Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
สดุดี 6

(ถึงหัวหน้านักร้อง บรรเลงเครื่องสาย ตามทำนองเชมินิท[a] บทสดุดีของดาวิด)

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงโปรดอย่ากำราบข้าพระองค์ขณะที่พระองค์ทรงกริ้ว
หรือลงวินัยข้าพระองค์ขณะที่ทรงพระพิโรธ
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงกรุณาข้าพระองค์เถิด เพราะข้าพระองค์อ่อนระโหยโรยแรง
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงโปรดรักษาข้าพระองค์ เพราะกระดูกของข้าพระองค์ปวดร้าวแสนสาหัส
จิตวิญญาณของข้าพระองค์ทุกข์ระทมนัก
อีกนานสักเท่าใด ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า อีกนานสักเท่าใด?

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงหันมาช่วยกู้ข้าพระองค์ด้วยเถิด
ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดพ้นเพราะความรักมั่นคงของพระองค์
ไม่มีใครที่ตายไปแล้วจะระลึกถึงพระองค์ได้
ผู้ใดเล่าจะสรรเสริญพระองค์จากหลุมฝังศพได้?

ข้าพระองค์คร่ำครวญจนอ่อนล้า

ข้าพระองค์ร่ำไห้ตลอดทั้งคืนจนน้ำตาท่วมที่นอน
และหมอนของข้าพระองค์ชุ่มด้วยน้ำตา
ดวงตาของข้าพระองค์หม่นหมองไปเพราะความทุกข์โศก
ช้ำไปเพราะบรรดาศัตรูของข้าพระองค์

พวกเจ้าทุกคนที่ทำชั่ว จงไปให้พ้นข้าพเจ้า
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินเสียงร่ำไห้ของข้าพเจ้าแล้ว
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินเสียงร้องทูลขอความเมตตาของข้าพเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยอมรับคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
10 บรรดาศัตรูของข้าพเจ้าจะมีแต่ความอับอายและความหวาดกลัว
พวกเขาจะหันกลับไปและได้รับความอัปยศอดสูทันที

สดุดี 8-10

(ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนองกิททีธ[a] บทสดุดีของดาวิด)

ข้าแต่พระยาห์เวห์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย
พระนามของพระองค์เกริกไกรทั่วแผ่นดินโลกจริงๆ!

พระองค์ทรงตั้งเกียรติสิริของพระองค์
เหนือฟ้าสวรรค์
พระองค์ทรงตั้งที่มั่นเพื่อต่อสู้กับเหล่าศัตรูของพระองค์
ผ่านทางการสรรเสริญของเด็กและทารก
เพื่อทำให้ศัตรูและคนที่เคียดแค้นเงียบไป
เมื่อข้าพระองค์เพ่งพินิจฟ้าสวรรค์
อันเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์
ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลาย
ที่พระองค์ทรงตั้งไว้
มนุษย์ที่ต้องตายเป็นใครหนอ พระองค์จึงทรงพะวงถึง?
บุตรของมนุษย์เป็นผู้ใด พระองค์จึงทรงห่วงใยพวกเขา?

พระองค์ทรงสร้างพวกเขา[b]ให้ต่ำกว่าชาวสวรรค์[c]เพียงเล็กน้อย
และทรงสวมมงกุฎแห่งศักดิ์ศรีและเกียรติให้พวกเขา
พระองค์ทรงตั้งพวกเขาให้ปกครองสิ่งสารพัดที่ทรงสร้างขึ้น
พระองค์ทรงวางทุกสิ่งไว้ใต้เท้าของพวกเขา
ฝูงแพะแกะและฝูงวัวทั้งสิ้น
และสัตว์ป่าทั้งหลายในทุ่งกว้าง
หมู่นกในอากาศ
และปลาในทะเล
ทุกสิ่งที่ว่ายไปมาในท้องทะเล

ข้าแต่พระยาห์เวห์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย
พระนามของพระองค์เกริกไกรทั่วแผ่นดินโลกจริงๆ!

(ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนอง “การตายของบุตรชาย” บทสดุดีของดาวิด)

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์หมดหัวใจ
ข้าพระองค์จะบอกถึงการมหัศจรรย์ทั้งสิ้นที่ทรงกระทำ
ข้าพระองค์จะชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ในพระองค์
ข้าแต่องค์ผู้สูงสุด ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์

เหล่าศัตรูของข้าพระองค์หันกลับไป
พวกเขาล้มลงและพินาศต่อหน้าพระองค์
เพราะพระองค์ทรงผดุงสิทธิ์และความยุติธรรมแก่ข้าพระองค์
พระองค์ประทับบนบัลลังก์ในฐานะผู้พิพากษาที่ชอบธรรม
พระองค์ทรงกำราบประชาชาติทั้งหลาย และทรงทำลายคนชั่ว
พระองค์ทรงลบชื่อของพวกเขาออกไปเป็นนิตย์
ศัตรูพินาศย่อยยับไปนิรันดร์
พระองค์ทรงทำลายเมืองต่างๆ ของพวกเขาอย่างถอนรากถอนโคน
แม้แต่อนุสรณ์ของพวกเขาก็วอดวายไปสิ้น

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครองอยู่เป็นนิตย์
พระองค์ทรงสถาปนาบัลลังก์ของพระองค์ไว้เพื่อการพิพากษา
พระองค์จะทรงปกครองโลกด้วยความชอบธรรม
และทรงพิพากษาประชาชาติทั้งหลายด้วยความยุติธรรม
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง
ทรงเป็นปราการมั่นคงในยามยากลำบาก
10 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทุกคนที่รู้จักพระนามของพระองค์จะวางใจในพระองค์
เพราะพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งบรรดาผู้ที่แสวงหาพระองค์

11 จงร้องเพลงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ครองบัลลังก์ในศิโยน
จงประกาศพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลางประชาชาติ
12 เพราะพระองค์ผู้ทรงแก้แค้นให้ไม่ทรงลืม
พระองค์ไม่ทรงเพิกเฉยต่อเสียงร่ำร้องของผู้ที่ทุกข์ลำเค็ญ

13 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดทอดพระเนตรว่า เหล่าศัตรูข่มเหงรังแกข้าพระองค์เพียงใด!
ขอทรงเมตตาและโอบอุ้มข้าพระองค์ให้พ้นจากประตูแห่งความตาย
14 เพื่อข้าพระองค์จะเปล่งเสียงสรรเสริญพระองค์
ที่ประตูเมืองของธิดาแห่งศิโยน[d]
และปีติยินดีในความรอดของพระองค์ที่นั่น

15 ประชาชาติทั้งหลายได้ตกลงไปในหลุมที่พวกเขาขุดไว้
เท้าของพวกเขาติดกับดักที่พวกเขาเองซ่อนไว้
16 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นที่รู้จักในด้านความยุติธรรมของพระองค์
คนชั่วติดกับด้วยนมือของตนเอง
ชิกกาโยน[e] เสลาห์
17 คนชั่วกลับไปยังแดนผู้ตาย
คือทุกประชาชาติที่ลืมพระเจ้า
18 แต่พระเจ้าจะไม่ทรงลืมคนแร้นแค้นเลย
ความหวังของผู้ที่ทุกข์ลำเค็ญจะไม่สูญสิ้นเลย

19 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงลุกขึ้น ขออย่าให้มนุษย์ชนะ
ขอทรงพิพากษาบรรดาประชาชาติต่อหน้าพระองค์
20 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงทำให้เขาครั่นคร้ามยำเกรง
ให้ประชาชาติทั้งหลายรู้ว่าตนเป็นเพียงมนุษย์
เสลาห์

10 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ทำไมพระองค์จึงทรงประทับอยู่ไกลแสนไกล?
ทำไมพระองค์จึงทรงซ่อนพระองค์ในยามเดือดร้อน?

ด้วยความหยิ่งผยอง คนชั่วไล่ล่าคนอ่อนแอ
ผู้ซึ่งติดกับในอุบายที่เขาคิดขึ้น
พวกเขาโอ้อวดตัณหาในใจของตน
พวกเขาอวยพรคนโลภและลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ด้วยความจองหองอวดดี คนชั่วไม่แสวงหาพระเจ้า
ไม่เคยมีพระเจ้าในความคิดของพวกเขาเลย
ทางของพวกเขาเจริญรุ่งเรืองเสมอ
พวกเขาปฏิเสธบทบัญญัติของพระองค์[f]
พวกเขาเย้ยหยันศัตรูทั้งปวงของพวกเขา
พวกเขาบอกตัวเองว่า “ไม่มีสิ่งใดทำให้เราสั่นคลอนได้”
พวกเขาสาบานว่า “ไม่มีใครทำอันตรายเราได้”

ริมฝีปากของพวกเขาเต็มไปด้วยคำโกหกและคำข่มขู่
ความเดือดร้อนและความชั่วอยู่ใต้ลิ้นของพวกเขา
พวกเขาหมอบคอยอยู่ใกล้หมู่บ้าน
ออกจากที่ซ่อนมาฆ่าคนบริสุทธิ์
ตาของพวกเขาซุ่มมองเหยื่อ
พวกเขาหมอบคอยอยู่เหมือนสิงโตที่ซุ่มซ่อน
พวกเขาหมอบรอจับคนไม่มีทางสู้
พวกเขาจับคนไม่มีทางสู้และลากไปในตาข่าย
10 คนบริสุทธิ์ถูกบดขยี้และล้มลง
พวกเขาล้มเหยื่อด้วยกำลังที่เหนือกว่า
11 คนชั่วบอกตัวเองว่า “พระเจ้าไม่มีวันสังเกตเห็น
พระองค์ทรงปิดพระพักตร์และทรงมองไม่เห็นเลย”

12 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า! ขอทรงลุกขึ้น ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงชูพระหัตถ์ของพระองค์
ขออย่าทรงลืมคนไม่มีทางสู้
13 ทำไมคนชั่วจึงลบหลู่พระเจ้า?
ทำไมพวกเขาจึงกล่าวกับตนเองว่า
“พระองค์จะไม่ทรงเอาเรื่องเรา”?
14 แต่พระเจ้าทรงเห็นความเดือดร้อนของผู้ที่ทุกข์ลำเค็ญ
พระองค์ทรงระลึกถึงความทุกข์โศกของพวกเขาและทรงรับมันไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์
ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมอบชีวิตของพวกเขาไว้กับพระองค์
พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยของลูกกำพร้าพ่อ
15 ขอทรงหักแขนของคนชั่วและคนเลว
เรียกร้องให้เขารับผิดชอบความชั่วของตน
ซึ่งยังไม่มีใครพบ

16 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นจอมกษัตริย์สืบไปนิรันดร์
บรรดาประชาชาติจะพินาศไปจากแผ่นดินของพระองค์
17 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงฟังความปรารถนาของผู้ที่ทุกข์ลำเค็ญ
พระองค์ทรงให้กำลังใจพวกเขาและทรงฟังเสียงร่ำร้องของพวกเขา
18 ทรงปกป้องลูกกำพร้าพ่อและผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง
เพื่อว่ามนุษย์ซึ่งเป็นของโลกนี้จะไม่ทำให้หวาดกลัวอีกต่อไป

สดุดี 14

(สดด.53:1-6)

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด)

14 คนโง่[a]รำพึงอยู่ในใจว่า
“ไม่มีพระเจ้า”
พวกเขาเสื่อมทราม การกระทำของพวกเขาก็ชั่วช้าสามานย์
ไม่มีสักคนที่ทำดี

องค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรลงมาจากฟ้าสวรรค์
ดูมวลมนุษยชาติ
เพื่อดูว่ามีสักคนไหมที่เข้าใจ
มีสักคนไหมที่แสวงหาพระเจ้า
ทุกคนหันหนีไปหมด
ทุกคนกลายเป็นคนเสื่อมทราม
ไม่มีสักคนที่ทำดี
ไม่มีแม้แต่คนเดียว

พวกคนชั่วไม่รับรู้อะไรเลยหรือ?

พวกเขากลืนกินประชากรของเราดั่งอาหาร
พวกเขาไม่เคยร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า
ดูสิ พวกเขาจมอยู่ในความตาย
เพราะว่าพระเจ้าสถิตในที่ชุมนุมของผู้ชอบธรรม
เจ้าคนชั่วคอยขัดขวางแผนงานของผู้ยากไร้
แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของพวกเขา

ขอให้การช่วยกู้เพื่ออิสราเอลมาจากศิโยนเถิด!
เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้เหล่าประชากรของพระองค์คืนสู่สภาพดีดังเดิม
ให้ยาโคบชื่นชมยินดีและให้อิสราเอลเปรมปรีดิ์เถิด!

สดุดี 16

(มิคทาม[a]บทหนึ่งของดาวิด)

16 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงปกป้องข้าพระองค์ให้ปลอดภัย
เพราะข้าพระองค์ลี้ภัยในพระองค์

ข้าพเจ้ากราบทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “พระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์
นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่มีอะไรดีเลย”
ข้าพเจ้าชื่นชมเหล่าวิสุทธิชนในโลกนี้
พวกเขาเป็นผู้ทรงเกียรติ น่ายกย่อง
บรรดาผู้ที่ติดตามพระอื่นๆ จะทุกข์โศกมากยิ่งขึ้น
ข้าพเจ้าจะไม่เทเลือดถวายเป็นเครื่องสักการบูชาเหมือนที่พวกเขาทำ
หรือเอ่ยชื่อพระต่างๆ ของพวกเขา

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นส่วนมรดกและเป็นจอกแห่งพระพรของข้าพระองค์
พระองค์ทรงดูแลรักษากรรมสิทธิ์ของข้าพระองค์
ทรงให้ข้าพระองค์ได้รับส่วนในเขตแดนอันรื่นรมย์
แน่นอน ข้าพระองค์มีมรดกอันน่าชื่นชม
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงให้คำปรึกษาแก่ข้าพเจ้า
แม้ในยามค่ำคืนจิตใจของข้าพเจ้าก็สอนตัวเอง
ข้าพเจ้าให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าเสมอ
เพราะพระองค์ทรงประทับอยู่ที่ด้านขวามือของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหว

ฉะนั้นจิตใจของข้าพเจ้าจึงยินดีและลิ้นของข้าพเจ้าก็ปรีดา
กายของข้าพเจ้าก็จะพักอยู่อย่างปลอดภัยเช่นกัน
10 เพราะพระองค์จะไม่ทรงทิ้งข้าพระองค์ไว้กับหลุมฝังศพ
ทั้งจะไม่ทรงปล่อยให้ผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์[b]เน่าเปื่อย
11 พระองค์ได้ทรงสำแดง[c]หนทางแห่งชีวิตแก่ข้าพระองค์
พระองค์จะทรงให้ข้าพระองค์เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์
มีความชื่นบานอยู่ที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์เป็นนิตย์

สดุดี 19

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด)

19 ฟ้าสวรรค์ประกาศพระเกียรติสิริของพระเจ้า
ท้องฟ้าสำแดงฝีพระหัตถ์ของพระองค์
วันแล้ววันเล่ากล่าวถึงพระเจ้า
คืนแล้วคืนเล่าสำแดงความรู้
พวกมันไม่มีคำพูด ไม่มีถ้อยคำ
ไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากพวกมัน
แต่กระนั้นเสียงของพวกมันก็ยังออกไปทั่วโลก
ถ้อยคำของพวกมันไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลก
พระองค์ทรงกำหนดตำแหน่งของดวงอาทิตย์ไว้บนฟ้าสวรรค์
ซึ่งเป็นเหมือนเจ้าบ่าวก้าวเข้าสู่พิธีสมรส
เหมือนนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งร่าเริงยินดีที่จะเข้าสู่การแข่งขัน
ดวงอาทิตย์ขึ้นจากฟากหนึ่ง
แล้วโคจรไปยังอีกฟากหนึ่งของฟ้าสวรรค์
ไม่มีสิ่งใดหลบซ่อนจากความร้อนของมันได้

บทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าสมบูรณ์ไร้ที่ติ
ฟื้นฟูจิตวิญญาณ
กฎเกณฑ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าเชื่อถือได้
กระทำให้คนรู้น้อยมีปัญญา
ข้อบังคับขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้นถูกต้อง
ให้ความชื่นชมยินดีแก่จิตใจ
พระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้ากระจ่างชัด
ให้ความสว่างแก่ดวงตา
ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้านั้นบริสุทธิ์
ยั่งยืนเป็นนิตย์
ข้อปฏิบัติขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้นแน่นอน
และล้วนแต่ชอบธรรมทั้งสิ้น

10 ล้ำค่ากว่าทองคำ
ยิ่งกว่าทองบริสุทธิ์
หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง
ยิ่งกว่าน้ำผึ้งที่หยดจากรวง
11 สิ่งเหล่านี้ตักเตือนผู้รับใช้ของพระองค์
และเป็นบำเหน็จยิ่งใหญ่แก่ทุกคนที่ยึดถือปฏิบัติตาม
12 ใครเล่าสามารถสังเกตเห็นความผิดพลาดของตน?
ขอทรงอภัยความผิดที่ซ่อนเร้นของข้าพระองค์
13 ขอทรงยับยั้งผู้รับใช้ของพระองค์ไม่ให้ทำบาปโดยตั้งใจ
อย่าให้บาปเหล่านั้นครอบงำข้าพระองค์
แล้วข้าพระองค์จะไร้ตำหนิ
พ้นจากการล่วงละเมิดอันใหญ่หลวง

14 ขอให้วาจาที่ออกจากปากและการใคร่ครวญในใจของข้าพระองค์นั้น
เป็นที่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระศิลาและพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์

สดุดี 21

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด)

21 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า กษัตริย์ปีติยินดีในพระเดชานุภาพของพระองค์
ความเปรมปรีดิ์ของท่านในชัยชนะที่พระองค์ประทานนั้นช่างยิ่งใหญ่นัก!

พระองค์ได้ประทานตามที่ใจของท่านปรารถนา
ไม่ได้ทรงหน่วงเหนี่ยวสิ่งที่ท่านทูลขอ
เสลาห์
พระองค์ทรงต้อนรับท่านด้วยพระพรอันอุดม
และทรงสวมมงกุฎทองคำบริสุทธิ์บนศีรษะของท่าน
ท่านทูลขอชีวิต พระองค์ก็ประทาน
วันคืนแห่งชีวิตของท่านจึงยืนยงนิรันดร์
ศักดิ์ศรีของท่านยิ่งใหญ่โดยชัยชนะที่พระองค์ประทาน
พระองค์ทรงประสิทธิ์ประสาทสง่าราศีและบารมีแก่ท่าน
แน่นอน พระองค์ประทานพระพรนิรันดร์แก่ท่าน
และทำให้ท่านสุขใจจากความยินดีที่ได้เข้าเฝ้าพระองค์
เพราะกษัตริย์วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า
โดยความรักมั่นคงขององค์ผู้สูงสุด
ท่านจะไม่มีวันคลอนแคลนหวั่นไหว

พระหัตถ์ของพระองค์จะจับกุมศัตรูทั้งปวง
พระหัตถ์ขวาจะยึดข้าศึกทั้งหลายของพระองค์ไว้
เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ
พระองค์จะทรงทำลายพวกเขาเหมือนเผาในเตาไฟร้อนแรง
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกลืนพวกเขาด้วยพระพิโรธ
ไฟของพระองค์จะเผาผลาญพวกเขา
10 พระองค์จะทรงทำลายล้างวงศ์วานของพวกเขาไปจากแผ่นดินโลก
กำจัดเผ่าพันธุ์ของพวกเขาจากมนุษยชาติ
11 แม้พวกเขาคิดร้ายต่อพระองค์
และคิดวางแผนชั่ว พวกเขาไม่สามารถทำให้สำเร็จได้
12 เพราะพระองค์จะทรงทำให้พวกเขาหันหลังหนีไป
เมื่อพระองค์ทรงเล็งธนูไปที่พวกเขา

13 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงรับการเชิดชูในพระเดชานุภาพของพระองค์
ข้าพระองค์ทั้งหลายจะร้องเพลงสรรเสริญฤทธานุภาพของพระองค์

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.