Chronological
ซาโลมอนเตรียมวัตถุสร้างวิหาร
(2 พศด. 2:1-18)
5 เมื่อฮีรามกษัตริย์ของเมืองไทระได้ยินว่าซาโลมอนได้รับการเจิมขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากดาวิดพ่อของเขา กษัตริย์ฮีรามจึงได้ส่งทูตของเขาไปหาซาโลมอน เพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดีของดาวิดตลอดมา 2 ซาโลมอนจึงได้ส่งข้อความนี้มาถึงฮีรามว่า
3 “ท่านก็รู้ว่าดาวิดพ่อของข้าพเจ้าไม่สามารถที่จะสร้างวิหารเพื่อเป็นเกียรติให้กับชื่อของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาได้ เพราะต้องคอยสู้รบกับพวกศัตรูที่อยู่ล้อมรอบเขา จนกระทั่งพระยาห์เวห์ได้ปราบพวกศัตรูให้อยู่ใต้เท้าของเขา 4 แต่ตอนนี้พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้าได้ให้ข้าพเจ้าหยุดพักจากสงครามแล้วในทุกๆด้าน และไม่มีการต่อสู้หรือความหายนะใดๆอีก
5 ข้าพเจ้าจึงตั้งใจว่าจะสร้างวิหารขึ้นหลังหนึ่ง เพื่อเป็นเกียรติให้กับชื่อของพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า ตามที่พระยาห์เวห์ได้เคยบอกไว้กับดาวิดพ่อของข้าพเจ้า เมื่อพระองค์พูดว่า ‘ลูกชายของเจ้าคนที่เราจะให้ขึ้นนั่งบนบัลลังก์แทนเจ้านั้น จะเป็นผู้สร้างวิหารเพื่อเป็นเกียรติให้กับชื่อของเรา’ 6 อย่างนั้น ช่วยสั่งคนให้ตัดต้นสนซีดาร์ของเลบานอนไว้ให้กับข้าพเจ้าด้วย คนของข้าพเจ้าจะทำงานร่วมกับคนของท่าน และข้าพเจ้าจะจ่ายเงินให้กับท่านสำหรับคนของท่าน ตามจำนวนค่าจ้างที่ท่านกำหนดมา ท่านก็รู้ว่าข้าพเจ้าไม่มีคนที่มีความชำนาญในการตัดไม้[a] เหมือนกับชาวซีโดน”
7 เมื่อฮีรามได้ยินข้อความของซาโลมอน ก็รู้สึกพอใจอย่างมากและพูดว่า “วันนี้ เราขอสรรเสริญองค์พระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ได้ให้ลูกชายที่เฉลียวฉลาดคนหนึ่งกับดาวิดเพื่อที่จะปกครองชนชาติที่ยิ่งใหญ่นี้” 8 ฮีรามได้ส่งข้อความไปถึงซาโลมอนว่า
“เราได้รับข้อความที่ท่านส่งถึงเราแล้ว และจะทำตามทุกอย่างที่ท่านต้องการ เราจะจัดหาไม้สนซีดาร์และไม้สนสามใบให้กับท่าน 9 บรรดาคนของเราจะชักลากไม้เหล่านี้ลงมาจากเลบานอนไปที่ทะเล และเราจะเอาไม้เหล่านี้ผูกรวมกันล่องเป็นแพไปตามทะเลจนถึงสถานที่ที่ท่านกำหนดไว้ และที่นั่นเราจะแยกพวกมันออก และท่านก็สามารถเอามันไปได้ ท่านสามารถตอบแทนเราได้ ด้วยการส่งเสบียงอาหารให้กับคนในวังของเรากินกัน”
10 ฮีรามจึงได้จัดส่งไม้สนซีดาร์และไม้สนสามใบให้กับซาโลมอนตามที่เขาต้องการทุกอย่าง 11 ซาโลมอนก็ได้ให้แป้งสาลีสี่ล้านสี่แสนลิตร[b] เป็นอาหารให้กับคนในวังของฮีราม และน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์สี่แสนสี่หมื่นลิตร[c] ซาโลมอนทำอย่างนี้ให้กับฮีรามปีแล้วปีเล่า
12 พระยาห์เวห์ให้ความเฉลียวฉลาดกับซาโลมอน ตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับเขา ฮีรามและซาโลมอนก็ได้ทำสัญญาเป็นพันธมิตรต่อกันและอยู่กันอย่างสันติ
13 กษัตริย์ซาโลมอนได้เกณฑ์พวกแรงงานมาจากทั่วทั้งอิสราเอลรวมสามหมื่นคน 14 เขาได้ส่งคนเหล่านั้นออกไปที่เลบานอนโดยแบ่งเวรกันไป เวรละหนึ่งหมื่นคนต่อเดือน เพื่อพวกเขาจะได้อยู่ในเลบานอนหนึ่งเดือนและได้อยู่ที่บ้านของพวกเขาสองเดือน อาโดนีรัมทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมคนงาน 15 ซาโลมอนมีคนแบกหามอยู่เจ็ดหมื่นคนและมีคนตัดหินแปดหมื่นคนที่ทำงานอยู่ในแถบเนินเขา 16 มีหัวหน้าคนงานอีกสามพันสามร้อยคนที่ทำหน้าที่ดูแลงานในโครงการและคอยสั่งงานคนงาน 17 กษัตริย์ซาโลมอนได้สั่งให้พวกเขาตัดหินก้อนใหญ่ๆที่มีราคาแพงออกมาจากเหมืองหิน เพื่อใช้หินที่ตกแต่งแล้วนี้วางเป็นฐานรากของวิหาร 18 ช่างแกะสลักของซาโลมอนและฮีรามและคนจากเกบาล[d] ต่างตัดแต่งไม้และหินเพื่อนำมาสร้างเป็นวิหาร
ซาโลมอนสร้างวิหาร
(2 พศด. 3:1-14; 4:1-10, 19-22; 5:1)
6 เป็นเวลาสี่ร้อยแปดสิบปี[e] หลังจากที่ชาวอิสราเอลได้อพยพออกมาจากประเทศอียิปต์ ในเดือนศิฟ ซึ่งเป็นเดือนที่สองของปี ตรงกับปีที่สี่ที่ซาโลมอนเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ซาโลมอนได้เริ่มสร้างวิหารของพระยาห์เวห์ขึ้น 2 วิหารที่กษัตริย์ซาโลมอนได้สร้างขึ้นให้พระยาห์เวห์นั้นมีขนาดยาวหกสิบศอก[f] กว้างยี่สิบศอก[g] และสูงสามสิบศอก[h] 3 ด้านหน้าของห้องโถงใหญ่ของวิหาร มีระเบียงที่ยื่นออกมาสิบศอก และมีความกว้างยี่สิบศอกซึ่งเท่ากับความกว้างของวิหารพอดี 4 พระองค์ได้สร้างช่องหน้าต่างแคบๆหลายบานไว้ด้านบนของผนังวิหาร[i] ช่องหน้าต่างนี้ด้านในเล็กกว่าด้านนอก 5 ซาโลมอนได้สร้างห้องโดยรอบ ติดกับผนังรอบห้องโถงใหญ่และห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ห้องพวกนี้มีสามชั้น 6 ฝาผนังด้านนอกของห้องโถงใหญ่นั้น ด้านล่างหนากว่าด้านบนเป็นหยักบ่าเข้าไป เพื่อจะได้วางไม้คาน ไม้คานจะได้ไม่ทะลุฝาผนังเข้าไป จึงทำให้พวกห้องด้านบนกว้างกว่าพวกห้องด้านล่าง พวกห้องชั้นล่างสุดกว้างห้าศอก[j] ชั้นที่สองกว้างหกศอก[k] และชั้นที่สามกว้างเจ็ดศอก[l] 7 ในการก่อสร้างวิหารนี้ จะใช้แต่หินที่ได้รับการตัดแต่งเรียบร้อยแล้วจากเหมืองหินเท่านั้น ก็เลยไม่มีเสียงค้อน หรืออีเต้อ หรือเครื่องมืออื่นๆที่ทำจากเหล็ก
8 ทางเข้าห้องพวกนี้ อยู่ที่ชั้นหนึ่ง ตรงด้านทิศใต้ของวิหาร ข้างในมีบันไดขึ้นจากชั้นหนึ่งไปชั้นสอง และจากชั้นสองไปชั้นสาม
9 ซาโลมอนก็ได้สร้างวิหารนั้นจนเสร็จสมบูรณ์ พระองค์ได้สร้างหลังคาวิหาร โดยมีขื่อและแผ่นกระดานที่ทำจากไม้สนซีดาร์ 10 แล้วพระองค์ได้สร้างพวกห้องที่ล้อมรอบวิหารจนเสร็จ แต่ละห้องสูงห้าศอก และมีพวกไม้คานที่ทำจากสนซีดาร์วางพาดอยู่บนหยักบ่าของฝาผนังวิหาร
11 คำพูดของพระยาห์เวห์มาถึงซาโลมอนว่า 12-13 “ถ้าหากเจ้าทำตามกฎต่างๆของเรา ทำตามข้อบังคับทุกข้อและรักษาคำสั่งทุกอย่างของเรา และใช้ชีวิตตามนั้น เราก็จะทำตามคำสัญญาที่เราได้ให้ไว้กับดาวิดพ่อของเจ้า เราจะอาศัยอยู่ในท่ามกลางชาวอิสราเอลในวิหารนี้ที่เจ้ากำลังสร้างขึ้น และเราจะไม่ละทิ้งประชาชนชาวอิสราเอลของเรา”
14 ซาโลมอนจึงได้สร้างวิหารหลังนั้นจนเสร็จสมบูรณ์
15 พระองค์ใช้แผ่นกระดานที่ทำจากไม้สนซีดาร์ กรุผนังด้านในที่ทำจากหินโดยรอบ ตั้งแต่พื้นไปจนถึงเพดาน และปูทับพื้นหินทั้งหมดในวิหารด้วยแผ่นกระดานที่ทำจากไม้สนสามใบ 16 ที่ด้านในสุดของวิหาร พระองค์ใช้แผ่นกระดานที่ทำจากไม้สนซีดาร์กั้นห้องขึ้นมาตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน มีขนาดยาวยี่สิบศอก เพื่อให้เป็นห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 17 ห้องโถงใหญ่ด้านหน้ามีขนาดยาวสี่สิบศอก[m] 18 ภายในวิหารใช้ไม้สนซีดาร์ที่แกะสลักลายน้ำเต้า[n] และลายดอกไม้บานกรุไว้จนหมด ไม่เห็นส่วนที่เป็นหินเลย
19 ซาโลมอนได้สร้างห้องศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านในสุดของวิหารจนเสร็จ เพื่อใช้เป็นที่วางหีบแห่งข้อตกลงของพระยาห์เวห์ 20 ห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนี้มีขนาดยาวยี่สิบศอก[o] กว้างยี่สิบศอกและสูงยี่สิบศอก เขาใช้ทองคำบริสุทธิ์บุทับไว้ที่ด้านในของห้อง และเขาได้สร้างแท่นเผาเครื่องหอมที่ทำจากไม้สนซีดาร์ตั้งไว้ตรงหน้าห้องนี้ และเอาทองบุแท่นเผาเครื่องหอมนี้ 21 ซาโลมอนบุทองคำบริสุทธิ์ไว้ที่ด้านในของวิหาร และใช้โซ่ทองคำกั้นไว้ที่หน้าห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่ได้บุทองคำไว้แล้ว 22 แล้วด้านในของวิหารก็บุทองคำไว้ทั้งหมด แท่นเผาเครื่องหอมที่ตั้งอยู่หน้าห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ก็บุทองคำด้วย
23 ภายในห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เขาได้ใช้ไม้มะกอกสร้างเป็นทูตสวรรค์มีปีก ไว้สององค์ แต่ละองค์มีความสูงสิบศอก 24 ปีกข้างหนึ่งของทูตองค์แรก มีความยาวห้าศอก ปีกอีกข้างหนึ่งยาวห้าศอก วัดจากปลายปีกข้างหนึ่งไปถึงปลายปีกอีกข้างหนึ่งยาวสิบศอก 25 ทูตสวรรค์มีปีกองค์ที่สองก็วัดได้สิบศอกด้วย ทั้งสององค์มีขนาดและรูปร่างเหมือนกัน 26 ทูตสวรรค์มีปีกทั้งสององค์นั้นสูงสิบศอกเท่ากัน 27 ซาโลมอนได้วางทูตสวรรค์มีปีกทั้งสององค์ไว้ภายในห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ปีกข้างหนึ่งของทูตสวรรค์ทั้งสองนั้นแตะกันอยู่ตรงกลางห้อง ส่วนปีกอีกข้างของทูตทั้งสองนั้นก็ไปติดกับฝาผนังแต่ละด้าน 28 และทูตสวรรค์มีปีกทั้งสององค์นั้นก็มีทองคำบุอยู่
29 บนฝาผนังด้านในของห้องโถงใหญ่และห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนั้น มีทั้งรูปทูตสวรรค์มีปีก รูปต้นอินทผลัม และดอกไม้บาน สลักอยู่มากมาย 30 พื้นของห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และห้องโถงใหญ่ของวิหาร บุด้วยทองคำ 31 ตรงทางเข้าของห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด คนงานได้เอาไม้มะกอกมาสร้างเป็นประตูขึ้นสองบาน และทำกรอบประตูเป็นรูปห้าเหลี่ยม[p] 32 ซาโลมอนให้พวกช่างทำบานประตูทั้งสองนั้นจากไม้มะกอก และแกะสลักรูปทูตสวรรค์มีปีก ต้นปาล์มและดอกไม้บานไว้มากมาย และบุด้วยทองคำ
33 ตรงทางเข้าห้องโถงใหญ่ พวกเขาได้ใช้ไม้มะกอกมาทำกรอบประตูเป็นรูปสี่เหลี่ยม 34 พวกเขาได้เอาไม้สนสามใบมาสร้างเป็นสองประตู แต่ละประตูก็มีบานประตูสองบานที่พับได้ 35 พวกช่างได้แกะสลักลายทูตสวรรค์มีปีก ต้นปาล์มและดอกไม้ไว้บนบานประตูเหล่านั้น และบุด้วยทองคำ
36 แล้วพวกช่างก็ได้เอาหินที่ตัดแต่งแล้วมาสร้างเป็นกำแพงล้อมรอบลานด้านในไว้ กำแพงแต่ละด้านสร้างขึ้นด้วยหินที่ตัดแต่งแล้วสามชั้น กับไม้สนซีดาร์อีกหนึ่งชั้น
37 พวกเขาเริ่มก่อสร้างวิหารของพระยาห์เวห์ขึ้นในเดือนศิฟ (เป็นเดือนที่สองของปี) ซึ่งตรงกับปีที่สี่ที่กษัตริย์ซาโลมอนเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล 38 วิหารสร้างเสร็จในปีที่สิบเอ็ดที่ซาโลมอนเป็นกษัตริย์ ในเดือนบูล (ซึ่งเป็นเดือนที่แปดของปี) วิหารก็สร้างเสร็จตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ทุกอย่าง ซาโลมอนได้ใช้เวลาในการสร้างวิหารทั้งหมดเจ็ดปี
ซาโลมอนเตรียมสร้างวิหารและวัง
(1 พกษ. 5:1-18; 7:13-14)
2 ซาโลมอนวางแผนสร้างวิหารขึ้นแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นเกียรติแก่ชื่อของพระยาห์เวห์ และวางแผนสร้างวังให้กับตัวเอง 2 เขาเกณฑ์คนเจ็ดหมื่นคนมาเป็นคนแบกหาม และแปดหมื่นคนมาเป็นช่างตัดหินในเนินเขา และอีกสามพันหกร้อยคนมาเป็นผู้ควบคุมคนงานเหล่านี้
3 ซาโลมอนได้ส่งข้อความไปถึงกษัตริย์ฮีรามของเมืองไทระ[a] ว่า
“ช่วยส่งไม้สนซีดาร์มาให้เราเหมือนกับที่ท่านเคยส่งมาให้ดาวิดพ่อของเรา ตอนที่พ่อเราสร้างวังสำหรับอยู่อาศัย 4 ตอนนี้ เรากำลังจะสร้างวิหารขึ้นแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นเกียรติแก่ชื่อของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา และจะอุทิศวิหารนี้ให้กับพระองค์ เพื่อเอาไว้ใช้เผาเครื่องหอมต่อหน้าพระองค์ และวางขนมปังศักดิ์สิทธิ์ทุกวัน และเอาไว้สำหรับเผาเครื่องเผาบูชาทุกเช้าเย็น และทุกวันหยุดทางศาสนา รวมทั้งทุกวันข้างขึ้น[b] และสำหรับงานเทศกาลต่างๆของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราที่ได้กำหนดไว้ อย่างที่อิสราเอลถูกสั่งให้รักษาตลอดไป
5 วิหารที่เรากำลังจะสร้างขึ้นนี้จะยิ่งใหญ่ เพราะพระเจ้าของพวกเรานั้นยิ่งใหญ่กว่าพระอื่นๆ 6 แต่ใครล่ะที่สามารถสร้างบ้านให้กับพระองค์ได้ ในเมื่อสวรรค์ทั้งหมด แม้แต่สวรรค์ชั้นสูงสุดก็ยังไม่สามารถจุพระองค์ได้เลย แล้วเราเป็นใครกันหรือ ที่จะมาสร้างบ้านให้กับพระองค์ได้ นอกจากว่ามันจะเป็นแค่สถานที่ไว้สำหรับเผาเครื่องบูชาต่อหน้าพระองค์
7 ดังนั้น ช่วยส่งชายคนหนึ่งมาให้เรา ที่มีความชำนาญเกี่ยวกับทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์และเหล็ก มีความชำนาญเกี่ยวกับเส้นใยสีฟ้า สีเลือดหมูและสีม่วง และมีประสบการณ์ด้านการแกะสลัก เพื่อให้มาทำงานในยูดาห์และในเมืองเยรูซาเล็มกับพวกช่างแกะสลักที่ชำนาญงานของเรา ที่ดาวิดพ่อของเราได้จัดหาไว้แล้ว 8 ช่วยจัดส่งไม้สนซีดาร์ ไม้สนสามใบและไม้ประดู่จำนวนมากมาจากเลบานอน ให้กับเราด้วย เพราะเรารู้ว่าคนของท่านมีความชำนาญในการตัดไม้ของที่นั่น คนของเราจะทำงานกับคนของท่าน 9 เพื่อที่จะจัดหาท่อนไม้จำนวนมากมายให้กับเรา เพราะวิหารที่เราจะสร้างจะต้องใหญ่โตและอลังการ 10 เราจะให้ข้าวสาลีโม่แล้วและข้าวบาร์เลย์อย่างละสี่ล้านสี่แสนลิตร เหล้าองุ่นสี่แสนสี่หมื่นลิตร และน้ำมันมะกอกสี่แสนสี่หมื่นลิตร กับพวกคนรับใช้ของท่านที่เป็นช่างตัดไม้ซึ่งได้นำไม้มาให้เรา”
11 กษัตริย์ฮีรามแห่งเมืองไทระส่งจดหมายตอบซาโลมอนไปว่า
“เป็นเพราะพระยาห์เวห์รักประชาชนของพระองค์ พระองค์จึงทำให้ท่านเป็นกษัตริย์ของพวกเขา” 12 แล้วฮีรามก็เขียนต่อไปอีกว่า “ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้าของชนชาติอิสราเอลผู้ที่สร้างสวรรค์และแผ่นดินโลก พระองค์ได้ให้ลูกชายที่เฉลียวฉลาดคนหนึ่งแก่กษัตริย์ดาวิด ลูกชายผู้ที่เต็มไปด้วยสติปัญญาและความเฉลียวฉลาดที่จะได้เป็นผู้สร้างวิหารสำหรับพระยาห์เวห์และวังสำหรับตัวเขาเอง 13 เราจะส่งหุราม[c] คนที่มีความชำนาญมากของเราไปพบท่าน 14 แม่ของเขามาจากดานและพ่อของเขาเป็นชาวเมืองไทระ เขาได้รับการฝึกฝนให้ทำงานเกี่ยวกับทองคำและเงิน ทองสัมฤทธิ์และเหล็ก หินและไม้ รวมทั้งเส้นใยสีเลือดหมู สีฟ้าและสีม่วงกับผ้าลินินอย่างดี เขามีประสบการณ์ในการแกะสลักทุกประเภทและสามารถแกะสลักตามแบบที่เราให้กับเขาได้ทุกแบบ เขาจะทำงานร่วมกับพวกช่างแกะสลักของท่านและร่วมกับพวกคนของดาวิดเจ้านายของเราที่เป็นพ่อของท่าน
15 ตอนนี้ ขอให้ท่านผู้เป็นเจ้านายของเราโปรดส่งข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์และน้ำมันมะกอกกับเหล้าองุ่นตามที่ท่านได้สัญญาไว้ มาให้กับพวกเราผู้รับใช้ของท่านด้วยเถิด 16 และพวกเราจะตัดไม้ซุงมาจากเลบานอนตามที่ท่านต้องการและนำไม้เหล่านั้นผูกเป็นแพล่องไปตามทะเลลงไปจนถึงยัฟฟา แล้วท่านก็จะนำพวกมันไปที่เมืองเยรูซาเล็มได้”
17 ซาโลมอนนับพวกชาวต่างชาติทั้งหมดที่อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มอีกครั้ง หลังจากที่ดาวิดผู้เป็นพ่อของเขาเคยนับมาแล้ว ชาวต่างชาติเหล่านี้มีทั้งหมดหนึ่งแสนห้าหมื่นสามพันหกร้อยคน 18 ซาโลมอนสั่งให้คนเจ็ดหมื่นคนมาทำงานแบกหาม และสั่งให้คนแปดหมื่นคนมาเป็นช่างตัดหินในเนินเขา ส่วนอีกสามพันหกร้อยคนให้มาเป็นผู้คุมคนงานเหล่านั้นให้ทำงาน
ซาโลมอนสร้างวิหาร
(1 พกษ. 6:1-38; 7:15-22)
3 แล้วซาโลมอนก็เริ่มสร้างวิหาร ของพระยาห์เวห์ในเมืองเยรูซาเล็ม บนภูเขาโมริยาห์ซึ่งเป็นที่ที่พระยาห์เวห์ได้ปรากฏแก่ดาวิดพ่อของเขา มันตั้งอยู่บนลานนวดข้าวของโอรนัน[d] ชาวเยบุส และเป็นที่ที่ดาวิดพ่อของเขาได้ซื้อมา 2 ซาโลมอนเริ่มสร้างวิหารในวันที่สองของเดือนที่สอง ซึ่งเป็นปีที่สี่ที่เขาขึ้นครองบัลลังก์
3 ซาโลมอนวางรากฐานของตึกที่จะเป็นวิหารของพระเจ้า ขนาดยาวหกสิบศอก[e] กว้างยี่สิบศอก[f] (ใช้ศอกมาตรฐานการวัดแบบเก่า) 4 ระเบียงด้านหน้าวิหารยาวยี่สิบศอก เท่ากับด้านกว้างของวิหาร และสูงยี่สิบศอก เขาใช้ทองคำบริสุทธิ์บุทับด้านใน 5 เขาปูไม้สนสามใบไว้ที่ห้องโถงใหญ่และใช้ทองคำบริสุทธิ์บุทับและตกแต่งด้วยลวดลายต้นปาล์มและลายโซ่ 6 ซาโลมอนประดับประดาวิหารด้วยพลอยที่มีค่า ส่วนทองคำที่เขาใช้ก็เป็นทองคำจากเมืองพารวายิม[g] 7 เขาบุทองคำไว้ที่คาน กรอบประตู ผนังและประตูทุกแห่งของวิหารแห่งนั้น และเขายังได้แกะสลักรูปทูตสวรรค์มีปีกหลายองค์ไว้ตามพวกผนังอีกด้วย
8 เขาสร้างห้องที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดขึ้น มีความยาวเท่ากับความกว้างของวิหาร คือยาวยี่สิบศอก และกว้างยี่สิบศอก ซาโลมอนบุทองคำอย่างดีน้ำหนักรวมยี่สิบเอ็ดตันไว้ที่ด้านในของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 9 พวกตะปูทองคำมีน้ำหนักรวมประมาณครึ่งกิโลกรัม เขายังบุทองคำไว้ที่พวกห้องชั้นบนด้วย 10 ภายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ซาโลมอนได้สร้างรูปปั้นของทูตสวรรค์มีปีก ขึ้นมาสององค์ และบุทองคำลงบนรูปปั้นทั้งสองนั้น 11 ปีกของทูตสวรรค์ทั้งสองที่กางออกเต็มที่มีความยาวทั้งหมดยี่สิบศอก ปีกด้านหนึ่งยาวห้าศอก[h] ไปติดกับผนังวิหาร ในขณะที่ปีกอีกด้านหนึ่งยาวห้าศอกเหมือนกันและติดกับปีกของทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่ง
12 ในลักษณะเดียวกัน ปีกข้างหนึ่งของทูตสวรรค์องค์ที่สองก็ยาวห้าศอกและไปติดกับผนังอีกด้านหนึ่งของวิหาร และอีกข้างหนึ่งก็ยาวห้าศอกและไปติดกับปีกอีกข้างหนึ่งของทูตสวรรค์องค์แรก 13 ปีกของทูตสวรรค์ทั้งสององค์นี้เมื่อกางออกแล้วยาวยี่สิบศอก ทูตสวรรค์ทั้งสองยืนอยู่หันหน้าออกไปทางห้องโถงใหญ่
14 ซาโลมอนทำผ้าม่าน[i] ขึ้นจากเส้นใยสีเลือดหมู สีม่วงและสีฟ้า กับผ้าลินินอย่างดี โดยปักรูปทูตสวรรค์มีปีกลงบนนั้น
15 ที่ด้านหน้าของวิหาร เขาได้สร้างเสาขึ้นสองต้น สูงสามสิบห้าศอก[j] แต่ละต้นมีหัวเสาวางอยู่ด้านบนสูงอีกห้าศอก 16 เขาได้สร้างโซ่ที่ร้อยต่อกันและได้วางโซ่เหล่านั้นไว้ที่ด้านบนของเสาสองต้นนั้น เขายังได้ทำผลทับทิมหนึ่งร้อยลูก และติดพวกมันไว้กับโซ่เหล่านั้น 17 เขาได้จัดตั้งเสาสองต้นนั้นขึ้นที่ด้านหน้าของวิหาร ต้นหนึ่งอยู่ทางทิศใต้และอีกต้นอยู่ทางทิศเหนือ ต้นที่อยู่ทางใต้มีชื่อว่ายาคีน[k] และต้นที่อยู่ทางเหนือมีชื่อว่าโบอาส[l]
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International