Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
เอเสเคียล 16-17

คำอุปมาเรื่องความไม่ซื่อสัตย์ของกรุงเยรูซาเล็ม

16 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงประจันหน้ากับเยรูซาเล็มเพราะเรื่องการกระทำอันน่าชิงชังของนาง และจงกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสแก่เยรูซาเล็มดังนี้ว่า บรรพบุรุษและชาติกำเนิดของเจ้าอยู่ในดินแดนคานาอัน บิดาของเจ้าเป็นชาวอาโมไรต์และมารดาเป็นชาวฮิตไทต์ วันที่เจ้าเกิดมา ไม่มีใครตัดสายสะดือให้ ไม่มีใครอาบน้ำให้สะอาด ไม่มีใครเอาเกลือถูตัวหรือเอาผ้าอ้อมพันให้ ไม่มีใครเหลียวแลสงสารเจ้า หรือเมตตาพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้เจ้า เจ้ากลับถูกทิ้งไว้กลางทุ่ง เพราะวันที่เจ้าเกิดมา เจ้าก็เป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์

“ ‘แล้วเราผ่านไปเห็นเจ้าดิ้นไปมาเนื้อตัวโชกเลือด เราก็พูดกับเจ้าซึ่งนอนจมกองเลือดอยู่ว่า “จงมีชีวิตอยู่!” เราจะทำให้เจ้าเจริญเติบโตเหมือนต้นไม้กลางทุ่ง เจ้าเติบใหญ่จนกลายเป็นสาว[a]ทรวงอกเต่งตึงขึ้นและผมก็ยาว แต่เจ้าก็ยังล่อนจ้อนและเปลือยอยู่

“ ‘ต่อมาเมื่อเราผ่านไปและมองดูเจ้า ก็เห็นว่าเจ้าโตพอที่จะมีความรักแล้ว เราจึงคลี่มุมชายเสื้อของเราคลุมกายเจ้า และปกปิดความเปลือยเปล่าของเจ้าไว้ เราให้คำปฏิญาณและได้ทำพันธสัญญากับเจ้า และเจ้าก็เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น

“ ‘เราได้อาบน้ำให้เจ้า ชำระล้างเลือดจากตัวเจ้าและเอาน้ำมันชโลมให้เจ้า 10 เราเอาชุดปักและรองเท้าหนังสวมให้เจ้า ให้เจ้าแต่งกายด้วยผ้าลินินเนื้อดี คลุมกายเจ้าด้วยอาภรณ์ราคาแพง 11 เราตกแต่งเจ้าด้วยเพชรนิลจินดา สวมกำไลมือและสร้อยคอให้ 12 ใส่ห่วงจมูก ตุ้มหู และสวมมงกุฎงามให้ 13 เจ้าจึงงดงามด้วยทองคำและเงิน เสื้อผ้าอาภรณ์ของเจ้าทำด้วยผ้าลินินเนื้อดี ผ้าราคาแพง และผ้าปัก อาหารของเจ้าคือแป้งละเอียด น้ำผึ้ง และน้ำมันมะกอก เจ้ากลายเป็นคนสวยงามมากและรุ่งโรจน์ขึ้นเป็นราชินี 14 และชื่อเสียงของเจ้าก็เลื่องลือไปในหมู่ประชาชาติเนื่องด้วยความสวยงามของเจ้า เพราะความโอ่อ่าตระการที่เรามอบให้นั้นทำให้เจ้างามเพียบพร้อม พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น

15 “ ‘แต่เจ้าวางใจในความงามของตัวเอง และใช้ชื่อเสียงของเจ้าทำตัวเป็นหญิงโสเภณี เจ้าโปรยเสน่ห์ให้ทุกคนที่ผ่านไปมาและทอดกายให้เขา[b] 16 เจ้าเอาอาภรณ์บางส่วนของเจ้าไปทำให้สถานบูชาบนที่สูงมีสีสันฉูดฉาด ที่ซึ่งเจ้าใช้ขายเนื้อขายตัว สิ่งเหล่านี้ไม่น่าเกิดขึ้นและไม่น่าเป็นไปได้ 17 เจ้ายังเอาเพชรนิลจินดาชั้นเลิศซึ่งเรามอบให้ และเครื่องประดับเงินและทองคำของเราไปสร้างรูปเคารพเพศชายสำหรับตน และทำการแพศยากับรูปเคารพเหล่านั้น 18 และเจ้านำผ้าปักของเจ้าไปสวมให้รูปเคารพ เอาน้ำมันกับเครื่องหอมของเราไปบูชาต่อหน้ามัน 19 ทั้งอาหารที่เราให้เจ้าคือแป้งละเอียด น้ำมันมะกอก และน้ำผึ้ง เจ้าก็เอาไปถวายเป็นเครื่องหอมบูชาต่อหน้าพระเหล่านั้น นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น

20 “ ‘และเจ้าถึงกับจับลูกชายลูกสาวที่เจ้าคลอดออกมาเพื่อเราไปเซ่นสังเวยเป็นอาหารแก่รูปเคารพต่างๆ การแพศยานอกใจของเจ้ายังไม่พออีกหรือ? 21 เจ้าถึงต้องเข่นฆ่าลูกๆ ของเรา และเผาพวกเขา[c]เพื่อบูชายัญแก่รูปเคารพ 22 ตลอดการกระทำอันน่าชิงชังและการแพศยานอกใจของเจ้า เจ้าไม่ได้ระลึกถึงวัยเยาว์ของเจ้า เมื่อเจ้าเปลือยเปล่าตัวล่อนจ้อนและดิ้นไปดิ้นมาอยู่ในกองเลือดเลย

23 “ ‘วิบัติ วิบัติแก่เจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น นอกเหนือจากความชั่วร้ายทั้งหมดของเจ้าแล้ว 24 เจ้ายังได้สร้างเนินสูงให้ตัวเองและสร้างสถานบูชาที่สูงตระหง่านไว้ที่ลานชุมชนทุกแห่ง 25 เจ้าสร้างสถานบูชาอันสูงตระหง่านไว้ที่หัวถนนทุกสาย และทำให้ความงามของตนลดค่าลง โดยพลีกายให้ทุกคนที่ผ่านไปมาด้วยความสำส่อนมากยิ่งขึ้น 26 เจ้าแพศยาคบชู้กับชาวอียิปต์เพื่อนบ้านผู้มากด้วยราคะ และยั่วยุโทสะของเราด้วยความสำส่อนที่ทวีขึ้นของเจ้า 27 ฉะนั้นเราจึงเหยียดมือของเราออกต่อสู้กับเจ้า และลดพรมแดนของเจ้า เรายกเจ้าให้ความโลภโมโทสันของศัตรูของเจ้าคือบรรดาชาวฟีลิสเตีย[d] ผู้ตกตะลึงในความประพฤติอันลามกต่ำทรามของเจ้า 28 เจ้ายังแพศยาคบชู้กับชาวอัสซีเรียอีกด้วย เพราะเจ้าไม่อิ่มในกาม และแม้หลังจากนั้นเจ้าก็ยังไม่หนำใจ 29 แล้วเจ้าก็ทวีความสำส่อนมากยิ่งขึ้น โดยเล่นชู้กับบาบิโลน[e]ดินแดนแห่งพ่อค้าวาณิช แต่ถึงขนาดนี้แล้วเจ้าก็ยังไม่จุใจ

30 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า ทำไมเจ้าช่างอ่อนไหวใจง่ายจนทำสิ่งต่างๆ ถึงเพียงนี้ ทำตัวเป็นหญิงแพศยาหน้าด้าน! 31 เมื่อเจ้าสร้างเนินต่างๆ ไว้ที่หัวถนน และสถานบูชาที่สูงตระหง่านในลานชุมชนทุกแห่ง เจ้าก็ยังต่างจากหญิงโสเภณีก็ตรงที่เจ้าไม่แยแสค่าจ้าง

32 “ ‘เจ้าคือภรรยาแพศยา! เจ้าชื่นชอบคนแปลกหน้ายิ่งกว่าสามีของตนเอง 33 หญิงโสเภณีทุกคนได้รับค่าจ้าง แต่เจ้าให้ของกำนัลแก่ชู้รักทั้งปวง ให้สินบนจ้างเขามาหาเจ้าจากทุกหนทุกแห่ง เพื่อสนองราคะตัณหาของเจ้า 34 ฉะนั้นในการแพศยาของเจ้า เจ้าจึงแตกต่างจากโสเภณีอื่นๆ คือไม่มีใครตามจีบเอาใจเจ้า เจ้าแตกต่างมากเพราะว่าเจ้ายอมจ่ายค่าจ้าง แต่ไม่ได้อะไรตอบแทน

35 “ ‘ฉะนั้นหญิงแพศยาเอ๋ย จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า! 36 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้าโปรยหว่านราคะตัณหา[f] และเผยความเปลือยเปล่าของตนโดยการสำส่อนกับชู้รักทั้งหลาย และเนื่องจากรูปเคารพอันน่าชิงชังของเจ้า รวมถึงการเซ่นสังเวยเลือดลูกๆ ของเจ้าแก่พระเหล่านั้น 37 ฉะนั้นเราจะรวบรวมชู้รักทุกคนที่เจ้าชื่นชอบ ทั้งผู้ที่เจ้ารักและผู้ที่เจ้าเกลียด เราจะรวบรวมเขาจากทุกด้านมาเล่นงานเจ้า เราจะริบทุกสิ่งจากเจ้าไปต่อหน้าพวกเขา และพวกเขาทุกคนจะเห็นความเปลือยเปล่าของเจ้า 38 เราจะตัดสินลงโทษเจ้าในฐานะผู้หญิงที่ล่วงประเวณีและฆ่าคน เราจะทำให้เจ้าโชกเลือดด้วยความกริ้วและความหึงหวงของเรา 39 แล้วเราจะมอบเจ้าแก่บรรดาชู้รักของเจ้า พวกเขาจะทลายเนินสูง และทำลายสถานบูชาที่สูงตระหง่านของเจ้า พวกเขาจะทำให้เจ้าล่อนจ้อน และริบเอาเพชรนิลจินดาสวยๆ งามๆ ไป และเปลื้องอาภรณ์ของเจ้าออก ทิ้งเจ้าไว้ให้เปลือยเปล่า 40 พวกเขาจะยกขบวนมาสู้กับเจ้า ซึ่งจะขว้างก้อนหินใส่เจ้าและจะฟาดฟันเจ้าออกเป็นชิ้นๆ ด้วยดาบของพวกเขา 41 พวกเขาจะเผาบ้านเรือนของเจ้า และลงโทษเจ้าต่อหน้าต่อตาผู้หญิงมากมาย เราจะยุติการแพศยาของเจ้าและเจ้าจะไม่จ่ายค่าจ้างให้บรรดาชู้รักของเจ้าอีกต่อไป 42 เมื่อนั้นโทสะที่เรามีต่อเจ้าจะยุติลง และความหึงหวงของเราจะหันเหไปจากเจ้า เราจะสงบอารมณ์และจะไม่โกรธอีก

43 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า เพราะเจ้าไม่ได้ระลึกถึงวัยเยาว์ของเจ้า แต่ยั่วโมโหเราด้วยสิ่งทั้งหมดนี้ แน่นอนเราจะตอบแทนเจ้าให้สาสมกับสิ่งที่เจ้าทำลงไป เจ้าไม่ได้เพิ่มความลามกต่ำทรามเข้ากับการกระทำอันน่าชิงชังทั้งหลายของเจ้าหรอกหรือ?

44 “ ‘ทุกคนที่ยกภาษิตมากล่าว จะกล่าวถึงเจ้าด้วยภาษิตที่ว่า “แม่เป็นอย่างไร ลูกสาวก็เป็นอย่างนั้น” 45 เจ้าเป็นลูกแท้ๆ ของแม่เจ้า ผู้เกลียดชังสามีกับลูกๆ ของตน และเจ้าเป็นน้องแท้ๆ ของพี่สาวเจ้า ผู้เกลียดชังสามีกับลูกๆ ของตน แม่ของเจ้าเป็นชาวฮิตไทต์และพ่อของเจ้าเป็นชาวอาโมไรต์ 46 พี่สาวของเจ้าคือสะมาเรียผู้อาศัยอยู่ทางเหนือกับลูกสาวทั้งหลายของนาง น้องสาวของเจ้าคือโสโดมซึ่งอาศัยอยู่ทางใต้กับลูกสาวทั้งหลายของนาง 47 เจ้าไม่เพียงแต่ดำเนินในวิถีทางอันชั่วร้ายของพวกเขา และเลียนแบบการกระทำอันน่าชิงชังของพวกเขาเท่านั้น แต่ไม่นานวิถีทั้งปวงของเจ้าก็ต่ำทรามยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก 48 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด โสโดมน้องสาวของเจ้ากับลูกๆ ของนางยังไม่เคยทำสิ่งที่เจ้ากับลูกสาวทั้งหลายของเจ้าทำลงไปฉันนั้น

49 “ ‘บัดนี้โสโดมน้องสาวของเจ้ามีบาปคือ นางกับลูกๆ ที่หยิ่งยโสได้รับการบำรุงบำเรอเกินขนาดและไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนอันใด พวกเขาไม่ช่วยเหลือคนยากจนขัดสน 50 เขาจองหองและทำสิ่งที่น่าชิงชังต่อหน้าเรา ฉะนั้นเราจึงกำจัดพวกเขาไปตามที่เจ้าได้เห็นแล้ว 51 สะมาเรียทำบาปไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเจ้า เจ้าทำสิ่งที่น่าชิงชังยิ่งกว่าที่พวกเขาทำ การกระทำทั้งสิ้นของเจ้าพลอยทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูชอบธรรมขึ้น 52 เจ้าจงทนรับความอับอายขายหน้าไป เพราะเจ้าทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูดีกว่า เนื่องจากบาปของเจ้าชั่วช้าเลวทรามยิ่งกว่าของพวกเขา พวกเขาจึงดูเป็นฝ่ายชอบธรรม ฉะนั้นจงละอายแก่ใจและทนรับความอัปยศอดสูของเจ้าไปเถิด เพราะเจ้าทำให้พี่สาวน้องสาวของเจ้าดูชอบธรรม

53 “ ‘แต่เราจะคืนความรุ่งโรจน์ให้แก่โสโดมกับบรรดาลูกสาวของนาง คืนให้แก่สะมาเรียกับบรรดาลูกสาวของนาง และคืนความรุ่งโรจน์ให้แก่เจ้าด้วย 54 เพื่อเจ้าจะทนรับความอับอายขายหน้าและละอายใจในสิ่งทั้งปวงที่พวกเจ้าทำลงไป ซึ่งเป็นการปลอบประโลมพวกเขา 55 แล้วพี่สาวน้องสาวของเจ้าคือ โสโดมกับลูกๆ และสะมาเรียกับลูกๆ จะคืนสู่สภาพเดิม และเจ้ากับลูกๆ ก็จะคืนสู่สภาพเดิมด้วย 56 เจ้าไม่ยอมแม้แต่จะเอ่ยถึงโสโดมน้องสาวของเจ้าในวันแห่งความหยิ่งผยองของเจ้า 57 ก่อนหน้าความชั่วร้ายของเจ้าจะถูกเปิดโปง ถึงอย่างนั้นตอนนี้เจ้าก็ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามโดยธิดาทั้งหลายแห่งเอโดม[g]และเพื่อนบ้านทั้งปวงของนาง รวมทั้งธิดาทั้งหลายของชาวฟีลิสเตีย คือคนทั้งปวงรอบตัวเจ้าก็ดูหมิ่นเหยียดหยามเจ้า 58 เจ้าจะต้องทนรับผลจากความลามกต่ำทราม และการกระทำอันน่าชิงชังของเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

59 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราจะจัดการกับเจ้าอย่างสาสม เพราะเจ้าลบหลู่ดูหมิ่นคำปฏิญาณของเราโดยละเมิดพันธสัญญา 60 ถึงกระนั้นเราก็จะระลึกถึงพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับเจ้าเมื่อครั้งเจ้ายังเยาว์วัย และเราจะสถาปนาพันธสัญญานิรันดร์กับเจ้า 61 แล้วเจ้าจะระลึกถึงวิถีทางของเจ้าและละอายใจ เมื่อเรายกพี่สาวน้องสาวของเจ้าให้เป็นลูกสาวของเจ้า แต่ไม่ใช่ตามพันธสัญญาที่เราให้ไว้กับเจ้า 62 ดังนั้นเราจะสถาปนาพันธสัญญาของเราไว้กับเจ้า แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ 63 เมื่อนั้นเราจะลบล้างมลทินบาปให้เจ้าสำหรับทุกสิ่งที่เจ้าทำลงไป เจ้าจะจำได้และละอายใจ ไม่กล้าปริปากอีกเลยเนื่องจากความละอายของเจ้า’ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น”

นกอินทรีสองตัวและเถาองุ่น

17 พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงยกอุทาหรณ์และกล่าวคำอุปมาแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอล จงกล่าวกับพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า นกอินทรีใหญ่ตัวหนึ่งซึ่งมีปีกทรงพลัง และขนยาวดกหลากสีบินมายังเลบานอน มันเกาะที่ยอดต้นสนซีดาร์ต้นหนึ่ง มันจิกหน่อที่สูงที่สุด และคาบไปยังนครของพ่อค้าวาณิชทั้งหลาย แล้วปลูกหน่อนั้นลงในเมืองของพ่อค้า

“ ‘นกอินทรีนั้นคาบเมล็ดพืชจากดินแดนของเจ้าไปปลูกไว้ในดินที่อุดมสมบูรณ์ มันปลูกไว้เหมือนต้นหลิวที่อยู่ริมน้ำอันอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้นั้นก็งอกงามและกลายเป็นเถาองุ่นพุ่มเตี้ย มันแผ่กิ่งก้านเลื้อยไปทางนกอินทรี แต่รากของมันยังคงอยู่ข้างใต้ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นเถาองุ่นที่แผ่กิ่งก้านและใบดกหนา

“ ‘แต่มีนกอินทรีใหญ่อีกตัวหนึ่งบินมา มันมีปีกทรงพลังและมีขนดก เถาองุ่นก็ชอนรากจากจุดที่ขึ้นอยู่และแผ่ก้านมาหามันเพื่อให้มันรดน้ำให้ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็งอกอยู่ในดินดีมีน้ำอุดมสมบูรณ์ พร้อมที่จะแผ่กิ่งก้านสาขา ออกผล และกลายเป็นเถาองุ่นชั้นเยี่ยมอยู่แล้ว’

“จงบอกพวกเขาเถิดว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เถาองุ่นนั้นจะเจริญงอกงามได้หรือ? มันจะไม่ถูกถอนรากปลิดผลจนเหี่ยวแห้งไปหรือ? ใบอ่อนของมันจะเหี่ยวแห้งหมด ไม่ต้องใช้แขนที่แข็งแรงมากหรือคนหมู่ใหญ่ในการถอนรากเถาองุ่นนั้นขึ้นมา 10 แม้มันถูกย้ายไปปลูก มันจะเจริญงอกงามได้หรือ? มันจะไม่เหี่ยวแห้งไปหมดสิ้นเมื่อถูกลมตะวันออกพัดกระหน่ำหรือ? มันจะไม่เหี่ยวแห้งคาที่ที่มันงอกขึ้นมาหรือ?’ ”

11 แล้วพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 12 “จงกล่าวแก่พงศ์พันธุ์ที่ชอบกบฏนี้ว่า ‘เจ้าไม่รู้หรือว่าสิ่งเหล่านี้หมายความว่าอะไร?’ จงบอกพวกเขาว่า ‘กษัตริย์บาบิโลนมายังเยรูซาเล็มและกวาดต้อนกษัตริย์และบรรดาขุนนางพากลับไปยังบาบิโลน 13 แล้วพระองค์ทรงพาเจ้านายผู้หนึ่งมาและได้ทำสัญญากับเขา ให้เขาถวายสัตยาบันว่าจะจงรักภักดี แล้วพระองค์ก็ทรงนำคนระดับผู้นำของดินแดนนั้นไปด้วย 14 เพื่ออาณาจักรนั้นจะตกต่ำลงและไม่สามารถรุ่งเรืองขึ้นมาได้อีก จะอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อรักษาสัญญา 15 แต่กษัตริย์นั้นก็กบฏต่อพระองค์โดยส่งทูตไปยังอียิปต์ ขอม้าและกองทัพใหญ่มาช่วย เขาจะทำการสำเร็จหรือ? ผู้ที่ทำเช่นนั้นจะหนีรอดไปได้หรือ? เขาละเมิดสัญญาแล้วยังจะหนีรอดไปได้หรือ?

16 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เขาจะตายในบาบิโลน ในดินแดนของกษัตริย์ผู้ที่ตั้งเขาขึ้นครองราชบัลลังก์ ผู้ที่เขาลบหลู่สัตยาบันและผิดสัญญาที่ให้ไว้ฉันนั้น 17 ฟาโรห์พร้อมกับทัพหลวงอันเกรียงไกรและกำลังพลมากมายจะช่วยเขาไม่ได้ในสงคราม เมื่อเชิงเทินถูกสร้างขึ้นและเครื่องล้อมเมืองถูกตั้งขึ้นเพื่อทำลายชีวิตคนเป็นอันมาก 18 เขาผิดสัตยาบันโดยละเมิดพันธสัญญา เพราะเขาถวายสัตยาบันแล้วยังทำเช่นนี้ เขาจะหนีไม่รอด

19 “ ‘ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจึงตรัสดังนี้ว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราจะลงทัณฑ์เขาตามคำปฏิญาณของเราที่เขาลบหลู่ และตามพันธสัญญาของเราที่เขาละเมิดฉันนั้น 20 เราจะกางตาข่ายของเราดักเขา และเขาจะติดอยู่ในกับดักของเรา เราจะนำเขาไปยังบาบิโลนและพิพากษาลงโทษเขาที่นั่น เพราะเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา 21 ทหารทั้งปวงของเขาที่หนีไปจะตายด้วยดาบและผู้รอดชีวิตอยู่จะถูกทำให้กระจัดกระจายไปตามลม เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาไว้

22 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราเองนี่แหละจะเอาหน่อจากยอดของสนซีดาร์ไปปลูกไว้ เราจะหักหน่ออ่อนจากยอดไปปลูกไว้บนภูเขาสูง 23 เราจะปลูกมันไว้บนยอดเขาแห่งอิสราเอล มันจะแผ่กิ่งก้านสาขาและผลิผลกลายเป็นสนซีดาร์ชั้นเยี่ยม นกทุกชนิดจะมาสร้างรังและอาศัยอยู่ใต้ร่มไม้ของมัน 24 ต้นไม้ทั้งปวงในท้องทุ่งจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้โค่นต้นไม้สูงลงและทำให้ต้นไม้เตี้ยสูงขึ้น ทำให้ต้นไม้เขียวเหี่ยวเฉา และให้ต้นไม้แห้งผลิงาม

“ ‘เราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาไว้และเราจะทำเช่นนั้น’ ”

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.