M’Cheyne Bible Reading Plan
7 คนคิริยาท-เยอาริมจึงมารับหีบของพระยาห์เวห์ไป เขาได้นำหีบไปยังบ้านของอาบีนาดับที่อยู่บนเนินเขา และแต่งตั้งเอเลอาซาร์ ลูกชายของอาบีนาดับ ให้เป็นผู้ดูแลหีบของพระยาห์เวห์ 2 หีบของพระยาห์เวห์อยู่ที่คิริยาท-เยอาริมเป็นเวลานานถึงยี่สิบปี
พระยาห์เวห์ช่วยคนอิสราเอล
คนอิสราเอลทั้งหมดต่างก็เศร้าโศกและแสวงหาพระยาห์เวห์ 3 ซามูเอลจึงบอกกับครอบครัวทั้งหมดของอิสราเอลว่า “ถ้าท่านทั้งหลายจะกลับมาหาพระยาห์เวห์ด้วยสิ้นสุดใจของพวกท่าน ก็ให้ขจัดพวกพระของคนต่างชาติและพวกพระอัชทาโรทไป และสัญญาต่อพระยาห์เวห์ว่าจะรับใช้พระองค์เท่านั้น และพระองค์จะช่วยท่านให้พ้นจากเงื้อมมือของคนฟีลิสเตีย”
4 คนอิสราเอลจึงละทิ้งพวกพระบาอัลและพวกพระอัชทาโรทของพวกเขา และรับใช้พระยาห์เวห์เท่านั้น
5 จากนั้นซามูเอลได้พูดว่า “ให้เรียกประชุมคนอิสราเอลทั้งหมดที่มิสปาห์ และเราจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์เพื่อพวกท่าน”
6 เมื่อพวกเขามาประชุมกันที่มิสปาห์ พวกเขาตักน้ำมาเทออกต่อหน้าพระยาห์เวห์ ในวันนั้นพวกเขาอดอาหารและได้สารภาพผิดว่า “พวกเราได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์” ซามูเอลก็เป็นผู้นำ[a] ของอิสราเอลที่มิสปาห์
7 เมื่อคนฟีลิสเตียได้ยินข่าวเรื่องการชุมนุมของคนอิสราเอลที่มิสปาห์ พวกผู้นำของพวกเขาก็ได้ยกขึ้นไปโจมตีคนอิสราเอล และเมื่อคนอิสราเอลได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาต่างก็พากันตื่นกลัวชาวฟีลิสเตีย 8 พวกเขาจึงพูดกับซามูเอลว่า “อย่าหยุดร้องขอต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราเพื่อพวกเรา เพื่อพระองค์จะได้ช่วยชีวิตพวกเราให้พ้นจากเงื้อมมือของคนฟีลิสเตีย”
9 ซามูเอลจึงเอาลูกแกะที่ยังไม่หย่านมมาถวายเป็นเครื่องเผาบูชาให้กับพระยาห์เวห์ ซามูเอลร้องขอต่อพระยาห์เวห์แทนชาวอิสราเอล และพระยาห์เวห์ก็ตอบเขา 10 ขณะที่ซามูเอลกำลังเผาเครื่องบูชาอยู่นั้น คนฟีลิสเตียได้บุกเข้ามาใกล้แล้วเพื่อสู้รบกับคนอิสราเอล แต่วันนั้นพระยาห์เวห์ทำให้เกิดฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหวใส่คนฟีลิสเตีย ทำให้พวกเขาตกใจขวัญหนีดีฝ่อ และถอยหนีไปจากคนอิสราเอล 11 คนอิสราเอลรีบออกมาจากเมืองมิสปาห์ และไล่ล่าฆ่าฟันคนฟีลิสเตีย ไปตลอดทางจนถึงบริเวณที่อยู่ใต้เมืองเบธคาร์
สันติภาพสู่อิสราเอล
12 จากนั้นซามูเอลก็นำก้อนหินก้อนหนึ่งมาตั้งไว้ระหว่างเมืองมิสปาห์และเมืองเยสชานาห์[b] และตั้งชื่อหินก้อนนั้นว่า “เอเบนเอเซอร์”[c] และพูดว่า “พระยาห์เวห์ได้ช่วยเหลือพวกเรามาจนถึงที่นี่”
13 ดังนั้นคนฟีลิสเตียที่พ่ายแพ้ จึงไม่เข้ามาบุกรุกแผ่นดินของอิสราเอลอีก ตลอดชีวิตของซามูเอลนั้น มือของพระยาห์เวห์ได้ต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย 14 เมืองต่างๆจากเอโครนถึงกัท ที่คนฟีลิสเตียได้ยึดไปจากคนอิสราเอลนั้น พวกชาวอิสราเอลก็ได้ยึดคืนมา และชาวอิสราเอลยังช่วยให้ดินแดนรอบๆเมืองเหล่านั้นพ้นจากเงื้อมมือของคนฟีลิสเตีย
และมีสันติภาพเกิดขึ้นระหว่างคนอิสราเอลและคนอาโมไรต์ด้วย
15 ซามูเอลเป็นผู้นำของคนอิสราเอลไปตลอดชีวิตเขา 16 ทุกๆปีเขาจะเดินทางเวียนไปจนทั่วจากเมืองเบธเอลไปเมืองกิลกาลถึงเมืองมิสปาห์ เพื่อตัดสินคดีของชาวอิสราเอลในเมืองต่างๆเหล่านั้น 17 แล้วเขาก็จะกลับไปเมืองรามาห์ซึ่งเป็นบ้านของเขา และตัดสินคดีของคนอิสราเอลที่นั่นด้วย เขาได้สร้างแท่นบูชาสำหรับพระยาห์เวห์ไว้ที่นั่น
คนอิสราเอลร้องขอกษัตริย์
8 เมื่อซามูเอลแก่แล้ว เขาได้ตั้งพวกลูกชายของเขาให้เป็นผู้ตัดสินคดีของอิสราเอล 2 ลูกชายคนโตของซามูเอลชื่อโยเอล ลูกชายคนที่สองชื่ออาบียาห์ พวกเขารับใช้ประจำอยู่ที่เมืองเบเออร์เชบา 3 แต่ลูกชายของเขาไม่ได้ทำตามอย่างซามูเอลพ่อของเขา พวกเขาหันไปคดโกง หาผลประโยชน์ใส่ตัว รับสินบน รวมทั้งบิดเบือนความยุติธรรม 4 ดังนั้นผู้นำทั้งหมดของอิสราเอลจึงรวมตัวกันไปหาซามูเอลที่เมืองรามาห์ 5 พวกเขาพูดกับซามูเอลว่า “ท่านก็แก่แล้วและพวกลูกชายของท่านก็ไม่ได้ทำตามอย่างท่าน ตอนนี้ ขอให้ตั้งกษัตริย์เป็นผู้นำพวกเราเหมือนอย่างที่ชนชาติอื่นๆเขามีกัน”
6 แต่เมื่อพวกเขาพูดว่า “ขอกษัตริย์เป็นผู้นำพวกเรา” ทำให้ซามูเอลไม่พอใจ ซามูเอลจึงอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ 7 พระยาห์เวห์บอกซามูเอลว่า “ให้ฟังคำพูดของประชาชนทั้งหมดที่พูดกับเจ้า พวกเขาไม่ได้ปฏิเสธเจ้า แต่ปฏิเสธเรา ไม่ให้เป็นกษัตริย์เหนือพวกเขา 8 พวกเขาชอบทำอย่างนี้ตั้งแต่วันที่เราได้นำพวกเขาออกมาจากอียิปต์จนถึงวันนี้ คือพวกเขาจะละทิ้งเราและไปรับใช้พระอื่นๆ แล้วพวกเขาก็กำลังทำอย่างนั้นกับเจ้าด้วย 9 ตอนนี้ ให้รับฟังประชาชน แต่ต้องเตือนพวกเขาอย่างเป็นทางการ และให้พวกเขารู้ว่า กษัตริย์ที่จะมาปกครองพวกเขานั้นจะทำอะไรบ้าง”
10 ซามูเอลเล่าคำพูดของพระยาห์เวห์ทุกคำให้กับประชาชนที่ร้องขอกษัตริย์จากเขา 11 เขาพูดว่า “นี่คือสิ่งที่กษัตริย์ที่จะมาปกครองเหนือพวกท่านจะทำคือ กษัตริย์จะเอาพวกลูกชายของพวกท่านไปเป็นทหารประจำรถรบและทหารม้า และพวกเขาจะต้องวิ่งนำหน้าพวกรถรบของกษัตริย์นั้น 12 เขาจะแต่งตั้งบางคนให้ดูแลทหารพันคน บางคนดูแลทหารห้าสิบคน และบางคนจะได้รับหน้าที่ไถนาและเก็บเกี่ยวพืชผลของกษัตริย์ และบางคนมีหน้าที่ต้องทำอาวุธสงครามและทำเครื่องมือสำหรับรถรบของกษัตริย์นั้น
13 กษัตริย์จะเอาพวกลูกสาวของพวกท่านไปเป็นคนปรุงเครื่องหอมและทำครัวและอบขนมปัง
14 กษัตริย์จะยึดที่นาที่ดีที่สุดของพวกท่าน รวมทั้งสวนองุ่น และสวนมะกอกไปให้กับข้าราชการของเขา 15 กษัตริย์จะชักเอาหนึ่งในสิบของเมล็ดพืช และผลองุ่นของพวกท่าน และเอาไปให้กับพวกเจ้าหน้าที่และพวกข้าราชการของเขา 16 กษัตริย์นั้นจะยึดเอาคนรับใช้ชายหญิง ทั้งฝูงวัว[d]และลาที่ดีที่สุดของพวกท่านไปใช้ทำงานของเขาเอง 17 เขาจะชักหนึ่งในสิบของฝูงสัตว์ของพวกท่าน และพวกท่านทั้งหลายจะกลายเป็นทาสของเขา 18 เมื่อวันนั้นมาถึงพวกท่านจะร้องทุกข์ให้ปลดปล่อยท่านจากกษัตริย์ที่ท่านเลือก แต่พระยาห์เวห์จะไม่ตอบท่านในวันนั้น”
19 แต่ประชาชนไม่ยอมฟังซามูเอล พวกเขาพูดว่า “ไม่จริง พวกเราอยากได้กษัตริย์ปกครองพวกเรา 20 แล้วเราจะได้เป็นเหมือนกับชนชาติอื่นที่มีกษัตริย์เป็นผู้นำเราและนำหน้าพวกเราในการรบ”
21 เมื่อซามูเอลได้ยินคำพูดทั้งหมดของประชาชน เขาก็มาเล่าให้พระยาห์เวห์ฟัง 22 พระยาห์เวห์ตอบว่า “ฟังพวกเขาเถอะ และให้กษัตริย์คนหนึ่งกับพวกเขาไป”
แล้วซามูเอลก็พูดกับคนอิสราเอลว่า “ให้ทุกคนกลับไปยังเมืองของตัวเอง”
ตายจากบาป แล้วมีชีวิตในพระคริสต์
6 แล้วทีนี้จะว่ายังไง จะทำบาปต่อไปเพื่อพระเจ้าจะได้เมตตามากขึ้นอย่างนั้นหรือ 2 ไม่มีทาง ในเมื่อเราตายจากบาปแล้ว ยังจะใช้ชีวิตอยู่ในความบาปอีกได้อย่างไร 3 หรือพวกคุณไม่รู้ว่าการที่เรารับพิธีจุ่มน้ำเข้าในพระเยซูคริสต์นั้น คือการจุ่มเข้าไปในความตายของพระองค์นั่นเอง 4 ดังนั้นเมื่อเราจุ่มเข้าในความตายของพระเยซู ก็หมายถึงว่าเราถูกฝังร่วมกับพระองค์แล้ว เพื่อเราจะมีวิถีชีวิตใหม่เหมือนกับที่พระคริสต์ฟื้นขึ้นจากความตาย โดยฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ของพระบิดา 5 เพราะถ้าเราได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ในความตายนั้น เราก็จะได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ในการฟื้นขึ้นจากความตายด้วย 6 เรารู้ว่าคนเก่าของเราได้ถูกตรึงร่วมกันกับพระคริสต์แล้ว เพื่อตัวตนที่เต็มไปด้วยบาปจะได้หมดฤทธิ์ไป แล้วเราจะได้ไม่เป็นทาสของความบาปอีกต่อไป 7 เพราะคนที่ตายแล้วก็หลุดพ้นจากอำนาจของบาป
8 เมื่อเราตายร่วมกับพระคริสต์แล้ว เราเชื่อว่าเราจะมีชีวิตร่วมกับพระองค์ด้วย 9 เรารู้ว่าพระคริสต์ ผู้ที่ฟื้นขึ้นจากความตายนั้น จะไม่มีวันตายอีกต่อไป ความตายก็ไม่ได้เป็นนายเหนือพระองค์อีกต่อไป 10 พระองค์ตายเพียงครั้งเดียวก็พอตลอดไปเพื่อชนะอำนาจของบาป ชีวิตที่พระองค์มีอยู่นี้ พระองค์อยู่เพื่อพระเจ้า 11 พวกคุณก็เหมือนกัน ให้ถือว่าตัวคุณเองตายจากบาปแล้ว และมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าในพระเยซูคริสต์นั้น
12 ดังนั้นอย่าปล่อยให้บาปมาเป็นเจ้าครอบครองร่างกายที่ต้องตายของคุณอีกเลย คือให้ความบาปทำให้คุณต้องเชื่อฟังและทำตามกิเลสตัณหาของมัน 13 คุณไม่ควรยอมให้บาปมาใช้อวัยวะส่วนไหนก็ตามของคุณเป็นเครื่องมือในการทำชั่ว แต่ให้มอบชีวิตของคุณเองกับพระเจ้า ให้สมกับเป็นคนที่ตายไปและฟื้นขึ้นมาใหม่แล้ว ดังนั้นขอให้คุณยอมให้พระเจ้าใช้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายคุณให้เป็นเครื่องมือในการทำความดี 14 ความบาปก็ไม่มีอำนาจเหนือพวกคุณอีกต่อไปแล้ว เพราะพวกคุณไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของกฎ แต่อยู่ใต้ความเมตตากรุณาของพระเจ้า
ทาสที่ทำตามใจพระเจ้า
15 แล้วทีนี้เราจะว่าอย่างไรดี ทำบาปต่อไปดีไหม ไม่มีทาง เพราะตอนนี้เราไม่ได้อยู่ใต้กฎแล้ว แต่อยู่ใต้ความเมตตากรุณาของพระเจ้า 16 พวกคุณไม่รู้หรือว่า เมื่อคุณยอมมอบตัวเป็นทาสเชื่อฟังใครก็ตาม คุณก็เป็นทาสของคนๆนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทาสของความบาปที่ทำให้ต้องตาย หรือเป็นทาสที่เชื่อฟังพระเจ้าซึ่งจะนำไปถึงชีวิตที่พระเจ้าชอบใจ 17 แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ถึงแม้คุณจะเคยเป็นทาสของความบาปมาก่อน แต่เดี๋ยวนี้คุณได้เชื่อฟังแบบอย่างคำสอนที่พระเจ้าให้ครอบครองคุณนั้นอย่างสุดหัวใจ 18 คุณจึงไม่เป็นทาสของความบาปอีกต่อไป แต่เป็นทาสที่ทำตามใจพระเจ้า 19 (ที่ผมใช้ตัวอย่างเรื่องทาสมาอธิบายให้ฟัง ก็เพราะกลัวว่าคุณจะไม่เข้าใจ) ในอดีตคุณเคยมอบอวัยวะของคุณให้เป็นทาสของความสกปรกโสโครกและการแหกกฎ ซึ่งทำให้คุณแหกกฎมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้ขอให้ยอมมอบอวัยวะของคุณให้เป็นทาสที่ทำตามใจพระเจ้าซึ่งนำไปสู่ความบริสุทธิ์
20 แต่ก่อน เมื่อคุณเป็นทาสของความบาปนั้น คุณก็เป็นอิสระ ไม่ได้อยู่ใต้การควบคุมของสิ่งที่ถูกต้อง 21 แต่คุณได้อะไรบ้างจากการใช้ชีวิตแบบนั้น สิ่งที่คุณได้คือสิ่งที่คุณละอายกับมันตอนนี้ เพราะสิ่งเหล่านั้นนำไปถึงความตาย 22 แต่ตอนนี้คุณได้เป็นอิสระจากบาปและมาเป็นทาสของพระเจ้าแล้ว ผลที่คุณจะได้รับคือความบริสุทธิ์ที่นำไปถึงชีวิตที่อยู่กับพระเจ้าตลอดไป 23 เพราะค่าจ้างที่ความบาปจ่ายให้กับเราคือความตาย แต่ของขวัญที่พระเจ้าให้กับเรานั้นคือชีวิตที่อยู่กับพระเจ้าตลอดไป ในพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา
ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ต่อคนยูดาห์ในอียิปต์
44 นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์ที่มีมาถึงเยเรมียาห์ เกี่ยวกับเรื่องของพลเมืองยูดาห์ที่อาศัยอยู่ในอียิปต์ พวกเขาอยู่ที่มิกดล ทาปานเหส เมมฟิส และทางใต้ของอียิปต์ พระองค์บอกพวกเขาว่า 2 “พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอลพูดว่า ‘พวกเจ้าได้เห็นเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เรานำไปสู่เยรูซาเล็มและเมืองทั้งหมดของยูดาห์แล้ว และตอนนี้พวกมันก็ถูกปล่อยทิ้งร้างอยู่ ไม่มีใครอาศัยอยู่เลย 3 นั่นเป็นเพราะความชั่วร้ายที่พวกเขาทำ พวกเขาทำให้เราโกรธด้วยการเผาเครื่องหอมบูชาให้กับเทพเจ้าอื่นๆที่บรรพบุรุษของเจ้าไม่รู้จัก 4 เราได้ส่งพวกผู้รับใช้ คือพวกผู้พูดแทนพระเจ้าของเรามาให้กับพวกเจ้า เราส่งพวกเขามาเรื่อยๆให้พวกเขามาบอกว่า “อย่าทำเรื่องน่าขยะแขยงที่เราเกลียดชังนี้” 5 แต่พวกเขาก็ไม่ฟัง และไม่สนใจที่จะหันจากเรื่องชั่วๆที่ทำกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาเผาเครื่องหอมให้กับเทพเจ้าอื่นๆ 6 เราโกรธแค้นมาก และความโกรธของเราก็ได้พลุ่งขึ้นต่อเมืองต่างๆของยูดาห์และตามท้องถนนของเมืองเยรูซาเล็ม และพวกมันได้กลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่ามาจนถึงทุกวันนี้’”
7 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอลพูดว่า “ทำไมเจ้าถึงทำร้ายตัวเองอย่างใหญ่หลวง ทำไมเจ้าถึงได้กำจัดพวกผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก และทารกทั้งหมดไปจากยูดาห์ไม่เหลือไว้ที่นั่นสักคน 8 ทำไมเจ้าถึงได้ยั่วโมโหเราด้วยรูปเคารพที่เจ้าทำขึ้นมากับมือ ทำไมเจ้าถึงเผาเครื่องหอมบูชาให้กับเทพเจ้าอื่นๆในแผ่นดินอียิปต์ ที่เจ้าได้มาอาศัยอยู่นี้ ในที่สุดเจ้าก็จะทำลายตัวเจ้าเอง และชื่อของเจ้าจะถูกใช้เวลาสาปแช่ง และเจ้าจะเป็นที่หัวเราะเยาะของชนชาติทั้งหลายในโลกนี้ 9 เจ้าลืมความชั่วร้ายของบรรพบุรุษเจ้า และความชั่วร้ายของกษัตริย์ต่างๆของยูดาห์แล้วหรือ เจ้าลืมความชั่วร้ายของเมียพวกเขา และความชั่วร้ายของเจ้าและของเมียเจ้าที่ทำเอาไว้ในแผ่นดินยูดาห์และตามท้องถนนของเยรูซาเล็มแล้วหรือ
10 จนถึงวันนี้พวกเขาก็ยังไม่ถ่อมตัว พวกเขาไม่เคารพยำเกรงเรา และพวกเขาก็ไม่ได้ทำตามกฎและระเบียบที่เรามอบไว้ให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้า”
11 ดังนั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอลจึงพูดว่า “เราตัดสินใจแล้วว่าจะลงโทษเจ้าและจะกำจัดยูดาห์ให้สิ้นซาก 12 เราจะจัดการกับคนยูดาห์ที่เหลือ ที่ตัดสินใจไปอียิปต์และไปอยู่อย่างคนต่างชาติที่นั่น พวกเขาทั้งหมดจะพบกับจุดจบที่แผ่นดินอียิปต์นั้น พวกเขาจะตายในสงคราม หรือไม่ก็อดตาย พวกเขาตั้งแต่คนที่กระจอกที่สุดไปจนถึงคนที่สำคัญที่สุดจะต้องพบกับจุดจบ พวกเขาจะต้องตายด้วยสงคราม หรือไม่ก็อดตาย แล้วผู้คนก็จะใช้ชื่อพวกเขาเวลาสาปแช่ง พวกเขาจะเป็นตัวอย่างของความพินาศย่อยยับ เป็นตัวตลก หรือเป็นเป้าให้คนเยาะเย้ย
13 เราจะลงโทษพวกนั้นที่อาศัยอยู่ในอียิปต์เหมือนกับที่เราลงโทษเยรูซาเล็ม คือด้วยคมดาบ ความอดอยาก และโรคระบาด
14 พวกยูดาห์ที่หลงเหลืออยู่ ที่กำลังจะไปอยู่ในอียิปต์อย่างคนต่างชาตินี้ จะไม่มีคนพวกนี้สักคน ที่จะหนีพ้นหรือรอดชีวิต จะไม่มีคนพวกนี้เหลือสักคนที่จะได้กลับไปยูดาห์ ถึงแม้พวกเขาอยากจะกลับไปอยู่ที่นั่นก็ตาม พวกนี้จะไม่ได้กลับไปยูดาห์หรอก จะไม่มีใครหนีรอดออกมาได้นอกจากคนไม่กี่คน”
15 แล้วพวกผู้ชายทุกคนที่รู้ว่าเมียของตัวเองเผาเครื่องหอมบูชาให้กับเทพเจ้าอื่นๆ และผู้หญิงทุกคนที่กำลังยืนอยู่ในที่ประชุมใหญ่ รวมทั้งทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์และทางใต้ของอียิปต์ พวกเขาก็ตอบโต้เยเรมียาห์ว่า
16 “สิ่งที่แกพูดต่อว่าเรา โดยอ้างว่ามาจากพระยาห์เวห์นั้น พวกเราไม่ฟังแกหรอก 17 แต่พวกเราจะทำทุกสิ่งที่เราได้บนบานไว้ เราจะเผาเครื่องบูชาถวายราชินีแห่งสวรรค์และรินเครื่องดื่มบูชาถวายให้กับนาง เราจะทำเหมือนกับที่พวกเรา ปู่ย่าตายายของเรา กษัตริย์ของพวกเรา และพวกเจ้านายของพวกเราเคยทำในเมืองต่างๆของยูดาห์และตามท้องถนนของเมืองเยรูซาเล็ม ตอนที่เราทำสิ่งต่างๆเหล่านั้น เรามีอาหารกินอย่างเหลือเฟือ มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นกับเราไม่ใช่เรื่องเลวร้าย 18 ตั้งแต่พวกเราเลิกเผาเครื่องหอมบูชาให้กับราชินีแห่งสวรรค์และเลิกรินเครื่องดื่มให้นาง เราก็ขัดสนทุกอย่าง แถมเรายังพบกับจุดจบ ด้วยคมดาบและความอดอยากอีกด้วย”
19 ส่วนพวกผู้หญิงก็พูดว่า “ตอนที่พวกเราเผาเครื่องหอมบูชาให้กับราชินีแห่งสวรรค์และรินเครื่องดื่มถวายนางนั้น แกคิดว่าตอนที่พวกเราทำขนม หรือปั้นขนมรูปนาง หรือรินเครื่องดื่มให้นางนั้น พวกเราไปแอบทำไกลๆสามีหรือยังไง”
20 แล้วเยเรมียาห์ก็ตอบกับพวกผู้ชาย ผู้หญิง และทุกคนที่เถียงกับเขาว่า 21 “พระยาห์เวห์จดจำได้ที่พวกท่านนำเครื่องเผาบูชามาถวายพระอื่นๆในเมืองต่างๆของยูดาห์และตามท้องถนนของเมืองเยรูซาเล็ม พระองค์จำได้ที่พวกท่าน ปู่ย่าตายายของท่าน กษัตริย์และเจ้านายของท่าน รวมทั้งทุกคนในแผ่นดินนี้ ได้ทำอย่างนั้น และมันก็ยังอยู่ในใจของพระองค์
22 แต่พระยาห์เวห์ทนไม่ไหวแล้วกับการกระทำที่ชั่วช้าต่างๆของท่าน และสิ่งต่างๆที่น่าขยะแขยงที่พวกท่านได้ทำลงไป ดังนั้นแผ่นดินของพวกท่านถึงได้ถูกผู้คนหัวเราะเยาะ ถูกทำลาย และกลายเป็นร้าง อย่างที่มันเป็นอยู่ในทุกวันนี้ 23 ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะท่านได้เผาเครื่องหอมให้กับเทพเจ้าอื่นๆและได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์ และไม่เชื่อฟังพระองค์ ไม่ทำตามกฎ ระเบียบ และไม่ใช้ชีวิตตามพวกกฎเกณฑ์ของพระองค์ ดังนั้นท่านถึงได้พบกับความหายนะเหมือนในวันนี้”
24 แล้วเยเรมียาห์ก็พูดกับทุกคนและกับผู้หญิงทั้งหมดว่า “พวกท่านชาวยูดาห์ทุกคน ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ ฟังคำของพระยาห์เวห์ให้ดี 25 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอลพูดว่า ‘พวกเจ้าและเมียของเจ้า ได้ทำตามคำพูดของตัวเองที่ว่า “พวกเราจะทำตามคำสาบานที่พวกเราให้ไว้ว่า ‘พวกเราจะเผาเครื่องหอมถวายให้กับราชินีแห่งสวรรค์และรินเครื่องดื่มบูชาให้กับนาง’ พวกเราจะทำตามที่เราได้บนบานไว้อย่างแน่นอน”’”
พระยาห์เวห์พูดว่า “ทำไปเลย ทำตามที่เจ้าได้บนบานไว้”
26 เมื่อเจ้าเอาอย่างนี้ พวกเจ้าชาวยูดาห์ทุกคนที่อยู่ในแผ่นดินอียิปต์ ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี พระองค์พูดว่า “เราได้สาบานกับชื่ออันยิ่งใหญ่ของเราว่า ‘ขออย่าให้มีชาวยูดาห์คนไหนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ อ้างชื่อของเราในคำสาบานของพวกเขาอีกเลย’ 27 เราจะคอยจับตาดูพวกเขา เพื่อเราจะได้ทำให้สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา ไม่ใช่ความสุขความเจริญ และคนยูดาห์ทุกคนที่อยู่ในแผ่นดินอียิปต์จะต้องตายด้วยคมดาบ หรือไม่ก็อดตาย จนกว่าพวกมันจะหมดสิ้นไป 28 จะมีแค่ไม่กี่คนในพวกเขาที่เล็ดรอดคมดาบออกมาได้ แล้วพวกนี้ก็จะไปจากแผ่นดินอียิปต์กลับไปยังแผ่นดินยูดาห์ แล้วคนยูดาห์ที่รอดชีวิต ที่ได้มาอยู่ในแผ่นดินอียิปต์อย่างคนต่างชาตินั้น ก็จะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่ถูกต้อง พวกเขาหรือยาห์เวห์” 29 พระยาห์เวห์พูดว่า “เมื่อเราลงโทษพวกเจ้าที่นี่ นั่นจะเป็นข้อพิสูจน์สำหรับพวกเจ้า พวกเจ้าจะได้รู้ว่าเมื่อเราบอกว่าเราจะให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับเจ้า มันจะเกิดแน่”
30 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะยกฟาโรห์โฮฟรา กษัตริย์ของอียิปต์ ให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูเขา และตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนที่อยากฆ่าเขา เหมือนกับที่เรายกเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์ของบาบิโลน และตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนที่อยากฆ่าเขา”
อธิษฐานขอชัยชนะให้กับกษัตริย์
ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด
1 เมื่อท่านตกอยู่ในความทุกข์ยาก ขอให้พระยาห์เวห์ตอบคำร้องขอของท่าน
ขอให้พระเจ้าแห่งยาโคบปกป้องคุ้มครองท่าน
2 ขอให้พระองค์ส่งความช่วยเหลือมาให้กับท่านจากวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ขอพระองค์สนับสนุนค้ำจุนท่านจากภูเขาศิโยน
3 ขอให้พระองค์ระลึกถึงเครื่องถวายทั้งสิ้นของท่าน
ขอให้พระองค์ยอมรับเครื่องเผาบูชาของท่าน เซลาห์
4 ขอให้พระองค์ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ใจท่านอยากได้
ขอให้พระองค์ทำให้แผนการของท่านประสบผลสำเร็จ
5 แล้วเราจะร่วมฉลองยินดีกับชัยชนะของท่าน
สรรเสริญชื่อของพระเจ้าของเรา
และขอให้พระยาห์เวห์ให้ทุกสิ่งที่ท่านร้องขอด้วยเถิด
6 ตอนนี้ ข้าพเจ้าแน่ใจแล้วว่า พระยาห์เวห์จะนำชัยชนะมาสู่กษัตริย์ที่พระองค์เลือก
พระองค์จะตอบกษัตริย์องค์นั้นจากสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
พระองค์จะนำชัยชนะอันยิ่งใหญ่มาสู่เขาด้วยมือขวาของพระองค์
7 บางคนโอ้อวดรถรบของพวกเขา บางคนโอ้อวดม้าของเขา
แต่พวกเราโอ้อวดพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา
8 คนพวกนั้นจะล้มลงและพ่ายแพ้
แต่พวกเราจะลุกขึ้นและยืนหยัดมั่นคง
9 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ช่วยให้ชัยชนะกับกษัตริย์ด้วยเถิด
และช่วยตอบพวกเราด้วย เมื่อเราร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
ขอบคุณพระยาห์เวห์สำหรับชัยชนะของกษัตริย์
ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ กษัตริย์องค์นั้นดีใจมากในพละกำลังของพระองค์
ท่านชื่นชมยินดีมากที่พระองค์ช่วยให้ท่านได้รับชัยชนะ
2 พระองค์ให้กับท่านตามที่ใจท่านอยากได้
พระองค์ไม่ได้หน่วงเหนี่ยวสิ่งที่ริมฝีปากท่านขอ เซลาห์
3 พระองค์ให้พระพรที่ดีๆกับท่าน
พระองค์สวมมงกุฎทองคำบนศีรษะของท่าน
4 กษัตริย์องค์นั้นขอชีวิตจากพระองค์
พระองค์ก็มอบชีวิตที่ยืนยาวไปตลอดให้กับท่าน
5 เกียรติยศของท่านนั้นยิ่งใหญ่เพราะชัยชนะที่พระองค์มอบให้แก่ท่าน
พระองค์สวมรัศมีและบารมีให้กับท่าน
6 พระองค์อวยพรให้กับท่านอยู่ตลอดเวลา
ที่พระองค์อยู่กับท่านนั้นทำให้ท่านมีความสุขอย่างล้นพ้น
7 กษัตริย์ไว้วางใจในพระยาห์เวห์
ความรักมั่นคงของพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดทำให้ท่านไม่หวั่นไหว
8 ท่านจะใช้มือของท่านจับพวกศัตรูของท่าน
และใช้มือขวาของท่านจับคนเหล่านั้นที่เกลียดชังท่าน
9 เมื่อท่านมาถึง ท่านจะเผาผลาญพวกเขาเหมือนกับเตาไฟ
พระยาห์เวห์จะเผาผลาญพวกเขาด้วยความโกรธ ไฟนั้นจะกลืนพวกเขา
10 ท่านจะทำลายพวกลูกหลานของเขาจนหมดไปจากโลกนี้
ท่านจะทำลายเผ่าพันธุ์ของเขาจนหมดไปจากมนุษยชาติ
11 ถึงแม้ว่าเขาได้วางแผนร้ายต่อท่าน
และวางแผนทำร้ายท่าน แต่พวกเขาจะทำไม่สำเร็จ
12 ท่านจะทำให้พวกเขาหันหลังหนีไป
เมื่อท่านยิงลูกธนูใส่หน้าพวกเขา
13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ลุกขึ้นด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ด้วยเถิด
เราจะร้องเพลงและสรรเสริญความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของพระองค์
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International