M’Cheyne Bible Reading Plan
แผนงานของดาวิดเกี่ยวกับวิหาร
28 ดาวิดได้รวบรวมเอาพวกผู้นำทั้งหลายมาอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม คือ พวกผู้นำของอิสราเอล ผู้นำของแต่ละเผ่า ผู้นำของหน่วยงานต่างๆที่รับใช้กษัตริย์ พวกนายพันนายร้อย พวกเจ้าหน้าที่ที่ดูแลทรัพย์สมบัติและฝูงสัตว์ของกษัตริย์ และของพวกลูกชายกษัตริย์ รวมทั้งพวกเจ้าหน้าที่วัง พวกวีรบุรุษนักรบ และคนสำคัญทุกคน
2 กษัตริย์ดาวิดได้ยืนขึ้นและพูดว่า “พี่น้องและประชาชนทั้งหลายของเรา ฟังทางนี้ เราได้ตั้งใจไว้แล้วที่จะสร้างที่พักสำหรับหีบแห่งข้อตกลงของพระยาห์เวห์เพื่อให้เป็นที่วางเท้า[a] สำหรับพระเจ้าของพวกเรา และเราได้เตรียมการที่จะสร้างมันไว้แล้ว 3 แต่พระเจ้าได้พูดกับเราว่า ‘เจ้าจะไม่ได้เป็นผู้ที่สร้างบ้านสำหรับชื่อของเรา เพราะเจ้าได้ทำสงครามหลายครั้งและเจ้าได้ฆ่าคนไปเป็นจำนวนมาก’
4 แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลได้เลือกเราออกมาจากครอบครัวของเรา ให้มาเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลตลอดไป เพราะพระองค์ได้เลือกยูดาห์ให้เป็นผู้นำ และในเผ่าของยูดาห์พระองค์ก็ได้เลือกครอบครัวของเรามา และในหมู่ลูกชายทั้งหลายของพ่อเรา พระองค์พอใจที่จะเลือกเราให้เป็นกษัตริย์เหนือชนชาติอิสราเอลทั้งหมด 5 และจากบรรดาลูกชายทั้งหมดของเรา ซึ่งพระยาห์เวห์ได้ให้ลูกชายไว้กับเราหลายคน พระองค์ได้เลือกซาโลมอนลูกชายของเราให้ขึ้นนั่งบนบัลลังก์ของอาณาจักรของพระยาห์เวห์เหนือชนชาติอิสราเอลทั้งหมด 6 พระองค์ได้พูดกับเราว่า ‘ซาโลมอนลูกชายของเจ้า จะเป็นผู้ที่สร้างวิหาร และพวกลานวิหารของเรา เพราะเราได้เลือกเขาให้เป็นลูกชายของเรา และเราจะเป็นพ่อของเขา[b] 7 และเราจะทำให้อาณาจักรของเขามั่นคงตลอดไป ถ้าเขายังตั้งใจที่จะเชื่อฟังคำสั่งและกฎทุกข้อของเราเหมือนที่เขาทำอยู่ในวันนี้’
8 และตอนนี้ ท่ามกลางสายตาของชนชาติอิสราเอลทั้งหมด ในที่ประชุมของพระยาห์เวห์นี้ และต่อหูของพระองค์ เราขอกำชับให้พวกท่านทำตามคำสั่งทั้งหมดของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านอย่างระมัดระวัง เพื่อพวกท่านจะได้เป็นเจ้าของแผ่นดินที่ดีแห่งนี้ และมอบมันเป็นมรดกให้กับลูกกับหลานของท่านตลอดไป
9 ส่วนเจ้า ซาโลมอนลูกพ่อ ให้ยอมรับพระเจ้าของพ่อเจ้าไว้ และรับใช้พระองค์อย่างสุดใจ และด้วยความเต็มใจของเจ้า เพราะพระยาห์เวห์ตรวจสอบจิตใจทุกดวง และเข้าใจความคิดทุกความคิด ถ้าเจ้าค้นหาพระองค์ เจ้าก็จะพบพระองค์ แต่ถ้าเจ้าละทิ้งพระองค์ พระองค์ก็ทอดทิ้งเจ้าตลอดไป 10 ดูเถิด พระยาห์เวห์ได้เลือกเจ้าเพื่อจะให้สร้างวิหารไว้ให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ให้กล้าหาญไว้และลงมือทำเถิด”
11 แล้วดาวิดก็ได้มอบแผนผังให้กับซาโลมอนลูกชายของเขา เป็นแบบของห้องด้านหน้าของวิหาร กับพวกตึกของมัน พวกห้องเก็บสมบัติ พวกห้องด้านบน พวกห้องด้านใน และห้องสำหรับหีบศักดิ์สิทธิ์ที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ 12 ยังมีแผนผังสำหรับอย่างอื่นที่เขาได้คิดเอาไว้ คือแผนผังสำหรับลานของวิหารของพระยาห์เวห์ และสำหรับห้องต่างๆที่อยู่รอบๆลานนั้น พวกห้องเก็บสมบัติของวิหารของพระเจ้า และพวกห้องเก็บของขวัญที่อุทิศให้กับพระยาห์เวห์ 13 ผังสำหรับกลุ่มเวรของพวกนักบวช และชาวเลวี สำหรับงานรับใช้ทั้งหมดในวิหารของพระยาห์เวห์ สำหรับข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างที่ใช้ในงานรับใช้ในวิหารของพระยาห์เวห์ 14 และยังมีรายละเอียดน้ำหนักของทองคำที่ใช้สำหรับข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างที่ทำจากทองคำ ในงานรับใช้แต่ละอย่าง และรายละเอียดของน้ำหนักเงินที่ใช้สำหรับเครื่องใช้ที่ทำจากเงิน ในงานรับใช้แต่ละอย่าง 15 และบอกถึงน้ำหนักทองคำของโคมไฟยืนทองคำ และตะเกียงที่อยู่ในนั้น บอกแม้แต่น้ำหนักของทองคำที่ใช้กับโคมไฟยืนแต่ละอัน และตะเกียงแต่ละดวงของมัน และบอกถึงน้ำหนักของเงินที่ใช้กับโคมไฟยืนที่ทำจากเงิน โดยบอกน้ำหนักของเงินที่จะใช้สำหรับโคมไฟยืนแต่ละอัน และตะเกียงแต่ละดวงของมัน น้ำหนักของเงินขึ้นอยู่กับการใช้งานของตะเกียงแต่ละดวง 16 มีรายละเอียดของน้ำหนักของทองคำสำหรับโต๊ะของขนมปังศักดิ์สิทธิ์แต่ละตัว และน้ำหนักของเงินสำหรับโต๊ะที่ทำจากเงิน 17 และทองคำบริสุทธิ์สำหรับทำส้อม ชามประพรม และเหยือก สำหรับชามที่ทำจากทองคำ ดาวิดได้บอกน้ำหนักของชามแต่ละใบ และสำหรับชามที่ทำจากเงินก็ได้บอกน้ำหนักของชามแต่ละใบเหมือนกัน 18 น้ำหนักของทองคำอย่างดีที่ใช้ทำแท่นบูชาเผาเครื่องหอม ยังมีแบบสำหรับสร้างรถรบทองคำ ซึ่งก็คือทูตสวรรค์ที่มีปีกสององค์ที่กางปีกของพวกท่านออกอยู่บนฝาของหีบแห่งข้อตกลงของพระยาห์เวห์ ทูตทั้งสององค์นี้ทำจากทองคำ
19 ดาวิดได้เขียนสิ่งเหล่านี้ให้กับซาโลมอนตามที่พระยาห์เวห์ได้มอบให้กับเขา เพื่อทำให้ซาโลมอนเข้าใจรายละเอียดทั้งหมดของแผนผัง
20 แล้วดาวิดพูดกับซาโลมอนลูกชายของเขาว่า “เข้มแข็งและกล้าหาญไว้ ลงมือทำเถิด อย่ากลัวหรือท้อถอยเพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพ่อจะอยู่กับเจ้า พระองค์จะไม่ทิ้งลูกและไม่จากลูกไปไหน แต่พระองค์จะช่วยเหลือลูกจนกว่างานรับใช้ทุกอย่างของวิหารของพระยาห์เวห์จะเสร็จสิ้นลง 21 และนี่ก็คือกลุ่มเวรต่างๆของพวกนักบวชกับชาวเลวีสำหรับงานรับใช้ในวิหารของพระเจ้า และคนงานทุกคนที่มีความชำนาญในงานทุกประเภทจะมาอยู่กับเจ้า และพวกผู้นำกับประชาชนทั้งหมดจะอยู่ภายใต้คำสั่งทั้งสิ้นของเจ้า”
ผู้สอนเท็จ
2 แต่ก็มีผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมเกิดขึ้นในกลุ่มคนของพระเจ้า ซึ่งก็เหมือนกับที่จะมีครูจอมปลอมเกิดขึ้นในกลุ่มพวกคุณนั่นแหละ พวกนี้จะเอาความคิดนอกลู่นอกทางมาสอนกัน คำสอนพวกนี้ทำให้คนถูกทำลายได้ ถึงแม้องค์เจ้าชีวิตได้ซื้อเขาไว้แล้ว เขาก็ยังปฏิเสธองค์เจ้าชีวิตอยู่ดี ซึ่งจะทำให้เขาถูกทำลายโดยเร็ว 2 จะมีหลายคนหันไปทำชั่วตามคนพวกนี้ คนพวกนี้แหละที่ทำให้คนดูหมิ่นทางแห่งความจริง 3 ด้วยความโลภ พวกนี้จะกุเรื่องขึ้นมาสอน หวังจะหลอกเอาเงินของคุณ คำตัดสินโทษต่อคนพวกนี้ที่ได้ประกาศไว้ตั้งนานแล้วนั้น ไม่ได้เอาไว้ขู่เล่นๆ แต่ความพินาศนั้นพร้อมแล้วและกำลังจะมาในเร็วๆนี้
4 พระเจ้าไม่ได้ละเว้นโทษแก่ทูตสวรรค์เมื่อพวกเขาทำบาป แต่ส่งไปขังไว้ในหลุมที่ลึกมาก ล่ามโซ่ไว้ในความมืดเพื่อรอวันพิพากษา 5 ในสมัยโบราณ พระเจ้าก็ไม่ได้ละเว้นโทษให้กับโลกนี้ที่เต็มไปด้วยคนที่ต่อต้านพระองค์ แต่ส่งน้ำมาท่วมโลก อย่างไรก็ตามพระองค์ได้คุ้มครองโนอาห์ซึ่งเป็นคนที่ไปประกาศให้คนใช้ชีวิตอย่างถูกต้องกับพระองค์ และพระเจ้าก็ได้คุ้มครองอีกเจ็ดคนด้วย 6 พระเจ้าได้ตัดสินลงโทษเผาเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ไปทั้งเมือง เพื่อให้คนที่ต่อต้านพระเจ้าเห็นเป็นตัวอย่างว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา 7 แต่พระองค์ได้ช่วยกู้โลทคนที่ทำตามใจพระองค์ ความลามกของคนชั่วช้านั้นทำให้โลทเจ็บปวดรวดร้าวใจ 8 (โลทเป็นคนดี แต่เพราะอยู่กับคนชั่ว ได้เห็นการกระทำชั่วๆและได้ยินคำพูดเลวๆของพวกเขาทุกๆวัน ทำให้จิตใจที่ดีของเขาเจ็บปวดรวดร้าว) 9 ถ้าเป็นอย่างนี้ องค์เจ้าชีวิตย่อมรู้ว่าจะช่วยกู้คนที่อุทิศตัวให้กับพระองค์ได้อย่างไรเมื่อเขาตกทุกข์ได้ยาก แล้วจะเก็บคนชั่วไว้ลงโทษในวันพิพากษา 10 โดยเฉพาะคนพวกนั้นที่หลงระเริงไปกับความสกปรกโสมมของสันดาน และดูถูกสิทธิอำนาจขององค์เจ้าชีวิต คนพวกนี้ยโสโอหังและหัวรั้น กล้าดูหมิ่นแม้แต่ทูตสวรรค์ที่เต็มไปด้วยสง่าราศี 11 ขนาดทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์และอำนาจมากกว่า ยังไม่ฟ้องดูหมิ่นพวกนี้ต่อหน้าองค์เจ้าชีวิต 12 พวกครูจอมปลอมนี้ พูดใส่ร้ายในสิ่งที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ พวกนี้เป็นเหมือนกับสัตว์ที่ทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณ เพราะคิดไม่เป็น เกิดมาเพื่อถูกจับและถูกฆ่าเท่านั้น แล้วครูพวกนี้ก็จะถูกทำลายไปเหมือนกับสัตว์ด้วย 13 เขาจะได้รับความทุกข์เป็นการตอบแทนให้สมกับความทุกข์และความผิดที่เขาทำไว้กับคนอื่น ความสนุกสนานของเขาคือการจัดงานมั่วสุมเมากันกลางวันแสกๆ เขาเป็นจุดสกปรกและมีตำหนิท่ามกลางพวกคุณ และชอบสำมะเลเทเมากันเมื่อกินเลี้ยงกับพวกคุณ 14 พวกนี้สอดส่ายสายตา หาแต่ผู้หญิงมาหลับนอนด้วยตลอดเวลา ไม่เคยรู้จักพอ เขาล่อลวงพวกที่มีใจโลเลให้ทำบาป ใจพวกนี้ช่ำชองในความโลภ และอยู่ภายใต้คำสาปแช่ง 15 พวกนี้ได้ทิ้งทางที่ถูกต้องและหลงไปติดตามทางของบาลาอัม ลูกของเบโอร์คนที่รักเงินค่าจ้างที่ได้มาจากการทำผิด 16 แต่ลาที่ปกติแล้วพูดไม่ได้ กลับพูดเป็นเสียงคน ต่อว่าเขาในความผิดที่เขาทำและได้หยุดการกระทำโง่ๆของผู้พูดแทนพระเจ้าคนนี้
17 พวกครูสอนผิดนี้ เป็นตาน้ำที่แห้งขอด และเป็นเมฆที่ถูกพายุพัดพาไป ขุมนรกมืดถูกเตรียมไว้แล้วสำหรับคนพวกนี้ 18 พวกนี้ดีแต่โม้เรื่องไร้สาระของตน และใช้ราคะตัณหาของร่างกายมายั่วคนที่เพิ่งจะหลุดพ้นมาจากการใช้ชีวิตผิดๆ 19 ครูพวกนี้ได้สัญญาว่าจะให้เสรีภาพกับคนพวกนั้น ทั้งๆที่ตัวเองยังตกเป็นทาสของนิสัยชั่วๆอยู่เลย คนที่พ่ายแพ้กับอะไร เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น 20 ดังนั้นคนไหนที่หลุดพ้นออกมาจากความสกปรกโสมมของโลกนี้ได้แล้ว เพราะได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่กลับพ่ายแพ้ และกลับไปพัวพันกับสิ่งเหล่านั้นอีก สภาพของเขาตอนหลังนี้จะเลวร้ายยิ่งกว่าตอนแรกเสียอีก 21 เพราะถ้าคนนี้ไม่ได้รู้จักทางที่ถูกต้องนี้ตั้งแต่แรก ก็ยังดีกว่าได้รู้จัก แล้วหันหน้าหนีไปจากคำสั่งสอนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ให้เขาไว้ 22 สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนพวกนี้ก็เป็นไปตามคำสุภาษิตที่ว่า “หมาก็หันกลับไปกินอ้วกของมัน”[a] หรือที่ว่า “หมูที่ล้างสะอาดแล้ว ก็กลับไปเกลือกกลิ้งอยู่ในโคลนตมอีก”
กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่จะมาจากเบธเลเฮม
5 ลูกสาวเอ๋ย ตอนนี้ให้เจ้ากรีดเนื้อของเจ้า
เจ้ากำลังถูกโจมตี พวกมันกำลังโอบล้อมพวกเรา
พวกมันใช้ไม้ตีแก้มของคนนั้นที่ปกครองอิสราเอล
2 แต่เจ้า เบธเลเฮม เอฟราธาห์
เจ้าเป็นแค่เมืองเล็กๆท่ามกลางแคว้นต่างๆของยูดาห์
แต่จากเจ้านี่แหละจะมีผู้ปกครองคนหนึ่งออกมาให้กับเรา
เขาจะปกครองอยู่เหนืออิสราเอล
เขาจะสืบเชื้อสายมาจากพวกคนที่มีชื่อเสียงในยุคแรกๆของชนชาตินี้
3 พระยาห์เวห์จะมอบคนของพระองค์ให้กับศัตรูจนกว่านางที่กำลังเบ่งคลอดอยู่ จะคลอดลูกออกมา[a]
หลังจากนั้น พี่น้องที่เหลือของเขาจะกลับไปยังลูกๆของอิสราเอล
4 ผู้ปกครองคนนั้น จะยืนขึ้นและเลี้ยงดูอิสราเอลเหมือนผู้เลี้ยงแกะด้วยพละกำลังของพระยาห์เวห์
ด้วยสิทธิอำนาจในพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา
พวกเขาจะอยู่อย่างปลอดภัย
เพราะความยิ่งใหญ่ของเขาจะแผ่ไปจนถึงสุดขอบโลก
5 นี่คือผู้ที่จะนำสันติสุขมาให้
การชนะอัสซีเรียและชนชาติอื่นๆ
ถ้าอัสซีเรียบุกเข้ามาในประเทศของเราและเหยียบย่ำเข้ามาในแผ่นดินของเรา[b]
เมื่อนั้น พวกเราจะแต่งตั้งผู้เลี้ยงขึ้นมาเจ็ดคนและจะแต่งตั้งผู้นำขึ้นมาแปดคน เพื่อต่อต้านพวกมัน
6 พวกนี้ก็จะปกครองแผ่นดินอัสซีเรียด้วยดาบ
และจะปกครองแผ่นดินนิมโรด[c] ด้วยหอก
กษัตริย์ของเราจะช่วยเหลือพวกเราให้รอดพ้นจากอัสซีเรีย
เมื่ออัสซีเรียบุกเข้ามาในแผ่นดินของเราและเหยียบย่ำเข้ามาในเขตแดนของเรา
7 แล้วพวกยาโคบที่รอดชีวิตจะอยู่ท่ามกลางชนชาติมากมาย
พวกเขาจะเป็นเหมือนน้ำค้าง[d]จากพระยาห์เวห์
เหมือนฝนที่ตกลงบนใบหญ้า ที่ไม่ต้องรอคอยมนุษย์ และไม่ต้องฝากความหวังไว้กับมนุษย์คนไหน
8 พวกยาโคบ ที่เหลือรอดชีวิตท่ามกลางชนชาติต่างๆ
พวกเขาที่อยู่ท่ามกลางชนชาติมากมาย
จะเป็นเหมือนสิงโตที่อยู่ท่ามกลางสัตว์ป่าทั้งหลายในป่า
เหมือนสิงโตหนุ่มที่อยู่ท่ามกลางฝูงแกะ
เป็นสิงโตที่ไม่มีใครหนีรอดไปได้เมื่อมันเข้าจู่โจมขย้ำและฉีกเนื้อเหยื่อ
9 เจ้าจะยกมือขึ้นต่อสู้กับศัตรูของเจ้า
และศัตรูทั้งหมดของเจ้าจะถูกทำลายไป
ประชาชนจะต้องพึ่งพระเจ้าเท่านั้น
10 พระยาห์เวห์พูดว่า “เมื่อถึงเวลานั้น
เราจะเอาม้าของพวกเจ้าไป เราจะทำลายรถรบของพวกเจ้าด้วย
11 เราจะพังเมืองต่างๆในแผ่นดินของเจ้า
เราจะรื้อป้อมปราการทั้งหลายของเจ้าลง
12 เราจะกำจัดเวทมนตร์ของเจ้าให้หมดไป
และจะไม่มีใครในพวกเจ้าฝึกวิชาหมอดูอีกต่อไป
13 เราจะทำลายรูปเคารพของพวกเจ้ารวมถึงเสาหินศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองของพวกเจ้า
เจ้าจะไม่กราบไหว้สิ่งที่พวกเจ้าสร้างขึ้นมากับมือของเจ้าอีกต่อไป
14 เราจะถอนรากถอนโคนพวกเสาของอาเชราห์
เราจะทำลายรูปเคารพ[e] ทั้งหมดของพวกเจ้า
15 เราจะแก้แค้นด้วยความโกรธแค้น
ต่อชนชาติทั้งหลายที่ไม่ยอมเชื่อฟังเรา”
ผิดหรือไม่ที่รักษาในวันหยุดทางศาสนา
14 ครั้งหนึ่งในวันหยุดทางศาสนา พระเยซูไปกินอาหารที่บ้านของผู้นำฟาริสีคนหนึ่ง พวกฟาริสีก็จับตามองพระองค์อย่างใกล้ชิด 2 มีชายคนหนึ่งที่แขนขาบวมมากมายืนอยู่ตรงหน้าพระองค์ 3 พระเยซูจึงถามพวกครูสอนกฎปฏิบัติ และพวกฟาริสีว่า “ผิดกฎปฏิบัติหรือเปล่าที่จะรักษาโรคในวันหยุด” 4 แต่พวกเขาไม่ตอบ พระเยซูจึงจับต้องตัวชายคนนั้น และรักษาเขาแล้วส่งเขากลับไป 5 พระองค์หันมาถามพวกนั้นว่า “ถ้าลูกของคุณหรือวัวของคุณตกบ่อในวันหยุด พวกคุณจะไม่รีบช่วยดึงขึ้นมาหรือ” 6 พวกเขาก็เงียบ ไม่รู้จะตอบอย่างไร
อย่าคิดว่าตัวเองสำคัญกว่าคนอื่น
7 เมื่อพระเยซูเห็นว่าแขกที่มาในงานชอบเลือกนั่งในที่ที่มีเกียรติ พระองค์ก็เลยใช้เรื่องเปรียบเทียบสอนว่า 8 “เมื่อมีคนเชิญคุณไปงานแต่งงาน อย่าไปเลือกนั่งในที่ที่มีเกียรติ เพราะเจ้าภาพอาจจะเชิญแขกที่สำคัญกว่าคุณมา 9 แล้วเจ้าภาพจะมาบอกกับคุณว่า ‘ช่วยลุกให้แขกคนนี้นั่งหน่อย’ คุณก็จะเสียหน้า และต้องเลื่อนไปนั่งที่ที่ไม่มีเกียรติ 10 ทำอย่างนี้สิ เวลาไปงานเลี้ยงให้ไปนั่งในที่ที่ไม่มีเกียรติ ซึ่งเมื่อเจ้าภาพเห็นก็จะมาบอกกับคุณว่า ‘เพื่อนรัก ย้ายขึ้นมานั่งในที่ที่มีเกียรตินี้เถิด’ คุณก็จะได้หน้าต่อหน้าแขกคนอื่นๆ 11 เพราะคนที่ยกตัวเองจะต้องถูกกดลง และคนที่ถ่อมตัวจะถูกยกขึ้น”
คุณจะได้รับรางวัล
12 แล้วพระเยซูก็หันมาพูดกับเจ้าของบ้านว่า “เมื่อคุณจัดงานเลี้ยงมื้อกลางวัน หรือมื้อเย็นก็ตาม อย่าเชิญเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องหรือเพื่อนบ้านที่มีอันจะกินมา เพราะคนพวกนี้จะเลี้ยงตอบแทน 13 แต่เมื่อคุณจัดงานเลี้ยง ให้เชิญคนยากจน คนพิการ คนขาเป๋ คนตาบอด 14 เพราะคนพวกนี้ไม่สามารถจ่ายคืนได้ แต่พระเจ้าจะให้เกียรติ และให้รางวัลกับคุณ ในวันที่คนที่ทำตามใจพระเจ้าจะฟื้นขึ้นจากความตาย”
เรื่องราวเกี่ยวกับงานเลี้ยงครั้งใหญ่
(มธ. 22:1-10)
15 มีชายคนหนึ่งที่กินอยู่ที่นั่น เมื่อได้ยินเรื่องนี้ก็พูดกับพระเยซูว่า “ถือว่าเป็นเกียรติจริงๆสำหรับคนที่ได้กินอาหารที่งานเลี้ยงในอาณาจักรของพระเจ้า”
16 พระเยซูก็ตอบเป็นเรื่องเปรียบเทียบว่า “มีชายคนหนึ่งจัดงานเลี้ยงใหญ่โต และเชิญแขกมามากมาย 17 เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็ส่งคนใช้ออกไปบอกกับแขกทั้งหลายว่า ‘มาได้แล้วครับ ทุกอย่างพร้อมแล้ว’ 18 แต่แขกแต่ละคนก็แก้ตัวกันต่างๆนานา คนแรกบอกว่า ‘ขอโทษที ไปไม่ได้ ต้องไปดูแลนาที่เพิ่งซื้อมาใหม่’ 19 อีกคนหนึ่งก็บอกว่า ‘ขอโทษทีไปไม่ได้ เพิ่งซื้อวัวมาห้าคู่ ต้องไปทดสอบมันดูหน่อย’ 20 อีกคนหนึ่งก็บอกว่า ‘เพิ่งแต่งงาน ไปไม่ได้หรอก’
21 เมื่อคนใช้กลับมาเล่าเรื่องทั้งหมดให้เจ้านายฟัง เจ้านายก็โกรธมาก จึงสั่งคนใช้ว่า ‘รีบไปที่ถนนตามตรอกซอกซอยในเมืองนี้ และพาคนยากจน คนพิการ คนขาเป๋และคนตาบอดมาที่นี่’ 22 ต่อมาคนใช้นั้นมารายงานเจ้านายว่า ‘ผมทำตามที่ท่านสั่งแล้ว แต่ก็ยังมีที่ว่างเหลืออยู่อีก’ 23 เจ้านายจึงสั่งว่า ‘ถ้างั้น ให้ออกไปถนนนอกเมืองและตามถนนในชนบท ไปเร่งเร้าพวกเขามา ให้บ้านของเราเต็มให้ได้ 24 เราขอบอกให้รู้ว่า พวกนั้นที่เราได้เชิญในตอนแรกจะไม่มีใครได้ชิมอาหารในงานเลี้ยงของเราเลย’”
คุ้มไหมที่จะติดตามพระเยซู
(มธ. 10:37-38)
25 ผู้คนมากมายเดินตามพระเยซูไป พระองค์หันมาพูดกับพวกเขาว่า 26 “ถ้าพวกคุณอยากเป็นศิษย์ของเรา คุณต้องเกลียด[a] พ่อแม่ เมีย ลูกๆรวมทั้งพี่น้องและชีวิตของตัวเอง 27 คนที่ไม่ได้แบกไม้กางเขนของตัวเองตามเรามา ก็เป็นศิษย์ของเราไม่ได้ 28 สมมุติว่า คุณต้องการจะสร้างหอคอย สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ ต้องคิดราคาค่าก่อสร้างก่อน ดูว่ามีเงินพอหรือเปล่า 29 เพราะไม่อย่างนั้น เมื่อคุณลงฐานแล้วเกิดเงินหมดก็ต้องหยุดสร้าง คนอื่นเห็นก็จะหัวเราะเยาะเอาได้ 30 ว่า ‘คนนี้ลงมือสร้าง แต่ไม่มีปัญญาสร้างให้เสร็จ’
31 หรือสมมุติว่ากษัตริย์องค์หนึ่งจะออกไปทำสงครามกับกษัตริย์อีกองค์หนึ่ง เขาจะไม่นั่งลงวางแผนก่อนหรือ ว่าทหารหนึ่งหมื่นคนของเขาจะไปสู้ชนะทหารสองหมื่นคนที่ยกทัพมาได้หรือเปล่า 32 ถ้าเขาคิดว่าสู้ไม่ได้ เขาจะต้องรีบส่งคนไปเจรจาขอสงบศึก ในขณะที่กองทัพนั้นยังอยู่อีกไกล 33 ก็เหมือนกัน ถ้าคุณไม่ยอมสละทุกสิ่งที่คุณมีอยู่ คุณก็เป็นศิษย์ของเราไม่ได้”
เกลือที่หมดค่า
(มธ. 5:13; มก. 9:50)
34 “เกลือเป็นสิ่งดี แต่ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มแล้ว ก็จะทำให้มันเค็มอีกได้อย่างไร 35 จะเอาไปใส่ดินหรือผสมกับปุ๋ยก็ไม่ได้ มีแต่ต้องโยนทิ้งไปเท่านั้น คนที่มีหูก็ฟังเอาไว้ให้ดี”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International