Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 24-27

24 ชายใดไม่พึงพอใจภรรยาเพราะข้อบกพร่องต่างๆ ให้เขียนหนังสือหย่ามอบแก่นางและส่งตัวนางออกไปจากบ้านของเขา หลังจากนั้นหากนางแต่งงานใหม่ และสามีใหม่ก็ไม่พึงพอใจนาง แล้วเขียนหนังสือหย่ามอบให้แล้วส่งตัวนางออกไปจากบ้านของเขา หรือหากสามีใหม่ตายไป สามีคนแรกที่หย่ากันแล้ว ห้ามกลับไปแต่งงานกับนางอีกเพราะนางเป็นมลทินแล้ว เพราะเป็นที่น่ารังเกียจในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่านำบาปมาเหนือดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นกรรมสิทธิ์

อย่าเกณฑ์ชายที่เพิ่งแต่งงานให้ออกรบหรือมอบหมายหน้าที่ใดๆ แก่เขา ตลอดปีแรกให้เขามีความสุขอยู่กับภรรยาที่บ้าน

อย่ายึดหินโม่เป็นของค้ำประกันการกู้ยืม เพราะเป็นเครื่องมือที่เจ้าของใช้ประทังชีวิต

ผู้ใดลักพาตัวพี่น้องชาวอิสราเอลและปฏิบัติต่อเขาเยี่ยงทาสหรือขายเขาไป ผู้ลักพาตัวจะต้องตาย ท่านต้องขจัดความชั่วร้ายออกไปจากหมู่พวกท่าน

ในกรณีของโรคเรื้อน[a] จงใส่ใจปฏิบัติตามคำสั่งของปุโรหิตชาวเลวีอย่างเคร่งครัด ท่านต้องใส่ใจปฏิบัติตามสิ่งที่ข้าพเจ้าได้บัญชาพวกเขาไว้ จงจดจำสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทำต่อมิเรียมระหว่างทางหลังจากที่ท่านออกจากอียิปต์

10 เมื่อท่านให้เพื่อนบ้านยืมสิ่งใด อย่าเข้าไปเอาของค้ำประกันในบ้านของเขา 11 จงคอยอยู่ข้างนอก ให้ผู้ขอกู้นำของค้ำประกันออกมาให้ท่านเอง 12 หากคนนั้นยากจน ท่านอย่าเก็บของค้ำประกันไว้ข้ามคืน 13 จงคืนเสื้อคลุมให้เขาก่อนดวงอาทิตย์ตกดิน เพื่อเขาจะใช้ห่มนอน แล้วเขาจะขอบคุณท่าน และจะถือว่าเป็นการกระทำที่ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน

14 อย่าเอารัดเอาเปรียบลูกจ้างที่ยากไร้และขัดสน ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชาวอิสราเอลหรือคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองของท่าน 15 จงจ่ายค่าแรงแก่เขาทุกวันก่อนดวงอาทิตย์ลับฟ้า เนื่องจากเขายากจนและใจจดใจจ่ออยู่ที่ค่าจ้าง มิฉะนั้นเขาอาจจะร้องกล่าวโทษท่านต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและท่านจะมีความผิดบาป

16 อย่าประหารบิดาเพราะบาปของบุตร หรือประหารบุตรเพราะบาปของบิดา แต่ละคนจะต้องตายเพราะบาปของตนเอง

17 จงให้ความยุติธรรมแก่คนต่างด้าวและลูกกำพร้าพ่อ อย่าเอาเสื้อคลุมของหญิงม่ายเป็นของค้ำประกันหนี้สิน 18 จงระลึกว่าท่านเคยเป็นทาสในอียิปต์และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงไถ่ท่านออกมา ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงบัญชาท่านให้ทำเช่นนี้

19 เมื่อท่านเก็บเกี่ยวพืชผล หากท่านลืมฟ่อนข้าวมัดหนึ่งไว้ในท้องนา อย่ากลับไปเอา จงปล่อยไว้สำหรับคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรการงานทุกอย่างที่ท่านทำ 20 เมื่อท่านฟาดผลมะกอกจากต้น ไม่ต้องเก็บซ้ำที่กิ่งเดิม จงปล่อยส่วนที่เหลือไว้เป็นของคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย 21 เมื่อท่านเก็บเกี่ยวองุ่นในสวนของท่าน อย่าเก็บซ้ำจนเกลี้ยง จงปล่อยส่วนที่เหลือไว้เป็นของคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย 22 จงระลึกว่าท่านเคยเป็นทาสในอียิปต์ ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงบัญชาท่านให้ทำเช่นนี้

25 เมื่อผู้ใดเป็นความกันให้นำเรื่องมาถึงศาล ตุลาการจะตัดสินคดี ปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์ และลงโทษผู้กระทำผิด หากผู้กระทำผิดสมควรถูกโบย ตุลาการจะสั่งให้เขานอนลงและให้โบยต่อหน้า มากน้อยตามแต่โทษหนักเบา แต่อย่าโบยเขาเกินสี่สิบที มิฉะนั้นโทษทัณฑ์จะรุนแรงเกินเหตุและพี่น้องของท่านจะต้องเสื่อมเสียเกียรติต่อหน้าท่าน

อย่าเอาตะกร้อครอบปากวัวซึ่งนวดข้าวอยู่

ถ้าพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันและมีคนหนึ่งตายไปโดยปราศจากบุตรชาย อย่าให้ภรรยาม่ายของเขาแต่งงานกับคนนอกครอบครัวสามี พี่น้องสามีจงรับนางเป็นภรรยาและทำหน้าที่พี่น้องสามีแก่นาง ลูกคนแรกที่เกิดมาจะสืบชื่อของผู้ล่วงลับไปแล้วเพื่อชื่อของเขาจะไม่ถูกลบไปจากอิสราเอล

แต่หากพี่น้องของผู้ตายไม่ยอมแต่งงานกับหญิงม่ายผู้นั้น นางจะไปหาบรรดาผู้อาวุโสที่ประตูเมืองและกล่าวว่า “พี่น้องสามีของดิฉันไม่ยอมสืบชื่อของผู้ตายในอิสราเอล เขาไม่ยอมทำหน้าที่พี่น้องสามีต่อดิฉัน” แล้วบรรดาผู้อาวุโสของเมืองนั้นจะเรียกตัวญาติคนนั้นมาเจรจา หากเขายังยืนกรานปฏิเสธว่า “ข้าพเจ้าไม่ต้องการแต่งงานกับนาง” หญิงม่ายจะเดินเข้าไปหาชายคนนั้นต่อหน้าบรรดาผู้อาวุโส ถอดรองเท้าของเขาออกมาข้างหนึ่ง ถ่มน้ำลายรดหน้าเขาและกล่าวว่า “นี่แหละผลที่จะเกิดกับคนที่ไม่ยอมสืบสายตระกูลให้พี่น้องของเขา” 10 หลังจากนั้นคนอิสราเอลจะเรียกเชื้อสายของชายผู้นั้นว่า ‘ครอบครัวของคนที่ถูกดึงรองเท้าออก’

11 หากชายสองคนสู้รบตบมือกัน และภรรยาของฝ่ายหนึ่งตรงเข้ามาช่วยสามีโดยบีบของลับของฝ่ายตรงข้าม 12 ท่านจะต้องตัดมือของนางทิ้ง อย่าสงสารนางเลย

13 อย่ามีตุ้มน้ำหนักที่ต่างกันไว้ในถุงของท่าน อันหนึ่งหนัก อันหนึ่งเบา 14 อย่ามีเครื่องตวงวัดที่ต่างกันในบ้านของท่าน อันหนึ่งใหญ่ อันหนึ่งเล็ก 15 จงใช้มาตราชั่ง ตวง วัด ที่ถูกต้องแม่นยำและเที่ยงตรง เพื่อท่านจะมีชีวิตยืนยาวในดินแดนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่าน 16 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงรังเกียจผู้คดโกง

17 อย่าลืมสิ่งที่ชาวอามาเลขทำแก่ท่านเมื่อท่านออกมาจากอียิปต์ 18 พวกเขาพบท่านระหว่างทาง เมื่อท่านอ่อนระโหยโรยแรงและโจมตีคนที่อยู่รั้งท้าย โดยไม่มีความเกรงกลัวพระเจ้าเลย 19 ฉะนั้นเมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงโปรดให้ท่านพักสงบจากศัตรูทั้งปวงในดินแดนที่จะทรงยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ จงทำลายอามาเลขให้สูญสิ้นไปจากความทรงจำภายใต้ฟ้าสวรรค์ อย่าลืมข้อนี้!

พืชผลรุ่นแรกและสิบลด

26 เมื่อท่านเข้ายึดครองและตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะประทานแก่ท่านเป็นกรรมสิทธิ์ จงนำพืชผลรุ่นแรกบางส่วนที่ท่านเก็บเกี่ยวจากผืนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานให้ใส่ตะกร้ามายังสถานที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์ และกล่าวแก่ปุโรหิตซึ่งประจำการในขณะนั้นว่า “ข้าพเจ้าขอประกาศในวันนี้ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านว่า ข้าพเจ้าได้มายังดินแดนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของเราว่าจะประทานแก่เรา” ปุโรหิตจะรับตะกร้าจากมือของท่านไปวางไว้หน้าแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จากนั้นท่านจะประกาศต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านว่า “บรรพบุรุษของข้าพระองค์คือชาวอารัมผู้ระเหเร่ร่อน และเขาได้ไปอาศัยอยู่ที่อียิปต์พร้อมกับคนเพียงหยิบมือเดียว แต่เมื่ออยู่ที่นั่นก็กลายเป็นชาติใหญ่ มีอำนาจ และมีคนมาก แต่ชาวอียิปต์ปฏิบัติต่อเราอย่างไม่เป็นธรรม เคี่ยวเข็ญให้เราตรากตรำทำงานหนัก แล้วเราร้องทูลพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของเรา และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินเสียงของเราและทอดพระเนตรเห็นความยากแค้นลำเค็ญ ความเหนื่อยยาก และการกดขี่ข่มเหงที่เราได้รับ ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงนำเราออกจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และพระกรที่เหยียดออก ด้วยความครั่นคร้ามใหญ่หลวง ด้วยหมายสำคัญและปาฏิหาริย์ พระองค์ทรงนำเรามายังสถานที่นี้ ประทานดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งแก่เรา 10 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าบัดนี้ข้าพระองค์ได้นำพืชผลรุ่นแรกจากที่ดินที่ประทานมาถวาย” แล้วจงวางตะกร้านั้นต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และก้มกราบต่อหน้าพระองค์ 11 แล้วท่านกับชาวเลวีและคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในหมู่พวกท่านจะฉลองสิ่งดีงามทั้งปวงที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ประทานแก่ท่านและครัวเรือนของท่าน

12 ทุกปีที่สามเป็นปีแห่งสิบลด ในปีนั้นจงมอบหนึ่งในสิบของผลิตผลทั้งปวงของท่านแก่ชาวเลวี คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย เพื่อพวกเขาจะได้รับประทานอิ่มหนำในเมืองของท่าน 13 จากนั้นท่านจงทูลพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านว่า “ข้าพระองค์ได้นำส่วนศักดิ์สิทธิ์จากบ้านของข้าพระองค์มามอบให้ชาวเลวี คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่ายตามที่ทรงบัญชาไว้ ข้าพระองค์ไม่ได้หันเหหรือลืมพระบัญชาทั้งปวงของพระองค์ 14 ข้าพระองค์ไม่ได้รับประทานส่วนศักดิ์สิทธิ์ขณะไว้ทุกข์ หรือยกส่วนใดออกไปขณะที่เป็นมลทิน หรืออุทิศส่วนใดแก่ผู้ตาย ข้าพระองค์เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์และทำทุกสิ่งตามพระบัญชา 15 ขอโปรดทอดพระเนตรลงมาจากสวรรค์ที่ประทับอันบริสุทธิ์ และทรงอวยพรอิสราเอลประชากรของพระองค์ และอวยพรดินแดนซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย อันเป็นดินแดนที่อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งตามที่ทรงสัญญาด้วยคำปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย”

ทำตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า

16 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาพวกท่านในวันนี้ให้ปฏิบัติตามกฎหมายและบทบัญญัติต่างๆ เหล่านี้ จงถือปฏิบัติอย่างถี่ถ้วนด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน 17 วันนี้ท่านได้ประกาศแล้วว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าของท่าน และท่านจะดำเนินในทางของพระองค์ จะรักษากฎหมาย พระบัญชา และบทบัญญัติของพระองค์ และจะเชื่อฟังพระองค์ 18 ในวันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศว่าท่านเป็นประชากรของพระองค์ เป็นกรรมสิทธิ์ล้ำค่าของพระองค์ตามที่ทรงสัญญาไว้ และท่านจะต้องปฏิบัติตามพระบัญชาทั้งสิ้นของพระองค์ 19 พระองค์ทรงประกาศไว้ว่าจะทรงตั้งให้ท่านเป็นที่ยกย่อง มีเกียรติยศ และชื่อเสียงเหนือกว่าชนชาติอื่นๆ ทั้งปวงที่ทรงสร้าง ท่านจะเป็นชนชาติบริสุทธิ์ สำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามที่ทรงสัญญาไว้

แท่นบูชาที่ภูเขาเอบาล

27 โมเสสและผู้อาวุโสของอิสราเอลสั่งประชากรว่า “จงปฏิบัติตามพระบัญชาทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้ เมื่อท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าสู่ดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานให้ จงตั้งหินใหญ่จำนวนหนึ่งขึ้นและฉาบปูน จารึกเนื้อความบทบัญญัตินี้ไว้บนหินเหล่านั้น เมื่อท่านข้ามไปสู่ดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่าน ซึ่งเป็นดินแดนที่อุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านทรงสัญญาไว้กับท่าน และเมื่อท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป จงตั้งหินเหล่านี้ขึ้นบนภูเขาเอบาลตามที่ข้าพเจ้าสั่งท่านวันนี้ และฉาบด้วยปูน จงสร้างแท่นบูชาหินขึ้นที่นั่นถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน อย่าใช้เครื่องมือเหล็กสกัดหินเหล่านั้น จงสร้างแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยหินที่พบในท้องทุ่ง และถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านบนแท่นนั้น จงถวายเครื่องสันติบูชาบนแท่นนั้นเช่นกัน และเลี้ยงฉลองรื่นเริงต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จงจารึกบทบัญญัติทั้งปวงนี้ลงไปให้ชัดเจนบนก้อนหินที่ท่านตั้งขึ้น”

คำสาปแช่งจากภูเขาเอบาล

แล้วโมเสสและปุโรหิตชาวเลวีกล่าวแก่ชนอิสราเอลว่า “อิสราเอลเอ๋ย จงสงบเงียบและฟังเถิด บัดนี้ท่านได้เป็นประชากรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านแล้ว 10 จงเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและปฏิบัติตามพระบัญชาและกฎหมายทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้”

11 ในวันเดียวกันนั้นโมเสสสั่งประชากรดังนี้ว่า

12 เมื่อท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนแล้ว เผ่าสิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ โยเซฟ และเบนยามิน จะยืนอยู่บนภูเขาเกริซิมเพื่ออวยพรประชากร 13 ส่วนเผ่ารูเบน กาด อาเชอร์ เศบูลุน ดาน และนัฟทาลี จะยืนอยู่บนภูเขาเอบาล เพื่อกล่าวคำสาปแช่ง

14 คนเลวีจะป่าวร้องแก่ชนอิสราเอลด้วยเสียงอันดังว่า

15 “ขอแช่งคนที่แกะสลักหรือหล่อรูปเคารพซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรังเกียจ เป็นผลงานจากน้ำมือของช่างและตั้งไว้อย่างลับๆ”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

16 “ขอแช่งคนที่ไม่ให้เกียรติบิดามารดา”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

17 “ขอแช่งคนที่ย้ายหลักเขตที่ดินของเพื่อนบ้าน”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

18 “ขอแช่งคนที่นำคนตาบอดให้หลงทาง”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

19 “ขอแช่งคนที่ไม่ให้ความยุติธรรมแก่คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ หรือหญิงม่าย”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

20 “ขอแช่งคนที่หลับนอนกับภรรยาของบิดา เพราะเขาหยามเกียรติบิดาของเขา”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

21 “ขอแช่งคนที่สมสู่กับสัตว์”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

22 “ขอแช่งคนที่หลับนอนกับพี่สาวน้องสาวของตน ไม่ว่าจะเป็นบุตรสาวของบิดาหรือบุตรสาวของมารดาก็ตาม”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

23 “ขอแช่งคนที่หลับนอนกับแม่ยายของตน”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

24 “ขอแช่งคนที่ลอบสังหารเพื่อนบ้านของเขา”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

25 “ขอแช่งคนที่รับสินบนเพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

26 “ขอแช่งคนที่ไม่ยึดมั่นปฏิบัติตามบทบัญญัตินี้”

แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า

“อาเมน!”

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.