Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศาวดาร 31

เฮเซคียาห์ทำลายรูปเคารพ

31 เมื่องานเฉลิมฉลองสิ้นสุดลง ชาวอิสราเอลที่อยู่ที่นั่นต่างก็ออกไปยังเมืองต่างๆของยูดาห์ แล้วพวกเขาก็ไปทุบรูปปั้นหินศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจนแตกละเอียด และไปโค่นพวกเสาของพระอาเชราห์ลง พวกเขาทำลายสถานที่นมัสการต่างๆและบรรดาแท่นบูชาที่มีอยู่ทั่วทั้งยูดาห์และเบนยามิน รวมทั้งในเอฟราอิมและในมนัสเสห์ด้วย หลังจากที่พวกเขาได้ทำลายพวกมันทิ้งจนหมดแล้ว ชาวอิสราเอลก็กลับไปยังบ้านเมืองของพวกเขา

เฮเซคียาห์แบ่งพวกนักบวชกับชาวเลวีออกเป็นกลุ่มๆตามหน้าที่ของพวกเขาในฐานะนักบวชและชาวเลวี เพื่อคอยถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสังสรรค์บูชา คอยทำพิธีเพื่อขอบคุณและร้องเพลงสรรเสริญอยู่ตามประตูของที่อยู่อาศัยของพระยาห์เวห์[a] กษัตริย์ได้ให้สัตว์ของกษัตริย์เอง สำหรับใช้เป็นเครื่องเผาบูชาในตอนเช้าและตอนเย็น และให้เป็นเครื่องเผาบูชาในวันหยุดทางศาสนาตามที่ได้เขียนไว้ในกฎของพระยาห์เวห์ เฮเซคียาห์สั่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มให้แบ่งผลผลิตและสิ่งของของพวกเขาให้กับพวกนักบวชและชาวเลวี เพื่อพวกนักบวชและชาวเลวีจะได้อุทิศตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อทำในสิ่งที่กฎของพระยาห์เวห์สั่งให้พวกเขาทำ ทันทีที่คำสั่งนี้ออกมา ชาวอิสราเอลก็ได้มอบพืชผลชุดแรก เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมันและน้ำเชื่อมผลไม้ และผลผลิตทั้งหมดจากทุ่งนาของพวกเขาให้กับพวกนักบวชและชาวเลวีอย่างมากมาย พวกเขาได้แบ่งของหนึ่งในสิบของทุกสิ่งทุกอย่างมา พวกคนอิสราเอลและยูดาห์ที่อาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆของยูดาห์ ได้นำหนึ่งในสิบของฝูงวัวและแพะแกะ รวมทั้งหนึ่งในสิบของผลผลิตของเขาให้เป็นของขวัญศักดิ์สิทธิ์ที่อุทิศให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา มาให้กับพวกนักบวชและชาวเลวีเป็นกองพะเนิน

ประชาชนเริ่มทำสิ่งนี้ในเดือนที่สามและสิ้นสุดในเดือนที่เจ็ด เมื่อเฮเซคียาห์กับพวกเจ้าหน้าที่ของเขามาเห็นกองของเหล่านี้ พวกเขาก็สรรเสริญพระยาห์เวห์ และอวยพรให้ประชาชนชาวอิสราเอล

เฮเซคียาห์ถามพวกนักบวชและชาวเลวีเกี่ยวกับกองของเหล่านี้ 10 อาซาริยาห์หัวหน้านักบวชจากครอบครัวของศาโดกตอบว่า “เป็นเพราะประชาชนเริ่มที่จะเอาของขวัญเหล่านี้มาให้ที่วิหารของพระยาห์เวห์ พวกเราจึงมีพอกินและมีเหลือให้กับคนอื่น เพราะพระยาห์เวห์ได้อวยพรให้กับประชาชนของพระองค์ จึงมีของเหล่านี้มากมายจนล้นเหลือ”

11 เฮเซคียาห์สั่งให้พวกนักบวชเตรียมห้องเก็บของไว้ให้พร้อมในวิหารของพระยาห์เวห์ และพวกเขาก็เตรียมห้องไว้เรียบร้อย 12 แล้วพวกนักบวชก็นำของขวัญเหล่านี้เข้าไปเก็บไว้อย่างซื่อสัตย์ ของพวกนี้เป็นส่วนแบ่งที่คนนำมาถวาย คือหนึ่งในสิบของผลผลิตของพวกเขา โคนานิยาห์ชาวเลวีทำหน้าที่ดูแลของเหล่านี้ และชิเมอีน้องชายของเขาอยู่ในตำแหน่งรองลงมา 13 โคนานิยาห์กับชิเมอีน้องชายของเขา เป็นผู้ควบคุมดูแลคนเหล่านี้ คือ เยฮีเอล อาซาซิยาห์ นาหัท อาสาเฮล เยรีโมท โยซาบาด เอลีเอล อิสมาคิยาห์ มาฮาทและเบไนยาห์ กษัตริย์เฮเซคียาห์และอาซาริยาห์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลวิหารของพระเจ้า เป็นผู้เลือกคนเหล่านี้ขึ้นมา 14 โคเรลูกชายของอิมนาห์ชาวเลวี เป็นผู้ดูแลประตูฝั่งตะวันออก เขาทำหน้าที่ดูแลเครื่องบูชาที่ผู้คนสมัครใจเอามาถวายพระยาห์เวห์เอง และเขาก็ยังรับผิดชอบในการแจกของที่คนเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์และของขวัญที่อุทิศให้กับพระองค์ 15 เอเดน มินยามิน เยชูอา เชไมอาห์ อามาริยาห์ เชคานิยาห์ เป็นผู้ช่วยของโคเร คนพวกนี้รับใช้อย่างสัตย์ซื่อในหัวเมืองต่างๆที่พวกนักบวชอาศัยอยู่ พวกเขาก็แจกของให้กับพี่น้องของเขาตามกลุ่มต่างๆของพวกเขา แจกให้กับทั้งคนหนุ่มและคนแก่เท่ากัน 16 ผู้ชายเหล่านี้ยังแจกของที่เก็บมานี้ให้กับผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่สามปีขึ้นไป ที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อตระกูลต่างๆของเลวี คือทุกคนที่เข้าไปในวิหารของพระยาห์เวห์ เพื่อทำเวรตามหน้าที่ประจำวัน ที่ได้รับมอบหมายและตามกลุ่มเวรของพวกเขา 17 นักบวชก็ได้รับส่วนแบ่งของเขาจากของที่คนเอามาถวายพระยาห์เวห์ ตามครอบครัวที่ได้ลงทะเบียนไว้ตามรายชื่อตระกูลต่างๆของเลวี คนเลวีที่มีอายุยี่สิบปีขึ้นไปก็จะได้รับส่วนแบ่งของเขาตามกลุ่มและความรับผิดชอบ 18 ลูกเล็กๆของเลวี เมีย และลูกชายลูกสาวของเขา ก็จะได้รับส่วนแบ่งด้วย เลวีทุกคนที่มีรายชื่ออยู่ในประวัติครอบครัวเลวีก็จะได้รับส่วนแบ่งนี้ เพราะพวกเขาสัตย์ซื่อที่จะรักษาตัวเองให้บริสุทธิ์ และพร้อมที่จะรับใช้ 19 ลูกหลานของอาโรนบางคน คือพวกนักบวช มีไร่นาอยู่ใกล้เมืองต่างๆที่พวกเลวีอาศัยอยู่ และลูกหลานของอาโรนบางคนก็อาศัยอยู่ในเมือง แต่ละเมืองเหล่านี้ก็จะมีการเลือกชื่อพวกผู้ชายขึ้นมา เพื่อแบ่งของที่เก็บรวบรวมมานี้ให้กับลูกหลานของอาโรน และแบ่งให้กับพวกผู้ชายและคนที่มีรายชื่อในประวัติครอบครัวของเลวี

20 อย่างนี้ กษัตริย์เฮเซคียาห์ก็ทำสิ่งที่ดีเหล่านั้นในยูดาห์ เขาได้ทำสิ่งที่ดี ถูกต้องและสัตย์ซื่อต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเขา 21 งานทุกอย่างที่เขาเริ่มก็สำเร็จด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับใช้ในวิหารของพระเจ้า และการเชื่อฟังกฎและคำสั่งต่างๆและการติดตามพระเจ้าของเขา เฮเซคียาห์ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดด้วยสิ้นสุดใจของเขา

วิวรณ์ 17

ผู้หญิงที่อยู่บนหลังสัตว์ร้าย

17 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งจากเจ็ดองค์ที่ถือขันเจ็ดใบนั้น เข้ามาพูดกับผมว่า “มานี่สิ มาดูการลงโทษที่กำลังจะเกิดขึ้นกับหญิงโสเภณีที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้ที่นั่งอยู่บนแม่น้ำหลายสาย พวกกษัตริย์ทั่วแผ่นดินโลกได้ทำผิดบาปทางเพศกับเธอ และพวกคนชั่วที่อยู่บนโลกก็ได้ดื่มเหล้าองุ่นของเธอจนเมามาย และทำผิดบาปทางเพศกับเธอ”

จากนั้นพระวิญญาณก็ครอบงำผมไว้ ทูตสวรรค์องค์นั้นนำผมไปที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ที่นั่นผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนสัตว์ร้ายสีแดงตัวนั้น ทั้งตัวของสัตว์ร้ายเต็มไปด้วยชื่อที่ดูหมิ่นพระเจ้า มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา ผู้หญิงคนนั้นแต่งตัวด้วยชุดสีม่วงและสีแดงเข้ม ตัวเธอประดับด้วยทองคำ เพชรนิลจินดา และไข่มุก ในมือของเธอมีถ้วยทองคำที่เต็มไปด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนและสิ่งสกปรก เพราะเธอทำผิดบาปทางเพศ บนหน้าผาก[a]ของเธอมีชื่อหนึ่งเขียนไว้ ซึ่งมีความหมายลึกลับว่า

“กรุงบาบิโลนที่ยิ่งใหญ่ แม่ของพวกหญิงโสเภณี
    และแม่ของการกระทำลามกอนาจารทั้งหมดบนโลก”

ผมเห็นผู้หญิงคนนั้นเมาเลือดของคนของพระเจ้า และเลือดของคนทั้งหลายที่ต้องตายเพราะได้เป็นพยานให้กับพระเยซู

ครั้งแรกที่เห็นผู้หญิงคนนั้น ผมรู้สึกประหลาดใจมาก ทูตสวรรค์องค์นั้นจึงถามผมว่า “จะแปลกใจไปทำไม เราจะอธิบายถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ของผู้หญิงคนนั้น และสัตว์ร้ายที่มีเจ็ดหัวสิบเขาที่เธอขี่อยู่ให้คุณฟัง ครั้งหนึ่งสัตว์ตัวนั้นเคยมีชีวิต แต่ตอนนี้มันไม่มีชีวิตแล้ว อีกไม่ช้ามันก็จะขึ้นมาจากนรกอเวจี และตัวมันต้องพบกับความย่อยยับของมัน ดังนั้นพวกคนชั่วที่อยู่บนโลกนี้ที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตตั้งแต่วันสร้างโลกก็จะประหลาดใจ เพราะพวกเขาจะเห็นสัตว์ร้ายตัวนี้ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตและตอนนี้ไม่มีชีวิตแล้ว แต่จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง”

“เรื่องนี้ต้องใช้สมองคิดถึงจะเข้าใจ หัวของสัตว์ร้ายทั้งเจ็ดหมายถึงเนินเขาทั้งเจ็ด[b] ที่โสเภณีนั่งอยู่ 10 และยังหมายถึงกษัตริย์เจ็ดองค์ด้วย กษัตริย์ห้าองค์แรกตายไปแล้ว อีกองค์ยังคงปกครองอยู่เดี๋ยวนี้ ส่วนองค์สุดท้ายยังไม่มา และเมื่อกษัตริย์องค์นั้นมา ก็ถูกกำหนดให้มาอยู่แค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น 11 ส่วนเจ้าสัตว์ร้ายที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิต แต่ตอนนี้ไม่มีชีวิตแล้วนั้น ก็คือกษัตริย์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์นั้น ที่จะมาเป็นกษัตริย์องค์ที่แปด และกำลังจะไปสู่ความย่อยยับของมัน”

12 “ส่วนเขาสิบอันที่คุณเห็นนั้น หมายถึงกษัตริย์สิบองค์ ที่ยังไม่ได้ขึ้นครองแผ่นดินของตน แต่จะได้รับสิทธิอำนาจที่จะเป็นกษัตริย์ครอบครองร่วมกับสัตว์ร้ายตัวนั้น เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง 13 พวกกษัตริย์ทั้งสิบองค์นี้ ต่างตกลงพร้อมใจกันมอบฤทธิ์อำนาจ และสิทธิอำนาจให้กับสัตว์ร้ายตัวนั้น 14 พวกเขาจะทำสงครามกับลูกแกะ แต่ลูกแกะจะเอาชนะพวกเขาได้ เพราะลูกแกะคือองค์เจ้าชีวิตที่ยิ่งใหญ่สูงสุด และเป็นกษัตริย์ที่มีฤทธิ์อำนาจมากที่สุด คนที่อยู่กับพระองค์นั้น คือคนที่พระองค์เรียกและเลือก เพราะพวกเขานั้นซื่อสัตย์”

15 ทูตสวรรค์พูดกับผมอีกว่า “แม่น้ำที่คุณเห็นหญิงโสเภณีนั่งอยู่นั้นก็คือทุกเผ่า ทุกภาษา ทุกเชื้อชาติ และทุกชนชาติ 16 สัตว์ร้ายตัวนั้นและเขาทั้งสิบที่คุณเห็น จะเกลียดชังหญิงโสเภณี พวกเขาจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างของเธอไป และจะทอดทิ้งเธอไว้ให้เปลือยเปล่า พวกเขาจะกินเนื้อของเธอและเอาไฟเผาร่างที่เหลือ 17 เพราะพระเจ้าได้ดลใจให้พวกเขาทำตามแผนของพระองค์ พระองค์ทำให้พวกเขาตกลงพร้อมใจกันมอบฤทธิ์อำนาจให้กับสัตว์ร้ายปกครอง จนกว่าสิ่งที่พระเจ้าพูดไว้จะสำเร็จ

18 ส่วนหญิงที่คุณเห็นนั้น คือเมืองใหญ่ที่ปกครองเหนือกษัตริย์ทั้งหลายบนโลกนี้”

เศคาริยาห์ 13:2-9

พวกรูปเคารพและผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมจะหมดไป

พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า “ในวันนั้น เราจะลบชื่อต่างๆของพวกรูปเคารพทั้งหมดไปจากแผ่นดินนี้ และจะไม่มีใครระลึกถึงพวกมันอีกต่อไปแล้ว พวกผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมและวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์ เราจะไล่ให้พ้นไปจากแผ่นดิน ถ้ามีใครที่ยังไม่ยอมหยุดพูดแทนพระเจ้าแบบผิดๆ พ่อแม่ที่ให้เขาเกิดมาจะพูดว่า ‘เจ้าจะต้องตาย เพราะเจ้าพูดผิดๆในนามของพระยาห์เวห์’ แล้วพ่อแม่ที่ให้เขาเกิดมาจะแทงเขาหากเขายังขืนพูดแทนพระเจ้าอีก ในวันนั้น ผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมแต่ละคนจะละอายที่จะบอกคนอื่นว่าเขาเห็นอะไรในนิมิต และพวกเขาจะไม่ใส่เสื้อคลุมของผู้พูดแทนพระเจ้าที่ทำจากขน เพื่อหลอกลวงคนอื่นอีก ผู้พูดแทนพระเจ้าแต่ละคนจะพูดว่า ‘ผมไม่ใช่ผู้พูดแทนพระเจ้า ผมเป็นแค่ชาวนา เพราะที่ดินนี้เป็นของผมตั้งแต่หนุ่มแล้ว’ และถ้ามีคนถามเขาว่า ‘แล้วแผลเป็นที่หน้าอก[a]พวกนี้เกิดจากอะไร’ เขาจะตอบว่า ‘ผมได้รับบาดเจ็บที่บ้านเพื่อน’”

พระยาห์เวห์จะหลอมคนของพระองค์ให้บริสุทธิ์

พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า
    “ดาบเอ๋ยลุกขึ้นมา ต่อสู้กับผู้เลี้ยงของเรา ต่อสู้กับเพื่อนรักของเรา
ตีผู้เลี้ยง เพื่อแกะจะได้กระจัดกระจายไป
    และเราจะลงโทษแกะตัวเล็กตัวน้อยเหล่านี้”
พระยาห์เวห์พูดว่า “คนสองในสามของแผ่นดินนี้จะถูกกำจัดและตายไป
    และจะเหลือหนึ่งในสามในแผ่นดิน
เราจะเอาที่เหลือหนึ่งในสามนั้นใส่เข้าไปในไฟ เราจะหลอมพวกเขาเหมือนกับหลอมเงิน
    เราจะทดสอบพวกเขาเหมือนกับทดสอบทองคำเพื่อให้มันบริสุทธิ์”
แล้วพวกเขาจะร้องขอให้เราช่วย
    และเราจะตอบพวกเขาว่า “พวกเจ้าเป็นคนของเรา”
    พวกเขาจะพูดว่า “พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของเรา”

ยอห์น 16

16 เราได้บอกสิ่งเหล่านี้กับพวกคุณล่วงหน้า เพื่อคุณจะไม่เลิกไว้วางใจในตัวเรา พวกเขาจะไล่คุณออกจากที่ประชุม อีกไม่นานทุกคนที่ฆ่าคุณ ก็จะคิดว่านั่นเป็นการรับใช้พระเจ้า ที่พวกเขาทำอย่างนี้ ก็เพราะพวกเขาไม่รู้จักพระบิดาและไม่รู้จักเรา เราบอกเรื่องเหล่านี้กับคุณตอนนี้ เพื่อที่ว่าเมื่อมันเกิดขึ้นจริง คุณจะได้นึกออกว่าเราเคยเตือนคุณแล้ว

งานของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ที่เราไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพวกคุณตั้งแต่แรก ก็เพราะเรายังอยู่กับคุณ ตอนนี้เรากำลังจะไปหาพระองค์ผู้ที่ส่งเรามา แต่ไม่มีใครถามเราว่า ‘อาจารย์จะไปไหน’ เพราะคุณกำลังกลุ้มใจในเรื่องที่เราบอก แต่เราจะบอกให้รู้ว่า มันจะดีกับคุณถ้าเราไป เพราะถ้าเราไม่ไป ผู้ช่วยนั้นก็จะไม่มา แต่ถ้าเราไป เราก็จะส่งผู้ช่วยมาให้คุณ เมื่อผู้ช่วยนั้นมา พระองค์จะทำให้โลกรู้ความจริงเกี่ยวกับความบาป ให้โลกรู้ว่าที่เราพูดและทำนั้นถูกต้อง และให้โลกรู้ว่าพระเจ้าจะตัดสินลงโทษโลก ในเรื่องความบาปนั้นเกิดจากคนไม่ยอมไว้วางใจเรา 10 ในเรื่องความถูกต้องของเรากับพระเจ้านั้นก็คือการที่เราได้กลับไปหาพระบิดาอีกครั้งหนึ่ง จึงทำให้พวกคุณไม่เห็นเราอีก 11 ในเรื่องการตัดสินลงโทษนั้นก็คือการที่เจ้าผู้ครอบครองโลก[a] นี้ได้ถูกตัดสินลงโทษแล้ว

12 เรายังมีอีกหลายเรื่องที่จะบอก แต่ถ้าพูดเดี๋ยวนี้มันจะมากเกินกว่าที่พวกคุณจะรับได้ 13 แต่เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงมาถึง พระองค์จะนำพวกคุณไปสู่ความจริงทั้งหมด เพราะพระองค์ไม่ได้พูดตามใจตัวเอง แต่จะพูดในสิ่งที่พระองค์ได้ยินมา และพระองค์จะบอกให้พวกคุณรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น 14 พระองค์จะทำให้คุณเห็นความยิ่งใหญ่ของเรา เพราะพระองค์จะบอกสิ่งที่พระองค์ได้ยินจากเราให้คุณฟัง 15 ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของพระบิดาเป็นของเรา นั่นเป็นสาเหตุที่เราพูดว่า ผู้ช่วยจะบอกสิ่งที่พระองค์ได้ยินจากเราให้คุณฟัง

ความเศร้าจะเปลี่ยนเป็นความสุข

16 “อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งคุณก็จะเห็นเราอีก”

17 พวกศิษย์บางคนถามกันเองว่า “อาจารย์หมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งคุณก็จะเห็นเราอีก’ กับที่ว่า ‘เรากำลังจะไปหาพระบิดา’” 18 พวกเขาก็ยังถามกันอีกว่า “อาจารย์หมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่ง’ ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าอาจารย์พูดถึงอะไร”

19 พระเยซูรู้ว่าพวกเขาอยากจะถามเรื่องนี้ พระองค์จึงถามว่า “พวกคุณกำลังสงสัยกันอยู่ใช่ไหมว่า เราหมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งคุณก็จะเห็นเราอีก’ 20 เราจะบอกให้รู้ว่า คุณจะร้องไห้ โศกเศร้าเสียใจ แต่โลกจะรื่นเริงยินดี คุณจะทุกข์ใจ แต่ความทุกข์ใจนั้นจะกลับกลายมาเป็นความดีใจ 21 เหมือนกับผู้หญิงที่ถึงกำหนดคลอดก็เป็นทุกข์เพราะความเจ็บปวดทรมาน แต่เมื่อเธอคลอดลูกแล้วก็ลืมความเจ็บปวดไปหมด เพราะดีใจที่ได้เห็นลูกเกิดมาในโลกนี้ 22 พวกคุณก็เหมือนกัน ตอนนี้คุณทุกข์ใจ แต่เมื่อเรากลับมาหาคุณอีก คุณก็จะดีใจ แล้วไม่มีใครจะแย่งเอาความดีใจนั้นไปจากคุณได้ 23 ในวันนั้นคุณจะไม่ต้องถามอะไรเราอีกแล้ว เราจะบอกให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณขอเพราะคุณเป็นคนของเรา พระบิดาก็จะให้กับคุณ 24 ตั้งแต่คุณเป็นคนของเรามาจนถึงเดี๋ยวนี้ พวกคุณยังไม่เคยขออะไรในฐานะคนของเรา ขอสิแล้วคุณจะได้ เพื่อคุณจะได้มีความสุขอย่างเต็มที่”

ชัยชนะเหนือโลก

25 “เราได้เล่าเรื่องเหล่านี้โดยใช้เรื่องเปรียบเทียบ อีกไม่นานเราจะไม่ใช้เรื่องเปรียบเทียบแล้ว แต่เราจะบอกพวกคุณตรงๆเลยเกี่ยวกับพระบิดา 26 ในวันนั้นพวกคุณจะไม่ต้องขออะไรโดยผ่านทางเราอีกแล้ว คุณขอจากพระเจ้าได้โดยตรง เพราะคุณเป็นคนของเรา 27 เพราะพระบิดาเองก็รักพวกคุณ พระองค์รักพวกคุณทุกคนเพราะว่าคุณรักเรา และเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า 28 เรามาจากพระบิดา และเข้ามาในโลกนี้ ตอนนี้เรากำลังจะไปจากโลกนี้เพื่อกลับไปหาพระบิดา”

29 แล้วพวกศิษย์ก็พูดว่า “ดูสิ อาจารย์พูดกับเราตรงๆโดยไม่ได้ใช้เรื่องเปรียบเทียบแล้ว 30 ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าอาจารย์รู้ทุกอย่าง อาจารย์รู้ว่าจะตอบอะไรก่อนที่เราจะถามเสียอีก ถึงไม่ถาม อาจารย์ก็รู้อยู่แล้วว่าเราคิดอะไร แค่นี้เราก็เชื่อแล้วว่าอาจารย์มาจากพระเจ้า”

31 พระเยซูตอบพวกเขาว่า “ในที่สุดพวกคุณก็เชื่อแล้วหรือ 32 คอยดูสิ เวลากำลังจะมาถึง ที่จริงเวลามาถึงแล้วด้วยซ้ำ เป็นเวลาที่พวกคุณทุกคนจะหนีกระเจิดกระเจิงไปทางใครทางมัน และจะทิ้งเราไว้คนเดียว แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก เพราะพระบิดาอยู่กับเราด้วย

33 เราพูดเรื่องพวกนี้เพื่อว่าคุณจะได้มีสันติสุขเพราะคุณมีส่วนร่วมในตัวเรา ในโลกนี้คุณจะมีปัญหาเดือดร้อนสารพัด แต่ให้เข้มแข็งไว้ เพราะเราชนะโลกแล้ว”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International