Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
2 ซามูเอล 24

ดาวิดทรงนับไพร่พล(A)

24 อีกครั้งหนึ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอล และทรงดลใจดาวิดให้หาเรื่องเดือดร้อนมาให้พวกเขา โดยตรัสว่า “จงไปทำสำมะโนไพร่พลอิสราเอลและยูดาห์”

ดาวิดจึงตรัสกับโยอาบและบรรดานายทัพ[a]ว่า “จงทำทะเบียนพลรบทั้งหมดของทุกเผ่าในอิสราเอลจากดานจดเบเออร์เชบา เพื่อเราจะรู้ว่ามีคนอยู่เท่าไร”

แต่โยอาบกราบทูลว่า “ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของฝ่าพระบาททรงเพิ่มกองทหารร้อยเท่า และขอให้ฝ่าพระบาทได้เห็นกับตา เหตุใดฝ่าพระบาทจึงมีพระประสงค์จะกระทำเช่นนี้”

แต่คำบัญชาของกษัตริย์ย่อมมีอำนาจเหนือโยอาบและบรรดานายทัพ ฉะนั้นพวกเขาจึงทูลลาไปทำรายชื่อของพลรบอิสราเอล

หลังจากข้ามแม่น้ำจอร์แดน พวกเขาไปตั้งค่ายพักในหุบเขาทางใต้ของเมืองอาโรเออร์ แล้วผ่านกาดไปยังยาเซอร์ พวกเขาไปที่กิเลอาดและเขตแดนทาห์ทิมโหดชิ แล้วไปดานยาอันและไปทั่วจนถึงไซดอน จากนั้นไปยังป้อมแห่งเมืองไทระ และหัวเมืองทั้งหมดของชาวฮีไวต์ และชาวคานาอัน ท้ายสุดไปยังเบเออร์เชบาในเนเกบแห่งยูดาห์

หลังจากพวกเขาไปทั่วแดนก็กลับมายังเยรูซาเล็ม ใช้เวลาเก้าเดือนยี่สิบวัน

โยอาบทูลรายงานจำนวนพลรบต่อกษัตริย์ คนที่อยู่ในเกณฑ์ออกรบได้มีแปดแสนคนในอิสราเอล ส่วนในยูดาห์มีห้าแสนคน

10 หลังจากสำรวจไพร่พลแล้ว ดาวิดก็สำนึกผิดจึงกราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “สิ่งที่ข้าพระองค์ทำนั้นบาปมาก ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าบัดนี้ขอทรงโปรดยกโทษความผิดของผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าพระองค์ได้ทำสิ่งที่โง่เขลามาก”

11 ก่อนดาวิดตื่นบรรทมเช้าวันรุ่งขึ้น มีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงผู้เผยพระวจนะกาดซึ่งเป็นผู้ทำนายให้ดาวิด ความว่า 12 “จงไปบอกดาวิดว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า ‘เรามีข้อเสนอสามประการ ให้เจ้าเลือกอย่างหนึ่งแล้วเราจะจัดการกับเจ้าตามนั้น’”

13 กาดจึงมาเข้าเฝ้าดาวิดทูลว่า “ฝ่าพระบาทจะทรงเลือกการกันดารอาหารทั่วดินแดนสามปี[b] หรือเตลิดหนีจากศัตรูผู้รุกไล่สามเดือน หรือยอมให้มีโรคระบาดในดินแดนสามวัน ขอทรงตรึกตรองแล้วแจ้งคำตอบเพื่อข้าพระบาทจะนำไปทูลพระองค์ผู้ทรงใช้ข้าพระบาทมา”

14 ดาวิดตรัสตอบกาดว่า “เราลำบากใจมาก แต่ขอตกอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าดีกว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของมนุษย์ เพราะพระเมตตาคุณของพระองค์ใหญ่หลวงนัก”

15 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เกิดโรคระบาดในอิสราเอลตั้งแต่เช้าวันนั้นจนครบกำหนด จากดานจดเบเออร์เชบา มีผู้เสียชีวิตเจ็ดหมื่นคน 16 เมื่อทูตสวรรค์เงื้อมือขึ้นจะทำลายล้างกรุงเยรูซาเล็ม องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทุกข์พระทัยเนื่องด้วยภัยพิบัตินั้น จึงตรัสกับทูตนั้นว่า “พอแล้ว! ยั้งมือเถิด” ขณะนั้นทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังยืนอยู่ที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์ชาวเยบุส

17 เมื่อดาวิดเห็นทูตองค์นั้นผู้ทำให้ประชากรล้มตายก็กราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าพระองค์คือผู้ที่ทำผิดทำบาป ประชากรเหล่านี้เป็นเพียงฝูงแกะ พวกเขาทำผิดอันใดเล่า? ขอทรงลงโทษข้าพระองค์กับครอบครัวเท่านั้นเถิด”

ดาวิดสร้างแท่นบูชา(B)

18 ในวันนั้นกาดมาทูลดาวิดว่า “ขอทรงขึ้นไปสร้างแท่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์ชาวเยบุสเถิด” 19 ดาวิดจึงไปปฏิบัติตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งผ่านทางกาด 20 เมื่ออาราวนาห์เห็นกษัตริย์และผู้ตามเสด็จมาหาตนก็เข้าไปหมอบกราบลงกับพื้น

21 ทูลถามว่า “ฝ่าพระบาทเสด็จมาด้วยพระประสงค์อันใด?”

ดาวิดตรัสว่า “เพื่อมาซื้อลานนวดข้าวของเจ้า เราจะสร้างแท่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะได้ทรงระงับโรคระบาดครั้งนี้เสีย”

22 อาราวนาห์ทูลว่า “ขอฝ่าพระบาททรงใช้ทุกสิ่งตามที่ต้องประสงค์เถิด นี่คือวัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา และนี่คือเลื่อนนวดข้าวกับแอกวัวใช้เป็นฟืน 23 ข้าพระบาทอาราวนาห์ขอถวายทั้งหมด และขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของฝ่าพระบาททรงโปรดฝ่าพระบาทด้วยเถิด”

24 แต่กษัตริย์ตรัสตอบอาราวนาห์ว่า “เรายืนยันที่จะซื้อจากเจ้า เราจะไม่ถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราโดยที่ไม่ลงทุนอะไรเลย”

เป็นอันว่าดาวิดทรงซื้อลานนวดข้าวกับวัวด้วยเงินหนัก 50 เชเขล[c] 25 แล้วดาวิดสร้างแท่นบูชาขึ้นที่นั่นถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และถวายเครื่องเผาบูชากับเครื่องสันติบูชา องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานเพื่อแผ่นดิน โรคระบาดที่เกิดแก่อิสราเอลก็หมดไป

1 พงศาวดาร 21-22

ดาวิดทรงนับไพร่พล(A)

21 ซาตานลุกขึ้นเล่นงานอิสราเอล และดลใจให้ดาวิดทำสำมะโนไพร่พลอิสราเอล ดาวิดจึงตรัสกับโยอาบและเหล่าแม่ทัพนายกองว่า “จงไปนับไพร่พลอิสราเอลจากเมืองเบเออร์เชบาจดเมืองดานแล้วกลับมารายงาน เพื่อเราจะรู้ว่ามีคนอยู่เท่าไร”

โยอาบทูลทัดทานว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มพูนกำลังพลของพระองค์ร้อยเท่า ทั้งหมดก็เป็นคนของฝ่าพระบาทไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงทรงประสงค์ให้ทำเช่นนี้? ควรหรือที่จะนำความผิดมาสู่อิสราเอล?”

แต่คำบัญชาของกษัตริย์ย่อมมีอำนาจเหนือโยอาบ โยอาบจึงเดินทางไปทั่วดินแดนอิสราเอลแล้วกลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม โยอาบทูลรายงานดาวิดว่าจำนวนคนที่ออกรบได้ทั่วทั้งอิสราเอลมี 1,100,000 คน และ 470,000 คนในยูดาห์

แต่โยอาบไม่ได้รวมจำนวนคนเลวีและเบนยามิน เพราะเขารู้สึกว่าคำบัญชานี้น่ารังเกียจ คำบัญชานี้ก็เป็นสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระเจ้าด้วย ดังนั้นพระองค์จึงทรงลงโทษอิสราเอล

ดาวิดกราบทูลพระเจ้าว่า “สิ่งที่ข้าพระองค์ทำนั้นบาปมาก บัดนี้ขอทรงโปรดยกโทษความผิดของผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าพระองค์ได้ทำสิ่งที่โง่เขลามาก”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับกาดผู้ทำนายของดาวิดว่า 10 “จงไปบอกดาวิดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า เรามีข้อเสนอสามประการ ให้เจ้าเลือกอย่างหนึ่งแล้วเราจะจัดการกับเจ้าตามนั้น’ ”

11 กาดจึงเข้าเฝ้าและทูลดาวิดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า ‘จงเลือกเอา 12 ระหว่างการกันดารอาหารสามปี หรือถูกดาบของศัตรูของเจ้าล้างผลาญสามเดือน[a] หรือถูกลงโทษด้วยดาบขององค์พระผู้เป็นเจ้าสามวันคือ โรคระบาดร้ายแรงซึ่งทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะนำหายนะมาสู่อิสราเอลทุกหย่อมหญ้า’ ดังนั้นขอทรงแจ้งคำตอบเพื่อข้าพระบาทจะนำไปทูลพระองค์ผู้ทรงใช้ข้าพระบาทมา”

13 ดาวิดตรัสตอบกาดว่า “เราลำบากใจมาก แต่ขอตกอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าดีกว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของมนุษย์ เพราะพระเมตตาคุณของพระองค์ใหญ่หลวงนัก”

14 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เกิดโรคระบาดในอิสราเอล เป็นผลให้มีคนล้มตายเจ็ดหมื่นคน 15 ในช่วงโรคระบาด พระเจ้าทรงใช้ทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาทำลายล้างกรุงเยรูซาเล็ม แต่ขณะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรแล้วทรงทุกข์พระทัยเนื่องด้วยภัยพิบัตินั้น จึงตรัสแก่ทูตผู้ทำลายว่า “พอแล้ว! ยั้งมือเถิด” ขณะนั้นทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังยืนอยู่ที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์[b]ชาวเยบุส

16 เมื่อดาวิดทอดพระเนตรเห็นทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ายืนอยู่ระหว่างฟ้าสวรรค์กับแผ่นดินโลก และถือดาบอยู่เหนือกรุงเยรูซาเล็ม ดาวิดกับบรรดาผู้อาวุโสซึ่งสวมผ้ากระสอบอยู่จึงหมอบกราบซบหน้าลงกับพื้น

17 ดาวิดกราบทูลพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์ไม่ใช่หรือที่สั่งให้นับจำนวนไพร่พล ข้าพระองค์คือผู้ที่ทำผิดทำบาป ประชากรเหล่านี้เป็นแต่เพียงฝูงแกะ พวกเขาทำผิดอันใดเล่า? ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงลงโทษข้าพระองค์กับครอบครัวเท่านั้นเถิด แต่อย่าให้ภัยพิบัตินี้ยังคงอยู่กับประชากรของพระองค์เลย”

18 ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงสั่งกาดให้ไปแจ้งดาวิดให้ขึ้นไปสร้างแท่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์ชาวเยบุส 19 ดาวิดจึงไปปฏิบัติตามพระดำรัสซึ่งกาดได้กล่าวไว้ในพระนามของพระยาห์เวห์

20 ขณะอาราวนาห์กำลังนวดข้าวสาลีอยู่ เขาเหลียวมาเห็นทูตสวรรค์ บุตรชายสี่คนของเขาที่อยู่ด้วยก็วิ่งหนีไปซ่อนตัว 21 แล้วอาราวนาห์เห็นดาวิดเดินเข้ามาหา จึงวิ่งจากลานนวดข้าวมากราบซบหน้าลงถึงดินต่อหน้าดาวิด

22 ดาวิดตรัสกับอาราวนาห์ว่า “เราขอซื้อลานนวดข้าวแห่งนี้จากเจ้าเต็มราคา แล้วเราจะสร้างแท่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะได้ทรงระงับโรคระบาดครั้งนี้”

23 อาราวนาห์ทูลดาวิดว่า “ข้าแต่องค์กษัตริย์ ขอฝ่าพระบาททรงรับไปเถิด จะใช้ทำสิ่งใดก็ตามแต่จะโปรด ขอทรงรับวัวไปเป็นเครื่องเผาบูชา เลื่อนนวดข้าวสามารถใช้เป็นฟืน และข้าวสาลีสำหรับเป็นเครื่องธัญบูชา ข้าพระบาทขอถวายทั้งหมดนี้”

24 แต่กษัตริย์ดาวิดตรัสตอบอาราวนาห์ว่า “เรายืนยันที่จะซื้อเต็มราคา เราไม่อาจรับสิ่งที่เป็นของเจ้าไปถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า หรือจะถวายเครื่องเผาบูชาโดยไม่ลงทุนอะไรเลย”

25 ดาวิดจึงทรงจ่ายทองคำหนักประมาณ 7 กิโลกรัม[c] ให้แก่อาราวนาห์เป็นค่าที่ดิน 26 แล้วดาวิดสร้างแท่นบูชาขึ้นที่นั่นถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และถวายเครื่องเผาบูชากับเครื่องสันติบูชาด้วย ดาวิดร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบโดยให้ไฟจากฟ้าสวรรค์มาเผาเครื่องบูชาบนแท่นนั้น

27 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้ทูตองค์นั้นเก็บดาบเข้าฝัก 28 เมื่อดาวิดเห็นว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบคำวิงวอนที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์ชาวเยบุส ก็ทรงถวายเครื่องบูชาที่นั่นอีก 29 พลับพลาขององค์พระผู้เป็นเจ้าและแท่นบูชาซึ่งโมเสสได้สร้างขึ้นในถิ่นกันดารยังคงอยู่บนสถานบูชาบนที่สูงในกิเบโอน 30 แต่ดาวิดไม่สามารถเสด็จไปทูลถามพระเจ้าที่นั่น เพราะกลัวดาบของทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้า

22 แล้วดาวิดตรัสว่า “พระนิเวศของพระเจ้าพระยาห์เวห์และแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชาของอิสราเอลจะอยู่ที่นี่”

เตรียมก่อสร้างพระวิหาร

ดาวิดจึงทรงเกณฑ์คนต่างด้าวที่อาศัยในอิสราเอล และมอบหมายให้เป็นช่างสกัดหิน เตรียมหินสำหรับก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้า ดาวิดทรงให้เตรียมเหล็กจำนวนมาก เพื่อทำหมุดสำหรับใช้กับบานประตูและเหล็กยึด และหลอมทองสัมฤทธิ์ จำนวนมหาศาลเกินกว่าจะชั่งได้ ทั้งเตรียมซุงไม้สนซีดาร์มากมายเกินกว่าจะนับได้ ซึ่งชาวไซดอนและชาวไทระได้นำมาถวายดาวิด

ดาวิดตรัสว่า “โซโลมอนลูกของเรายังเด็กและอ่อนประสบการณ์ พระนิเวศซึ่งจะสร้างขึ้นเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าควรจะงดงามโอ่อ่าตระการ มีชื่อเสียงเลื่องลือในสายตามวลประชาชาติ ฉะนั้นเราจะตระเตรียมเพื่อการนี้” ดาวิดจึงทรงเตรียมการไว้อย่างเต็มที่ก่อนสิ้นพระชนม์

แล้วดาวิดตรัสกำชับโซโลมอนราชโอรสให้สร้างพระนิเวศถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล ดาวิดตรัสว่า “ลูกเอ๋ย ใจพ่อคิดจะสร้างพระนิเวศเพื่อพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพ่อ แต่มีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงพ่อว่า ‘เจ้าได้ฆ่าคนมากมายในสงคราม ทำให้เลือดนองแผ่นดินในสายตาของเรา ฉะนั้นเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้สร้างนิเวศเพื่อนามของเรา แต่จะมีลูกคนหนึ่งของเจ้าเป็นบุคคลแห่งสันติ ซึ่งเราจะให้เขาพักสงบจากศัตรูรอบด้าน ลูกคนนี้จะมีชื่อว่า โซโลมอน[d]และเราจะให้อิสราเอลอยู่เย็นเป็นสุขตลอดรัชกาลของเขา 10 เขาคือผู้ที่จะสร้างนิเวศเพื่อนามของเรา เขาจะเป็นบุตรของเรา และเราจะเป็นบิดาของเขา และจะสถาปนาราชบัลลังก์ของเขาเหนืออิสราเอลตลอดไป’

11 “บัดนี้ ลูกเอ๋ย ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเจ้า ให้เจ้าประสบความสำเร็จ และสร้างพระนิเวศสำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าดังที่พระองค์ตรัสไว้แล้ว 12 ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความสุขุมรอบคอบกับความเข้าใจแก่เจ้า เมื่อทรงตั้งเจ้าขึ้นปกครองอิสราเอล เพื่อเจ้าจะรักษาบทบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า 13 หากเจ้าใส่ใจปฏิบัติตามกฎหมายและบทบัญญัติซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่โมเสสสำหรับอิสราเอล เจ้าก็จะประสบความสำเร็จ จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรืออย่าท้อแท้

14 “พ่อเพียรสะสมเพื่อพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ได้ทองคำหนักประมาณ 3,450 ตัน[e] เงินหนักประมาณ 34,500 ตัน[f] เหล็กกับทองสัมฤทธิ์จำนวนมหาศาลเกินกว่าจะชั่งได้ พร้อมทั้งซุงกับหิน เจ้าอาจหาเพิ่มเติมอีกก็ได้ 15 เจ้ามีคนงานมากมายทั้งช่างสกัดหิน ช่างก่อ ช่างไม้ ช่างฝีมือทุกประเภท 16 ผู้ชำนาญงานทอง เงิน ทองสัมฤทธิ์ และเหล็ก บัดนี้จงเริ่มงาน ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับลูก”

17 แล้วดาวิดบัญชาให้บรรดาผู้นำอิสราเอลช่วยเหลือโซโลมอนราชโอรสของพระองค์ 18 ดาวิดตรัสกับพวกเขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสถิตกับท่านไม่ใช่หรือ? และทรงโปรดประทานความสงบรอบด้านแก่พวกท่านไม่ใช่หรือ? เพราะทรงให้ชนชาติทั้งหลายที่อยู่ในดินแดนนี้ก่อนเราพ่ายแพ้เรา และดินแดนนี้ก็ขึ้นต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและต่อประชากรของพระองค์ 19 บัดนี้จงทุ่มเทจิตใจและจิตวิญญาณแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จงเริ่มสร้างสถานนมัสการของพระเจ้าพระยาห์เวห์ เพื่อท่านจะนำหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าและเครื่องใช้อันบริสุทธิ์ต่างๆ เข้าสู่พระวิหาร ซึ่งจะสร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระยาห์เวห์”

สดุดี 30

(บทสดุดีของดาวิด บทเพลงสำหรับพิธีถวายพระวิหาร[a])

30 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะเทิดทูนพระองค์
เพราะพระองค์ทรงดึงข้าพระองค์ขึ้นมาจากห้วงลึก
และไม่ทรงยอมให้ศัตรูกระหยิ่มยิ้มย่องเหนือข้าพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์
ข้าพระองค์ทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์
และพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้หาย
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ ขึ้นมาจากหลุมฝังศพ
พระองค์ทรงปกป้องข้าพระองค์ไว้ไม่ให้ลงไปยังแดนผู้ตาย

ท่านทั้งหลายผู้เป็นประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงร้องเพลงถวายแด่พระองค์เถิด
จงสรรเสริญพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์
เพราะพระพิโรธของพระองค์คงอยู่เพียงชั่วครู่
แต่ความโปรดปรานของพระองค์คงอยู่ชั่วชีวิต
การร่ำไห้อาจคงอยู่ชั่วข้ามคืน
แต่ความชื่นชมยินดีจะมาในเวลาเช้า

เมื่อข้าพเจ้ารู้สึกมั่นคงปลอดภัย ข้าพเจ้ากล่าวว่า
“เราจะไม่มีวันคลอนแคลนเลย”
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระองค์ทรงโปรดปรานข้าพระองค์
ก็ทรงกระทำให้ข้าพระองค์มั่นคงดั่งภูผา[b]
แต่เมื่อพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์
ข้าพระองค์ก็ท้อแท้

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์
ร้องทูลขอความเมตตากรุณาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
“จะมีประโยชน์อะไรหากข้าพระองค์ถูกทำให้นิ่งเงียบ?
จะมีประโยชน์อะไรหากข้าพระองค์ลงหลุมไป?
ธุลีดินจะสรรเสริญพระองค์หรือ?
มันจะป่าวประกาศความซื่อสัตย์ของพระองค์หรือ?
10 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงสดับฟังและเมตตาข้าพระองค์ด้วยเถิด
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงช่วยข้าพระองค์”

11 พระองค์ทรงเปลี่ยนการคร่ำครวญของข้าพเจ้าให้กลับกลายเป็นการเต้นรำ
พระองค์ทรงถอดชุดผ้ากระสอบสำหรับไว้ทุกข์ของข้าพเจ้าออก และสวมความชื่นบานให้แทน
12 เพื่อจิตใจของข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์และจะไม่นิ่งเงียบ
ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์เป็นนิตย์

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.