M’Cheyne Bible Reading Plan
สนับสนุนนักบวชและชาวเลวี
18 นักบวชชาวเลวี เผ่าเลวีทั้งหมดจะไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินเหมือนกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆ ชาวเลวีจะกินจากพวกของขวัญที่นำมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ นั่นเป็นส่วนแบ่งของพวกเลวี[a] 2 แต่เผ่าเลวีจะไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินในหมู่พี่น้องของเขา พระยาห์เวห์คือส่วนแบ่งของพวกเขาตามที่พระองค์ได้สัญญากับเขาไว้
3 เมื่อท่านฆ่าวัวหรือแกะเพื่อเอามาเป็นเครื่องถวาย ท่านจะต้องแบ่งส่วนต่างๆพวกนี้ให้กับนักบวช คือส่วนไหล่ ส่วนแก้ม และส่วนท้อง 4 ท่านต้องให้ข้าวที่เกี่ยวชุดแรก เหล้าองุ่นใหม่และน้ำมัน รวมทั้งขนแกะที่ตัดครั้งแรกจากแกะของท่านกับนักบวช 5 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้เลือกชาวเลวีและลูกหลานของเขาออกมาจากเผ่าทั้งหลายของท่าน เพื่อมายืนรับใช้พระยาห์เวห์ในฐานะนักบวชตลอดไป
6 ถ้าชาวเลวีคนหนึ่งจากเมืองหนึ่งของท่านมา ไม่ว่าจะมาจากที่ไหนก็ตามในอิสราเอล และมายังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์ได้เลือกไว้ เขาอยากจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ 7 เขาก็มาทำหน้าที่รับใช้ในนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาได้ เหมือนกับที่พี่น้องชาวเลวีของเขายืนอยู่ที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์ 8 พวกเขาจะได้รับส่วนแบ่งอาหารเท่าๆกัน นอกเหนือจากสิ่งที่พวกเขาได้รับจากการขายทรัพย์สมบัติของครอบครัวเขา[b]
ชาวอิสราเอลต้องแตกต่าง
9 เมื่อท่านเข้ามาอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน ท่านต้องไม่เลียนแบบชนชาติพวกนั้นที่ทำแต่สิ่งชั่วๆ 10 อย่าเอาลูกชายและลูกสาวของท่านไปบูชายัญ อย่าให้ใครทำนายโชคชะตา โหราพยากรณ์ หรือหมอดูอนาคต อย่าให้ใครทำตัวเป็นพ่อมดหมอผี 11 หรือพยายามใช้เวทมนตร์สะกดคนอื่น และอย่าให้ใครปรึกษากับผีหรือวิญญาณ หรือพยายามพูดกับคนที่ตายไปแล้ว 12 คนที่ทำแบบนี้เป็นคนที่พระยาห์เวห์รังเกียจ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะขับไล่ชนชาติเหล่านี้ออกไปจากดินแดนนั้นต่อหน้าพวกท่าน เพราะพวกเขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจพวกนี้ 13 ท่านต้องซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอย่างครบถ้วน 14 เพราะชนชาติพวกนี้ที่ท่านกำลังจะขับไล่ออกไปนั้น ไปฟังพวกทำนายโชคชะตา และพวกโหราพยากรณ์ แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ยอมให้ท่านทำอย่างนั้น
ผู้พูดแทนพระเจ้าคนใหม่แทนโมเสส
15 แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะส่งผู้พูดแทนพระเจ้าเหมือนเรา มาจากท่ามกลางพวกท่าน จากท่ามกลางพี่น้องของท่าน พวกท่านต้องเชื่อฟังเขา 16 นี่คือสิ่งที่ท่านได้ขอจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่ภูเขาซีนายในวันที่ท่านได้ชุมนุมกัน ท่านพูดว่า ‘ขออย่าให้เราได้ยินเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราอีกเลย และขออย่าให้เราเห็นไฟที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้อีกเลย เพื่อว่าเราจะได้ไม่ตาย’
17 แล้วพระยาห์เวห์ได้พูดกับเราว่า ‘ข้อเสนอของพวกเขานั้นดี 18 เราจะส่งผู้พูดแทนพระเจ้าเหมือนกับเจ้า ที่มาจากพี่น้องของพวกเขาเองมาให้พวกเขา และเราจะบอกเขาว่าจะพูดอะไร และเขาจะบอกคนพวกนั้นทุกอย่างที่เราสั่งเขา 19 ใครที่ไม่เชื่อฟังคำของเราที่พูดผ่านมาทางเขานั้น เราจะเป็นคนลงโทษคนนั้นเอง’
ลักษณะผู้พูดแทนพระเจ้าปลอม
20 แต่ผู้พูดแทนพระเจ้าคนไหนที่บังอาจพูดในสิ่งที่เราไม่ได้สั่งให้เขาพูด แต่อ้างว่าเราพูด จะต้องตาย และผู้พูดแทนพระอื่นๆจะต้องตาย 21 ถ้าท่านนึกในใจว่า ‘แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ได้มาจากพระยาห์เวห์’ 22 เมื่อผู้พูดแทนพระเจ้านั้นอ้างว่าเขาพูดแทนพระยาห์เวห์ แต่สิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นและมันไม่เป็นจริง ท่านก็รู้เลยว่าผู้พูดแทนพระเจ้านั้นพูดมั่วๆเอาเอง พระยาห์เวห์ไม่ได้บอกให้เขาพูด ท่านไม่ต้องไปกลัวเขา
บุญคุณของพระยาห์เวห์ต่อชาวอิสราเอล
1 ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ ให้กระจายชื่อเสียงของพระองค์ออกไป
ให้บอกกับชนชาติทั้งหลายถึงสิ่งที่พระองค์ทำ
2 ร้องเพลงให้กับพระองค์ ร้องเพลงสรรเสริญให้กับพระองค์เถิด
ใคร่ครวญถึงสิ่งน่าทึ่งทั้งหมดที่พระองค์ได้ทำ
3 โอ้อวดถึงชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เถิด
ขอให้คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระยาห์เวห์มีความสุขเถิด
4 แสวงหาพระยาห์เวห์ และพละกำลังที่มาจากพระองค์เถิด
แสวงหาหน้าของพระองค์อยู่เสมอ
5-6 ลูกหลานของอับราฮัมผู้รับใช้ของพระเจ้าเอ๋ย
ลูกหลานของยาโคบพวกที่พระเจ้าเลือกเอ๋ย
ขอให้ท่านระลึกถึงเรื่องน่าทึ่งทั้งหลายที่พระเจ้าทำ
ระลึกถึงการอัศจรรย์ต่างๆและคำตัดสินทั้งหลายที่ออกมาจากปากของพระองค์
7 พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา
คำตัดสินทั้งหลายของพระองค์จะเป็นจริงอย่างนั้นในทุกหนแห่งทั่วโลก
8 พระองค์ไม่เคยลืมข้อตกลงของพระองค์
คือคำสัญญาที่พระองค์ทำไว้กับคนของพระองค์ตลอดไปเป็นพันรุ่น
9 พระองค์จะรักษาคำสัญญาที่ทำไว้กับอับราฮัม
และคำสาบานของพระองค์ที่ให้ไว้กับอิสอัค
10 พระองค์ทำให้มันเป็นกฎสำหรับยาโคบ
และเป็นข้อตกลงให้กับอิสราเอลตลอดไป
11 พระองค์พูดว่า “เราจะมอบดินแดนคานาอันให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าตลอดไป”
12 พระองค์ทำสิ่งนี้ตอนที่พวกเขายังมีกันอยู่ไม่กี่คน
และยังเป็นคนต่างด้าวแค่กระจุกเดียวในดินแดนนั้นอยู่เลย
13 พวกเขาเร่ร่อนพเนจรจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง
จากอาณาจักรหนึ่งไปยังอีกอาณาจักรหนึ่ง
14 แต่พระเจ้าไม่ยอมให้ใครข่มเหงพวกเขา
พระองค์เตือนพวกกษัตริย์ทั้งหลายว่า
15 “อย่าแตะต้องคนเหล่านั้นที่เราได้เลือกไว้[a]
อย่าได้ทำร้ายพวกผู้พูดแทนเรา”
16 พระองค์ทำให้เกิดการกันดารอาหารขึ้นในแผ่นดิน
พระองค์ตัดเสบียงทั้งหมดของพวกเขา
17 แล้วพระองค์ได้ส่งชายคนหนึ่งไปอียิปต์ก่อนคนอื่นๆ
นั่นคือ โยเซฟ ผู้ถูกขายไปเป็นทาส
18 คนพวกนั้นทำร้ายเขาด้วยการล่ามโซ่ไว้ที่ข้อเท้า
และใส่ปลอกเหล็กไว้ที่คอของเขา
19 จนกระทั่งสิ่งที่โยเซฟได้ทำนายไว้เป็นจริง
และพระคำของพระยาห์เวห์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาพูดถูก
20 แล้วกษัตริย์ก็มีคำสั่งให้ไปนำตัวโยเซฟมาและหักโซ่ตรวนของเขา
ผู้นำชนชาตินั้นก็ปล่อยเขาออกจากคุก
21 กษัตริย์แต่งตั้งโยเซฟให้เป็นผู้ดูแลวัง
และให้เป็นผู้ดูแลจัดการทรัพย์สมบัติของเขาทั้งหมด
22 กษัตริย์ให้อำนาจกับโยเซฟอย่างเต็มที่เหนือข้าราชการของเขา
โยเซฟสอนพวกที่ปรึกษาอาวุโสของกษัตริย์
23 หลังจากนั้น อิสราเอลก็เข้ามาอยู่ที่อียิปต์
ยาโคบอยู่อย่างคนต่างด้าวในดินแดนของฮาม[b]
24 พระองค์ทำให้คนของพระองค์ทวีคูณขึ้นอย่างมหาศาล
จนมีจำนวนมากกว่าศัตรูของเขา
25 พระยาห์เวห์เปลี่ยนใจของคนอียิปต์ให้หันมาเกลียดชังคนของพระองค์
และให้พวกเขาพากันวางแผนร้ายต่อพวกผู้รับใช้ของพระองค์
26 แล้วพระองค์ก็ส่งโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์
และอาโรนผู้ที่พระองค์ได้เลือก
27 พระองค์ให้สองคนนี้ทำการอัศจรรย์ต่างๆของพระองค์ให้ชนชาติของพระองค์เห็น
พวกเขาทำสิ่งที่น่าทึ่งต่างๆในดินแดนของฮาม
28 พระองค์ส่งความมืดทึบลงมา
แต่ชาวอียิปต์ก็ไม่ยอมฟังพระองค์
29 พระองค์ทำให้น้ำของพวกเขากลายเป็นเลือด
และฆ่าพวกปลาของพวกเขา
30 แผ่นดินของพวกเขามีฝูงกบเต็มไปหมด
ไม่เว้นแม้แต่พวกห้องส่วนตัวของกษัตริย์
31 เมื่อพระองค์ออกคำสั่ง
ฝูงเหลือบก็มา ฝูงริ้นก็รุกล้ำเข้ามาทั่วแผ่นดิน
32 พระองค์ทำให้ฝนของพวกเขากลายเป็นลูกเห็บ
และทำให้เกิดสายฟ้าแลบในแผ่นดินของเขา
33 พระองค์ทำลายไร่องุ่น และต้นมะเดื่อ
พระองค์ทำให้ต้นไม้แตกเป็นเสี่ยงๆไปทั่วเขตแดนของพวกเขา
34 เมื่อพระองค์ออกคำสั่ง พวกตั๊กแตนวัยบินและตั๊กแตนวัยกระโดด
ก็กรูกันเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน
35 พวกตั๊กแตนกินพืชผักทั้งหมดในแผ่นดินของพวกเขา
และกินพืชผลทั้งหลายจากดินเสียสิ้น
36 แล้วจากนั้น พระองค์ก็ฆ่าลูกชายหัวปีของพวกเขาทั้งหมดในแผ่นดินของพวกเขา
ลูกที่พิสูจน์ถึงความเป็นชายของพ่อ
37 พระองค์นำพวกอิสราเอลออกไปพร้อมกับเงินและทองไปด้วย
พระองค์ไม่ปล่อยให้มีใครสักคนในพวกเผ่าของพระองค์สะดุดล้ม
38 ชาวอียิปต์ต่างดีใจที่ชาวอิสราเอลออกไปได้
เพราะพวกเขารู้สึกกลัวพวกอิสราเอล
39 พระองค์กางก้อนเมฆของพระองค์ออกปกคลุมอยู่เหนือคนอิสราเอล
และยังให้เพลิงไฟไว้ส่องสว่างในตอนกลางคืน
40 เมื่ออิสราเอลร้องขออาหาร พระองค์ก็นำนกกระทามาให้
นอกจากนั้นพระองค์ก็ยังให้อาหารจากสวรรค์กับพวกเขากินจนอิ่มหนำ
41 พระองค์ตีก้อนหินแตกเป็นช่อง
น้ำก็ไหลพุ่งออกมาสู่แผ่นดินที่แห้งแล้งเหมือนกับแม่น้ำ
42 เพราะพระองค์ระลึกถึงคำสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ที่ให้ไว้กับอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
43 พระองค์นำชนชาติของพระองค์ออกจากอียิปต์อย่างมีความสุข
คนเหล่านี้ที่พระองค์เลือกมาโห่ร้องด้วยความยินดี
44 แล้วพระองค์ก็มอบแผ่นดินต่างๆของชนชาติอื่นๆให้กับพวกเขา
พวกเขาได้กรรมสิทธิ์ในไร่นาที่คนต่างชาติลงมือลงแรงทำไว้
45 ที่พระองค์ทำอย่างนี้ก็เพื่อพวกเขาจะได้เชื่อฟังกฎทั้งหลายของพระองค์
และรักษาคำสั่งสอนของพระองค์อย่างระมัดระวัง
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
พระยาห์เวห์เลือกไซรัสมาปลดปล่อยอิสราเอล
45 ไซรัส ผู้ที่เราได้เจิมไว้เป็นกษัตริย์
ผู้ที่เราได้จูงมือขวาของเขาไว้
เพื่อเขาจะมีชัยชนะเหนือชนชาติต่างๆ
และปลดอำนาจไปจากกษัตริย์ทั้งหลาย
เราได้เปิดประตูทั้งหลายต่อหน้าเขา
พวกประตูเมืองจะไม่ปิดไปจากเขา
เรายาห์เวห์ ได้พูดกับเขาว่า
2 “เราจะนำหน้าเจ้าไป
และทำให้ภูเขาทั้งหลายราบเป็นหน้ากลอง
เราจะพังทลายประตูเมืองที่ทำจากทองสัมฤทธิ์
และจะตัดกลอนประตูเหล็กให้ขาด
3 เราจะยกทรัพย์สมบัติที่แอบซ่อนไว้ในความมืด
และขุมทรัพย์ที่แอบซ่อนไว้ในที่ลับให้กับเจ้า
เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
พระเจ้าของอิสราเอลผู้ที่เรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า
4 เราทำเรื่องพวกนี้ เพื่อช่วยยาโคบผู้รับใช้ของเรา
ทำเพื่ออิสราเอล ผู้ที่เราเลือกมา
เราได้เรียกเจ้าตามชื่อของเจ้าและให้เจ้ามีตำแหน่งพ่วงท้าย
ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่รู้จักเราก็ตาม
5 เราคือยาห์เวห์ ไม่มีพระอื่นอีก
นอกจากเราแล้ว ก็ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
เราติดอาวุธให้เจ้า
ถึงแม้เจ้าจะไม่รู้จักเรา
6 เราทำอย่างนี้เพื่อว่าผู้คนจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก จะได้รู้ว่าไม่มีพระอื่นใดนอกจากเรา
เราคือยาห์เวห์ ไม่มีพระอื่นอีก
7 เราปั้นความสว่างและสร้างความมืด
เรานำความร่มเย็นเป็นสุขมาและสร้างความหายนะ
เรา ยาห์เวห์ ทำทุกสิ่งทุกอย่างนี้
8 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ให้ปล่อยฝนลงมาจากเบื้องบน
ให้พวกเมฆเทความยุติธรรมลงมา
ให้แผ่นดินเปิดออกเพื่อความรอดจะได้เติบโตขึ้นมา
เพื่อความยุติธรรมจะได้งอกขึ้นมา
เรา ยาห์เวห์ เป็นผู้สร้างเรื่องนี้ขึ้นมา
พระเจ้าควบคุมสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้น
9 เฮ้ย ไอ้พวกที่โต้เถียงกับผู้ที่สร้างเจ้ามา
เจ้าเป็นแค่หม้อหนึ่งในพวกหม้อดินทั้งหลาย
ดินเหนียวมีสิทธิ์ที่จะถามคนปั้นมันได้หรือว่า ‘เจ้ากำลังทำอะไรอยู่นี่’
หรือ ต่อว่าคนปั้นว่า ‘เจ้าไร้ฝีมือ’
10 เฮ้ย ไอ้คนที่เสือกไปถามคนที่กำลังจะเป็นพ่อว่า ‘มีลูกทำไม’
หรือพูดกับคนเป็นแม่ว่า ‘กำลังคลอดลูกทำไม’”
11 พระยาห์เวห์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลผู้สร้างเขามา พูดว่าอย่างนี้
“เจ้าจะมาเสือกถามเราเกี่ยวกับเรื่องลูกๆของเราหรือ
หรือจะมาสั่งเราเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้สร้างขึ้น
12 เราได้สร้างโลกนี้
และได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาบนโลก
เราได้กางท้องฟ้าออกด้วยมือของเราเอง
และเราได้ให้คำสั่งกับพวกดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลาย
13 เราได้ยั่วยุไซรัสให้ลงมือเพื่อให้สำเร็จตามจุดประสงค์ที่ดีของเรา
และเราจะทำทางต่างๆของเขาให้ราบเรียบ
เขาจะสร้างเมืองของเราขึ้นมาใหม่ เขาจะปลดปล่อยคนของเราที่ถูกจับไปเป็นเชลยโดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือสินบน”
พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดไว้ว่าอย่างนั้น
14 พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
“ความร่ำรวยของอียิปต์และกำไรของเอธิโอเปีย
และคนเสบา คนร่างสูงนั้น
ก็จะถูกนำมาให้เจ้า และกลายเป็นของเจ้า
พวกเขาจะติดตามเจ้า
เป็นเชลยถูกล่ามโซ่มาก้มกราบอยู่ต่อหน้าเจ้า
พวกเขาจะอ้อนวอนและพูดกับเจ้าว่า
‘พระเจ้าสถิตอยู่กับท่านแน่
ไม่มีพระอื่นใดอีกนอกจากพระองค์’”
15 ข้าแต่พระเจ้าของอิสราเอล พระผู้ช่วยให้รอด
พระองค์เป็นพระเจ้าที่ทำงานอย่างลับๆจริงๆ
16 พวกเขาทุกคนจะต้องได้รับความอับอายและขายหน้าไป
พวกที่ทำรูปเคารพจะได้รับความอัปยศอดสูไปด้วยกัน
17 แต่พระยาห์เวห์ ได้ช่วยให้อิสราเอลรอดเป็นชัยชนะที่อยู่ถาวรตลอดไป
พวกเจ้าจะไม่มีวันได้รับความอับอายหรือขายหน้าตลอดไปเป็นนิตย์
18 พระยาห์เวห์คือพระเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์
พระองค์ปั้นโลกนี้ขึ้นมา
พระองค์สร้างมันและตั้งมันให้มั่นคง
พระองค์ไม่ได้สร้างให้มันว่างเปล่า
พระองค์ปั้นมันขึ้นมาให้คนอยู่
พระองค์คือพระยาห์เวห์ที่พูดว่า
“เราคือยาห์เวห์ ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
19 เราไม่ได้พูดในที่ลี้ลับ
หรือพูดอยู่ในที่มืดมิด
เราไม่ได้บอกกับลูกหลานของยาโคบว่า
‘ให้ค้นหาเราในแผ่นดินที่ว่างเปล่า’
เรา คือยาห์เวห์ เราพูดความจริง
และประกาศในสิ่งที่ถูกต้อง”
พระยาห์เวห์พิสูจน์ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว
20 เจ้าที่หนีรอดมาจากชนชาติต่างๆรวบรวมกันเข้า
และมานี่ เข้ามาใกล้ๆกัน
คนพวกนั้นที่เดินแบกรูปเคารพต่างๆที่ทำจากไม้และอธิษฐานถึงพระที่ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้
คนพวกนี้ไม่มีความรู้
21 ให้พวกเขามาและยื่นคดีของเขา
ให้พวกเขาหารือกันในเรื่องพวกนี้
“ใครเป็นคนทำนายเรื่องนี้ให้เจ้ารู้เมื่อนานมาแล้ว
หรือใครเป็นคนบอกเรื่องนี้ให้เจ้ารู้ก่อนล่วงหน้า[a]นานแสนนานมาแล้ว
ก็ไม่ใช่เรา ยาห์เวห์ หรอกหรือ
ไม่มีพระเจ้าอื่นอีกแล้วนอกจากเรา
เราเป็นพระเจ้าที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา
22 ทุกคนที่อยู่สุดปลายโลก หันมาหาเราแล้วจะรอด
เพราะเราคือพระเจ้า ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
23 เราได้สาบานอ้างชื่อเราเอง
คำสัญญาที่ได้ออกจากปากของเรานั้นยุติธรรม
และเราจะไม่กลับคำพูด
ทุกหัวเข่าจะต้องกราบลงต่อหน้าเรา
และลิ้นทุกลิ้นจะสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเรา
24 พวกเขาจะพูดว่า ‘ชัยชนะและพละกำลังมาจากพระยาห์เวห์เท่านั้น’
ทุกคนที่โกรธแค้นพระองค์จะมาหาพระองค์และได้รับความอับอายขายหน้า
25 แต่ลูกหลานของอิสราเอลทุกคนจะได้รับชัยชนะจากพระยาห์เวห์
และพวกเขาก็จะสรรเสริญพระองค์”
ทูตสวรรค์เจ็ดองค์และภัยพิบัติเจ็ดอย่าง
15 หลังจากนั้นผมเห็นสัญญาณอันลึกลับในสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ คือมีทูตสวรรค์เจ็ดองค์ถือภัยพิบัติมาเจ็ดอย่าง อันเป็นภัยพิบัติครั้งสุดท้าย เพราะความโกรธของพระเจ้าจะสิ้นสุดลงเมื่อภัยพิบัติเหล่านี้สิ้นสุดลง
2 ผมเห็นสิ่งที่ดูเหมือนทะเลแก้วปนไฟ แล้วผมเห็นพวกคนที่ชนะสัตว์ร้าย ชนะรูปปั้นของมัน และชนะตัวเลขที่แทนชื่อของมัน คนพวกนี้ยืนอยู่บนทะเลแก้ว และถือพิณที่พระเจ้าได้ให้กับพวกเขาไว้ 3 พวกเขาร้องเพลงของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า และเพลงของลูกแกะ เขาร้องว่า
“องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
สิ่งที่พระองค์ทำนั้นยิ่งใหญ่และวิเศษยิ่งนัก
หนทางต่างๆของพระองค์นั้นถูกต้องและยุติธรรมยิ่งนัก
พระองค์เป็นกษัตริย์ของทุกชนชาติ
4 พระองค์เจ้าข้า ใครกันจะไม่เกรงกลัวพระองค์
ใครกันจะไม่ให้เกียรติกับชื่อของพระองค์
เพราะมีแต่พระองค์เท่านั้นที่บริสุทธิ์
ทุกชนชาติจะมาและกราบไหว้อยู่ต่อหน้าพระองค์
เพราะทุกๆคนได้เห็นการกระทำที่ยุติธรรมของพระองค์”
5 หลังจากนั้น ผมเห็นวิหารบนสวรรค์ ซึ่งเป็นเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์เปิดออก 6 พวกทูตสวรรค์เจ็ดองค์ที่ถือภัยพิบัติทั้งเจ็ดนั้นออกมาจากวิหาร พวกท่านแต่งกายด้วยผ้าลินินที่สะอาดเป็นประกาย และคาดสายสะพายสีทองไว้รอบอก 7 ต่อจากนั้นสิ่งมีชีวิตตนหนึ่งในสี่ตนนั้นมอบขันทองเจ็ดใบให้กับทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดองค์ ขันทองนั้นใส่ความโกรธของพระเจ้าผู้มีชีวิตตลอดไปเอาไว้ 8 วิหารเต็มไปด้วยควันจากรัศมีและฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า จึงไม่มีใครสามารถเข้าไปในวิหารนั้นได้ จนกว่าภัยพิบัติทั้งเจ็ดของทูตสวรรค์เจ็ดองค์นั้นจะสิ้นสุดลง
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International