Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
1 พงศ์กษัตริย์ 11

ซาโลมอนหันเหไปจากพระเจ้า

11 กษัตริย์ซาโลมอนรักหญิงชาวต่างแดนหลายคน นอกจากธิดาของฟาโรห์ ก็มีหญิงชาวโมอับ อัมโมน เอโดม ไซดอน และหญิงชาวฮิต หญิงเหล่านี้มาจากบรรดาประชาชาติที่พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวถึงกับชาวอิสราเอลว่า “เจ้าอย่าแต่งงานกับพวกเขา และพวกเขาก็จะต้องไม่แต่งงานกับพวกเจ้า เพราะว่าพวกเขาจะทำให้จิตใจของเจ้าหันไปติดตามบรรดาเทพเจ้าของเขาอย่างแน่นอน”[a] ซาโลมอนติดพันรักใคร่หญิงเหล่านี้ ท่านมีเจ้าหญิงเป็นภรรยา 700 คน และภรรยาน้อย 300 คน บรรดาภรรยาของท่านทำให้จิตใจของท่านหันเหไป ต่อมาเมื่อซาโลมอนชราลง เหล่าภรรยาของท่านทำให้ใจของท่านหันไปเชื่อในบรรดาเทพเจ้า ทำให้ท่านไม่สัตย์ซื่อต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เหมือนดั่งใจของดาวิดบิดาของท่าน เพราะว่าซาโลมอนหันไปเชื่อเทพเจ้าอัชโทเรท[b]ของชาวไซดอน และเชื่อเทพเจ้ามิลโคม[c]ของชาวอัมโมนที่น่ารังเกียจ ดังนั้นซาโลมอนกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และไม่สัตย์ซื่อต่อพระผู้เป็นเจ้า เหมือนดั่งที่ดาวิดบิดาของท่านได้ปฏิบัติมา แล้วซาโลมอนได้สร้างสถานบูชาบนภูเขาสูงให้แก่เทพเจ้าเคโมชของโมอับที่น่ารังเกียจ และให้แก่เทพเจ้าโมเลค[d]ของชาวอัมโมนที่น่ารังเกียจ บนภูเขาทางตะวันออกของเมืองเยรูซาเล็ม ท่านกระทำอย่างนั้นเพื่อภรรยาต่างชาติของท่านทุกคน ซึ่งต่างเผาเครื่องหอมและเครื่องสักการะแก่บรรดาเทพเจ้าของพวกนาง

พระผู้เป็นเจ้ากำหนดศัตรู

พระผู้เป็นเจ้าโกรธกริ้วซาโลมอน เพราะจิตใจของท่านหันเหไปจากพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล ผู้ได้ปรากฏแก่ท่านถึง 2 ครั้งแล้ว[e] 10 และได้บัญชาท่านในเรื่องนี้ คือท่านไม่ควรติดตามบรรดาเทพเจ้า แต่ท่านก็ไม่ได้ปฏิบัติตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชาไว้ 11 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับซาโลมอนว่า “ในเมื่อเจ้าประพฤติเช่นนี้ และไม่ได้รักษาพันธสัญญาและกฎเกณฑ์ของเราที่เราบัญชาเจ้า เราจะฉีกอาณาจักรที่เจ้าครอบครองอย่างแน่นอน และยกให้กับผู้รับใช้ของเจ้า 12 แต่เพราะเห็นแก่ดาวิดบิดาของเจ้า เราจะไม่ทำเช่นนั้นในชั่วอายุของเจ้า แต่เราจะทำกับบุตรของเจ้า 13 อย่างไรก็ตาม เราจะไม่ฉีกอาณาจักรทั้งหมด แต่เราจะให้บุตรของเจ้าปกครอง 1 เผ่า เพราะเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา และเห็นแก่เยรูซาเล็มที่เราได้เลือกไว้”

14 ครั้นแล้วพระผู้เป็นเจ้าก็เร้าให้เกิดศัตรู เพื่อขัดขืนซาโลมอน คือฮาดัดชาวเอโดม ท่านมีเชื้อสายกษัตริย์แห่งเอโดม 15 เพราะในเวลาที่ดาวิดอยู่ในเอโดม โยอาบผู้บังคับกองพันทหารขึ้นไปฝังศพพวกที่ถูกฆ่า เขาได้ฆ่าชายทุกคนในเอโดม 16 (โยอาบและชาวอิสราเอลทั้งปวงอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 6 เดือน จนกระทั่งเขาได้ฆ่าชายทุกคนในเอโดม) 17 แต่ฮาดัดหนีไปยังประเทศอียิปต์กับบรรดาผู้รับใช้ของบิดาของท่านซึ่งเป็นชาวเอโดม ขณะนั้นฮาดัดยังเป็นเด็กอยู่ 18 เขาทั้งหลายออกเดินทางจากมีเดียน ไปยังปาราน และนำคนจากปารานไปด้วย จนถึงประเทศอียิปต์ และเข้าเฝ้าฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ซึ่งได้ยกบ้านหลังหนึ่งให้อยู่อาศัย พร้อมกับโปรดให้ท่านรับอาหารตามกำหนดอยู่เป็นประจำและมอบที่ดินให้ด้วย 19 ฮาดัดเป็นที่โปรดปรานของฟาโรห์มาก จนถึงกับให้ท่านแต่งงานกับน้องของภรรยา คือน้องสาวของราชินีทาเปเนส 20 น้องสาวของทาเปเนสให้กำเนิดบุตรแก่ท่านคือเกนูบัท ซึ่งทาเปเนสเลี้ยงให้เติบโตอยู่ในวังของฟาโรห์ เกนูบัทจึงได้อยู่ที่วังของฟาโรห์ด้วยกันกับบรรดาบุตรของฟาโรห์ 21 แต่ขณะที่อยู่ในอียิปต์ ฮาดัดได้ยินว่า ดาวิดสิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษ และโยอาบผู้บังคับกองพันทหารก็สิ้นชีวิต ฮาดัดพูดกับฟาโรห์ว่า “โปรดให้ข้าพเจ้ากลับไปยังประเทศของข้าพเจ้าเถิด” 22 แต่ฟาโรห์กล่าวตอบว่า “ท่านขาดแคลนสิ่งใดเมื่อท่านอยู่กับเราหรือ จึงอยากจะกลับไปยังประเทศของท่าน” ท่านก็พูดอีกว่า “เพียงขอให้ข้าพเจ้าไปเถิด”

23 พระเจ้าเร้าใจเรโซนบุตรของเอลียาดาให้เป็นศัตรูต่อซาโลมอนด้วย เรโซนได้หนีมาจากเจ้านายของเขาคือฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์แห่งโศบาห์ 24 เขารวบรวมพวกผู้ชายได้เป็นกลุ่ม และเขาก็เป็นผู้นำกลุ่มผู้ก่อกวน หลังจากการฆ่าฟันที่ดาวิดตีจนแตกพ่ายไป พวกเขาจึงไปอาศัยอยู่ที่เมืองดามัสกัส และแต่งตั้งเขาให้เป็นกษัตริย์แห่งดามัสกัส 25 เขาเป็นศัตรูของอิสราเอลตลอดชีวิตของซาโลมอน เขาก่อกวนเหมือนกับที่ฮาดัดกระทำ และมุ่งร้ายต่ออิสราเอล และเขาเป็นผู้ที่ปกครองอารัม

26 เยโรโบอัมบุตรเนบัทเผ่าเอฟราอิมจากเมืองเศเรดาห์ เป็นผู้รับใช้คนหนึ่งของซาโลมอน มารดาชื่อเศรุวาห์หญิงม่าย เยโรโบอัมได้แข็งข้อต่อกษัตริย์ด้วย 27 เหตุผลที่เขาแข็งข้อต่อกษัตริย์ก็คือ ซาโลมอนสร้างมิลโล และกำลังซ่อมกำแพงเมืองของดาวิดบิดาของท่าน 28 เยโรโบอัมเก่งกล้ามาก เมื่อซาโลมอนเห็นว่าชายหนุ่มผู้นี้ขยันขันแข็งกับงาน ท่านจึงให้เขาเป็นผู้ควบคุมคนที่เป็นพงศ์พันธุ์โยเซฟซึ่งถูกเกณฑ์มาทำงานหนัก 29 ในเวลานั้น เมื่อเยโรโบอัมออกไปจากเมืองเยรูซาเล็ม อาหิยาห์ชาวชิโลห์ซึ่งเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าพบกับเขาที่ถนน อาหิยาห์สวมเสื้อคลุมตัวใหม่ ทั้งสองอยู่ลำพังที่นอกเมือง 30 อาหิยาห์ปลดเสื้อที่สวมออกและฉีกออกเป็น 12 ชิ้น 31 และพูดกับเยโรโบอัมว่า “ขอให้ท่านเก็บไว้ 10 ชิ้น เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้ว่า ‘ดูเถิด เรากำลังจะฉีกอาณาจักรออกจากมือของซาโลมอน และจะมอบ 10 เผ่าให้แก่เจ้า 32 (แต่เขาจะมีเผ่าหนึ่ง เพื่อเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา และเห็นแก่เยรูซาเล็มเมืองที่เราได้เลือกจากเผ่าทั้งปวงของอิสราเอล) 33 เป็นเพราะว่าเขาเหล่านั้นทอดทิ้งเรา ไปนมัสการเทพเจ้าอัชโทเรทของชาวไซดอน เทพเจ้าเคโมชแห่งโมอับ และเทพเจ้ามิลโคมของชาวอัมโมน และพวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตในวิถีทางของเรา ไม่กระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา ไม่รักษากฎเกณฑ์และคำบัญชาของเรา อย่างที่ดาวิดบิดาของพวกเขากระทำ 34 แต่ถึงกระนั้น เราก็จะไม่เอาอาณาจักรทั้งหมดออกจากมือของเขา แต่เราจะให้เขาเป็นผู้ที่ปกครองไปตลอดชีวิต เพื่อดาวิดผู้รับใช้ของเราที่เราเลือก ผู้รักษาคำบัญญัติและกฎเกณฑ์ของเรา 35 แต่เราจะเอาอาณาจักรออกจากมือของบุตรของเขา มอบให้เจ้าทั้ง 10 เผ่า 36 เราจะให้เผ่าหนึ่งแก่บุตรของเขา เพื่อว่าดาวิดผู้รับใช้ของเราจะมีผู้สืบเชื้อสายรับใช้เราในเยรูซาเล็ม เมืองที่เราได้เลือกให้เป็นที่ยกย่องนามของเรา[f] 37 และเราจะให้เจ้าไปเป็นผู้ปกครองทุกสิ่งตามใจปรารถนาของเจ้า และเจ้าจะเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล 38 และถ้าเจ้าจะฟังทุกสิ่งที่เราบัญชาเจ้า และดำเนินตามวิถีทางของเรา และกระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเรา ด้วยการรักษาคำบัญญัติและกฎเกณฑ์ของเรา อย่างที่ดาวิดผู้รับใช้ของเรากระทำ เราก็จะอยู่กับเจ้า และจะสร้างพงศ์พันธุ์ที่มั่นคงให้แก่เจ้า อย่างที่เราสร้างให้ดาวิด และเราจะมอบอิสราเอลให้แก่เจ้า 39 และเราจะทำให้ผู้สืบเชื้อสายของดาวิดได้รับทุกข์เพราะเหตุนี้ แต่ไม่ตลอดไป’” 40 ฉะนั้น ซาโลมอนจึงพยายามฆ่าเยโรโบอัม แต่เยโรโบอัมหนีไปอยู่ที่ประเทศอียิปต์ ไปเข้าเฝ้าชิชักกษัตริย์แห่งอียิปต์ และอยู่ที่อียิปต์จนกระทั่งซาโลมอนสิ้นชีวิต

41 กิจอื่นๆ ทั้งสิ้นของซาโลมอน และทุกสิ่งที่ท่านกระทำ รวมทั้งเรื่องสติปัญญาของท่าน ก็ได้มีบันทึกไว้แล้วในหนังสือแห่งพงศาวดารของซาโลมอน 42 ซาโลมอนครองราชย์ในเยรูซาเล็ม ปกครองอิสราเอลทั้งหมดรวมเป็นเวลา 40 ปี 43 และซาโลมอนสิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษของท่าน ศพถูกบรรจุไว้ในเมืองของดาวิดบิดาของท่าน และเรโหโบอัมครองราชย์แทนท่าน

ฟีลิปปี 2

ถ่อมตัวตามอย่างพระคริสต์

ฉะนั้น ถ้าท่านมีพลังใจในพระคริสต์ ถ้ามีการปลอบโยนจากความรักของพระองค์ ถ้ามีสามัคคีธรรมของพระวิญญาณ ถ้ามีความอ่อนหวานและความสงสาร ขอให้ท่านทำให้ความยินดีของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยม ด้วยการมีความคิดอย่างเดียวกัน มีความรักอย่างเดียวกัน มีจิตวิญญาณและความรู้สึกนึกคิดที่เป็นหนึ่งเดียวกัน อย่ากระทำสิ่งใดอันเกิดจากความเห็นแก่ตัวหรือคิดยโส แต่จงถ่อมตัว และถือว่าผู้อื่นสำคัญกว่าตนเอง อย่าเพียงแต่คิดถึงผลประโยชน์ของตนเอง แต่จงคิดถึงผลประโยชน์ของผู้อื่นด้วย จงให้ความรู้สึกนึกคิดเป็นเช่นนี้ในหมู่ท่าน อย่างที่เป็นในพระเยซูคริสต์ แม้ว่าพระองค์มีสถานภาพเป็นพระเจ้า แต่ไม่ได้ยึดสถานภาพที่เสมอกับพระเจ้าไว้ พระองค์กลับสละทุกสิ่ง โดยรับสภาพเป็นผู้รับใช้ และมาเกิดในลักษณะของมนุษย์ และเมื่อปรากฏให้เห็นเป็นร่างกายอย่างมนุษย์แล้ว พระองค์ก็ถ่อมพระองค์เอง และยอมเชื่อฟังจนถึงขั้นที่ต้องเสียชีวิต แม้กระทั่งเป็นความตายบนไม้กางเขน ฉะนั้นพระเจ้าจึงได้ยกพระองค์ขึ้นสู่ที่สูงสุด และมอบพระนามที่เหนือนามอื่นใดแก่พระองค์ 10 เพื่อว่าทุกคนจะได้คุกเข่าลงให้กับพระนามของพระเยซูทั้งในสวรรค์ บนโลก และใต้บาดาล 11 และลิ้นทุกลิ้นยอมสารภาพว่า พระเยซูคริสต์เป็นพระผู้เป็นเจ้า เพื่อถวายพระบารมีแด่พระเจ้าผู้เป็นพระบิดา

ส่องสกาวดุจดวงดารา

12 ฉะนั้น เพื่อนที่รักทั้งหลาย ตามที่ท่านได้เชื่อฟังมาเสมอแล้วเมื่อข้าพเจ้าอยู่กับท่าน และบัดนี้แม้ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ด้วย ท่านก็ควรเชื่อฟังมากยิ่งขึ้น ท่านจงประพฤติตนให้ถึงที่สุด เพื่อให้ความรอดพ้นของท่านบริบูรณ์ด้วยความเกรงกลัวและหวาดหวั่น 13 ด้วยว่าพระเจ้าเป็นผู้สำแดงการกระทำในหมู่ท่าน เพื่อให้ท่านยินยอมและดำเนินงานตามจุดประสงค์ของพระองค์

14 จงกระทำทุกสิ่งโดยไม่บ่นหรือโต้เถียง 15 เพื่อท่านจะได้ไม่ถูกตำหนิและจะได้เป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นบรรดาบุตรของพระเจ้าที่ปราศจากความมัวหมองท่ามกลางคนในช่วงกาลเวลาที่คดโกงและเสื่อมศีลธรรม ท่านปรากฏในท่ามกลางพวกเขาดุจดวงดาราที่สาดส่องไปในโลก 16 เสนอคำกล่าวแห่งชีวิตให้เขา เพื่อว่าในวันที่พระคริสต์มา ข้าพเจ้าจะได้ภูมิใจว่า ข้าพเจ้าไม่ได้วิ่งหรือลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์ 17 ถ้าแม้ว่าโลหิตของข้าพเจ้าถูกเทลงดั่งเครื่องดื่มบูชาบนเครื่องสักการะแห่งความเชื่อของท่าน ข้าพเจ้าก็ชื่นชมและยินดีร่วมกับท่านทุกคน 18 ดังนั้นท่านควรดีใจและชื่นชมยินดีร่วมกับข้าพเจ้าด้วย

ทิโมธีและเอปาโฟรดิทัส

19 หากเป็นด้วยความตั้งใจของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าหวังว่าจะให้ทิโมธีมาหาท่านเร็วๆ นี้ ข้าพเจ้าจะได้มีกำลังใจเมื่อได้รับข่าวที่เกี่ยวกับท่าน 20 ข้าพเจ้าไม่มีใครที่จะเป็นเหมือนทิโมธี คือเขาห่วงใยเรื่องของท่านอย่างแท้จริง 21 ด้วยว่าทุกคนห่วงใยแต่เรื่องของตนเอง แต่ไม่ได้ห่วงในเรื่องของพระเยซูคริสต์ 22 แต่ท่านก็ทราบแล้วว่า ทิโมธีได้พิสูจน์ให้เห็นคุณค่าของเขาแล้วว่า เขาได้รับใช้ร่วมกับข้าพเจ้าในงานด้านข่าวประเสริฐเสมือนบุตรทำงานร่วมกับบิดา 23 ฉะนั้นข้าพเจ้าหวังว่าจะให้เขามาหาท่าน ทันทีที่ข้าพเจ้าทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า 24 และข้าพเจ้าวางใจในพระผู้เป็นเจ้าว่า ข้าพเจ้าเองจะมาหาท่านในเร็วๆ นี้ด้วย

25 แต่ข้าพเจ้าคิดว่าจำเป็นที่จะให้เอปาโฟรดิทัสกลับมาหาท่านทั้งหลาย เขาเป็นน้อง เป็นเพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมรบกับข้าพเจ้า เขาเป็นคนที่ท่านส่งมาช่วยรับใช้ข้าพเจ้าในยามขัดสน 26 ด้วยว่าเขาอยากมาหาท่านทั้งหลายมาก อีกทั้งเป็นทุกข์เพราะท่านได้ข่าวว่าเขาป่วย 27 เขาป่วยหนักจนเกือบจะเสียชีวิต แต่พระเจ้าโปรดเมตตาเขา และอีกทั้งได้โปรดข้าพเจ้าด้วยคือข้าพเจ้าไม่เศร้าใจยิ่งไปกว่านี้ 28 ข้าพเจ้าจึงได้รีบให้เขาไปหาท่าน เพื่อว่าเวลาท่านพบเขาอีกท่านจะได้ยินดี และข้าพเจ้าจะได้เป็นกังวลน้อยลง 29 ฉะนั้นจงต้อนรับเขาดั่งคนของพระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดียิ่ง และจงนับถือคนอย่างเขาไว้เถิด 30 เพราะเขาเกือบสิ้นชีวิตเพื่องานของพระคริสต์ เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อทดแทนสิ่งที่ท่านไม่สามารถช่วยข้าพเจ้าได้

เอเสเคียล 41

ภายในพระตำหนัก

41 แล้วท่านนำข้าพเจ้าไปในพระตำหนักชั้นนอก และวัดเสาค้ำกว้าง 6 ศอกทั้งสองข้าง ทางเข้ากว้าง 10 ศอก ผนังกำแพงทั้งสองข้างกว้าง 5 ศอกเท่ากัน และท่านวัดพระตำหนักชั้นนอกซึ่งยาว 40 ศอก กว้าง 20 ศอก แล้วท่านเข้าไปในพระตำหนักชั้นใน และวัดเสาค้ำที่ทางเข้า แต่ละข้างกว้าง 2 ศอก ทางเข้ากว้าง 6 ศอก และกำแพงทั้งสองข้างกว้าง 7 ศอกเท่ากัน และท่านวัดห้องนั้นได้ยาว 20 ศอก และกว้าง 20 ศอกซึ่งอยู่ถัดจากพระตำหนักชั้นนอก และท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า “นี่คืออภิสุทธิสถาน”

แล้วท่านวัดกำแพงพระตำหนัก หนา 6 ศอก ห้องเสริมพระตำหนักแต่ละห้องกว้าง 4 ศอก และอยู่รอบ 3 ด้านของพระตำหนัก ห้องเสริมเหล่านี้เป็น 3 ชั้นซ้อนกัน แต่ละชั้นมี 30 ห้อง ผนังพระตำหนักมีเชิงรับน้ำหนักห้องเสริมอยู่โดยรอบ เพื่อไม่ต้องสอดคานรับน้ำหนักไว้ที่ผนังพระตำหนัก ห้องเสริมรอบพระตำหนักชั้นล่างแคบกว่าชั้นบนที่ถัดขึ้นไป ผนังห้องก็บางลงเมื่อชั้นสูงขึ้น ดังนั้นห้องชั้นบนสุดกว้างกว่าห้องชั้นล่าง ทางบันไดขึ้นจากชั้นล่างสุดถึงชั้นบนสุดต้องผ่านชั้นกลาง ข้าพเจ้าเห็นด้วยว่า พระตำหนักมีฐานที่ยกสูงขึ้นโดยรอบ และเป็นฐานรากของห้องเสริมซึ่งวัดความสูงได้ 6 ศอกตามความยาวของไม้วัด ผนังด้านนอกของห้องเสริมหนา 5 ศอก ระเบียงระหว่างห้องเสริมของพระตำหนัก 10 กับห้องของบรรดาปุโรหิต กว้าง 20 ศอกโดยรอบพระตำหนัก 11 ทางเข้าห้องเสริมอยู่ด้านระเบียง ทางหนึ่งเข้าได้จากด้านเหนือ ส่วนอีกทางเข้าได้จากด้านใต้ ระเบียงกว้าง 5 ศอกโดยรอบ

12 ตึกที่หันเข้าหาลานพระวิหารทางด้านตะวันตกกว้าง 70 ศอก ผนังตึกหนา 5 ศอกโดยรอบ และยาว 90 ศอก

13 แล้วท่านวัดพระตำหนักซึ่งยาว 100 ศอก ส่วนลานพระตำหนักและตัวตึกรวมผนังมีความยาว 100 ศอกเช่นกัน 14 ลานพระวิหารด้านตะวันออกที่หันเข้าหาพระตำหนักกว้าง 100 ศอก

15 แล้วท่านวัดความยาวของตึกซึ่งหันเข้าหาลานพระวิหารที่อยู่ด้านหลังพระตำหนัก รวมความกว้างระเบียงทั้งสองข้างได้ความยาว 100 ศอก

พระตำหนักชั้นนอก และมุขที่ลานพระตำหนัก 16 รวมทั้งธรณีประตู ช่องหน้าต่างเว้า และระเบียงรอบทั้ง 3 ด้านจากหน้าธรณีประตูล้วนกรุด้วยไม้โดยรอบ ตั้งแต่พื้นและผนังกำแพง จนถึงหน้าต่างกรุด้วยไม้ 17 บริเวณเหนือประตูที่ทางเข้าสู่พระตำหนักชั้นใน และผนังทุกด้านในพระตำหนักชั้นในและพระตำหนักชั้นนอกมีรูปแกะสลัก 18 เป็นตัวเครูบ[a]และต้นอินทผลัม ระหว่างตัวเครูบมีต้นอินทผลัม 1 ต้น เครูบทุกตัวมีสองหน้า 19 ใบหน้าที่เป็นมนุษย์หันไปทางต้นอินทผลัมข้างหนึ่ง และใบหน้าที่เป็นสิงโตหนุ่มหันไปทางต้นอินทผลัมอีกข้างหนึ่ง รูปแกะสลักเหล่านี้อยู่ทั่วพระตำหนักโดยรอบ 20 ตัวเครูบและต้นอินทผลัมเป็นรูปแกะสลักบนผนังกำแพงในพระตำหนักชั้นนอก ตั้งแต่พื้นจรดบริเวณเหนือประตู

21 วงกบประตูพระตำหนักชั้นนอกเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่า และที่หน้าอภิสุทธิสถานก็คล้ายคลึงกัน 22 แท่นบูชาไม้ซึ่งสูง 3 ศอก ยาว 2 ศอก และกว้าง 2 ศอก ทั้งมุม ฐาน และด้านข้างทำด้วยไม้ ท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า “นี่เป็นโต๊ะที่อยู่เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 23 ทั้งพระตำหนักชั้นนอกและอภิสุทธิสถานมีประตูบานคู่ 24 แต่ละประตูเป็นประตูบานพับ บานพับสองบานต่อประตูหนึ่งบาน 25 ประตูพระตำหนักชั้นนอกแกะสลักตัวเครูบและต้นอินทผลัม เหมือนกับที่สลักบนผนังกำแพง และมีกันสาดไม้ที่หน้ามุข 26 ที่ผนังมุขทั้งสองข้างมีหน้าต่างเว้าและตกแต่งด้วยรูปต้นอินทผลัม ห้องเสริมของพระตำหนักก็เช่นกันและมีกันสาดด้วย

สดุดี 92-93

เพลงสรรเสริญ เพลงสดุดี

บทเพลงสำหรับวันสะบาโต

การขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าเป็นสิ่งดี
    รวมทั้งการบรรเลงเพลงแด่พระนามของพระองค์ โอ องค์ผู้สูงสุด
นับว่าเป็นสิ่งดีที่จะประกาศความรักอันมั่นคงของพระองค์ในยามรุ่งอรุณ
    และความสัตย์จริงของพระองค์ในยามราตรี
กับดนตรีจากพิณสิบสาย
    และเพลงจากพิณเล็ก

โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าดีใจเพราะกิจการของพระองค์
    ข้าพเจ้าเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีเพราะฝีมือการทำงานของพระองค์
โอ พระผู้เป็นเจ้า งานของพระองค์ช่างยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้
    ความนึกคิดของพระองค์ช่างลึกซึ้ง
คนสมองทึบไม่สามารถรู้ได้
    คนโง่เขลาก็ไม่เข้าใจในเรื่องนี้
คือเวลาคนชั่วเติบโตดั่งต้นหญ้า
    และคนเลวทุกคนเจริญรุ่งเรือง
    พวกเขาจะถูกทำลายโดยสิ้นเชิง

โอ พระผู้เป็นเจ้า แต่พระองค์จะเป็นที่ยกย่องเชิดชูตลอดกาล

ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้า ศัตรูของพระองค์
    ดูเถิด ศัตรูของพระองค์จะสิ้นชีพ
    คนเลวทุกคนจะหนีกระเจิดกระเจิงไป
10 แต่พระองค์ชูพละกำลังของข้าพเจ้าขึ้นดั่งชูเขาของกระทิง
    พระองค์เจิมน้ำมันใหม่บนตัวข้าพเจ้า
11 ข้าพเจ้าได้เห็นพวกศัตรูพ่ายแพ้ด้วยตาของข้าพเจ้า
    หูข้าพเจ้าได้ยินเสียงร้องของพวกคนชั่ว

12 คนมีความชอบธรรมจะงอกงามอย่างต้นอินทผลัม
    เติบโตอย่างต้นซีดาร์ในเลบานอน
13 เขาเป็นดั่งต้นที่ปลูกไว้ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
    จะงอกงามในลานพระตำหนักของพระเจ้าของเรา
14 และยังออกผลในยามชรา
    ยังสดและเขียวชอุ่ม
15 เพื่อประกาศว่า “พระผู้เป็นเจ้าเที่ยงธรรม
    พระองค์เป็นศิลาของข้าพเจ้า และกอปรด้วยความเป็นธรรมโดยบริบูรณ์”

พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่

พระผู้เป็นเจ้าครองบัลลังก์ พระองค์พรั่งพร้อมด้วยความยิ่งใหญ่
    พระผู้เป็นเจ้าพรั่งพร้อมด้วยอานุภาพ
โลกถูกสร้างขึ้นอย่างมั่นคง และไม่อาจเคลื่อนย้ายไปที่ใดๆ ได้
บัลลังก์ของพระองค์ถูกจัดตั้งไว้อย่างมั่นคงนับแต่แรกเริ่ม
    พระองค์ดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดร์กาล

โอ พระผู้เป็นเจ้า กระแสน้ำดังครืนครั่น
    กระแสน้ำส่งเสียงครืนๆ
    กระแสน้ำคำรามด้วยคลื่นกระทบ
แต่ผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าเสียงครืนครั่นของกระแสน้ำหลายสาย
    และมีอานุภาพยิ่งกว่าคลื่นในท้องทะเล
    คือพระผู้เป็นเจ้าผู้สูงส่งผู้มีมหิทธานุภาพ

คำสั่งของพระองค์เป็นสิ่งแน่นอน
    โอ พระผู้เป็นเจ้า ความบริสุทธิ์เหมาะกับพระตำหนักของพระองค์
    นานแสนนาน

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation