Chronological
พระยาห์เวห์จะรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้กับดาวิดหรือเปล่า
บทเพลงมัสคิลของเอธาน จากตระกูลเอศราค
1 ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์อยู่เสมอ
ข้าพเจ้าจะป่าวประกาศด้วยปากของข้าพเจ้าถึงความสัตย์ซื่อของพระองค์ให้กับคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า
2 เพราะข้าพเจ้าว่า “ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะอยู่นานตราบเท่าท้องฟ้า”
3 พระองค์พูดว่า “เราทำข้อตกลงกับผู้ที่เราเลือกไว้
เราให้คำสัตย์สาบานไว้กับดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า
4 เราจะตั้งราชวงศ์ของเจ้าตลอดไป
เราจะสร้างบัลลังก์ของเจ้าให้คงอยู่ตลอดชั่วลูกชั่วหลาน” เซลาห์
5 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ชาวสวรรค์จะสรรเสริญพระองค์สำหรับการอัศจรรย์ต่างๆที่พระองค์ทำ
ที่ชุมนุมของทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์จะสรรเสริญความสัตย์ซื่อของพระองค์
6 มีใครบ้างในฟ้าสวรรค์ที่จะมาเท่าเทียมกับพระยาห์เวห์ได้
มีใครท่ามกลางเทพเจ้าทั้งหลายที่จะมาเปรียบกับพระยาห์เวห์ได้
7 เมื่อทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์มาชุมนุมกันที่สภา พวกเขาต่างยำเกรงพระยาห์เวห์
พระองค์นั้นยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามกว่าทูตสวรรค์เหล่านั้นที่อยู่ล้อมรอบพระองค์
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดเหมือนกับพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์มีฤทธิ์อำนาจและสัตย์ซื่อในทุกเรื่อง
9 พระองค์ปกครองทะเลที่ปั่นป่วน
และเมื่อคลื่นโหมกระหน่ำพระองค์ปราบพวกมันให้สงบลง
10 พระองค์บดขยี้สัตว์ประหลาดในทะเลที่ชื่อ ราหับ[a]
พระองค์ทำให้พวกศัตรูของพระองค์แตกกระเจิงด้วยแขนอันทรงพลังของพระองค์
11 ฟ้าสวรรค์เป็นของพระองค์ รวมทั้งทุกสิ่งในโลกเป็นของพระองค์
พระองค์สร้างพวกมันขึ้นมาทั้งสิ้น
12 พระองค์สร้างทิศเหนือและทิศใต้
ภูเขาทาโบร์ และภูเขาเฮอร์โมนเต้นและร้องสรรเสริญชื่อของพระองค์ด้วยความยินดี
13 พระองค์มีแขนอันทรงพลัง
มือของพระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยฤทธิ์เดช มือขวาของพระองค์ชูขึ้นในชัยชนะ
14 อาณาจักรของพระองค์ตั้งอยู่บนความดีงามและความยุติธรรม
ความจงรักภักดีและความเชื่อถือได้เดินแถวอยู่ตรงหน้าพระองค์
15 คนเหล่านั้นที่เรียนรู้ที่จะร้องสรรเสริญพระองค์ มีเกียรติจริงๆ
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พวกเขาดำเนินชีวิตในความสว่างที่ส่องออกมาจากใบหน้าของพระองค์
16 พวกเขาชื่นชมยินดีที่จะสรรเสริญชื่อของพระองค์ตลอดทั้งวัน
พวกเขาได้รับชัยชนะเนื่องจากความยุติธรรมของพระองค์
17 เพราะพระองค์เป็นพละกำลังอันทรงเกียรติของพวกเขา
และพวกเราได้รับชัยชนะ[b] เมื่อพระองค์พอใจพวกเรา
18 เพราะโล่กำบัง[c] ของพวกเรามาจากพระยาห์เวห์
กษัตริย์ของพวกเรามาจากองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล[d]
19 ครั้งหนึ่ง พระองค์พูดในนิมิตกับพวกที่สัตย์ซื่อกับพระองค์ว่า “เราได้ให้ความช่วยเหลือกับนักรบคนหนึ่ง
เรายกย่องคนหนุ่มคนหนึ่งจากคนธรรมดาทั่วไป
20 เราพบดาวิด ผู้รับใช้ของเรา
และเราเจิมเขาด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
21 มือของเราจะค้ำจุนเขาไว้
แขนของเราจะทำให้เขาแข็งแรง
22 พวกศัตรูของเขาจะไม่ชนะเขาด้วยเล่ห์เพทุบาย
ไม่มีทางที่คนชั่วจะสามารถชนะเขาได้
23 เราจะบดขยี้ศัตรูของเขาต่อหน้าเขา
เราจะฟาดคนเหล่านั้นที่เกลียดชังเขาให้ล้มลง
24 ความสัตย์ซื่อและความรักมั่นคงของเราจะคงอยู่กับเขา
และเขาจะได้รับชัยชนะจากฤทธิ์อำนาจของเรา
25 เราจะแผ่ขยายอำนาจของเขาให้อยู่เหนือทะเลและแม่น้ำ[e]
26 เขาจะพูดกับเราว่า ‘พระองค์คือพ่อของข้าพเจ้า
พระเจ้าของข้าพเจ้าและหินกำบังที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด’
27 เราจะให้เขาเป็นลูกชายหัวปีของเรา
เป็นผู้สูงสุดเหนือกษัตริย์ทั้งปวงบนโลกนี้
28 ความรักมั่นคงของเราจะอยู่กับเขาตลอดไป
ข้อตกลงระหว่างเรากับเขาจะมั่นคง
29 เราจะตั้งราชวงศ์ของเขาไว้ตลอดไป
อาณาจักรของเขาจะคงอยู่ต่อไปนานตราบเท่ากับฟ้าสวรรค์
30 ถึงแม้ลูกหลานของเขาจะละทิ้งกฎของเรา
และไม่เชื่อฟังกฎระเบียบของเรา
31 ถึงแม้พวกเขาจะละเมิดกฎเกณฑ์ต่างๆของเรา
และไม่รักษาคำสั่งต่างๆของเรา
32 แล้วเราจะลงโทษพวกเขาสำหรับความผิดต่างๆของเขา
และหวดเขาสำหรับความผิดบาปของเขา
33 แต่เราก็จะไม่มีวันเอาความรักมั่นคงของเราไปจากดาวิด
เราจะไม่มีวันหักหลังหรือไม่สัตย์ซื่อต่อเขา
34 เราจะไม่มีวันละเมิดคำมั่นสัญญาที่เราทำกับเขา
เราจะไม่มีวันกลับคำพูดในสิ่งที่เราสัญญากับเขา
35 เราได้สาบานครั้งเดียวตลอดไปโดยอ้างความศักดิ์สิทธิ์ของเราเป็นประกัน
และเราจะไม่โกหกดาวิด
36 ราชวงศ์ของเขาจะคงอยู่ตลอดไป
บัลลังก์ของเขาจะคงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไปเหมือนดวงอาทิตย์
37 มันจะคงอยู่ตลอดไปเหมือนดวงจันทร์
มันจะมั่นคงเหมือนท้องฟ้า” เซลาห์
38 แต่พระเจ้า พระองค์ได้ละทิ้งกษัตริย์และจากไป
พระองค์โกรธผู้ที่พระองค์ได้เจิมไว้
39 พระองค์ยกเลิกข้อตกลงที่ทำไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์
พระองค์ลบหลู่มงกุฎของเขาด้วยการโยนทิ้งลงดิน
40 พระองค์พังกำแพงรอบเมืองของเขาจนหมดสิ้น
พระองค์ทำให้พวกป้อมปราการของเขากลายเป็นซากปรักหักพัง
41 คนที่เดินผ่านไปมาก็ได้ปล้นเขา
ชนชาติทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบต่างพากันพูดเหยียดหยามเขา
42 พระองค์ทำให้พวกศัตรูของเขาชูมือ-ขวาขึ้นในชัยชนะ
และทำให้ศัตรูทั้งหลายของเขาเฉลิมฉลองกัน
43 พระองค์หันคมดาบของเขาไปจากศัตรูของเขา
และไม่ยอมช่วยเขาสู้รบ
44 พระองค์ทำให้สง่าราศีของเขาจบสิ้นลง
และขว้างบัลลังก์ของเขาจากที่ของมันลงบนดิน
45 พระองค์ทำให้เขาแก่ก่อนวัย
และห่อเขาไว้ในความละอาย เซลาห์
46 ข้าแต่พระยาห์เวห์ มันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน พระองค์จะซ่อนตัวพระองค์ตลอดไปหรือ
ความโกรธของพระองค์จะเผาผลาญไปอีกนานแค่ไหน
47 อย่าลืมว่า ชีวิตข้าพเจ้านั้นสั้นเหลือเกิน
พระองค์สร้างมนุษย์ทุกคนให้มาพบกับจุดจบที่ว่างเปล่า
48 จะมีใครมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องตาย
ใครจะเอาตัวรอดจากอำนาจของความตาย เซลาห์
49 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต ความรักมั่นคงของพระองค์ที่พระองค์แสดงในอดีตหายไปไหน
เป็นความรักที่พระองค์เคยสาบานไว้กับดาวิดด้วยความสัตย์ซื่อ
50 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต โปรดระลึกถึงความอับอายที่พวกผู้รับใช้ของพระองค์ต้องทน
คำเยาะเย้ยจากชนชาติทั้งหลายที่ข้าพเจ้าต้องแบกรับไว้เต็มอก
51 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ศัตรูของพระองค์เยาะเย้ย
พวกเขาเยาะเย้ยกษัตริย์ที่พระองค์ได้เจิมไว้
52 สรรเสริญพระยาห์เวห์ ตลอดไป
เอเมน[f] และเอเมน
ให้ทุกชนชาติสรรเสริญพระยาห์เวห์
(1 พศด. 16:23-33)
1 ร้องเพลงบทใหม่ให้กับพระยาห์เวห์
ทุกคนบนโลกนี้ ร้องเพลงแด่พระยาห์เวห์กันเถิด
2 ร้องเพลงให้กับพระยาห์เวห์ สรรเสริญชื่อของพระองค์
ให้ประกาศวันแล้ววันเล่าถึงความรอดที่มาจากพระองค์
3 ประกาศให้ชนชาติต่างๆรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์
ประกาศให้ทุกคนรู้ถึงสิ่งน่าทึ่งต่างๆที่พระองค์ทำ
4 เพราะพระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่และสมควรได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่ง
พระองค์น่าเกรงขามกว่าพระเจ้าทั้งปวง
5 เพราะพระเจ้าทั้งสิ้นของชนชาติเหล่านั้นเป็นรูปเคารพที่ไร้ค่า
แต่พระยาห์เวห์เป็นผู้ที่สร้างฟ้าสวรรค์
6 รัศมีและบารมีของพระองค์แผ่กระจายออกมาจากพระองค์
อำนาจและความงดงามอยู่ในวิหารของพระองค์
7 ตระกูลของชนชาติต่างๆทั่วโลกเอ๋ย ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์
สำหรับสง่าราศีและพละกำลังของพระยาห์เวห์เถิด
8 ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์สำหรับชื่ออันมีสง่าราศีของพระองค์
ให้นำเครื่องกำนันมาให้พระองค์ในลานวิหารของพระองค์เถิด
9 ให้ก้มกราบลงต่อหน้าพระยาห์เวห์ในวิหารอันสง่างามของพระองค์[a]
มนุษย์บนแผ่นดินโลกทุกคนเอ๋ย ให้ตัวสั่นเทิ้มเมื่ออยู่เบื้องหน้าพระองค์เถิด
10 ประกาศให้ทุกชนชาติรู้ว่า “พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์ พระองค์ตั้งโลกนี้ไว้อย่างมั่นคง
มันจะไม่มีวันสั่นคลอน พระองค์ตัดสินชนชาติต่างๆอย่างยุติธรรม”
11 ขอให้ฟ้าสวรรค์เฉลิมฉลองกัน ขอให้แผ่นดินโลกชื่นชมยินดี
ขอให้ทะเลและทุกสิ่งทุกอย่างในทะเลนั้นโห่ร้องยินดี
12 ขอให้ท้องทุ่งและทุกสิ่งทุกอย่างในมันร่าเริงยินดี
และขอให้ต้นไม้ทุกต้นในป่าชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์
13 เพราะพระองค์กำลังเสด็จมา พระองค์กำลังมาตัดสินแผ่นดินโลกนี้
พระองค์จะตัดสินโลกนี้อย่างยุติธรรมและตัดสินชนชาติต่างๆอย่างสัตย์ซื่อ
นมัสการพระยาห์เวห์ด้วยความร่าเริง
บทเพลงสดุดี แห่งการขอบพระคุณ
1 ทั่วทั้งแผ่นดินโลกเอ๋ย
โห่ร้องด้วยความยินดีให้กับพระยาห์เวห์
2 ให้นมัสการพระยาห์เวห์ด้วยความร่าเริง
และเข้ามาร้องเพลงด้วยความชื่นบานต่อหน้าพระองค์
3 ให้รู้ไว้เถิดว่า พระยาห์เวห์ เป็นพระเจ้า
พระองค์สร้างเราขึ้นมา เราจึงเป็นของพระองค์
เราเป็นชนชาติของพระองค์ เป็นแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์
4 ให้ผ่านประตูทั้งหลายของพระองค์เข้ามาด้วยการขอบคุณ
ให้เข้ามาในลานวิหารทั้งหลายของพระองค์ด้วยการสรรเสริญ
ให้ขอบคุณพระองค์และสรรเสริญชื่อของพระองค์เถิด
5 เพราะพระยาห์เวห์นั้นดี
ความรักมั่นคงของพระองค์อยู่ตลอดไป
ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะคงอยู่ทุกชั่วอายุ
กษัตริย์สัญญาที่จะรักษาความยุติธรรม
บทเพลงสดุดีของดาวิด
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องเพลงสรรเสริญนี้ให้กับพระองค์
และสรรเสริญพระองค์สำหรับความรักมั่นคง และความยุติธรรมของพระองค์
2 ข้าพเจ้าตั้งใจใช้ชีวิตอย่างบริสุทธิ์
เมื่อไหร่หนอพระองค์จะมาหาข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะทำหน้าที่ต่างๆของข้าพเจ้า
ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ในวังของข้าพเจ้า
3 ข้าพเจ้าจะไม่ยอมวางสิ่งชั่วร้ายใดๆไว้ต่อหน้าต่อตาข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าเกลียดการกระทำที่คดโกงทั้งหลายและข้าพเจ้าจะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านั้นติดตัวข้าพเจ้าเลย
4 ขอให้ใจที่คดโกง ไปให้พ้นๆจากข้าพเจ้า
เพราะข้าพเจ้าจะไม่ยอมมีส่วนร่วมกับสิ่งชั่วร้าย
5 ข้าพเจ้าจะปิดปากคนที่ชอบแอบใส่ร้ายเพื่อนบ้านของเขา
ข้าพเจ้าจะไม่ยอมอดกลั้นกับคนที่หยิ่งยโสและหลงตัวเอง
6 ข้าพเจ้ามองหาคนที่ไว้วางใจได้ในแผ่นดินที่จะมาทำงานให้กับข้าพเจ้า
เฉพาะคนที่มีชีวิตที่บริสุทธิ์เท่านั้นถึงจะให้มารับใช้ข้าพเจ้า
7 คนที่ชอบหลอกลวงและชอบหักหลังจะไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของข้าพเจ้า
และคนขี้โกหกก็จะไม่มีทางได้รับใช้ข้าพเจ้า
8 ทุกๆเช้า ข้าพเจ้าจะกำจัดคนชั่วทั้งหมดไปจากแผ่นดิน
ข้าพเจ้าจะขับไล่คนชั่วพวกนั้นออกไปจากเมืองของพระยาห์เวห์
บุญคุณของพระยาห์เวห์ต่อชาวอิสราเอล
1 ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ ให้กระจายชื่อเสียงของพระองค์ออกไป
ให้บอกกับชนชาติทั้งหลายถึงสิ่งที่พระองค์ทำ
2 ร้องเพลงให้กับพระองค์ ร้องเพลงสรรเสริญให้กับพระองค์เถิด
ใคร่ครวญถึงสิ่งน่าทึ่งทั้งหมดที่พระองค์ได้ทำ
3 โอ้อวดถึงชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เถิด
ขอให้คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระยาห์เวห์มีความสุขเถิด
4 แสวงหาพระยาห์เวห์ และพละกำลังที่มาจากพระองค์เถิด
แสวงหาหน้าของพระองค์อยู่เสมอ
5-6 ลูกหลานของอับราฮัมผู้รับใช้ของพระเจ้าเอ๋ย
ลูกหลานของยาโคบพวกที่พระเจ้าเลือกเอ๋ย
ขอให้ท่านระลึกถึงเรื่องน่าทึ่งทั้งหลายที่พระเจ้าทำ
ระลึกถึงการอัศจรรย์ต่างๆและคำตัดสินทั้งหลายที่ออกมาจากปากของพระองค์
7 พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา
คำตัดสินทั้งหลายของพระองค์จะเป็นจริงอย่างนั้นในทุกหนแห่งทั่วโลก
8 พระองค์ไม่เคยลืมข้อตกลงของพระองค์
คือคำสัญญาที่พระองค์ทำไว้กับคนของพระองค์ตลอดไปเป็นพันรุ่น
9 พระองค์จะรักษาคำสัญญาที่ทำไว้กับอับราฮัม
และคำสาบานของพระองค์ที่ให้ไว้กับอิสอัค
10 พระองค์ทำให้มันเป็นกฎสำหรับยาโคบ
และเป็นข้อตกลงให้กับอิสราเอลตลอดไป
11 พระองค์พูดว่า “เราจะมอบดินแดนคานาอันให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าตลอดไป”
12 พระองค์ทำสิ่งนี้ตอนที่พวกเขายังมีกันอยู่ไม่กี่คน
และยังเป็นคนต่างด้าวแค่กระจุกเดียวในดินแดนนั้นอยู่เลย
13 พวกเขาเร่ร่อนพเนจรจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง
จากอาณาจักรหนึ่งไปยังอีกอาณาจักรหนึ่ง
14 แต่พระเจ้าไม่ยอมให้ใครข่มเหงพวกเขา
พระองค์เตือนพวกกษัตริย์ทั้งหลายว่า
15 “อย่าแตะต้องคนเหล่านั้นที่เราได้เลือกไว้[a]
อย่าได้ทำร้ายพวกผู้พูดแทนเรา”
16 พระองค์ทำให้เกิดการกันดารอาหารขึ้นในแผ่นดิน
พระองค์ตัดเสบียงทั้งหมดของพวกเขา
17 แล้วพระองค์ได้ส่งชายคนหนึ่งไปอียิปต์ก่อนคนอื่นๆ
นั่นคือ โยเซฟ ผู้ถูกขายไปเป็นทาส
18 คนพวกนั้นทำร้ายเขาด้วยการล่ามโซ่ไว้ที่ข้อเท้า
และใส่ปลอกเหล็กไว้ที่คอของเขา
19 จนกระทั่งสิ่งที่โยเซฟได้ทำนายไว้เป็นจริง
และพระคำของพระยาห์เวห์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาพูดถูก
20 แล้วกษัตริย์ก็มีคำสั่งให้ไปนำตัวโยเซฟมาและหักโซ่ตรวนของเขา
ผู้นำชนชาตินั้นก็ปล่อยเขาออกจากคุก
21 กษัตริย์แต่งตั้งโยเซฟให้เป็นผู้ดูแลวัง
และให้เป็นผู้ดูแลจัดการทรัพย์สมบัติของเขาทั้งหมด
22 กษัตริย์ให้อำนาจกับโยเซฟอย่างเต็มที่เหนือข้าราชการของเขา
โยเซฟสอนพวกที่ปรึกษาอาวุโสของกษัตริย์
23 หลังจากนั้น อิสราเอลก็เข้ามาอยู่ที่อียิปต์
ยาโคบอยู่อย่างคนต่างด้าวในดินแดนของฮาม[b]
24 พระองค์ทำให้คนของพระองค์ทวีคูณขึ้นอย่างมหาศาล
จนมีจำนวนมากกว่าศัตรูของเขา
25 พระยาห์เวห์เปลี่ยนใจของคนอียิปต์ให้หันมาเกลียดชังคนของพระองค์
และให้พวกเขาพากันวางแผนร้ายต่อพวกผู้รับใช้ของพระองค์
26 แล้วพระองค์ก็ส่งโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์
และอาโรนผู้ที่พระองค์ได้เลือก
27 พระองค์ให้สองคนนี้ทำการอัศจรรย์ต่างๆของพระองค์ให้ชนชาติของพระองค์เห็น
พวกเขาทำสิ่งที่น่าทึ่งต่างๆในดินแดนของฮาม
28 พระองค์ส่งความมืดทึบลงมา
แต่ชาวอียิปต์ก็ไม่ยอมฟังพระองค์
29 พระองค์ทำให้น้ำของพวกเขากลายเป็นเลือด
และฆ่าพวกปลาของพวกเขา
30 แผ่นดินของพวกเขามีฝูงกบเต็มไปหมด
ไม่เว้นแม้แต่พวกห้องส่วนตัวของกษัตริย์
31 เมื่อพระองค์ออกคำสั่ง
ฝูงเหลือบก็มา ฝูงริ้นก็รุกล้ำเข้ามาทั่วแผ่นดิน
32 พระองค์ทำให้ฝนของพวกเขากลายเป็นลูกเห็บ
และทำให้เกิดสายฟ้าแลบในแผ่นดินของเขา
33 พระองค์ทำลายไร่องุ่น และต้นมะเดื่อ
พระองค์ทำให้ต้นไม้แตกเป็นเสี่ยงๆไปทั่วเขตแดนของพวกเขา
34 เมื่อพระองค์ออกคำสั่ง พวกตั๊กแตนวัยบินและตั๊กแตนวัยกระโดด
ก็กรูกันเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน
35 พวกตั๊กแตนกินพืชผักทั้งหมดในแผ่นดินของพวกเขา
และกินพืชผลทั้งหลายจากดินเสียสิ้น
36 แล้วจากนั้น พระองค์ก็ฆ่าลูกชายหัวปีของพวกเขาทั้งหมดในแผ่นดินของพวกเขา
ลูกที่พิสูจน์ถึงความเป็นชายของพ่อ
37 พระองค์นำพวกอิสราเอลออกไปพร้อมกับเงินและทองไปด้วย
พระองค์ไม่ปล่อยให้มีใครสักคนในพวกเผ่าของพระองค์สะดุดล้ม
38 ชาวอียิปต์ต่างดีใจที่ชาวอิสราเอลออกไปได้
เพราะพวกเขารู้สึกกลัวพวกอิสราเอล
39 พระองค์กางก้อนเมฆของพระองค์ออกปกคลุมอยู่เหนือคนอิสราเอล
และยังให้เพลิงไฟไว้ส่องสว่างในตอนกลางคืน
40 เมื่ออิสราเอลร้องขออาหาร พระองค์ก็นำนกกระทามาให้
นอกจากนั้นพระองค์ก็ยังให้อาหารจากสวรรค์กับพวกเขากินจนอิ่มหนำ
41 พระองค์ตีก้อนหินแตกเป็นช่อง
น้ำก็ไหลพุ่งออกมาสู่แผ่นดินที่แห้งแล้งเหมือนกับแม่น้ำ
42 เพราะพระองค์ระลึกถึงคำสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ที่ให้ไว้กับอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
43 พระองค์นำชนชาติของพระองค์ออกจากอียิปต์อย่างมีความสุข
คนเหล่านี้ที่พระองค์เลือกมาโห่ร้องด้วยความยินดี
44 แล้วพระองค์ก็มอบแผ่นดินต่างๆของชนชาติอื่นๆให้กับพวกเขา
พวกเขาได้กรรมสิทธิ์ในไร่นาที่คนต่างชาติลงมือลงแรงทำไว้
45 ที่พระองค์ทำอย่างนี้ก็เพื่อพวกเขาจะได้เชื่อฟังกฎทั้งหลายของพระองค์
และรักษาคำสั่งสอนของพระองค์อย่างระมัดระวัง
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
คำสัญญาที่พระยาห์เวห์ให้กับกษัตริย์ดาวิดและศิโยน
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์โปรดระลึกถึงดาวิด
และความทุกข์ยากลำบากทั้งหมดของเขา
2 เขาได้สาบานต่อพระยาห์เวห์
และบนบานต่อผู้ทรงฤทธิ์แห่งยาโคบ
3 ดาวิดพูดว่า “ข้าพเจ้าจะไม่เข้าไปในบ้านของตัวเอง
และจะไม่นอนลงบนเตียงของตัวเอง
4 ข้าพเจ้าจะไม่ยอมหลับตาลง
จะไม่ยอมให้หนังตาปิดลง
5 จนกว่าจะพบสถานที่สำหรับก่อตั้งเต็นท์อันศักดิ์สิทธิ์ให้กับพระยาห์เวห์
เพื่อพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์แห่งยาโคบจะได้พักอาศัยอยู่ที่นั่น”
6 ดูเถิด ตอนที่เราอยู่ที่เอฟราธาห์ พวกเราได้ยินเรื่องหีบศักดิ์สิทธิ์
และเราได้พบหีบศักดิ์สิทธิ์นั้นในท้องทุ่งแห่งคีเรียธ ยาอาร์
7 พวกเราพูดกันว่า “ไปเต็นท์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์กัน
ไปกราบลงตรงที่วางเท้าของพระองค์กันเถิด”
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ลุกขึ้นและไปยังที่พักผ่อนแห่งใหม่ของพระองค์เถิด
ทั้งพระองค์และหีบที่แสดงถึงฤทธิ์อำนาจของพระองค์
9 ขอให้พวกนักบวชของพระองค์สวมใส่ชัยชนะ
ขอให้พวกที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์โห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดี
10 แล้วเพื่อเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์
ขออย่าปฏิเสธกษัตริย์ที่พระองค์ได้เลือกไว้แล้ว[a]
11 พระยาห์เวห์ได้สาบานต่อดาวิด
และพระองค์จะไม่คืนคำ ที่ว่า “เราจะให้ลูกหลานของเจ้าสืบต่อบัลลังก์จากเจ้า
12 ถ้าหากลูกหลานของเจ้าจะยังคงรักษาข้อตกลงและคำสั่งต่างๆที่เราสอนพวกเขาไว้
ลูกหลานของพวกเขาก็จะได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ของเจ้าตลอดไป”
13 พระยาห์เวห์ได้เลือกศิโยน
พระองค์ตัดสินใจที่จะอาศัยอยู่ที่นั่น
14 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะอาศัยอยู่ในสถานที่นี้ตลอดไป
เราจะอยู่ที่นี่เพราะเราได้เลือกสถานที่นี้มา
15 เราจะอวยพรให้ศิโยน
อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารและเราจะทำให้คนยากจนอิ่มหนำ
16 เราจะสวมใส่ความรอดให้กับพวกนักบวชของศิโยน
และผู้ที่สัตย์ซื่อของศิโยนจะโห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดี
17 และที่นั่นเราจะทำให้ราชวงศ์ของดาวิดแข็งแกร่ง
ราชวงศ์ของกษัตริย์ที่เราได้เลือกไว้นั้นจะคงอยู่ตลอดไปเหมือนตะเกียงที่ไม่มีวันดับ
18 เราจะสวมใส่ความอับอายให้กับพวกศัตรูของเขา
แต่เราจะทำให้มงกุฎของเขาส่องประกายเจิดจ้า”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International