Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
ฟีลิปปี 1-4

จากเปาโลและทิโมธี พวกทาสของพระเยซูคริสต์

ถึงคนของพระเจ้าทุกคนที่มีส่วนร่วมในพระเยซูคริสต์ในเมืองฟีลิปปี รวมทั้งพวกผู้ดูแล และพวกผู้รับใช้พิเศษ[a]

ผมขอพระเจ้าพระบิดาของเราและพระเยซูคริสต์เจ้าให้ความเมตตาและให้สันติสุขกับพวกคุณด้วยเถิด

คำอธิษฐานของเปาโล

ผมขอบคุณพระเจ้าของผมทุกครั้งที่ผมคิดถึงพวกคุณ ผมดีใจตลอดเวลาที่ผมอธิษฐานขอพระเจ้าให้กับคุณทุกคน ผมดีใจเพราะพวกคุณได้ร่วมประกาศข่าวดีกับผม ตั้งแต่วันแรกที่คุณเชื่อจนถึงเดี๋ยวนี้ พระเจ้าได้เริ่มต้นการงานที่ดีในพวกคุณ และผมแน่ใจว่าพระองค์จะทำงานนี้ต่อไปจนกว่าจะสำเร็จในวันที่พระเยซูคริสต์กลับมา

สมควรแล้วที่ผมจะคิดอย่างนี้กับพวกคุณทุกคน เพราะคุณอยู่ในใจผม เพราะคุณคอยสนับสนุนงานของพระเจ้าที่พระองค์ให้ผมทำ ทั้งเวลาที่ผมติดคุกอยู่และเวลาที่ผมแก้ตัวเพื่อพระองค์และพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับข่าวดีนี้ พระเจ้าเป็นพยานได้ ผมคิดถึงพวกคุณทุกคนมากๆ ผมรักคุณเหมือนกับที่พระเยซูคริสต์รักคุณ

ผมอธิษฐานขอพระเจ้าให้คุณมีความรักอย่างเปี่ยมล้น ด้วยความรู้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเข้าใจว่าจะทำอย่างไรในทุกๆสถานการณ์ 10 เพื่อคุณจะได้เลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุด และจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ ไม่มีความผิดบาปในวันที่พระคริสต์กลับมา 11 คุณจะได้เต็มไปด้วยความดีงามที่มาจากฤทธิ์อำนาจที่พระเยซูคริสต์ให้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อพระเจ้าจะได้รับเกียรติและคำสรรเสริญ

ปัญหาของเปาโลในการประกาศ

12 พี่น้องครับ ผมอยากให้คุณรู้ว่าเหตุการณ์ร้ายที่ได้เกิดขึ้นกับผมนี้ ความจริงแล้วได้ช่วยทำให้ข่าวดีแพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวางมากขึ้น 13 ตอนนี้ ทหารรักษาวังของจักรพรรดิโรมัน รวมทั้งคนอื่นๆทุกคนที่นี่รู้ว่าผมถูกล่ามโซ่อยู่นี้ก็เพื่อพระคริสต์ 14 นอกจากนั้นการที่ผมติดคุกทำให้พี่น้องส่วนใหญ่ที่นี่พึ่งความช่วยเหลือขององค์เจ้าชีวิตมากขึ้น พวกเขามีใจกล้ามากขึ้นที่จะประกาศเรื่องพระคริสต์อย่างไม่กลัวใคร

15 จริงอยู่บางคนประกาศเรื่องของพระคริสต์ เพราะอิจฉาและอยากชิงดีชิงเด่น แต่ก็มีคนที่ประกาศเพราะความหวังดีด้วยเหมือนกัน 16-17 พวกแรกนั้นประกาศเพราะอยากชิงดีชิงเด่นกับผม และเพราะมีความตั้งใจที่ไม่ดี คือพวกเขาคิดว่าจะเพิ่มความทุกข์ให้กับผมในระหว่างที่ผมยังติดคุกอยู่ แต่คนอื่นๆนั้นประกาศเพราะความรัก พวกเขารู้ว่าพระเจ้าให้ผมอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องข่าวดีอันนั้น

18 อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะทำเพราะมีแรงจูงใจที่ผิดหรือทำเพราะหวังดี สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเรื่องพระคริสต์ก็ได้ประกาศออกไปอยู่ดี ซึ่งทำให้ผมดีใจ ใช่แล้ว ผมจะยังดีใจต่อไปอีก 19 เพราะรู้ว่าทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้นกับผมนี้จะนำผมไปถึงความรอดโดยคำอธิษฐานของคุณและโดยพระวิญญาณของพระเยซูคริสต์ที่พระเจ้าได้ให้กับผม 20 ซึ่งตรงกับสิ่งที่ผมคาดหวังอย่างยิ่งว่า ผมจะไม่ต้องอับอายในเรื่องอะไรเลย แต่จะกล้าหาญมาก (เหมือนกับที่เคยกล้าหาญมาตลอด) และพระเยซูคริสต์จะได้รับเกียรติเพราะตัวผม ไม่ว่าผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือจะตายก็ตาม 21 ในความคิดของผม จะอยู่ก็อยู่เพื่อพระคริสต์ ถ้าจะตายก็ถือว่าได้กำไร[b] 22 แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมก็จะทำงานให้เป็นประโยชน์ ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี 23 สองทางนี้มันเลือกยากมาก จริงๆแล้วผมอยากจะตายและไปอยู่กับพระคริสต์ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ดีกว่ามาก 24 แต่มันจะดีกว่าสำหรับพวกคุณ ที่ผมจะอยู่ในร่างนี้ต่อไป 25 เมื่อผมมั่นใจอย่างนี้ ผมจึงรู้ว่าผมจะอยู่ต่อไปเพื่อช่วยคุณทุกคนให้เจริญขึ้นและมีความสุขกับความเชื่อที่คุณมี 26 ดังนั้น คุณก็จะยกย่องพระเยซูคริสต์เพราะเรื่องของผม เมื่อผมกลับมาอยู่กับคุณอีกครั้งหนึ่ง

27 แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ให้ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสอดคล้องกับข่าวดีของพระคริสต์ แล้วไม่ว่าผมจะมาเจอคุณหรือแค่ได้ฟังข่าวคราวของคุณ ผมจะได้รู้ว่าคุณได้ตั้งมั่นคงอยู่ในพระวิญญาณองค์เดียวกัน และได้ต่อสู้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อความเชื่อที่เกิดมาจากข่าวดีนั้น 28 แล้วคุณก็จะไม่กลัวคนที่ต่อต้านคุณเลยสักนิดเดียว เพราะความเป็นหนึ่งเดียวและความกล้าของคุณ จะทำให้เห็นว่าพวกมันจะถูกทำลาย แต่พวกคุณจะได้รับความรอด ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากพระเจ้า 29 ที่ผมพูดอย่างนี้เพราะพระเจ้าไม่ได้ให้คุณมีสิทธิ์แค่มาเชื่อในพระคริสต์เท่านั้น แต่ให้มาทนทุกข์เพื่อพระองค์ด้วย 30 ตอนนี้พวกคุณกำลังต่อสู้ เหมือนกับที่คุณเคยเห็นผมต้องต่อสู้มาก่อน และยังได้ยินอีกว่าผมก็กำลังต่อสู้อยู่เดี๋ยวนี้ด้วย

เป็นหนึ่งเดียวกันและดูแลกันและกัน

ดังนั้น ถ้าพวกคุณได้รับกำลังใจเพราะมีส่วนร่วมกับพระคริสต์ ถ้าได้รับการปลอบใจจากความรัก ถ้าได้ใช้ชีวิตร่วมกันเพราะมีส่วนร่วมในพระวิญญาณ และได้รับความรักใคร่เอ็นดูและความเห็นอกเห็นใจ

ผมก็ขอให้คุณทำสิ่งที่จะให้ความสุขกับผมอย่างเต็มที่ คือการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีความรักอย่างเดียวกัน เป็นใจเดียวกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน

อย่าทำอะไรที่ชิงดีชิงเด่นกัน หรือเพราะหลงคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ให้ถ่อมตัวลง และมองคนอื่นว่าสำคัญกว่าตัวเอง อย่าให้ใครคิดเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว แต่ให้คิดถึงประโยชน์ของคนอื่นด้วย

ตามแบบอย่างของพระเยซู

ใช้ชีวิตด้วยกัน โดยคิด ทำ และรู้สึกอย่างนี้ เช่นเดียวกันกับพระเยซูคริสต์ คือถึงแม้พระองค์จะมีสภาพเป็นพระเจ้า พระองค์ก็ไม่ได้คิดที่จะใช้ความเท่าเทียมกับพระเจ้าของพระองค์เพื่อผลประโยชน์ของพระองค์เองเลย

แต่พระองค์ได้ทิ้งความเป็นตัวของพระองค์เองไปจนหมด คือยอมรับสภาพเป็นทาส และได้มาเกิดเป็นมนุษย์ เมื่อพระองค์ได้มาปรากฏตัวในร่างมนุษย์แล้ว พระองค์ได้ถ่อมตัวของพระองค์ลง ยอมเชื่อฟังพระเจ้าทุกอย่าง ถึงขนาดยอมตาย แม้กระทั่งต้องตายบนไม้กางเขน

พระเจ้าก็เลยยกพระเยซูขึ้นสูงที่สุด และยกย่องชื่อของพระองค์ให้ยิ่งใหญ่กว่าชื่อทั้งหมด 10 เพื่อทุกๆคนที่อยู่ในสวรรค์ก็ดี ในโลกนี้ก็ดี หรือใต้โลกนี้ก็ดี จะได้คุกเข่าลงให้เกียรติกับพระเยซู 11 ทุกๆคนจะยอมรับว่า พระเยซูคริสต์คือองค์เจ้าชีวิต แล้วพระเจ้าพระบิดาก็จะได้รับเกียรติยศ

ให้เป็นอย่างที่พระเจ้าต้องการ

12 เพื่อนๆที่รัก คุณก็เชื่อฟังเป็นอย่างดีมาตลอด ดังนั้นผมขอให้คุณทำงานหนักต่อไปด้วยใจที่เคารพและยำเกรงพระเจ้า จนกว่าคุณจะบรรลุถึงความรอด ตอนนี้ผมอยากให้คุณทำอย่างนี้ต่อไป ไม่ใช่แค่ตอนที่ผมอยู่ด้วยเท่านั้น แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่ผมไม่ได้อยู่ด้วย 13 คุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะเป็นพระเจ้าเองที่กำลังทำงานอยู่ในหมู่พวกคุณ พระองค์ทำให้คุณเต็มใจที่จะทำในสิ่งที่พระองค์ต้องการ และให้ฤทธิ์อำนาจกับคุณที่จะทำอย่างนั้นด้วย

14 ให้ทำทุกอย่างโดยไม่บ่นหรือเถียงกัน 15 เพื่อพวกคุณจะไร้ที่ติ และบริสุทธิ์ จะได้เป็นลูกของพระเจ้าที่ไม่มีตำหนิเลย ทั้งๆที่คนรอบข้างคดโกง และวิปริตผิดเพี้ยนไปหมดแล้ว แต่พวกคุณจะได้ส่องแสงอยู่ท่ามกลางพวกเขาเหมือนกับแสงสว่างต่างๆในท้องฟ้าที่ส่องสว่างเข้ามาในโลกมืด 16 ให้ทำทั้งหมดนี้ในขณะที่พวกคุณเสนอคำสอนที่ให้ชีวิตกับพวกเขา เพื่อในวันที่พระเยซูคริสต์กลับมา ผมจะได้ภูมิใจในตัวคุณ และจะได้เห็นชัดเจนว่า ผมวิ่งชนะและทำงานสำเร็จ

17 ผมจะเปรียบเทียบความเชื่อของพวกคุณเป็นเหมือนสัตว์ที่ถูกเผาถวายให้กับพระเจ้าและเป็นการรับใช้พระองค์ ถ้าหากผมเป็นเหมือนเครื่องดื่มบูชาที่ถูกเทบนเครื่องบูชาของพวกคุณนั้น ผมก็ดีใจและดีใจกับพวกคุณทุกคน 18 ในทำนองเดียวกัน พวกคุณทุกคนควรจะดีใจและร่วมดีใจกับผมด้วย

ทิโมธีและเอปาโฟรดิทัส

19 เพราะพระเยซูเป็นองค์เจ้าชีวิต ผมคาดว่าผมจะได้ส่งทิโมธีไปหาพวกคุณเร็วๆนี้แน่นอน แล้วผมจะได้มีกำลังใจ เมื่อเขากลับมาเล่าเรื่องพวกคุณ 20 มีแต่ทิโมธีเท่านั้นที่มีความคิดเหมือนกับผมและสนใจในเรื่องทุกข์สุขของพวกคุณจริงๆ 21 ส่วนคนอื่นๆที่อาจจะส่งมาได้ ก็สนใจแต่เรื่องของตัวเองมากกว่า ไม่ได้สนใจเรื่องของพระเยซูคริสต์ 22 คุณก็รู้อยู่แล้วว่านิสัยของทิโมธีนั้นเป็นอย่างไร และเขาได้รับใช้ในการประกาศข่าวดีด้วยกันกับผม เหมือนลูกช่วยพ่อ 23 ดังนั้น พอผมรู้ว่าเรื่องของผมที่นี่จะเป็นอย่างไร ผมก็หวังที่จะได้ส่งทิโมธีไปหาพวกคุณทันที 24 ผมเชื่อว่า องค์เจ้าชีวิตจะเปิดโอกาสให้ผมได้มาเจอพวกคุณเร็วๆนี้เหมือนกัน

25 แต่ตอนนี้ คิดว่าจำเป็นจะต้องส่งเอปาโฟรดิทัสกลับมาหาคุณก่อน เขาเป็นทั้งน้องชาย เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนทหารของผม พวกคุณได้ส่งเขามาดูแลผมตอนที่ผมขาดแคลน 26 ผมส่งเขามา เพราะเขาอยากจะเจอคุณมาก และเขาก็กลุ้มใจมากเพราะคุณได้ข่าวว่าเขาป่วย 27 ตอนนั้นเขาก็ป่วยหนักจริงๆจนเกือบจะตายอยู่แล้ว แต่พระเจ้าเมตตาเขา ซึ่งก็ถือว่าได้เมตตาผมด้วย เพื่อผมจะได้ไม่เป็นทุกข์มากไปกว่านี้ 28 ผมจึงตั้งใจจะส่งเขากลับไปหาคุณ เพื่อคุณจะได้ดีใจเมื่อเจอเขาอีก และตัวผมเองจะได้กังวลน้อยลง 29 ดังนั้น ให้อ้าแขนต้อนรับเขาด้วยความยินดีอย่างยิ่ง เพราะเขามีส่วนร่วมในองค์เจ้าชีวิตเหมือนกัน และให้เกียรติกับเขาและทุกคนที่เป็นอย่างเขา 30 เพราะเขาเกือบจะตายจากงานที่เขาทำเพื่อพระคริสต์ เขาได้เสี่ยงชีวิตเพื่อรับใช้ผม ในเรื่องที่พวกคุณเองก็ทำให้ผมไม่ได้

พระเยซูสำคัญที่สุด

สุดท้ายนี้ พี่น้องครับ ให้ชื่นชมยินดีในองค์เจ้าชีวิต ผมไม่เบื่อที่จะเขียนเรื่องเหล่านี้อีก และการเขียนซ้ำจะช่วยพวกคุณให้ยืนหยัดมั่นคง ให้ระวังไอ้หมาพวกนั้น ระวังไอ้พวกนั้นที่ทำชั่ว ระวังไอ้พวกนั้นที่ชอบหั่นเนื้อหนังคน[c] เพราะเป็นพวกเรานี่แหละที่ได้รับพิธีขลิบที่แท้จริง เป็นพวกเรานี่แหละที่นมัสการด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า พวกเราอวดพระเยซูคริสต์ ไม่ได้พึ่งฝ่ายเนื้อหนังหรือสิ่งดีๆที่เรามี ทั้งๆที่ผมมีเหตุผลมากมายที่จะพึ่งสิ่งต่างๆพวกนี้ แต่ถ้าใครคิดว่าเขามีเหตุผลที่จะไว้วางใจในสิ่งที่อยู่ภายนอกแล้วละก็ ผมเปาโล มีมากยิ่งกว่าเขาเสียอีก คือผมได้เข้าพิธีขลิบตอนอายุได้แปดวัน ผมเป็นคนเชื้อชาติอิสราเอล มาจากเผ่าเบนยามิน เป็นชาวฮีบรูแท้ๆ เกิดจากพ่อแม่ชาวฮีบรู ในเรื่องศาสนา ผมอยู่ในกลุ่มที่เคร่งครัดที่สุด คือกลุ่มฟาริสี ผมร้อนรนมากถึงขนาดไปข่มเหงหมู่ประชุมของพระเจ้า ส่วนเรื่องการทำตามกฎของโมเสสนั้น ผมไม่เคยทำผิดเลย แต่เพราะเห็นแก่พระคริสต์ สิ่งต่างๆเหล่านั้นที่ครั้งหนึ่งผมถือว่ามีค่ามาก ตอนนี้ผมถือว่าไร้ค่าแล้ว ความจริงแล้ว ผมถือว่าทุกอย่างนั้นไร้ค่า เพราะเห็นแก่สิ่งที่มีค่ายิ่งกว่านั้นมากนัก คือการที่ได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของผม ผมยอมสูญสิ้นทุกอย่างเพื่อพระคริสต์ และถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนขยะ เพื่อจะได้พระคริสต์ ผมอยากจะมีสายสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าที่เกิดจากความซื่อสัตย์สุจริตของพระคริสต์[d] มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกฎของโมเสส สายสัมพันธ์ที่ถูกต้องนี้มาจากพระเจ้า และขึ้นอยู่กับความเชื่อ 10 ผมอยากจะรู้จักกับพระคริสต์ และฤทธิ์อำนาจอันเดียวกันที่ทำให้พระองค์ฟื้นขึ้นจากความตาย ผมอยากร่วมทุกข์กับพระองค์ และตายไปเหมือนพระองค์ 11 เพื่อผมเองจะได้ฟื้นขึ้นจากความตายด้วย แต่จะฟื้นอย่างไรผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน

พยายามให้ถึงเป้าหมาย

12 ไม่ใช่ว่าผมได้สิ่งเหล่านั้นแล้ว หรือถึงเป้าหมายแล้ว แต่ผมมุ่งหน้าไปอย่างแน่วแน่เพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น เพื่อจะได้คว้ารางวัลนั้นมาให้ได้ เพราะนั่นเป็นสาเหตุที่พระเยซูคริสต์ได้คว้าผมมาไว้เป็นของพระองค์ 13-14 พี่น้องครับ ผมถือว่าผมยังคว้ารางวัลนั้นมาไม่ได้ แต่สิ่งเดียวที่ผมทำอยู่ คือลืมเรื่องในอดีตเสียและโน้มตัวไปข้างหน้า วิ่งตรงดิ่งเข้าสู่เส้นชัย เพื่อจะได้รับรางวัลที่พระเจ้าได้เรียกพวกเราที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ให้ขึ้นไปรับบนสวรรค์

15 ขอให้พวกเราทุกคนที่เป็นผู้ใหญ่คิดแบบนี้ ถ้าหากบางเรื่องคุณไม่เห็นด้วย พระเจ้าก็จะเปิดเผยให้คุณเข้าใจเอง 16 ขอเพียงแค่ว่า ให้เราใช้ชีวิตให้สอดคล้องถึงระดับของความเข้าใจที่เราเอื้อมถึงแล้ว

17 พี่น้องที่รัก ให้เลียนแบบผม และให้จับตาดูคนพวกนั้นที่ทำตามแบบอย่างที่เราได้ให้ไว้กับคุณแล้ว 18 ที่ผมพูดอย่างนี้เพราะมีคนจำนวนมากที่ทำตัวเป็นศัตรูกับไม้กางเขนของพระคริสต์ ผมพูดเรื่องนี้ตั้งหลายครั้งแล้ว เดี๋ยวนี้ก็ขอพูดอีกด้วยน้ำตา 19 ว่าคนพวกนั้นจะถูกทำลายไปในที่สุด พระเจ้าของเขาก็คือ ความอยากของปากท้องของเขาเอง และพวกเขาชอบคุยโวในสิ่งที่เขาควรจะอับอาย และพวกเขาหมกมุ่นอยู่กับสิ่งของในโลกนี้ 20 แต่บ้านเมืองแท้ๆของพวกเราอยู่บนสวรรค์ และเรากำลังรอคอยพระผู้ช่วยให้รอดของเรา คือพระเยซูคริสต์เจ้ากลับมาจากสวรรค์

21 พระองค์จะใช้ฤทธิ์อำนาจของพระองค์เปลี่ยนร่างกายที่น่าสมเพชของเรานี้ ให้เป็นเหมือนร่างกายที่เต็มไปด้วยเกียรติยศอันสูงส่งของพระองค์ ฤทธิ์อำนาจนี้เป็นฤทธิ์อันเดียวที่พระองค์ใช้ในการทำให้ทุกสิ่งมาอยู่ภายใต้อำนาจของพระองค์

สิ่งที่ต้องทำ

พี่น้องที่รัก ผมอยากเจอพวกคุณมาก ผมชื่นชมพวกคุณมาก คุณเป็นความภาคภูมิใจของผม ขอให้ตั้งมั่นคงในองค์เจ้าชีวิตเถิด

ผมได้ขอร้อง ยูโอเดีย กับ สินทิเค ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในองค์เจ้าชีวิต

เพื่อนรัก น้องเป็นเพื่อนร่วมงาน ผม ขอร้องให้น้องไปช่วยผู้หญิงสองคนนี้ให้ดีกัน ทั้งสองคนนี้ได้ทำงานอย่างหนักในการประกาศข่าวดีร่วมกับผม พร้อมกับเคลเมนต์และเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆของผม ชื่อของคนเหล่านี้ได้จดไว้แล้วในหนังสือแห่งชีวิต[e]

ให้ชื่นชมยินดีในองค์เจ้าชีวิตตลอดเวลา ขอย้ำอีกที ให้ยินดีเถอะ

ขอให้ทุกคนได้เห็นถึงความสุภาพอ่อนโยนและความเมตตาปรานีของคุณ องค์เจ้าชีวิตกำลังจะกลับมา เลิกกังวลได้แล้ว แต่ให้อธิษฐานในทุกๆสถานการณ์ และขอในสิ่งที่คุณต้องการจากพระเจ้า และเมื่ออธิษฐานก็ให้ขอบคุณพระเจ้าด้วย แล้วสันติสุขที่มาจากพระเจ้า ซึ่งดีกว่าสันติสุขที่มาจากแผนงานต่างๆของมนุษย์[f] จะปกป้องรักษาจิตใจ และความคิดของคุณไว้ในพระเยซูคริสต์

สุดท้ายนี้ พี่น้องครับ อะไรก็ตามที่จริง ที่น่านับถือ ที่ถูกต้อง ที่บริสุทธิ์ ที่น่ารัก ที่น่ายกย่อง นั่นคืออะไรก็ตามที่ยอดเยี่ยมและน่าสรรเสริญ ให้เอาใจใส่ในเรื่องเหล่านั้น ให้ฝึกฝนในทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้เรียนรู้มา ได้รับมา ได้ยินมาจากผม และได้เห็นผมทำด้วย แล้วพระเจ้าแห่งสันติสุขจะอยู่กับคุณ

เปาโลขอบคุณคริสเตียนชาวฟีลิปปี

10 ผมดีใจและขอบคุณองค์เจ้าชีวิตมาก เพราะในที่สุดพวกคุณก็กลับมาห่วงใยผมอีก อันที่จริงคุณห่วงใยผมตลอดมาอยู่แล้ว แต่ไม่มีโอกาสแสดงออกมาเท่านั้นเอง 11 ผมไม่ได้พูดอย่างนี้เพราะผมขัดสน เพราะผมเรียนรู้ที่จะพอใจไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม 12 ผมรู้ว่าจะพอใจได้อย่างไรทั้งตอนที่ขัดสน และตอนที่มีอย่างเหลือเฟือ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม ผมได้เรียนรู้เคล็ดลับว่าจะอยู่อย่างไร ในเวลาที่อิ่มท้องหรือหิวโหย ในเวลาที่มีเหลือเฟือหรือขาดแคลน 13 พระคริสต์ให้ผมมีกำลังที่จะทนได้กับทุกสิ่ง

14 แต่เป็นสิ่งที่ดี ที่พวกคุณได้มาช่วยแบ่งเบาความทุกข์ของผม 15 พวกคุณชาวฟีลิปปีรู้อยู่แล้วว่า ในสมัยแรกๆที่ผมได้จากแคว้นมาซิโดเนียไปประกาศข่าวดีนั้น นอกจากพวกคุณแล้วไม่มีหมู่ประชุมไหน ที่มามีส่วนร่วมกับผมในการช่วยเหลือกันและกัน 16 ตอนที่ผมอยู่เมืองเธสะโลนิกา พวกคุณได้ส่งของมาช่วยเหลือผมครั้งแล้วครั้งเล่า 17 ไม่ใช่ว่าตอนนี้ผมอยากจะได้ของอีก แต่ผมอยากให้คุณได้รับสิ่งตอบแทนในส่วนที่คุณควรจะได้ 18 คุณได้จ่ายคืนผมครบถ้วนแล้ว และมากเกินไปด้วยซ้ำ ผมมีครบทุกอย่างที่จำเป็นแล้ว และผมได้รับของที่คุณฝากมากับเอปาโฟรดิทัสแล้ว ของฝากพวกนั้นเป็นเหมือนกับเครื่องบูชาที่หอมหวาน ที่พระเจ้ายอมรับและพอใจ 19 พระเจ้าของผมจะให้ทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับคุณ จากความมั่งคั่งอันมหาศาลของพระองค์ที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ 20 ขอให้พระเจ้าพระบิดาของเรา ได้รับเกียรติทั้งตอนนี้ และตลอดไป อาเมน

21 ช่วยทักทายคนที่เป็นของพระเจ้าทุกคนในพระเยซูคริสต์ด้วย พี่น้องที่อยู่กับผมที่นี่ฝากความคิดถึงมาให้กับพวกคุณทุกคน 22 คนที่เป็นของพระเจ้าทุกคนที่นี่ฝากความคิดถึงมาให้พวกคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนพวกนั้นที่ทำงานให้กับซีซาร์ 23 ขอให้ความเมตตากรุณาของพระเยซูคริสต์เจ้าอยู่กับพวกคุณทุกคนด้วย

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International