Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
โยชูวา 6:6-27

โยชูวาลูกชายของนูนจึงได้เรียกพวกนักบวชมาสั่งว่า “ให้ยกหีบที่เก็บข้อตกลงขึ้น และให้นักบวชเจ็ดคนถือแตรเขาแกะคนละอัน นำหน้าหีบของพระยาห์เวห์ไป”

โยชูวาได้สั่งกับประชาชนว่า “ให้เคลื่อนขบวนไปข้างหน้าและเดินแถวไปรอบๆเมือง ให้ทหารที่ติดอาวุธเดินนำหน้าหีบแห่งพระยาห์เวห์”

ทุกอย่างเป็นไปตามที่โยชูวาได้สั่งกับประชาชนคือ นักบวชเจ็ดคนที่ถือแตรเขาแกะคนละอัน เดินนำหน้าหีบของพระยาห์เวห์ และเป่าแตรไป และหีบที่เก็บข้อตกลงของพระยาห์เวห์ได้เคลื่อนตามพวกเขาไป พวกทหารเดินนำหน้าพวกนักบวชที่กำลังเป่าแตรอยู่ และมีกองระวังหลังเดินรั้งท้ายหีบนั้น และเขาแกะก็เป่าต่อไปเรื่อยๆ 10 โยชูวาได้สั่งประชาชนว่า “อย่าได้โห่ร้อง หรือให้ใครได้ยินเสียงของท่าน และอย่าให้คำพูดหลุดออกมาจากปากท่าน จนกว่าจะถึงวันที่เราจะบอกให้พวกท่านโห่ร้อง เมื่อนั้นพวกท่านถึงค่อยโห่ร้องออกมา”

11 ดังนั้น โยชูวาให้นำหีบของพระยาห์เวห์ออกไปวนรอบเมืองหนึ่งรอบ แล้วพวกเขาก็กลับเข้ามาในค่าย และค้างคืนอยู่ในค่ายนั้น

12 โยชูวาตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ และพวกนักบวชก็ยกหีบของพระยาห์เวห์ขึ้นแบก 13 นักบวชเจ็ดคนที่ถือแตรเขาแกะคนละอัน เดินนำหน้าหีบของพระยาห์เวห์ไป และเป่าแตรไปเรื่อยๆมีทหารเดินอยู่ข้างหน้าพวกเขา และมีกองระวังหลังเดินรั้งท้ายอยู่หลังหีบของพระยาห์เวห์ เขาแกะก็ถูกเป่าไปเรื่อยๆ 14 ในวันที่สองนั้น พวกเขาเดินรอบเมืองหนึ่งรอบ แล้วก็กลับเข้าค่าย พวกเขาทำอย่างนี้จนครบหกวัน

15 ในวันที่เจ็ด พวกเขาลุกขึ้นเมื่อท้องฟ้าเริ่มทอแสง และได้เดินขบวนไปรอบๆเมืองอย่างเคย แต่วันนี้เดินเจ็ดรอบ เฉพาะวันนี้วันเดียวพวกเขาเดินไปรอบเมืองเจ็ดรอบ 16 เมื่อถึงรอบที่เจ็ด พวกนักบวชก็เป่าแตรเขาแกะขึ้น โยชูวาได้พูดกับประชาชนว่า “โห่ร้องเถิด เพราะพระยาห์เวห์ได้ยกเมืองนี้ให้กับพวกท่านแล้ว 17 เมืองทั้งเมืองและทุกสิ่งทุกอย่างภายในเมืองนี้จะต้องถูกทำลายให้หมดสิ้นเพื่อเป็นของถวายแด่พระยาห์เวห์ เว้นแต่โสเภณีที่ชื่อราหับและคนทั้งหมดที่อยู่กับนางในบ้านของนางเท่านั้นที่จะรอดชีวิต เพราะนางได้ให้ที่หลบซ่อนแก่พวกผู้สอดแนมที่เราได้ส่งไป 18 อย่าไปแตะต้องสิ่งที่จะต้องทำลายเพื่อถวายให้กับพระยาห์เวห์นั้น เพื่อท่านจะได้ไม่เกิดความโลภ แล้วเก็บส่วนหนึ่งของสิ่งที่จะต้องทำลายให้หมดสิ้นนั้นกลับมา ซึ่งจะทำให้ค่ายของชาวอิสราเอลต้องถูกทำลายไป และพวกท่านก็จะเป็นต้นเหตุของความทุกข์ยากนั้น 19 แต่บรรดาเงิน ทอง และสิ่งของที่ทำจากทองสัมฤทธิ์และเหล็ก เป็นของศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ ให้นำพวกมันไปเก็บไว้ในคลังสมบัติของพระยาห์เวห์”

20 ดังนั้นประชาชนจึงโห่ร้อง และพวกนักบวชก็ได้เป่าแตรขึ้น ทันทีที่ประชาชนได้ยินเสียงแตร พวกเขาก็โห่ร้องเสียงดัง กำแพงก็พังทลายลง ทหารก็บุกตรงเข้าไปในเมืองและยึดเมืองไว้ได้ 21 พวกเขาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองด้วยคมดาบ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เด็กหรือแก่ รวมทั้งวัว แกะและลา

22 โยชูวาได้สั่งชายสองคนที่เขาเคยส่งเข้ามาสอดแนมว่า “ให้เข้าไปในบ้านของหญิงโสเภณีคนนั้น และนำตัวนางรวมทั้งคนอื่นๆที่อยู่กับนางออกมา ดังที่พวกท่านได้เคยสัญญาไว้กับนาง”

23 ดังนั้น ชายหนุ่มทั้งสองที่เคยเป็นผู้สอดแนมจึงได้เข้าไปในบ้านของราหับ และได้นำตัวราหับ พ่อแม่ พี่น้อง และทุกคนที่อยู่ที่นั่นกับนางออกมา พวกเขาได้พาญาติๆทั้งหมดของนางไปไว้ที่นอกค่ายของอิสราเอล

24 พวกเขาจึงได้จุดไฟเผาเมือง และทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนั้น ส่วนเงิน ทอง เครื่องใช้ที่ทำจากทองสัมฤทธิ์และเหล็ก พวกเขาได้นำมาไว้ในคลังสมบัติในบ้านของพระยาห์เวห์ 25 แต่โยชูวาได้ไว้ชีวิตราหับที่เป็นโสเภณีและครอบครัวทั้งหมดของนาง รวมทั้งทุกคนที่อยู่กับนาง และพวกลูกหลานของนาง[a] ก็ได้อาศัยอยู่ท่ามกลางชาวอิสราเอลมาจนถึงทุกวันนี้[b] เพราะนางได้ซ่อนตัวพวกคนส่งข่าวที่โยชูวาได้ส่งเข้าไปสอดแนมในเมืองเยริโค

26 แล้วโยชูวาได้สาบานไว้ว่า

“ขอให้ใครก็ตามที่พยายามสร้างเมืองเยริโคนี้ขึ้นมาใหม่
    ถูกสาปแช่งต่อหน้าพระยาห์เวห์
ถ้าเขาวางรากฐานของเมืองนี้
    ก็ขอให้ลูกชายคนแรกของเขาตาย
ถ้าเขาตั้งประตูเมืองขึ้น
    ก็ขอให้ลูกชายคนเล็กของเขาตาย”[c]

27 ดังนั้นพระยาห์เวห์ได้อยู่กับโยชูวา และชื่อเสียงของท่านก็ได้เลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน

สดุดี 135-136

พระยาห์เวห์ยิ่งใหญ่กว่าพระทั้งปวง

สรรเสริญพระยาห์เวห์
    สรรเสริญพระนามของพระยาห์เวห์เถิด
    สรรเสริญพระองค์ พวกผู้รับใช้ของพระองค์
ผู้ที่ยืนทำหน้าที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์
    และยืนอยู่ในบริเวณลานวิหารของพระเจ้าของเรา
สรรเสริญพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์นั้นดี
    ร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์เพราะเป็นเรื่องที่น่ายินดี
เพราะพระยาห์เวห์เลือกยาโคบมาเป็นของพระองค์โดยเฉพาะ
    เลือกอิสราเอลมาเป็นของรักของหวงของพระองค์

ข้าพเจ้ารู้ว่าพระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่
    องค์เจ้าชีวิตของพวกเรานั้นยิ่งใหญ่กว่าพระทั้งปวง
พระยาห์เวห์อยากจะทำอะไรพระองค์ก็ทำอย่างนั้น
    ไม่ว่าจะในสวรรค์หรือโลก
    ไม่ว่าจะในทะเลหรือที่ลึกของมหาสมุทร
พระองค์ทำให้เมฆลอยขึ้นมาจากสุดปลายโลก
    พระองค์ทำให้เกิดฟ้าแลบมาพร้อมกับฝน
    และพระองค์นำลมออกมาจากคลังของพระองค์

พระองค์ฆ่าลูกหัวปีของอียิปต์
    ทั้งของคนและของสัตว์
พระองค์ทำสิ่งน่าทึ่งต่างๆและการอัศจรรย์ทั้งหลายไปทั่วอียิปต์
    เพื่อต่อต้านฟาโรห์และข้าราชการทั้งหมดของเขา
10 พระองค์ยังปราบปรามชนชาติต่างๆ
    และฆ่าพวกกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร
11 เช่น สิโหน กษัตริย์ของคนอาโมไรต์
    โอก กษัตริย์ของบาชาน
    และอาณาจักรทั้งหลายในแผ่นดินคานาอัน
12 แล้วพระองค์มอบแผ่นดินของกษัตริย์เหล่านั้น
    ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของอิสราเอลคนของพระองค์

13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ชื่อเสียงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป
    ผู้คนจะจดจำชื่อของพระองค์ไปทุกยุคทุกสมัย
14 พระยาห์เวห์จะให้ความเป็นธรรมกับคนของพระองค์
    และมีความเมตตาต่อพวกผู้รับใช้ของพระองค์

15 รูปเคารพของชนชาติต่างๆ
    เป็นแค่เงินและทองที่มือมนุษย์สร้างขึ้น
16 มีปากแต่พูดไม่ได้
    มีตาแต่มองไม่เห็น
17 มีหูแต่ไม่ได้ยิน
    และไม่มีลมหายใจในปากของพวกมัน
18 คนที่สร้างรูปเคารพเหล่านั้นและทุกคนที่ไว้วางใจในรูปเคารพเหล่านั้น
    ก็จะเป็นเหมือนกับพวกมัน

19 ชาวอิสราเอลทั้งหลาย สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
    ครอบครัวของอาโรน สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
20 ครอบครัวของเลวี
    สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
    ผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ทั้งหลาย สรรเสริญพระองค์เถิด
21 ให้พระยาห์เวห์ผู้ที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม
    ได้รับคำสรรเสริญจากศิโยน

สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด

ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป

ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์นั้นดี
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
ให้ขอบคุณพระเจ้าผู้อยู่เหนือพระเจ้าทั้งปวง
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
ให้ขอบคุณองค์เจ้าชีวิตผู้อยู่เหนือเจ้าทั้งปวง
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
ให้ขอบคุณพระองค์ผู้ที่ทำสิ่งมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่แต่เพียงผู้เดียว
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป

ให้ขอบคุณพระองค์ผู้สร้างฟ้าสวรรค์อย่างชาญฉลาด
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
ให้ขอบคุณพระองค์ผู้แผ่ขยายแผ่นดินออกไปเหนือผืนน้ำ
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
ให้ขอบคุณพระองค์ผู้สร้างดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
พระองค์สร้างดวงอาทิตย์เพื่อให้ปกครองกลางวัน
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
พระองค์สร้างดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลายเพื่อให้ปกครองกลางคืน
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป

10 ให้ขอบคุณพระองค์ผู้ฆ่าพวกลูกชายหัวปีของอียิปต์
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
11 พระองค์ได้นำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์นั้น
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
12 พระองค์ทำเรื่องนี้ด้วยมืออันทรงพลังและแขนที่เหยียดออกมา
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
13 ให้ขอบคุณพระองค์ผู้ที่แยกทะเลแดงออกเป็นสองส่วน
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
14 พระองค์นำอิสราเอลเดินผ่าไปกลางทะเลแดง
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
15 พระองค์เหวี่ยงฟาโรห์และกองทัพของเขาทิ้งไปในทะเลแดง
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
16 ให้ขอบคุณพระองค์ผู้นำคนของพระองค์ตอนอยู่ในทะเลทราย
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
17 ให้ขอบคุณพระองค์ผู้ปราบกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
18 พระองค์ฆ่าพวกกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
19 พระองค์ฆ่า สิโหน กษัตริย์ของคนอาโมไรต์
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
20 และได้ฆ่าโอก กษัตริย์ของบาชาน
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
21 จากนั้น พระองค์ได้ยกแผ่นดินของกษัตริย์เหล่านั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอิสราเอล
    เพราะความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
22 พระองค์ยกแผ่นดินของพวกเขาให้กับอิสราเอล ผู้รับใช้ของพระองค์
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป

23 ให้ขอบคุณพระองค์ที่ระลึกถึงเราตอนที่เราตกอยู่ในความเดือดร้อน
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
24 พระองค์ช่วยเหลือพวกเราให้รอดพ้นจากเหล่าศัตรูของเรา
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
25 พระองค์ให้อาหารกับสิ่งที่มีชีวิตทั้งปวง
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป

26 ให้ขอบคุณพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์
    ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป

อิสยาห์ 66

พระองค์ประณามการนมัสการที่ผิด

66 พระยาห์เวห์พูดว่า “ฟ้าสวรรค์เป็นบัลลังก์ของเราและโลกนี้เป็นที่วางเท้าของเรา
    แล้วอย่างนี้ พวกเจ้าจะสร้างบ้านแบบไหนให้กับเรา
    แล้วอย่างนี้ พวกเจ้าจะสร้างที่พักผ่อนแบบไหนให้กับเรา
มือของเราเองได้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
    และสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดเป็นของเรา”
    พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้
“แต่นี่ต่างหากที่เราให้ความสนใจ
    คือคนที่ถ่อมสุภาพ คนที่สำนึกผิดในใจ
    คนที่สั่นกลัวเมื่อได้ยินคำพูดทั้งหลายของเรา
บางคนฆ่าวัวตัวผู้ถวายเราก็จริง แต่ก็ยังไปฆ่ามนุษย์ด้วย
    บางคนถวายลูกแกะให้กับเรา แต่ก็หักคอหมาเอาไปถวายพระอื่นด้วย[a]
บางคนถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช แต่ก็ถวายเลือดของหมูให้กับรูปเคารพด้วย
    บางคนเผาเครื่องหอมถวายเรา แต่ก็ไปสรรเสริญรูปเคารพด้วย
คนพวกนี้เลือกทำตามวิถีทางของเขาเอง
    พวกเขาก็ชอบทำในสิ่งที่น่าขยะแขยงพวกนั้น
อย่างนั้น เราก็จะเลือกการลงโทษอย่างหนักให้กับพวกเขา
    เราจะเอาสิ่งที่พวกเขากลัวมาให้กับพวกเขา
เพราะเมื่อเราเรียก ก็ไม่มีใครตอบ
    เราพูด แต่ไม่มีใครฟัง
พวกเขาก็ทำในสิ่งที่เราเห็นว่าชั่วช้า
    พวกเขาเลือกทำในสิ่งที่เราไม่พอใจ”
พวกเจ้าที่สั่นกลัวเมื่อได้ยินคำพูดของพระองค์นั้น
    ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี
“พี่น้องของเจ้าที่เกลียดเจ้าและไม่ยอมรับเจ้า
เพราะเจ้าจงรักภักดีต่อเรา ได้พูดว่า
    ‘ให้พระยาห์เวห์แสดงความยิ่งใหญ่ด้วยการช่วยพวกแกสิเพื่อเราจะได้เห็นพวกแกชื่นชมยินดี’”
แต่พวกมันจะต้องอับอายขายหน้า

พระยาห์เวห์จะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเมืองเยรูซาเล็มในเร็วๆนี้

ฟังซิ เสียงดังมาจากในเมือง
    เสียงดังมาจากวิหาร
มันเป็นเสียงของพระยาห์เวห์ที่กำลังตอบแทนพวกศัตรูของพระองค์ตามที่พวกมันสมควรจะได้รับ
ศิโยนยังไม่ทันจะปวดท้องคลอดเลย เธอก็ได้คลอดออกมาแล้ว
    ก่อนที่เธอจะเจ็บปวดเสียอีก เธอก็ได้คลอดลูกชายออกมาแล้ว
ใครเคยได้ยินเรื่องอย่างนี้มาก่อนบ้าง
    ใครเคยเห็นเรื่องอย่างนี้มาก่อนบ้าง
มีประเทศไหนบ้างที่เกิดขึ้นได้ภายในวันเดียว
    มีชนชาติไหนบ้างที่คลอดออกมาได้ในชั่วพริบตาเดียว
    พอศิโยนปวดท้องคลอดปุ๊บ เธอก็คลอดลูกๆออกมาปั๊บ
พระยาห์เวห์ถามว่า “เราที่เป็นคนเปิดช่องคลอด จะไม่ให้เด็กคลอดออกมาหรือ”
    พระเจ้าของเจ้าถามว่า “เราที่เป็นคนทำคลอด จะไปยั้งไม่ให้ชนชาติของเราคลอดออกมาหรือ”
10 พวกเจ้าที่รักเยรูซาเล็ม ให้ชื่นชมยินดีกับเธอ และดีใจกับเธอ
    พวกเจ้าทุกคนที่เคยไว้ทุกข์ให้กับเยรูซาเล็มให้ร่วมเฉลิมฉลองกับเธอ
11 เพื่อเจ้าจะได้ดูดและอิ่มหนำในอ้อมอกอันปลอบประโลมของเธอ
    เพื่อเจ้าจะได้ดื่มและมีความสุขจากหัวนมที่มีน้ำนมอย่างเหลือเฟือของเธอ
12 เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดคือ
    “ดูสิ เราจะให้ความเจริญรุ่งเรืองไหลมาสู่เยรูซาเล็มเหมือนกับแม่น้ำ
ให้ความร่ำรวยของชนชาติต่างๆไหลมาสู่เธอเหมือนลำธารที่ไหลล้น
    พวกเจ้าจะได้ดูดนมของเธอและเธอจะแนบเจ้าไว้ที่เอว
    เธอจะเขย่าเจ้าขึ้นลงเบาๆบนเข่าของเธอ
13 เราก็จะปลอบโยนพวกเจ้าเหมือนกับที่แม่ๆปลอบโยนลูกๆของนาง
    เจ้าจะได้รับการปลอบโยนในเมืองเยรูซาเล็ม”
14 พวกเจ้าจะเห็นสิ่งเหล่านี้แล้วจิตใจจะร่าเริงยินดี
    และร่างกายจะฟื้นสภาพเหมือนหญ้าที่เพิ่งงอก[b]
พระยาห์เวห์จะทำให้พวกผู้รับใช้ของพระองค์สัมผัสกับพลังอำนาจของพระองค์
    แต่พวกศัตรูของพระองค์จะได้สัมผัสกับความโกรธของพระองค์
15 เพราะพระยาห์เวห์กำลังมาด้วยไฟ รถรบของพระองค์เป็นเหมือนลมพายุ พระองค์มาเพื่อลงโทษคนพวกนั้นด้วยความโกรธที่เดือดดาลของพระองค์
    และตะโกนบุกใส่พวกเขา และยิงลูกศรเพลิงใส่พวกเขา
16 เพราะพระยาห์เวห์จะตัดสินลงโทษด้วยไฟ
    จะตัดสินลงโทษมนุษย์ด้วยดาบของพระองค์
    จะมีคนมากมายที่ถูกพระยาห์เวห์ฆ่า

พระเจ้าจะตัดสินโทษศัตรูของพระองค์ที่เมืองเยรูซาเล็ม

17 “พวกคนที่อุทิศตัวและชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ เพื่อจะได้ไปหารูปเคารพหญิงนั้น ที่อยู่กลางสวนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ[c] พวกที่กินเนื้อหมู เนื้อหนู และสิ่งอื่นๆที่น่าขยะแขยง พวกเขาทุกคนจะจบสิ้นไปพร้อมๆกัน” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

18 “เรารู้จักการกระทำและความคิดทั้งหลายของคนพวกนี้ เรากำลังมาเพื่อรวบรวมคนทุกชนชาติทุกภาษา พวกเขาจะได้มาเห็นสง่าราศีของเรา 19 และเราจะทำสิ่งมหัศจรรย์ท่ามกลางพวกเขา เราจะส่งผู้รอดตายบางคนในพวกเขา ไปยังชนชาติต่างๆ ไปยังเมืองทารชิช ไปยังเมืองลิเบีย เมืองลูดผู้เก่งธนู เมืองทูบัล และเมืองยาวาน ไปยังแถบชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะที่อยู่ห่างไกล ที่ยังไม่เคยได้ยินเรื่องของเราและยังไม่เคยเห็นความยิ่งใหญ่ของเรา พวกที่เราส่งออกไปนี้ก็จะได้พูดถึงความยิ่งใหญ่ของเราท่ามกลางชนชาติเหล่านั้น 20 และพวกเขาก็จะนำพวกพี่น้องชาวอิสราเอลทั้งหมดของเจ้ากลับมาจากทั่วทุกชาติ เป็นของถวายให้กับพระยาห์เวห์ เหมือนตอนที่ชาวอิสราเอลนำเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชในภาชนะที่สะอาดมายังวิหารของพระยาห์เวห์ พวกเขาจะกลับมาบนม้า บนรถรบ บนเกวียน บนล่อ และบนอูฐ มายังภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเราคือ เยรูซาเล็ม” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น 21 “เราก็จะเอาพวกเขาบางคนมาเป็นพวกนักบวชและพวกเลวี” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

22 “แน่นอนลูกหลานของเจ้าและชื่อของเจ้าจะยืนอยู่ต่อหน้าเราตลอดไป
    เหมือนกับฟ้าสวรรค์ใหม่และโลกใหม่ที่เราจะสร้างขึ้นนั้น”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
23 “วันขึ้นพระจันทร์ใหม่ของทุกเดือน
    และวันหยุดทางศาสนาของทุกอาทิตย์มนุษย์ทุกคนจะมานมัสการเรา”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

24 “และพวกเขาจะออกไปเห็นซากศพทั้งหลายของคนที่กบฏต่อเรา พวกหนอนที่กินพวกมันจะไม่มีวันตาย ไฟที่เผาผลาญพวกมันอยู่ก็จะไม่มีวันดับและทุกคนที่เห็นศพเหล่านั้นจะสะอิดสะเอียน”

มัทธิว 14

เฮโรดได้ยินเรื่องของพระเยซู

(มก. 6:14-29; ลก. 9:7-9)

14 เมื่อกษัตริย์เฮโรด[a] ผู้ปกครองแคว้นกาลิลีได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซู ก็พูดกับที่ปรึกษาของเขาว่า “ต้องเป็นยอห์นคนที่ทำพิธีจุ่มน้ำ ฟื้นขึ้นจากความตายแน่ๆ เขาถึงทำการอัศจรรย์พวกนี้ได้”

ยอห์นคนทำพิธีจุ่มน้ำตายอย่างไร

ก่อนหน้านี้ เฮโรดได้จับยอห์นล่ามโซ่และขังคุกไว้ เพราะเห็นแก่นางเฮโรเดียสภรรยาของฟีลิปน้องชายของเฮโรดเอง เพราะยอห์นบอกเขาเสมอว่า “มันผิดที่ท่านเอาเฮโรเดียสมาเป็นภรรยา” เฮโรดจึงอยากจะฆ่ายอห์น แต่เขาก็กลัวประชาชน เพราะประชาชนถือว่ายอห์นเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า

ในงานวันเกิดของเฮโรด ลูกสาวของเฮโรเดียสได้ออกมาเต้นรำให้เฮโรดและแขกของเขาดู เธอทำให้เฮโรดถูกอกถูกใจมาก เฮโรดสาบานที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอขอ เธอขอเฮโรดตามที่แม่ของเธอบอกให้ขอ คือ “ดิฉันขอหัวของยอห์นคนทำพิธีจุ่มน้ำใส่ถาดมาให้ที่นี่ค่ะ” กษัตริย์เฮโรดเสียใจมาก แต่เพราะเขาได้สาบานไว้แล้วต่อหน้าแขกของเขา เฮโรดจึงสั่งให้ทำตามที่เธอต้องการ 10 เฮโรดใช้ให้คนไปตัดหัวยอห์นในคุก 11 แล้วเอาใส่ถาดมาให้เธอ แล้วเธอก็เอาไปให้แม่ของเธอ 12 พวกศิษย์ของยอห์นมาเอาร่างของยอห์นไปฝัง และไปเล่าเรื่องนี้ให้พระเยซูฟัง

พระเยซูเลี้ยงคนมากกว่าห้าพันคน

(มก. 6:30-44; ลก. 9:10-17; ยน. 6:1-14)

13 เมื่อพระเยซูได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับยอห์น พระองค์ได้ลงเรือไปยังที่เปลี่ยวเพียงคนเดียว เมื่อผู้คนจากหมู่บ้านต่างๆได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาก็เดินเท้าติดตามพระองค์ 14 เมื่อพระองค์มาถึงฝั่งก็เห็นฝูงชนเป็นจำนวนมากรออยู่ก่อนแล้ว พระองค์รู้สึกสงสารและได้รักษาโรคให้กับคนป่วย

15 เมื่อถึงตอนเย็น พวกศิษย์มาบอกพระเยซูว่า “ที่นี่ก็เปลี่ยวมากและนี่ก็เย็นมากแล้ว ส่งฝูงชนพวกนี้กลับไปเถอะ พวกเขาจะได้เข้าไปตามหมู่บ้านต่างๆหาซื้ออาหารกินกัน”

16 แต่พระเยซูตอบว่า “พวกเขาไม่ต้องไปไหนหรอก อยู่นี่แหละ พวกคุณไปหาอาหารมาเลี้ยงพวกเขาสิ”

17 พวกศิษย์ตอบว่า “พวกเราไม่มีอะไรเลยนอกจากขนมปังห้าก้อน กับปลาสองตัวเท่านั้น”

18 พระเยซูบอกว่า “เอามานี่สิ” 19 พระเยซูสั่งให้ฝูงชนนั่งลงบนหญ้า แล้วพระองค์หยิบขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวมา พระเยซูมองขึ้นไปบนสวรรค์ ขอบคุณพระเจ้าแล้วพระองค์แบ่งขนมปังให้กับพวกศิษย์ แล้วพวกศิษย์ก็แจกขนมปังให้ประชาชน 20 ทุกคนกินกันจนอิ่ม และพวกศิษย์ยังเก็บเศษอาหารที่เหลือได้จนเต็มสิบสองเข่ง 21 คนที่กินอาหารอยู่ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน ไม่นับผู้หญิงและเด็ก

พระเยซูเดินบนน้ำ

(มก. 6:45-52; ยน. 6:16-21)

22 ทันทีที่กินกันเสร็จแล้ว พระเยซูให้พวกศิษย์ลงเรือข้ามฟากไปก่อนล่วงหน้า ส่วนพระองค์รอส่งประชาชนอยู่ที่นั่น 23 เมื่อพระองค์ส่งประชาชนเสร็จแล้ว พระองค์ขึ้นไปบนภูเขาตามลำพังเพื่ออธิษฐาน เมื่อถึงตอนค่ำ พระองค์ก็ยังอยู่ที่นั่นคนเดียว 24 ส่วนเรือได้ออกไปไกลจากฝั่งมากแล้ว และถูกคลื่นซัดเพราะแล่นทวนลมอยู่

25 ช่วงตีสามถึงหกโมงเช้า พระเยซูเดินบนน้ำไปหาพวกเขา 26 เมื่อพวกศิษย์เห็นพระองค์เดินอยู่บนน้ำ ก็ตกใจกลัว ร้องกันเสียงหลงว่า “ผี”

27 พระองค์ก็รีบบอกกับพวกเขาว่า “อย่าตกใจ เราเอง ไม่ต้องกลัว”

28 เปโตรก็เลยพูดว่า “อาจารย์ ถ้าเป็นอาจารย์จริงๆเรียกให้ผมเดินบนน้ำไปหาหน่อยสิครับ”

29 พระเยซูจึงพูดว่า “มาสิ” เปโตรก็ออกมาจากเรือ เดินบนน้ำไปหาพระองค์ 30 แต่เมื่อเปโตรเห็นคลื่นลมพัดแรงก็กลัว และเริ่มจมลงไปในน้ำ เขาร้องตะโกนว่า “อาจารย์ ช่วยด้วย”

31 พระเยซูยื่นมือจับตัวเขาไว้ทันที แล้วพูดว่า “ความเชื่อน้อยจริงๆ จะไปสงสัยทำไม”

32 เมื่อเปโตรและพระเยซูขึ้นมาอยู่บนเรือแล้ว ลมก็สงบลง 33 พวกศิษย์ที่อยู่ในเรือต่างมากราบไหว้พระองค์ และพูดว่า “อาจารย์เป็นพระบุตรของพระเจ้าจริงๆ”

พระเยซูรักษาคนป่วยเป็นจำนวนมาก

(มก. 6:53-56)

34 เมื่อข้ามฟากมาถึงฝั่งเยนเนซาเรท 35 ประชาชนที่นั่นจำพระเยซูได้ ก็เลยส่งข่าวกันไปทั่วบริเวณที่อยู่ใกล้ๆนั้นว่าพระเยซูมา พวกเขาพาพวกคนป่วยทั้งหมดมาหาพระองค์ 36 พวกคนป่วยต่างอ้อนวอนขอแค่แตะพู่ที่ชายเสื้อคลุมของพระองค์ และทุกคนที่ได้แตะก็หายป่วยกันหมด

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International