Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
โคโลสี 1-4

จากเปาโล ที่เป็นศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ ตามใจของพระเจ้า และจากทิโมธีพี่น้องของเรา

ถึงคนที่เป็นของพระเจ้าในเมืองโคโลสี ซึ่งเป็นพี่น้องที่ซื่อสัตย์ในพระคริสต์ ขอพระเจ้าพระบิดาของเราให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับคุณ

พวกเราขอบคุณพระเจ้า พระบิดาของพระเยซูคริสต์เจ้าของเราเสมอ เมื่อเราอธิษฐานเผื่อคุณ เพราะเราได้ยินเรื่องความไว้วางใจที่คุณมีในพระเยซูคริสต์ และได้ยินเรื่องความรักที่คุณมีต่อคนที่เป็นของพระเจ้าทุกคน ความไว้วางใจและความรักนี้ เกิดมาจากความหวังที่เก็บไว้สำหรับพวกคุณในสวรรค์ ความหวังนี้พวกคุณได้ยินมาก่อนแล้วในถ้อยคำแห่งความจริง ซึ่งก็หมายถึงข่าวดีนั้น ที่มาถึงพวกคุณแล้ว ข่าวดีนี้กำลังเกิดผลและขยายไปทั่วโลกเหมือนกับที่กำลังเกิดผลในหมู่พวกคุณ นับตั้งแต่วันแรกที่คุณได้ยิน และเข้าใจถึงความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับความเมตตากรุณาของพระเจ้า คุณได้เรียนรู้เรื่องนี้จากเอปาฟรัสเพื่อนที่เป็นทาสของพระคริสต์ด้วยกันกับเรา เรารักเขามาก เขาก็เป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระคริสต์ เพื่อประโยชน์ต่อพวกคุณ เขามาบอกพวกเราให้รู้ถึงความรักที่คุณมีผ่านทางพระวิญญาณ

เพราะอย่างนี้ เราถึงไม่เคยหยุดอธิษฐานให้พวกคุณเลย นับตั้งแต่วันแรกที่เราได้ยินเรื่องของพวกคุณ

เราขอให้พระเจ้าเติมพวกคุณให้เต็มไปด้วยความรู้ถึงความต้องการของพระองค์คือให้มีความเฉลียวฉลาดทุกอย่าง และมีความเข้าใจที่มาจากพระวิญญาณด้วย 10 เราอธิษฐานอย่างนี้ เพื่อคุณจะใช้ชีวิตให้สมกับเป็นคนขององค์เจ้าชีวิต แล้วจะได้เอาใจพระองค์ในทุกเรื่อง คือเกิดผลในการทำดีทุกอย่าง และรู้จักพระเจ้ามากขึ้น 11 ให้เข้มแข็งขึ้นด้วยพลังอำนาจทั้งสิ้นที่มาจากฤทธิ์อำนาจมหาศาลของพระองค์ เพื่อคุณจะได้บากบั่นมานะและทรหดอดทน

12 พวกคุณจะได้ขอบคุณพระบิดาด้วยความชื่นชมยินดี พระบิดาได้ทำให้คุณเหมาะสมที่จะได้รับส่วนแบ่งในมรดกซึ่งอยู่ในอาณาจักรที่สว่างไสวร่วมกับคนที่เป็นของพระเจ้า 13 พระเจ้าได้ช่วยชีวิตเราให้พ้นจากอาณาจักรของความมืด และนำเราเข้าไปอยู่ในอาณาจักรของพระบุตร ซึ่งก็คือพระบุตรที่พระเจ้ารัก 14 พระองค์ได้ปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระและอภัยบาปต่างๆของเราด้วย

เมื่อเรามองดูพระคริสต์เราเห็นพระเจ้า

15 พระคริสต์เป็นภาพสะท้อนของพระเจ้าผู้ที่ตามนุษย์มองไม่เห็น พระคริสต์เป็นลูกหัวปีที่อยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา 16 พระเจ้าใช้พระคริสต์สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ในสวรรค์หรือบนโลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มองเห็นหรือมองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นพวกวิญญาณที่นั่งบนบัลลังก์ หรือพวกผู้ครอบครองแผ่นดิน หรือพวกผู้ปกครอง หรือพวกผู้มีสิทธิอำนาจ พระคริสต์เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างนี้ และทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็เกิดขึ้นมาเพื่อให้เกียรติกับพระองค์ 17 ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกสร้างขึ้นมา ก็มีพระองค์อยู่แล้ว และทุกอย่างยังคงอยู่ได้ก็เพราะพระองค์ยึดมันไว้ด้วยกัน 18 พระองค์เป็นศีรษะของร่างกาย ซึ่งก็คือหมู่ประชุมของพระองค์ พระองค์เป็นจุดเริ่มต้น เป็นคนแรกที่ฟื้นขึ้นจากความตาย เพื่อพระองค์จะได้เป็นที่หนึ่งในทุกเรื่อง 19 เพราะพระเจ้าตัดสินใจว่าจะให้ความเต็มบริบูรณ์ของพระองค์อยู่ในตัวพระคริสต์ 20 พระองค์ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งบนโลกและในสวรรค์กลับมาคืนดีกับพระองค์ คือทำให้เกิดสันติภาพขึ้น ด้วยเลือดของพระคริสต์ที่หลั่งบนไม้กางเขนนั้น

21 ในอดีตนั้นพวกคุณเคยเหินห่างจากพระเจ้า และมีใจที่เป็นศัตรูกับพระองค์ เพราะสิ่งชั่วร้ายต่างๆที่ตัวเองทำ 22 แต่เดี๋ยวนี้พระเจ้าทำให้คุณกลับมาคืนดีกับพระองค์ โดยการตายของพระคริสต์ในร่างมนุษย์นี้ พระองค์ทำอย่างนี้ก็เพื่อจะได้ถวายคุณต่อหน้าพระเจ้าอย่างคนบริสุทธิ์ ไม่มีข้อเสื่อมเสียและไม่มีข้อกล่าวหา 23 แต่คุณจะต้องยืนหยัดและยึดมั่นในความเชื่อต่อไป และไม่เลิกหวังในข่าวดีที่คุณได้ยินแล้วนั้น ข่าวดีนี้เป็นสิ่งที่ได้ประกาศไปแล้วกับทุกคนที่อยู่ใต้ฟ้านี้ ผมเปาโล ได้มาเป็นผู้รับใช้ในการประกาศข่าวดีนี้

งานที่เปาโลทำเพื่อหมู่ประชุมของพระเจ้า

24 ผมดีใจที่ในขณะนี้ผมกำลังทนทุกข์เพื่อพวกคุณ และมีความทุกข์ที่ยังเหลืออยู่ที่พระคริสต์จะต้องแบกอยู่อีก ผมกำลังทำให้ความทุกข์ที่เหลือนี้สำเร็จในตัวผม ผมทำทั้งหมดนี้เพื่อร่างกายของพระองค์ คือหมู่ประชุมของพระองค์ 25 พระเจ้าได้มอบหมายให้ผมมาเป็นผู้รับใช้หมู่ประชุมของพระองค์เพราะเห็นแก่ประโยชน์ของพวกคุณ เพื่อประกาศถ้อยคำของพระเจ้าอย่างครบถ้วนให้กับพวกคุณ 26 ความจริงที่ลึกลับนี้ได้ถูกซ่อนไว้มาหลายยุคหลายสมัย แต่ตอนนี้พระเจ้าได้เปิดเผยให้กับพวกคนที่เป็นของพระองค์ 27 พระเจ้าอยากให้คนที่เป็นของพระองค์รู้ว่า ความจริงอันลึกลับที่ได้เปิดเผยในหมู่คนที่ไม่ใช่ยิวนั้น รุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ความจริงอันลึกลับนั้นคือ พระคริสต์ผู้อยู่ในพวกคุณนั้นเอง ทำให้เราเกิดความหวังที่จะได้มีส่วนร่วมในเกียรติของพระเจ้า 28 เราประกาศเรื่องของพระคริสต์ เราเตือนสติทุกคนและสั่งสอนทุกคนด้วยปัญญาทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อเราจะได้นำทุกคนไปอยู่ต่อหน้าพระเจ้าอย่างเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวในพระคริสต์ 29 นี่เป็นเหตุที่ผมต่อสู้ ตรากตรำทำงานอย่างหนัก โดยพึ่งฤทธิ์เดชของพระคริสต์ที่ทำงานอย่างมากมายมหาศาลอยู่ในตัวผม

ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมต้องดิ้นรนต่อสู้มากขนาดไหนเพื่อพวกคุณ เพื่อคนที่อยู่เมืองเลาดีเซีย และคนอื่นๆที่ยังไม่เคยเจอมาก่อน ที่ผมทำทั้งหมดนี้ ก็เพราะผมอยากให้พวกเขาได้รับกำลังใจ อยากให้เขารักใคร่กลมเกลียวกัน อยากให้เขาได้รับพระพรอย่างเหลือล้น เนื่องจากความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่เกิดมาจากความเข้าใจของเขา แล้วก็อยากให้เขามีความรู้ถึงความจริงอันลึกลับของพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง ความลับนั้นคือพระคริสต์ สติปัญญาทั้งหมดและความรู้ทุกอย่าง เป็นขุมทรัพย์ที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในพระคริสต์

ที่ผมพูดเรื่องนี้ ก็เพื่อจะได้ไม่มีใครมาใช้เหตุผลต่างๆที่น่าฟังเพื่อหลอกลวงคุณ ถึงแม้ตัวผมจะไม่ได้อยู่ แต่ใจของผมก็ยังอยู่กับคุณ และผมก็ดีใจที่ได้เห็นคุณอยู่ด้วยกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีความเชื่อที่มั่นคงในพระคริสต์

ใช้ชีวิตต่อไปในพระคริสต์

พวกคุณได้รับพระเยซูคริสต์เจ้าอย่างไร ก็ขอให้ใช้ชีวิตร่วมกันกับพระองค์ต่อไปอย่างนั้น คือคุณได้หยั่งรากลงไปในพระองค์แล้ว ให้พระองค์เป็นรากฐานของคุณต่อไป ให้ยึดมั่นในความเชื่อต่อไปเหมือนกับที่คุณได้รับคำสั่งสอนมาแล้ว และให้ขอบคุณพระเจ้าอย่างล้นเหลือต่อไป

ระวังให้ดีอย่าให้ใครใช้หลักปรัชญาอันหลอกลวงและไร้ค่า เพื่อจับคุณไปเป็นเชลย เรื่องแบบนี้มนุษย์สอนสืบต่อกันมา คำสอนนั้นมาจากพวกวิญญาณที่ครอบครองโลกนี้ ไม่ได้มาจากพระคริสต์ เพราะความเต็มบริบูรณ์ทั้งหมดของพระเจ้า ได้มาอยู่ในสภาพของร่างมนุษย์คือในร่างของพระคริสต์นั่นเอง 10 แล้วเมื่อคุณอยู่ในพระคริสต์ คุณก็เต็มบริบูรณ์เหมือนกัน พระคริสต์เป็นศีรษะเหนือพวกผู้ครอบครอง และเหนือพวกผู้มีสิทธิอำนาจทั้งสิ้นในจักรวาล

11 ในพระคริสต์พวกคุณก็ได้เข้าพิธีขลิบด้วย แต่ไม่ใช่พิธีขลิบที่มือมนุษย์ทำหรอก แต่คุณได้เข้าร่วมพิธีขลิบของพระคริสต์เอง ที่เกิดขึ้นตอนที่พระองค์สละร่างกายที่เป็นเนื้อหนังทิ้งตอนตาย 12 คุณได้ถูกฝังร่วมกันกับพระคริสต์ในพิธีจุ่มน้ำ และได้ฟื้นขึ้นจากความตายพร้อมกับพระองค์ เพราะคุณไว้วางใจในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ผู้ทำให้พระคริสต์ฟื้นขึ้นมา 13 ตอนที่พวกคุณตายไปแล้วนั้น (เพราะความผิดบาปของคุณ และเพราะคุณไม่ใช่ยิวและไม่ได้เข้าพิธีขลิบ) พระเจ้าทำให้คุณมีชีวิตอยู่ร่วมกับพระคริสต์ พระองค์ได้ยกโทษความผิดบาปทั้งหมดของเรา 14 พระเจ้ายกเลิกข้อกล่าวหาพวกเราที่ได้บันทึกไว้ พระองค์เอามันไปตรึงที่กางเขน 15 พระเจ้าปราบปรามพวกผู้ครอบครองและพวกผู้มีสิทธิอำนาจทั้งหลายจนต้องวางอาวุธลง พระเจ้านำเขาไปเป็นเชลยในขบวนแห่แห่งชัยชนะ[a] ทำให้พวกนี้อับอายขายหน้าในที่สาธารณะ พระเจ้าทำอย่างนี้ได้เพราะความตายของพระคริสต์

กฎที่มนุษย์ตั้งขึ้นเอง

16 ดังนั้นอย่าให้ใครมาประจานพวกคุณเพราะสิ่งที่กินและดื่ม หรือในเรื่องงานเทศกาลทางศาสนา งานฉลองพระจันทร์ข้างขึ้น[b] หรือวันหยุดทางศาสนา 17 สิ่งเหล่านี้เป็นแค่เงาของสิ่งที่จะตามมาภายหลัง แต่แก่นแท้ของสิ่งเหล่านี้คือพระคริสต์ 18 บางคนชอบที่จะขจัดกิเลสของตัวเอง และชอบนมัสการพระเจ้าด้วยกันกับทูตสวรรค์[c] เพราะเขาบอกว่าเขาเห็นสิ่งต่างๆในสวรรค์ผ่านทางนิมิตของเขา อย่าไปสนใจฟังพวกเขาเมื่อพวกเขาพูดว่าคุณจะไม่ได้รับรางวัลจากพระเจ้าเพราะคุณไม่ได้ทำตามพวกเขา ความคิดอย่างนั้นเป็นแค่ความคิดของมนุษย์ที่ทำให้พวกเขาเย่อหยิ่งจองหองไม่เข้าเรื่อง 19 คนพวกนั้นไม่ได้ยึดติดอยู่กับศีรษะซึ่งก็คือพระคริสต์ พระคริสต์นี่เองเป็นแหล่งทำให้ร่างกายทั้งหมดได้รับการบำรุงเลี้ยงดู และยึดส่วนต่างๆของร่างกายเข้าด้วยกันด้วยข้อและเอ็นต่างๆทำให้ทั้งร่างเจริญเติบโตขึ้นตามที่พระเจ้าต้องการ

20 ในเมื่อคุณได้ตายร่วมกับพระคริสต์ และเป็นอิสระจากพวกวิญญาณที่ครอบครองโลกนี้แล้ว ทำไมคุณยังทำตัวเหมือนว่าตัวเองยังเป็นของโลกนี้อยู่ และยังยอมอยู่ใต้กฎต่างๆ 21 เช่น “ห้ามจับ” “ห้ามชิม” หรือ “ห้ามแตะต้อง” 22 กฎพวกนี้มันเกี่ยวกับสิ่งของที่เมื่อเอามาใช้แล้วก็หมดไป กฎพวกนี้ก็เป็นแค่คำสั่งหรือคำสอนจากมนุษย์เท่านั้น 23 กฎพวกนี้ฟังดูฉลาดเข้าท่าทีเดียว พวกเขาเคร่งครัดในศาสนาที่มนุษย์คิดขึ้น ทำให้เขาต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อขจัดกิเลสของตัวเอง รวมทั้งทรมานร่างกายด้วย แต่มันไม่ได้ช่วยยับยั้งความอยากของสันดานเลย

ชีวิตใหม่ในพระคริสต์

พระเจ้าได้ทำให้คุณฟื้นขึ้นจากความตายกับพระคริสต์แล้ว อย่างนั้นให้แสวงหาสิ่งต่างๆที่อยู่เบื้องบน ซึ่งเป็นที่ที่พระคริสต์นั่งอยู่ทางขวามือของพระเจ้า ให้ใจของคุณจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในโลก ตัวตนเก่าของคุณตายไปแล้ว ชีวิตใหม่ที่คุณได้รับนั้นถูกซ่อนอยู่กับพระคริสต์ในพระเจ้า พระคริสต์เป็นชีวิตของพวกคุณ เมื่อพระองค์ปรากฏตัว คุณก็จะปรากฏตัวร่วมรับเกียรติพร้อมกับพระองค์ด้วย

ดังนั้นให้ฆ่าความชั่วร้ายทุกอย่างที่มีอยู่ในตัวคุณ เช่นบาปทางเพศ ความไม่บริสุทธิ์ ราคะตัณหา ความฝักใฝ่ในเรื่องชั่วๆและการมักมากในกาม[d] ซึ่งเท่ากับการกราบไหว้รูปเคารพ ความโกรธของพระเจ้ากำลังจะมาเพราะคนทำสิ่งเหล่านี้ คุณเคยทำสิ่งเหล่านี้มาก่อน ตอนที่คุณใช้ชีวิตแบบนั้น

แต่ตอนนี้ ให้กำจัดสิ่งต่อไปนี้ให้หมดไปจากชีวิตคุณ คือความโกรธ ความบ้าคลั่ง ความพยาบาท การใส่ร้ายป้ายสี และการพูดลามก อย่าโกหกกัน เพราะคุณได้ถอดตัวตนเก่าทิ้งไปพร้อมกับการกระทำชั่วๆของตัวมันแล้ว 10 คุณได้สวมใส่คนใหม่ที่พระเจ้ากำลังสร้างขึ้นมาใหม่ให้เป็นเหมือนพระองค์พระผู้สร้างมากขึ้นเรื่อยๆจนกว่าคุณจะรู้จักพระเจ้าเต็มที่ 11 ในเรื่องการเป็นคนใหม่นี้ มันไม่สำคัญว่าจะเป็นคนยิวหรือกรีก จะเข้าพิธีขลิบ หรือไม่เข้าพิธีขลิบ จะเป็นพวกไพร่หรือป่าเถื่อน[e] จะเป็นทาสหรือเป็นไท แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าทุกสิ่งก็คือพระคริสต์ และพระคริสต์นี่เองอยู่ในตัวพวกคุณทุกคน

12 ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นคนที่พระเจ้าได้เลือก เป็นคนของพระเจ้า และเป็นคนที่พระองค์รัก ก็ให้สวมใส่ความเห็นอกเห็นใจ ความมีน้ำใจ ความถ่อมตน ความสุภาพอ่อนโยน และความอดทน 13 ให้ผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน และยกโทษให้กันด้วย ถ้าใครมีเรื่องกัน ก็ให้ยกโทษกัน องค์เจ้าชีวิตยกโทษให้กับคุณอย่างไร ก็ให้ยกโทษให้กันและกันอย่างนั้นด้วย 14 นอกจากนี้แล้ว ขอให้สวมใส่ความรัก ความรักจะผูกพันความดีทุกอย่างและทำให้สิ่งเหล่านี้สมบูรณ์ 15 ขอให้สันติสุขจากพระคริสต์มาครอบครองจิตใจของคุณ เพราะพระเจ้าได้เรียกคุณให้อยู่กันอย่างสันติในร่างกายเดียวกัน และขอให้เป็นคนที่รู้จักขอบคุณพระเจ้าอยู่เสมอ 16 ขอให้ถ้อยคำของพระคริสต์ตั้งรกรากอยู่ในกลุ่มพวกคุณอย่างเหลือล้น คือให้สั่งสอนเตือนสติซึ่งกันและกันด้วยสติปัญญาทั้งสิ้น และร้องเพลงสดุดี เพลงสรรเสริญ และเพลงจากพระวิญญาณ ให้ร้องเพลงเหล่านี้สุดหัวใจถวายให้กับพระเจ้าด้วยใจกตัญญู 17 ไม่ว่าจะทำอะไรหรือจะพูดอะไร ก็ให้ทำและพูดเพื่อพระเยซูเจ้า และให้ขอบคุณพระเจ้าพระบิดาผ่านทางพระเยซู

ระเบียบในครัวเรือนของผู้เชื่อ

18 พวกคุณที่เป็นภรรยา ให้ยินยอมต่อสามีของตน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องในองค์เจ้าชีวิต

19 พวกคุณที่เป็นสามี ให้รักภรรยาของตน และอย่าได้ก้าวร้าวกับเธอ

20 พวกคุณที่เป็นเด็กๆให้เชื่อฟังพ่อแม่ของตนในทุกเรื่อง ถ้าทำอย่างนี้องค์เจ้าชีวิตก็จะพอใจ

21 พวกคุณที่เป็นพ่อ อย่าทำให้ลูกของตนเคืองแค้นใจ เพื่อพวกเขาจะได้ไม่ท้อใจ

22 พวกคุณที่เป็นทาส ให้เชื่อฟังนายในโลกนี้ทุกอย่าง อย่าเพียงแต่ทำดีแค่ต่อหน้าอย่างคนประจบประแจง แต่ให้ทำจากใจจริง และทำเพราะเกรงกลัวเจ้านายสูงสุด[f] 23 ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ให้ทุ่มสุดใจเหมือนกับว่าไม่ได้ทำเพื่อมนุษย์ แต่ทำเพื่อองค์เจ้าชีวิต 24 เพราะคุณรู้ว่าจะได้รับมรดกจากองค์เจ้าชีวิตเป็นรางวัล เป็นพระคริสต์เจ้านี่แหละที่คุณกำลังรับใช้อยู่ 25 ส่วนคนที่ทำความผิดก็จะได้รับผลตอบแทนตามความผิดที่เขาทำ พระองค์จะไม่ลำเอียง

พวกคุณที่เป็นนาย ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรมกับทาสของตัวเอง จำไว้ว่าคุณก็มีเจ้านายองค์หนึ่งบนสวรรค์เหมือนกัน

เปาโลให้คำแนะนำเพิ่มเติม

ทุ่มเทตัวเองในการอธิษฐาน ให้อธิษฐานอย่างตื่นตัวอยู่เสมอและมีใจขอบคุณ ช่วยอธิษฐานให้พวกเราด้วย เพื่อพระเจ้าจะเปิดโอกาสให้ประกาศถ้อยคำของพระองค์ เพื่อเราจะได้ประกาศความจริงอันลึกลับเกี่ยวกับพระคริสต์ ที่ผมถูกขังอยู่นี้ก็เพราะประกาศเรื่องนี้ ช่วยอธิษฐานให้ผมประกาศเรื่องความจริงอันลึกลับนี้ได้แจ่มแจ้งชัดเจนอย่างที่ผมควรจะทำ

ทำตัวให้ดีเมื่อติดต่อกับคนนอก ฉกฉวยทุกๆโอกาสไว้ เพื่อพวกคุณจะได้มีอิทธิพลที่ดีในชีวิตของเขา เมื่อพูดกับใคร ให้ใช้คำพูดที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจและน่าสนใจ เพื่อคุณจะได้รู้ว่าควรจะตอบทุกคนอย่างไรดี

ข่าวจากคนที่อยู่กับเปาโล

ทีคิกัสผู้เป็นน้องที่รัก ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ และเพื่อนทาสด้วยกันในองค์เจ้าชีวิต เขาจะบอกข่าวคราวของผมให้คุณรู้ ผมส่งเขาไปหาคุณเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ คือให้คุณได้รู้ข่าวคราวเกี่ยวกับเรา แล้วจะได้มีกำลังใจขึ้น ผมส่งเขาไปพร้อมกับ โอเนสิมัส น้องชายที่ซื่อสัตย์และเป็นที่รักยิ่งของเรา เขาก็เป็นคนหนึ่งที่มาจากพวกคุณ สองคนนี้จะเล่าให้คุณฟังถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นที่นี่

10 อาริสทารคัส เพื่อนที่ติดคุกอยู่กับผมฝากความคิดถึงมาให้ด้วย รวมทั้งมาระโกลูกพี่ลูกน้องของบารนาบัส ก็ฝากความคิดถึงมาเหมือนกัน (คุณได้รับคำสั่งเรื่องของมาระโกแล้วนะว่า ถ้าเขามาเยี่ยมคุณก็ให้ต้อนรับเขาอย่างดี) 11 เยซูคนที่เราเรียกว่ายุสทัส ก็ฝากความคิดถึงมาให้คุณด้วย ในหมู่เพื่อนร่วมงานของผมที่ทำงานรับใช้ในการเผยแพร่เรื่องอาณาจักรของพระเจ้าที่นี่ ก็มีแต่สามคนนี้เท่านั้นที่เป็นยิว พวกเขาให้กำลังใจกับผมได้มากทีเดียว

12 เอปาฟรัส ที่เป็นคนหนึ่งจากพวกคุณ และเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ได้ฝากความคิดถึงมาให้ด้วย เขาสู้อธิษฐานให้กับคุณเสมอ เพื่อคุณจะได้โตเป็นผู้ใหญ่ และจะได้มั่นใจเต็มที่ในสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้คุณทำ 13 ผมรับรองได้ว่าเขาตรากตรำอธิษฐานอย่างหนักเพื่อประโยชน์ของพวกคุณ รวมทั้งพวกที่อยู่ในเมืองเลาดีเซียและเมืองฮีเอราโปลิสด้วย 14 หมอลูกาเพื่อนที่รักของเรากับเดมาสก็ฝากความคิดถึงมาให้คุณเหมือนกัน

15 ผมขอฝากความคิดถึงไปให้กับพี่น้องในเมืองเลาดีเซีย และนางนุมฟากับหมู่ประชุมของพระเจ้าที่ประชุมในบ้านของเธอด้วย 16 เมื่อคุณอ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ช่วยส่งต่อไปให้หมู่ประชุมในเมืองเลาดีเซียอ่านด้วย และคุณก็ควรจะอ่านจดหมายที่ผมได้เขียนไปถึงพวกเขาด้วย 17 ให้บอกกับอารคิปปัสว่า “ทำงานที่คุณได้รับมอบหมายจากองค์เจ้าชีวิตนั้นให้เสร็จสิ”

18 ผมเปาโลได้ใช้มือผมเองเขียนคำทักทายนี้ อย่าลืมว่าผมถูกล่ามโซ่อยู่ ขอให้พระเจ้ามีเมตตากรุณาต่อคุณ

ฟีเลโมน

จากเปาโล ผู้เป็นนักโทษเพราะเห็นแก่พระเยซูคริสต์ และจากทิโมธีน้องชายของเรา

ถึงฟีเลโมนเพื่อนร่วมงานที่เรารัก และถึงอัปเฟียน้องสาวของเรา และอารคิปปัส ซึ่งเป็นทหารของพระคริสต์ด้วยกันกับเรา และหมู่ประชุมของพระเจ้าที่บ้านของคุณ

ขอให้พระเจ้าพระบิดาของเรา และพระเยซูคริสต์เจ้าให้ความเมตตากรุณา และสันติสุขกับพวกคุณทุกคน

ความรักและความเชื่อของฟีเลโมน

ผมขอบคุณพระเจ้าของผมเสมอเมื่อผมอธิษฐานเผื่อคุณ เพราะผมได้ยินเรื่องความเชื่อของคุณที่มีต่อพระเยซูเจ้า และความรักที่คุณมีต่อคนที่เป็นของพระเจ้าทุกคน ผมอธิษฐานขอให้ความเชื่อที่เรามีร่วมกันนี้ ทำให้คุณเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถึงสิ่งดีๆทั้งหมดที่เรามีในพระคริสต์ น้องเอ๋ยความรักของคุณทำให้ผมมีความสุขมาก และมีกำลังใจด้วย เพราะคุณทำให้คนทั้งหลายที่เป็นของพระเจ้าชื่นใจ

เปาโลขอร้องแทนโอเนสิมัส

ถึงแม้ว่าในพระคริสต์ ผมกล้าพอที่จะสั่งให้คุณทำในสิ่งที่คุณควรทำก็จริง แต่เพราะความรักของคุณ ผมอยากจะขอร้องคุณมากกว่า ผมเปาโลคนแก่คนนี้และตอนนี้ก็ยังเป็นนักโทษเพราะเห็นแก่พระเยซูคริสต์ด้วย 10 ผมขอร้องละ เกี่ยวกับเรื่องของโอเนสิมัส[a] ซึ่งเขาได้กลายมาเป็นลูกของผมตอนที่ผมอยู่ในคุกนี้ 11 เมื่อก่อนนี้ เขาเคยเป็นคนที่ไม่มีประโยชน์อะไรกับคุณ แต่เดี๋ยวนี้เขากลับมีประโยชน์มาก ทั้งกับคุณและกับผมด้วย

12 เขาเป็นเหมือนดวงใจของผมทีเดียว และผมก็ได้ส่งเขากลับมาหาคุณ 13 ความจริงแล้วผมอยากจะให้เขาอยู่ที่นี่กับผม เพื่อจะได้ช่วยเหลือผมแทนที่คุณในขณะที่ผมติดคุกอยู่ที่นี่เพราะเห็นแก่ข่าวดีนั้น 14 แต่ผมไม่อยากจะทำอะไรลงไปนอกจากคุณจะอนุญาตเสียก่อน เพื่อว่าความดีต่างๆที่คุณทำนั้น จะได้เป็นไปตามความสมัครใจของคุณเอง ไม่ใช่เพราะผมบังคับ

15 ไม่แน่นะ ที่เขาต้องจากคุณไปพักหนึ่ง อาจจะเพื่อเขาจะได้กลับมาอยู่กับคุณตลอดไปก็ได้ 16 และไม่ใช่กลับมาอย่างทาสอีกแล้ว แต่ดีกว่าทาสเสียอีก คือเป็นพี่น้องที่รัก ผมรักเขามาก แต่คุณจะรักเขามากยิ่งกว่า ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เพื่อนมนุษย์เท่านั้น แต่เป็นน้องชายในองค์เจ้าชีวิตด้วย

17 ดังนั้น ถ้าคุณยังเห็นว่าผมเป็นหุ้นส่วนอยู่อีกละก็ ขอให้ต้อนรับเขาเหมือนกับที่คุณจะต้อนรับผมด้วย 18 ถ้าเขาทำอะไรผิดต่อคุณ หรือเป็นหนี้อะไรคุณ ก็ให้มาคิดเอากับผมได้เลย 19 ผม เปาโล เขียนด้วยมือของผมเองว่า ผมจะจ่ายคืนให้กับคุณเอง และจะไม่อ้างถึงเรื่องที่คุณเป็นหนี้ชีวิตผมด้วย 20 ใช่แล้วน้อง ขอให้ผมได้ประโยชน์จากคุณบ้างในองค์เจ้าชีวิต ช่วยทำให้ผมชื่นใจขึ้นในพระคริสต์ด้วย 21 ที่ผมเขียนจดหมายนี้มาให้เพราะผมแน่ใจว่าคุณจะเชื่อฟัง และทำมากยิ่งกว่าที่ผมขอเสียอีก

22 อีกอย่างหนึ่ง ช่วยจัดเตรียมห้องให้กับผมด้วย เพราะผมเชื่อว่า พระเจ้าจะส่งผมมาหาคุณตามที่พวกคุณได้อธิษฐานนั้น

คำลงท้าย

23 เอปาฟรัสเพื่อนที่ติดคุกกับผมเพราะเห็นแก่พระคริสต์ ฝากความคิดถึงมาให้คุณด้วย 24 รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของผม มาระโก อาริสทารคัส เดมาส และลูกาก็ฝากความคิดถึงมาให้กับคุณด้วยเหมือนกัน 25 ขอให้ความเมตตากรุณาของพระเยซูคริสต์เจ้าอยู่กับวิญญาณของพวกคุณด้วย

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International