Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 ซามูเอล 24

ดาวิดตัดสินใจนับกองทัพของเขา

(1 พศด. 21:1-6)

24 ความโกรธของพระยาห์เวห์ลุกขึ้นต่อต้านชาวอิสราเอลอีกครั้ง พระองค์ยุให้ดาวิดไปต่อต้านคนอิสราเอล พระยาห์เวห์บอกดาวิดว่า “ไปนับชาวอิสราเอลและยูดาห์”

กษัตริย์ดาวิดจึงพูดกับโยอาบและพวกแม่ทัพ[a] ที่อยู่กับเขาว่า “ไปหาชาวอิสราเอลทุกเผ่าตั้งแต่ดานจนถึงเบเออร์เชบา[b] และลงทะเบียนนักรบเหล่านั้นเพื่อเราจะได้รู้ว่าพวกเขามีจำนวนเท่าใด”

แต่โยอาบตอบกษัตริย์ว่า “ขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพิ่มจำนวนกองทัพขึ้นอีกหนึ่งร้อยเท่า และขอให้ดวงตาของกษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าได้มองเห็นเรื่องนี้ แต่กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าต้องการนับพลอย่างนี้ไปทำไมกัน”

แต่อย่างไรก็ตาม คำพูดของกษัตริย์ก็มีอำนาจเหนือโยอาบและบรรดาแม่ทัพเหล่านั้น พวกเขาจึงออกไปเพื่อไปลงทะเบียนนักรบของอิสราเอล หลังจากข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา พวกเขาตั้งค่ายอยู่ใกล้อาโรเออร์ในช่องแคบทางใต้ของเมือง จากนั้นก็ผ่านไปยังกาดและต่อไปที่ยาเซอร์

พวกเขาไปที่กิเลอาดและแคว้นตะทิมโหดฉิ และได้ไปถึงดานยาอันและอ้อมไปยังไซดอน แล้วพวกเขาตรงไปที่ป้อมของไทระและเมืองทั้งหมดของชาวฮีไวต์และชาวคานาอัน ในที่สุด พวกเขาก็ไปถึงเบเออร์เชบาในเนเกบของยูดาห์ หลังจากที่พวกเขาไปทั่วแผ่นดินแล้ว พวกเขากลับเยรูซาเล็มโดยใช้เวลาทั้งหมดเก้าเดือนกับอีกยี่สิบวัน

โยอาบรายงานจำนวนนักรบให้กษัตริย์ ในอิสราเอลมีคนที่ร่างกายสมบูรณ์ที่สามารถถือดาบได้ทั้งหมดแปดแสนคน และในยูดาห์มีห้าแสนคน

พระยาห์เวห์ลงโทษดาวิด

(1 พศด. 21:7-17)

10 ดาวิดรู้สึกสำนึกผิดขึ้นหลังจากที่เขาได้นับนักรบ และเขาพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “ข้าพเจ้าได้ทำบาปอย่างใหญ่หลวงในสิ่งที่ข้าพเจ้าทำไป ตอนนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าขอให้พระองค์เอาความผิดของข้าพเจ้าผู้รับใช้ไปด้วยเถิด ข้าพเจ้าได้ทำในสิ่งที่โง่เขลามาก” 11 ในวันรุ่งขึ้นตอนดาวิดตื่น พระยาห์เวห์ส่งคำพูดมาถึงกาดผู้พูดแทนพระเจ้าผู้ที่เห็นนิมิตของดาวิด ให้ไปพูดกับดาวิดว่า 12 “ไปบอกดาวิดว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พูด เราจะให้ทางเลือกแก่เจ้าสามทาง เลือกมาหนึ่งทางที่เจ้าจะให้เราทำกับเจ้า’”

13 กาดจึงไปพบดาวิดและพูดกับเขาว่า “จะให้สิ่งใดเกิดขึ้นกับท่านบ้างในสามสิ่งนี้ คือ

ความอดอยากหิวโหยสามปี[c] บนแผ่นดินของท่าน

หรือการหลบหนีจากศัตรูของท่านสามเดือนในขณะที่พวกเขาตามล่าท่าน

หรือโรคระบาดบนแผ่นดินของท่านสามวัน

ตอนนี้ คิดให้ดีและตัดสินใจว่า ข้าพเจ้าควรจะตอบผู้ที่ส่งข้าพเจ้ามาว่าอย่างไรดี”

14 ดาวิดพูดกับกาดว่า “เรากำลังทุกข์ทรมานอย่างหนัก ปล่อยให้พวกเราอยู่ในกำมือของพระยาห์เวห์เถิด เพราะความเมตตาของพระองค์ยิ่งใหญ่ แต่อย่าให้เราตกอยู่ในกำมือมนุษย์เลย”

15 พระยาห์เวห์จึงส่งโรคระบาดให้อิสราเอลตั้งแต่เช้าจนกระทั่งสิ้นสุดวันตามที่กำหนดไว้ และมีประชาชนตั้งแต่ดานจนถึงเบเออร์เชบา ล้มตายไปเจ็ดหมื่นคน 16 เมื่อทูตสวรรค์ยื่นมือของตนออกเพื่อทำลายเยรูซาเล็ม พระยาห์เวห์เปลี่ยนใจเรื่องการทำลายนั้น และพูดกับทูตสวรรค์ผู้ที่กำลังทำให้ประชาชนเจ็บป่วยอยู่นั้นว่า “พอแล้ว เก็บมือท่านกลับคืนได้แล้ว” ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์จึงอยู่ที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์[d] ชาวเยบุส

ดาวิดถวายเครื่องบูชาที่ลานนวดข้าว

(1 พศด. 21:18-27)

17 เมื่อดาวิดเห็นทูตสวรรค์ผู้ทำลายประชาชน เขาพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “ข้าพเจ้าคือคนที่ทำบาปและทำผิดคนนั้น พวกนั้นเป็นเพียงแกะเท่านั้น พวกเขาได้ทำอะไรลงไปเล่า ขอให้มือพระองค์ตกลงมาที่ข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้าเถิด”

18 ในวันนั้น กาดไปหาดาวิดและพูดกับเขาว่า “ให้ขึ้นไปสร้างแท่นบูชาให้พระยาห์เวห์ ที่บนลานนวดข้าวของ อาราวนาห์ชาวเยบุสนั้น” 19 ดาวิดจึงขึ้นไปตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งผ่านมาทางกาดถึงเขา 20 เมื่ออาราวนาห์มองเห็นกษัตริย์และคนของเขากำลังตรงมา เขาออกไปและก้มหน้ากราบลงถึงพื้นต่อหน้ากษัตริย์ 21 อาราวนาห์พูดว่า “กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้ามาหาผู้รับใช้ของพระองค์ทำไมหรือ”

ดาวิดตอบว่า “เพื่อที่จะซื้อลานนวดข้าวของเจ้า เราจะได้สร้างแท่นบูชาให้พระยาห์เวห์ โรคระบาดของประชาชนจะได้หายไป”

22 อาราวนาห์พูดกับดาวิดว่า “กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าจะเอาอะไรก็ได้ตามที่พระองค์พอใจ และไปถวายเครื่องบูชาตามที่ท่านเห็นสมควร นี่คือพวกวัวตัวผู้เอาไว้ใช้เป็นเครื่องเผาบูชา และนี่คือเลื่อนนวดข้าวและแอก เอาไว้ใช้เป็นฟืน 23 ข้าแต่กษัตริย์ ข้าพเจ้าขอยกของทั้งหมดนี้ให้กับกษัตริย์” อาราวนาห์พูดกับกษัตริย์ด้วยว่า “ขอให้พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน ยอมฟังคำอธิษฐานของท่านเถิด”

24 แต่กษัตริย์ตอบอาราวนาห์ว่า “ไม่ได้หรอก เรายืนกรานที่จะจ่ายเงินให้เจ้า เราจะไม่ถวายเครื่องเผาบูชาที่เราได้มาฟรีๆให้กับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา”

ดาวิดจึงซื้อลานนวดข้าว และซื้อพวกวัวตัวผู้ เป็นเงินมากกว่าครึ่งกิโลกรัม 25 ดาวิดสร้างแท่นบูชาให้พระยาห์เวห์ขึ้นที่นั่นและถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาอื่นๆเพื่อคืนดีกับพระเจ้า แล้วพระยาห์เวห์ก็ตอบรับคำอธิษฐานของเขาสำหรับคนในแผ่นดิน และโรคระบาดในอิสราเอลก็หยุดลง

กาลาเทีย 4

ผมกำลังพูดว่า ตอนที่ผู้รับมรดกยังเป็นเด็กอยู่ เขาก็ไม่แตกต่างไปจากทาสหรอก ถึงแม้เขาจะเป็นเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างก็ตาม เพราะเขาจะต้องเชื่อฟังผู้ปกครองและผู้ดูแลมรดก จนกว่าจะถึงเวลาที่พ่อของเขากำหนดไว้ พวกเราก็เหมือนกัน เมื่อพวกเรายังเป็นเด็ก พวกเราตกเป็นทาสอยู่ภายใต้อำนาจของพวกวิญญาณที่ครอบครองโลกนี้ แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พระเจ้าก็ได้ส่งพระบุตรของพระองค์โดยคลอดออกมาจากผู้หญิง และมีชีวิตอยู่ภายใต้กฎ เพื่อมาปลดปล่อยคนที่อยู่ภายใต้กฎให้เป็นอิสระ และเพื่อเราทุกคนจะได้เป็นลูกของพระเจ้า

คุณได้เป็นลูกของพระองค์แล้ว พระองค์จึงส่งพระวิญญาณของพระบุตรของพระองค์เข้ามาอยู่ในใจของพวกเรา เพื่อพวกเราจะร้องเรียกพระองค์ว่า “อับบา พ่อ” คุณจึงไม่ใช่ทาสอีกต่อไป แต่เป็นลูกของพระเจ้า และเมื่อเป็นลูกก็เป็นผู้รับมรดกด้วย

ความรักของเปาโลต่อพี่น้องคริสเตียนในแคว้นกาลาเทีย

แต่ก่อน ตอนที่พวกคุณยังไม่รู้จักพระเจ้านั้น คุณก็เป็นทาสของพวกวิญญาณที่ไม่ได้เป็นพวกเทพเจ้าอะไรเลย แต่ตอนนี้คุณได้รู้จักพระเจ้าแล้ว หรือที่ถูกคือพระเจ้าได้รู้จักคุณแล้ว คุณยังอยากจะกลับไปเป็นทาสของพวกวิญญาณที่ครอบครองโลกนี้ ที่อ่อนแอและน่าสมเพชเหล่านั้นอีกหรือ 10 คุณหันไปนับถือวัน เดือน ฤดู และปีของชาวยิว 11 ผมกลัวเหลือเกินว่า งานที่ผมได้ทุ่มเทไปกับพวกคุณนั้นจะเปล่าประโยชน์

12 พี่น้องครับ ผมขอร้องให้พวกคุณเป็นเหมือนผม เพราะผมได้เป็นเหมือนคุณ พวกคุณไม่ได้ทำอะไรผิดต่อผมเลย 13 คุณก็รู้อยู่แล้วว่า ตอนแรกที่ผมมาประกาศข่าวดีให้กับคุณนั้น เป็นเพราะผมเจ็บป่วย 14 ตอนนั้น ถึงแม้การเจ็บป่วยจะเป็นภาระให้กับคุณ แต่คุณก็ไม่ได้รังเกียจหรือขับไล่ผม แต่กลับต้อนรับผมเหมือนกับผมเป็นทูตสวรรค์ หรือเป็นพระเยซูคริสต์เสียเอง 15 แล้วตอนนี้ เกียรติพวกนั้นหายไปไหนหมดแล้ว ผมเป็นพยานได้ว่า ในตอนนั้น ถ้าคุณควักลูกตาให้กับผมได้ คุณก็คงทำไปแล้ว 16 แล้วตอนนี้ผมกลายเป็นศัตรูของคุณ เพราะผมพูดความจริงกับคุณหรือ

17 คนพวกนั้น[a] เอาใจใส่คุณเป็นพิเศษ แต่ไม่ได้หวังดีหรอก พวกเขาแค่อยากจะดึงคุณออกไปจากผม เพื่อคุณจะได้ไปสนใจพวกเขาแทน 18 แน่นอนมันดีอยู่แล้วที่จะมีคนเอาใจใส่คุณเป็นพิเศษจากแรงจูงใจที่ดีด้วยความหวังดี ไม่ใช่มาจากผมคนเดียวเท่านั้นตอนที่ผมอยู่ด้วย 19 ลูกๆที่รัก ผมจะต้องเจ็บปวดเหมือนเจ็บคลอดลูก เพราะพวกคุณไปอีกจนกว่าพระคริสต์จะก่อตัวขึ้นในชีวิตคุณ 20 ผมอยากจะอยู่กับคุณตอนนี้จริงๆผมจะได้ไม่ต้องพูดกับคุณด้วยน้ำเสียงแบบนี้ เพราะพวกคุณทำให้ผมสับสนไปหมด

ตัวอย่างของนางฮาการ์และนางซาราห์

21 พวกคุณบางคนอยากอยู่ภายใต้กฎของโมเสส คุณรู้หรือเปล่าว่ากฎนั้นเขียนไว้ว่าอย่างไร 22 พระคัมภีร์ เขียนไว้ว่า อับราฮัม มีลูกสองคน คนหนึ่งเกิดจากหญิงที่เป็นทาส ส่วนอีกคนเกิดจากหญิงที่เป็นอิสระ 23 ลูกของหญิงที่เป็นทาสนั้นเกิดตามธรรมชาติ แต่ลูกของหญิงที่เป็นอิสระนั้นเกิดจากคำสัญญาของพระเจ้า

24 เรื่องนี้ยังมีความหมายอีกอย่างหนึ่งคือ หญิงสองคนนี้เป็นตัวแทนของสัญญาสองฉบับ ฉบับแรกพระเจ้าทำขึ้นที่ภูเขาซีนาย นางฮาการ์ซึ่งเป็นหญิงทาส ก็เปรียบเหมือนสัญญาฉบับนี้ คนที่เกิดมาในครอบครัวของนางก็จะเป็นทาส 25 นางฮาการ์ถือเป็นตัวแทนของภูเขาซีนาย[b] ที่อยู่ในประเทศอาระเบีย และก็คือเมืองเยรูซาเล็มในตอนนี้ เพราะทั้งตัวเธอและลูกหลานต่างก็เป็นทาส 26 แต่นางซาราห์ที่เป็นหญิงอิสระ ก็เปรียบเหมือนเมืองเยรูซาเล็มที่อยู่บนสวรรค์ เธอเป็นแม่ของพวกเรา 27 เหมือนกับที่พระคัมภีร์เขียนถึงเธอว่า

“หญิงที่เป็นหมันและไม่เคยคลอดลูก
    ให้ดีใจเถิด
คนที่ไม่เคยเจ็บท้องคลอดลูก
    ให้เปล่งเสียงร้องยินดี
เดี๋ยวนี้คุณโดดเดี่ยวอ้างว้าง[c]
    แต่คุณจะมีลูกมากกว่าหญิงที่มีสามี”[d]

28 พี่น้องครับ พวกคุณเป็นลูกที่เกิดจากคำสัญญาของพระเจ้าเหมือนกับอิสอัค 29 แต่ในเวลานั้น ลูกที่เกิดตามธรรมชาติ ได้ข่มเหงอิสอัคผู้ที่เกิดจากอำนาจของพระวิญญาณ ซึ่งก็เหมือนกับเหตุการณ์ที่คุณเจอในตอนนี้ 30 แต่พระคัมภีร์พูดว่าอย่างไร “ไล่หญิงที่เป็นทาสและลูกของเธอออกไป เพราะลูกของหญิงที่เป็นทาส จะมารับมรดกร่วมกับลูกของหญิงที่เป็นอิสระไม่ได้”[e] 31 ดังนั้น พี่น้องครับ พวกเราไม่ใช่ลูกของหญิงที่เป็นทาส แต่เป็นลูกของหญิงที่เป็นอิสระ

เอเสเคียล 31

อัสซีเรียเป็นเหมือนกับต้นสนซีดาร์

31 ในวันที่หนึ่งเดือนสาม ปีที่สิบเอ็ด[a]

คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดกับกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์และประชาชนของเขาว่า

‘เราจะเปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ของเจ้ากับใครดี
ลองนึกถึงอัสซีเรียสิ แต่ก่อนเคยเป็นต้นสนซีดาร์ในเลบานอนที่มีกิ่งก้านสาขาสวยงาม
    มีร่มเงาปกคลุมป่า
    มีลำต้นที่สูงมาก
ยอดของมันอยู่ท่ามกลางเมฆ
น้ำได้หล่อเลี้ยงมัน
    มหาสมุทรใต้ดินได้ทำให้มันเติบโตสูงขึ้น
ลำธารที่ไหลออกจากมหาสมุทรใต้ดินนั้นต่างไหลไปรอบๆที่ที่ต้นนั้นปลูกอยู่
    และมหาสมุทรใต้ดินได้ส่งธารน้ำของมันออกไปหล่อเลี้ยงต้นไม้ทั้งหลายของท้องทุ่ง
ต้นนั้นจึงเติบโตสูงขึ้น สูงกว่าต้นใดๆในท้องทุ่ง
    กิ่งของมันแตกออกมามากมาย
และก้านก็ยาวออกไป
    มันแผ่ขยายเพราะมีน้ำมาก
นกบนท้องฟ้าทั้งหมดได้มาทำรังอยู่บนกิ่งของมัน
    สัตว์ป่าต่างๆในท้องทุ่งได้ออกลูกอยู่ใต้กิ่งก้านสาขาของมัน
ชนชาติที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายได้อาศัยอยู่ภายใต้ร่มเงาของมัน
มันงดงามด้วยความยิ่งใหญ่ของมัน
    และด้วยกิ่งก้านที่แผ่กระจายออก
    เพราะรากของมันได้หยั่งลงไปถึงน้ำมากมาย
ต้นสนซีดาร์ทั้งหลายในสวนของพระเจ้ายังไม่อาจแข่งกับมันได้
    ทั้งเหล่าต้นสนก็ไม่อาจเทียบกับกิ่งของมันได้
ต้นเปลนก็เปรียบไม่ได้กับกิ่งก้านของมัน
    ไม่มีต้นไม้ไหนเลยในสวนของพระเจ้าที่จะสวยสู้มันได้
เราได้สร้างมันให้สวยงามด้วยกิ่งก้านมากมาย
    ต้นไม้ทั้งหมดในสวนเอเดน ที่เป็นสวนของพระเจ้า ก็ยังอิจฉามันเลย’”

10 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด

“เพราะว่ามันสูงลิบลิ่วจนยอดของมันอยู่ท่ามกลางเมฆ

และมันลำพองในความสูงของมัน

11 เราจึงได้มอบมันให้กับผู้ครอบครองของชนชาติทั้งหลาย และคนนั้นได้ลงโทษมันให้สาสมกับความชั่วร้ายของมัน เราได้โยนมันทิ้งไป 12 ชนต่างชาติที่เหี้ยมโหดที่สุดได้โค่นมันลงและทิ้งมันไว้ กิ่งทั้งหลายของมันได้ตกลงตามเทือกเขาและตามหุบเขา ก้านที่แตกหักของมันได้ตกอยู่ตามหุบเขาลึกทั้งหมดในแผ่นดิน ชนชาติทั้งหมดบนโลกได้ออกมาจากภายใต้ร่มเงาของมันและทิ้งมันไว้

13 นกทั้งหลายบนท้องฟ้าได้มาอยู่ตามลำต้นที่ล้มลงของมัน สัตว์ป่าทั้งหมดแห่งท้องทุ่งได้มาอาศัยอยู่ตามกิ่งก้านของมัน

14 เรื่องนี้เกิดขึ้นเพื่อ จะได้ไม่มีต้นไม้อื่นที่ขึ้นอยู่ข้างแม่น้ำ ที่จะเติบโตสูงใหญ่ด้วยความหยิ่งผยอง และมียอดอยู่ท่ามกลางเมฆอย่างนั้นอีก จะไม่มีต้นไม้ใดที่จะมีน้ำหล่อเลี้ยงให้มีลำต้นสูงขนาดนั้นอีก

เพราะพวกมันทั้งหมดถูกกำหนดให้ตายไปอยู่ยังโลกเบื้องล่างท่ามกลางคนตาย และให้ไปอยู่กับพวกที่ลงไปอยู่ในหลุมลึกนั้น”

15 นี้คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด

“ในวันที่มันลงไปอยู่ในแดนคนตาย

เราได้ทำให้มีการไว้ทุกข์เพื่อมัน เรากลบมันด้วยมหาสมุทรใต้ดิน เราได้ทำเขื่อนกั้นแม่น้ำทั้งหลายของมัน เราทำให้เลบานอนไว้ทุกข์ให้กับมัน และต้นไม้ทั้งหมดในท้องทุ่งได้เหี่ยวแห้งไปเพราะมัน 16 เราได้ทำให้ชนชาติต่างๆสั่นสะท้านด้วยเสียงล้มลงของมัน เมื่อเราได้นำมันลงสู่แดนคนตาย ไปอยู่ร่วมกันกับพวกที่ลงไปในหลุมลึกนั้น ต้นไม้ในสวนเอเดนทั้งหมด และต้นไม้ที่ได้รับเลือกมาและดีที่สุดของเลบานอน คือต้นไม้ทั้งหมดที่ได้รับน้ำอย่างอุดม ได้รับการปลอบใจในโลกเบื้องล่าง[b]

17 พวกที่อาศัยอยู่ภายใต้ร่มเงาของมัน คือชนชาติที่อยู่ฝ่ายเดียวกับมัน ได้ลงไปในแดนผู้ตายกับมันด้วย และไปอยู่ร่วมกับพวกที่ถูกฆ่าด้วยดาบ

18 กษัตริย์ฟาโรห์ เคยมีต้นไม้ต้นไหนในสวนเอเดน ที่ยิ่งใหญ่และมีบารมีเหมือนกับเจ้าไหม

ตอนนี้ เจ้าจะต้องลงไปอยู่กับต้นไม้ของสวนเอเดนเหล่านั้นในโลกเบื้องล่าง และเจ้าจะต้องนอนอยู่ท่ามกลางพวกที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบ[c] และอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้นที่ถูกฆ่าด้วยดาบ

ฟาโรห์และประชาชนทั้งหมดของเขาก็จะเป็นอย่างนั้นแหละ”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

สดุดี 79

อธิษฐานให้พระองค์เมตตาเมืองเยรูซาเล็ม

เพลงสดุดีของอาสาฟ

ข้าแต่พระเจ้า คนต่างชาติได้บุกรุกเข้ามาในแผ่นดินของพระองค์
    พวกเขาทำให้วิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์มัวหมอง
    และทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
พวกเขาทิ้งซากศพของผู้รับใช้พระองค์ให้เป็นอาหารของฝูงนกในอากาศ
    และทิ้งเนื้อหนังของคนที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ให้เป็นอาหารของสัตว์ป่า
พวกศัตรูเทเลือดของคนของพระองค์
    อย่างกับน้ำไปทั่วเยรูซาเล็มจนไม่เหลือใครที่จะอยู่ฝังศพ
พวกเรากลายเป็นสิ่งที่เพื่อนบ้านพากันดูหมิ่นดูแคลน
    กลายเป็นตัวตลกให้ผู้คนรอบข้างหัวเราะเยาะ

ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์จะโกรธพวกเราไปอีกนานแค่ไหน ตลอดไปหรือ
    ความหึงหวงของพระองค์จะเผาผลาญเหมือนไฟไปอีกนานแค่ไหน
เทความโกรธเกรี้ยวของพระองค์ใส่ชนชาติต่างๆที่ไม่ยอมรับสิทธิอำนาจของพระองค์ด้วยเถิด
    เทใส่อาณาจักรต่างๆที่ไม่ได้อธิษฐานต่อพระองค์
เพราะคนเหล่านั้นแหละเขมือบคนของยาโคบ
    และทำลายแผ่นดินของพวกเขา

ขออย่าได้ลงโทษเราเพราะความผิดบาปของบรรพบุรุษเรา
    ได้โปรดรีบมาแสดงความเมตตาต่อพวกเราเถิด
    เพราะพวกเราหมดสิ้นหนทางแล้ว
ข้าแต่พระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดของเรา ช่วยพวกเราด้วยเถิด
    เพื่อคนจะได้ให้เกียรติกับชื่อของพระองค์
ช่วยกู้ชีวิตและลบความผิดบาปของพวกเราด้วยเถิด
    เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของพระองค์
10 ทำไมพระองค์ปล่อยให้ชนชาติเหล่านั้นพูดกันว่า
    “ไหนล่ะ พระเจ้าของพวกมัน”
ขอพระองค์ช่วยแก้แค้นชนชาติเหล่านั้นให้เราเห็นกับตา
    คนเหล่านั้นที่ทำให้ผู้รับใช้ของพระองค์ต้องหลั่งเลือด

11 ขอพระองค์ฟังเสียงคร่ำครวญของผู้ถูกกักขังเถิด
    ขอช่วยเหลือคนเหล่านั้นที่ถูกตัดสินประหารให้รอดชีวิตด้วยแขนอันทรงพลังของพระองค์
12 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต ขอลงโทษเพื่อนบ้านของพวกเราที่ดูหมิ่นดูแคลนพระองค์
    ถึงเจ็ดเท่าที่เขากระทำต่อพระองค์ด้วยเถิด
13 แล้วพวกเรา ที่เป็นคนของพระองค์ที่เป็นฝูงแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์
    จะได้ขอบคุณพระองค์ตลอดไป
    แล้วพวกเราจะเล่าถึงการกระทำอันน่าสรรเสริญของพระองค์

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International