Chronological
คนใหม่ย้ายไปอยู่เยรูซาเล็ม
11 พวกผู้นำของประชาชน พากันเข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม ส่วนประชาชนที่เหลือก็จับสลากกัน เพื่อเลือกเอาสิบเปอร์เซ็นต์ของประชาชนมาอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือก็ให้ไปอยู่ตามเมืองอื่นๆ 2 ประชาชนต่างพากันอวยพรคนเหล่านั้นที่สมัครใจมาอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม
3 คนเหล่านี้คือพวกผู้นำของมณฑลที่มาอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม (พวกอิสราเอลบางคน พวกนักบวช พวกคนเลวี พวกคนรับใช้ในวิหาร และพวกลูกหลานของคนรับใช้ของกษัตริย์ซาโลมอน ต่างก็พากันอาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆของแคว้นยูดาห์ พวกเขาอาศัยอยู่ในที่ดินของตนในเมืองของตน 4 มีบางคนจากครอบครัวของยูดาห์ และของเบนยามิน อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม)
พวกลูกหลานของยูดาห์ที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม
มีดังต่อไปนี้คือ อาธายาห์ ลูกชายของอุสซียาห์ ที่เป็นลูกชายของเศคาริยาห์ ที่เป็นลูกชายของอามาริยาห์ ที่เป็นลูกชายของเชฟาทิยาห์ ที่เป็นลูกชายของมาหะลาเลล ที่เป็นคนหนึ่งในพวกลูกหลานของเปเรศ 5 และมาอาเสอาห์ ลูกชายของบารุค ที่เป็นลูกชายของคลโฮเซห์ ที่เป็นลูกชายของฮาซายาห์ ที่เป็นลูกชายของอาดายาห์ ที่เป็นลูกชายของโยยาริบ ที่เป็นลูกชายของเศคาริยาห์ ที่เป็นลูกหลานคนหนึ่งของชิโลห์ 6 พวกลูกหลานของเปเรศ ที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม มีทั้งหมดสี่ร้อยหกสิบแปดคน ล้วนแต่เป็นผู้กล้าหาญ
7 พวกลูกหลานของเบนยามินที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม
มีดังต่อไปนี้ คือ สัลลู ลูกชายของเมชุลลาม ที่เป็นลูกชายของโยเอด ที่เป็นลูกชายของเปดายาห์ ที่เป็นลูกชายของโคลายาห์ ที่เป็นลูกชายของมาอาเสอาห์ ที่เป็นลูกชายของอิธีเอล ที่เป็นลูกชายของเยชายาห์ 8 และต่อจากเขาไปมีกับบัย และสัลลัย รวมกันทั้งหมดมีเก้าร้อยยี่สิบแปดคน 9 โยเอล ลูกชายของศิครี ได้รับการแต่งตั้งให้ปกครองพวกเขา ส่วนยูดาห์ ลูกชายของหัสเสนูอาห์ เป็นรองผู้บัญชาการของเมือง
10 พวกนักบวชที่มาอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม
มีดังต่อไปนี้คือ เยดายาห์ลูกชายของโยยาริบยาคีน 11 และเสไรอาห์ผู้ควบคุมดูแลวิหารของพระเจ้า เขาเป็นลูกชายฮิลคียาห์ ที่เป็นลูกชายเมชุลลาม ที่เป็นลูกชายศาโดก ที่เป็นลูกชายเมราโยท ที่เป็นลูกชายอาหิทูบ 12 รวมทั้งเพื่อนร่วมงานทั้งหมดของพวกเขาที่ทำงานอยู่ในวิหาร มีจำนวนแปดร้อยยี่สิบสองคน นอกจากนั้นยังมีอาดายาห์ ลูกชายเยโรฮัม ที่เป็นลูกชายเปไลยาห์ ที่เป็นลูกชายอัมซี ที่เป็นลูกชายเศคาริยาห์ ที่เป็นลูกชายปาชเฮอร์ ที่เป็นลูกชายมัลคิยาห์ 13 รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของเขา ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว มีสองร้อยสี่สิบสองคน และยังมีอามาชสัยลูกชายของอาซาเรล ที่เป็นลูกชายอัคซัย ที่เป็นลูกชายเมชิลเลโมท ที่เป็นลูกชายอิมเมอร์ 14 รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของเขา ที่เป็นนักรบเก่งกล้า มีหนึ่งร้อยยี่สิบแปดคน มีเจ้าหน้าที่ปกครองเหนือพวกเขาคือศับดีเอล ลูกชายของฮักเกโดลิม
15 พวกชาวเลวีที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม
มีดังนี้ คือ เชไมอาห์ ลูกชายของหัสชูบ ที่เป็นลูกชายอัสรีคัม ที่เป็นลูกชายฮาชาบิยาห์ ที่เป็นลูกชายบุนนี 16 รวมทั้งชับเบธัยกับโยซาบาด ผู้นำสองคนของชาวเลวี สองคนนี้ดูแลงานด้านนอกของวิหารของพระเจ้า 17 มัทธานิยาห์ ผู้เป็นหัวหน้านำการร้องเพลงขอบคุณในช่วงเวลาอธิษฐาน เขาเป็นลูกชายมีคา ที่เป็นลูกชายศับดี ที่เป็นลูกชายอาสาฟ และมีบัคบูคิยาห์ เป็นรองหัวหน้าในหมู่เพื่อนร่วมงานของเขา และอับดา ลูกชายของชัมมุอา ที่เป็นลูกชายของกาลาล ที่เป็นลูกชายของเยดูธูน 18 ดังนั้น มีพวกชาวเลวีที่อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเมืองศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้นสองร้อยแปดสิบสี่คน
19 พวกคนเฝ้าประตู ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม
มีดังต่อไปนี้คือ อักขูบ ทัลโมน และเพื่อนร่วมงานที่เฝ้าประตูของพวกเขา มีจำนวนหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองคน
20 ส่วนชาวอิสราเอลที่เหลือ พวกนักบวชที่เหลือ และพวกชาวเลวีที่เหลือนั้น ก็ได้ไปอาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆของแคว้นยูดาห์ พวกเขาต่างก็ไปอยู่ในที่ดินของบรรพบุรุษของตน 21 พวกคนรับใช้ในวิหาร อาศัยอยู่บนเนินเขาโอเฟล โดยมีศีหะและกิชปาเป็นผู้ดูแลพวกคนรับใช้ในวิหารเหล่านั้น
22 หัวหน้าของพวกชาวเลวีในเยรูซาเล็ม คืออุสซี ลูกชายบานี ที่เป็นลูกของฮาชาบิยาห์ ที่เป็นลูกชายมัทธานิยาห์ ที่เป็นลูกชายมีคา ที่เป็นคนหนึ่งในพวกลูกหลานของอาสาฟ ที่เป็นพวกนักร้อง ที่มีหน้าที่ร้องเพลงรับใช้อยู่ในวิหารของพระเจ้า 23 พวกนักร้องนี้ รับคำสั่งจากกษัตริย์ กษัตริย์จะบอกพวกเขาว่าให้ทำอะไรบ้างในแต่ละวัน 24 เปธาหิยาห์ เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับประชาชน เขาเป็นลูกชายเมเชซาเบล ที่เป็นลูกหลานคนหนึ่งของเศราห์ ที่เป็นลูกชายของยูดาห์
หมู่บ้านรอบเมืองเยรูซาเล็ม
25 คนยูดาห์บางคนไปอาศัยอยู่ตามหมู่บ้านและไร่นาต่างๆเหล่านี้ คือเมืองคิริยาทอารบา และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองนั้น เมืองดีโบนและหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองนั้น และเมืองเยขับเซเอลและหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองนั้น 26 และเมืองเยชูอา ในเมืองโมลาดาห์ และในเมืองเบธเปเลต 27 ในเมืองฮาซารชูอาล ในเมืองเบเออร์เชบา และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองเหล่านั้น 28 ในเมืองศิกลาก ในเมืองเมโคนาห์ และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองเหล่านั้น 29 ในเมืองเอนริมโมน ในเมืองโศราห์ ในเมืองยารมูท 30 ในเมืองศาโนอาห์ ในเมืองอดุลลัม และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองเหล่านั้น ในเมืองลาคีชและตามไร่นาของเมืองนั้น ในเมืองอาเซคาห์ และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองนั้น พวกเขาพากันตั้งถิ่นฐาน ตั้งแต่เมืองเบเออร์เชบา ไปจนถึงหุบเขาฮินโนม
31 คนเบนยามิน บางคนก็ไปตั้งถิ่นฐานในเมืองเกบา ในเมืองมิคมาช ในเมืองอัยยา ในเมืองเบธเอล และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองเหล่านั้น 32 ในเมืองอานาโธท ในเมืองโนบ ในเมืองอานานิยาห์ 33 ในเมืองฮาโซร์ ในเมืองรามา ในเมืองกิททาอิม 34 ในเมืองฮาดิด ในเมืองเศโบอิม ในเมืองเนบัลลัท 35 ในเมืองโลด และในเมืองโอโน และในหุบเขาของบรรดาช่างฝีมือ 36 บางกลุ่มของครอบครัวเลวีที่อยู่ในแคว้นยูดาห์ ได้รับมอบหมายให้ย้ายไปอยู่กับเผ่าเบนยามิน
พวกนักบวชและพวกชาวเลวี
12 พวกนักบวช และพวกชาวเลวี ที่มาเมืองเยรูซาเล็ม พร้อมกับเศรุบบาเบลลูกชายของเชอัลทิเอล กับเยชูอาคือ เสไรอาห์ เยเรมียาห์ เอสรา 2 อามาริยาห์ มัลลูค ฮัทธัช 3 เชคานิยาห์ เรฮูม เมเรโมท 4 อิดโด กินเนธอย อาบียาห์ 5 มิยามิน มาอาดียาห์ บิลกาห์ 6 เชไมอาห์ โยยาริบ เยดายาห์ 7 สัลลู อาโมค ฮิลคียาห์ และเยดายาห์ คนเหล่านี้คือพวกหัวหน้านักบวช และพี่น้องของพวกเขาในสมัยของเยชูอา
8 พวกชาวเลวี ก็มี เยชูอา บินนุย ขัดมีเอล เชเรบิยาห์ ยูดาห์ และมัทธานิยาห์ มัทธานิยาห์และเพื่อนร่วมงานของเขา มีหน้าที่จัดการเรื่องเพลงขอบคุณพระเจ้า 9 เพื่อนร่วมงานของพวกเขาคือ บัคบูคิยาห์ และอุนโน สองคนนี้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามพวกเขา ในช่วงที่รับใช้ด้วยเสียงเพลงอยู่นั้น 10 เยชูอาเป็นพ่อของโยยาคิม โยยาคิมเป็นพ่อของเอลียาชีบ เอลียาชีบเป็นพ่อของโยยาดา 11 และโยยาดาเป็นพ่อของโยนาธาน โยนาธานเป็นพ่อของยาดดูวา
12 ในสมัยของโยยาคิม ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของหัวหน้าครอบครัวนักบวช คือ
เมรายาห์ เป็นหัวหน้าครอบครัวเสไรอาห์
ฮานันยาห์ เป็นหัวหน้าครอบครัวเยเรมียาห์
13 เมชุลลามเป็นหัวหน้าครอบครัวเอสรา
เยโฮฮานันเป็นหัวหน้าครอบครัวอามาริยาห์
14 โยนาธาน เป็นหัวหน้าครอบครัวมัลลูคี
โยเซฟ เป็นหัวหน้าครอบครัวเชบานิยาห์
15 อัดนา เป็นหัวหน้าครอบครัวฮาริม
เฮลคาย เป็นหัวหน้าครอบครัวเมราโยท
16 เศคาริยาห์ เป็นหัวหน้าครอบครัวอิดโด
เมชุลลาม เป็นหัวหน้าครอบครัวกินเนโธน
17 ศิครี เป็นหัวหน้าครอบครัวอาบียาห์[a] เป็นหัวหน้าครอบครัวมินยามิน
ปิลทัยเป็นหัวหน้าครอบครัวโมอัดยาห์
18 ชัมมุอา เป็นหัวหน้าครอบครัวบิลกาห์
เยโฮนาธัน เป็นหัวหน้าครอบครัวเชไมอาห์
19 มัทเธนัย เป็นหัวหน้าครอบครัวโยยาริบ
อุสซีเป็นหัวหน้าครอบครัวเยดายาห์
20 คาลลัย เป็นหัวหน้าครอบครัวสัลลัย
เอเบอร์ เป็นหัวหน้าครอบครัวอาโมค
21 ฮาชาบิยาห์ เป็นหัวหน้าครอบครัวฮิลคียาห์ เนธันเอลเป็นหัวหน้าครอบครัวเยดายาห์
22 ในสมัยของเอลียาชีบ โยยาดา โยฮานัน และยาดดูวาได้มีการบันทึกรายชื่อของพวกหัวหน้าครอบครัวชาวเลวี ในสมัยของกษัตริย์ดาริอัส[b]แห่งเปอร์เซีย ได้มีการจดรายชื่อของพวกนักบวช 23 รายชื่อของพวกหัวหน้าครอบครัวชาวเลวี ได้จดบันทึกไว้ในหนังสือมาจนถึงสมัยของโยฮานัน ลูกชายของเอลียาชีบ 24 พวกหัวหน้าของพวกชาวเลวีได้แก่ ฮาชาบิยาห์ เชเรบิยาห์ เยชูอา
บินนุย ขัดมีเอล และเพื่อนร่วมงานของพวกเขาที่ยืนอยู่ตรงข้ามพวกเขาที่ร้องสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้า ตามคำสั่งของดาวิดคนของพระเจ้า และมีอีกกลุ่มหนึ่งร้องตอบกลับมาจากฝั่งตรงข้าม
25 มัทธานิยาห์ บัคบูคิยาห์ โอบาดีห์ เมชุลลาม ทัลโมน และอักขูบ เป็นยามเฝ้าประตู ยืนเฝ้าอยู่ตามประตูทั้งหลายข้างๆพวกห้องเก็บของ 26 คนเหล่านี้รับใช้อยู่ในสมัยของโยยาคิม ลูกชายเยชูอาที่เป็นลูกโยซาดัก และในสมัยที่เนหะมียาห์เป็นเจ้าเมือง และเอสราเป็นนักบวชและอาจารย์
พิธีมอบถวายกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม
27 เมื่อถึงเวลามอบถวายกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม พวกเขาพากันค้นหาพวกชาวเลวีจากทั่วทุกหนแห่ง และพาพวกเขามาที่เมืองเยรูซาเล็ม เพื่อเฉลิมฉลองพิธีมอบถวายกำแพงด้วยความยินดี มีคณะนักร้องขับร้องเพลงขอบคุณพระเจ้า และมีการร้องเพลง ด้วยฉาบ พิณใหญ่ และพิณเล็ก
28 พวกเขาได้ไปรวบรวมพวกนักร้องมาจากมณฑลรอบๆเมืองเยรูซาเล็ม และจากหมู่บ้านต่างๆของเมืองเนโทฟาห์ 29 เมืองเบธกิลกาล และจากทุ่งนาเกบา และอัสมาเวท เนื่องจากพวกนักร้อง ได้สร้างหมู่บ้านของตนขึ้นล้อมรอบเมืองเยรูซาเล็ม
30 บรรดานักบวชและพวกชาวเลวี ต่างชำระตนให้บริสุทธิ์ และชำระประชาชน รวมทั้งประตูและกำแพงเมืองให้บริสุทธิ์
31 จากนั้น ผมจึงนำพวกหัวหน้าของยูดาห์ ขึ้นไปบนกำแพงเมือง และแต่งตั้งคณะนักร้องใหญ่ขึ้นสองกลุ่ม ไว้ร้องเพลงขอบคุณพระเจ้า นักร้องกลุ่มแรกไปทางขวาของกำแพงไปจนถึงประตูกองขยะ 32 ถัดจากพวกเขาไปคือโฮชายาห์ และพวกหัวหน้ายูดาห์ ครึ่งหนึ่ง 33 รวมทั้งอาซาริยาห์ เอสรา เมชุลลาม 34 ยูดาห์ เบนยามิน เชไมอาห์ และเยเรมียาห์ 35 และมีพวกนักบวชบางคนที่มีแตร รวมทั้งมีเศคาริยาห์ ลูกชายโยนาธาน ที่เป็นลูกชายเชไมอาห์ ที่เป็นลูกชายมัทธานิยาห์ ที่เป็นลูกชายมีคายาห์ ที่เป็นลูกชายศักเกอร์ ที่เป็นลูกชายอาสาฟ 36 รวมทั้งพวกญาติพี่น้องของเขาคือ เชไมอาห์ อาซาเรล มิลาลัย กิลาลัย มาอัย เนธันเอล ยูดาห์ และฮานานี พร้อมกับเครื่องดนตรีของดาวิดคนของพระเจ้า เอสราผู้เป็นอาจารย์ เดินนำหน้าพวกเขา 37 พวกเขาเดินไปจนถึงประตูน้ำพุ แล้วพวกเขาเดินตรงขึ้นบันไดของเมืองดาวิด[c] ผ่านทางบันไดที่ขึ้นไปบนกำแพงเมือง ผ่านวังของดาวิด ไปถึงประตูน้ำที่อยู่ทางทิศตะวันออก
38 คณะนักร้องกลุ่มที่สองที่ร้องขอบคุณพระเจ้า เดินไปทางซ้าย และผมกับอีกครึ่งหนึ่งของพวกผู้นำประชาชน ได้เดินตามพวกเขาไปบนกำแพง ผ่านหอคอยเตาอบ ไปจนถึงกำแพงกว้าง 39 ผ่านประตูเอฟราอิม และประตูเมืองเก่า[d] ประตูปลา หอคอยฮานันเอล หอคอยร้อยพล จนถึงประตูแกะ และมาหยุดที่ประตูยาม 40 นักร้องขอบคุณพระเจ้าทั้งสองกลุ่มยืนประจำที่ในวิหารของพระเจ้า เช่นเดียวกับผมและเจ้าหน้าที่ครึ่งหนึ่งที่อยู่กับผม 41 นักบวชที่มีแตร คือเอลียาคิม มาอาเสอาห์ มินยามิน มีคายาห์ เอลีโอเอนัย เศคาริยาห์ และฮานันยาห์ 42 และมีนักบวชชื่อ มาอาเสอาห์ เชไมอาห์ เอเลอาซาร์ อุสซี เยโฮฮานัน มัลคิยาห์ เอลาม และเอเซอร์
บรรดานักร้องต่างร้องเพลง มียิสรายาห์เป็นหัวหน้าพวกเขา 43 ในวันนั้น พวกเขาพากันถวายเครื่องบูชาอันยิ่งใหญ่ด้วยความยินดี เพราะพระเจ้าทำให้พวกเขามีความสุขสนุกสนานรื่นเริงยิ่งนัก พวกผู้หญิงและเด็กต่างก็พากันรื่นเริงด้วย เสียงรื่นเริงในเยรูซาเล็มนั้นได้ยินไปไกล
44 ในช่วงนั้น พวกเขาได้เลือกผู้ชายบางคนขึ้นมาเพื่อดูแลพวกห้องเก็บของ ที่เอาไว้เก็บของถวาย เก็บพวกผลผลิตแรกของปี เก็บของที่คนเอามาถวายจากสิบเปอร์เซ็นต์ของผลผลิตของเขา ผู้ชายพวกนี้จะต้องเก็บรวบรวมผลผลิตจากพวกไร่นาที่เป็นของเมือง ตามที่กฎของโมเสสได้กำหนดไว้ให้ประชาชนเอามาให้กับพวกนักบวช และพวกเลวี คนยูดาห์พอใจกับพวกนักบวชและพวกเลวีเหล่านั้นที่รับใช้อยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ 45 พวกนักบวชและพวกเลวี ทำหน้าที่รับใช้พระเจ้าของพวกเขา และทำพิธีชำระต่างๆ ส่วนพวกนักร้อง และพวกยามเฝ้าประตูก็ทำหน้าที่ของตนตามคำสั่งของดาวิดและซาโลมอนผู้เป็นลูกชายเขา 46 นานมาแล้ว ในสมัยของดาวิด และอาสาฟ พวกเขามีคณะผู้นำนักร้อง และผู้นำสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้า
47 ดังนั้นในสมัยของเศรุบบาเบล และในสมัยของเนหะมียาห์ คนอิสราเอลทั้งหมดจึงได้แบ่งอาหารส่วนหนึ่งให้กับพวกนักร้องและพวกยามเฝ้าประตูตามความต้องการในแต่ละวัน พวกเขายังแบ่งอาหารส่วนหนึ่งให้แก่พวกชาวเลวี และพวกชาวเลวีก็ได้แบ่งอาหารส่วนหนึ่งให้แก่ผู้สืบเชื้อสายมาจากอาโรน
คำสั่งสุดท้ายของเนหะมียาห์
13 ในวันนั้นพวกเขาอ่านหนังสือของโมเสสให้ประชาชนฟัง พวกเขาพบข้อความซึ่งเขียนไว้ว่า ไม่ควรให้ชาวอัมโมนหรือชาวโมอับเข้าในที่ประชุมเพื่อนมัสการพระเจ้า 2 เพราะชาวอัมโมนและชาวโมอับไม่ได้ให้ขนมปังและน้ำกับชาวอิสราเอล แต่กลับจ้างบาลาอัมมาสาปแช่งพวกอิสราเอล แต่พระเจ้าได้เปลี่ยนคำสาปแช่งเป็นคำอวยพร[e] 3 เมื่อประชาชนได้ยินกฎบัญญัติ พวกเขาก็แยกคนต่างชาติออกจากคนอิสราเอล
4 ก่อนหน้านี้ เอลียาชีบผู้เป็นนักบวช มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลห้องต่างๆในวิหารของพระเจ้า เขาได้แต่งงานกับญาติของโทบีอาห์ชาวอัมโมน 5 เอลียาชีบได้ยกห้องใหญ่ห้องหนึ่งให้กับโทบีอาห์ ซึ่งเป็นห้องที่มีไว้เพื่อเก็บเครื่องถวายจากเมล็ดพืช เครื่องหอม เครื่องใช้ต่างๆของวิหาร และใช้เก็บสิบเปอร์เซ็นต์ของเมล็ดพืช ของเหล้าองุ่นใหม่ และของน้ำมัน สำหรับพวกชาวเลวี พวกนักร้อง และพวกยามเฝ้าประตู และเอาไว้เก็บของที่คนนำมาถวายให้กับพวกนักบวชด้วย ตามที่บัญญัติของโมเสสสั่งไว้
6 ตอนที่เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้อยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม เนื่องจากผมได้กลับไปหากษัตริย์อารทาเซอร์ซีสแห่งบาบิโลน ซึ่งตรงกับปีที่สามสิบสองที่พระองค์ขึ้นครองราชย์[f] แต่ต่อมา ผมได้ขออนุญาตกษัตริย์ 7 และกลับมายังเมืองเยรูซาเล็ม ผมได้รู้ถึงสิ่งที่เอลียาชีบผู้ชั่วร้ายได้ทำให้โทบีอาห์ นั่นคือเขาได้ยกห้องๆหนึ่งในวิหารของพระเจ้าให้กับโทบีอาห์ 8 ผมถือว่ามันเป็นเรื่องชั่วร้ายมาก ดังนั้น ผมจึงโยนข้าวของของโทบีอาห์ออกไปนอกห้อง 9 แล้วผมสั่งให้ชำระห้องให้บริสุทธิ์ และเอาเครื่องใช้ต่างๆของวิหารของพระเจ้า รวมทั้งเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช และเครื่องหอม กลับไปไว้ในห้องนั้นอย่างเดิม
10 ผมยังได้รับรู้อีกว่า พวกชาวเลวีไม่ได้รับส่วนแบ่งของพวกเขา ดังนั้นพวกชาวเลวีและพวกนักร้องที่ทำหน้าที่รับใช้อยู่ในวิหาร จึงกลับไปยังไร่นาของตน 11 ผมต่อว่าพวกเจ้าหน้าที่ว่า “ทำไมวิหารของพระเจ้าถึงได้ถูกละเลยอย่างนี้” แล้วผมจึงรวบรวมพวกชาวเลวี และพวกนักร้องกลับไปยืนอยู่ประจำที่ของพวกเขา 12 จากนั้นพวกคนยูดาห์ทั้งหมดจึงนำสิบเปอร์เซ็นต์ของเมล็ดพืช สิบเปอร์เซ็นต์ของเหล้าองุ่นใหม่ และสิบเปอร์เซ็นต์ของน้ำมัน มาไว้ยังพวกห้องเก็บของของวิหาร
13 แล้วผมได้แต่งตั้งคนขึ้นมาดูแลห้องเก็บของเหล่านั้น คือ เชเลมิยาห์ที่เป็นนักบวช ศาโดกที่เป็นอาจารย์ และเปดายาห์ที่เป็นชาวเลวี รวมทั้งแต่งตั้งฮานัน ลูกชายศักเกอร์ ที่เป็นลูกของมัทธานิยาห์ ให้เป็นผู้ช่วยพวกเขา เพราะพวกเขาเป็นคนซื่อสัตย์ ดังนั้นพวกเขาจึงมีหน้าที่แจกจ่ายส่วนแบ่งให้กับเพื่อนร่วมงานของพวกเขา
14 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า
ขอโปรดระลึกถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ทำให้กับพระองค์
ขอพระองค์อย่าได้ลืมการดี
ที่ข้าพเจ้าได้ทำไปอย่างสัตย์ซื่อ
เพื่อวิหารของพระเจ้าของข้าพเจ้า
และเพื่อการรับใช้ทั้งหลายในวิหารนั้น
15 ในครั้งนั้น ผมเห็นประชาชนในยูดาห์ ได้เหยียบย่ำองุ่นอยู่ในบ่อ ทั้งๆที่เป็นวันหยุดทางศาสนา แถมยังเอาเมล็ดข้าวมากมายใส่ไว้บนหลังลา รวมทั้งเหล้าองุ่น ผลองุ่น มะเดื่อ และสัมภาระอื่นๆอีกหลายอย่าง แล้วพวกเขาก็นำของทั้งหมดนี้ไปยังเมืองเยรูซาเล็มในวันหยุดทางศาสนา ผมได้เตือนพวกเขาไม่ให้ขายอาหารในวันหยุดทางศาสนา
16 พวกชาวไทระที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม ได้นำปลาและของหลายอย่างมาขาย และพวกเขากำลังขายให้กับคนยูดาห์และคนที่อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มในวันหยุดทางศาสนา 17 ผมเถียงกับพวกขุนนางของยูดาห์ และพูดกับพวกเขาว่า “รู้ไหมว่าพวกเจ้ากำลังทำสิ่งชั่วร้ายอะไรอยู่ พวกเจ้ากำลังละเมิดความศักดิ์สิทธิ์ของวันหยุดทางศาสนา” 18 บรรพบุรุษของพวกเจ้าก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน พระเจ้าของเราถึงได้นำความหายนะมาสู่พวกเราและเมืองนี้ พวกเจ้ากำลังละเมิดความศักดิ์สิทธิ์ของวันหยุดทางศาสนา พวกเจ้ากำลังนำโทษมาสู่อิสราเอลมากขึ้น
19 ผมก็เลยทำอย่างนี้คือ ในวันก่อนวันหยุดทางศาสนา เมื่อเริ่มมืด ผมได้สั่งให้ปิดประตูเมืองเยรูซาเล็มทั้งหมด และสั่งไม่ให้เปิดจนกว่าจะเลยวันหยุดทางศาสนาไป ผมให้คนรับใช้ของผมเฝ้าเวรที่ประตู เพื่อไม่ให้มีการขนของเข้ามาในเมืองในวันหยุดทางศาสนา
20 มีครั้งหรือสองครั้งที่พวกพ่อค้าและคนขายสินค้าต่างๆมานอนค้างคืนอยู่นอกกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม 21 ผมเตือนพวกเขาว่า
“พวกเจ้ามานอนค้างคืนอยู่หน้ากำแพงเมืองทำไม ถ้าพวกเจ้าทำอย่างนี้อีก เราจะใช้กำลังกับพวกเจ้า”
หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่กลับมาในวันหยุดทางศาสนาอีกเลย
22 หลังจากนั้น ผมบอกกับพวกชาวเลวีให้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ และให้ไปเฝ้าระวังประตูเมือง เพื่อรักษาวันหยุดทางศาสนาให้ศักดิ์สิทธิ์
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า
ขอโปรดระลึกถึงสิ่งนี้ที่ข้าพเจ้าได้ทำให้กับพระองค์
ขอเมตตาข้าพเจ้าด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
23 ในครั้งนั้นผมเห็นชายชาวยูดาห์ แต่งงานกับหญิงชาวอัชโดด ชาวอัมโมน และชาวโมอับ 24 ครึ่งหนึ่งของลูกๆพวกเขา พูดภาษาอัชโดด หรือภาษาของชนชาติอื่น พวกเด็กๆเหล่านั้นพูดภาษายูดาห์ไม่เป็น 25 ผมจึงบอกคนเหล่านั้นว่าพวกเขาทำผิด และสาปแช่งพวกเขา และผมได้ทุบตีพวกเขาบางคนและดึงผมของพวกเขา และทำให้พวกเขาสาบานในนามของพระเจ้า ผมพูดว่า “พวกเจ้าจะต้องไม่ยกลูกสาวให้เป็นเมียลูกชายของคนพวกนั้น และเจ้าเองก็ต้องไม่รับเอาลูกสาวของพวกเขามาเป็นเมียลูกชายของเจ้า หรือเป็นเมียเจ้าเอง 26 ที่กษัตริย์ซาโลมอน[g]แห่งอิสราเอลได้ทำบาปนั้นเป็นเพราะพวกผู้หญิงอย่างพวกนี้ไม่ใช่หรือ ในพวกประเทศทั้งหลาย ไม่มีกษัตริย์องค์ไหนที่เป็นเหมือนกับกษัตริย์ซาโลมอน ที่พระเจ้าของพระองค์ได้รักพระองค์มากขนาดนั้น พระเจ้าทำให้ซาโลมอนเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งหมด แต่เมียต่างชาติพวกนั้นทำให้พระองค์ทำบาป
27 แล้วอย่างนี้พวกเราควรฟังเจ้าหรือ และทำความชั่วที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ และทรยศต่อพระเจ้าของเราโดยแต่งงานกับพวกหญิงต่างชาติอย่างนั้นหรือ”
28 เอลียาชีบผู้เป็นนักบวชสูงสุดมีลูกชายคนหนึ่งชื่อว่าเยโฮยาดา ที่เป็นลูกเขยของสันบาลลัทชาวโฮโรนาอิม ผมได้ไล่เยโฮยาดาให้ไปอยู่ห่างไกลจากผม
29 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า
ขอโปรดระลึกถึงสิ่งที่พวกเขาทำต่อพระองค์
และลงโทษพวกเขาด้วยเถิด
เพราะพวกเขาได้ทำให้ความเป็นนักบวชเสื่อมไป
พวกเขาได้ทำให้ข้อตกลงที่พระองค์ได้ทำไว้กับพวกนักบวชและพวกชาวเลวีเสื่อมไป
30 ดังนั้นผมจึงชำระพวกนักบวชและพวกชาวเลวีให้บริสุทธิ์จากวิถีทางทั้งหมดของคนต่างชาติ แล้วให้พวกเขากลับไปทำหน้าที่ที่พวกเขาต้องรับผิดชอบ 31 ผมยังได้จัดการเรื่องการหาไม้ฟืนสำหรับแท่นบูชามาตามเวลาที่ได้กำหนดไว้ และยังจัดการเรื่องการถวายผลแรกของปี
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า
ขอโปรดระลึกถึงสิ่งนี้ที่ข้าพเจ้าได้ทำให้กับพระองค์
และขอโปรดอวยพรข้าพเจ้าด้วยเถิด
ขอให้ความรุ่งเรืองกลับมา
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร
1 เมื่อพระยาห์เวห์ทำให้ศิโยนเจริญรุ่งเรืองเหมือนเดิม
พวกเราคิดว่าเราฝันไป
2 ตอนนั้นพวกเรามีความสุขมากและโห่ร้องด้วยความยินดี
แม้แต่คนต่างชาติก็ยังพูดว่า “พระยาห์เวห์ทำสิ่งต่างๆที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนพวกนี้”
3 ใช่แล้ว พระยาห์เวห์ทำสิ่งต่างๆที่ยิ่งใหญ่
ให้กับพวกเราและพวกเราได้ฉลองกัน
4 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ช่วยนำความเจริญรุ่งเรืองกลับมาให้กับพวกเราอีกครั้ง
เหมือนฝนนำน้ำมาสู่ลำธารที่แห้งขอดอีกครั้ง
5 ขอให้คนเหล่านั้นที่หว่านพืชพร้อมน้ำตา
ได้เก็บเกี่ยวพร้อมกับเสียงโห่ร้องยินดี
6 ขอให้คนเหล่านั้นที่แบกถุงที่ใส่เมล็ดพืชออกไปหว่านในทุ่งด้วยน้ำตา
ได้โห่ร้องยินดีเมื่อแบกฟ่อนข้าวกลับมาเป็นมัดๆ
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International