Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
1 พงศาวดาร 13-14

การนำหีบข้อตกลงกลับมา

(2 ซมอ. 6:1-11)

13 ดาวิดได้ปรึกษาหารือกับบรรดาผู้นำกองพันและผู้นำกองร้อย รวมทั้งเหล่าผู้นำของอิสราเอลทั้งหลาย เขาได้พูดในที่ประชุมของอิสราเอลทั้งหมดว่า “ถ้าพวกท่านเห็นดีด้วยและเป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราต้องการ เราจะส่งคนส่งข่าวไปถึงญาติๆของพวกเราทั่วทั้งแผ่นดินของอิสราเอล รวมทั้งเหล่านักบวชและชาวเลวีตามเมืองแห่งทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ทั้งหลายนั้น เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วมกับพวกเรา แล้วพวกเราจะได้นำหีบของพระเจ้าของเรามาไว้ท่ามกลางพวกเรา เพราะตั้งแต่ในสมัยของซาอูลแล้ว พวกเราไม่เคยไปหาพระเจ้าเพื่อขอคำปรึกษาจากพระองค์เลย” ที่ประชุมทั้งหมดต่างเห็นดีด้วย เพราะพวกเขาทุกคนชอบความคิดนี้

ดาวิดจึงเรียกประชุมอิสราเอลทั้งหมดตั้งแต่แม่น้ำชิโหร์ในประเทศอียิปต์ไปจนถึงเมืองเลโบฮามัท เพื่อที่จะร่วมกันนำหีบของพระเจ้ามาจากคิริยาท-เยอาริม และดาวิดกับอิสราเอลทั้งหมดก็ได้ขึ้นไปที่เมืองบาอาลาห์ซึ่งก็คือเมืองคิริยาท-เยอาริมที่เป็นของชาวยูดาห์ เพื่อจะนำหีบของพระเจ้ามาจากที่นั่น ซึ่งก็คือหีบของพระยาห์เวห์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เหนือทูตสวรรค์มีปีกสององค์ เป็นหีบที่ได้รับการเรียกขานตามชื่อของพระองค์

พวกเขาได้ขนย้ายหีบใบนั้นมาจากบ้านของอาบีนาดับด้วยเกวียนเล่มใหม่ และอุสซาห์กับอาหิโยเป็นคนขับเกวียนเล่มนั้น

ดาวิดกับชาวอิสราเอลทั้งหมดต่างก็เฉลิมฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยงต่อหน้าพระเจ้า ด้วยการร้องเพลง เล่นพิณใหญ่ พิณเล็ก กลองรำมะนา ฉาบ และแตร

พวกเขามาถึงที่ลานนวดข้าวของคิโดน วัวเกิดเดินสะดุด อุสซาห์ก็ได้ยื่นมือของเขาออกไปจับหีบนั้นไว้ 10 ความโกรธของพระยาห์เวห์ได้จุดพลุ่งขึ้นต่ออุสซาห์ พระองค์จึงฟาดเขาที่นั่น เพราะอุสซาห์ได้ยื่นมือไปจับหีบศักดิ์สิทธิ์ อุสซาห์จึงตายอยู่ที่นั่นต่อหน้าพระเจ้า 11 ดาวิดรู้สึกโกรธ เพราะพระยาห์เวห์ได้ระเบิดความโกรธใส่อุสซาห์ สถานที่นั้นจึงมีชื่อเรียกว่าเปเรศ-อุสซาห์[a] มาจนทุกวันนี้

12 ในวันนั้นดาวิดรู้สึกเกรงกลัวพระเจ้า เขาพูดว่า “อย่างนี้จะให้เรานำหีบของพระเจ้ากลับไปบ้านกับเราได้ยังไงกัน” 13 แล้วดาวิดก็ไม่ยอมนำหีบใบนั้นไปที่เมืองของดาวิดกับเขาด้วย แต่กลับทิ้งมันไว้ที่บ้านของโอเบดเอโดมซึ่งเป็นชาวกัท 14 หีบของพระเจ้ายังคงอยู่กับครอบครัวของโอเบดเอโดมในบ้านของเขาเป็นเวลาสามเดือน และพระยาห์เวห์ก็ได้อวยพรให้กับครอบครัวของโอเบดเอโดมและทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเขา

กษัตริย์ฮีรามส่งคนมาช่วยสร้างวัง

(2 ซมอ. 5:11-12)

14 กษัตริย์ฮีรามแห่งเมืองไทระได้ส่งคนส่งข่าวมาหาดาวิด พร้อมกับส่งไม้ซุงสนซีดาร์มาหลายท่อน พวกช่างตัดแต่งหิน และพวกช่างไม้เพื่อมาสร้างวังให้กับเขา ดาวิดรู้ว่าพระยาห์เวห์ได้ทำให้เขาเป็นกษัตริย์เหนือชนชาติอิสราเอล เพราะอาณาจักรของเขาเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างมาก พระเจ้าทำอย่างนี้เพราะเห็นแก่ประชาชนชาวอิสราเอลของพระองค์

ลูกๆดาวิดที่เกิดในเยรูซาเล็ม

(2 ซมอ. 5:13-16)

ดาวิดมีเมียมากขึ้นในเมืองเยรูซาเล็ม และมีลูกชาย ลูกสาวมากขึ้น ต่อไปนี้คือชื่อของลูกๆเขาที่เกิดในเยรูซาเล็ม คือชัมมุอา โชบับ นาธัน ซาโลมอน อิบฮาร์ เอลีชูอา เอลเปเลท โนกาห์ เนเฟก ยาเฟีย เอลีชามา เบเอลยาดา และเอลีเฟเลท

ดาวิดชนะชาวฟีลิสเตีย

(2 ซมอ. 5:17-25)

ชาวฟีลิสเตียได้ยินว่าดาวิดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งหมด พวกฟีลิสเตียทั้งหมดจึงได้บุกขึ้นมาหาเขา เมื่อดาวิดได้ยินเข้าจึงได้ออกมาเผชิญหน้ากับพวกเขา พวกชาวฟีลิสเตียได้บุกขึ้นมาถึงหุบเขาเรฟาอิม 10 ดาวิดได้ถามพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าควรจะขึ้นไปต่อสู้กับพวกฟีลิสเตียหรือไม่ และพระองค์จะมอบพวกเขาไว้ในกำมือของข้าพเจ้าหรือเปล่า”

พระยาห์เวห์ตอบดาวิดว่า “ไปต่อสู้กับพวกเขาเถิด และเราจะมอบพวกนั้นไว้ในกำมือของเจ้า”

11 แล้วดาวิดกับคนของเขาก็ขึ้นไปสู้รบกับพวกฟีลิสเตียที่บาอัลเปราซิมและสามารถเอาชนะคนเหล่านั้นได้ ดาวิดพูดว่า “พระเจ้าได้ทะลุทะลวงศัตรูของเราไปผ่านทางมือเราเหมือนกับน้ำที่ทะลุทะลวงเขื่อนออกมา” ดังนั้นสถานที่นั้นจึงมีชื่อเรียกว่า บาอัล-เปราซิม[b] 12 พวกฟีลิสเตียได้ละทิ้งพระทั้งหลายของพวกเขาไว้ที่นั่น และดาวิดก็ได้สั่งให้เผาพวกมันทิ้งจนหมด

13 พวกฟีลิสเตียได้บุกมาที่หุบเขาอีกครั้งหนึ่ง 14 และดาวิดได้ปรึกษากับพระเจ้าอีก และพระเจ้าบอกกับเขาว่า “อย่าโจมตีพวกเขาตรงหน้า แต่ให้อ้อมไปโจมตีพวกเขาจากทางด้านพุ่มบาคา[c] 15 เมื่อเจ้าได้ยินเสียงฝีเท้าบนยอดของพุ่มบาคา ให้ออกไปสู้รบได้ทันที เพราะนั่นเป็นเสียงของพระเจ้าที่กำลังออกนำหน้าเจ้าไปมีชัยเหนือกองทัพของฟีลิสเตีย” 16 ดาวิดทำตามที่พระเจ้าสั่งเขาไว้ และดาวิดกับกองทัพของเขาก็สามารถเอาชนะกองทัพชาวฟีลิสเตียได้ทั้งหมดตลอดเส้นทางจากเมืองกิเบโอนไปจนถึงเมืองเกเซอร์ 17 ดังนั้นชื่อเสียงของดาวิดก็แพร่กระจายออกไปยังประเทศทั้งหลายและพระยาห์เวห์ทำให้ทุกๆชนชาติเกรงกลัวเขา

ยากอบ 1

จากยากอบผู้รับใช้ของพระเจ้า และของพระเยซูผู้เป็นพระคริสต์และองค์เจ้าชีวิต

ถึงคนทั้งสิบสองเผ่าของพระเจ้าที่ได้กระจัดกระจายไปทั่วโลก

สวัสดีครับ

ความซื่อสัตย์และความเฉลียวฉลาด

พี่น้องครับ เมื่อคุณถูกลองใจในเรื่องต่างๆ ก็ให้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะคุณก็รู้อยู่แล้วว่า การถูกลองใจนั้นจะทดสอบความเชื่อของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณเกิดความอดทนอดกลั้น คุณต้องเรียนรู้ที่จะอดทนอดกลั้นกับทุกอย่าง เพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ จะได้ไม่ขาดตกบกพร่องอะไรเลย แต่ถ้าคนไหนในพวกคุณขาดความฉลาด ก็ให้ขอจากพระเจ้า แล้วพระองค์จะให้ เพราะพระองค์ใจดีและจะให้กับทุกคนโดยไม่ต่อว่าเลย แต่คนนั้นจะต้องขอด้วยความเชื่อ อย่าสงสัยเลย เพราะคนที่สงสัยพระเจ้าก็เหมือนกับคลื่นในทะเลที่ถูกลมพัดซัดไปซัดมา คนอย่างนั้นไม่ต้องหวังว่าจะได้รับอะไรจากองค์เจ้าชีวิตเลย เพราะเป็นคนโลเล เอาแน่เอานอนไม่ได้สักเรื่อง

ความร่ำรวยที่แท้จริง

พี่น้องที่ยากจนก็ควรจะโอ้อวดที่พระเจ้าได้ทำให้เขาร่ำรวยฝ่ายวิญญาณ 10 ส่วนคนที่ร่ำรวย เมื่อพระเจ้าทำให้เขาตกต่ำลง ก็ควรจะโอ้อวดด้วยเหมือนกัน เพราะคนร่ำรวยนี้จะร่วงโรยไปเหมือนดอกหญ้า 11 เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น แสงแดดก็จะแผดเผาต้นหญ้าให้เหี่ยวแห้งไป ดอกของมันร่วงโรยไป และความสวยงามของมันก็ถูกทำลายไปจนหมดสิ้น คนรวยก็เหมือนกัน จะต้องตายไปในขณะที่กำลังวุ่นอยู่กับงานของเขา

การล่อลวงไม่ได้มาจากพระเจ้า

12 สำหรับคนที่ทนต่อการทดลองและการล่อลวงต่างๆได้ ก็ถือว่ามีเกียรติจริงๆเพราะเมื่อเขาผ่านการทดลองนี้ไปได้ เขาจะได้รับรางวัล[a]แห่งชีวิตแท้ เป็นรางวัลที่พระเจ้าได้สัญญาว่าจะให้กับคนที่รักพระองค์ 13 อย่าให้คนที่กำลังถูกล่อลวงพูดว่า “พระเจ้าล่อลวงฉัน” เพราะพระเจ้าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องชั่วร้ายและพระองค์ก็ไม่เคยล่อลวงใครด้วย 14 แต่เป็นเพราะกิเลสของตัวเองต่างหากที่มาล่อลวงและชักนำให้หลงไป 15 เมื่อกิเลสตั้งท้อง มันก็จะคลอดความบาปออกมา แล้วเมื่อความบาปโตเต็มที่ มันก็จะคลอดความตายออกมา

16 พี่น้องที่รัก อย่าให้ถูกหลอกเอาล่ะ 17 ของดีๆและยอดเยี่ยมทุกอย่างลงมาจากพระเจ้าเบื้องบน พระองค์เป็นผู้สร้างดวงสว่างต่างๆในฟ้าสวรรค์ แต่พระองค์ไม่เหมือนกับดวงสว่างเหล่านั้นหรือเงาของมันที่เคลื่อนไหวไปมา เพราะพระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง 18 พระเจ้าได้เลือกเราให้เกิดเป็นลูกของพระองค์ โดยถ้อยคำแห่งความจริง เพื่อในสิ่งสารพัดที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นมาแล้วนั้น เราจะเป็นสิ่งแรก[b]ที่ได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่

ให้รับฟังและเชื่อฟัง

19 พี่น้องที่รัก จำไว้ว่าให้ทุกคนว่องไวในการฟัง ช้าในการพูด และช้าในการโกรธ 20 เพราะความโกรธนั้น ไม่ได้ช่วยทำให้ใครมีชีวิตที่พระเจ้าชอบใจหรอก 21 กำจัดความสกปรกเลวทรามทุกชนิดและความชั่วร้ายอันล้นเหลือออกจากชีวิตให้หมดสิ้น แล้วยอมรับให้ถ้อยคำของพระเจ้าฝังลงไปในใจคุณแทนอย่างสุภาพนอบน้อม เพราะถ้อยคำของพระเจ้าสามารถช่วยให้คุณรอดได้ 22 ให้ทำตามคำสั่งสอนของพระเจ้าอยู่เสมอ อย่าเอาแต่ฟังเฉยๆเพราะนั่นเป็นการหลอกตัวเอง 23 เพราะคนที่ฟังคำสั่งสอนของพระเจ้า แล้วไม่ทำตาม ก็เหมือนกับคนที่ส่องหน้าตัวเองในกระจก 24 พอส่องเสร็จ เดินไปก็ลืมแล้วว่าหน้าตาเป็นอย่างไร 25 แต่คนที่เอาใจใส่ในกฎของพระเจ้า เป็นกฎที่สมบูรณ์แบบและให้เสรีภาพ แล้วสำรวจมันอย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่เป็นคนฟังที่ขี้หลงขี้ลืม แต่ทำตามคำสั่งสอน คนนั้นจะได้รับเกียรติในสิ่งที่เขาทำ

ศาสนาที่แท้จริง

26 ถ้าใครคิดว่าเขาเป็นคนเคร่งศาสนา แต่ไม่รู้จักควบคุมลิ้นของตัวเอง เขาก็หลอกลวงตัวเอง การเคร่งศาสนาของเขา ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

27 ศาสนาที่บริสุทธิ์ และแท้จริงตามแบบของพระเจ้าพระบิดา คือ การช่วยเหลือเด็กกำพร้าและแม่ม่ายที่เดือดร้อน และการรักษาตัวเองไม่ให้แปดเปื้อนกับความชั่วร้ายของโลกนี้

อาโมส 8

นิมิตเกี่ยวกับผลไม้ที่สุกงอม

พระยาห์เวห์แสดงสิ่งนี้ให้ผมเห็น คือผลไม้ที่สุกงอมตะกร้าหนึ่ง พระยาห์เวห์พูดว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร”

ผมตอบว่า “ผลไม้ที่สุกงอมตะกร้าหนึ่งครับ”

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “จุดจบ[a] มาถึงอิสราเอลคนของเราแล้ว เราจะไม่ยอมยกโทษให้กับพวกเขาอีกต่อไป ในวันนั้น เสียงร้องเพลงต่างๆในวิหารจะกลายเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น “จะมีซากศพมากมาย และผู้คนก็จะมาขนพวกมันไปทิ้งอย่างเงียบๆในที่ทุกหนแห่ง”

นักธุรกิจสนใจแต่กำไรเท่านั้น

ฟังให้ดีเจ้าที่ชอบเหยียบย่ำคนจน
    และพยายามกำจัดพวกเขาให้หมดไปจากแผ่นดิน
เจ้าพูดว่า “เมื่อไหร่เทศกาลพระจันทร์ใหม่จะหมดนะ
    เราจะได้ไปขายข้าวสารของเราซะที
เมื่อไหร่วันหยุดทางศาสนาจะหมดนะ
    เราจะได้เปิดคลังข้าวสารของเราออกขาย
    เราจะทำถ้วยตวงให้เล็กกว่าปกติ ทำลูกตุ้มให้หนักกว่ามาตรฐานและโกงตราชั่ง
เราจะเอาแกลบมาผสมข้าวสารขาย
    แล้วเราจะเอาเงินซื้อคนจนมาเป็นทาส
    และซื้อคนที่ขัดสนด้วยราคาเท่ากับรองเท้าสานคู่เดียว”

พระยาห์เวห์ ที่คนอิสราเอลภาคภูมิใจนั้น พระองค์สาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์เองว่า

“เราจะไม่มีวันลืมความชั่วร้ายทั้งหลายที่พวกเขาทำลงไป
แผ่นดินจะสะท้านเพราะสิ่งที่เจ้าทำนี้
    และทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินนั้นก็จะเศร้าโศกเสียใจ
ทั้งแผ่นดินก็จะเอ่อท่วมท้นขึ้นมาเหมือนแม่น้ำไนล์
    และจะซัดไปซัดมา สุดท้ายก็จมลงเหมือนแม่น้ำไนล์ในอียิปต์”
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
    “ในวันนั้นเราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกในตอนเที่ยงวัน
    และจะทำให้โลกนี้มืดมนไปตอนกลางวัน
10 เราจะเปลี่ยนการเฉลิมฉลองของเจ้าให้กลายเป็นเวลาเศร้าหมอง
    และเปลี่ยนเสียงเพลงของเจ้าให้กลายเป็นเพลงไว้ทุกข์
เราจะทำให้เจ้าต้องสวมใส่ผ้ากระสอบรอบเอวของเจ้าทุกคน
    และจะทำให้พวกเจ้าต้องโกนหัวเพราะเศร้าโศกเสียใจ
เราจะทำให้ความเศร้าโศกนั้นเหมือนเศร้าโศกที่สูญเสียลูกชายเพียงคนเดียวไป
    วันเวลานั้นจะขมขื่นถึงที่สุด”

เวลาแห่งความอดอยากพระคำของพระเจ้า

11 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า

“ดูสิ วันเหล่านั้นกำลังจะมาแล้ว
    เป็นวันที่เราจะส่งความอดอยากหิวโหยมาในแผ่นดินนี้
มันไม่ใช่ความอดอยากหิวโหยอาหารและก็ไม่ใช่ความกระหายน้ำด้วย
    แต่จะเป็นความอดอยากหิวโหยโอกาสที่จะได้ฟังพระคำของพระยาห์เวห์
12 พวกเขาท่องไปจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงทะเลตาย
    และท่องจากเหนือจดตะวันออก
พวกเขาจะท่องกลับไปกลับมาเพื่อแสวงหาพระคำของพระยาห์เวห์
    แต่พวกเขาก็จะหาไม่เจอ
13 ในวันนั้น หญิงสาวสวยๆและคนหนุ่มๆ
    ก็จะเป็นลมล้มพับไปเพราะความกระหาย
14 และพวกนั้นที่สาบานว่าจะทำโน่นทำนี่โดยอ้างพระรูปปั้นของสะมาเรีย[b]
    อ้างพระเจ้าของดาน[c]
อ้างพระเจ้าของเบเออร์เชบา[d]
    คนที่สาบานพวกนี้จะล้มลงและจะไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกเลย”

ลูกา 3

คำสอนของยอห์น

(มธ. 3:1-12; มก. 1:1-8; ยน. 1:19-28)

จักรพรรดิทิเบริอัส[a] ปกครองบ้านเมืองมาเป็นเวลาสิบห้าปีแล้ว ขณะนั้นปอนทัส ปีลาต[b] เป็นผู้ว่าแคว้นยูเดีย เฮโรด[c] ปกครองแคว้นกาลิลี ส่วนฟีลิป[d] น้องชายของเฮโรด ปกครองแคว้นอิทูเรียกับแคว้นตราโคนิติส และลีซาเนียสปกครองแคว้นอาบีเลน ในช่วงที่อันนาสกับคายาฟาส[e]เป็นนักบวชสูงสุด พระเจ้าให้ถ้อยคำกับยอห์น ลูกชายของเศคาริยาห์ ที่อาศัยอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง

ยอห์นจึงออกไปประกาศทั่วบริเวณลุ่มแม่น้ำจอร์แดนว่า “กลับตัวกลับใจเสียใหม่ และเข้าพิธีจุ่มน้ำ แล้วพระเจ้าจะยกโทษความผิดบาปของพวกคุณ” เรื่องนี้เป็นไปตามที่ได้เขียนไว้ในหนังสือของอิสยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า ที่ว่า

“มีคนหนึ่งร้องตะโกนอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งว่า
เตรียมทางให้เรียบร้อยสำหรับองค์เจ้าชีวิต
    ทำทางให้ตรงสำหรับพระองค์
หุบเขาทุกแห่งต้องถมให้เต็ม
    ภูเขาและเนินเขาทุกลูกต้องดันให้ราบ
ทางที่คดเคี้ยวต้องทำให้ตรง
    ทางที่ขรุขระต้องปรับให้เรียบ
แล้วคนทั้งหลายจะได้เห็นความรอดจากพระเจ้า”[f]

ฝูงชนมากมายหลั่งไหลกันมาให้ยอห์นทำพิธีจุ่มน้ำให้ ยอห์นต่อว่าพวกเขาว่า “พวกชาติอสรพิษ มีใครเตือนเจ้าให้หลบหนีจากการลงโทษที่พระเจ้ากำลังจะส่งมา ทำตัวให้สมกับที่ได้กลับตัวกลับใจด้วย อย่าแม้แต่จะคิดเลยว่า ‘เราเป็นลูกหลานของอับราฮัม’ เพราะพระเจ้าสามารถที่จะเสกก้อนหินเหล่านี้ให้เป็นลูกหลานของอับราฮัมก็ได้ พระองค์ได้เตรียมขวานไว้พร้อมแล้ว และต้นไม้ทุกต้นที่ไม่เกิดผลดี จะถูกโค่นและโยนทิ้งลงในไฟ”

10 คนจึงถามว่า “แล้วพวกเราจะต้องทำยังไง”

11 เขาตอบว่า “คนที่มีเสื้อสองตัวก็แบ่งตัวหนึ่งให้กับคนที่ไม่มีเสื้อใส่ และคนที่มีอาหารก็ให้ทำแบบเดียวกัน”

12 เมื่อพวกคนเก็บภาษีมาเข้าพิธีจุ่มน้ำ พวกเขาถามยอห์นว่า “อาจารย์ พวกเราจะต้องทำยังไง”

13 ยอห์นตอบว่า “อย่าเก็บภาษีเกินอัตรา”

14 พวกทหารบางคนถามยอห์นว่า “แล้วพวกเราล่ะจะต้องทำยังไง” ยอห์นตอบว่า “อย่ารีดไถ หรือใส่ร้ายใคร และให้พอใจกับค่าจ้างของตัวเอง”

15 ทุกคนกำลังรอคอยให้พระคริสต์มา พวกเขาจึงสงสัยว่า ยอห์นอาจจะเป็นพระคริสต์ก็ได้ 16 ยอห์นจึงตอบทุกคนว่า “ผมทำพิธีจุ่มให้กับพวกคุณด้วยน้ำ แต่จะมีคนๆหนึ่งที่กำลังจะมา เขายิ่งใหญ่กว่าผมอีก ตัวผมเองก็ยังไม่ดีพอแม้แต่จะแก้เชือกรองเท้าให้กับเขาเลย เขาจะมาทำพิธีจุ่มให้กับพวกคุณด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ 17 เขาถือพลั่วพร้อมแล้วที่จะแยกแกลบออกจากข้าว แล้วทำความสะอาดลานข้าวด้วยการเก็บรวบรวมเมล็ดข้าวสาลีไว้ในยุ้งฉางของเขา ส่วนแกลบก็เอาไปเผาด้วยไฟที่ไม่มีวันดับ” 18 ในขณะที่ประกาศข่าวดีนี้ ยอห์นพูดอีกหลายอย่าง เพื่อชักชวนให้คนพวกนี้กลับตัวกลับใจเสียใหม่

สาเหตุที่งานของยอห์นสิ้นสุดลงในภายหลัง

19 ยอห์นต่อว่าเฮโรดผู้ครองแคว้น เพราะเขาไปเอานางเฮโรเดียสเมียของน้องชายมาเป็นเมียตัวเอง และเพราะเขาทำเรื่องชั่วร้ายอื่นๆ 20 เฮโรดก็เลยทำชั่วเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเรื่องคือจับยอห์นขังคุก

ยอห์นทำพิธีจุ่มให้พระเยซู

(มธ. 3:13-17; มก. 1:9-11)

21 ในช่วงที่ทุกคนมาเข้าพิธีจุ่มน้ำนั้น พระเยซูก็เข้าพิธีจุ่มน้ำด้วย เมื่อพระองค์กำลังอธิษฐานอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก 22 พระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งมีรูปร่างเหมือนนกพิราบได้ลงมาอยู่กับพระองค์ จากนั้นมีเสียงหนึ่งดังมาจากสวรรค์ว่า “ลูกเป็นลูกที่รักของพ่อ พ่อภูมิใจในตัวลูกมาก”

บรรพบุรุษของพระเยซู

(มธ. 1:1-17)

23 พระเยซูเริ่มงานของพระองค์เมื่ออายุได้ประมาณสามสิบปี คนทั่วไปคิดว่าพระองค์เป็นลูกของโยเซฟ

โยเซฟเป็นลูกชายของเฮลี

24 เฮลีเป็นลูกชายของมัทธัต

มัทธัตเป็นลูกชายของเลวี

เลวีเป็นลูกชายของเมลคี

เมลคีเป็นลูกชายของยันนาย

ยันนายเป็นลูกชายของโยเซฟ

25 โยเซฟเป็นลูกชายของมัทธาธีอัส

มัทธาธีอัสเป็นลูกชายของอาโมส

อาโมสเป็นลูกชายของนาฮูม

นาฮูมเป็นลูกชายของเอสลี

เอสลีเป็นลูกชายของนักกาย

26 นักกายเป็นลูกชายของมาอาท

มาอาทเป็นลูกชายของมัทธาธีอัส

มัทธาธิอัสเป็นลูกชายของเสเมอิน

เสเมอินเป็นลูกชายของโยเสค

โยเสคเป็นลูกชายของโยดา

27 โยดาเป็นลูกชายของโยอานัน

โยอานันเป็นลูกชายของเรซา

เรซาเป็นลูกชายของเศรุบบาเบล

เศรุบบาเบลเป็นลูกชายของเชอัลทิเอล

เชอัลทิเอลเป็นลูกชายของเนรี

28 เนรีเป็นลูกชายของเมลคี

เมลคีเป็นลูกชายของอัดดี

อัดดีเป็นลูกชายของโคสัม

โคสัมเป็นลูกชายของเอลมาดัม

เอลมาดัมเป็นลูกชายของเอร์

29 เอร์เป็นลูกชายของโยชูวา

โยชูวาเป็นลูกชายของเอลีเยเซอร์

เอลีเยเซอร์เป็นลูกชายของโยริม

โยริมเป็นลูกชายของมัทธัต

มัทธัตเป็นลูกชายของเลวี

30 เลวีเป็นลูกชายของสิเมโอน

สิเมโอนเป็นลูกชายของยูดาห์

ยูดาห์เป็นลูกชายของโยเซฟ

โยเซฟเป็นลูกชายของโยนาม

โยนามเป็นลูกชายของเอลียาคิม

31 เอลียาคิมเป็นลูกชายของเมเลอา

เมเลอาเป็นลูกชายของเมนนา

เมนนาเป็นลูกชายของมัทตะธา

มัทตะธาเป็นลูกชายของนาธัน

นาธันเป็นลูกชายของดาวิด

32 ดาวิดเป็นลูกชายของเจสซี

เจสซีเป็นลูกชายของโอเบด

โอเบดเป็นลูกชายของโบอาส

โบอาสเป็นลูกชายของสัลโมน

สัลโมนเป็นลูกชายของนาโชน

33 นาโชนเป็นลูกชายของอัมมีนาดับ

อัมมีนาดับเป็นลูกชายของอัดมิน

อัดมินเป็นลูกชายของอารนี

อารนีเป็นลูกชายของเฮสโรน

เฮสโรนเป็นลูกชายของเปเรศ

เปเรศเป็นลูกชายของยูดาห์

34 ยูดาห์เป็นลูกชายของยาโคบ

ยาโคบเป็นลูกชายของอิสอัค

อิสอัคเป็นลูกชายของอับราฮัม

อับราฮัมเป็นลูกชายของเทราห์

เทราห์เป็นลูกชายของนาโฮร์

35 นาโฮร์เป็นลูกชายของเสรุก

เสรุกเป็นลูกชายของเรอู

เรอูเป็นลูกชายของเปเลก

เปเลกเป็นลูกชายของเอเบอร์

เอเบอร์เป็นลูกชายของเชลาห์

36 เชลาห์เป็นลูกชายของไคนาน

ไคนานเป็นลูกชายของอารฟาซัด

อารฟาซัดเป็นลูกชายของเชม

เชมเป็นลูกชายของโนอาห์

โนอาห์เป็นลูกชายของลาเมค

37 ลาเมคเป็นลูกชายของเมธูเสลาห์

เมธูเสลาห์เป็นลูกชายของเอโนค

เอโนคเป็นลูกชายของยาเรด

ยาเรดเป็นลูกชายของมาหะลาเลล

มาหะลาเลลเป็นลูกชายของไคนาน

38 ไคนานเป็นลูกชายของเอโนช

เอโนชเป็นลูกชายของเสท

เสทเป็นลูกชายของอาดัม

และอาดัมเป็นลูกชายของพระเจ้า

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International