Chronological
ที่อยู่ของเราในสวรรค์
5 บัดนี้เรารู้อยู่ว่าหากเต็นท์ฝ่ายโลกนี้ที่เราอาศัยอยู่ถูกทำลายลง เราก็มีบ้านจากพระเจ้า คือบ้านนิรันดร์ในสวรรค์ซึ่งไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ 2 ในขณะเดียวกันเราคร่ำครวญใฝ่หาที่จะรับการคลุมกายด้วยที่อาศัยจากสวรรค์ของเรา 3 เพราะเมื่อเราได้รับการคลุมกายแล้ว เราจะไม่ต้องถูกพบว่าเปลือยเปล่า 4 เพราะขณะเรายังอยู่ในเต็นท์นี้ เราคร่ำครวญเป็นทุกข์ เพราะเราไม่ปรารถนาที่จะเปลือยเปล่า แต่ปรารถนาที่จะรับการคลุมกายด้วยที่อาศัยจากสวรรค์ของเรา เพื่อชีวิตจะกลืนกลบกายที่ต้องตายนั้น 5 พระเจ้านี่แหละคือผู้ทรงเตรียมเราสำหรับจุดมุ่งหมายนี้ และได้ประทานพระวิญญาณเป็นมัดจำค้ำประกันสิ่งที่จะมาถึง 6 ฉะนั้นเราจึงมั่นใจเสมอแม้จะรู้ว่าตราบใดที่เรายังอยู่ในร่างกายนี้ เราอยู่ห่างจากองค์พระผู้เป็นเจ้า 7 เราจึงดำเนินชีวิตโดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยสิ่งที่มองเห็น 8 ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วว่า เรามั่นใจ และเราปรารถนาที่จะพ้นจากกายนี้ไปอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้ามากกว่า 9 ฉะนั้นเราจึงตั้งเป้าที่จะทำให้พระองค์พอพระทัยไม่ว่าเราจะอยู่ในกายนี้หรือพ้นจากกายนี้ไป 10 เพราะพวกเราล้วนต้องเข้าเฝ้าต่อหน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ เพื่อแต่ละคนจะได้รับสิ่งซึ่งสมกับที่เขาได้ทำขณะอยู่ในกายนี้ ไม่ว่าดีหรือชั่ว
พันธกิจแห่งการคืนดีกับพระเจ้า
11 เช่นนั้นแล้วเมื่อเรารู้ว่าความเกรงกลัวพระเจ้านั้นคืออะไร เราจึงพยายามโน้มน้าวใจคนทั้งหลาย เราเป็นเช่นไรนั้นย่อมปรากฏชัดต่อพระเจ้า และข้าพเจ้าหวังว่าสิ่งนี้จะปรากฏชัดต่อจิตสำนึกของพวกท่านด้วย 12 เราไม่ได้กำลังชมตัวเองต่อพวกท่านอีก แต่กำลังเปิดโอกาสให้พวกท่านภูมิใจในเรา เพื่อพวกท่านจะสามารถตอบบรรดาผู้ที่ภูมิใจในสิ่งที่มองเห็นแทนที่จะภูมิใจในสิ่งที่อยู่ในใจ 13 ถ้าเราเสียสติก็เพื่อพระเจ้า ถ้าเราสติดีก็เพื่อท่านทั้งหลาย 14 เพราะความรักของพระคริสต์ผลักดันเราอยู่ เพราะเรามั่นใจว่าผู้หนึ่งได้ตายเพื่อคนทั้งปวง ฉะนั้นคนทั้งปวงจึงตายแล้ว 15 และในเมื่อพระองค์ได้สิ้นพระชนม์เพื่อคนทั้งปวง บรรดาผู้มีชีวิตอยู่จึงไม่ควรอยู่เพื่อตัวเองอีกต่อไป แต่อยู่เพื่อพระองค์ผู้สิ้นพระชนม์เพื่อพวกเขาและคืนพระชนม์ขึ้นมาอีก
16 ดังนั้นตั้งแต่นี้ต่อไปเราจะไม่พิจารณาใครตามทัศนะของโลก แม้ครั้งหนึ่งเราเคยพิจารณาพระคริสต์แบบนั้น แต่เราก็จะไม่ทำเช่นนั้นอีกต่อไป 17 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ การทรงสร้างใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งเก่าได้ล่วงไป สิ่งใหม่ได้เข้ามา![a] 18 ทั้งหมดนี้มาจากพระเจ้าผู้ทรงให้เราคืนดีกับพระองค์โดยทางพระคริสต์ และทรงมอบหมายพันธกิจแห่งการคืนดีนี้แก่เรา 19 คือพระเจ้าได้ทรงให้โลกคืนดีกับพระองค์ในพระคริสต์ ไม่ทรงถือโทษบาปของมนุษย์ และพระองค์ทรงมอบหมายเรื่องราวแห่งการคืนดีนี้ไว้กับเรา 20 ฉะนั้นเราจึงเป็นทูตของพระคริสต์เสมือนหนึ่งพระเจ้าทรงร้องเรียกท่านทั้งหลายผ่านทางเรา เราจึงขอร้องท่านในนามของพระคริสต์ว่า จงคืนดีกับพระเจ้า 21 พระเจ้าทรงกระทำพระองค์ผู้ปราศจากบาปให้เป็นบาป[b]เพื่อเรา เพื่อในพระองค์เราจะกลายเป็นความชอบธรรมของพระเจ้า
6 ในฐานะผู้ร่วมงานของพระเจ้า เราวิงวอนท่านว่าอย่าสักแต่รับพระคุณของพระเจ้า 2 เพราะพระองค์ตรัสว่า
“ในวาระแห่งความโปรดปรานเราได้ฟังเจ้า
และในวันแห่งความรอดเราได้ช่วยเจ้า”[c]
ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่าบัดนี้คือวาระแห่งความโปรดปรานของพระเจ้า บัดนี้คือวันแห่งความรอด
ความทุกข์ยากที่เปาโลเผชิญ
3 เราไม่ทำให้ใครสะดุดเพื่อไม่ให้พันธกิจของเราเสียความเชื่อถือ 4 แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้าเราพิสูจน์ตัวเองในทุกทาง ไม่ว่าในการอดทนอดกลั้น ในความทุกข์ร้อน ความยากเข็ญและความลำเค็ญ 5 ในการถูกเฆี่ยนตี การถูกจองจำและการจลาจล ในการตรากตรำทำงาน การอดหลับอดนอน และความหิวโหย 6 ในความบริสุทธิ์ ความเข้าใจ ความอดทน และความกรุณา ในพระวิญญาณบริสุทธิ์ และในความรักจริงใจ 7 ในคำพูดสัตย์จริง และในฤทธานุภาพของพระเจ้า ด้วยอาวุธแห่งความชอบธรรมทั้งในมือขวาและมือซ้าย 8 ทั้งในยามทรงเกียรติและไร้เกียรติ ในยามที่เขาว่าชั่วและในยามที่เขาว่าดี จริงแท้แต่ถูกมองว่าเป็นคนหลอกลวง 9 เป็นที่รู้จักแต่ถูกมองว่าไม่มีใครรู้จัก กำลังจะตายแต่เราก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป ถูกเฆี่ยนตีแต่ก็ยังไม่ถึงตาย 10 ทุกข์โศกแต่ก็ยังชื่นชมยินดีเสมอ ยากจนแต่ก็ยังทำให้หลายคนมั่งคั่ง และไม่มีอะไรแต่ก็ยังเป็นเจ้าของทุกสิ่ง
11 พี่น้องชาวโครินธ์ เราพูดกับท่านอย่างตรงไปตรงมาและเปิดใจของเราให้แก่ท่าน 12 เราไม่ได้เป็นฝ่ายระงับความรักจากท่าน แต่ท่านเป็นฝ่ายระงับจากเรา 13 เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนอย่างยุติธรรม เราขอพูดกับท่านเสมือนพูดกับบุตรว่าจงเปิดใจของท่านด้วย
อย่าเข้าเทียมแอกกับผู้ไม่เชื่อ
14 อย่าเข้าเทียมแอกกับผู้ไม่เชื่อเพราะความชอบธรรมกับความชั่วจะมีอะไรร่วมกันได้? หรือความสว่างกับความมืดจะมีสามัคคีธรรมอะไรกันเล่า? 15 พระคริสต์กับเบลีอัล[d]จะกลมเกลียวอะไรกันได้? ผู้เชื่อกับผู้ไม่เชื่อจะมีอะไรร่วมกันได้เล่า? 16 วิหารของพระเจ้ากับวิหารของรูปเคารพจะมีข้อตกลงอะไรกันได้? เพราะเราเป็นวิหารของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ตามที่พระเจ้าตรัสว่า “เราจะอยู่กับพวกเขาและดำเนินท่ามกลางพวกเขา และเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขาและพวกเขาจะเป็นประชากรของเรา”[e]
17 “ดังนั้นจงออกมาจากพวกเขา
และแยกตัวออก องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
อย่าแตะต้องสิ่งมลทิน
แล้วเราจะรับเจ้า”[f]
18 “เราจะเป็นบิดาของพวกเจ้า
และพวกเจ้าจะเป็นบุตรชายบุตรสาวของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนี้แหละ”[g]
7 ท่านที่รัก ในเมื่อเรามีพระสัญญาเช่นนี้ก็ขอให้เราชำระตนเองจากทุกสิ่งที่ทำให้ร่างกายและจิตวิญญาณแปดเปื้อน จงทำให้ความบริสุทธิ์สมบูรณ์พร้อมด้วยความเกรงกลัวพระเจ้า
ความชื่นชมยินดีของเปาโล
2 จงเปิดใจของท่านรับเราเถิด เราไม่ได้ทำผิดต่อใคร เราไม่ได้เป็นเหตุให้ใครทำบาป เราไม่ได้ฉกฉวยหาประโยชน์จากใคร 3 ข้าพเจ้าไม่ได้พูดเช่นนี้เพื่อตำหนิท่าน ข้าพเจ้าเคยพูดไว้ก่อนแล้วว่าท่านทั้งหลายอยู่ในดวงใจของเรา ถึงขนาดที่เราร่วมเป็นร่วมตายกับท่านได้ 4 ข้าพเจ้ามั่นใจในพวกท่านยิ่งนัก ข้าพเจ้าภูมิใจในตัวท่านอย่างมาก ข้าพเจ้าได้รับกำลังใจอย่างใหญ่หลวงในความยากลำบากทั้งสิ้นของเรา ความชื่นชมยินดีของข้าพเจ้าไม่มีที่สิ้นสุด
5 เพราะเมื่อมาถึงแคว้นมาซิโดเนียเราไม่ได้พักกายเลย หันไปทางไหนก็ถูกก่อกวน ภายนอกมีความขัดแย้งภายในมีความหวาดหวั่น 6 แต่พระเจ้าผู้ทรงปลอบประโลมใจคนท้อแท้ก็ทรงปลอบประโลมใจเราโดยการมาของทิตัส 7 และไม่เพียงแต่โดยการมาของทิตัสเท่านั้น แต่โดยการปลอบประโลมใจที่ท่านทั้งหลายให้กับเขาอีกด้วย เขาบอกเราว่าพวกท่านปรารถนาจะพบเรา รู้สึกเศร้าเสียใจอย่างลึกซึ้งและห่วงใยเราอย่างมาก ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งชื่นชมยินดีมากขึ้นกว่าก่อน
8 แม้จดหมายของข้าพเจ้าทำให้ท่านเศร้าใจ ข้าพเจ้าก็ไม่เสียใจ แม้จะเคยเสียใจที่เห็นว่าจดหมายนั้นทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะ 9 เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าสุขใจ ไม่ใช่เพราะทำให้ท่านเสียใจ แต่เพราะความเสียใจนั้นทำให้ท่านกลับใจใหม่ เพราะท่านเศร้าเสียใจอย่างที่พระเจ้าทรงประสงค์ เราจึงไม่ได้ทำร้ายท่านแต่อย่างใด 10 ความเศร้าเสียใจอย่างที่อยู่ในทางพระเจ้าส่งผลให้กลับใจใหม่อันนำไปสู่ความรอดและไม่เหลือความเสียใจไว้ ส่วนความเศร้าเสียใจอย่างโลกนำไปสู่ความตาย 11 ดูเถิด ความเศร้าเสียใจอย่างที่อยู่ในทางพระเจ้านี้ส่งผลอะไรในตัวท่านบ้าง เป็นต้นว่าความเอาจริงเอาจัง ความกระตือรือร้นที่จะสะสางตนเอง ความโกรธ ความตื่นตัว ความอาลัยหา ความห่วงใย ความพร้อมที่จะให้เกิดความยุติธรรม ท่านได้พิสูจน์ตัวเองในทุกประเด็นแล้วว่าท่านไม่ผิดในเรื่องนี้ 12 ดังนั้นถึงแม้ข้าพเจ้าได้เขียนมาถึงท่าน ก็ไม่ใช่เพราะเห็นแก่คนที่ทำผิดหรือฝ่ายที่เสียหาย แต่เพื่อว่าเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าท่านจะได้เห็นเองว่าท่านทุ่มเทให้กับเราเพียงใด 13 ด้วยเหตุทั้งหมดนี้เราจึงได้รับกำลังใจ
นอกจากเราเองได้รับกำลังใจแล้ว เรายังดีใจเป็นพิเศษที่เห็นว่าทิตัสสุขใจเพียงไร เพราะพวกท่านทั้งปวงทำให้จิตวิญญาณของทิตัสได้ชุ่มชื่นขึ้นมาใหม่ 14 ข้าพเจ้าได้อวดพวกท่านกับเขาและพวกท่านไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าอับอาย แต่ทุกอย่างซึ่งเราได้บอกท่านนั้นเป็นความจริงฉันใด สิ่งที่เราได้อวดทิตัสเกี่ยวกับพวกท่านก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริงฉันนั้น 15 และทิตัสยิ่งรักท่านทั้งหลายมากขึ้นเมื่อระลึกว่าพวกท่านล้วนเชื่อฟังและต้อนรับเขาด้วยความเกรงกลัวจนตัวสั่น 16 ข้าพเจ้าดีใจที่สามารถมั่นใจในพวกท่านได้เต็มที่
ส่งเสริมให้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
8 และบัดนี้พี่น้องทั้งหลาย เราอยากให้ท่านทราบถึงพระคุณที่พระเจ้าประทานแก่บรรดาคริสตจักรในแคว้นมาซิโดเนีย 2 จากการทดลองอย่างหนักหน่วงที่สุด ความชื่นชมยินดีอันล้นพ้นและความยากไร้เป็นอย่างยิ่งของพวกเขานั้นก็เอ่อล้นเป็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 3 เพราะข้าพเจ้าเป็นพยานได้ว่าพวกเขาถวายสุดความสามารถ ที่จริงเกินความสามารถก็ว่าได้ และด้วยความสมัครใจของเขาเอง 4 เขาได้คะยั้นคะยอขอรับสิทธิพิเศษที่จะมีส่วนร่วมในการรับใช้นี้เพื่อประชากรของพระเจ้า 5 และเขาไม่ได้ทำอย่างที่เราคาดคิดไว้ แต่เขาถวายตัวแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าก่อนและจากนั้นอุทิศตัวให้เราตามพระประสงค์ของพระเจ้า 6 ดังนั้นเราจึงกระตุ้นทิตัสซึ่งเป็นผู้ริเริ่มงานนี้ให้สานต่อการจุนเจือด้วยใจเมตตาในส่วนของพวกท่านจนลุล่วง 7 แต่เหมือนที่ท่านเป็นเลิศในทุกด้าน ไม่ว่าในความเชื่อ ในวาจา ในความรู้ ในความกระตือรือร้นอย่างเต็มเปี่ยมและในความรักที่ท่านมีต่อเรา[h] ก็ขอให้ท่านเป็นเลิศในการให้ด้วยใจเมตตานี้เช่นกัน
8 ข้าพเจ้าไม่ได้สั่งท่าน แต่ข้าพเจ้าต้องการทดสอบความจริงใจในความรักของท่านโดยการเปรียบเทียบกับความกระตือรือร้นของคนอื่น 9 เพราะท่านย่อมทราบถึงพระคุณขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเราว่า แม้พระองค์ทรงมั่งคั่งก็ทรงยอมยากไร้ เพราะเห็นแก่พวกท่านเพื่อว่าท่านจะได้มั่งคั่งโดยทางความยากไร้ของพระองค์
10 และข้าพเจ้าขอแนะนำสิ่งดีที่สุดในเรื่องนี้แก่ท่าน คือปีที่แล้วท่านทั้งหลายไม่เพียงแต่เป็นพวกแรกที่ถวาย แต่ยังเป็นพวกแรกซึ่งมีใจที่จะถวาย 11 บัดนี้จงทำให้สำเร็จสมกับใจร้อนรนที่จะถวายโดยทำตามความสามารถของท่าน 12 เพราะถ้ามีความเต็มใจพร้อมอยู่แล้ว ของถวายก็เป็นที่ยอมรับตามที่เขามีอยู่ ไม่ใช่ตามที่เขาไม่มี
13 เราไม่ปรารถนาที่จะลดภาระของคนอื่น แล้วมาให้ภาระหนักหน่วงแก่ท่าน แต่เพื่อที่จะให้มีความเท่าเทียมกัน 14 ขณะนี้ท่านมีบริบูรณ์ก็ควรเกื้อกูลสิ่งที่พวกเขาขัดสน เพื่อว่าในคราวที่เขามีบริบูรณ์ก็จะเกื้อกูลสิ่งที่พวกท่านขัดสน แล้วจะได้มีความเท่าเทียมกัน 15 เหมือนที่มีเขียนไว้ว่า “ผู้ที่เก็บมากก็ไม่มีเหลือ และผู้ที่เก็บน้อยก็ไม่ขาด”[i]
ส่งทิตัสไปเมืองโครินธ์
16 ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าผู้ทรงให้ทิตัสมีใจเป็นห่วงพวกท่านเหมือนกับที่ข้าพเจ้ามี 17 เพราะทิตัสไม่เพียงแต่ตอบรับคำขอร้องของเรา แต่เขายังมาหาท่านด้วยใจกระตือรือร้นอย่างมากและด้วยความคิดริเริ่มของเขาเอง 18 นอกจากนี้เราได้ส่งพี่น้องคนหนึ่งมากับทิตัสด้วย เขาได้รับการยกย่องจากคริสตจักรทั้งปวงในด้านการประกาศข่าวประเสริฐ 19 ยิ่งกว่านั้นคริสตจักรต่างๆ ได้เลือกพี่น้องคนนี้ให้ร่วมเดินทางกับเราขณะนำเงินถวายไป เราได้ดูแลรับผิดชอบเงินถวายนี้เพื่อเทิดพระเกียรติองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพื่อแสดงว่าเราเองก็มีใจกระตือรือร้นที่จะช่วย 20 เราต้องการป้องกันไม่ให้ใครมาติเตียนวิธีจัดการแจกจ่ายของบริจาคอันมากมายนี้ได้ 21 เพราะเราพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่เพียงในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ในสายตาของคนทั้งปวงด้วย
22 นอกจากนี้เรายังส่งพี่น้องอีกคนหนึ่งร่วมคณะมาด้วย พี่น้องผู้นี้ได้พิสูจน์ให้เราเห็นในหลายๆ ด้านแล้วว่า เขากระตือรือร้นยิ่งนักและบัดนี้ยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้นเพราะเขามั่นใจในพวกท่านมาก 23 สำหรับทิตัส เขาเป็นหุ้นส่วนและเพื่อนร่วมงานของข้าพเจ้าท่ามกลางพวกท่าน ส่วนพี่น้องเหล่านั้นของเรา พวกเขาเป็นตัวแทนของบรรดาคริสตจักรและเป็นเกียรติแด่พระคริสต์ 24 เหตุฉะนั้นจงพิสูจน์ให้คนเหล่านั้นเห็นถึงความรักของท่าน และเห็นถึงสาเหตุที่พวกเราภาคภูมิใจในพวกท่าน เพื่อว่าคริสตจักรทั้งหลายจะได้เห็นถึงสิ่งนี้ด้วย
9 ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องเขียนถึงท่านเกี่ยวกับการรับใช้เพื่อประชากรของพระเจ้าครั้งนี้ 2 เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าท่านกระตือรือร้นอยู่แล้วที่จะช่วย และข้าพเจ้าได้อวดเรื่องนี้ต่อชาวมาซิโดเนียว่า ตั้งแต่ปีที่แล้วพวกท่านที่แคว้นอาคายาก็พร้อมจะถวายแล้ว และความกระตือรือร้นของท่านทั้งหลายได้กระตุ้นพวกเขาส่วนใหญ่ให้ลงมือทำตาม 3 แต่ที่ข้าพเจ้าส่งพี่น้องเหล่านั้นมา เพื่อว่าสิ่งที่เราอวดไว้เกี่ยวกับท่านในเรื่องนี้จะไม่สูญเปล่า แต่เพื่อท่านก็จะได้พร้อมอยู่สมกับที่ข้าพเจ้าได้บอกไว้ 4 เพราะถ้าชาวมาซิโดเนียคนใดที่มากับข้าพเจ้าพบว่าพวกท่านไม่พร้อม อย่าว่าแต่ท่านเลย เราเองก็จะอับอายที่มีความมั่นใจเสียเหลือเกิน 5 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงคิดว่าจำเป็นต้องกำชับพี่น้องเหล่านั้นให้มาหาท่านล่วงหน้า และจัดเตรียมของบริจาคด้วยใจกว้างขวางตามที่ท่านได้สัญญาไว้ให้เรียบร้อย เมื่อถึงเวลาก็มีของบริจาคไว้พร้อม เป็นของที่ให้ด้วยใจกว้างขวาง ไม่ใช่เป็นของที่ให้ด้วยการฝืนใจ
หว่านด้วยใจกว้างขวาง
6 จงจำไว้ว่าผู้ที่หว่านอย่างตระหนี่ก็จะเก็บเกี่ยวได้น้อย ผู้ที่หว่านด้วยใจกว้างขวางก็จะเก็บเกี่ยวได้มาก 7 แต่ละคนควรให้ตามที่คิดหมายไว้ในใจ ไม่ใช่อย่างลังเลหรือเพราะถูกผลักดัน เพราะพระเจ้าทรงรักผู้ที่ให้ด้วยใจยินดี 8 และพระเจ้าทรงสามารถประทานพระคุณทุกประการอย่างล้นเหลือแก่ท่าน เพื่อว่าท่านจะมีทุกอย่างที่จำเป็นอยู่ทุกเวลา และท่านจะมีล้นเหลือสำหรับการดีทุกอย่าง 9 เหมือนที่มีเขียนไว้ว่า
“เขาได้แจกจ่ายให้คนยากจน
ความชอบธรรมของเขาดำรงอยู่นิรันดร์”[j]
10 บัดนี้พระองค์ผู้ประทานเมล็ดแก่ผู้หว่านประทานอาหารแก่ผู้คน จะประทานและเพิ่มพูนยุ้งฉางของท่านเช่นกัน และจะทรงขยายการเก็บเกี่ยวความชอบธรรมของท่าน 11 พระองค์จะทรงให้ท่านมั่งคั่งในทุกด้านเพื่อท่านจะสามารถเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ได้ในทุกโอกาส และโดยทางเราความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของท่านส่งผลให้มีการขอบพระคุณพระเจ้า
12 การรับใช้ที่ท่านทำอยู่นี้ไม่เพียงจุนเจือประชากรของพระเจ้าเท่านั้น ยังเป็นเหตุให้มีการขอบพระคุณพระเจ้าอย่างล้นพ้นด้วย 13 ท่านได้พิสูจน์ตนเองด้วยการรับใช้นี้ และเพราะการรับใช้นี้ ผู้คนจะสรรเสริญพระเจ้าเนื่องด้วยการเชื่อฟังของท่านซึ่งมาพร้อมกับการประกาศตัวว่าเชื่อข่าวประเสริฐของพระคริสต์ และเนื่องด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของท่านในการแบ่งปันแก่พวกเขาและแก่คนอื่นๆ ทั้งปวง 14 และใจของพวกเขาจะคิดถึงพวกท่านขณะอธิษฐานเพื่อท่าน เนื่องด้วยพระคุณล้นพ้นที่พระเจ้าประทานแก่ท่าน 15 ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับของประทานอันสุดจะพรรณนาของพระองค์!
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.