M’Cheyne Bible Reading Plan
การกบฏของเชบา
20 ตอนนั้น เผอิญมีอันธพาลอยู่คนหนึ่งชื่อเชบาลูกชายบิครีชาวเบนยามินอยู่ที่นั่น เขาเป่าแตรขึ้นและตะโกนว่า
“พวกเราไม่มีส่วนแบ่งในดาวิด
ไม่มีส่วนในลูกชายของเจสซี
อิสราเอลเอ๋ย ขอให้ต่างคนต่างกลับไปยังเต็นท์ของตัวเองเถิด”
2 ดังนั้น คนอิสราเอล[a] ทั้งหมดก็ทิ้งดาวิดไปติดตามเชบาลูกชายบิครี แต่คนยูดาห์ยังคงติดตามกษัตริย์ของพวกเขาไปตลอดทางจากแม่น้ำจอร์แดนถึงเมืองเยรูซาเล็ม
3 เมื่อดาวิดกลับถึงวังของเขาในเยรูซาเล็ม เขาได้นำตัวเมียน้อย[b] สิบคนที่เขาเคยทิ้งไว้ให้ดูแลวังและให้พวกนางไปอยู่ในบ้าน[c] หลังหนึ่งและให้คุมตัวไว้ เขายังดูแลพวกนาง แต่ไม่ได้นอนกับพวกนาง พวกนางถูกกักบริเวณและมีชีวิตอยู่อย่างแม่หม้ายจนตาย
4 แล้วกษัตริย์ก็พูดกับอามาสาว่า “รวบรวมคนยูดาห์มาหาเราภายในสามวัน และตัวท่านก็มาอยู่ด้วย”
5 แต่เมื่ออามาสาไปรวบรวมคนยูดาห์ เขาใช้เวลามากกว่าสามวันที่กษัตริย์ให้เวลาเขาไว้
6 ดาวิดพูดกับอาบีชัยว่า “ตอนนี้ เชบาลูกชายบิครีจะเป็นอันตรายกับเรามากกว่าอับซาโลม เอาคนของเราไปตามล่าเขา ไม่อย่างนั้นเขาจะหลบหนีพวกเราไปอยู่ในเมืองที่เป็นป้อมปราการได้”
7 ดังนั้นคนของโยอาบและชาวเคเรธีกับชาวเปเลท[d] และนักรบที่แกร่งกล้าทั้งหมดได้ออกไปภายใต้การนำของอาบีชัย พวกเขาเดินทัพจากเมืองเยรูซาเล็มเพื่อไปตามล่าเชบาลูกชายบิครี
8 ในขณะที่พวกเขาอยู่ที่ก้อนหินใหญ่ในเมืองกิเบโอน อามาสาออกมาพบพวกเขา โยอาบกำลังสวมชุดทหารและมีดาบอยู่ในฝัก เหน็บอยู่ที่เข็มขัดข้างเอว เมื่อเขาก้าวออกมา ดาบก็หลุดออกจากฝัก 9 โยอาบพูดกับอามาสาว่า “พี่ชาย ท่านเป็นอย่างไรบ้าง”
แล้วโยอาบก็เอามือขวาจับเคราของอามาสามาเพื่อที่จะจูบเขา 10 อามาสาไม่ทันป้องกันตัวจากดาบในมือของโยอาบ โยอาบก็แทงดาบเข้าที่ท้องเขา ไส้ทะลักลงมากองที่พื้น โดยไม่ต้องแทงซ้ำอีก อามาสาก็ตาย แล้วโยอาบและอาบีชัยน้องชายของเขาก็ไล่ตามเชบาลูกชายบิครี 11 คนของโยอาบคนหนึ่งยืนอยู่ข้างอามาสาและพูดว่า “ใครที่อยู่ฝ่ายโยอาบและฝ่ายดาวิด ตามโยอาบไป”
12 อามาสานอนตายจมกองเลือดอยู่กลางถนน และมีชายคนหนึ่งเห็นว่ากองทัพทั้งหมดที่เดินผ่านมาก็จะมาหยุดดูศพของอามาสา เมื่อเขาเห็นอย่างนั้น เขาจึงลากศพของอามาสาออกจากถนนไปทิ้งที่ทุ่งนาและเอาเสื้อปิดเขาไว้ 13 หลังจากที่ศพของอามาสาถูกย้ายออกจากถนนแล้ว คนทั้งหมดก็ไปกับโยอาบเพื่อตามล่าเชบาลูกชายบิครี
14 เชบาผ่านอิสราเอลทุกเผ่าไป จนในที่สุดได้มาถึงอาเบล-เบธ-มาอาคาห์และตระกูลของบิครี[e] ได้มารวมตัวกันติดตามเขาไป
15 กองทัพทั้งหมดที่มากับโยอาบมาถึงที่อาเบล-เบธ-มาอาคาห์ และได้ล้อมเชบาไว้ที่นั่น พวกเขาได้สร้างเนินดินขึ้นติดกำแพงด้านนอก เพื่อปีนขึ้นบนกำแพง ขณะที่พวกเขากำลังทะลายกำแพงเพื่อให้มันพังลงมา
16 หญิงฉลาดผู้หนึ่งร้องเรียกพวกเขาจากในเมืองว่า “ฟังนะ ฟังนะ ช่วยเรียกโยอาบมาที่นี่หน่อย เรามีอะไรจะพูดกับเขา”
17 โยอาบจึงตรงไปหานางและนางก็ถามว่า “ท่านคือโยอาบหรือ”
เขาตอบว่า “ใช่แล้ว เราเอง”
นางพูดว่า “ฟังสิ่งที่ผู้รับใช้ท่านจะบอกกับท่านให้ดีนะ”
เขาพูดว่า “เรากำลังฟังอยู่”
18 นางพูดต่อว่า “นานมาแล้ว เขาพูดกันว่า ‘ใครมีคำถามอะไร ก็ไปหาคำตอบได้ที่เมืองอาเบล’ และปัญหาก็จะถูกแก้ไขเรียบร้อย 19 ฉันเป็นคนหนึ่งในชาวอิสราเอลที่รักสงบและจงรักภักดีต่อชาติ พวกท่านกำลังพยายามจะทำลายเมืองที่เป็นเมืองแม่ของอิสราเอล ทำไมท่านจึงต้องกลืนกินสิ่งซึ่งเป็นของพระยาห์เวห์ด้วย”
20 โยอาบตอบว่า “เราไม่ได้คิดทำอย่างนั้น เราไม่ได้คิดที่จะกลืนหรือทำลายเมือง 21 มันไม่ใช่เรื่องนั้น มีชายคนหนึ่งชื่อเชบาลูกชายของบิครีมาจากเมืองในแถบเทือกเขาเอฟราอิม เขายกมือขึ้นต่อต้านกษัตริย์ คือต่อต้านดาวิด มอบตัวชายผู้นี้มา และเราจะถอนกำลังไปจากเมืองนี้”
หญิงผู้นั้นพูดกับโยอาบว่า “หัวของเขาจะถูกโยนไปให้ท่านจากกำแพง”
22 แล้วหญิงคนนั้นก็ไปหาประชาชนทั้งหมดพร้อมกับคำแนะนำอันเฉลียวฉลาดของนาง และพวกเขาก็ตัดหัวเชบาลูกชายบิครีและโยนมันออกมาให้โยอาบ
ดังนั้นโยอาบจึงเป่าแตรและคนของเขาก็ถอยออกจากเมืองนั้น แต่ละคนกลับบ้านของตนเอง และโยอาบก็กลับไปหากษัตริย์ในเยรูซาเล็ม
เจ้าหน้าที่ของดาวิด
23 โยอาบควบคุมทั้งกองทัพของอิสราเอล เบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดาควบคุมชาวเคเรธีและชาวเปเลท 24 อาโดนีรัม[f] ทำหน้าที่ควบคุมคนงาน เยโฮชาฟัทลูกชายอาหิลูดเป็นผู้จดบันทึก 25 เชวาเป็นเลขา ศาโดกและอาบียาธาร์เป็นนักบวช 26 และอิราชาวยาอีร์เป็นนักบวชของดาวิด[g]
คำเตือนและคำทักทายสุดท้าย
13 นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ผมจะได้มาเยี่ยมพวกคุณ ตามที่มีข้อพระคัมภีร์เขียนเอาไว้ว่า “ข้อกล่าวหาทุกข้อจะต้องมีพยานสองหรือสามปาก ถึงจะเชื่อถือได้”[a]
2 เมื่อมาเยี่ยมครั้งที่สองนั้น ผมก็ได้เตือนพวกคุณไปแล้ว ตอนนี้ถึงแม้ผมจะไม่อยู่ก็ขอย้ำอีกครั้ง ครั้งหน้าที่จะมา ผมจะไม่เว้นโทษให้กับคนพวกนั้นที่ทำบาปอยู่ก่อนแล้ว และคนอื่นๆทุกคน 3 ที่ผมทำอย่างนี้ก็เพราะพวกคุณต้องการให้ผมพิสูจน์ว่าพระคริสต์พูดผ่านผมจริง พระคริสต์ไม่ได้ทำตัวอ่อนแอกับพวกคุณ แต่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจในหมู่พวกคุณ 4 จริงอยู่พระองค์เคยถูกตรึงบนไม้กางเขนเพราะความอ่อนแอของพระองค์ แต่เดี๋ยวนี้พระองค์ก็มีชีวิตอยู่โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ใช่แล้ว ในพระคริสต์เราก็อ่อนแอ แต่เราจะมีชีวิตอยู่กับพระคริสต์ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า และใช้ฤทธิ์อำนาจนั้นจัดการกับพวกคุณ
5 สำรวจตัวเองดูสิว่า คุณใช้ชีวิตอย่างคนที่ไว้วางใจในพระเจ้าหรือเปล่า ทดสอบตัวเองดู คุณไม่รู้หรือว่าพระเยซูคริสต์อยู่ในตัวคุณ นอกเสียจากว่าคุณจะสอบตก 6 แต่เราหวังว่า คุณจะรู้ว่าเราไม่ได้สอบตก 7 เราอธิษฐานต่อพระเจ้า ว่าคุณจะไม่ทำอะไรผิดเลย ที่อธิษฐานอย่างนี้ ไม่ใช่เพื่อให้คนมองว่าเราเป็นคนวิเศษอะไร แต่เพื่อคุณจะได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้คนอื่นจะมองว่าเราล้มเหลวก็ไม่เป็นไร 8 มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำในสิ่งที่ขัดกับความจริง แต่เราจะทำเพื่อความจริงเท่านั้น 9 เมื่อไรก็ตามที่เราอ่อนแอและพวกคุณเข้มแข็ง เราก็ยินดี และเราอธิษฐานขอให้พระเจ้าทำให้พวกคุณกลับไปอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบอย่างที่คุณควรจะเป็น 10 ผมเขียนเรื่องนี้มาให้คุณตอนนี้ที่ผมไม่อยู่ ก็เพื่อว่าตอนที่ผมมา ผมจะได้ไม่ต้องใช้อำนาจเข้มงวดกวดขันกับพวกคุณ เพราะอำนาจที่องค์เจ้าชีวิตให้กับผมมานี้ เอาไว้สำหรับเสริมสร้างคุณ ไม่ใช่เอาไว้ทำลายคุณ
11 สุดท้ายนี้ ลาก่อนพี่น้อง ขอพยายามกลับไปอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบอย่างที่คุณควรจะเป็น ให้ทำในสิ่งที่ผมบอกให้ทำด้วย ขอให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและอยู่กันอย่างสันติ แล้วพระเจ้าแห่งความรักและสันติสุขจะอยู่กับพวกคุณ
12 ให้ต้อนรับกันด้วยจูบอันบริสุทธิ์ 13 คนที่เป็นของพระเจ้าทุกคนฝากความคิดถึงมาให้กับคุณด้วย
14 ขอให้ความเมตตากรุณาของพระเยซูคริสต์เจ้า ความรักของพระเจ้า รวมถึงการมีส่วนร่วมในพระวิญญาณบริสุทธิ์ อยู่กับพวกคุณทุกคน
เมืองไทระ ประตูสู่ทะเล
27 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 2 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้ร้องเพลงไว้อาลัยสำหรับเมืองไทระ
3 ให้พูดกับเมืองไทระที่ตั้งอยู่ที่ทางออกสู่ทะเลและเป็นเมืองค้าขายของชนชาติต่างๆตามชายฝั่งทะเลทั้งหลายว่า
‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
ไทระเอ๋ย เจ้าพูดว่า
“ฉันงามหมดจด”
4 พรมแดนของเจ้าอยู่ที่กลางทะเล
ช่างก่อสร้างได้สร้างเจ้าให้มีความงามหมดจด
5 พวกเขาเอาไม้สนที่มาจากเสนีร์[a]
มาสร้างเป็นแผ่นกระดานของเจ้า
พวกเขาเอาไม้สนซีดาร์มาจากเลบานอน
มาสร้างเสากระโดงเรือของเจ้า
6 พวกเขาเอาไม้โอ๊กมาจากบาชาน
มาสร้างกรรเชียงของเจ้า
พวกเขาใช้ไม้สนที่มาจากชายฝั่งไซปรัส
มาสร้างดาดฟ้าเรือของเจ้าและฝังด้วยงาช้าง
7 พวกเขาเอาผ้าลินินที่เย็บอย่างสวยงามจากประเทศอียิปต์มาทำใบเรือของเจ้า
และใบเรือนั้นได้ใช้เป็นธงสำหรับเจ้า
กันสาดของเจ้าที่มาจากชายฝั่งเอลีชาห์เป็นสีน้ำเงินและสีม่วง
8 ผู้คนจากไซดอนและอารวัดเป็นคนพายเรือให้เจ้า
ไทระเอ๋ย ต้นหนที่มีความชำนาญทั้งหลายต่างอยู่บนเรือของเจ้า
9 มีช่างผู้ใหญ่ที่ชำนาญงานของเกบาล[b] อยู่บนเรือของเจ้า
พวกเขาคอยชันยาอุดรอยรั่วของเรือ
เรือทุกลำในทะเลและกะลาสีเรือทุกคน
ต่างมาที่นี่เพื่อซื้อขายสินค้ากับเจ้า
10 ชาวเปอร์เซีย ชาวลูดและชาวพูตก็เป็นทหารรับใช้อยู่ในกองทัพของเจ้า
พวกเขาแขวนโล่กับหมวกเหล็กเอาไว้บนกำแพงของเจ้าทำให้เจ้าดูงดงาม
11 ชาวอารวัดและชาวเฮเลคเดินไปเดินมาอยู่บนกำแพงทุกด้านของเจ้า
ชาวกามัดอยู่ตามหอคอยของเจ้า พวกเขาแขวนโล่ไว้รอบๆกำแพงของเจ้า
พวกเขาทำให้เจ้างามหมดจด
12 ทารชิช ไปมาค้าขายกับเจ้า เพราะเจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล
พวกเขาเอาเงิน เหล็ก ดีบุกและตะกั่วมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า 13 ประเทศกรีซ
ทูบัลและเมเชคได้มาค้าขายกับเจ้า
พวกเขาเอาทาสและข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากทองสัมฤทธิ์มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า
14 ชาวเบธโทการมาห์[c] เอาม้าใช้งาน ม้าศึกและล่อมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า
15 ชาวโรเดส[d] มาค้าขายกับเจ้า และเมืองตามชายฝั่งทะเลต่างก็เป็นลูกค้าของเจ้า
พวกเขาเอางาช้างกับไม้มะเกลือมาจ่ายเป็นค่าสินค้าให้กับเจ้า
16 ชาวอารัม[e] มาทำการค้ากับเจ้า เป็นเพราะเจ้ามีสินค้ามากมายมหาศาล
พวกเขาเอาพลอยสีน้ำเงินอมเขียว ผ้าสีม่วง ผ้าปักลาย ผ้าลินินอย่างดี ปะการัง และทับทิมมาแลกกับสินค้าของเจ้า
17 ยูดาห์กับอิสราเอลก็มาค้าขายกับเจ้า
พวกเขาเอาข้าวสาลีจากเมืองมินนิทและขนมหวาน[f] น้ำเชื่อมผลไม้ น้ำมันและยาสมุนไพร มาแลกกับสินค้าของเจ้า
18 ชาวดามัสกัสมาค้าขายกับเจ้าด้วย เขาเอาเหล้าองุ่นจากเมืองเฮลโบน และขนแกะจากเมืองซาฮาห์มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า
เป็นเพราะเจ้ามีสินค้ามากมายมหาศาล
19 ชาวดานและชาวกรีกจากเมืองอุซาลได้ค้าขายกับเจ้า พวกเขาเอาเหล็กหล่อ เครื่องเทศ และอ้อยมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า 20 เมืองเดดานค้าขายผ้ารองอานกับเจ้า
21 ชาวอาระเบียและบรรดาเจ้าชายทั้งหลายแห่งเมืองเคดาร์ก็เป็นลูกค้าของเจ้า
พวกเขาเอาลูกแกะ แกะตัวผู้และแพะมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า
22 พวกพ่อค้าของเชบาและราอามาห์ก็ค้าขายกับเจ้า
พวกเขาเอาเครื่องเทศชั้นเยี่ยมนานาชนิด พลอยมีค่าต่างๆและทองคำ มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า 23 เมืองฮาราน คานเนห์และเอเดน รวมทั้งพ่อค้าของเชบา และของเมืองอัสชูรและคิลมาด ก็ค้าขายกับเจ้า
24 ในตลาดของเจ้า พวกเขาค้าขายเครื่องนุ่งห่มที่สวยงาม ผ้าสีน้ำเงิน งานเย็บปักและพรมหลายหลากสี ที่มีเชือกมัดขมวดเป็นปมไว้อย่างแน่นหนา
25 กองเรือของทารชิชทำหน้าที่ขนสินค้าให้กับเจ้า
ไทระเอ๋ย เจ้าเป็นเหมือนเรือ
ที่เต็มไปด้วยสินค้าจนหนักอึ้งอยู่ใจกลางทะเล
26 ฝีพายของเจ้าพาเจ้าออกไปในทะเลลึก
แต่ลมตะวันออกทำให้เจ้าอับปางที่ใจกลางทะเลนั้น
27 ความร่ำรวยของเจ้า สินค้า และของนำเข้าของเจ้า
พวกลูกเรือ ต้นหน และช่างต่อเรือของเจ้า
พ่อค้าของเจ้ากับทหารทั้งหมดและคนอื่นๆทุกคนบนเรือ
จะจมดิ่งลงใจกลางทะเลในวันที่เจ้าถูกทำลายนั้น
28 เมืองตามชายฝั่งจะสั่นไหว
เมื่อต้นหนของเจ้าร้องตะโกนออกมา
29 ฝีพายที่พายเรือลำอื่นๆอยู่จะสละเรือ
ทั้งลูกเรือและต้นหนจะไปยืนอยู่บนชายฝั่ง
30 พวกเขาจะตะโกนออกมาและร้องไห้อย่างขมขื่นสำหรับเจ้า
พวกเขาจะโปรยดินลงบนหัวและเกลือกกลิ้งในกองขี้เถ้า
31 พวกเขาจะโกนผมออกให้กับเจ้า
และจะสวมเสื้อผ้ากระสอบ
พวกเขาจะร้องไห้ให้กับเจ้าด้วยวิญญาณที่เจ็บปวดรวดร้าว
และด้วยความเศร้าอันขมขื่น
32 ในขณะที่พวกเขาร้องคร่ำครวญให้กับเจ้า พวกเขาจะร้องเพลงไว้อาลัยสำหรับตัวเจ้าว่า
เคยมีใครเป็นเหมือนเมืองไทระบ้าง
ตอนที่เธอเงียบจมหายไปในทะเล
33 เจ้าเคยทำให้ชนชาติต่างๆพึงพอใจเมื่อสินค้าของเจ้าออกสู่ทะเล
เจ้าเคยทำให้กษัตริย์ทั้งหลายในโลกร่ำรวยด้วยทรัพย์สินอันมหาศาลและสินค้ามากมายของเจ้า
34 แต่ตอนนี้ ทะเลได้ทำให้เจ้าแตกอับปางในทะเลลึก
ทั้งสินค้าและลูกเรือทั้งหมดของเจ้าต่างจมลงไปกับเจ้าด้วย
35 ทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองตามชายฝั่งต่างรู้สึกหวาดกลัวเพราะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า
กษัตริย์ทั้งหลายในเมืองเหล่านี้ต่างก็สะดุ้งตกใจ
และใบหน้าของพวกเขาก็บิดเบี้ยวด้วยความกลัว
36 พวกพ่อค้าที่อยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งหลายผิวปากด้วยความตะลึงงัน
เจ้าได้มาถึงจุดจบอันน่าสะพรึงกลัวและจะไม่มีเจ้าอีกต่อไป’”
สรรเสริญพระเจ้าผู้พิพากษา
ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องเพลงนี้ตามทำนอง “อย่าทำลาย” เพลงสดุดีของอาสาฟ
1 ข้าแต่พระเจ้า พวกเราสรรเสริญพระองค์ พวกเราสรรเสริญพระองค์ พระองค์นั้นอยู่ใกล้
ผู้คนต่างพูดถึงสิ่งน่าทึ่งต่างๆที่พระองค์ทำ
2 พระเจ้าพูดว่า “เมื่อเวลาที่เรากำหนดไว้นั้นมาถึง
เราจะพิพากษาอย่างยุติธรรม
3 เมื่อแผ่นดินโลกและคนที่อาศัยอยู่ในมันสั่นไหว
เรานี่แหละเป็นผู้ที่ทำให้ฐานรากนั้นมั่นคง เซลาห์
4 เราบอกพวกที่เย่อหยิ่งจองหอง ‘เลิกโอ้อวดได้แล้ว’
เราบอกคนชั่วช้า ‘เลิกวางกล้ามใหญ่โตได้แล้ว
5 เลิกวางท่าราวกับว่ามีอำนาจสูงสุดเสียเหลือเกิน[a]
ไม่ต้องเชิดหน้าพูดจาโอ้อวดหรอก’”
6 เพราะการยกย่องไม่ได้มาจากทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก
หรือมาจากที่เปล่าเปลี่ยว
7 แต่พระเจ้าเป็นผู้ตัดสิน
ทำให้คนหนึ่งตกต่ำ แล้วทำให้อีกคนหนึ่งได้รับการยกย่อง
8 เพราะพระยาห์เวห์ถือจอกแห่งการพิพากษาอยู่ในมือ จอกนั้นเต็มไปด้วยเหล้าองุ่นฤทธิ์แรงที่ผสมเครื่องเทศ
เมื่อพระองค์เทเหล้าองุ่นแห่งความโกรธ-เกรี้ยวจากจอกนั้น คนชั่วทุกคนในโลกนี้จะต้องดื่มมันจนเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่ตะกอนก้นถ้วย
9 ส่วนข้าพเจ้านั้นจะเล่าเรื่องราวของพระองค์อยู่เสมอ
ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าแห่งยาโคบ
10 พระเจ้าพูดว่า “เราจะตัดกำลังของพวกคนชั่ว
และเพิ่มกำลังให้กับคนดี”[b]
พระเจ้าผู้น่าเกรงขาม
ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ใช้เครื่องดนตรีประกอบ เพลงสดุดีของอาสาฟ
1 ในยูดาห์ พระเจ้าเป็นที่รู้จักกันทั่ว
ในอิสราเอล ชื่อของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
2 ที่พัก[c] ของพระองค์อยู่ในเมืองซาเล็ม[d]
ส่วนที่ประทับของพระองค์อยู่บนภูเขาศิโยน
3 ที่นั่น พระองค์ได้หักลูกธนูไฟ
โล่กำบังและดาบของศัตรูที่ใช้รบจนหมดสิ้น เซลาห์
4 พระองค์ส่องรัศมีเจิดจ้า
และมีบารมีสูงส่งยิ่งกว่าภูเขาที่พระองค์ได้ฆ่าเหยื่อของพระองค์[e]
5 ทหารที่มีใจกล้าหาญเหล่านั้นถูกยึดของไปในขณะที่นอนตายอยู่
นักรบพวกนั้นไม่สามารถยกมือขึ้นมาปกป้องตัวเองได้อีกแล้ว
6 ข้าแต่พระเจ้าแห่งยาโคบเมื่อพระองค์ออกคำสั่งให้บุก
ทั้งม้าและคนขี่รถรบของศัตรูก็ล้มตายเหมือนกับหลับไป
7 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ช่างน่าเกรงขาม
ไม่มีใครสามารถยืนหยัดอยู่ต่อหน้าพระองค์ได้ตอนที่พระองค์โกรธเกรี้ยว
8-9 พระองค์ประกาศคำพิพากษาของพระองค์จากฟ้าสวรรค์ตอนที่พระเจ้ายืนขึ้นมาพิพากษา
เพื่อช่วยเหลือคนยากจนทุกคนในแผ่นดินโลกให้รอด
แผ่นดินโลกก็เงียบกริบด้วยความกลัว เซลาห์
10 แน่นอน ความเกรี้ยวโกรธของพระองค์ต่อมนุษย์ทำให้มนุษย์สรรเสริญพระองค์
คนเหล่านั้นที่รอดพ้นจากความเกรี้ยวโกรธของพระองค์ถูกยับยั้งไว้จากความชั่ว
11 ให้บนบานและแก้บนทั้งหลายนั้นที่ได้ทำไว้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
ขอให้ผู้รับใช้ของพระองค์ทุกคนนำของขวัญมาให้พระองค์ผู้น่าเกรงขาม
12 พระเจ้าเป็นผู้ที่ทำให้จิตใจของพวกผู้นำถ่อมลง
กษัตริย์ทั้งหลายบนแผ่นดินโลกยำเกรงพระองค์
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International