M’Cheyne Bible Reading Plan
เฮเซคียาห์ฉลองเทศกาลปลดปล่อย
30 เฮเซคียาห์ส่งข่าวสารไปถึงชาวอิสราเอล และชาวยูดาห์ทั้งหมด และยังเขียนจดหมายไปถึงชาวเอฟราอิม[a]และชาวมนัสเสห์ โดยเชิญพวกเขาให้มาที่วิหารของพระยาห์เวห์ในเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันปลดปล่อย ให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล 2 กษัตริย์กับพวกเจ้าหน้าที่ของเขา และคนในที่ชุมนุมทั้งหมดในเมืองเยรูซาเล็มตัดสินใจที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยในเดือนที่สอง 3 พวกเขาไม่สามารถเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยในเวลาปกติได้ เพราะมีนักบวชที่ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์แล้วไม่เพียงพอ และประชาชนก็ไม่ได้มาชุมนุมกันในเมืองเยรูซาเล็ม 4 ทั้งกษัตริย์และคนในที่ชุมนุมต่างเห็นดีด้วยกับแผนการณ์นี้ 5 พวกเขาลงมติให้ประกาศไปทั่วอิสราเอล ตั้งแต่เมืองเบเออร์เชบาไปจนถึงเมืองดาน เพื่อเรียกประชาชนให้มาที่เมืองเยรูซาเล็ม เพื่อมาเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยให้กับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล มีประชาชนไม่กี่คนที่เคยเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยนี้มาก่อน ตามอย่างที่กฎได้สั่งไว้ 6 กษัตริย์สั่งให้คนส่งข่าวเดินทางไปทั่วทั้งแผ่นดินอิสราเอลและยูดาห์ พร้อมกับจดหมายของกษัตริย์และพวกเจ้าหน้าที่ของเขา จดหมายนี้มีข้อความว่า
“ประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหลาย กลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอลเถิด พระองค์จะหันกลับมาหาพวกท่านที่ยังเหลืออยู่ และหลบหนีจากพวกกษัตริย์อัสซีเรีย 7 อย่าเป็นเหมือนบรรพบุรุษและพวกพี่น้องของพวกท่านที่ไม่ยอมซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา พระองค์จึงได้ทำให้พวกเขากลายเป็นสิ่งน่าสยดสยอง อย่างที่พวกท่านเห็นแล้วนั้น 8 อย่าดื้อดึงเหมือนกับที่บรรพบุรุษของพวกท่านเป็น ให้ยอมฟังพระยาห์เวห์ และมาถึงยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ตลอดไป ให้รับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน เพื่อว่าความโกรธอันดุเดือดของพระองค์ จะได้หันเหออกไปจากพวกท่าน 9 ถ้าพวกท่านกลับมาหาพระยาห์เวห์แล้ว คนที่จับพวกพี่น้องและลูกๆของพวกท่านไปจะเกิดความสงสารพวกเขา และพวกพี่น้องเหล่านั้นจะได้กลับมาสู่แผ่นดินแห่งนี้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านนั้นมีความเมตตากรุณา พระองค์จะไม่หันหน้าไปจากพวกท่าน ถ้าพวกท่านกลับมาหาพระองค์”
10 พวกคนส่งข่าวได้ออกจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งในเอฟราอิมและมนัสเสห์ ไปจนถึงเศบูลุน แต่ประชาชนกลับดูถูกและเยาะเย้ยพวกเขา 11 อย่างไรก็ตาม คนบางกลุ่มในเผ่าของอาเชอร์ มนัสเสห์และเศบูลุน ก็ถ่อมตัวพวกเขาลง และเดินทางไปที่เมืองเยรูซาเล็ม 12 ส่วนในยูดาห์ มือของพระเจ้าก็ได้มาอยู่บนประชาชน เพื่อทำให้พวกเขาเป็นใจเดียวกัน ที่จะทำสิ่งที่กษัตริย์และพวกเจ้าหน้าที่ได้สั่งไว้นั้นตามคำพูดของพระยาห์เวห์
13 ฝูงชนกลุ่มใหญ่มากมาชุมนุมกันในเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ ในเดือนที่สอง 14 พวกเขารื้อแท่นบูชาทั้งหลาย รวมทั้งแท่นเผาเครื่องหอมของพวกพระปลอมในเมืองเยรูซาเล็มออกไปทิ้งในหุบเขาขิดโรน 15 พวกเขาฆ่าลูกแกะตัวผู้สำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยในวันที่สิบสี่ของเดือนที่สอง พวกนักบวชและชาวเลวีต่างก็รู้สึกละอายใจ พวกเขาจึงชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ และนำเครื่องเผาบูชามาที่วิหารของพระยาห์เวห์ 16 แล้วพวกเขาก็ไปทำหน้าที่ตามปกติที่ได้กำหนดไว้ในกฏของโมเสสคนของพระเจ้า พวกนักบวชได้ประพรมเลือดที่ชาวเลวีนำมาให้ 17 เพราะมีคนอีกหลายคนในฝูงชนนี้ที่ยังไม่ได้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ ชาวเลวีจึงต้องฆ่าลูกแกะตัวผู้ของเทศกาลปลดปล่อยสำหรับพวกที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีชำระล้าง และไม่สามารถถวายลูกแกะตัวผู้ให้กับพระยาห์เวห์ได้
18 ถึงแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่มาจากเผ่าเอฟราอิม มนัสเสห์ อิสสาคาร์และเศบูลุน ยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ แต่พวกเขาก็เข้าร่วมกินในเทศกาลปลดปล่อยด้วย ซึ่งขัดกับกฎที่เขียนไว้ แต่เฮเซคียาห์ได้อธิษฐานอ้อนวอนให้กับพวกเขาว่า “ขอพระยาห์เวห์ผู้ทรงดี โปรดอภัยให้กับทุกๆคน 19 ที่ตั้งจิตตั้งใจแสวงหาพระเจ้า คือพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา ถึงแม้พวกเขาจะยังไม่บริสุทธิ์ตามกฎทั้งหลายของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ตาม” 20 และพระยาห์เวห์ก็ได้ยินเฮเซคียาห์และให้อภัยกับประชาชนพวกนั้น 21 ชาวอิสราเอลที่มาชุมนุมกันในเมืองเยรูซาเล็มเฉลิมฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ เป็นเวลาเจ็ดวันด้วยความรื่นเริงยินดี ในขณะที่ชาวเลวีและพวกนักบวชร้องเพลงให้กับพระยาห์เวห์ทุกๆวัน คลอไปกับการเล่นเครื่องดนตรีเพื่อสรรเสริญพระองค์ 22 เฮเซคียาห์พูดให้กำลังใจกับชาวเลวีทั้งหมด ผู้ที่มีความเข้าใจเป็นอย่างดีในงานรับใช้พระยาห์เวห์ เพราะในช่วงเจ็ดวันนั้น พวกเขาได้กินจากส่วนแบ่งที่เป็นของพวกเขา และได้ถวายเครื่องสังสรรค์บูชา และได้สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา
23 แล้วคนในที่ชุมนุมทั้งหมด ต่างก็เห็นด้วยที่จะฉลองงานเทศกาลต่อไปอีกเจ็ดวัน ดังนั้น พวกเขาจึงฉลองกันต่ออีกเจ็ดวันอย่างสนุกสนาน 24 กษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ ได้จัดหาวัวตัวผู้หนึ่งพันตัว และแกะกับแพะเจ็ดพันตัวมาให้กับคนในที่ชุมนุม และพวกเจ้าหน้าที่ก็ได้จัดหาวัวตัวผู้หนึ่งพันตัว และแกะกับแพะหนึ่งหมื่นตัวมาให้เหมือนกัน มีพวกนักบวชหลายคนได้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์แล้ว 25 คนในที่ชุมนุมทั้งหมดของยูดาห์ พร้อมทั้งพวกนักบวชและชาวเลวีและคนทั้งหมดที่มาชุมนุมกันจากทั่วทั้งอิสราเอล รวมทั้งพวกชาวต่างชาติที่มาจากอิสราเอลและพวกที่ได้อาศัยอยู่ในยูดาห์ ต่างก็พากันชื่นชมยินดี 26 พวกเขาสนุกสนานกันอย่างมากในเมืองเยรูซาเล็ม เพราะตั้งแต่ยุคของซาโลมอนลูกชายของกษัตริย์ดาวิดแห่งอิสราเอลเป็นต้นมา ยังไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนในเมืองเยรูซาเล็ม 27 พวกนักบวชกับชาวเลวียืนให้พรประชาชน และพระเจ้าก็ได้ยินพวกเขา เพราะคำอธิษฐานของพวกเขาไปถึงสวรรค์ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่พระองค์อาศัยอยู่
ขันเจ็ดใบที่เต็มไปด้วยความโกรธของพระเจ้า
16 แล้วผมก็ได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากวิหารพูดกับพวกทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดองค์ว่า “ไปเทขันทั้งเจ็ดที่ใส่ความโกรธของพระเจ้านั้นลงบนแผ่นดินโลก”
2 ทูตสวรรค์องค์แรกจึงออกไปเทขันของตนลงบนแผ่นดินโลก ทำให้คนที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้ายและกราบไหว้รูปปั้นของมันเป็นแผลพุพองปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว
3 ทูตสวรรค์องค์ที่สองเทขันของตนลงในทะเล ทำให้ทะเลกลายเป็นเลือดเหมือนเลือดของคนตาย สิ่งมีชีวิตในทะเลจึงตายหมด
4 ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันของตนลงในแม่น้ำและแหล่งน้ำพุทั้งหลาย แล้วน้ำพวกนั้นก็กลายเป็นเลือด
5 ผมได้ยินทูตสวรรค์ที่ดูแลน้ำพวกนั้น พูดว่า
“พระองค์เป็นพระเจ้า ผู้ดำรงอยู่ในปัจจุบัน และในอดีต
พระองค์เป็นผู้บริสุทธิ์ พระองค์ทำถูกต้องแล้วที่ได้ตัดสินลงโทษอย่างนี้
6 เพราะพวกเขาได้ทำให้เลือดของคนของพระองค์
และพวกผู้พูดแทนพระเจ้าไหลออกมา สมควรแล้วที่พระองค์ได้ให้พวกเขาดื่มเลือด”
7 ผมได้ยินแท่นบูชาร้องว่า
“ถูกแล้ว องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
การตัดสินลงโทษของพระองค์ถูกต้องและยุติธรรมแล้ว”
8 จากนั้นทูตสวรรค์องค์ที่สี่ก็เทขันของตนลงที่ดวงอาทิตย์ ซึ่งทำให้ดวงอาทิตย์มีอำนาจที่จะเผาคนทั้งหลายด้วยไฟ 9 ความร้อนอันแรงกล้าได้แผดเผาคนทั้งหลาย และพวกเขาก็สาปแช่งพระนามของพระเจ้าผู้มีฤทธิ์อำนาจเหนือภัยพิบัติเหล่านี้ แต่พวกเขาก็ยังไม่กลับตัวกลับใจเลิกทำบาป และไม่ได้สรรเสริญพระเจ้า
10 ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเทขันของตนลงบนบัลลังก์ของสัตว์ร้าย และแผ่นดินของมันก็ตกอยู่ในความมืด คนพวกนั้นกัดลิ้นของตนเองเพราะความเจ็บปวด
11 พวกเขาสาปแช่งพระเจ้าแห่งสวรรค์ เพราะความเจ็บปวดจากแผลพุพองของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่ได้หันไปจากสิ่งผิดๆที่เขากำลังทำอยู่
12 ทูตสวรรค์องค์ที่หกเทขันของตนลงในแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส[a] ทำให้น้ำแห้งขอดไป เพื่อเตรียมทางสำหรับพวกกษัตริย์จากตะวันออก 13 ผมเห็นวิญญาณชั่วสามตัวที่ดูเหมือนกบ วิญญาณตัวหนึ่งออกมาจากปากพญานาค วิญญาณตัวหนึ่งออกมาจากปากสัตว์ร้าย และวิญญาณอีกตัวหนึ่งออกมาจากปากของคนที่ปลอมตัวเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า 14 วิญญาณชั่วพวกนั้นทำการอัศจรรย์ พวกมันออกไปหากษัตริย์ทั้งหมดที่อยู่ในโลก เพื่อรวบรวมกษัตริย์พวกนั้นไปร่วมทำสงครามในวันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
15 “ฟังให้ดี เราจะมาเหมือนกับขโมยอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด คนที่ตื่นตัวและเตรียมเสื้อผ้าของตัวเองไว้พร้อมที่จะใส่ เป็นคนมีเกียรติ เขาจะได้ไม่ต้องเดินแก้ผ้าและอับอายขายหน้าเมื่อคนอื่นเห็น”
16 แล้ววิญญาณชั่วทั้งสามนี้ ก็ได้ระดมพวกกษัตริย์ทั้งหลาย ให้มาชุมนุมกันในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ในภาษาฮีบรูเรียกว่า “อารมาเกดโดน”[b]
17 ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดเทขันของตนลงไปในอากาศ มีเสียงดังออกมาจากบัลลังก์ในวิหาร ว่า “สำเร็จแล้ว” 18 หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าแลบฟ้าร้อง เสียงดังกึกก้อง และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เป็นแผ่นดินไหวครั้งที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่มีมนุษย์อาศัยอยู่ในโลกนี้
19 เมืองใหญ่ถูกแยกออกเป็นสามส่วน เมืองต่างๆของชนชาติต่างๆได้ถูกทำลายลง พระเจ้าไม่ลืมลงโทษเมืองบาบิโลนที่ยิ่งใหญ่ พระองค์ให้เธอดื่มถ้วยที่ใส่เหล้าองุ่นแห่งความโกรธแค้นของพระองค์จนหมด 20 เกาะทุกเกาะหายไป และภูเขาก็ไม่เหลือให้เห็นอีกต่อไป 21 มีลูกเห็บก้อนใหญ่หล่นลงมาจากฟ้าใส่คนทั้งหลาย แต่ละก้อนหนักประมาณสี่สิบกิโลกรัม คนทั้งหลายพากันสาปแช่งพระเจ้า เพราะภัยพิบัติที่เกิดจากลูกเห็บนี้ร้ายแรงมาก
ชาวเยรูซาเล็มจะเฉลิมฉลองกัน
12 ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ที่เกี่ยวกับอิสราเอล พระยาห์เวห์ผู้ขึงแผ่นฟ้าและตั้งรกรากแผ่นดินโลก ผู้ที่สร้างวิญญาณที่อยู่ในมนุษย์ พระองค์พูดว่า 2 “เรากำลังจะทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นถ้วยเหล้าองุ่น ที่ทำให้ชนชาติต่างๆที่อยู่ล้อมรอบเมาโซเซ และความทุกข์ทรมานนี้จะตกกับยูดาห์ด้วย เมื่อเยรูซาเล็มถูกล้อมไว้ 3 ในวันนั้นเราจะทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นหินที่หนักอึ้งที่ไม่มีใครยกไหว ทุกคนที่พยายามจะยกมันจะบาดเจ็บสาหัส และทุกๆชนชาติในโลกนี้จะรวมตัวกันมาต่อต้านมัน”
4 พระยาห์เวห์พูดว่า “แต่ในวันนั้น เราจะทำให้ม้าทุกตัวตกใจกลัว เราจะทำให้ทหารที่ขี่ทุกคนบ้าคลั่ง แต่เราจะคอยเฝ้าดูคนยูดาห์ และเราจะทำให้ม้าทุกตัวของศัตรูตาบอดไป 5 พวกผู้นำตระกูลต่างๆของยูดาห์จะคิดในใจว่า ‘ที่พลเมืองของเยรูซาเล็มเข้มแข็ง ก็เพราะพวกเขามีพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น เป็นพระเจ้านั่นเอง’” 6 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นเราจะทำให้พวกผู้นำตระกูลต่างๆของยูดาห์เป็นเหมือนถาดใส่ถ่านร้อนแดง เป็นเหมือนคบเพลิงท่ามกลางมัดฟาง พวกผู้นำนั้นจะเผาผลาญชนชาติทั้งหลายที่อยู่รอบๆทั้งซ้ายขวา และคนเยรูซาเล็มจะอยู่อย่างปลอดภัยต่อไปในที่ของเขาคือในเมืองเยรูซาเล็ม”
7 พระยาห์เวห์จะให้ชัยชนะกับตระกูลของยูดาห์ก่อน เพื่อเกียรติยศของครอบครัวดาวิดและความรุ่งโรจน์ของชาวเยรูซาเล็ม จะไม่เกินหน้าเกินตาเผ่าของยูดาห์ไป 8 ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะเป็นโล่ให้กับชาวเยรูซาเล็ม คนที่อ่อนแอที่สุดของพวกเขาก็จะเข้มแข็งเท่าดาวิด และครอบครัวของดาวิดก็จะเป็นเหมือนพระเจ้า เป็นเหมือนทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ที่นำหน้าพวกเขา
9 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นเราจะทำลายทุกชนชาติที่มาต่อต้านเยรูซาเล็ม
ชาวเยรูซาเล็มจะไว้ทุกข์ให้กับผู้ที่ถูกแทง
10 เราจะเทวิญญาณแห่งความเมตตาสงสารและการวิงวอนลงบนครอบครัวของดาวิดและลงบนชาวเยรูซาเล็ม พวกเขาจะแสวงหาการอภัยโทษจากเราผู้ที่พวกเขาแทง และพวกเขาจะร้องไห้เสียใจให้กับเรา เหมือนกับร้องไห้ให้กับลูกโทนที่ตายไป และพวกเขาจะร้องอย่างขมขื่นเหมือนกับร้องให้กับลูกหัวปีที่ตายไป 11 ในวันนั้นจะมีการไว้ทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ในเยรูซาเล็มเหมือนกับการไว้ทุกข์ให้กับฮาดัดริมโมน[a]ในที่ราบเมกิดโด 12-14 แต่ละตระกูลในแผ่นดินยูดาห์ ต่างคนต่างก็แยกกันไว้ทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลดาวิด ตระกูลนาธัน ตระกูลเลวี หรือตระกูลซีเมโอน รวมทั้งตระกูลอื่นๆที่เหลือทั้งหมด พวกผู้ชายและพวกเมียๆของเขา ต่างคนต่างแยกกันไว้ทุกข์ ไม่รวมกัน”
13 ในวันนั้นจะมีตาน้ำเกิดขึ้นมาให้กับครอบครัวของดาวิดและชาวเยรูซาเล็ม เป็นน้ำพุสำหรับชำระล้างความบาปและความไม่บริสุทธิ์
พระเยซูคือเถาองุ่นที่แท้จริง
15 “เราเป็นเถาองุ่นที่แท้จริง และพระบิดาของเราเป็นผู้ดูแลสวน 2 พระองค์จะตัดกิ่ง[a] ของเราที่ไม่ออกลูกทิ้งไป และจะแต่งกิ่งที่ออกลูกให้สะอาดเพื่อให้ออกลูกมากขึ้น 3 พวกคุณก็สะอาดแล้วเพราะคำสั่งสอนของเรา 4 ให้ติดสนิทกับเราและเราก็จะติดสนิทกับคุณ กิ่งจะออกผลเองไม่ได้นอกจากจะติดสนิทกับเถาเท่านั้น คุณก็เหมือนกับกิ่ง คุณจะออกผลเองไม่ได้นอกจากจะติดสนิทกับเรา
5 เราเป็นเถาองุ่น พวกคุณเป็นกิ่ง ถ้าคุณติดสนิทกับเราและเราติดสนิทกับคุณ คุณจะออกลูกมาก ถ้าไม่มีเราคุณจะทำอะไรไม่ได้เลย 6 ถ้าใครไม่ได้ติดสนิทกับเรา เขาก็จะเหมือนกับกิ่งที่ถูกตัดทิ้งให้เหี่ยวแห้งตาย และถูกเก็บไปเผาไฟ
7 ถ้าพวกคุณติดสนิทกับเรา และคำสั่งสอนของเราติดสนิทกับคุณ ไม่ว่าคุณจะขออะไรมันก็จะเป็นอย่างนั้น 8 เมื่อคุณเกิดผลมาก แสดงว่าคุณเป็นศิษย์ของเรา และคุณได้ทำให้คนเห็นความยิ่งใหญ่ของพระบิดาของเรา 9 เรารักคุณเหมือนกับที่พระบิดารักเรา ขอให้ยึดมั่นอยู่กับความรักของเรา 10 ถ้าคุณทำตามที่เราสั่ง ก็แสดงว่าคุณยังยึดมั่นอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราทำตามคำสั่งของพระบิดา และยึดมั่นอยู่ในความรักของพระองค์ 11 เราบอกเรื่องพวกนี้กับคุณ เพื่อว่าคุณจะได้มีความสุขเหมือนกับที่เรามีและมีอย่างล้นเหลือ 12 คำสั่งของเราคือให้รักกันเหมือนกับที่เรารักคุณ 13 ไม่มีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว คือการที่คนๆหนึ่งจะยอมตายเพื่อเพื่อนของตน 14 พวกคุณก็เป็นเพื่อนของเราถ้าทำตามที่เราสั่ง 15 เราจะไม่เรียกพวกคุณว่า ‘ทาส’ อีกต่อไป เพราะทาสจะไม่รู้ว่านายของเขาทำอะไร แต่เราเรียกพวกคุณว่า ‘เพื่อน’ เพราะเราได้บอกให้คุณรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้ยินจากพระบิดาของเราแล้ว 16 พวกคุณไม่ได้เลือกเราหรอก แต่เราต่างหากที่เลือกคุณ และแต่งตั้งคุณให้ออกไปและเกิดผล เป็นผลที่ยั่งยืนตลอดไป แล้วพระบิดาจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณขอ เพราะคุณเป็นคนของเรา 17 คำสั่งของเราคือ ให้รักกันและกัน
พระเยซูเตือนพวกศิษย์
18 ถ้าโลกนี้เกลียดชังพวกคุณ ก็ให้จำไว้ว่าโลกนี้เกลียดชังเราก่อน 19 ถ้าพวกคุณเป็นของโลกนี้ โลกก็จะรักคุณเพราะคุณเป็นของมันเอง แต่เราได้เลือกคุณออกจากโลกนี้ คุณเลยไม่เป็นของโลกนี้อีกแล้ว โลกเลยเกลียดชังคุณ 20 จำได้ไหมที่เราเคยบอกว่า ‘ทาสไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่านาย’ ถ้าพวกเขาข่มเหงเรา เขาก็จะข่มเหงพวกคุณด้วย ถ้าพวกเขาทำตามคำสั่งสอนของเรา พวกเขาก็จะทำตามคำสั่งสอนของพวกคุณด้วย 21 พวกเขาข่มเหงคุณก็เพราะเรา เพราะเขาไม่รู้จักพระองค์ผู้ที่ส่งเรามา 22 ถ้าเราไม่ได้มาพูดกับพวกเขา พวกเขาก็คงจะไม่มีความผิดบาปอะไร แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับบาปของพวกเขาอีกต่อไป 23 คนที่เกลียดเราก็เกลียดพระบิดาของเราด้วย 24 เราได้ทำสิ่งอัศจรรย์ต่างๆที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในหมู่พวกเขา ถ้าเราไม่ได้ทำสิ่งอัศจรรย์เหล่านี้ พวกเขาก็คงจะไม่มีความผิดบาป แต่ตอนนี้ทั้งๆที่พวกเขาเห็นสิ่งอัศจรรย์ต่างๆที่เราทำไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงเกลียดเราและพระบิดาของเรา 25 แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามข้อพระคัมภีร์ที่เขียนไว้ว่า ‘พวกเขาเกลียดเราโดยไม่มีเหตุผล’[b]
26 เราจะส่งผู้ช่วยจากพระบิดามาให้คุณ พระองค์คือพระวิญญาณแห่งความจริง พระองค์จะประกาศเกี่ยวกับเรา 27 พวกคุณเองก็ต้องประกาศให้คนอื่นรู้เกี่ยวกับเราด้วย[c] เพราะพวกคุณได้อยู่กับเรามาตั้งแต่แรกแล้ว
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International