Chronological
คำพยากรณ์กล่าวโทษกษัตริย์ไทระ
28 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวแก่ผู้ปกครองเมืองไทระว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า
“ ‘ด้วยความหยิ่งผยองในจิตใจ
เจ้ากล่าวว่า “ข้าคือเทพเจ้า
ข้านั่งเหนือบัลลังก์ของเทพเจ้า
ที่ใจกลางห้วงสมุทร”
แต่เจ้าเป็นเพียงมนุษย์ ไม่ใช่เทพเจ้า
แม้เจ้าจะคิดว่าตนเองเฉลียวฉลาดเสมอเทพเจ้า
3 เจ้าฉลาดกว่าดาเนียล[a]หรือ?
ไม่มีความลับใดซ่อนเร้นจากเจ้าหรือ?
4 โดยสติปัญญาและความเข้าใจ
เจ้าหาทรัพย์สมบัติมาให้ตนเอง
และสะสมเงินทอง
ไว้ในคลังของเจ้า
5 โดยความช่ำชองในการค้าขาย
เจ้าทำให้ทรัพย์สมบัติของตนทวีขึ้น
และเนื่องจากความมั่งคั่งของเจ้า
จิตใจของเจ้าก็หยิ่งผยองขึ้น
6 “ ‘ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า
“ ‘เนื่องจากเจ้าคิดว่าตัวเองฉลาด
มีสติปัญญาเสมอเทพเจ้า
7 เรากำลังจะนำคนต่างชาติมาสู้รบกับเจ้า
เป็นประชาชาติที่อำมหิตที่สุด
พวกเขาจะชักดาบห้ำหั่นความงามและสติปัญญาของเจ้า
และทำลายความโอ่อ่าตระการตาของเจ้า
8 คนเหล่านั้นจะผลักเจ้าลงสู่เหวลึก
และเจ้าจะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
ที่ใจกลางห้วงสมุทร
9 ถึงตอนนั้นเจ้าจะพูดไหมว่า “ข้าคือเทพเจ้า”
ต่อหน้าบรรดาผู้สังหารเจ้า?
เจ้าจะเป็นเพียงมนุษย์ไม่ใช่เทพเจ้า
ในเงื้อมมือของผู้ที่ปลิดชีวิตเจ้า
10 เจ้าจะตายอย่างคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต
โดยน้ำมือของชาวต่างชาติ
เราได้ลั่นวาจาไว้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น’ ”
11 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 12 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงคร่ำครวญเกี่ยวกับกษัตริย์ไทระและกล่าวแก่เขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า
“ ‘เจ้าเป็นแบบฉบับของความสมบูรณ์
เปี่ยมด้วยสติปัญญาและความงามเพียบพร้อม
13 เจ้าอยู่ในเอเดน
ในอุทยานของพระเจ้า
มีอัญมณีล้ำค่าประดับประดา
ได้แก่ ทับทิม บุษราคัม มรกต
เพชร เพทาย โกเมน
มณีโชติ ไพฑูรย์ และเบริล[b]
ทั้งเรือนและหนามเตย[c]ทำด้วยทองคำ
สิ่งเหล่านี้จัดเตรียมไว้พร้อมสรรพในวันที่สร้างเจ้าขึ้นมา
14 เจ้าได้รับการเจิมตั้งให้เป็นเครูบผู้พิทักษ์
เพราะเราได้กำหนดเจ้าไว้เช่นนั้น
เจ้าอยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
และดำเนินอยู่ท่ามกลางอัญมณีอันส่องประกายโชติช่วงดุจไฟ
15 ตั้งแต่วันที่เจ้าถูกสร้างขึ้น
ความประพฤติของเจ้าก็ปราศจากที่ติ
จนกระทั่งพบความชั่วร้ายในตัวเจ้า
16 การทำมาค้าขึ้น
ทำให้เจ้าเต็มไปด้วยความอำมหิต
และเจ้าได้ทำบาป
ฉะนั้นเราจึงขับไล่เจ้าไปจากภูเขาของพระเจ้าด้วยความอดสู
เครูบผู้พิทักษ์เอ๋ย เราจึงไล่เจ้าไป
จากท่ามกลางอัญมณีอันส่องประกายโชติช่วงดุจไฟ
17 จิตใจของเจ้าหยิ่งผยอง
เพราะความงามของเจ้า
และเจ้าได้ทำให้สติปัญญาของตนเสื่อมทรามไป
เพราะความโอ่อ่าตระการของตน
ฉะนั้นเราจึงเหวี่ยงเจ้าลงบนแผ่นดินโลก
ทำให้กษัตริย์ทั้งหลายตกตะลึง
18 เจ้าได้ทำให้สถานนมัสการทั้งหลายของเจ้าตกต่ำ
เพราะบาปหนาและการค้าอันทุจริตของเจ้า
ฉะนั้นเราจึงบันดาลไฟออกมาจากเจ้า
เผาผลาญเจ้า
และทำให้เจ้าเหลือแต่เถ้าถ่าน
กองอยู่ที่พื้นต่อหน้าคนพบเห็น
19 มวลประชาชาติที่รู้จักเจ้า
ก็ตกตะลึงเพราะเจ้า
เจ้ามาถึงจุดจบอันน่าสยดสยอง
และไม่มีเจ้าอีกต่อไป’ ”
คำพยากรณ์กล่าวโทษไซดอน
20 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 21 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงประณามไซดอน กล่าวพยากรณ์แก่เมืองนั้นว่า 22 ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า
“ ‘ไซดอนเอ๋ย เราเป็นศัตรูกับเจ้า
และเราจะได้รับเกียรติสิริจากสิ่งที่เราจะทำกับเจ้า
เจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
เมื่อเราลงอาญาเจ้า
และสำแดงความบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ของเราแก่เจ้า
23 เราจะส่งภัยพิบัติมาเหนือเจ้า
และทำให้เลือดหลั่งนองตามถนนหนทาง
ผู้ที่ถูกสังหารจะล้มตายในเจ้า
ด้วยดาบซึ่งฟาดฟันอยู่รอบด้าน
เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
24 “ ‘ประชากรอิสราเอลไม่ต้องพบกับเพื่อนบ้านที่ชั่วร้ายซึ่งเป็นหนามทิ่มแทงให้เจ็บปวดอีกต่อไป เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต
25 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เมื่อเรารวบรวมชนชาติอิสราเอลออกมาจากชาติต่างๆ ที่เขาถูกทำให้กระจัดกระจัดกระจายไปนั้น เราจะสำแดงความบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ของเราผ่านพวกเขาต่อหน้าชนชาติทั้งหลาย จากนั้นพวกเขาจะอาศัยอยู่ในดินแดนของตน ซึ่งเรามอบให้ยาโคบผู้รับใช้ของเรา 26 พวกเขาจะอาศัยอยู่ที่นั่นอย่างปลอดภัย จะสร้างบ้านเรือน ทำสวนองุ่น จะอาศัยอยู่อย่างสงบสุข เมื่อเราลงทัณฑ์บรรดาประเทศเพื่อนบ้านผู้ประทุษร้ายเขา เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา’ ”
คำพยากรณ์กล่าวโทษอียิปต์
29 ในวันที่สิบสองเดือนที่สิบปีที่สิบ พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงหันหน้าไปทางฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ และพยากรณ์กล่าวโทษเขาและอียิปต์ทั้งปวงว่า 3 ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า
“ ‘ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ เราเป็นศัตรูกับเจ้า
เจ้าผู้เป็นสัตว์ร้ายมหึมาซึ่งกบดานอยู่ในสายน้ำของเจ้า
เจ้ากล่าวว่า “แม่น้ำไนล์เป็นของข้า
ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อตัวข้าเอง”
4 แต่เราจะเอาเบ็ดเกี่ยวขากรรไกรของเจ้า
และทำให้ปลาในลำน้ำของเจ้าติดกับเกล็ดของเจ้า
เราจะดึงเจ้าขึ้นจากสายน้ำ
พร้อมกับปลาทั้งปวงซึ่งติดอยู่ที่เกล็ดของเจ้า
5 เราจะทิ้งเจ้าไว้ในถิ่นกันดาร
ทั้งตัวเจ้าและปลาทั้งปวงจากลำน้ำของเจ้า
เจ้าจะตกอยู่กลางทุ่ง
ไม่มีใครหอบหรือเก็บเจ้าขึ้นมา
เราจะยกเจ้าให้เป็นอาหาร
ของสัตว์บกและนกในอากาศ
6 เมื่อนั้นทุกคนที่อยู่ในอียิปต์จะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
“ ‘เจ้าเป็นไม้อ้อสำหรับพงศ์พันธุ์อิสราเอล 7 เมื่อเขาฉวยเจ้าไว้ในมือ เจ้าก็ปริแตกและบาดไหล่ของเขา เมื่อเขาพิงเจ้า เจ้าก็หักและทำให้หลังของเขาเคล็ด
8 “ ‘ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราจะนำดาบมาห้ำหั่นเจ้า และฆ่าผู้คนและสัตว์ของเจ้า 9 อียิปต์จะกลายเป็นแดนร้าง เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
“ ‘เนื่องจากเจ้ากล่าวว่า “แม่น้ำไนล์เป็นของข้า ข้าสร้างมันขึ้นมา” 10 ฉะนั้นเราจึงเป็นศัตรูกับเจ้าและกับสายน้ำต่างๆ ของเจ้า เราจะทำให้ดินแดนอียิปต์กลายเป็นซากปรักหักพังและถูกทิ้งร้างตั้งแต่มิกดลจนถึงอัสวานไปจดพรมแดนของคูช[d] 11 จะไม่มีรอยเท้าทั้งของคนและของสัตว์เหยียบผ่าน จะไม่มีใครอาศัยที่นั่นตลอดสี่สิบปี 12 เราจะทำให้อียิปต์เริศร้างท่ามกลางดินแดนต่างๆ ซึ่งถูกทำลาย และเมืองต่างๆ ของอียิปต์จะถูกทิ้งร้างอยู่ท่ามกลางนครที่เป็นซากปรักหักพังตลอดสี่สิบปี เราจะทำให้ชาวอียิปต์กระจัดกระจายไปตามชนชาติต่างๆ และไปยังนานาประเทศ
13 “ ‘ถึงอย่างนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เมื่อครบสี่สิบปี เราจะรวบรวมชาวอียิปต์กลับมาจากชาติต่างๆ ที่พวกเขาถูกทำให้กระจัดกระจายไปนั้น 14 เราจะนำพวกเขากลับมาจากการเป็นเชลยสู่ดินแดนอียิปต์ตอนบน[e]อันเป็นดินแดนของบรรพบุรุษของพวกเขา พวกเขาจะเป็นอาณาจักรต่ำต้อยในที่แห่งนั้น 15 จะต่ำต้อยที่สุดและจะไม่มีวันเผยอตัวขึ้นเหนือชนชาติอื่นๆ ได้อีกเลย เราจะทำให้อียิปต์อ่อนแอจนไม่ได้ขึ้นปกครองชนชาติต่างๆ อีกเลย 16 อียิปต์จะไม่ได้เป็นแหล่งพักพิงให้ชนชาติอิสราเอลอีกต่อไป แต่จะเป็นเครื่องเตือนใจพวกเขาให้สำนึกถึงบาปที่ได้หันไปพึ่งพาอียิปต์ เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต’ ”
17 ในวันที่หนึ่งเดือนที่หนึ่งปีที่ยี่สิบเจ็ด พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 18 “บุตรมนุษย์เอ๋ย กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนยกทัพมาสู้รบขับเคี่ยวกับไทระอย่างหนัก ทุกศีรษะถูกเสียดสีจนล้านเลี่ยน และทุกไหล่ถลอก ถึงอย่างนั้นเขากับกองทัพก็ไม่ได้อะไรจากการรบกับไทระ 19 ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่าเราจะมอบอียิปต์แก่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน และเขาจะริบทรัพย์สมบัติไป เขาจะปล้นชิงข้าวของในแดนนั้นไปเป็นค่าจ้างให้กองทัพของเขา 20 เรายกอียิปต์ให้เป็นรางวัลจากการบากบั่นลงแรงของเขา เพราะเขากับกองทัพกระทำการเพื่อเรา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
21 “ในวันนั้นเราจะทำให้มีเขาสัตว์เขาหนึ่ง[f]งอกขึ้นมาเพื่อพงศ์พันธุ์อิสราเอล และเราจะเปิดปากของเจ้าท่ามกลางพวกเขา เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์”
บทคร่ำครวญแด่อียิปต์
30 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวพยากรณ์ว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า
“ ‘จงร่ำไห้และกล่าวว่า
“อนิจจา วันนั้นเอ๋ย!”
3 เพราะว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
วันขององค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามา
เป็นวันแห่งเมฆครึ้ม
เป็นเวลาแห่งความพินาศของบรรดาประชาชาติ
4 ดาบเล่มหนึ่งจะมาฟาดฟันอียิปต์
และความทุกข์ทรมานจะมากระหน่ำคูช[g]
เมื่อผู้ที่ถูกสังหารล้มตายในอียิปต์
ทรัพย์สมบัติของอียิปต์จะถูกริบไป
และฐานรากของมันก็พังครืน
5 คูช พูต ลิเดีย อาระเบียทั้งหมด ลิเบีย[h] และประชาชนของดินแดนแห่งพันธสัญญาจะล้มตายด้วยดาบพร้อมอียิปต์
6 “ ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า
“ ‘บรรดาพันธมิตรของอียิปต์จะล้มตาย
และพลังอันภาคภูมิของมันจะสูญสลาย
จากมิกดลถึงอัสวาน
ผู้คนในอียิปต์จะล้มตายด้วยดาบ
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
7 พวกเขาจะโดดเดี่ยว
อยู่ในแดนร้าง
นครต่างๆ ของพวกเขาจะพินาศ
อยู่ท่ามกลางนครที่ปรักหักพัง
8 แล้วพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
เมื่อเราจุดไฟเผาอียิปต์
และผู้ที่ช่วยเหลืออียิปต์ทุกคนจะถูกบดขยี้
9 “ ‘ในวันนั้นผู้สื่อสารจะลงเรือจากเราไป เพื่อเขย่าขวัญคูชซึ่งอยู่อย่างทองไม่รู้ร้อน ความทุกข์ลำเค็ญจะเกาะกินใจของพวกเขาในวันหายนะของอียิปต์ เพราะวันนั้นจะมาถึงอย่างแน่นอน
10 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า
“ ‘เราจะนำกองกำลังทั้งหลายของอียิปต์มาถึงจุดจบ
โดยน้ำมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน
11 เขากับกองทัพซึ่งเป็นผู้อำมหิตที่สุดในหมู่ประชาชาติ
จะถูกนำมาทำลายดินแดนแห่งนี้
เขาจะชักดาบออกห้ำหั่นอียิปต์
และทำให้คนตายเกลื่อนแผ่นดิน
12 เราจะทำให้ลำน้ำไนล์เหือดแห้ง
และขายดินแดนอียิปต์ให้แก่คนชั่ว
เราจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในดินแดนนั้นเริศร้าง
โดยน้ำมือของชาวต่างชาติ
เราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาไว้
13 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า
“ ‘เราจะทำลายบรรดารูปเคารพ
และทำให้เทวรูปต่างๆ ในเมมฟิสถึงกาลอวสาน
จะไม่มีเจ้านายอีกต่อไปในอียิปต์
และเราจะบันดาลให้ความหวาดหวั่นแพร่สะพัดไปทั่วดินแดนนั้น
14 เราจะทำให้อียิปต์ตอนบนเริศร้าง
จะจุดไฟเผาโศอัน
และลงโทษเธเบส
15 เราจะระบายโทสะแก่เปลูเซียม
ซึ่งเป็นที่มั่นของอียิปต์
และทำลายกองกำลังต่างๆ ของเธเบส
16 เราจะจุดไฟเผาอียิปต์
เปลูเซียมจะทุรนทุรายด้วยความทุกข์ทรมาน
เธเบสจะถูกพายุซัดกระหน่ำ
เมมฟิสจะทุกข์ลำเค็ญอยู่ตลอดเวลา
17 คนหนุ่มของเมืองเฮลิโอโปลิสและบูบาสทิส
จะล้มตายด้วยดาบ
และนครต่างๆ จะตกเป็นเชลย
18 ที่ทาห์ปานเหส กลางวันแสกๆ จะมืดครึ้ม
เมื่อเราทำลายแอกของอียิปต์
ที่นั่นพละกำลังอันภาคภูมิของมันจะถึงกาลอวสาน
จะมีเมฆปกคลุมทั่วเมืองนั้น
และหมู่บ้านต่างๆ จะตกเป็นเชลย
19 เราจะลงโทษอียิปต์เช่นนี้แหละ
แล้วพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’ ”
20 ในวันที่เจ็ดเดือนที่หนึ่งปีที่สิบเอ็ด พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 21 “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราได้หักแขนของฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ ไม่มีการพันผ้ารักษาหรือเข้าเฝือกเพื่อให้มันกลับแข็งแรงพอที่จะจับดาบได้อีก 22 ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่าเราเป็นศัตรูกับฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ เราจะหักแขนของเขาทั้งสองข้าง ทั้งข้างที่ยังดีและข้างที่หัก เราจะทำให้ดาบร่วงจากมือของเขา 23 เราจะทำให้ชาวอียิปต์กระจัดกระจายออกไปตามชนชาติต่างๆ และไปยังนานาประเทศ 24 เราจะทำให้แขนของกษัตริย์บาบิโลนแข็งแกร่งและเอาดาบของเราใส่มือเขา แต่เราจะหักแขนของฟาโรห์และเขาจะร้องครวญครางต่อหน้ากษัตริย์บาบิโลนเหมือนคนบาดเจ็บใกล้ตาย 25 เราจะทำให้แขนของกษัตริย์บาบิโลนแข็งแกร่ง ส่วนแขนของฟาโรห์จะกะปลกกะเปลี้ย แล้วพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ เมื่อเราเอาดาบใส่มือกษัตริย์บาบิโลน แล้วเขาก็กวัดแกว่งมันฟาดฟันอียิปต์ 26 เราจะทำให้ชาวอียิปต์กระจัดกระจายออกไปตามชนชาติต่างๆ และไปยังนานาประเทศ แล้วพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์”
สนซีดาร์แห่งเลบานอน
31 ในวันที่หนึ่งเดือนที่สามปีที่สิบเอ็ด พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวแก่ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์และกองกำลังต่างๆ ของเขาว่า
“ ‘ใครจะยิ่งใหญ่เทียบกับเจ้าได้?
3 จงพิจารณาอัสซีเรีย ครั้งหนึ่งเคยเป็นสนซีดาร์ในเลบานอน
กิ่งก้านงดงามแผ่ร่มเงาในป่า
มันสูงเสียดฟ้า
และชูยอดสง่าเหนือพุ่มหนา
4 สายน้ำหล่อเลี้ยงมัน
น้ำบาดาลทำให้มันสูงตระหง่าน
ทางน้ำไหลรอบ
ที่ซึ่งมันโตขึ้น
และส่งน้ำไปหล่อเลี้ยง
บรรดาต้นไม้ในท้องทุ่ง
5 มันจึงสูงตระหง่าน
เหนือต้นไม้ทุกต้นในท้องทุ่ง
มันแตกแขนงมากมาย
กิ่งก้านก็ทอดยาว
แผ่ขยายเพราะน้ำท่าอุดม
6 มวลนกในอากาศ
มาทำรังบนกิ่งไม้
บรรดาสัตว์ในทุ่ง
มาคลอดลูกใต้กิ่งก้านของมัน
มวลประชาชาติใหญ่
มาอาศัยในร่มเงาของมัน
7 มันงามโอ่อ่า
เพราะกิ่งก้านที่แตกแขนงออกไป
เพราะรากของมันหยั่งลึก
ลงในน้ำอันอุดมสมบูรณ์
8 สนซีดาร์ทั้งหลายในอุทยานของพระเจ้า
ไม่อาจแข่งกับมัน
ทั้งต้นสนทั้งหลายและบรรดาต้นเปลน
ก็ไม่อาจเทียบกับกิ่งก้านสาขาของมันได้
ไม่มีต้นไม้ใดๆ ในอุทยานของพระเจ้า
ทัดเทียมความงามของมันได้เลย
9 เราทำให้มันงดงาม
มีกิ่งก้านหนาแน่น
เป็นที่อิจฉาริษยาของต้นไม้ทุกต้น
ในเอเดนอุทยานของพระเจ้า
10 “ ‘ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากมันสูงเสียดฟ้า ชูยอดเหนือพุ่มหนา แล้วมันก็หยิ่งผยองเพราะความสูงของตน 11 เราจึงมอบมันไว้ในมือของผู้ครอบครองประชาชาติทั้งหลาย ให้จัดการกับมันอย่างสาสมตามความชั่วร้าย เราเหวี่ยงมันทิ้งไป 12 และผู้อำมหิตที่สุดในหมู่ชนต่างชาติก็โค่นมันลงและปล่อยทิ้งไว้ กิ่งก้านของมันตกลงบนภูเขาและหุบเขาต่างๆ กิ่งของมันหักคาอยู่ตามลำห้วยทั้งหลายในดินแดน มวลประชาชาติในโลกออกจากร่มเงาของมันและทิ้งมันไป 13 มวลนกในอากาศอยู่บนต้นไม้ที่หักโค่น และสัตว์ป่าทั้งปวงอยู่ท่ามกลางกิ่งก้านของมัน 14 ฉะนั้นแม้จะมีน้ำท่าบริบูรณ์ ก็ไม่มีต้นไม้อื่นที่อยู่ริมน้ำจะสูงเสียดฟ้าและชูยอดเหนือพุ่มหนาเหมือนมัน มันทั้งหลายถูกกำหนดไว้ให้ถึงฆาต ให้ลงสู่โลกเบื้องล่างร่วมกับมนุษย์อนิจจังและร่วมกับบรรดาคนที่ลงหลุม
15 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในวันที่มันถูกนำลงหลุมฝังศพ เรากั้นธารน้ำลึกเป็นการไว้อาลัยแก่มัน เราระงับธารน้ำและน้ำท่าอันบริบูรณ์ไว้ เราเอาความหม่นหมองห่อหุ้มเลบานอน และบรรดาต้นไม้ในทุ่งก็เหี่ยวเฉาไปเพราะต้นไม้นั้น 16 เราทำให้บรรดาประชาชาติสั่นสะท้าน เมื่อได้ยินเสียงความล่มจมของมัน เมื่อเรานำมันลงหลุมศพร่วมกับบรรดาผู้ลงเหว แล้วต้นไม้ทั้งสิ้นในสวนเอเดน พร้อมกับต้นไม้ชั้นเยี่ยมที่สุดของเลบานอน มวลต้นไม้ที่ได้รับการหล่อเลี้ยงอย่างดี ก็ได้รับการปลอบประโลมในโลกบาดาล 17 บรรดาคนที่อาศัยในร่มเงาของมัน ซึ่งเป็นประชาชาติที่เป็นพันธมิตรก็ได้ลงหลุมฝังศพไปกับมันพร้อมทั้งบรรดาผู้ที่ถูกฆ่าด้วยดาบ
18 “ ‘ต้นไม้ต้นใดในเอเดนที่จะโอ่อ่าและยิ่งใหญ่เท่าเทียมกับเจ้า? ถึงกระนั้นเจ้าก็จะถูกนำลงสู่โลกบาดาลร่วมกับบรรดาต้นไม้ในเอเดนเช่นกัน เจ้าจะนอนอยู่ท่ามกลางผู้ไม่ได้เข้าสุหนัต กับบรรดาผู้ที่ถูกฆ่าด้วยดาบ
“ ‘นี่คือฟาโรห์กับกองกำลังทั้งสิ้นของเขา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น’ ”
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.