Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
2 ซามูเอล 24

ดาวิดนับจำนวนนักรบ

24 พระผู้เป็นเจ้ากริ้วโกรธอิสราเอลอีก และพระองค์ทำให้ดาวิดกลับเป็นศัตรูกับพวกเขา และกล่าวว่า “จงไปนับจำนวนชาวอิสราเอลและยูดาห์” ดังนั้นกษัตริย์กล่าวกับโยอาบผู้บังคับการกองทัพที่อยู่กับท่านว่า “จงตรวจตราเผ่าของอิสราเอลทุกเผ่า นับจำนวนนักรบตั้งแต่เมืองดานจนถึงเมืองเบเออร์เช-บา เราจะได้รู้ว่ามีจำนวนกี่คน” แต่โยอาบตอบกษัตริย์ว่า “ขอให้พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเพิ่มทหารมากขึ้นเป็นร้อยเท่าเถิด และขอให้เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์มีโอกาสได้เห็นเถิด แต่เหตุใดเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์จึงปรารถนาในเรื่องนี้” แต่คำบัญชาของกษัตริย์เหนือกว่าโยอาบและบรรดาผู้บังคับการกองทัพ พวกเขาจึงลากษัตริย์ไป เพื่อนับจำนวนนักรบของอิสราเอล หลังจากที่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปแล้ว พวกเขาก็ได้ตั้งค่ายอยู่ใกล้ๆ อาโรเออร์ ทางทิศใต้ของเมืองที่อยู่กลางหุบเขา และผ่านไปทางเมืองกาดและต่อไปจนถึงยาเซอร์ และก็มาถึงกิเลอาดและคาเดชในแผ่นดินของชาวฮิต และต่อไปจนถึงดาน จากดานพวกเขาอ้อมไปยังไซดอน และมายังป้อมปราการของไทระและเมืองทุกเมืองของชาวฮีวและชาวคานาอัน และไปยังเนเกบของยูดาห์ที่เบเออร์เช-บา ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ไปจนทั่วแผ่นดินแล้ว ก็กลับมายังเมืองเยรูซาเล็มเมื่อเวลาผ่านไปได้ 9 เดือนกับ 20 วัน และโยอาบเรียนกษัตริย์ว่า เขารวมจำนวนนักรบได้ตามนี้คือ ในอิสราเอลมีชายผู้กล้าหาญผู้รู้จักใช้ดาบ 800,000 คน และในยูดาห์มี 500,000 คน

พระผู้เป็นเจ้าลงโทษบาปของดาวิด

10 แต่หลังจากที่ดาวิดนับจำนวนนักรบได้แล้ว ท่านก็รู้สึกเสียดแทงใจ และดาวิดพูดกับพระผู้เป็นเจ้าว่า “สิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำนับว่าเป็นบาปมหันต์ โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดกำจัดบาปของผู้รับใช้ของพระองค์เถิด เพราะว่าข้าพเจ้าได้กระทำไปด้วยความโง่เขลา” 11 ก่อนที่ดาวิดจะตื่นนอนในวันรุ่งขึ้น พระผู้เป็นเจ้ากล่าวผ่านกาดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ซึ่งเป็นผู้รู้ของดาวิดว่า 12 “จงไปบอกดาวิดดังนี้ว่า ‘พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า เราเสนอ 3 สิ่งแก่เจ้า จงเลือก 1 สิ่ง แล้วเราจะกระทำต่อเจ้า’” 13 ดังนั้นกาดจึงมาหาดาวิดและเรียนท่านว่า “จะให้เกิดทุพภิกขภัยเป็นเวลา 3 ปีในแผ่นดินของท่าน หรือว่าท่านจะหลบหนีศัตรูของท่านเป็นเวลา 3 เดือนขณะที่พวกเขาไล่ล่าท่าน หรือจะให้เกิดโรคระบาดในแผ่นดินของท่านเป็นเวลา 3 วัน จงพิจารณาดูและตัดสินใจว่าจะเป็นคำตอบข้อใดที่ข้าพเจ้าจะกลับไปยังพระองค์ที่ส่งข้าพเจ้ามา” 14 ดาวิดกล่าวกับกาดว่า “เราเศร้าใจยิ่งนัก ขอให้พวกเราอยู่ในมือของพระผู้เป็นเจ้าเถิด เพราะพระองค์มีความเมตตายิ่งนัก และอย่าให้ข้าพเจ้าตกอยู่ในมือของมนุษย์”

15 ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าจึงให้เกิดโรคระบาดในอิสราเอลตั้งแต่เช้าจนครบเวลา และที่นั่นมีคนตายนับจากดานถึงเบเออร์เช-บา จำนวน 70,000 คน 16 และเมื่อทูตสวรรค์ยื่นมือไปทางเยรูซาเล็มเพื่อทำลายเมืองให้สิ้นไป พระผู้เป็นเจ้าเสียใจเพราะความวิบัติ จึงกล่าวกับทูตสวรรค์ที่กำลังทำลายพลเมืองว่า “พอแล้ว ยั้งมือของเจ้าไว้” และทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ที่ข้างลานนวดข้าวของอาราวนาห์ชาวเยบุส 17 และดาวิดพูดกับพระผู้เป็นเจ้าเมื่อท่านเห็นทูตสวรรค์ที่กำลังฆ่าพลเมือง ท่านพูดว่า “ดูเถิด ข้าพเจ้าได้กระทำบาป และข้าพเจ้าได้กระทำด้วยความเลวร้าย แต่ว่าลูกแกะเหล่านี้ พวกเขากระทำอะไรเล่า ขอพระองค์กระทำต่อข้าพเจ้าและพงศ์พันธุ์ของข้าพเจ้าเถิด”

ดาวิดสร้างแท่นบูชา

18 ในวันนั้นกาดมาหาดาวิด และพูดกับท่านว่า “ท่านจงขึ้นไป และสร้างแท่นบูชาที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์ชาวเยบุสให้แด่พระผู้เป็นเจ้า 19 ดังนั้นดาวิดจึงขึ้นไป ตามที่กาดมาเรียนท่าน ตามคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า 20 เมื่ออาราวนาห์มองดู เขาก็เห็นว่ากษัตริย์กับพวกทหารรับใช้กำลังขึ้นมาทางที่ตนอยู่ อาราวนาห์จึงออกไปแสดงความเคารพต่อกษัตริย์ และก้มหน้าลงที่พื้น 21 และอาราวนาห์ถามว่า “เหตุไฉนเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์จึงได้มาหาผู้รับใช้ของท่าน” ดาวิดตอบว่า “เรามาซื้อลานนวดข้าวจากท่าน เพื่อสร้างแท่นบูชาแด่พระผู้เป็นเจ้า เผื่อว่าภัยพิบัติในหมู่คนจะยุติลง” 22 อาราวนาห์ตอบดาวิดว่า “ขอเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์นำสิ่งอันเป็นที่น่ายินดีและไปมอบถวายเถิด มีโคสำหรับเผาเป็นของถวาย มีคราดเลื่อนและแอกโคเป็นฟืน 23 โอ กษัตริย์ อาราวนาห์ขอมอบสิ่งเหล่านี้ให้แด่กษัตริย์” อาราวนาห์พูดกับกษัตริย์ด้วยว่า “ขอพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านรับท่านเถิด” 24 แต่กษัตริย์กล่าวกับอาราวนาห์ว่า “ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเราตั้งใจจะซื้อจากท่านตามมูลค่าของมัน เราจะไม่มอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราโดยไม่เสียค่าอะไรเลย” ดังนั้นดาวิดซื้อลานนวดข้าวและโคเป็นเงิน 50 เชเขล 25 และดาวิดก็ได้สร้างแท่นบูชาแด่พระผู้เป็นเจ้า ณ ที่นั่น และได้มอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวายและของถวายเพื่อสามัคคีธรรม และพระผู้เป็นเจ้าได้ตอบคำขอร้องเพื่อแผ่นดิน และภัยพิบัติในหมู่คนอิสราเอลก็ยุติลง

กาลาเทีย 4

ข้าพเจ้าขอกล่าวว่า ตราบที่ผู้รับมรดกเป็นผู้เยาว์ เขาก็ไม่ต่างจากทาสแม้เขาจะเป็นเจ้าของทรัพย์สินก็ตาม เขาอยู่ภายใต้ผู้ควบคุมและผู้ดูแลผลประโยชน์จนถึงวันเวลาที่บิดากำหนดไว้ เราก็เช่นกัน เมื่อเป็นเด็กอยู่ เราก็เป็นทาสอยู่ภายใต้การบังคับของอำนาจแห่งวัตถุท้องฟ้า แต่เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว พระเจ้าได้ส่งพระบุตรของพระองค์มา เกิดจากผู้หญิง และเกิดภายใต้กฎบัญญัติ เพื่อพระองค์จะได้ไถ่บรรดาผู้อยู่ภายใต้กฎบัญญัติ และเราจะได้รับฐานะเป็นบุตร และเพราะว่าท่านทั้งหลายต่างก็เป็นบรรดาบุตร พระเจ้าจึงได้ส่งพระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์มาอยู่ในใจของพวกเรา พระวิญญาณร้องว่า “อับบา[a] พระบิดา” ฉะนั้นพวกท่านไม่เป็นทาสอีกแล้ว แต่เป็นบุตร และถ้าเป็นบุตร พระเจ้าก็ให้ท่านเป็นผู้รับมรดก

เปาโลห่วงใยชาวกาลาเทีย

อย่างไรก็ตาม เมื่อก่อนท่านทั้งหลายยังไม่รู้จักพระเจ้า ท่านเป็นทาสของบรรดาเทพเจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้าที่แท้จริง แต่บัดนี้ท่านมารู้จักพระเจ้า หรือพูดอีกอย่างคือเป็นที่รู้จักของพระเจ้า แล้วท่านจะกลับไปหาการบังคับของอำนาจแห่งวัตถุท้องฟ้าซึ่งอ่อนแอและไร้ค่าอีกทำไม ท่านอยากตกเป็นทาสอีกครั้งหรือ 10 ท่านถือวัน เดือน ฤดูกาลและปี 11 ข้าพเจ้าเกรงว่าทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าทำไปเพื่อท่านจะไร้ประโยชน์

12 พี่น้องเอ๋ย ข้าพเจ้าขอร้องว่าท่านจงเป็นอย่างข้าพเจ้าเถิด ด้วยว่าข้าพเจ้ากลายเป็นอย่างท่านแล้ว ท่านไม่ได้กระทำผิดต่อข้าพเจ้าเลย 13 ท่านทราบว่าเป็นเพราะข้าพเจ้าป่วย ข้าพเจ้าจึงได้ประกาศข่าวประเสริฐแก่ท่านเป็นครั้งแรก 14 แม้ว่าอาการป่วยของข้าพเจ้าได้ก่อความลำบากแก่ท่าน ท่านไม่ได้ดูหมิ่นหรือรังเกียจข้าพเจ้า แต่ท่านกลับต้อนรับข้าพเจ้าราวกับว่าข้าพเจ้าเป็นทูตสวรรค์ของพระเจ้า หรือเหมือนกับเป็นพระเยซูคริสต์เอง 15 ความยินดีของท่านไปไหนเสียแล้ว ข้าพเจ้ายืนยันได้ว่า ถ้าเป็นไปได้ ท่านก็คงจะควักนัยน์ตาของท่านออกให้ข้าพเจ้า 16 ฉะนั้นข้าพเจ้ากลายเป็นศัตรูของท่าน เพราะข้าพเจ้าบอกความจริงกับท่านหรือ 17 คนพวกนั้นแสดงความสนใจในตัวท่าน แต่ไม่ใช่ด้วยเจตนาดีเลย สิ่งที่เขาต้องการคือกีดกันพวกท่าน และท่านจะได้แสวงหาพวกเขา 18 การเอาจริงเอาจังเป็นสิ่งดีถ้ามีจุดประสงค์ดี และก็จงเป็นอย่างนั้นเสมอไป ไม่เพียงแต่เวลาที่ข้าพเจ้าอยู่กับท่านเท่านั้น 19 บรรดาลูกที่รักของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าเจ็บปวดราวกับเจ็บครรภ์เพื่อท่านอีก จนกว่าพระคริสต์จะก่อเกิดในตัวท่าน 20 แต่ข้าพเจ้าปรารถนาจะอยู่กับพวกท่านในขณะนี้เพื่อจะได้เปลี่ยนน้ำเสียงการพูดของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ากำลังมีข้อกังขาในตัวท่านอยู่

หญิงทาสและหญิงอิสระ

21 บอกข้าพเจ้าเถิดว่า ท่านที่ต้องการอยู่ภายใต้กฎบัญญัติ ท่านไม่ทราบหรือว่ากฎบัญญัติกล่าวไว้ว่าอย่างไร 22 มีบันทึกไว้ว่า อับราฮัมมีบุตร 2 คน คนหนึ่งเกิดจากหญิงทาส และอีกคนหนึ่งเกิดจากหญิงที่เป็นอิสระ 23 บุตรที่เกิดจากหญิงทาสเกิดขึ้นตามวิถีทางของมนุษย์ และบุตรที่เกิดจากหญิงที่เป็นอิสระเกิดจากพระสัญญา 24 สิ่งเหล่านี้เป็นคติสอนใจ ด้วยว่าหญิง 2 คนนั้นได้แก่พันธสัญญา 2 อย่าง พันธสัญญาหนึ่งมาจากภูเขาซีนาย คือนางฮาการ์ โดยมีบุตรภายใต้การเป็นทาส 25 นางฮาการ์เปรียบได้กับภูเขาซีนายในอาระเบีย ซึ่งเทียบได้กับเมืองเยรูซาเล็มในปัจจุบัน ด้วยว่านางอยู่ภายใต้การเป็นทาสร่วมกับบุตรทั้งหลาย 26 แต่เยรูซาเล็มที่อยู่เบื้องบนเป็นอิสระ ซึ่งเป็นมารดาของเราทั้งหลาย 27 ด้วยว่ามีบันทึกไว้คือ

“จงยินดีเถิด หญิงที่เป็นหมัน
    และไม่มีบุตรเอ๋ย
จงตะโกนและร้องด้วยเสียงอันดังเถิด
    เจ้าผู้ไม่เจ็บครรภ์
เพราะหญิงที่ถูกทอดทิ้งจะมีบุตรมากกว่า
    หญิงที่อยู่กับสามี”[b]

28 และท่านพี่น้องทั้งหลายเป็นบุตรของพระสัญญา เช่นเดียวกับอิสอัค 29 ในครั้งนั้น บุตรที่เกิดตามวิถีทางของมนุษย์ได้ข่มเหงบุตรที่เกิดจากอานุภาพของพระวิญญาณ ในปัจจุบันนี้ก็เช่นกัน 30 แต่พระคัมภีร์ระบุว่าอย่างไร “จงไล่หญิงทาสและลูกของนางไปเสีย ด้วยว่าลูกของหญิงทาสจะไม่มีวันรับมรดกร่วมกับลูกของหญิงที่เป็นอิสระ”[c] 31 ฉะนั้นพี่น้องเอ๋ย พวกเราไม่ใช่พวกบุตรของหญิงทาส แต่เป็นบุตรของหญิงที่เป็นอิสระ

เอเสเคียล 31

ฟาโรห์จะถูกสังหาร

31 ในวันแรกของเดือนสาม ปีที่สิบเอ็ด[a]พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงพูดกับฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์ และกับประชาชนของเขาดังนี้

‘เจ้ายิ่งใหญ่เหมือนใครหนอ
ดูเถิด อัสซีเรียเคยเป็นเหมือนต้นซีดาร์ในเลบานอน
    มีกิ่งก้านสวยงามและร่มรื่นในป่าไม้
สูงตระหง่าน
    ยอดของมันสูงเด่นระดับเมฆ
ได้รับน้ำหล่อเลี้ยง
    ห้วงน้ำลึกทำให้ต้นสูงใหญ่
ถูกปลูกไว้โดยมีสายน้ำไหล
    รอบโคนต้น
และสายน้ำไหลแยกออกไป
    ถึงต้นไม้ทุกต้นในทุ่ง
ต้นซีดาร์นี้สูงตระหง่านกว่าต้นไม้อื่นๆ ในทุ่ง
    กิ่งของมันโต ก้านก็ยาว
เพราะได้น้ำจำนวนมหาศาล
    หล่อเลี้ยงจากรากของมัน
นกทั้งหลายในอากาศทำรังตามกิ่งไม้
    สัตว์ป่าทั้งปวงในทุ่งออกลูก
    ที่ใต้กิ่งก้านของต้น
และประชาชาติที่ยิ่งใหญ่ทั้งปวง
    อาศัยอยู่ใต้ร่มเงาไม้
ต้นไม้ต้นนี้โอฬารและงามตระการยิ่งนัก
    กิ่งก้านก็ยาว
เพราะรากของมันหยั่งลงลึก
    ถึงแหล่งน้ำ
ต้นซีดาร์ต้นอื่นๆ ในสวนของพระเจ้าไม่อาจเทียบกับต้นซีดาร์ต้นนี้ได้
    ต้นสนอื่นๆ จะเทียบเท่ากับกิ่งของมันไม่ได้
    ต้นเพลนก็เทียบกับกิ่งของมันไม่ได้เช่นกัน
ไม่มีต้นไม้ใดในสวนของพระเจ้า
    จะเทียบเท่ากับความงามของมันได้
เราทำให้มันงดงาม
    ด้วยกิ่งก้านมากมาย
และต้นไม้ทุกต้นในเอเดน
    ซึ่งเป็นสวนของพระเจ้า อิจฉาต้นนี้’”

10 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “เพราะมันสูงตระหง่าน ยอดของมันสูงเด่นระดับเมฆ และมีใจยโสในความสูงของมัน 11 เราจะให้มันอยู่ในมือของผู้มีอำนาจคนหนึ่งในบรรดาประชาชาติ เขาจะกระทำต่อมันตามความชั่วร้ายที่มันควรจะได้รับ เราได้สลัดมันทิ้งแล้ว 12 บรรดาชาวต่างชาติซึ่งโหดร้ายที่สุดในบรรดาประชาชาติได้โค่นต้นและปล่อยทิ้งมันไว้ ก้านของมันตกบนภูเขาและในหุบเขาทั้งหลาย กิ่งก้านของมันหักและตกในธารน้ำทุกสายของแผ่นดิน และบรรดาชนชาติทั้งปวงของแผ่นดินโลกได้ออกไปจากร่มเงาและปล่อยทิ้งมันไว้ 13 นกในอากาศทั้งปวงเกาะอาศัยอยู่บนต้นไม้ที่โค่นลง และสัตว์ป่าทั้งปวงในทุ่งเหยียบย่ำกิ่งก้านของมัน 14 ฉะนั้นต้นไม้ต้นอื่นๆ ใกล้แหล่งน้ำจะไม่มีวันสูงตระหง่านด้วยความยโส และยอดของมันจะไม่สูงเด่นระดับเมฆ และไม่มีต้นไม้ใดที่จะมีน้ำเลี้ยงมาก จนทำให้ต้นโตสูงเท่าได้ เพราะทุกต้นถูกกำหนดให้ตาย ให้ลงไปสู่โลกเบื้องล่าง อยู่ในท่ามกลางบรรดาบุตรมนุษย์ อยู่กับบรรดาผู้ลงไปในหลุมลึกแห่งแดนคนตาย”

15 พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “ในวันที่มันโค่นลงสู่แดนคนตาย เราทำให้ห้วงน้ำลึกร้องคร่ำครวญ เรารั้งกระแสน้ำ มวลน้ำจำนวนมหาศาลถูกยับยั้งไว้ เราให้เลบานอนห่มด้วยความมืดมน และต้นไม้ทุกต้นในทุ่งนาเหี่ยวเฉาก็เพราะมัน 16 เราทำให้บรรดาประชาชาติสั่นหวั่นไหวเมื่อได้ยินเสียงโค่นลง เมื่อเราเหวี่ยงมันลงสู่แดนคนตายพร้อมกับบรรดาผู้ที่ลงในหลุมลึกแห่งแดนคนตาย และต้นไม้ทุกต้นในเอเดน ต้นไม้งามและดีที่สุดของเลบานอน ทุกต้นที่ได้น้ำเลี้ยงได้รับการปลอบประโลมในโลกเบื้องล่าง 17 ต้นไม้เหล่านั้นซึ่งเคยอาศัยอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ คือฝ่ายพันธมิตรในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ก็ได้ลงไปสู่แดนคนตายด้วยกับต้นไม้ใหญ่ ไปรวมกับบรรดาผู้ถูกดาบสังหาร

18 ต้นไม้ต้นใดในหมู่ไม้ของเอเดนบ้างที่จะเปรียบเทียบได้กับเจ้าในความรุ่งโรจน์และความยิ่งใหญ่ แต่เจ้าด้วยที่จะถูกทำให้ต่ำลงด้วยกันกับต้นไม้ทั้งหลายของเอเดนที่โลกเบื้องล่าง เจ้าจะนอนในท่ามกลางพวกที่ไม่ได้เข้าสุหนัต กับพวกที่ถูกดาบสังหาร

นี่แหละคือฟาโรห์และประชาชนของเขา” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น

สดุดี 79

อธิษฐานให้ประชาชาติรอดพ้น

เพลงสดุดีของอาสาฟ

โอ พระเจ้า บรรดาประชาชาติได้เข้ามายังแผ่นดินที่พระองค์ให้พวกเรารับเป็นมรดก
    พวกเขาทำให้พระวิหารอันบริสุทธิ์ของพระองค์เป็นมลทิน
    และทำให้เยรูซาเล็มพังพินาศไปแล้ว
พวกเขาให้ร่างของบรรดาผู้รับใช้พระองค์
    เป็นอาหารแก่นกในอากาศ
    และให้เนื้อหนังของเหล่าผู้ภักดีของพระองค์แก่สัตว์ป่าบนแผ่นดินโลก
พวกเขาได้เทโลหิตของคนเหล่านั้นดั่งสายน้ำ
    ไหลไปรอบๆ เยรูซาเล็ม
    และไม่มีใครฝังศพเขาเลย
พวกเรากลายเป็นผู้ถูกเหยียดหยามในหมู่เพื่อนบ้านเรา
    พวกเขาล้อเลียนและหัวเราะเยาะรายรอบข้างเรา

นานเพียงไร โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะโกรธไปเป็นนิตย์หรือ
    ความหวงแหนของพระองค์จะลุกไหม้เหมือนไฟหรือ
กระหน่ำความโกรธของพระองค์ลงบนบรรดาประชาชาติที่ไม่รู้จักพระองค์
    บนอาณาจักรต่างๆ ที่ไม่ร้องเรียกพระนามของพระองค์
เพราะพวกเขาได้กลืนกินพงศ์พันธุ์ของยาโคบ
    และทำให้บ้านเมืองเป็นที่รกร้าง

อย่าคำนึงถึงบาปของบรรพบุรุษของเรา
    โปรดสงสารพวกเราในเวลานี้โดยไม่รอช้า
    เพราะเราหมดกำลังใจแล้ว
โอ พระเจ้าแห่งความรอดพ้นของเรา ช่วยพวกเราด้วย
    เพื่อเกียรติแห่งพระนามของพระองค์
ช่วยเราให้รอดพ้นและยกโทษบาปแก่พวกเรา
    เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์เถิด
10 ทำไมบรรดาประชาชาติจึงเอ่ยว่า
    “พระเจ้าของพวกเขาอยู่ที่ไหน”

ให้พวกเราเห็นการแก้แค้นของพระองค์ และเป็นที่ทราบกันในบรรดาประชาชาติ
    เพื่อโลหิตของบรรดาผู้รับใช้พระองค์
11 โปรดฟังเสียงคร่ำครวญของพวกนักโทษ
    และด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ โปรดปล่อยพวกที่จะต้องตายให้เป็นอิสระ
12 ชำระคืนเป็น 7 เท่าตรงทรวงอกของเพื่อนบ้านเรา
    เพื่อตอบการเหยียดหยามที่พวกเขากระทำต่อพระผู้เป็นเจ้า
13 แล้วพวกเราคือชนชาติของพระองค์ ฝูงแกะที่ทุ่งหญ้าของพระองค์
    จะขอบคุณพระองค์ไปตลอดกาล
    พวกเราจะสรรเสริญพระองค์ทุกชั่วอายุคน

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation