Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
1 เปโตร 1-5

จากเปโตรศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์

ถึงคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ที่เป็นคนต่างด้าวในโลกนี้ ถึงคนที่ได้กระจัดกระจายไปอยู่ตามแคว้นปอนทัส กาลาเทีย คัปปาโดเซีย เอเชีย และบิธีเนีย พระเจ้าพระบิดาได้เลือกคุณมาตามแผนการที่พระองค์ได้วางไว้ตั้งนานมาแล้ว โดยให้พระวิญญาณชำระล้างคุณให้บริสุทธิ์ พระเจ้าทำอย่างนี้เพื่อคุณจะได้เชื่อฟังพระเจ้า และเข้าเป็นคนของพระองค์เพราะความตายของพระเยซูคริสต์[a]

ขอพระเจ้าให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับพวกคุณอย่างล้นเหลือ

เรามีความหวังอันยั่งยืน

สรรเสริญพระเจ้าพระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา พระองค์ได้ทำให้พวกเราเกิดใหม่เพราะความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ เรื่องนี้เป็นไปได้ก็เพราะพระเยซูได้ฟื้นขึ้นจากความตาย พวกเราก็เลยมีความหวังที่แน่นอน พระเจ้าได้เก็บมรดกไว้ให้กับคุณที่สวรรค์ เป็นมรดกที่ไม่มีวันผุพัง เน่าเปื่อย หรือจางหายไป เพราะคุณไว้วางใจพระเจ้า พระองค์จึงคุ้มครองคุณด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ จนกว่าคุณจะได้รับความรอดที่จะเปิดเผยให้เห็นในวันสุดท้ายนั้น เรื่องนี้ทำให้พวกคุณมีความชื่นชมยินดีมาก ถึงแม้จะต้องทนทุกข์ด้วยปัญหาสารพัดชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง นี่เป็นการทดสอบดูความเชื่อของคุณ ความเชื่อที่แท้จริงมีค่ามากกว่าทองคำ เพราะขนาดทองคำที่ถูกไฟหลอมจนบริสุทธิ์แล้ว ยังถูกทำลายได้ เมื่อคุณผ่านการทดสอบแล้ว คุณก็จะได้รับการยกย่องสรรเสริญ จะเต็มไปด้วยสง่าราศีและเกียรติยศ ในวันที่พระเยซูคริสต์กลับมา ถึงแม้คุณยังไม่เคยเห็นพระองค์ แต่ก็ยังรักพระองค์อยู่ ตอนนี้คุณยังไม่เห็นพระองค์ แต่ก็ยังไว้วางใจและยังมีความสุขมากเกินกว่าจะพูดได้ สิ่งที่พวกคุณกำลังจะได้รับและที่เป็นเป้าหมายของความเชื่อของพวกคุณด้วย คือความรอดของพวกคุณนั่นเอง

10 พวกผู้พูดแทนพระเจ้าได้พูดถึงความเมตตาของพระเจ้าที่จะมีมาถึงพวกคุณ พวกเขาได้พยายามสืบเสาะค้นหาเกี่ยวกับความรอดนี้อย่างละเอียด 11 พระวิญญาณของพระคริสต์ที่อยู่ในพวกผู้พูดแทนพระเจ้านี้ ได้บอกกับพวกเขาล่วงหน้าถึงความทุกข์ทรมานของพระคริสต์ และถึงเกียรติยศที่พระองค์จะได้รับในภายหลัง พวกเขาก็เลยอยากจะรู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วเวลานั้นจะเป็นอย่างไร 12 แต่พระเจ้าได้เปิดเผยให้พวกเขารู้ว่า เรื่องที่เขาเอามาบอกพวกคุณนี้ ไม่ใช่สำหรับพวกเขา แต่มีไว้สำหรับพวกคุณ แล้วตอนนี้ก็มีคนมาประกาศข่าวดีนี้ด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ส่งมาจากสวรรค์ให้พวกคุณรู้แล้ว ขนาดทูตสวรรค์ยังอยากจะรู้เรื่องนี้เลย

ใช้ชีวิตอย่างบริสุทธิ์

13 พวกคุณต้องตั้งสติไว้ให้พร้อม บังคับตัวเองไว้ให้ดี ตั้งความหวังให้เต็มที่ในความเมตตากรุณาของพระเจ้าที่คุณจะได้รับในวันที่พระเยซูคริสต์มาปรากฏ 14 ให้เป็นเหมือนกับลูกๆที่เชื่อฟัง อย่าไปทำตามกิเลสตัณหาเหมือนกับเมื่อก่อน คือตอนที่คุณยังไม่รู้เรื่องพระเจ้า 15 พวกคุณจะต้องใช้ชีวิตอย่างแตกต่างจากผู้อื่น เพราะพระเจ้าผู้ที่เรียกคุณนั้น ก็แตกต่างจากผู้อื่น 16 เหมือนที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “ให้รักษาตัวเองให้แตกต่างจากคนอื่น เพราะเราเองก็แตกต่างจากผู้อื่น”[b]

17 ในเมื่อพระเจ้าผู้ที่คุณเรียกว่าพระบิดาตอนที่คุณอธิษฐานนั้น ตัดสินไปตามการกระทำของแต่ละคนโดยไม่ลำเอียง ก็ให้คุณมีชีวิตที่เกรงกลัวพระองค์ ในฐานะที่พวกคุณเป็นคนต่างด้าวในสังคมรอบข้างคุณนี้ 18 เพราะคุณก็รู้ว่าเมื่อพระองค์ปลดปล่อยพวกคุณให้เป็นอิสระจากชีวิตที่ไร้สาระที่คุณได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษนั้น พระองค์ไม่ได้ใช้สิ่งที่เสื่อมสลายได้ อย่างเช่นเงินและทอง 19 แต่ใช้เลือดอันมีค่าของพระคริสต์ เหมือนกับเลือดของลูกแกะที่ไม่มีรอยตำหนิหรือจุดด่างพร้อยเลย 20 พระเจ้าได้เลือกพระคริสต์ไว้ก่อนที่จะสร้างโลกนี้เสียอีก แต่เพิ่งให้พระคริสต์มาปรากฏในช่วงสุดท้ายนี้เพื่อพวกคุณ 21 เพราะพระคริสต์นี่แหละ พวกคุณถึงมาไว้วางใจพระเจ้าได้ พระเจ้าได้ทำให้พระคริสต์ฟื้นขึ้นจากความตาย และให้เกียรติยศกับพระองค์ด้วย นี่เป็นเหตุผลที่พวกคุณฝากความไว้วางใจและความหวังไว้กับพระเจ้า

22 ตอนที่คุณเชื่อฟังความจริงนั้น คุณก็ได้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์แล้ว ตอนนี้เป้าหมายของคุณก็คือการมีความรักที่จริงใจให้กับพี่น้อง เพราะฉะนั้นขอให้รักกันและกันอย่างสุดหัวใจ 23 พวกคุณควรจะรักกันเพราะได้เกิดใหม่แล้ว ไม่ใช่จากเมล็ดที่เน่าเปื่อยได้ แต่จากเมล็ดที่ไม่มีวันเน่าเปื่อย เมล็ดนั้นคือถ้อยคำของพระเจ้าที่มีชีวิตถาวรตลอดไป

24 เหมือนกับที่พระคัมภีร์ เขียนไว้ว่า

“คนทุกคนเป็นเหมือนกับหญ้า
    เกียรติยศของเขาเป็นเหมือนดอกไม้ป่าในทุ่ง
หญ้าก็เหี่ยวแห้งไป
    และดอกไม้ก็ร่วงโรยไป
25 แต่ถ้อยคำของพระเจ้า ยืนยงถาวรตลอดไป”[c]

และถ้อยคำของพระเจ้านี้ก็คือข่าวดีที่เอามาประกาศให้คุณรู้แล้ว

พระเยซูเป็นหินที่มีชีวิต

ดังนั้น ให้กำจัดสิ่งต่างๆต่อไปนี้ให้หมดไปจากตัวคุณ เช่นการปองร้ายทุกอย่าง การหลอกลวงทุกอย่าง ความหน้าซื่อใจคด ความอิจฉาริษยา และการใส่ร้ายป้ายสีทุกอย่าง แต่ให้เป็นเหมือนเด็กทารกแรกเกิดที่หิวกระหายน้ำนมบริสุทธิ์ซึ่งคือถ้อยคำของพระเจ้า เพื่อคุณจะได้เติบโตขึ้น แล้วได้รับความรอด เพราะตอนนี้คุณก็ได้ลิ้มรสแล้วว่าองค์เจ้าชีวิตนั้นดีขนาดไหน

ให้เข้ามาใกล้พระเยซูคริสต์ผู้เป็นหินที่มีชีวิตอยู่ คนในโลกนี้ไม่ยอมรับหินก้อนนี้ แต่พระองค์เป็นหินที่มีเกียรติมากสำหรับพระเจ้าผู้ที่เลือกพระองค์มา พวกคุณก็เหมือนกัน พวกคุณเป็นเหมือนหินที่มีชีวิตอยู่ ที่กำลังถูกสร้างขึ้นเป็นวิหารสำหรับพระวิญญาณ พวกคุณเป็นคนเหล่านั้นที่ถูกอุทิศไว้ให้เป็นนักบวชที่ทำหน้าที่ถวายเครื่องบูชาฝ่ายพระวิญญาณ พระเจ้าชอบใจกับเครื่องบูชาแบบนี้ก็เพราะถวายผ่านทางพระเยซูคริสต์ เหมือนกับที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า

“ดูสิ เราวางหินก้อนหนึ่งไว้ในเมืองศิโยน
    เป็นหินที่สำคัญที่สุด[d] มีเกียรติและได้รับการคัดเลือกมาแล้ว
และคนที่ไว้วางใจในหินก้อนนั้นจะไม่มีวันอับอายขายหน้าเลย”[e]

ดังนั้น พวกคุณที่ไว้วางใจ มีส่วนร่วมในเกียรติของหินก้อนนี้ แต่สำหรับคนที่ไม่ไว้วางใจ มันก็เป็นไปตามข้อพระคัมภีร์ที่ว่า

“หินก้อนนี้ ที่คนก่อสร้างได้โยนทิ้งไป
    กลับกลายมาเป็นหินที่สำคัญที่สุด”[f]

และ

“เป็นหินที่ทำให้คนเดินสะดุด
    และเป็นก้อนหินที่ทำให้คนหกล้ม”[g]

พวกเขาสะดุดล้มก็เพราะไม่ยอมเชื่อฟังถ้อยคำของพระเจ้า เรื่องนี้เป็นไปตามที่พระเจ้าได้กำหนดไว้แล้ว

แต่คุณเป็นผู้ที่พระเจ้าคัดเลือกมา เป็นนักบวชของพระองค์ผู้เป็นกษัตริย์ เป็นชนชาติที่ได้อุทิศไว้กับพระเจ้า และเป็นคนของพระเจ้าโดยเฉพาะ พระองค์ทำอย่างนี้เพื่อคุณจะได้ไปป่าวประกาศถึงการกระทำอันยอดเยี่ยมทั้งหลายของพระองค์ พระองค์ได้เรียกคุณออกมาจากความมืด ให้เข้ามาหาความสว่างที่สุดแสนจะวิเศษของพระองค์

10 แต่ก่อนนั้นคุณไม่มีชนชาติ
    แต่เดี๋ยวนี้คุณเป็นชนชาติของพระเจ้าแล้ว
แต่ก่อนนั้นพระเจ้าไม่ได้เมตตาคุณ
    แต่เดี๋ยวนี้พระองค์ได้เมตตาคุณแล้ว[h]

อยู่เพื่อพระเจ้า

11 เพื่อนรัก ให้อยู่อย่างคนต่างด้าวและคนแปลกถิ่นในสังคมนี้ ผมขอร้องว่าอย่าไปยอมแพ้กับกิเลสตัณหาของสันดานที่ต่อสู้กับใจของคุณ 12 ถึงแม้คนที่ไม่ไว้วางใจพระเจ้าพวกนั้นจะพูดใส่ร้ายว่าพวกคุณทำผิด ก็ขอให้ทำตัวให้ดีในหมู่พวกเขา เขาจะได้เห็นความดีของคุณ แล้วจะได้ยกย่องพระเจ้าในวันที่พระองค์กลับมา

ยอมเชื่อฟังผู้มีอำนาจ

13 ให้คุณยอมอยู่ใต้อำนาจต่างๆที่มนุษย์ตั้งขึ้น[i] เพื่อเห็นแก่องค์เจ้าชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอำนาจของจักรพรรดิผู้มีอำนาจสูงสุด 14 หรือเจ้าเมืองต่างๆที่จักรพรรดินั้นส่งมา เพื่อลงโทษคนทำผิดและยกย่องคนที่ทำดี 15 เพราะพระเจ้าต้องการให้ชีวิตที่ดีงามของพวกคุณไปหุบปากคนโง่ที่พูดจาไร้สาระ 16 ขอให้พวกคุณใช้ชีวิตอย่างอิสระ แต่อย่าใช้ความเป็นอิสระนั้นมาเป็นข้ออ้างบังหน้าเพื่อจะทำชั่ว แต่ให้ใช้ชีวิตสมกับที่เป็นทาสของพระเจ้าดีกว่า 17 ให้เกียรติกับทุกๆคน ให้รักพี่น้องในพระคริสต์ ให้เกรงกลัวพระเจ้า และให้เกียรติกับกษัตริย์ด้วย

18 พวกคุณที่เป็นทาส ให้ยอมเชื่อฟังเจ้านายของตนด้วยความเคารพอย่างสูง ไม่ใช่ยอมเชื่อฟังเจ้านายที่ดีและมีน้ำใจเท่านั้น แต่ให้ยอมเชื่อฟังเจ้านายที่โหดร้ายด้วย 19 คนที่ยอมทนต่อความเจ็บปวดที่ไม่ยุติธรรม เพราะต้องการทำตามใจพระเจ้านั้น เป็นคนที่น่ายกย่องจริงๆ 20 การที่คุณอดทนต่อการถูกเฆี่ยนตีเพราะทำผิด มันน่ายกย่องตรงไหน แต่การที่คุณต้องอดทนต่อความทุกข์ยากเพราะทำดี อย่างนี้สิถึงจะน่ายกย่องในสายตาพระเจ้า 21 พระเจ้าเรียกให้คุณมาทนทุกข์อย่างนี้ เหมือนกับที่พระคริสต์ยอมทนทุกข์เพื่อคุณ พระองค์ได้วางตัวอย่างให้คุณ เพื่อคุณจะได้เดินตามรอยเท้าของพระองค์

22 “พระองค์ไม่ได้ทำบาป
    และไม่ได้โกหกด้วย”[j]

23 เมื่อเขาด่าว่าพระองค์ พระองค์ก็ไม่ได้โต้ตอบ เมื่อพระองค์ทนทุกข์ พระองค์ก็ไม่ได้ขู่อาฆาต พระองค์ได้มอบเรื่องของพระองค์ไว้กับพระเจ้าผู้ตัดสินอย่างยุติธรรม 24 ตัวพระองค์เองได้แบกบาปของเราไว้ในตัวของพระองค์บนไม้กางเขนนั้น เพื่อเราจะได้ตายต่อบาปและใช้ชีวิตตามใจพระเจ้า พวกคุณได้รับการรักษาให้หายก็เพราะบาดแผลของพระองค์ 25 แต่ก่อนนั้นพวกคุณเคยหลงทางไปเหมือนแกะ แต่ตอนนี้ได้กลับมาหาผู้เลี้ยงและผู้ดูแลรักษาชีวิตของคุณแล้ว

สามีและภรรยา

ในทำนองเดียวกัน พวกคุณที่เป็นภรรยาก็ให้ยินยอมสามี เพื่อว่าถ้ามีสามีบางคนที่ไม่เชื่อฟังถ้อยคำของพระเจ้า ชีวิตที่ดีของคุณอาจจะชนะใจเขา และทำให้เขามาไว้วางใจพระเจ้าได้ โดยที่คุณไม่ต้องพูดอะไรเลยสักคำ เพราะเขาสังเกตว่าชีวิตของคุณบริสุทธิ์ และมีใจยำเกรงพระเจ้าขนาดไหน ความงามของคุณ ไม่ควรจะมาจากการตกแต่งภายนอก เช่นการทำผมหรูหราฟู่ฟ่า ใส่เครื่องทอง หรือ ใส่เสื้อผ้าราคาแพง แต่ให้งามจากภายในที่ไม่มีวันจืดจาง ซึ่งก็หมายถึงความสุภาพอ่อนโยน สงบเรียบร้อย ซึ่งมีค่ายิ่งนักในสายตาพระเจ้า ผู้หญิงในสมัยก่อนที่บริสุทธิ์ และหวังใจในพระเจ้านั้น ได้ตกแต่งตัวเองให้มีเสน่ห์ด้วยการยินยอมสามี เหมือนกับที่นางซาราห์เชื่อฟังอับราฮัมและเรียกเขาว่า “นายของฉัน” ถ้าคุณทำอย่างนี้ คุณก็จะเป็นลูกสาวที่แท้จริงของนาง แต่จะต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องตามใจพระเจ้า โดยไม่กลัวว่าสามีจะทำอะไรคุณ

ในทำนองเดียวกัน พวกคุณที่เป็นสามีก็ให้อยู่กินกับภรรยาด้วยความเข้าอกเข้าใจ เพราะเธออ่อนแอกว่า พระเจ้าได้เมตตายกชีวิตใหม่ให้พวกคุณเป็นมรดก และเธอเป็นหุ้นส่วนกับคุณในมรดกนี้ด้วย คุณจึงควรจะให้เกียรติกับเธอ ถ้าคุณไม่ทำอย่างนั้น พระเจ้าก็จะไม่ฟังคำอธิษฐานของคุณ

ทนทุกข์เพราะทำดี

สุดท้ายนี้ พวกคุณควรจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นอกเห็นใจกัน รักกันฉันท์พี่น้อง มีใจเมตตาและรู้จักถ่อมตัว อย่าตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว หรือด่าคนที่ด่าว่าคุณ แต่ให้อวยพรเขาแทน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พระเจ้าเรียกให้คุณทำ แล้วพระองค์จะอวยพรคุณ 10 เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

“ถ้าคุณอยากมีความสุขและเจอแต่วันที่ดีๆ
    ก็อย่าใช้ลิ้นทำร้ายคนอื่น อย่าใช้ปากพูดโกหก
11 ให้เลิกทำชั่วและหันมาทำดี
    ให้แสวงหาสันติสุขและติดตามทางแห่งสันติสุขนั้นไป
12 เพราะดวงตาองค์เจ้าชีวิต ดูแลทุกคนที่ทำตามใจพระองค์
    และหูของพระองค์ฟังคำอธิษฐานของเขา
แต่หน้าของพระองค์หันเข้าต่อต้านพวกที่ทำชั่วนั้น”[k]

13 ถ้าคุณพยายามจริงๆที่จะทำความดีอยู่ตลอด แล้วใครล่ะจะทำร้ายคุณได้จริงๆ 14 แต่แม้ว่าคุณอาจจะต้องทนทุกข์เพราะทำตามใจพระเจ้า คุณมีเกียรติอย่างแท้จริง “คุณไม่ต้องกลัวพวกเขาหรือกังวลหรอก”[l] 15 แต่ให้ใจของคุณนับถือพระคริสต์เป็นองค์เจ้าชีวิต และให้พร้อมที่จะอธิบายกับทุกคนที่มาถามว่า ความหวังที่คุณมีนี้เป็นอย่างไร แต่ให้ตอบเขาอย่างสุภาพและเคารพนบนอบ 16 เมื่อคุณใช้ชีวิตในทางที่ดีเพราะเป็นคนของพระคริสต์ แล้วมีคนมาพูดใส่ร้ายคุณ ก็ให้คุณทำแต่สิ่งที่คุณรู้ว่าถูกต้อง เพื่อเขาจะได้อับอาย 17 ถ้าเป็นความต้องการของพระเจ้า ให้ทนทุกข์เพราะทำดีก็ยังดีกว่าทนทุกข์เพราะทำชั่ว 18 พระคริสต์ทนทุกข์เพื่อจัดการกับความบาปครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว พระองค์ทำอย่างนี้เพื่อนำคุณไปหาพระเจ้า พระองค์ถูกฆ่าทางกายแต่มีชีวิตขึ้นมาใหม่โดยทางพระวิญญาณ 19 ด้วยอำนาจของพระวิญญาณ พระองค์ได้ไปประกาศชัยชนะของพระองค์ให้กับพวกวิญญาณที่ถูกขังอยู่ 20 ในสมัยก่อนนานมาแล้ว วิญญาณพวกนี้ไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้า ตอนที่โนอาห์สร้างเรือ พระเจ้าได้รอคอยอย่างอดทนให้คนในโลกนี้กลับตัวกลับใจ สุดท้ายมีแปดคนที่อยู่ในเรือลำนั้น แล้วพระเจ้าใช้น้ำช่วยเขาให้รอดจากคนที่ชั่วร้ายในสมัยนั้น 21 เหมือนกับที่พระเจ้าใช้พิธีจุ่มน้ำช่วยให้พวกคุณรอดในสมัยนี้ การจุ่มน้ำนี้ไม่ใช่เป็นการล้างร่างกายให้สะอาด แต่เป็นการให้คำมั่นสัญญาต่อพระเจ้าว่าคุณจะทำแต่สิ่งที่คุณรู้ว่าถูกต้อง และทั้งหมดนี้ก็เป็นไปได้ เพราะพระเยซูคริสต์ฟื้นขึ้นจากความตาย 22 พระองค์ได้ขึ้นไปสวรรค์และนั่งอยู่ทางขวาของพระเจ้า พระองค์ทำให้พวกทูตสวรรค์ พวกผู้มีสิทธิอำนาจ และพวกผู้มีฤทธิ์อำนาจ มาอยู่ภายใต้อำนาจของพระองค์

เปลี่ยนชีวิตเสียใหม่

ในเมื่อพระคริสต์ได้ทนทุกข์ทรมานในร่างกายนี้แล้ว คุณก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อมและคิดอย่างเดียวกันกับพระองค์ คือคนที่ยอมทนทุกข์ในร่างกายก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกทำบาป ผลที่เกิดขึ้นคือ ในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่นี้ เขาไม่ได้อยู่ตามกิเลสตัณหาชั่วๆของมนุษย์ แต่เขามีชีวิตอยู่ตามความต้องการของพระเจ้า ในอดีตคุณก็ได้ใช้ชีวิตอย่างคนที่ไม่เชื่อพระเจ้ามามากพอแล้ว ทั้งมั่วโลกีย์ กามราคะ เมาเหล้า มั่วสุมทางเพศ เลี้ยงฉลองเมามาย และกราบไหว้รูปเคารพ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง เพื่อนๆของคุณก็สงสัยว่า ทำไมคุณถึงได้เลิกสำมะเลเทเมากับพวกเขา พวกเขาเลยแช่งด่าคุณ แต่พวกเขาจะต้องให้การกับพระเจ้าผู้ที่พร้อมจะตัดสินโทษทุกคน ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และที่ตายไปแล้วด้วย นั่นเป็นเหตุที่มีการประกาศข่าวดีนี้ในอดีตให้กับผู้เชื่อซึ่งตอนนี้ได้ตายไปแล้ว ถึงแม้ว่าในสายตาของคนอื่นจะตัดสินว่าเขาผิดตอนที่เขายังอยู่ในร่างกาย แต่เขามีชีวิตอยู่ด้วยพระวิญญาณในสายตาของพระเจ้า

ใช้พรสวรรค์ที่พระเจ้าให้อย่างฉลาด

ใกล้จะถึงวันสิ้นโลกแล้ว ตั้งสติไว้ให้ดีและรู้จักควบคุมตัวเอง คุณจะได้อธิษฐาน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ให้รักกันและกันอย่างลึกซึ้ง เพราะความรักจะปกปิดความบาปได้มากมาย ให้เลี้ยงดูปูเสื่อกัน อย่าบ่นเลย 10 ให้แต่ละคนเป็นผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อ แล้วใช้พรสวรรค์ที่รับมาเพื่อรับใช้ซึ่งกันและกัน 11 ถ้าคุณมีพรสวรรค์ในด้านการพูด ก็ให้พูดในฐานะคนที่ประกาศคำพูดที่ได้ยินมาจากพระเจ้า ถ้าคุณมีพรสวรรค์ในด้านการรับใช้ ก็ให้รับใช้สุดกำลังที่พระเจ้าให้มา เพื่อพระเจ้าจะได้รับเกียรติยศจากทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำ ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ผ่านทางพระเยซูคริสต์ ขอให้เกียรติยศและฤทธิ์เดชมีกับพระเยซูคริสต์ตลอดไป อาเมน

ทนทุกข์เพราะเป็นคริสเตียน

12 เพื่อนรัก อย่าเพิ่งแปลกใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับพวกคุณ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย แต่ปัญหาก็คือการลองใจคุณ 13 ให้ดีใจที่คุณได้ร่วมทุกข์กับพระคริสต์ เพราะคุณจะได้ดีใจเป็นล้นพ้นเมื่อพระคริสต์กลับมาอย่างมีเกียรติ 14 เมื่อมีคนประณามคุณเพราะคุณเป็นของพระคริสต์ คุณก็มีเกียรติอย่างแท้จริง เพราะแสดงว่าพระวิญญาณผู้ทรงเกียรติของพระเจ้านั้นอยู่กับพวกคุณ 15 ถ้าคุณจะต้องทนทุกข์ ก็ขออย่าให้เป็นเพราะคุณไปฆ่าคนมา ไปขโมย ไปทำชั่ว หรือไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเลย 16 แต่ถ้าคุณต้องทนทุกข์เพราะเป็นคริสเตียน ก็อย่าอายเลย แต่ให้สรรเสริญพระเจ้า เพราะคุณได้ชื่อว่าคริสเตียน 17 ถึงเวลาสำหรับการตัดสินโทษแล้ว การตัดสินนั้นจะเริ่มต้นจากครอบครัวของพระเจ้าก่อน แล้วลองคิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ไม่เชื่อฟังข่าวดีจากพระเจ้า 18 เหมือนกับที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

“ขนาดคนที่ทำตามใจพระเจ้า ยังเกือบจะไม่รอด
    แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกับคนชั่วและคนบาปเล่า”[m]

19 ถ้าอย่างนั้น คนที่ต้องทนทุกข์เพราะเป็นความต้องการของพระเจ้านั้น ก็ต้องมอบตัวเองไว้กับพระผู้สร้างที่ซื่อสัตย์ และให้ทำดีต่อไป

ฝูงแกะของพระเจ้า

ผมเขียนมาขอร้องพวกผู้นำอาวุโสที่อยู่กับพวกคุณ ในฐานะที่ผมก็เป็นผู้นำอาวุโสคนหนึ่ง เป็นคนหนึ่งที่เป็นพยานถึงเรื่องที่พระคริสต์ต้องทนทุกข์ทรมาน และเป็นคนหนึ่งที่จะมีส่วนร่วมในสง่าราศีของพระคริสต์เมื่อพระองค์กลับมา ขอให้เลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้าที่พระเจ้าฝากให้คุณดูแลอยู่นี้ ไม่ใช่ฝืนใจทำ แต่ให้ทำด้วยความเต็มใจอย่างที่พระเจ้าต้องการให้คุณทำ ไม่ใช่เพราะเห็นแก่เงิน แต่เพราะคุณอยากจะทำจริงๆ ไม่ทำตัวเป็นนายเหนือคนพวกนั้นที่พระองค์ได้ฝากให้คุณดูแล แต่ให้ทำตัวเป็นแบบอย่างกับฝูงแกะนั้น เพื่อเมื่อพระคริสต์ผู้เป็นหัวหน้าคนเลี้ยงแกะกลับมา คุณก็จะได้รับรางวัลอันมีเกียรติ ที่ไม่มีวันร่วงโรยไป

ในทำนองเดียวกัน คนที่มีอายุน้อยกว่า ก็ให้เชื่อฟังพวกผู้นำอาวุโส แต่ความจริงแล้ว ทุกๆคนควรจะอ่อนน้อมถ่อมตัวรับใช้ซึ่งกันและกันเหมือนกับที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

“พระเจ้าต่อต้านคนที่เย่อหยิ่งจองหอง
    แต่มีความเมตตากรุณาต่อคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน”[n]

ถ้าอย่างนั้น ให้พวกคุณอ่อนน้อมถ่อมตัวลงใต้อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เพื่อพระเจ้าจะได้ยกคุณขึ้นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ให้เอาความกังวลทั้งหมดของคุณฝากไว้กับพระเจ้า เพราะพระองค์ห่วงใยคุณ

ให้รู้จักบังคับตนเอง ระวังตัวให้ดี เพราะศัตรูของคุณคือมาร กำลังเดินด้อมๆมองๆเหมือนสิงโตที่คำรามจ้องตะครุบเหยื่อมากิน ให้ขัดขืนมารนั้น และยึดมั่นในความเชื่อ เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่า พี่น้องทั่วโลกก็เจอความทุกข์ยากเหมือนคุณ

10 พระเจ้าผู้เป็นแหล่งของความเมตตาทุกอย่างได้เรียกคุณผ่านทางพระเยซูคริสต์ ให้คุณเข้ามามีส่วนร่วมในเกียรติของพระองค์ที่ไม่มีวันหมด คุณจะต้องทนทุกข์อยู่ประเดี๋ยวหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นพระเจ้าก็จะช่วยให้คุณกลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์แบบ จะให้คุณเข้มแข็ง มีกำลังมากขึ้นและมั่นคง 11 ขอให้ฤทธิ์เดชเป็นของพระองค์ตลอดไปอาเมน

คำทักทายสุดท้าย

12 ผมได้เขียนจดหมายสั้นๆฉบับนี้ และได้ฝากสิลาสมาให้กับคุณ เขาเป็นพี่น้องที่ซื่อสัตย์ในพระคริสต์ ผมเขียนมาเพื่อให้กำลังใจพวกคุณ และยืนยันว่าทุกอย่างที่เขียนมานี้เป็นความเมตตากรุณาที่แท้จริงของพระเจ้า ให้คุณยืนหยัดมั่นคงในความเมตตากรุณานี้

13 หมู่ประชุมที่เมืองบาบิโลน[o]ที่พระเจ้าได้เลือกไว้เหมือนกับที่พระองค์ได้เลือกพวกคุณ ได้ฝากความคิดถึงมาให้กับคุณ มาระโกลูกของผมก็ฝากความคิดถึงมาเหมือนกัน 14 เมื่อเจอกันก็ขอให้จูบทักทายกันด้วยความรัก

ขอให้ทุกคนที่มีส่วนในพระคริสต์ได้รับสันติสุข

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International