Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 ซามูเอล 6

ดาวิดย้ายหีบศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า

(1 พศด. 13:1-14; 15:26-16:3, 43)

ดาวิดได้เลือกทหารที่เก่งกาจของอิสราเอลมาทั้งหมดสามหมื่นคน ดาวิดและคนของเขาออกเดินทางไปที่เมืองบาอาลาห์ในยูดาห์[a] เพื่อไปนำหีบของพระเจ้ามาจากที่นั่น หีบนั้นเป็นของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ระหว่างทูตสวรรค์ที่มีปีกสององค์ พวกเขาตั้งหีบของพระเจ้าไว้บนเกวียนเล่มใหม่ และนำหีบนั้นไปจากบ้านของอาบีนาดับซึ่งอยู่บนเขา อุสซาห์และอาหิโยลูกชายของอาบีนาดับเป็นคนขับเกวียนเล่มใหม่นั้น

เกวียนนั้นบรรทุกหีบของพระเจ้าอยู่บนมัน และอาหิโยเดินนำหน้าเกวียนนั้น[b] ดาวิดและครอบครัวอิสราเอลทั้งหมดกำลังเฉลิมฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยงต่อหน้าพระยาห์เวห์ พวกเขาร้องเพลง เล่นพิณเล็ก พิณใหญ่ กลองรำมะนา เครื่องเขย่า และฉาบ[c] เมื่อพวกเขามาถึงลานนวดข้าวของนาโคน วัวที่ลากเกวียนนั้นเกิดสะดุดขึ้นมา อุสซาห์จึงยื่นมือออกจับหีบของพระเจ้าไว้ พระยาห์เวห์โกรธอุสซาห์ แล้วพระองค์ฟาดเขาตาย อุสซาห์ตายอยู่ที่นั้นต่อหน้าพระองค์ ดาวิดจึงโกรธพระเจ้า เพราะความโกรธของพระยาห์เวห์ได้ระเบิดใส่อุสซาห์ สถานที่แห่งนั้นจึงมีชื่อเรียกว่า เปเรศ-อุสซาห์[d] มาจนถึงทุกวันนี้

ในวันนั้น ดาวิดกลัวพระยาห์เวห์ เขาพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้ เราจะเอาหีบของพระยาห์เวห์มาถึงเราได้ยังไงกัน” 10 เขาจึงไม่ยอมที่จะนำหีบของพระยาห์เวห์มาอยู่กับเขาในเมืองของดาวิด เขาจึงนำหีบนั้นไปไว้ที่บ้านของโอเบด-เอโดมจากเมืองกัท 11 หีบของพระยาห์เวห์จึงอยู่ที่บ้านของโอเบด-เอโดมจากเมืองกัทเป็นเวลาสามเดือน และพระยาห์เวห์ได้อวยพรโอเบด-เอโดมกับครัวเรือนเขาทั้งหมด

12 ขณะนั้นมีคนไปบอกกษัตริย์ดาวิดว่า “พระยาห์เวห์ได้อวยพรครัวเรือนของโอเบด-เอโดมและทุกสิ่งที่เขามี เพราะหีบของพระเจ้าอยู่กับเขา” ดาวิดจึงได้ลงไปนำหีบของพระเจ้าขึ้นมาจากบ้านของโอเบด-เอโดม มาถึงเมืองของดาวิดด้วยความชื่นชมยินดี 13 เมื่อคนที่ทำหน้าที่หามหีบของพระยาห์เวห์เดินไปได้หกก้าว ดาวิดก็ถวายวัวตัวผู้หนึ่งตัวและลูกวัวอ้วนหนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชา 14 ดาวิดสวมถุงผ้าทับอกลินินเต้นรำอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์อย่างสุดเหวี่ยง

15 ดาวิดและครอบครัวอิสราเอลทั้งหมดได้นำหีบของพระยาห์เวห์ ขึ้นมาพร้อมกับโห่ร้องและเป่าแตรไปด้วย 16 ในขณะที่หีบของพระยาห์เวห์กำลังเข้าสู่เมืองของดาวิด มีคาลลูกสาวซาอูลมองลงมาจากหน้าต่าง เมื่อนางเห็นกษัตริย์ดาวิดกระโดดโลดเต้นและเต้นรำต่อหน้าพระยาห์เวห์ นางนึกดูถูกเขาอยู่ในใจ

17 พวกเขาได้นำหีบของพระยาห์เวห์มาตั้งไว้ในที่เฉพาะของมันในเต็นท์ที่ดาวิดได้กางไว้ให้ และดาวิดได้เผาสัตว์ทั้งตัวถวายเป็นเครื่องบูชาและถวายเครื่องสังสรรค์บูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์

18 หลังจากที่เขาถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสังสรรค์บูชาเสร็จ เขาได้อวยพรให้กับประชาชนในนามของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น 19 แล้วเขาก็แจกขนมปังหนึ่งก้อน เค้กอินทผลัมและเค้กลูกเกดให้กับแต่ละคนในฝูงชนชาวอิสราเอลทั้งหมด ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แล้วประชาชนทั้งหมดก็กลับบ้านของพวกเขา

20 เมื่อดาวิดกลับบ้านเพื่อมาอวยพรคนในครัวเรือนของเขา มีคาลลูกสาวซาอูลออกมาพบเขาและพูดว่า “วันนี้กษัตริย์ของอิสราเอลช่างทำตัวได้โดดเด่นเสียจริง ถอดเสื้อผ้าท่ามกลางสายตาของพวกทาสหญิงรับใช้[e] ของเขา เหมือนคนชั้นต่ำทำกัน”

21 ดาวิดพูดกับมีคาลว่า “เราทำต่อหน้าพระยาห์เวห์ผู้ที่เลือกเรา แทนที่จะเลือกพ่อของเจ้า หรือคนหนึ่งคนใดในบ้านของเขา พระยาห์เวห์เป็นผู้แต่งตั้งเราขึ้นปกครองเหนืออิสราเอลประชาชนของพระองค์ ดังนั้นเราจะเต้นรำและเฉลิมฉลองอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ 22 เราจะทำสิ่งที่น่าอับอายขายหน้ายิ่งกว่านี้อีก เจ้าอาจจะไม่เคารพเรา แต่พวกทาสหญิงที่เจ้าพูดถึงนั้น จะยังคงให้เกียรติเราอยู่”

23 แล้วมีคาลลูกสาวซาอูลก็ไม่มีลูกจนกระทั่งนางตาย

1 โครินธ์ 16

เรี่ยไรเพื่อช่วยคนของพระเจ้า

16 ทีนี้จะพูดถึงเรื่องการเรี่ยไรเงินสำหรับคนที่เป็นของพระเจ้า ผมขอสั่งให้คุณทำแบบเดียวกับที่ผมได้สั่งหมู่ประชุมต่างๆของพระเจ้าในแคว้นกาลาเทียคือ ทุกๆวันอาทิตย์ ให้แต่ละคนแบ่งเงินตามที่พระเจ้าอวยพรให้ แล้วเก็บรวบรวมไว้ที่บ้าน พอผมมาจะได้ไม่ต้องมีการเรี่ยไรกันอีก เมื่อผมมาถึง ผมก็จะส่งคนที่พวกคุณเลือกไว้พร้อมกับจดหมายแนะนำตัว และเงินที่พวกคุณได้บริจาคไปที่เมืองเยรูซาเล็ม ถ้าเห็นว่าผมน่าจะไปด้วย พวกนั้นก็จะไปพร้อมกับผม

แผนของเปาโล

เมื่อผมผ่านแคว้นมาซิโดเนีย ผมจะมาหาพวกคุณ เพราะผมตั้งใจที่จะผ่านมาทางนั้นอยู่แล้ว แต่ผมอาจจะพักอยู่กับพวกคุณสักระยะหนึ่ง หรือไม่แน่ว่าอาจจะอยู่ตลอดฤดูหนาว เพื่อคุณจะได้ช่วยสนับสนุนให้ผมเดินทางต่อไม่ว่าผมจะไปไหนก็ตาม ผมไม่อยากจะแวะเยี่ยมคุณแค่ครู่เดียว แล้วก็ไป เพราะผมกะจะอยู่กับพวกคุณให้นานหน่อย ถ้าองค์เจ้าชีวิตอนุญาตให้เป็นอย่างนั้น ตอนนี้ผมจะอยู่ที่เมืองเอเฟซัสไปก่อนจนกว่าจะถึงเทศกาลเพ็นเทคอสต์ เพราะโอกาสเปิดกว้างให้ผมทำงานที่นี่อย่างได้ผล และผมอยากจะตอบข้อกล่าวหาของคนมากมายที่ต่อต้านเรา

10 ทิโมธีมาถึงเมื่อไรก็อย่าทำให้เขาต้องรู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่กับพวกคุณ เพราะเขาทำงานขององค์เจ้าชีวิตเหมือนกับผม 11 อย่าให้ใครดูถูกเขาได้ ช่วยส่งเขาเดินทางกลับมาหาผมด้วย เพราะผมกับพี่น้องคนอื่นๆกำลังคอยเขาอยู่

12 ผมได้คะยั้นคะยอ อปอลโลพี่น้องของเราอย่างเต็มที่ ให้เขาร่วมเดินทางมากับพี่น้องพวกนั้นเพื่อมาเยี่ยมคุณ แต่ตอนนี้เขายังไม่อยากมา รอให้มีโอกาสเหมาะๆก่อนแล้วเขาจะมา

เปาโลลงท้ายจดหมาย

13 ระวังตัวให้ดี จงยืนหยัดมั่นคงในคำสอนที่คุณได้ไว้วางใจแล้ว มีใจกล้าเหมือนผู้ใหญ่ และเข้มแข็งไว้ 14 ให้ทำทุกอย่างด้วยความรัก

15 พวกคุณก็รู้ว่าครอบครัวของสเทฟานัส เป็นครอบครัวแรกที่เป็นคริสเตียนในแคว้นอาคายา และพวกเขาได้ทุ่มเทรับใช้คนที่เป็นของพระเจ้า พี่น้องครับ ผมขอร้องล่ะ 16 ขอให้ยินยอมคนอย่างนี้ รวมทั้งผู้ร่วมงานทุกคนและคนที่ทำงานอย่างตรากตรำด้วย

17 ผมดีใจที่สเทฟานัสและฟอร์ทูนาทัส และอาคายคัสมาหา พวกเขาทำให้ผมไม่รู้สึกว่าขาดพวกคุณไป 18 เขาทำให้ผมสดชื่นขึ้นเหมือนกับที่เคยทำให้กับพวกคุณ ให้เกียรติกับคนแบบนี้

19 หมู่ประชุมต่างๆของพระเจ้าในแคว้นเอเชียฝากความคิดถึงมา อาควิลลา ปริสคาและหมู่ประชุมของพระเจ้าที่ประชุมกันในบ้านของพวกเขา ก็ฝากความคิดถึงมาให้พวกคุณเป็นพิเศษในองค์เจ้าชีวิต 20 พี่น้องทุกคนฝากความคิดถึงมาให้ เมื่อพวกคุณเจอกันก็ขอให้ทักทายกันด้วยจูบอันบริสุทธิ์

21 ผมเปาโลเขียนคำร่ำลานี้ด้วยมือของผมเอง

22 ถ้าใครไม่รักองค์เจ้าชีวิต ก็ขอให้คนนั้นถูกสาปแช่ง

มาเถอะ องค์เจ้าชีวิต[a]

23 ขอให้พระเยซูเจ้าให้ความเมตตากรุณากับพวกคุณด้วย

24 ผมขอฝากความรักมาให้กับพวกคุณทุกคนในพระเยซูคริสต์

เอเสเคียล 14

คนดีๆก็ไม่สามารถหยุดพระเจ้าจากการลงโทษเยรูซาเล็มได้

14 แล้วพวกผู้นำอาวุโสของอิสราเอลบางคนได้มาหาผม และมานั่งอยู่ต่อหน้าผม แล้วถ้อยคำของพระยาห์เวห์ก็มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ คนพวกนี้ยังมีรูปเคารพขี้ๆพวกนั้นอยู่ในใจ และพวกเขายังวางสิ่งที่ทำให้พวกเขาสะดุดไปทำบาปไว้ต่อหน้าพวกเขา อย่างนี้แล้ว เราควรจะยอมให้พวกมันเข้ามาขอคำปรึกษาจากเราอีกหรือ ดังนั้น ไม่ว่าอิสราเอลหน้าไหนก็ตามที่ยังหลงรักรูปเคารพขี้ๆพวกนั้นอยู่ในใจ และวางสิ่งนั้นที่ทำให้พวกเขาสะดุดไปทำบาปไว้ต่อหน้า แต่ยังมาขอคำปรึกษาจากผู้พูดแทนเราคนหนึ่ง เรา ยาห์เวห์ จะย้อนตอบเขาให้สาสม เพราะเขามีรูปเคารพมากมาย เราจะทำอย่างนี้กับครอบครัวของอิสราเอล เพื่อยึดครองใจของพวกเขา พวกรูปเคารพขี้ๆทั้งหมดของเขาได้แยกพวกเขาจากเรา ดังนั้นให้บอกกับครอบครัวอิสราเอลว่า

นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘ให้หันไปจากรูปเคารพขี้ๆทั้งหมดนั้น ให้เมินหน้าไปจากรูปเคารพที่น่าขยะแขยงพวกนั้นที่เราเกลียด และกลับมาหาเราเถอะ ถ้ามีชาวอิสราเอลหรือชาวต่างชาติคนใด ที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลได้แยกตัวเองไปจากเราและเอารูปเคารพขี้ๆเหล่านั้นไว้ในใจ หรือวางสิ่งที่ทำให้พวกเขาสะดุดไปทำบาป ไว้ต่อหน้าพวกเขา แล้วยังมาหาผู้พูดแทนเราคนหนึ่ง เพื่อขอคำปรึกษาจากเรา เราเองจะตอบพวกมัน เราจะหันหน้าต่อต้านคนนั้น และทำให้เขาเป็นตัวอย่างแห่งความล้มเหลวและตกเป็นขี้ปากของชาวบ้าน เราจะตัดเขาออกจากประชาชนของเรา แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์

และถ้ามีผู้พูดแทนเราบางคนโง่ถึงขนาดไปให้คำตอบกับคนอย่างนั้น เรายาห์เวห์ ก็จะแสดงให้ผู้พูดแทนเราคนนั้นเห็นว่า ตัวเขาเองนั้นโง่ขนาดไหน[a] เราจะยื่นมือของเราออกมาทำลายเขาไปจากคนอิสราเอลของเรา

10 ดังนั้น ผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้น ก็จะต้องรับโทษอย่างเดียวกับคนชั่วพวกนั้นที่มาขอคำปรึกษาจากเราผ่านทางเขา

11 เราจะลงโทษพวกผู้พูดแทนพระเจ้าเหล่านั้น เพื่อคนอิสราเอลจะได้ไม่หลงไปจากเราอีกแล้ว และจะได้ไม่แปดเปื้อนไปกับการกบฏของพวกเขาอีก แล้วพวกเขาจะเป็นคนของเราและเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

12 หลังจากนั้นถ้อยคำของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 13 “เจ้าลูกมนุษย์ สมมุติว่ามีประเทศหนึ่งที่ทำบาปต่อเรา โดยไม่จงรักภักดีต่อเรา และเราได้ลงโทษมัน ด้วยการตัดเสบียงอาหาร และส่งความอดอยากมา และฆ่าทั้งคนและสัตว์ของมัน 14 ถึงแม้ โนอาห์[b] ดาเนียล[c] และโยบ[d] จะอยู่ท่ามกลางพวกเขา สามคนนี้ก็จะช่วยกู้ได้แต่ชีวิตของตัวเองเท่านั้น เพราะพวกนี้ทำตามใจเรา” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดไว้ว่าอย่างนั้น

15 “หรือเราอาจจะส่งสัตว์ป่าที่ดุร้ายเข้าไปฆ่าคนในแผ่นดินนั้นจนหมด ทำให้แผ่นดินนั้นกลายเป็นที่รกร้างที่ไม่มีใครกล้าผ่านไป เพราะสัตว์ร้ายเหล่านั้น 16 เรา ยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต จะบอกว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า แม้ถ้า โนอาห์ ดาเนียล และโยบ จะอาศัยอยู่ที่นั่น พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยใครได้เลย แม้แต่ลูกชายลูกสาวของพวกเขาเอง มีแต่ตัวพวกเขาเองเท่านั้นที่จะรอด และแผ่นดินนั้นจะกลายเป็นที่รกร้าง

17 หรือเราอาจจะนำดาบเข้ามาทำลายแผ่นดินนั้นก็ได้ กองทัพของศัตรูจะบุกเข้ามาฆ่าทั้งคนและสัตว์ในแผ่นดินนั้น 18 เรา ยาห์เวห์ ผู้เป็นองค์เจ้าชีวิตจะบอกว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า ถึงโนอาห์ ดาเนียล และโยบ จะอาศัยอยู่ที่นั่น พวกเขาก็จะไม่สามารถช่วยใครให้รอดได้ แม้แต่ลูกชายและลูกสาวของพวกเขาเอง มีแต่ตัวพวกเขาเองเท่านั้นที่จะรอด

19 หรือเราอาจจะส่งโรคระบาดเข้าไปในแผ่นดินนั้นก็ได้ เราจะทำให้แผ่นดินนั้นได้รู้สึกถึงความโกรธของเราเต็มๆ เราจะฆ่าทั้งคนและสัตว์ 20 เรา ยาห์เวห์ ผู้เป็นองค์เจ้าชีวิต บอกว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า ถึงโนอาห์ ดาเนียล และโยบจะอาศัยอยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาก็จะไม่สามารถช่วยใครได้เลย แม้แต่ลูกชายและลูกสาวของตัวเอง พวกเขาจะช่วยได้แต่ชีวิตของตัวพวกเขาเองเท่านั้น เพราะพวกเขาทำตามใจเรา”

21 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า

“มันจะยิ่งแน่กว่านั้นอีกในกรณีของเยรูซาเล็มนี้ ว่าจะไม่มีใครสามารถช่วยได้ เมื่อเราส่งการลงโทษอันโหดร้ายสี่อย่างนี้มา คือ ดาบ ความอดอยาก สัตว์ป่าที่ดุร้าย และโรคระบาด ให้เกิดกับพวกเขา เพื่อกำจัดทั้งคนและสัตว์ในแผ่นดินนี้ 22 แต่ไม่น่าเชื่อ จะยังมีบางคนรอดชีวิต แล้วพวกเขาจะพาลูกชายลูกสาวหนีออกมา พวกเขาจะออกมาหาเจ้า แล้วเมื่อเจ้าสังเกตดูชีวิตของพวกเขาและสิ่งชั่วๆที่พวกเขาทำ เจ้าจะได้รู้สึกดีขึ้น เกี่ยวกับความหายนะที่เราทำให้เกิดขึ้นในเยรูซาเล็ม และเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ที่เรานำมาสู่พวกเขา

23 เมื่อเจ้าเห็นว่าพวกเขาใช้ชีวิตยังไง และเห็นความชั่วร้ายต่างๆที่พวกเขาทำ เจ้าจะได้รู้สึกดีขึ้น และจะได้รู้ว่าเรามีเหตุผลที่ได้ทำสิ่งทั้งหมดนั้นกับพวกเขา” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

สดุดี 55

โดนเพื่อนหักหลัง

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ใช้เครื่องดนตรีประกอบเพลง บทกวีมัสคิลของดาวิด

ข้าแต่พระเจ้า โปรดเงี่ยหูฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
    โปรดอย่าเพิกเฉยต่อคำอธิษฐานขอความเมตตาของข้าพเจ้าเลย
โปรดรับฟังและตอบข้าพเจ้าด้วย
    เมื่อข้าพเจ้าเล่าถึงสิ่งที่ทำให้จิตใจข้าพเจ้าว้าวุ่น
ข้าพเจ้ากลัวมากเพราะศัตรูของข้าพเจ้าข่มขู่ข้าพเจ้าอยู่
    และคนชั่วกดขี่ข้าพเจ้า
เขาเอาเรื่องร้ายๆมาโยนใส่หัวข้าพเจ้า
    พวกเขาโกรธแค้นข้าพเจ้า

หัวใจของข้าพเจ้าเต้นแรงอยู่ภายใน
    ข้าพเจ้ากลัวจะต้องตาย
ข้าพเจ้ากลัวจนตัวสั่น
    กลัวจับใจ
และข้าพเจ้าคิดในใจว่า ถ้าข้าพเจ้ามีปีกอย่างนกเขา
    ข้าพเจ้าจะบินหนีไปสู่ที่ที่ปลอดภัย
ข้าพเจ้าจะบินไปไกลลิบ
    ถึงทะเลทรายและอาศัยอยู่ที่นั่น เซลาห์

ข้าพเจ้าจะหนีไปสู่ที่ที่ปลอดภัย
    ข้าพเจ้าจะหนีจากมรสุมร้ายในชีวิต
ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต ช่วยทำให้คำพูดและแผนของพวกเขาสับสนอลหม่านไป
    เพราะข้าพเจ้าเห็นความรุนแรงและการขัดแย้งกันในเมือง
10 ความรุนแรงและความขัดแย้งนั้นเป็นเหมือนยามเดินตรวจเวรอยู่บนกำแพงทั้งวันทั้งคืน
    ในขณะที่เมืองเต็มไปด้วยอาชญากรรมและการกระทำชั่วร้าย
11 มีแต่อาชญากรรมทั่วเมือง
    คนที่พูดโกหกและคดโกงไม่เคยขาดหายไปจากท้องถนน

12 ถ้าศัตรูดูถูกเหยียดหยามข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ทนได้
    ถ้าคนที่เกลียดข้าพเจ้ารังแกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ไปแอบซ่อนได้
13 แต่นี่เป็นเจ้า เพื่อนที่มีใจตรงกัน
    เพื่อนสนิทและเพื่อนรู้ใจ ที่กำลังโจมตีข้าพเจ้า
14 ในอดีต เราสนุกสนานกับการพูดคุยกันอย่างสนิทสนม
    และเดินด้วยกันท่ามกลางฝูงชนในวิหารของพระเจ้า
15 ข้าพเจ้าอยากให้พวกศัตรูของข้าพเจ้าตายอย่างไม่ทันรู้ตัว
    ข้าพเจ้าอยากให้แผ่นดินแยกออก และกลืนพวกเขาทั้งเป็น[a]
    เพราะสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายสิงสถิตอยู่ในใจของพวกเขา

16 ส่วนข้าพเจ้าจะร้องขอให้พระเจ้าช่วย
    และพระยาห์เวห์จะช่วยกู้ข้าพเจ้า
17 ข้าพเจ้าร้องทุกข์และคร่ำครวญทั้งเช้า เที่ยง เย็น
    และพระองค์ก็ได้ยินเสียงของข้าพเจ้า
18 พระองค์นำข้าพเจ้ากลับมาจากการรบอย่างปลอดภัย
    ถึงแม้มีข้าศึกมากมายต่อสู้กับข้าพเจ้า
19 พระเจ้าผู้ครอบครองเป็นกษัตริย์มาตั้งแต่โบราณกาลนั้น
    พระองค์จะฟังเสียงของข้าพเจ้าและพระองค์จะทำให้คนพวกนั้น อับอายขายหน้า เซลาห์
ศัตรูของข้าพเจ้าไม่ยอมเปลี่ยนวิถีทางของเขา
    และไม่ยำเกรงพระเจ้า

20 เพื่อนของข้าพเจ้าหักหลังข้าพเจ้า
    เขาไม่ได้รักษาคำพูดเลย
21 คำพูดของเขานุ่มเหมือนเนยแต่ใจของเขามีแต่สงคราม
    คำพูดของเขาลื่นเหมือนน้ำมัน แต่เชือดเฉือนเหมือนดาบ

22 มอบภาระของเจ้าไว้กับพระยาห์เวห์สิ แล้วพระองค์จะดูแลเจ้า
    พระองค์ไม่เคยปล่อยให้คนดีลื่นล้ม

23 ข้าแต่พระเจ้า ส่วนพระองค์นั้นพระองค์จะโยนพวกฆาตกรและพวกโกหกหลอกลวงทั้งหลายลงไปในหลุมศพให้เน่าเปื่อย
    ทั้งๆที่เขายังใช้ชีวิตไม่ถึงครึ่งหนึ่งเลย
    ส่วนข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าจะไว้วางใจในพระองค์

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International