงบอกพวกเรามาเถิดว่าอนาคตจะมีอะไรบ้าง
เพื่อเราจะรู้ว่าพวกเจ้าเป็นเทพเจ้า
ทำอะไรสักอย่างสิ จะดีหรือชั่วก็ได้
เพื่อเราจะได้ท้อแท้และหวาดหวั่น
24 แต่พวกเจ้าต่ำต้อยด้อยค่ายิ่งกว่าศูนย์
และผลงานของเจ้าล้วนไร้ค่า
ผู้ที่เลือกเจ้าก็น่าชิงชัง
25 “เราได้เรียกบุคคลผู้หนึ่งจากทางเหนือ และเขาก็มา
เขามาจากที่ดวงอาทิตย์ขึ้น เขาร้องเรียกนามของเรา
เขาเหยียบย่ำบรรดาผู้ปกครองเหมือนย่ำปูน
ราวกับช่างปั้นย่ำดินเหนียว
26 ใครเล่าบอกถึงสิ่งนี้ให้เรารู้มาตั้งแต่ต้น
หรือบอกไว้ตั้งแต่แรก เราจึงพูดได้ว่า ‘ถูกอย่างที่เขาบอก’?
ไม่มีใครพูดไว้
ไม่มีใครแจ้งไว้ก่อน
ไม่มีใครได้ยินอะไรจากเจ้าเลย
27 เราเป็นคนแรกที่บอกศิโยนว่า ‘ดูเถิด พวกเขามาแล้ว!’
เรามอบทูตแห่งข่าวดีให้เยรูซาเล็ม
28 เรามองดูแต่ไม่มีใครสักคน
ไม่มีแม้สักคนเดียวในพวกเขาที่จะให้คำปรึกษาแนะนำ
ไม่มีใครตอบเมื่อเราถาม
29 ดูเถิด พวกเขาล้วนแต่จอมปลอม!
การกระทำของเขาล้วนไร้ค่า
เทวรูปต่างๆ ของเขาเป็นเพียงลมและความสับสน
พยานทั้งสอง
11 ข้าพเจ้าได้รับไม้อ้ออันหนึ่ง รูปร่างเหมือนไม้วัด และได้รับคำสั่งว่า “จงไปวัดพระวิหารของพระเจ้ากับแท่นบูชาและนับจำนวนผู้นมัสการที่นั่น 2 แต่ไม่ต้องวัดลานชั้นนอกเนื่องจากที่นั่นยกให้คนต่างชาติแล้ว เขาทั้งหลายจะเหยียบย่ำนครศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลา 42 เดือน 3 เราจะมอบฤทธิ์อำนาจให้แก่พยานทั้งสองของเรา พวกเขาจะนุ่งห่มผ้ากระสอบและเผยพระวจนะเป็นเวลา 1,260 วัน 4 พยานทั้งสองคือต้นมะกอกสองต้นและคันประทีปสองคันซึ่งอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าของโลก” 5 ไฟจะพุ่งออกจากปากพยานทั้งสอง เผาผลาญผู้คิดจะมาทำร้าย ผู้ใดคิดจะทำอันตรายพยานทั้งสองจะต้องตายเช่นนี้ 6 ทั้งสองมีฤทธิ์อำนาจที่จะปิด ท้องฟ้าไม่ให้ฝนตกขณะกำลังเผยพระวจนะและมีฤทธิ์ทำให้น้ำกลายเป็นเลือด ตลอดจนบันดาลภัยพิบัติทุกชนิดมากระหน่ำโลกกี่ครั้งก็ได้ตามที่ประสงค์
7 และเมื่อทั้งสองเป็นพยานเสร็จแล้ว สัตว์ร้ายจากนรกขุมลึกจะขึ้นมาทำร้ายพวกเขา มันจะเอาชนะเขาและฆ่าเขา 8 ซากศพของพยานทั้งสองจะถูกทิ้งอยู่กลางถนนแห่งมหานครซึ่งได้รับสมญานามว่า โสโดมและอียิปต์ ที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาถูกตรึงบนไม้กางเขน 9 ตลอดสามวันครึ่งผู้คนจากทุกหมู่ชน ทุกตระกูล ทุกภาษา และทุกชนชาติจะมาจ้องมองซากศพของเขา และไม่ยอมให้ฝังศพนั้น 10 ชาวโลกทั้งหลายจะมองศพของเขาด้วยความยินดีและจะเฉลิมฉลองให้ของขวัญแก่กัน เพราะผู้เผยพระวจนะทั้งสองได้ทรมานบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในโลก
11 แต่หลังจากสามวันครึ่งแล้วพระเจ้าทรงระบายลมหายใจแห่งชีวิตเข้าในร่างนั้น เขาทั้งสองจึงลุกขึ้นยืน คนที่พบเห็นก็หวาดกลัวยิ่งนัก 12 แล้วพวกเขาได้ยินเสียงดังจากฟ้าสวรรค์กล่าวว่า “จงขึ้นมาที่นี่” พยานนั้นก็ขึ้นไปในเมฆสู่สวรรค์ขณะที่เหล่าศัตรูของเขามองดูอยู่
13 ในชั่วโมงนั้นเองเกิดแผ่นดินไหวร้ายแรง และหนึ่งในสิบของเมืองนั้นถล่มลง มีคนตายเจ็ดพันคนในแผ่นดินไหวครั้งนี้ ส่วนผู้ที่รอดชีวิตตกใจกลัวและถวายพระเกียรติสิริแด่พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์
14 วิบัติที่สองได้ผ่านพ้นไป วิบัติที่สามจะมาถึงในไม่ช้านี้
แตรคันที่เจ็ด
15 ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดเป่าแตรและมีเสียงดังหลายเสียงในสวรรค์กล่าวว่า
“ราชอาณาจักรของโลกนี้ได้กลับมาเป็นราชอาณาจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรากับพระคริสต์ของพระองค์แล้ว และพระองค์จะทรงครองอาณาจักรเป็นนิตย์”
16 แล้วผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่คนซึ่งนั่งบนบัลลังก์ของตนต่อหน้าพระเจ้าก็หมอบซบหน้าลงนมัสการพระเจ้า 17 ทูลว่า
“ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบคุณพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
ผู้ทรงดำรงอยู่ในปัจจุบันและผู้ทรงดำรงอยู่ในอดีต
เพราะพระองค์ได้ทรงสำแดงฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์
และได้ทรงเริ่มครอบครองอาณาจักรแล้ว
18 บรรดาประชาชาติโกรธกริ้ว
แต่พระพิโรธของพระองค์มาถึงแล้ว
และเวลานั้นได้มาถึงแล้ว เวลาที่จะทรงพิพากษาคนที่ได้ตายไป
เวลาที่จะประทานบำเหน็จแก่เหล่าผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์
และแก่ประชากรของพระองค์และบรรดาผู้ยำเกรงพระนามของพระองค์
ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย
และเวลาที่จะทรงทำลายบรรดาผู้ที่ทำลายโลก”
19 แล้วพระวิหารของพระเจ้าในสวรรค์ก็เปิดออก และข้าพเจ้าเห็นหีบพันธสัญญาภายในพระวิหารของพระองค์ และเกิดฟ้าแลบแวบวาบ เสียงครืนๆ เสียงฟ้าร้องกึกก้อง แผ่นดินไหว และพายุลูกเห็บครั้งร้ายแรง
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.