Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
1 ยอห์น 1-5

มีเรื่องหนึ่งซึ่งมีมาตั้งแต่ก่อนวันแรกของโลกแล้ว เป็นเรื่องที่เราได้ยินมากับหู เห็นมากับตา ได้เพ่งดูอย่างละเอียด และได้สัมผัสมากับมือของเราเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับถ้อยคำ[a]แห่งชีวิต และชีวิตนั้นเองได้มาปรากฏให้เราเห็น และตอนนี้เราได้เป็นพยานและประกาศเรื่องของชีวิตนั้นให้พวกคุณ คือชีวิตที่จะอยู่กับพระเจ้าตลอดไป ชีวิตนั้นอยู่กับพระบิดาและได้มาปรากฏให้เราเห็น เพราะเราได้เห็นและได้ยินเรื่องชีวิตนั้นแล้ว เราจึงมาบอกให้พวกคุณรู้เดี๋ยวนี้ หวังว่าพวกคุณจะได้มีสายสัมพันธ์กับพวกเราเหมือนกับที่พวกเรามีสายสัมพันธ์กับพระบิดาและกับพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ด้วย เพราะอย่างนี้ เราจึงเขียนเรื่องพวกนี้ให้กับพวกคุณ เพื่อพวกเรา[b]จะได้มีความสุขอย่างเต็มที่

พระเจ้ายกโทษให้กับเรา

นี่คือเรื่องที่เราได้ยินจากพระเยซูคริสต์เจ้า และเป็นเรื่องเดียวกับที่เรากำลังบอกพวกคุณอยู่เดี๋ยวนี้ คือพระเจ้าเป็นความสว่าง และไม่มีความมืดในพระองค์เลย ถ้าเราบอกว่าเรามีสายสัมพันธ์กับพระเจ้า แต่เรายังใช้ชีวิตอยู่ในความมืด เราก็โกหกและไม่ได้ทำตามความจริง แต่ถ้าเราใช้ชีวิตอยู่ในความสว่างเหมือนกับที่พระเจ้าอยู่ในความสว่าง เราก็จะมีสายสัมพันธ์ร่วมกัน และเลือดของพระเยซูพระบุตรของพระเจ้าก็ล้างความบาปทุกอย่างของเราจนหมดสิ้น

ถ้าเราบอกว่าเราไม่มีบาป เราก็หลอกตัวเอง และไม่รู้จักความจริง แต่ถ้าเรายอมสารภาพความบาปของเรา พระเจ้าผู้รักษาคำสัญญาและทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ จะยกโทษบาปให้กับเรา และจะล้างเราให้สะอาดจากความผิดทุกอย่างด้วย 10 แต่ถ้าเราบอกว่า เราไม่ได้ทำบาป เราก็กำลังว่าพระเจ้าโกหก และคำพูดของพระองค์ก็ไม่ได้อยู่ในใจเราเลย

พระเยซูเป็นผู้ช่วยให้รอด

ลูกๆที่รัก ผมได้เขียนสิ่งเหล่านี้ถึงพวกคุณ เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ทำบาป แต่ถ้าใครทำบาป เราก็มีพระเยซูคริสต์ผู้ซื่อสัตย์ที่แก้ตัวแทนเราต่อหน้าพระบิดา พระองค์เป็นเครื่องบูชาที่จัดการกับบาปของเรา และไม่ใช่แต่ความบาปของเราเท่านั้น แต่รวมถึงบาปของคนทั้งโลกด้วย

ถ้าเรารักษาคำสั่งของพระองค์ เราก็จะมั่นใจได้ว่าเรารู้จักพระองค์จริงๆ คนที่พูดว่า “ฉันรู้จักพระเจ้า” แต่ไม่ได้ทำตามคำสั่งของพระองค์ ก็เป็นคนโกหก เขาไม่ได้รู้จักความจริง แต่คนที่ทำตามคำสั่งสอนของพระเจ้านั้น ความรักของพระเจ้าก็สำเร็จครบถ้วนในคนๆนั้นอย่างแท้จริง สิ่งนี้ทำให้เราแน่ใจว่าเราอยู่ในพระองค์ คนที่บอกว่าตัวเองอยู่ในพระเจ้า ก็ต้องใช้ชีวิตเหมือนกับพระเยซูด้วย

คำสั่งให้เรารักคนอื่น

เพื่อนๆที่รัก ผมไม่ได้เขียนคำสั่งใหม่ให้กับคุณ แต่เป็นคำสั่งอันเก่าที่พวกคุณมีอยู่แล้วและเคยได้ยินมาแล้ว แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่ผมกำลังเขียนถึงคุณนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคำสั่งใหม่ก็ได้ คุณดูได้จากชีวิตของพระคริสต์ หรือดูจากชีวิตของพวกคุณเอง แล้วจะรู้ว่าคำสั่งใหม่นี้เป็นความจริงเพราะความมืดกำลังผ่านพ้นไป และความสว่างอันแท้จริงกำลังส่องแสงอยู่แล้ว

คนที่พูดว่าเขาอยู่ในความสว่างแต่ยังเกลียดชังพี่น้องอยู่ ก็แสดงว่าเขายังอยู่ในความมืด 10 คนที่รักพี่น้องของเขาก็อยู่ในความสว่าง ชีวิตของเขาจะไม่มีอะไรไม่ดีที่จะไปทำให้คนอื่นสะดุดทำบาป 11 แต่คนที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็ยังอยู่ในความมืด เขายังเดินอยู่ในความมืด และก็ไม่รู้ว่าตัวเองเดินไปที่ไหน เพราะความมืดทำให้ตาของเขาบอด

12 ลูกเล็กๆที่รัก ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะบาปที่พวกคุณได้ทำนั้น พระเจ้าได้ยกโทษแล้วผ่านทางพระคริสต์

13 คุณพ่อทั้งหลาย ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะพวกคุณได้รู้จักกับพระองค์ ผู้ซึ่งเป็นอยู่ตั้งแต่เริ่มแรก คนหนุ่มๆทั้งหลาย ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะพวกคุณได้เอาชนะมารร้ายนั้น

14 ลูกเล็กๆทั้งหลาย ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะพวกคุณได้มารู้จักกับพระบิดา คุณพ่อทั้งหลาย ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะพวกคุณได้มารู้จักกับพระองค์ผู้ซึ่งได้เป็นอยู่ตั้งแต่เริ่มแรก คนหนุ่มๆทั้งหลาย ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะพวกคุณมีกำลังมาก และพระคำของพระเจ้าอยู่ในพวกคุณทั้งหลาย และพวกคุณก็ได้เอาชนะมารร้ายนั้น

15 อย่ารักโลกหรือรักสิ่งของในโลกนี้อีกต่อไป ถ้าคนไหนรักโลกนี้ คนนั้นก็ไม่ได้รักพระบิดา 16 เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ คือกิเลสตัณหาของสันดาน กิเลสตัณหาของตา และการโอ้อวดในสิ่งที่ทำหรือมี สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาจากพระบิดา แต่มาจากโลกนี้ 17 โลกนี้กำลังผ่านพ้นไปแล้ว พร้อมๆกับกิเลสตัณหาของมัน แต่คนที่ทำตามความต้องการของพระเจ้าจะยังอยู่ตลอดไป

อย่าติดตามศัตรูของพระคริสต์

18 ลูกๆเอ๋ย วันสุดท้ายใกล้มาถึงแล้ว อย่างที่พวกคุณได้ยินแล้วว่าศัตรูของพระคริสต์กำลังจะมา เดี๋ยวนี้พวกศัตรูนั้นก็ได้มากันมากมายแล้ว ซึ่งทำให้เรารู้ว่าวันสุดท้ายใกล้มาถึงแล้ว 19 ศัตรูพวกนี้เป็นพวกที่ได้เดินออกไปจากพวกเรา แต่ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้เป็นคนของพวกเราหรอก เพราะถ้าเป็นพวกเราจริงก็ต้องอยู่กับเราตลอดไป แต่พวกเขาได้ออกไปจากพวกเราแล้ว แสดงว่าไม่มีใครสักคน ในพวกเขาที่เป็นคนของพวกเรา

20 พระคริสต์ผู้บริสุทธิ์ได้เจิมพวกคุณด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทำให้พวกคุณทุกคนรู้ความจริง 21 ที่ผมเขียนจดหมายมาหาพวกคุณ ไม่ใช่เพราะพวกคุณไม่รู้ความจริงนี้ แต่เพราะพวกคุณรู้แล้ว และรู้ด้วยว่าไม่มีคำหลอกลวงออกมาจากความจริง

22 แล้วคนโกหกคือใคร คนโกหกก็คือคนที่พูดว่าพระเยซูไม่ใช่พระคริสต์ คนนี้แหละคือศัตรูของพระคริสต์และเป็นคนที่ปฏิเสธทั้งพระบิดาและพระบุตรด้วย 23 ทุกคนที่ปฏิเสธพระบุตรก็ไม่มีพระบิดา แต่คนที่ยอมรับพระบุตรอย่างเปิดเผยก็มีพระบิดาด้วย

24 ขอให้พวกคุณเก็บรักษาคำสั่งสอนที่คุณได้ยินมาตั้งแต่ต้น เพราะถ้าคุณเก็บรักษาคำสั่งสอนนี้ไว้ คำสั่งสอนนี้ก็จะเก็บรักษาคุณไว้ในพระบุตรและพระบิดาด้วย 25 นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าสัญญาว่าจะให้กับเรา คือชีวิตที่อยู่กับพระเจ้าตลอดไป

26 ทั้งหมดที่ผมเขียนมานี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่มีคนพยายามจะมาหลอกลวงพวกคุณ 27 พระคริสต์ได้เจิมพวกคุณด้วยพระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ยังอยู่กับพวกคุณ คุณก็เลยไม่ต้องให้ใครมาสอนอีก เพราะพระวิญญาณนั้นได้สอนให้คุณรู้เกี่ยวกับทุกสิ่ง พระวิญญาณนั้นเป็นความจริงและจะไม่หลอกลวง ดังนั้นพวกคุณควรจะตั้งมั่นคงอยู่ในพระคริสต์เหมือนกับที่พระวิญญาณได้สอนนั้น

28 เดี๋ยวนี้ขอให้ลูกเล็กๆทั้งหลายตั้งมั่นคงอยู่ในพระคริสต์ เพื่อว่าเมื่อวันที่พระคริสต์มาปรากฏ เราจะได้มีความมั่นใจและไม่ต้องละอายเมื่อพระองค์กลับมา 29 เพราะพวกคุณรู้แล้วว่า พระเจ้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง และทุกคนที่ทำสิ่งที่ถูกต้องก็ได้เป็นลูกของพระเจ้า

เราเป็นลูกของพระเจ้า

ดูสิ ความรักที่พระบิดามีต่อพวกเรานั้น มันมากมายมหาศาลแค่ไหน ถึงขนาดได้เรียกเราว่าเป็นลูกของพระองค์ และเราก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ โลกนี้ไม่รู้จักพระองค์ ซึ่งเป็นเหตุที่โลกไม่รู้จักเราเหมือนกัน เพื่อนๆที่รัก ตอนนี้เราได้เป็นลูกของพระเจ้าแล้ว เรายังไม่รู้ว่าต่อไปข้างหน้าเราจะเป็นอย่างไร แต่เรารู้ว่าเมื่อพระคริสต์มาปรากฏ เราจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะเราจะเห็นพระองค์ตามที่พระองค์เป็นจริงๆ ทุกคนที่มีความหวังอย่างนี้ ก็จะทำตัวเองให้บริสุทธิ์เหมือนอย่างที่พระคริสต์บริสุทธิ์

ทุกคนที่ทำบาปก็ฝ่าฝืนกฎของพระเจ้า เพราะความบาปก็คือการฝ่าฝืนกฎนั่นเอง พวกคุณรู้แล้วว่า ที่พระคริสต์มาปรากฏก็เพื่อมารับเอาความบาปของทุกคนไปจนหมด และคุณก็รู้ว่าในพระคริสต์นั้นไม่มีความบาปเลย ทุกคนที่ตั้งมั่นคงในพระคริสต์จะไม่ทำบาปอีกต่อไป ส่วนคนที่ยังทำบาปอยู่ ก็ไม่เคยเห็นพระองค์ และไม่ได้รู้จักกับพระองค์ด้วย

ลูกๆที่รัก อย่าให้ใครมาหลอกลวงเอาได้ คนที่ทำในสิ่งที่พระเจ้าชอบใจก็เป็นคนที่พระเจ้ายอมรับ เหมือนกับที่พระเจ้ายอมรับพระคริสต์นั้น คนที่ยังทำบาปอยู่ก็เป็นพวกของมาร เพราะมารได้ทำบาปมาตั้งแต่ต้น นี่เป็นเหตุที่พระบุตรของพระเจ้ามาปรากฏ เพื่อพระองค์จะได้ทำลายการงานของมารเสีย

ทุกคนที่เป็นลูกของพระเจ้าจะไม่ทำบาปอีกต่อไปเพราะธรรมชาติของพระเจ้าได้เข้าไปอยู่ในคนๆนั้นแล้ว ด้วยเหตุนี้คนๆนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำบาปได้อีกต่อไป เพราะเขาได้มาเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว 10 แบบนี้สิ ถึงจะรู้ว่าใครเป็นลูกของพระเจ้า หรือใครเป็นลูกของมาร คือทุกคนที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ได้รักพี่น้องของเขา ก็ไม่ใช่ลูกของพระเจ้า

เราต้องรักซึ่งกันและกัน

11 พวกคุณได้ยินได้ฟังคำสอนนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วว่า ให้เรารักกันและกัน 12 อย่าให้เราเป็นเหมือนคาอินที่เป็นพวกของมารและได้ฆ่าน้องชายของเขา เขาฆ่าน้องทำไม ก็เพราะการกระทำของเขาชั่ว แต่ของน้องชายเขานั้นถูกต้อง

13 พี่น้องครับ ไม่ต้องแปลกใจหรอกถ้าโลกนี้เกลียดพวกคุณ 14 เรารู้ว่าเราได้ผ่านจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว ก็เพราะเรารักพี่น้องของเรา ส่วนคนที่ไม่รักคนอื่นก็ยังคงอยู่ในความตาย 15 ทุกคนที่เกลียดชังพี่น้องของเขาก็เป็นฆาตกร พวกคุณรู้ว่าคนที่เป็นฆาตกรนั้นจะไม่มีชีวิตตลอดไปกับพระเจ้า 16 แบบนี้สิเราถึงรู้ว่าความรักเป็นอย่างไร คือพระคริสต์ได้ให้ชีวิตของพระองค์เพื่อเรา เราจึงควรให้ชีวิตของเรา เพื่อพี่น้องของเราด้วย 17 คนที่มีทรัพย์สมบัติมากมายในโลกนี้ เมื่อเห็นพี่น้องของเขาขัดสนและต้องการความช่วยเหลือ แต่ใจจืดใจดำไม่ช่วย ก็แสดงว่าความรักของพระเจ้าไม่ได้อยู่ในคนๆนี้เลย 18 ลูกเล็กๆที่รัก อย่าให้เรารักกันแค่คำพูดหรือรักแต่ปากเท่านั้น แต่ให้เรารักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริงใจ

19-20 แบบนี้สิเราถึงแน่ใจว่าเราอยู่ฝ่ายความจริง ถึงแม้ว่าบางครั้งใจของเราอาจจะฟ้องว่าเราผิด แต่เราก็ยังสามารถที่จะมีสันติสุขต่อหน้าพระเจ้าได้ เพราะพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่าใจเรา และพระองค์รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง

21 เพื่อนๆที่รัก ถ้าใจเราไม่ได้ฟ้องว่าเราทำผิด เราก็มีความมั่นใจที่จะเข้าพบพระเจ้า 22 และเราจะได้รับทุกสิ่งที่เราขอจากพระเจ้า เพราะได้ทำตามคำสอนของพระองค์และได้ทำสิ่งที่พระองค์พอใจ 23 คำสั่งสอนของพระองค์คือให้เราไว้วางใจในพระเยซูคริสต์เจ้าพระบุตรของพระองค์ และให้เรารักกันและกันเหมือนกับที่พระองค์ได้สั่งเราไว้แล้ว 24 คนที่ทำตามคำสั่งสอนของพระเจ้าก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็อยู่ในใจของเขาด้วย เรารู้ว่าพระเจ้าอยู่ในเราเพราะว่าพระเจ้าได้ให้พระวิญญาณไว้กับเรา

ยอห์นเตือนให้ระวังผู้สอนผิดๆ

เพื่อนๆที่รัก อย่าเชื่อวิญญาณทุกชนิดที่อ้างว่าพูดแทนพระเจ้า แต่ให้ทดสอบพวกวิญญาณเหล่านั้นเสมอว่า มาจากพระเจ้าจริงหรือไม่ เพราะมีคนมากมายที่อ้างว่าเป็นผู้พูดแทนพระเจ้าได้ออกไปหลอกลวงคนในโลกนี้แล้ว พวกคุณสามารถรู้จักพระวิญญาณของพระเจ้าได้ ถ้าวิญญาณดวงไหนยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในโลกนี้ ก็แสดงว่าวิญญาณนั้นมาจากพระเจ้า วิญญาณดวงไหนที่ไม่ยอมรับพระเยซูก็ไม่ได้มาจากพระเจ้าและวิญญาณนี้แหละเป็นศัตรูกับพระคริสต์ ที่คุณได้ยินว่าศัตรูของพระคริสต์กำลังจะมา เดี๋ยวนี้ก็ได้เข้ามาในโลกแล้ว

ลูกๆเอ๋ย พวกคุณเป็นของพระเจ้า จึงมีชัยชนะเหนือพวกศัตรูของพระคริสต์ เพราะพระเจ้าที่อยู่ในพวกคุณยิ่งใหญ่กว่ามารที่อยู่ในโลกนี้ พวกคนเหล่านั้นเป็นของโลกนี้ ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาพูดก็มาจากโลกนี้ แต่พวกเราเป็นของพระเจ้า คนที่รู้จักพระเจ้าจะฟังเรา แต่คนที่ไม่ได้เป็นของพระเจ้าจะไม่ฟังเรา แบบนี้สิเราถึงสามารถบอกได้ว่าวิญญาณไหนเอาความจริงมาให้และวิญญาณไหนที่โกหก

ความรักมาจากพระเจ้า

เพื่อนๆที่รัก ขอให้เรารักกันและกัน เพราะความรักนั้นมาจากพระเจ้า ทุกคนที่มีความรัก ก็ได้เกิดเป็นลูกของพระเจ้า และรู้จักพระองค์ ส่วนคนที่ไม่มีความรัก ก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าเป็นความรัก นี่คือวิธีที่พระเจ้าได้แสดงความรักให้กับเรา คือพระองค์ได้ส่งพระบุตรเพียงองค์เดียวมาอยู่ในโลก เพื่อเราจะได้มีชีวิตโดยผ่านทางพระบุตรของพระองค์นั้น 10 นี่แหละคือความรักแท้ ไม่ใช่ว่าเราไปรักพระองค์ แต่พระองค์รักเราและส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นเครื่องบูชา เพื่อจัดการกับบาปของเราให้หมดไป

11 เพื่อนๆที่รัก ถ้าพระเจ้ารักเราขนาดนี้ เราก็ควรจะรักกันและกันด้วย 12 ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า แต่ถ้าเรารักกันและกัน พระเจ้าก็อยู่ในเราและความรักของพระองค์ก็ได้สำเร็จในชีวิตของเราตามเป้าหมายของพระองค์

13 แบบนี้สิเราถึงรู้ว่าเราอยู่ในพระองค์ และพระองค์อยู่ในเรา คือพระองค์ได้ยอมให้เรามีส่วนร่วมกับพระวิญญาณของพระองค์ 14 เราได้เห็นและเราได้เป็นพยานว่า พระบิดาได้ส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นผู้ช่วยให้โลกนี้รอดพ้นจากบาป 15 คนที่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าก็อยู่ในคนๆนั้นและคนๆนั้นก็อยู่ในพระเจ้า 16 ดังนั้นเราจึงแน่ใจและไว้วางใจในความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา พระเจ้าคือความรักและคนที่อยู่ในความรักต่อไปก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็อยู่ในคนๆนั้นด้วย 17 แบบนี้สิ ความรักของพระเจ้าถึงสำเร็จตามเป้าหมายของพระองค์ในพวกเรา เราจึงมีความมั่นใจในวันพิพากษา ที่เรามีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมก็เพราะชีวิตที่เรามีในโลกนี้ เป็นชีวิตที่เหมือนกับชีวิตของพระคริสต์ 18 ในความรักนั้นไม่มีความกลัวเพราะความรักที่สำเร็จตามเป้าหมายของพระองค์นั้น ได้ไล่ความกลัวออกไปหมดแล้ว ความกลัวนั้นเกี่ยวกับการถูกลงโทษ และคนที่ยังกลัวการถูกลงโทษก็เพราะความรักนั้นยังไม่สำเร็จตามเป้าหมายของพระองค์ในคนๆนั้น

19 ที่พวกเรามีความรักก็เพราะว่าพระเจ้ารักเราก่อน 20 ถ้าคนไหนพูดว่า “ฉันรักพระเจ้า” แต่ยังเกลียดชังพี่น้องของเขาเอง คนนั้นก็โกหก เพราะคนที่ไม่รักพี่น้องของเขาที่มองเห็นได้ ก็จะไม่สามารถรักพระเจ้าที่เขามองไม่เห็น 21 เราได้รับคำสั่งนี้จากพระคริสต์คือคนที่รักพระเจ้าต้องรักพี่น้องของตนด้วย

ลูกๆของพระเจ้าชนะโลกนี้แล้ว

คนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์ก็ได้เกิดเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว และคนที่รักพระเจ้าก็จะรักลูกๆของพระองค์ด้วย แบบนี้สิเราถึงรู้ว่าเรารักลูกๆของพระเจ้าจริง คือเมื่อเรารักพระเจ้าและทำตามคำสั่งของพระองค์ การที่จะรักพระเจ้าหมายความว่าเราจะทำตามคำสั่งต่างๆของพระองค์ และพวกคำสั่งของพระองค์ก็ไม่ยากหรอก เพราะทุกคนที่เป็นลูกของพระเจ้ามีชัยชนะเหนือโลก และความเชื่อของเราเองคือฤทธิ์อำนาจที่เอาชนะโลกแล้ว ใครกันล่ะที่เอาชนะโลกนี้ได้ ก็คนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า

พระเจ้าบอกเราเรื่องของพระบุตร

พระเยซูคริสต์เป็นผู้ที่มาโดยน้ำ[c] และเลือด[d] พระองค์ไม่ได้มาโดยน้ำเท่านั้น แต่มาโดยน้ำและเลือด พระวิญญาณก็ได้ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เพราะพระวิญญาณเป็นความจริง มีอยู่สามสิ่งที่ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นจริงคือ พระวิญญาณ น้ำ และเลือด ทั้งสามอย่างนี้ได้ยืนยันตรงกันหมด ถ้าเรายอมรับพยานที่เป็นมนุษย์ว่าเชื่อถือได้ แล้วเมื่อพระเจ้ามาเป็นพยาน เราก็ควรจะเชื่อถือคำพยานของพระองค์มากยิ่งกว่านั้นอีก เพราะพระเจ้าเองเป็นพยานให้กับพระบุตรของพระองค์ 10 คนที่ไว้วางใจในพระบุตรของพระเจ้า ก็ได้เชื่อความจริงที่พระเจ้าได้ยืนยันกับเรา คนที่ไม่เชื่อพระเจ้าก็หาว่าพระเจ้าโกหก เพราะเขาไม่เชื่อในคำยืนยันของพระเจ้าที่เกี่ยวกับพระบุตรของพระองค์ 11 สิ่งที่พระเจ้าได้ยืนยันกับเราคือ พระองค์จะให้เรามีชีวิตกับพระองค์ตลอดไป และชีวิตนี้มีอยู่ในพระบุตรของพระองค์เท่านั้น 12 คนที่มีพระบุตรของพระเจ้าอยู่ด้วย ก็จะมีชีวิตตลอดไปกับพระเจ้า แต่คนที่ไม่มีพระบุตรของพระองค์ ก็ไม่มีชีวิตตลอดไปกับพระเจ้า

13 ผมได้เขียนเรื่องนี้ถึงพวกคุณที่ไว้วางใจในพระบุตรของพระเจ้า เพื่อพวกคุณจะได้รู้ว่า คุณยังมีชีวิตตลอดไปกับพระเจ้าอยู่ 14 พวกเรามีความเชื่อมั่นในพระเจ้าว่า ถ้าเราขออะไรตามที่พระเจ้าต้องการ พระองค์ก็จะฟังเรา 15 ถ้าเรารู้ว่าพระองค์ฟังเรา ไม่ว่าเราจะขออะไรก็ตาม เราจะได้รับตามที่เราขอนั้น

16 คนที่เห็นพี่น้องของตัวเองทำบาป แต่เป็นบาปที่ไม่ได้นำไปถึงความตาย เขาควรจะขอต่อพระเจ้าสำหรับพี่น้องคนนั้น และพระเจ้าจะให้ชีวิตกับพี่น้องคนนั้น ผมกำลังพูดถึงคนที่ทำบาปซึ่งไม่ได้นำไปถึงความตาย แต่บาปที่นำไปถึงความตายก็มีด้วย ผมไม่ได้บอกให้คุณขอสำหรับคนที่ทำบาปแบบนั้น 17 การกระทำผิดทุกอย่างเป็นความบาป แต่มีบาปบางอย่างที่ไม่นำไปถึงความตายด้วย

18 เรารู้ว่าคนที่เป็นลูกของพระเจ้าจะไม่ทำบาปอีกต่อไป พระบุตรของพระเจ้าก็ได้ดูแลให้เขาปลอดภัย และมารนั้นก็ไม่สามารถมาทำร้ายเขาได้ 19 เรารู้ว่าเราเป็นของพระเจ้า ถึงแม้ว่าโลกนี้จะอยู่ในมือของมารก็ตาม 20 แต่เราก็รู้ว่าพระบุตรของพระเจ้าได้มาแล้ว พระองค์ได้มาให้ความเข้าใจกับเรา เพื่อเราจะได้รู้จักพระเจ้าผู้เป็นความจริงแท้ เราได้อยู่ในพระองค์ผู้เป็นความจริงนั้นโดยผ่านทางพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ พระองค์ผู้นี้เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้และเป็นผู้ที่ทำให้คนมีชีวิตกับพระองค์ตลอดไป 21 ลูกๆเอ๋ย อยู่ให้ห่างจากรูปเคารพทั้งหลาย

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International