M’Cheyne Bible Reading Plan
หีบของพระยาห์เวห์ก่อปัญหาให้ชาวฟีลิสเตีย
5 หลังจากที่ชาวฟีลิสเตียได้ยึดหีบของพระเจ้าไป พวกเขาก็นำหีบจากเอเบนเอเซอร์ไปเมืองอัชโดด 2 จากนั้นพวกเขาก็แบกหีบนั้นไปไว้ในวัดของพระดาโกน[a] และตั้งไว้ข้างๆพระดาโกน 3 เช้าวันต่อมา ชาวเมืองอัชโดด ก็เห็นพระดาโกนล้มหน้าคว่ำอยู่บนพื้นต่อหน้าหีบของพระยาห์เวห์ พวกเขาจึงยกพระดาโกนขึ้นตั้งที่เดิม 4 แต่ในเช้าวันต่อมา พวกเขาก็พบพระดาโกนล้มหน้าคว่ำอยู่บนพื้นต่อหน้าหีบของพระยาห์เวห์ หัวและแขนทั้งสองข้างของพระดาโกนแตกหักอยู่ที่ธรณีประตู เหลือแต่เพียงลำตัว 5 เป็นเหตุให้ทุกวันนี้นักบวชของพระดาโกนและคนอื่นๆที่จะเข้าวัดพระดาโกนที่อัชโดดไม่เหยียบธรณีประตู
6 มือของพระยาห์เวห์ได้ทำให้ชีวิตของคนอัชโดดและเพื่อนบ้านลำบาก พระองค์ทำให้พวกเขาเจอกับปัญหามากมายและมีฝีเกิดขึ้น พระองค์ยังส่งหนูมาให้กับพวกเขาด้วย ตามพวกเรือของพวกเขามีหนูวิ่งพล่านไปหมด และหนูเหล่านั้นก็ยังขึ้นมาบนบกด้วย คนในเมืองต่างพากันหวาดกลัวมาก[b] 7 เมื่อคนอัชโดดเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาพูดว่า “ต้องไม่ให้หีบของพระยาห์เวห์อยู่กับพวกเราที่นี่ เพราะมือของพระองค์หนักอึ้งอยู่บนพวกเรา และบนพระดาโกนของพวกเราด้วย”
8 ดังนั้นคนอัชโดดจึงได้เรียกประชุมผู้นำฟีลิสเตียทุกคนและถามพวกเขาว่า “พวกเราควรจะทำอย่างไรดีกับหีบของพระของชาวอิสราเอล”
พวกผู้นำก็ตอบว่า “ย้ายหีบของพระของชาวอิสราเอลไปไว้ที่เมืองกัท” พวกเขาจึงได้ย้ายหีบของพระของชาวอิสราเอลไปที่เมืองกัท
9 แต่หลังจากที่คนอัชโดดได้ย้ายหีบไปแล้ว มือของพระยาห์เวห์ก็ได้ต่อต้านเมืองกัทนั้น พระองค์ทำให้คนทั้งเมืองสับสนวุ่นวายกันไปหมด คนในเมืองต่างได้รับความเจ็บปวดทรมานจากฝี ทั้งคนแก่และคนหนุ่มสาว 10 พวกเขาจึงส่งหีบของพระเจ้าไปเอโครน
เมื่อหีบของพระเจ้ามาถึงเมืองเอโครน ชาวเมืองก็ร้องว่า “พวกเขานำหีบของพระของอิสราเอลมาให้พวกเราเพื่อฆ่าพวกเราและชาวเมือง” 11 พวกเขาจึงเรียกประชุมผู้นำฟีลิสเตียทุกคนและพูดว่า “ส่งหีบของพระของอิสราเอลกลับไปเสีย ให้หีบนั้นกลับไปที่เดิมของมัน เพื่อว่ามันจะได้ไม่ฆ่าพวกเราและประชาชนของพวกเรา”
เพราะความตายทำให้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มือของพระเจ้าได้หนักอึ้งอยู่บนเมืองนี้ 12 คนที่ไม่ตายก็เป็นฝี และเสียงร้องของเมืองนี้ก็ดังขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์
หีบของพระยาห์เวห์ถูกส่งกลับบ้าน
6 เมื่อหีบของพระยาห์เวห์ ได้ไปอยู่ในเขตแดนของคนฟีลิสเตียเจ็ดเดือน 2 คนฟีลิสเตียจึงเชิญพวกนักบวชและหมอดูมาถามว่า “พวกเราควรทำยังไงกับหีบของพระยาห์เวห์ดี บอกพวกเราหน่อยว่าจะส่งหีบกลับไปที่เดิมยังไง”
3 พวกเขาตอบว่า “ถ้าเจ้าจะส่งหีบของพระของอิสราเอลกลับไป อย่าส่งกลับไปเปล่าๆ แต่เจ้าต้องส่งของถวายชดใช้ไปให้พระนั้นด้วย แล้วพวกเจ้าก็จะหายจากโรค และได้รับการไถ่ เจ้าต้องทำอย่างนี้ เพื่อพระนั้นจะหยุดลงโทษพวกเจ้า”[c]
4 คนฟีลิสเตียถามว่า “พวกเราควรส่งอะไรให้กับพระองค์นั้นเป็นของถวายชดใช้ความผิด”
พวกเขาตอบว่า “ส่งฝีห้าก้อนที่ทำจากทองคำและหนูทองคำห้าตัว ตามจำนวนของผู้นำฟีลิสเตีย เพราะโรคระบาดชนิดเดียวกันนี้ก็ได้เกิดกับพวกท่านและผู้นำของพวกท่านเหมือนกัน 5 ให้สร้างตามต้นแบบของฝีและหนูที่ทำลายเมืองของพวกท่าน แล้วให้เกียรติพระของอิสราเอล ไม่แน่พระนั้นอาจจะยกมือของพระองค์ไปพ้นจากพวกท่าน ไปจากพระทั้งหลายของพวกท่าน และไปจากแผ่นดินของพวกท่าน 6 ทำไมพวกท่านจะต้องทำใจให้ดื้อรั้นเหมือนกับคนอียิปต์และฟาโรห์ ที่ไม่ยอมปล่อยคนอิสราเอลไป จนพระองค์นั้นต้องลงโทษพวกเขาอย่างโหดเหี้ยม เพื่อพวกเขาจะได้ปล่อยคนอิสราเอลให้ไปตามทางของพวกเขา
7 ตอนนี้ให้เตรียมเกวียนใหม่กับวัวตัวเมียสองตัวที่มีลูกแต่ไม่เคยลากเกวียนมาก่อน ให้ผูกเกวียนไว้กับวัวแต่เอาลูกวัวไปกักไว้[d] 8 เอาหีบของพระยาห์เวห์วางบนเกวียน และเอาหีบที่ใส่ทองที่เป็นของถวายชดใช้ความผิด วางไว้ข้างๆ แล้วปล่อยเกวียนไป 9 แต่ให้คอยดู ถ้าเกวียนไปที่แผ่นดินของเขาเอง โดยมุ่งหน้าตรงไปเมืองเบธเชเมช แสดงว่าพระยาห์เวห์เป็นผู้ทำให้เกิดภัยพิบัติแก่พวกเรา แต่ถ้ามันไปทางอื่นพวกเราจะได้รู้ว่าไม่ได้เป็นฝีมือของพระองค์นั้นหรอกที่โจมตีพวกเรา แต่มันเกิดขึ้นกับพวกเราโดยบังเอิญ”
10 คนฟีลิสเตียก็ทำตามนั้น พวกเขาเอาแม่วัวคู่หนึ่งมาเทียมเกวียน และขังลูกมันไว้ 11 แล้วเอาหีบของพระยาห์เวห์และหีบที่ใส่พวกหนูทองคำกับพวกฝีทองคำทั้งหมดขึ้นเกวียน 12 จากนั้นแม่วัวก็ออกเดินตรงไปยังเมืองเบธเชเมช แม่วัวเดินไปตามถนนและร้องไปตลอดทาง พวกมันไม่เลี้ยวซ้ายหรือขวาเลย ผู้นำฟีลิสเตียตามไปดูจนถึงเขตแดนเบธเชเมช
13 เวลานั้นชาวเมืองเบธเชเมชกำลังเกี่ยวข้าวสาลีในหุบเขา และเมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นหีบของพระยาห์เวห์ พวกเขาก็ดีใจกันใหญ่และตรงไปที่หีบใบนั้น 14 เกวียนได้เข้ามาในเขตทุ่งนาของโยชูวา ชาวเบธเชเมช และหยุดที่ข้างก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ชาวเมืองผ่าไม้จากเกวียนทำเป็นฟืน และฆ่าวัวคู่นั้นเผาเป็นเครื่องเผาบูชาให้แก่พระยาห์เวห์
15 คนเลวี[e] ก็นำหีบของพระยาห์เวห์และหีบใส่พวกทองคำลงมาวางไว้บนก้อนหินใหญ่นั้น ในวันนั้นชาวเมืองเบธเชเมชได้ถวายพวกเครื่องเผาบูชา และพวกเครื่องบูชาให้กับพระยาห์เวห์
16 ผู้นำทั้งห้าคนของฟีลิสเตียได้เห็นสิ่งต่างๆทั้งหมดนี้ และพวกเขาได้กลับไปเมืองเอโครนในวันนั้น
17 ก้อนฝีทองคำห้าก้อนที่คนฟีลิสเตียได้ส่งให้กับพระยาห์เวห์เป็นของถวายชดใช้ความผิดนั้น แต่ละก้อนแทนเมืองอัชโดด เมืองกาซา เมืองอัชเคโลน เมืองกัท และเมืองเอโครน 18 จำนวนหนูทองคำก็ทำขึ้นตามจำนวนเมืองต่างๆที่เป็นของผู้นำทั้งห้าของฟีลิสเตีย เมืองพวกนี้มีป้อมปราการ และแต่ละเมืองก็มีหมู่บ้านล้อมรอบมัน
หินก้อนใหญ่ซึ่งคนเบธเชเมชใช้วางหีบของพระยาห์เวห์ก็ยังตั้งเป็นพยานอยู่ในทุ่งนาของโยชูวาชาวเบธเชเมชมาจนถึงทุกวันนี้ 19 แต่เมื่อพวกผู้ชายชาวเบธเชเมชเห็นหีบของพระยาห์เวห์และเฉลิมฉลองกัน ไม่มีพวกนักบวชอยู่ในหมู่พวกเขา พระยาห์เวห์ก็เลยฆ่าคนเบธเชเมชไปเจ็ดสิบคน[f] ประชาชนก็ไว้ทุกข์เพราะพระยาห์เวห์ลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรง 20 ชาวเมืองเบธเชเมชจึงถามว่า “ใครจะสามารถยืนอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้ หีบของพระเจ้าควรจะไปอยู่กับใครดี”
21 พวกเขาจึงส่งพวกคนนำข่าวไปยังชาวเมืองคิริยาท-เยอาริมว่า “คนฟีลิสเตียได้ส่งหีบของพระยาห์เวห์กลับมาให้แล้ว ขอให้ลงมารับหีบขึ้นไปอยู่กับท่านด้วย”
สันติสุขและความชื่นชมยินดี
5 พระเจ้านับว่าเราเป็นคนที่พระองค์ยอมรับเพราะเราไว้วางใจ จึงเกิดความสงบสุขระหว่างเรากับพระเจ้า[a]ผ่านทางพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา 2 พระเยซูนำเราเข้าสู่ความเมตตากรุณาที่เรามีอยู่นี้ แล้วเราก็ยังโอ้อวดอย่างชื่นชมยินดีในความหวังที่เราจะได้รับเกียรติจากพระเจ้า[b] 3 นอกจากนั้น เรายังชื่นชมยินดีกับความทุกข์ยากต่างๆที่เราได้รับด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากต่างๆจะทำให้เราเรียนรู้ที่จะอดทน 4 ความอดทนนี้จะทำให้เราเกิดความไว้วางใจ ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นของแท้ ซึ่งจะทำให้เราเกิดความหวัง 5 ความหวังนั้นไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย เพราะพระเจ้าได้เทความรักของพระองค์เข้ามาในจิตใจของเรา ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระองค์ได้ให้กับเราไว้ 6 เพราะในเวลาที่เรายังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นั้นเอง พระเยซูก็ได้มาตายเพื่อเป็นประโยชน์กับคนชั่วอย่างเรา 7 คนที่ยอมตายเพื่อคนซื่อสัตย์นั้นหายากมาก แต่อาจจะมีบางคนกล้าตายเพื่อคนที่ดีๆ 8 แต่พระเจ้าได้แสดงความรักต่อเรา โดยยอมส่งพระคริสต์มาตายเพื่อเรา ทั้งๆที่เรายังเป็นคนบาปอยู่
9 ตอนนี้พระเจ้ายอมรับเราแล้วเพราะเลือดของพระคริสต์ ยิ่งกว่านั้นเราจะรอดพ้นจากความโกรธของพระเจ้าเพราะพระคริสต์อย่างแน่นอน 10 ขนาดตอนที่เราเป็นศัตรูกับพระเจ้า ความตายของพระบุตรยังทำให้เรากลับมาคืนดีกับพระเจ้าได้เลย แล้วตอนนี้เราได้กลับมาคืนดีกับพระเจ้าแล้ว ดังนั้นชีวิตของพระบุตรจะต้องทำให้เราได้รับความรอดอย่างแน่นอน 11 ยิ่งกว่านั้น เรายังได้โอ้อวดพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์เจ้าของเราด้วย เพราะพระองค์ได้ทำให้เรากลับมาคืนดีกับพระเจ้าแล้ว
อาดัมและพระเยซู
12 คนคนเดียวคืออาดัมทำบาป บาปจึงเข้ามาในโลก บาปนี้นำความตายมาด้วย มนุษย์ทุกคนจึงต้องตายเพราะมนุษย์ทุกคนทำบาป 13 บาปเกิดขึ้นในโลกนี้ก่อนที่จะมีกฎของโมเสสเสียอีก ตอนนั้นพระเจ้าจึงยังไม่ได้จดบัญชีบาปที่มนุษย์ทำกัน เพราะยังไม่มีกฎอะไรใช้เลย 14 แต่ความตายนั้นมีอำนาจอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยของอาดัมมาจนถึงสมัยของโมเสส มนุษย์ทุกคนจึงยังต้องตายถึงแม้เขาจะไม่ได้ขัดคำสั่งของพระเจ้าโดยตรงอย่างที่อาดัมทำ อาดัมกับพระคริสต์ที่มาตอนหลังนี้มีบางอย่างที่เหมือนกัน 15 แต่ของขวัญที่พระเจ้าให้เปล่าๆนั้น มันแตกต่างกันเพราะในทางหนึ่งขณะที่ความผิดของคนๆหนึ่ง คืออาดัม ทำให้คนจำนวนมากต้องตาย แต่ในอีกทางหนึ่ง ความเมตตากรุณาของพระเจ้าและของขวัญที่ผ่านมาทางความเมตตาของคนคนเดียวคือพระเยซูคริสต์นั้น ก็เป็นประโยชน์กับคนมากมาย
16 แน่นอนผลจากของขวัญนั้น แตกต่างอย่างมากจากผลของความผิดที่อาดัมได้ทำ เพราะการทำผิดเพียงครั้งเดียวทำให้ทุกคนต้องถูกตัดสินว่าผิด แต่ของขวัญนั้นทำให้คนเราได้รับการตัดสินว่าไม่ผิด ทั้งๆที่ทำผิดตั้งหลายครั้ง 17 ถ้าความตายปกครองคนเราเพราะความบาปของมนุษย์คนหนึ่ง ยิ่งกว่านั้นคนมากมายจะปกครองชีวิตผ่านทางมนุษย์อีกคนหนึ่งคือพระเยซูคริสต์อย่างแน่นอน คือคนเหล่านั้นที่ได้รับความเมตตากรุณาอย่างเหลือล้น และได้รับของขวัญเป็นที่ยอมรับของพระเจ้า 18 คนคนเดียวทำผิด ก็ทำให้มนุษย์ทุกคนต้องถูกตัดสินว่าผิด เช่นเดียวกันคนคนเดียวทำถูกต้อง ก็ทำให้พระเจ้ายอมรับและให้ชีวิตกับมนุษย์ทุกคน 19 คนคนเดียวไม่เชื่อฟัง ก็ทำให้คนมากมายกลายเป็นคนบาป เช่นเดียวกันคนคนเดียวเชื่อฟังก็ทำให้คนมากมายกลายเป็นคนที่พระเจ้ายอมรับ 20 เมื่อกฎของโมเสสเข้ามา ทำให้คนผิดกฎกันมากขึ้น แต่เมื่อบาปเพิ่มขึ้น ความเมตตากรุณาก็ยิ่งเพิ่มมากกว่านั้นอีก 21 บาปเคยเป็นกษัตริย์และใช้ความตายปกครอง เช่นเดียวกันความเมตตากรุณาเป็นกษัตริย์และใช้การที่พระเจ้ายอมรับเราปกครอง ทำให้คนมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป ผ่านทางพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา
ย้ายถิ่นฐานไปอียิปต์
43 พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาได้ส่งเยเรมียาห์มาบอกถ้อยคำของพระองค์กับประชาชนทุกคน เมื่อเยเรมียาห์ได้บอกทุกอย่างที่พระยาห์เวห์สั่งให้มาบอกกับพวกเขาเสร็จแล้ว 2 อาซาริยาห์ลูกชายของโฮชายาห์ และโยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ และพวกประชาชนที่โอหังทุกคน พูดกับเยเรมียาห์ว่า “แกพูดโกหก พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราไม่ได้ส่งแกมาให้พูดกับเราว่า ‘อย่าไปอียิปต์เพื่อไปอยู่เหมือนคนต่างชาติที่นั่นเลย’ 3 ที่แกพูดอย่างนี้ก็เพราะบารุคลูกชายของเนริยาห์กำลังยุแหย่ให้แกต่อต้านพวกเรา เพื่อจะได้จับพวกเราส่งไปให้อยู่ในเงื้อมมือของพวกบาบิโลน เพื่อให้มันฆ่าพวกเราทิ้งและกวาดต้อนพวกเราไปที่บาบิโลน” 4 โยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ และพวกแม่ทัพนายกองทั้งหมด และคนทั้งหมด ก็ไม่ยอมเชื่อฟังพระยาห์เวห์ ผู้ที่บอกให้พวกเขาอยู่ในแผ่นดินยูดาห์ 5 โยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ และพวกแม่ทัพนายกองทั้งหมดก็พาคนยูดาห์ที่เหลือไปอาศัยอยู่ในอียิปต์ในฐานะคนต่างชาติ คนยูดาห์ที่เหลืออยู่นี้คือคนที่แต่ก่อนเคยถูกขับไล่ออกไป แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ในยูดาห์แล้ว 6 คนที่เดินทางไปอียิปต์ก็มีทั้งชายหญิง เด็กๆและพวกลูกสาวของกษัตริย์ อันที่จริงคนพวกนี้เป็นคนที่เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ได้ให้เกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมเป็นผู้ดูแล อาหิคัมเป็นลูกชายของชาฟาน โยฮานันก็พาเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าและบารุคลูกชายของเนริยาห์ไปอียิปต์ด้วย 7 พวกเขาทั้งหมดก็เดินทางไปอียิปต์ เพราะพวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังพระยาห์เวห์ แล้วพวกเขาก็เดินทางไปไกลถึงทาปานเหส
8 ที่เมืองทาปานเหสนี้เอง ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ก็มีมาถึงเยเรมียาห์ พระองค์พูดว่า 9 “เยเรมียาห์ ไปเก็บหินก้อนโตๆมาให้เต็มมือเจ้า และต่อหน้าพลเมืองยูดาห์ให้เจ้าฝังหินพวกนั้นไว้ใต้อิฐกับปูน ที่ปูอยู่บนทางเดินหน้าประตูวังฟาโรห์ที่เมืองทาปานเหส 10 แล้วให้เจ้าบอกกับคนยูดาห์ที่ดูอยู่ว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอลพูดว่า “เราจะเรียกเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์ของบาบิโลนผู้รับใช้ของเรามาที่นี่ เราจะวางบัลลังก์ของเขาไว้บนก้อนหินเหล่านี้ที่เราได้ฝังไว้ เขาจะกางเต็นท์อยู่เหนือหินเหล่านี้ 11 เขาจะมาโจมตีแผ่นดินอียิปต์ แล้วคนที่ถูกกำหนดให้ตายด้วยโรคระบาดก็จะต้องตายด้วยโรคระบาด คนที่ถูกกำหนดให้ถูกจับไปเป็นเชลย ก็จะต้องไปเป็นเชลย และคนที่ถูกกำหนดให้ถูกดาบฆ่าฟัน ก็จะต้องตายด้วยดาบ”’”
12 “กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ จะจุดไฟเผาวิหารของพวกเทพเจ้าอียิปต์ จะเผาและยึดพวกมันไป เขาจะเด็ดอียิปต์จนเกลี้ยงเกลาเหมือนคนเลี้ยงแกะกำจัดเหาออกจากเสื้อของตัวเอง แล้วก็จากไปอย่างปลอดภัย 13 เขาจะทำลายเสาศักดิ์สิทธิ์ในวิหารเทพพระอาทิตย์ในเมืองเบธเชมาชที่อยู่ในแผ่นดินอียิปต์ และจะเอาไฟเผาวิหารทั้งหมดของเทพเจ้าอียิปต์ให้สิ้น”
เพลงสรรเสริญสิ่งที่พระองค์สร้างและกฎของพระองค์
ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด
1 สวรรค์ประกาศถึงสง่าราศีของพระเจ้า
ท้องฟ้าบ่งบอกถึงงานฝีมือของพระองค์
2 มันพูดถึงพระเจ้าวันแล้ววันเล่า
มันให้ความรู้เกี่ยวกับพระองค์คืนแล้วคืนเล่า
3 ถึงมันจะไม่มีคำพูดเล็ดลอดออกมา
ถึงไม่มีเสียงใดๆให้ได้ยิน
4 แต่แท้จริงแล้ว เสียงของมันก็แพร่ออกไปทั่วโลกแล้ว
และคำพูดของมันก็ได้ยินไปถึงสุดโลกแล้ว
พระเจ้าตั้งเต็นท์ให้กับดวงอาทิตย์ในท้องฟ้า
5 ดวงอาทิตย์ออกมาอย่างมีความสุขเหมือนเจ้าบ่าวที่ออกมาจากห้องหอ
ดวงอาทิตย์เป็นเหมือนนักวิ่ง มันมีความสุขที่จะวิ่งตามทางของมันข้ามท้องฟ้า
6 ดวงอาทิตย์เริ่มจากปลายฟ้าฟากหนึ่ง
วิ่งไปตลอดจนสุดปลายฟ้าอีกฟากหนึ่ง
และไม่มีอะไรหลบพ้นจากความร้อนของมันได้
7 คำสอนของพระยาห์เวห์นั้น ช่างดีพร้อม ให้ความสดชื่นกับชีวิต
กฎเกณฑ์ของพระยาห์เวห์นั้น เชื่อถือได้ ทำให้คนอ่อนต่อโลกฉลาดได้
8 พวกกฎระเบียบของพระยาห์เวห์นั้นถูกต้อง
ทำให้หัวใจมนุษย์มีความสุข
พวกคำสั่งของพระยาห์เวห์นั้นบริสุทธิ์
ฟื้นพลังให้กับชีวิต[a]
9 ความยำเกรงพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ และยั่งยืนอยู่ตลอดไป
กฎพระยาห์เวห์นั้นถูกต้องและยุติธรรมครบถ้วน
10 สิ่งเหล่านี้มีค่ามากกว่าทองคำ มากยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์หลายเท่านัก
หวานกว่าน้ำผึ้ง หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งจากรัง
11 ใช่แล้ว สิ่งเหล่านี้ตักเตือนผู้รับใช้ของพระองค์
และผู้ที่รักษาสิ่งเหล่านี้จะได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่
12 ใครจะเห็นความผิดพลาดทั้งหมดของตัวเองได้
ดังนั้นโปรดอภัยให้กับความผิดบาปที่ข้าพเจ้าทำไปโดยไม่รู้ตัว
13 ช่วยยับยั้งข้าพเจ้าจากบาปที่ทำทั้งๆที่รู้ว่าบาป
อย่าให้ความบาปอย่างนั้นมาครอบงำข้าพเจ้า
แล้ว ข้าพเจ้าจะได้ไม่มีที่ติ จะบริสุทธิ์ และจะไม่ทำการทรยศอันยิ่งใหญ่
14 พระยาห์เวห์ ผู้เป็นหินกำบัง และผู้ปกป้องข้าพเจ้า
ขอให้คำพูดจากปาก และความคิดในใจของข้าพเจ้าเป็นสิ่งที่พระองค์ชอบใจ
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International