M’Cheyne Bible Reading Plan
พระเจ้ารับเอลียาห์ขึ้นสู่สวรรค์
2 เมื่อใกล้จะถึงเวลาที่พระผู้เป็นเจ้าให้พายุหมุนรับเอลียาห์ขึ้นสู่สวรรค์ เอลียาห์และเอลีชาก็กำลังเดินทางออกมาจากกิลกาล 2 เอลียาห์พูดกับเอลีชาว่า “ขอท่านอยู่ที่นี่ เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ใช้ข้าพเจ้าไปไกลถึงเบธเอล” แต่เอลีชาพูดว่า “ตราบที่พระผู้เป็นเจ้ามีชีวิตอยู่ฉันใด และตราบที่ท่านมีชีวิตอยู่ฉันใด ข้าพเจ้าจะไม่ไปจากท่าน” ดังนั้นทั้งสองจึงเดินทางลงไปถึงเบธเอล 3 กลุ่มผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ที่อยู่ในเบธเอลออกมาพบกับเอลีชา และพูดกับท่านว่า “ท่านทราบไหมว่า ในวันนี้พระผู้เป็นเจ้าจะรับผู้นำของท่านไปจากท่าน” ท่านตอบว่า “ข้าพเจ้าทราบแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องนี้กันเลย”
4 เอลียาห์พูดกับท่านว่า “เอลีชา ขอท่านอยู่ที่นี่ เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ใช้ข้าพเจ้าไปที่เยรีโค” แต่ท่านตอบว่า “ตราบที่พระผู้เป็นเจ้ามีชีวิตอยู่ฉันใด และตราบที่ท่านมีชีวิตอยู่ฉันใด ข้าพเจ้าจะไม่ไปจากท่าน” ดังนั้นทั้งสองจึงเดินทางไปยังเยรีโค 5 บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ที่อยู่ในเยรีโคออกมาพบกับเอลีชา และพูดกับท่านว่า “ท่านทราบไหมว่า ในวันนี้พระผู้เป็นเจ้าจะรับผู้นำของท่านไปจากท่าน” ท่านตอบว่า “ข้าพเจ้าทราบแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องนี้กันเลย”
6 เอลียาห์พูดกับท่านว่า “ขอท่านอยู่ที่นี่ เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ใช้ข้าพเจ้าไปที่แม่น้ำจอร์แดน” แต่ท่านตอบว่า “ตราบที่พระผู้เป็นเจ้ามีชีวิตอยู่ฉันใด และตราบที่ท่านมีชีวิตอยู่ฉันใด ข้าพเจ้าจะไม่ไปจากท่าน” ดังนั้นทั้งสองจึงเดินทางต่อไป 7 บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า 50 คนก็ไปด้วย และยืนห่างออกไประยะหนึ่ง ขณะที่ทั้งสองท่านยืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน 8 ครั้นแล้วเอลียาห์ก็ม้วนเสื้อคลุมของท่าน และฟาดลงไปในน้ำ น้ำก็แยกออกเป็นสองข้าง ทั้งสองจึงเดินบนดินแห้งผ่านไปได้
9 เมื่อทั้งสองข้ามไปแล้ว เอลียาห์พูดกับเอลีชาว่า “ท่านอยากให้ข้าพเจ้าทำอะไรให้ท่าน ก่อนที่ข้าพเจ้าจะถูกรับตัวไปจากท่าน” เอลีชาตอบว่า “ขอให้ข้าพเจ้าได้รับของประทานฝ่ายวิญญาณของท่านเป็นสองเท่าเถิด” 10 ท่านตอบว่า “ท่านขอสิ่งที่เป็นไปได้ยาก แต่ถึงกระนั้น ถ้าท่านเห็นข้าพเจ้าในเวลาที่ข้าพเจ้าถูกรับตัวไป ท่านก็จะได้รับตามคำขอ แต่ถ้าท่านไม่เห็นข้าพเจ้าในเวลานั้น ท่านก็จะไม่ได้รับตามคำขอ” 11 และขณะที่ทั้งสองเดินไปและสนทนากันไปนั้น ดูเถิด มีรถศึกกับม้าที่ลุกเป็นไฟมาคั่นกลางระหว่างท่านทั้งสอง และเอลียาห์ขึ้นสู่สวรรค์พร้อมกับพายุหมุน 12 เอลีชาเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจึงร้องขึ้นว่า “ท่านพ่อของข้าพเจ้า ท่านพ่อของข้าพเจ้า รถศึกของอิสราเอลกับเหล่าทหารม้า” แล้วท่านก็มองไม่เห็นเอลียาห์อีกเลย
แล้วเอลีชาก็ฉีกเสื้อของตนออกเป็นสองท่อน 13 และหยิบเสื้อคลุมของเอลียาห์ที่หล่นลงมา และท่านกลับไปยืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน 14 แล้วท่านใช้เสื้อคลุมของเอลียาห์ที่หล่นลงมา ฟาดลงไปในน้ำ และพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเอลียาห์อยู่ที่ไหน” เมื่อท่านฟาดน้ำ น้ำก็แยกออกเป็นสองข้าง เอลีชาจึงเดินผ่านไปได้
เอลีชาแทนเอลียาห์
15 บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ซึ่งอยู่ที่เยรีโคเห็นท่านอยู่ฝั่งตรงข้าม จึงพูดว่า “วิญญาณของเอลียาห์อยู่กับเอลีชา” พวกเขาพากันมาพบท่าน และก้มกราบเบื้องหน้าท่าน 16 เขาเหล่านั้นพูดกับเอลีชาว่า “ดูเถิด มีผู้รับใช้ที่เก่งกล้า 50 คนอยู่ที่นี่ โปรดให้พวกเขาไปเสาะหาเอลียาห์ อาจจะเป็นไปได้ที่พระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าพาท่านไปทิ้งไว้ที่ใดที่หนึ่งบนภูเขาหรือหุบเขา” เอลีชาตอบว่า “พวกท่านอย่าไปเลย” 17 แต่เมื่อเขาเหล่านั้นเร่งเร้าจนท่านปฏิเสธไม่ได้ ท่านจึงพูดว่า “พวกท่านไปเถิด” เขาเหล่านั้นจึงส่งชาย 50 คนไป ซึ่งก็ได้เสาะหาเอลียาห์ 3 วัน แต่ก็ไม่พบท่าน 18 และกลับมาหาท่านขณะที่ท่านยังพักอยู่ที่เยรีโค ท่านพูดว่า “เราบอกท่านแล้วมิใช่หรือว่า อย่าไป”
19 ประชาชนในเมืองพูดกับเอลีชาว่า “ดูเถิด สถานการณ์ของเมืองนี้ก็ดีอยู่ เท่าที่นายท่านก็เห็น แต่ว่าน้ำเสีย และแผ่นดินก็ไม่อำนวยผล” 20 ท่านบอกว่า “เอาชามใหม่ๆ มาให้เราใบหนึ่ง ใส่เกลือมาด้วย” พวกเขาก็นำมาให้ท่าน 21 ท่านก็ไปที่น้ำพุ และโยนเกลือลงในนั้น และพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า ‘เราทำให้น้ำในนี้ดีแล้ว ตั้งแต่นี้ไปจะไม่มีใครตายหรือแท้งลูกเพราะน้ำจากที่นี่อีกต่อไป’” 22 ดังนั้น น้ำจากที่นั่นก็อยู่ในสภาพดีมาจนถึงทุกวันนี้ ตามคำที่เอลีชาพูด
23 จากนั้นท่านก็ขึ้นไปยังเบธเอล และขณะที่ท่านกำลังเดินทางขึ้นไป ก็มีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งออกมาจากเมืองนั้น และล้อเลียนท่านว่า “ขึ้นไปสิ ไอ้หัวล้าน ขึ้นไปสิ ไอ้หัวล้าน” 24 เมื่อท่านหันกลับมาเห็นเด็กพวกนั้น ท่านก็สาปแช่งพวกเขาในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า แล้วก็มีหมีตัวเมีย 2 ตัวออกมาจากป่า ขย้ำเด็กทั้ง 42 คน 25 และท่านไปจากที่นั่น ไปยังภูเขาคาร์เมล และหลังจากนั้นจึงกลับไปยังสะมาเรีย
คนนอกกฎ
2 เรื่องการมาของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และเรื่องที่พระองค์จะรับเราไปอยู่ด้วยกันกับพระองค์ เราขอร้องท่านพี่น้องทั้งหลายว่า 2 ท่านไม่ต้องหวั่นไหวโดยง่าย หรือตระหนกตกใจง่ายเนื่องจากคำพยากรณ์ คำรายงานหรือจดหมายที่ดูเหมือนว่าจะมาจากพวกเรา โดยอ้างว่าวันที่พระผู้เป็นเจ้าจะมานั้นได้มาถึงแล้ว 3 อย่าให้ใครหลอกลวงท่านได้เลย เพราะว่าวันนั้นจะไม่มาถึงจนกว่าการขัดขืนต่อพระเจ้าจะเกิดขึ้นก่อน และคนนอกกฎจึงจะปรากฏ เขาคือบุตรแห่งความพินาศ 4 เขาจะต่อต้านและยกตนเองเหนือทุกสิ่งที่เรียกว่าเทพเจ้า หรือวัตถุบูชา เพื่อตนจะได้นั่งในพระวิหารของพระเจ้า และประกาศตัวเองว่าเป็นพระเจ้า 5 ท่านจำไม่ได้หรือว่าขณะที่ข้าพเจ้าอยู่กับท่าน ข้าพเจ้าบอกเรื่องเหล่านี้ให้ท่านทราบแล้ว 6 และบัดนี้ท่านก็ทราบว่าอะไรหน่วงเหนี่ยวเขาไว้ เพื่อว่าเมื่อถึงเวลาของเขา เขาจะได้ปรากฏตัว 7 ด้วยว่า อำนาจลึกลับนอกกฎก็เริ่มปฏิบัติงานอยู่แล้ว แต่ผู้ที่กำลังหน่วงเหนี่ยวไว้จะยังรั้งเอาไว้จนกว่าจะถูกพาตัวออกจากทางที่ตนเองขวางไว้ 8 แล้วคนนอกกฎจะปรากฏตัว พระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำลายเขาด้วยเพียงลมหายใจของพระองค์ และจบชีวิตเขาลงโดยการมาปรากฏครั้งที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ 9 คนนอกกฎจะมาโดยอำนาจของซาตาน[a] และจะแสดงฤทธานุภาพ ปรากฏการณ์อัศจรรย์ และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ อันจอมปลอม 10 และใช้การหลอกลวงอันชั่วร้ายทุกชนิดกับพวกที่จะถึงความพินาศ เพราะเขาเหล่านั้นปฏิเสธที่จะรักความจริงซึ่งช่วยให้รอดพ้นได้ 11 เพราะเหตุนี้พระเจ้าจึงให้ความหลงผิดครอบงำพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเชื่อสิ่งที่เท็จ 12 และทุกคนที่ไม่ได้เชื่อความจริงแต่ยินดีกับความชั่วร้ายจะถูกกล่าวโทษ
ยืนหยัดในความเชื่อ
13 พี่น้องทั้งหลายที่พระผู้เป็นเจ้ารัก พวกเราควรขอบคุณพระเจ้าเพราะท่านอยู่เสมอ เพราะพระเจ้าได้เลือกท่านไว้ตั้งแต่แรกเริ่มเพื่อความรอดพ้นโดยการชำระให้บริสุทธิ์ของพระวิญญาณ และการมีความเชื่อในความจริง 14 พระองค์ได้เรียกท่านทั้งหลายมาสู่สิ่งที่กล่าวมานี้โดยผ่านข่าวประเสริฐของเรา เพื่อว่าท่านจะได้รับพระบารมีของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา 15 ฉะนั้นพี่น้องทั้งหลายควรยืนหยัดและยึดถือสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้ต่อๆ กันมา ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือเป็นจดหมายจากเราก็ตาม
16 ขอพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และพระเจ้า ผู้เป็นพระบิดาของเราผู้รักเราและได้ให้กำลังใจอันยั่งยืนเป็นนิจแก่พวกเรา และความหวังที่ดีด้วยพระคุณของพระองค์ 17 โปรดให้กำลังใจและเสริมกำลังแก่ท่านในการกระทำและในวาจาอันดีทุกอย่าง
ดาเนียลในถ้ำสิงโต
6 ดาริอัสพอใจมากที่ได้แต่งตั้งผู้ปกครองแคว้น 120 คนให้ปกครองทั่วอาณาจักร 2 และมีผู้บริหารสูงสุด 3 คนเป็นผู้ควบคุมพวกเขา หนึ่งในสามคือดาเนียล ผู้ปกครองแคว้นอยู่ภายใต้การดูแลของเขาทั้งสามคนเพื่อผลประโยชน์ของกษัตริย์ 3 ต่อมาไม่นาน ก็เป็นที่ทราบกันว่า ดาเนียลโดดเด่นกว่าผู้บริหารงานอีก 2 คนรวมทั้งผู้ปกครองแคว้นคนอื่นๆ เพราะมีวิญญาณซึ่งไม่มีใครเทียบได้อยู่กับท่าน และกษัตริย์วางแผนที่จะแต่งตั้งให้ท่านควบคุมทั่วทั้งอาณาจักร 4 ฉะนั้นผู้บริหารงานทั้งสองกับผู้ปกครองแคว้น คอยหาโอกาสจับผิดเพื่อกล่าวหาดาเนียลเรื่องอาณาจักร แต่พวกเขาไม่สามารถหาสาเหตุที่จะฟ้องหรือหาความผิดของดาเนียลได้ เพราะท่านภักดี และไม่ทุจริตหรือทำสิ่งใดที่ผิดแม้แต่อย่างเดียว 5 ฉะนั้นชายเหล่านั้นพูดว่า “พวกเราจะหาสาเหตุที่จะฟ้องร้องดาเนียลผู้นี้ไม่ได้ นอกจากว่า เราจะหาเรื่องที่เกี่ยวโยงกับกฎในเรื่องพระเจ้าของเขา”
6 ผู้บริหารงานและผู้ปกครองแคว้นเหล่านั้นจึงนัดกันไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ และพูดกับท่านว่า “โอ กษัตริย์ดาริอัส ขอให้ท่านมีอายุยืนนานเถิด 7 ผู้บริหารงานทุกคนของอาณาจักร เจ้าหน้าที่ชั้นสูง ผู้ปกครองแคว้น ที่ปรึกษา และผู้ว่าราชการมีความเห็นตรงกันว่า กษัตริย์ควรจะออกคำสั่งและให้ปฏิบัติตามอย่างเข้มงวดว่า ถ้าผู้ใดอธิษฐานขอจากเทพเจ้าหรือมนุษย์ในช่วงเวลา 30 วัน ยกเว้นการมาร้องขอจากท่าน โอ กษัตริย์ ขอให้ผู้นั้นถูกโยนลงในถ้ำสิงโตเถิด 8 โอ กษัตริย์ ขอท่านร่างหนังสือเป็นคำสั่งพร้อมกับลงชื่อ เพื่อไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลง ตามกฎของชาวมีเดียและเปอร์เซีย คือเปลี่ยนแปลงไม่ได้” 9 ดังนั้นกษัตริย์ดาริอัสจึงร่างหนังสือและลงชื่อ
10 เมื่อดาเนียลทราบว่ากษัตริย์ลงชื่อในหนังสือแล้ว ท่านก็กลับไปบ้าน ขึ้นไปบนห้องชั้นบนที่มีหน้าต่างเปิดหันไปทางเยรูซาเล็ม ท่านคุกเข่าลงอธิษฐานและขอบพระคุณ ณ เบื้องหน้าพระเจ้าของท่านวันละ 3 ครั้งเหมือนกับที่เคยทำเสมอมา 11 ชายเหล่านั้นจึงนัดกันไป และเห็นว่าดาเนียลกำลังอ้อนวอนขอร้องต่อพระเจ้าของท่าน 12 พวกเขาไปเฝ้ากษัตริย์ด้วยเรื่องคำสั่งที่ออกมา และพูดว่า “โอ กษัตริย์ ท่านลงชื่อออกคำสั่งแล้วมิใช่หรือว่า ถ้าผู้ใดอธิษฐานขอจากเทพเจ้าหรือมนุษย์ภายใน 30 วัน ยกเว้นการขอจากท่าน โอ กษัตริย์ ขอให้ผู้นั้นถูกโยนลงในถ้ำสิงโต” กษัตริย์ตอบว่า “ใช่ จะต้องเป็นไปตามคำสั่ง ตามกฎของชาวมีเดียและเปอร์เซีย คือเปลี่ยนแปลงไม่ได้” 13 พวกเขาจึงตอบกษัตริย์ว่า “ดาเนียลผู้นั้นที่เป็นเชลยมาจากยูดาห์ ไม่ได้ฟังท่านหรือปฏิบัติตามคำสั่งของท่าน แต่กลับอธิษฐานขอต่อพระเจ้าของเขาวันละ 3 ครั้ง”
14 เมื่อกษัตริย์ได้ยินเรื่องดังกล่าว ท่านก็เป็นทุกข์ และหาทางจะช่วยชีวิตดาเนียล ท่านครุ่นคิดวิธีการที่จะช่วยท่านจนกระทั่งตะวันตกดิน 15 ชายเหล่านั้นจึงนัดกันไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ และพูดกับกษัตริย์ว่า “โอ กษัตริย์ ท่านคงจะจำได้ว่า เป็นกฎของชาวมีเดียและเปอร์เซีย คือสิ่งที่กษัตริย์ออกเป็นกฎหรือคำสั่งจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้”
16 ฉะนั้น กษัตริย์จึงสั่งให้นำดาเนียลมา เพื่อโยนท่านลงในถ้ำสิงโต กษัตริย์กล่าวกับดาเนียลว่า “ขอพระเจ้าของเจ้าที่เจ้านมัสการมาโดยตลอดช่วยเจ้าให้ปลอดภัย” 17 และท่านสั่งให้กลิ้งหินปิดปากถ้ำ กษัตริย์ประทับปากถ้ำด้วยตราประทับของท่านและของบรรดาขุนนาง เพื่อไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับดาเนียล 18 และกษัตริย์กลับไปยังวังของท่าน งดอาหารและการบันเทิงในค่ำวันนั้น และท่านนอนไม่หลับ
19 พอรุ่งสาง กษัตริย์ลุกขึ้นและรีบไปที่ถ้ำสิงโต 20 เมื่อท่านเข้าไปใกล้ถ้ำที่ดาเนียลอยู่ ท่านร้องด้วยเสียงอันปวดร้าว พูดกับดาเนียลว่า “โอ ดาเนียลผู้รับใช้ของพระเจ้าผู้ดำรงชีวิตอยู่ พระเจ้าของเจ้า ผู้ที่เจ้านมัสการมาโดยตลอด สามารถช่วยเจ้าให้พ้นจากพวกสิงโตหรือไม่” 21 ดาเนียลตอบกษัตริย์ว่า “โอ กษัตริย์ ขอให้ท่านมีอายุยืนนานเถิด 22 พระเจ้าของข้าพเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาปิดปากสิงโต มันไม่ได้ทำร้ายข้าพเจ้าเลย เพราะพระองค์ทราบว่า ข้าพเจ้าไม่มีความผิด ท่านก็ทราบเช่นกัน โอ กษัตริย์ ข้าพเจ้าไม่ได้ทำผิดสิ่งใด” 23 ครั้นแล้ว กษัตริย์ก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง และสั่งให้นำดาเนียลออกจากถ้ำ ดาเนียลจึงออกมาจากถ้ำได้ และพบว่า ท่านไม่ถูกทำร้ายเลย เพราะท่านวางใจในพระเจ้าของท่าน 24 และกษัตริย์สั่งให้นำชายเหล่านั้นที่ได้กล่าวหาดาเนียลมา รวมถึงลูกๆ และภรรยาของพวกเขา และโยนพวกเขาลงในถ้ำสิงโต ก่อนที่พวกเขาจะถึงก้นถ้ำ สิงโตก็ขม้ำและหักกระดูกพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ เสียก่อนแล้ว
25 และกษัตริย์ดาริอัสเขียนถึงทุกชนชาติ ทุกประชาชาติ และทุกภาษาทั่วแผ่นดินว่า “สันติสุขจงเพิ่มพูนแก่ท่าน 26 เราออกกฤษฎีกาว่า ทุกคนทั่วอาณาจักรของเราจะต้องหวั่นเกรงและเกรงกลัวพระเจ้าของดาเนียล
เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าผู้ดำรงชีวิตอยู่
ยืนยงชั่วกาลนาน
อาณาจักรของพระองค์จะไม่มีวันถูกทำลาย
และการปกครองของพระองค์จะไม่จบสิ้นลง
27 พระองค์ช่วยให้รอดปลอดภัยและช่วยให้พ้นภัย
พระองค์แสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์ และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ
ในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
พระองค์เป็นผู้ช่วยชีวิตของดาเนียล
ให้รอดจากปากสิงโต”
28 ดังนั้น กิจการงานของดาเนียลผู้นี้สำเร็จด้วยดีในรัชสมัยของดาริอัสและของไซรัสชาวเปอร์เซีย
ความสุขที่คนดีพึงได้รับ
1 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
คนที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าจะเป็นสุข
เขายินดีในพระบัญญัติของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง
2 บรรดาผู้สืบเชื้อสายของเขาจะมีอานุภาพบนแผ่นดิน
ผู้สืบวงศ์ตระกูลของผู้มีความชอบธรรมจะได้รับพระพร
3 ความมั่งมีและความเป็นปึกแผ่นอยู่ในเรือนของเขา
และความชอบธรรมของเขาคงอยู่เป็นนิตย์
4 ย่อมมีแสงสว่างสาดส่องผ่านไปในที่มืดสำหรับผู้มีความเที่ยงธรรม
พระองค์กอปรด้วยพระคุณ ความสงสาร และความชอบธรรม
5 พระพรจะเป็นของคนใจกว้าง และคนที่รู้จักให้คนอื่นหยิบยืม
เขาดำเนินกิจการของเขาด้วยความเป็นธรรม
6 เขาจะไม่มีวันสะทกสะท้านหวั่นไหว
ผู้มีความชอบธรรมจะเป็นที่ระลึกถึงตลอดกาล
7 เขาไม่ตื่นตระหนกต่อข่าวร้าย
ด้วยมีใจหนักแน่น วางใจในพระผู้เป็นเจ้า
8 ใจของเขามั่นคง เขาจึงไม่หวาดกลัว
เขาแน่ใจว่าจะได้เห็นศัตรูของเขาพ่ายแพ้
9 เขาเอื้อเฟื้อแก่ผู้ยากไร้
ความชอบธรรมของเขาคงอยู่เป็นนิตย์[a]
พละกำลังของเขาย่อมได้รับเกียรติยกย่องเชิดชู
10 คนชั่วจะโกรธเมื่อได้เห็น
เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แล้วก็ต้องแพ้พ่ายถอยกลับไป
ความหวังของคนชั่วจะสูญเปล่า
สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าในพระคุณของพระองค์
1 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
โอ บรรดาผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญเถิด
สรรเสริญพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
2 ให้พระนามของพระผู้เป็นเจ้าได้รับพระพร
ตั้งแต่บัดนี้ไปจนชั่วนิรันดร์กาล
3 นับแต่ยามที่ดวงอาทิตย์ขึ้น จนถึงยามที่ดวงอาทิตย์ลาลับไป
ให้พระนามของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการสรรเสริญเถิด
4 พระผู้เป็นเจ้าถูกเชิดชูเหนือประชาชาติทั้งปวง
และพระบารมีของพระองค์อยู่เหนือฟ้าสวรรค์
5 มีใครบ้างที่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
พระองค์สถิตบนบัลลังก์ ณ เบื้องบน
6 พระองค์ก้มลงดูฟ้าสวรรค์
และแผ่นดินโลก
7 พระองค์หยิบยกคนสิ้นไร้ไม้ตอกขึ้นจากผงธุลี
และหยิบยกคนยากไร้ขึ้นจากกองขี้เถ้า
8 ให้พวกเขานั่งในตำแหน่งเทียบกับบรรดาเจ้าขุนมูลนาย
ในระดับบรรดาเจ้าขุนมูลนายของชนชาติของพระองค์
9 พระองค์โปรดให้หญิงที่เป็นหมันได้อยู่อาศัยในเรือน
เป็นแม่ผู้มีใจยินดีของลูกๆ
จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation