Chronological
พระเจ้าสัญญาว่าจะอวยพรเยรูซาเล็ม
8 ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นที่มาถึงผมพูดว่า 2 “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด ‘เราหึงหวงศิโยน ด้วยความหึงหวงมาก เราหึงหวงเธออย่างแรงกล้า’ 3 พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ คือ ‘เราได้กลับมายังศิโยน และเราจะอาศัยอยู่ท่ามกลางเยรูซาเล็ม ดังนั้นเยรูซาเล็มจะมีชื่อเรียกว่า “เมืองแห่งความสัตย์ซื่อ” และภูเขาของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น จะมีชื่อเรียกว่า “ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์”’”
4 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดคือ “คนแก่ทั้งชายและหญิงจะได้มานั่งพักผ่อนกันตามลานเมืองทั้งหลายของเยรูซาเล็มอีก ผู้ชายแต่ละคนจะถือไม้เท้าอยู่ในมือเพราะแก่แล้ว 5 ตามลานเมืองทั้งหลายจะเต็มไปด้วยเด็กๆทั้งชายและหญิงวิ่งเล่นกัน” 6 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นถามคือ “ถึงแม้มันจะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในสายตาของคนที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบันนี้ นั่นหมายความว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ในสายตาของเราด้วยหรือ” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นถาม
7 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด คือ “เรากำลังจะช่วยกู้คนของเราจากแผ่นดินทางทิศตะวันออก และทางทิศตะวันตก 8 เราจะนำพวกเขามาอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มนี้ พวกเขาจะเป็นคนของเรา และเราก็จะเป็นพระเจ้าของพวกเขา ที่สัตย์ซื่อและชอบธรรม”
9 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดคือ “กล้าหาญไว้ พวกเจ้าที่เพิ่งได้ยินคำเหล่านี้จากปากของพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ตอนวางรากฐานสร้างวิหารของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นขึ้นมาใหม่ 10 ก่อนหน้าที่จะสร้างวิหารนั้น ไม่มีเงินพอที่จะจ้างคนงานแม้แต่คนเดียว ไม่มีเงินพอที่จะเช่าสัตว์สักตัวมาใช้งาน คนที่เดินทางก็ไม่มีความปลอดภัยจากศัตรู และเราก็ได้ทำให้แต่ละคนเป็นศัตรูกัน 11 แต่ตอนนี้ จะไม่เหมือนตอนนั้นอีกแล้ว เราจะเป็นพระเจ้าของคนที่ยังเหลืออยู่พวกนี้” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่าอย่างนั้น
12 “พวกเขาจะหว่านเมล็ดพืชในเวลาที่สงบศึก ต้นองุ่นจะออกผลของมัน ผืนดินจะให้ผลผลิต ท้องฟ้าจะให้ฝน และเราจะยกสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดให้เป็นสมบัติของคนของเราที่ยังเหลืออยู่ 13 คนยูดาห์และคนอิสราเอลเอ๋ย ชนชาติทั้งหลายเคยพูดว่า พวกเจ้าเป็นตัวอย่างของคนที่ถูกสาปแช่ง แต่อีกไม่ช้า เราจะช่วยกู้พวกเจ้า และคนก็จะพูดถึงพวกเจ้าว่า เป็นตัวอย่างของคนที่ได้รับพระพร ไม่ต้องกลัว กล้าหาญไว้”
14 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด คือ “เราเคยตั้งใจจะทำให้เกิดความหายนะขึ้นกับเจ้า ตอนที่บรรพบุรุษของเจ้าทำให้เราโกรธ และเราก็ไม่ได้เปลี่ยนใจ” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่าอย่างนั้น 15 “แล้วในวันนี้ เราตั้งใจที่จะทำดีต่อคนเยรูซาเล็มและคนยูดาห์ ดังนั้นอย่าได้กลัวเลย 16 พวกเจ้าจะต้องทำสิ่งเหล่านี้ คือ ให้พูดแต่ความจริงเท่านั้นต่อเพื่อนบ้านของตน ให้ตัดสินอย่างยุติธรรมในศาลเพื่อก่อให้เกิดสันติภาพ 17 พวกเจ้าจะต้องไม่วางแผนชั่วร้ายในใจต่อเพื่อนบ้านของตน เจ้าต้องไม่เป็นพยานเท็จ เพราะทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราเกลียด” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
18 ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ได้มาถึงผมว่า 19 “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด ‘วันอดอาหารในเดือนสี่ เดือนห้า เดือนเจ็ดและเดือนสิบ จะกลายเป็นเวลาชื่นชมยินดีและเฉลิมฉลองกัน เป็นเทศกาลแห่งความสุขสำหรับคนยูดาห์ แต่พวกเจ้าจะต้องรักความจริงและรักสันติภาพ’”
20 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด คือ
“ในอนาคตผู้คนและพลเมืองจากหลายๆเมืองจะมาที่เยรูซาเล็ม
21 คนของเมืองหนึ่งจะพูดกับคนของอีกเมืองหนึ่งว่า
‘พวกเราไปขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์กันเถอะ
ไปนมัสการพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นกันเถอะ ผมเองกำลังจะไป’”
22 คนเป็นจำนวนมาก และชนชาติต่างๆที่มีอำนาจ จะมานมัสการพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นในเยรูซาเล็ม และมาแสวงหาความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ 23 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด คือ “ในวันเหล่านั้น ชาวยิวแต่ละคน จะโดนคนต่างชาติสิบคนที่พูดคนละภาษา เข้ามาจับ ใช่แล้วคือมาจับชายเสื้อคลุมของพวกเขา และพูดว่า ‘ขอพวกเราไปกับพวกท่านด้วยเถิด เพราะเราได้ยินว่าพระเจ้าสถิตกับพวกท่าน’”
การตัดสินชนชาติอื่นๆ
9 ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ ต่อต้านแผ่นดินหัดรากและเพ่งเล็งเมืองดามัสกัส เพราะพระยาห์เวห์เฝ้าดูว่าคนเขาทำอะไรกันในอารัม เหมือนกับที่พระองค์เฝ้าดูเผ่าต่างๆของอิสราเอล[a] 2 ถ้อยคำนี้ได้ต่อต้านเมืองฮามัทซึ่งมีพรมแดนติดกับดามัสกัสและยังต่อต้านเมืองไทระกับเมืองไซดอนด้วย ทั้งๆที่พวกเขาเฉลียวฉลาดมาก 3 เมืองไทระสร้างป้อมปราการสำหรับตัวเอง มันสะสมเงินไว้เป็นกองพะเนินเหมือนฝุ่นและสะสมทองไว้เป็นกองพะเนินเหมือนผงดินที่อยู่ตามถนนต่างๆ 4 องค์เจ้าชีวิตจะขับไล่เธอออกไป พระองค์จะซัดป้อมปราการของเธอลงไปในทะเล[b] และไทระจะถูกไฟเผาเป็นเถ้าถ่านไป
5 เมืองอัชเคโลน[c] จะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับไทระและจะกลัว เมืองกาซาก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกัน และจะดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เมืองเอโครนก็จะดิ้นทุรนทุรายเหมือนกัน เพราะความคาดหวังของเธอเหือดแห้งไปเสียแล้ว จะไม่มีกษัตริย์ในกาซาอีกแล้ว และอัชเคโลนก็จะไม่มีผู้คนอาศัยอีกต่อไป 6 พวกลูกผสมจะมาอาศัยอยู่ในอัชโดด และเราจะทำลายความเย่อหยิ่งจองหองของคนฟีลิสเตียให้หมดไป 7 เราจะเอาเนื้อที่ยังมีเลือดติดอยู่ออกจากปากของเขา เราจะเอาของที่น่าขยะแขยงออกจากซี่ฟันของเขา และคนฟีลิสเตียที่ยังเหลืออยู่จะเป็นของพระเจ้าของเรา[d] พวกเขาจะมีฐานะเหมือนกับตระกูลหนึ่งของยูดาห์และชาวเอโครนจะเป็นเหมือนคนเยบุส[e] 8 เราจะตั้งค่ายที่วิหารของเราเหมือนเป็นเมืองหน้าด่าน เราจะคอยป้องกันไม่ให้คนบุกรุกเข้ามา และผู้กดขี่จะไม่มีวันได้เข้ามาข่มเหงพวกเขาอีกต่อไป เพราะตอนนี้เรากำลังเฝ้าดูอยู่ด้วยตาของเราเอง
กษัตริย์ในอนาคต
9 ศิโยน ลูกสาวเอ๋ย ให้ชื่นชมยินดีอย่างสุดใจเถิด
เยรูซาเล็ม ลูกสาวเอ๋ย โห่ร้องด้วยความยินดีเถิด
ดูสิ กษัตริย์ของเธอมาหาเธอแล้ว
พระองค์ให้ความเป็นธรรมและมีชัยชนะ
พระองค์นั้นถ่อมสุภาพและขี่อยู่บนหลังลา ขี่บนลาหนุ่ม ลูกของแม่ลา
10 เราจะกำจัดพวกรถรบไปจากเอฟราอิม
เราจะกำจัดพวกม้าศึกไปจากเยรูซาเล็ม
ธนูสงครามจะถูกกำจัดให้หมดไป
กษัตริย์องค์นั้นจะเจรจาสงบศึกระหว่างประชาชาติทั้งหลาย
ท่านจะปกครองจากทะเลฟากหนึ่งไปถึงทะเลอีกฟากหนึ่ง
และจากแม่น้ำยูเฟสติสไปถึงสุดปลายโลก
พระยาห์เวห์จะช่วยกู้คนของพระองค์
11 ส่วนเจ้า เยรูซาเล็ม เราได้ใช้เลือดเพื่อยืนยันข้อตกลงกับเจ้า[f]
เราจะปลดปล่อยคนของเจ้าที่เป็นนักโทษนั้นออกจากบ่อที่ไม่มีน้ำ
12 พวกเจ้า นักโทษเอ๋ย กลับไปยังป้อมปราการของเจ้าซะ
ตอนนี้พวกเจ้ามีความหวังแล้ว
วันนี้ เราขอประกาศว่า
เราจะคืนให้กับเจ้าเป็นสองเท่าสำหรับสิ่งที่ถูกยึดไปนั้น
13 เพราะเราได้โก่งยูดาห์เหมือนคันธนู
เราได้ใส่เอฟราอิมเป็นลูกธนู
ศิโยนเอ๋ย เราจะแกว่งลูกๆของเจ้าไปรอบๆเหมือนดาบของนักรบผู้กล้าเพื่อต่อสู้กับพวกเจ้าชาวกรีซ
14 พระยาห์เวห์จะมาปรากฏเหนือพวกเขา
ลูกธนูของพระองค์จะพุ่งออกมาเหมือนฟ้าแลบ
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต จะเป่าแตรประจัญบาน
และพระองค์จะลุยไปข้างหน้าอย่างพายุทะเลทรายจากทิศใต้
15 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะปกป้องพวกเขา
แล้วคนของพระยาห์เวห์จะชนะพวกศัตรูอย่างราบคาบด้วยหินที่เหวี่ยงจากเชือกหนัง
พวกเขาจะดื่มและร้องตะโกนเหมือนพวกเมาเหล้าองุ่น
และเต็มอิ่มเหมือนชามเลือดจากการถวายสัตวบูชา
พวกเขาจะโชกไปด้วยเลือดเหมือนตามมุมของแท่นบูชา
16 ในวันนั้น พระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเขา จะช่วยกู้คนของพระองค์
เหมือนคนเลี้ยงแกะช่วยแกะของเขาให้รอดพ้น
พวกเขาเป็นเหมือนเพชรพลอยบนมงกุฎ
ส่องแสงระยิบระยับบนแผ่นดินของพระองค์
17 คนของพระยาห์เวห์นั้นช่างมีเสน่ห์และสวยงามเสียจริงๆ
คนหนุ่มและหญิงสาวจะแข็งแรงและมีสุขภาพดี
เพราะมีข้าวและเหล้าองุ่นใหม่อย่างเหลือเฟือ
คำสัญญาของพระยาห์เวห์
10 ให้ขอฝนจากพระยาห์เวห์ในช่วงที่พืชผลต้องการฝน พระยาห์เวห์เป็นผู้ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง พระองค์ใช้พวกมันรดน้ำให้พืชผลในไร่นาเจริญเติบโต
2 พวกรูปเคารพ[g]ประจำบ้านให้คำทำนายที่ผิดๆไป และพวกเล่นเวทมนตร์ก็เห็นนิมิตที่ผิดๆ พวกทำนายฝันก็ทำนายไม่ได้เรื่อง ดังนั้นคนยูดาห์จึงเร่ร่อนไปเหมือนแกะ และพวกเขาก็ต้องลำบากเพราะไม่มีผู้เลี้ยง
3 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราโกรธพวกผู้เลี้ยงนี้มาก และเราจะลงโทษพวกผู้นำนี้” เพราะพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น เฝ้าดูแลฝูงสัตว์ของพระองค์ซึ่งก็คือคนยูดาห์ พระองค์จะเปลี่ยนคนยูดาห์ให้กลายเป็นม้าศึกที่สง่าผ่าเผยของพระองค์
4 จะมีผู้นำทุกประเภทออกมาจากยูดาห์ พวกเขาจะแข็งแรงอย่างกับหินมุมตึก จะมั่นคงอย่างกับหมุดปักเต็นท์ จะทรงอานุภาพอย่างกับธนูสงคราม 5 เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน พวกเขาจะเป็นเหมือนพวกนักรบในสงครามที่เหยียบย่ำศัตรูอย่างขี้โคลนบนถนน พวกเขาจะสู้รบในสงคราม เพราะพระยาห์เวห์สถิตอยู่กับพวกเขา และพวกเขาจะทำให้ทหารม้าพวกนั้นอับอาย 6 เราจะทำให้คนยูดาห์เข้มแข็งขึ้น เราจะช่วยกู้คนของโยเซฟ เราจะนำพวกเขากลับมา เพราะเราสงสารพวกเขา เราจะทำกับพวกเขาเหมือนกับว่าเราไม่เคยปฏิเสธพวกเขามาก่อน เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา และเราจะตอบคำอธิษฐานของพวกเขา 7 คนเอฟราอิมจะเป็นเหมือนพวกนักรบ และจิตใจของเขาจะมีความสุขเหมือนได้ดื่มเหล้าองุ่น คนของพวกเขาจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและชื่นบาน และจิตใจของเขาจะชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์
8 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะผิวปากเหมือนผู้เลี้ยงแกะเรียกพวกเขาเข้ามารวมกันเพราะเราไถ่พวกเขาแล้ว และพวกเขาจะมีจำนวนมากมายเหมือนกับแต่ก่อน 9 เราหว่านพวกเขาไปทั่วอย่างกับเมล็ดพืช แต่พวกเขาจะระลึกถึงเราในที่ห่างไกลเหล่านั้น พวกเขาและลูกๆจะมีชีวิตรอดกลับมา 10 เราจะนำพวกเขากลับมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราจะรวบรวมพวกเขามาจากอัสซีเรีย เราจะนำพวกเขามายังแผ่นดินกิเลอาดและเลบานอน เพราะแผ่นดินอิสราเอลของพวกนั้นจะมีคนเต็มไปหมดจนไม่มีที่เพียงพอสำหรับพวกเขาแล้ว 11 พวกเขาจะเดินลอดทะเลแห่งความทุกข์ พวกเขาจะตีคลื่นในทะเลนั้น ส่วนที่ลึกที่สุดของแม่น้ำไนล์จะแห้งไป ความเย่อหยิ่งจองหองของอัสซีเรียจะตกต่ำลง และคทาแห่งอำนาจของอียิปต์จะถูกเอาไป 12 เราจะทำให้คนของเราเข้มแข็งขึ้นในพระยาห์เวห์ และพวกเขาจะเดินลุยออกไปในนามของเรา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
พระเจ้าจะลงโทษชนชาติอื่นๆ
11 เลบานอน เปิดพวกประตูของเจ้า
เพื่อไฟจะได้เผาผลาญพวกสนซีดาร์[h] ของเจ้า
2 ต้นสนจูนิเปอร์ ร้องโหยหวนซะ
เพราะต้นสนซีดาร์ได้ล้มลงแล้ว
เพราะพวกต้นไม้ที่โอ่อ่าสูงใหญ่ถูกทำลายลงแล้ว
พวกต้นโอ๊กของบาชานร้องโหยหวนซะเพราะป่าดงดิบถูกโค่นลงแล้ว
3 ฟังเสียงร้องไห้คร่ำครวญของพวกผู้เลี้ยงสิ
เพราะทุ่งหญ้าอันรุ่งโรจน์ทั้งหลายของพวกเขาถูกทำลายไปแล้ว
ฟังเสียงร้องคำรามของพวกสิงโตสิ
เพราะพุ่มไม้หนาของแม่น้ำจอร์แดนถูกทำลายไปแล้ว
ผู้เลี้ยงที่เลวกับผู้เลี้ยงที่ดี
4 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราพูด คือ “ให้เลี้ยงดูแกะที่จะเอาไปฆ่านั้นให้ดี 5 คนที่ซื้อพวกเขาไปก็ฆ่าพวกเขาโดยไม่รู้สึกเสียใจ ส่วนคนที่ขายพวกแกะก็พูดว่า ‘สรรเสริญพระยาห์เวห์ เพราะข้าพเจ้าร่ำรวยแล้ว’ และพวกคนที่เลี้ยงแกะนั้นก็ไม่รู้สึกสงสารแกะที่พวกเขาเลี้ยงมา[i] 6 ดังนั้นเราจะไม่สงสารคนพวกนั้นที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินยูดาห์อีกต่อไป เราจะหันประชาชนทั้งหมดให้ต่อต้านกันเอง แล้วจะมอบพวกเขาไว้ใต้อำนาจของพวกผู้ครอบครองเขา พวกผู้ครอบครองนี้จะบดขยี้แผ่นดินนี้ และเราจะไม่ช่วยให้ใครรอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกนั้นเลย” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
7 แกะที่จะเอาไปฆ่านั้น ผมได้เลี้ยงพวกเขาแทนพวกพ่อค้าแกะ ผมเอาไม้เท้ามาสองอัน เรียกอันหนึ่งว่า “ความเมตตาปรานี” และเรียกอีกอันว่า “ความเป็นหนึ่งเดียว” และผมได้เลี้ยงดูแกะเหล่านั้นด้วยไม้เท้าทั้งสองนี้ 8 ผมกำจัดผู้เลี้ยงไปสามคนในเดือนเดียว ผมเริ่มหมดความอดทนต่อแกะ และพวกเขาก็ดูหมิ่นผมด้วย 9 แล้วผมพูดว่า “เราจะไม่เลี้ยงดูพวกเจ้าอีกแล้ว ปล่อยให้แกะที่กำลังจะตาย ตายไปซะ และปล่อยตัวที่กำลังจะถูกทำลาย ถูกทำลายไปซะ และให้ตัวที่ยังเหลืออยู่นั้นกินเนื้อของกันและกัน” 10 แล้วผมก็เอาไม้เท้าอันที่มีชื่อว่า “ความเมตตาปรานี” และหักมันเป็นสองท่อน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรายกเลิกข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับประชาชนทั้งหมด 11 ดังนั้นข้อตกลงจึงถูกยกเลิกในวันนั้น และพวกพ่อค้าสัตว์ที่กำลังมองผมอยู่ ก็รู้ว่า นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์
12 ผมพูดกับพวกเขาว่า “ถ้าพวกเจ้าอยากจ่ายค่าแรงให้กับผม ก็จ่ายมา แต่ถ้าไม่อยากจ่ายก็ไม่ต้องจ่าย” แล้วพวกเขาก็จ่ายค่าแรงให้กับผมเป็นเงินสามสิบแผ่น 13 พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “โยนเงินนั้นลงไปในกล่องถวายซะ เพราะนั่นแหละเป็นค่าตัวที่เขาตีให้กับเรา มันแสนจะมากมายเสียเหลือเกิน”[j] ผมจึงเอาเงินสามสิบแผ่นนั้นไปโยนลงในกล่องถวายในวิหารของพระยาห์เวห์ 14 จากนั้นผมได้หักไม้เท้าอันที่สองที่มีชื่อว่า “ความเป็นหนึ่งเดียว” เพื่อให้เห็นว่าผมได้ทำลายความเป็นพี่น้องกันระหว่างชาวยูดาห์กับชาวอิสราเอลแล้ว
15 พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “ให้เอาเครื่องมือของผู้เลี้ยงที่โง่เขลามา 16 เพราะเรากำลังจะแต่งตั้งผู้เลี้ยงแกะคนใหม่ในแผ่นดินนี้ ผู้เลี้ยงคนใหม่นี้จะไม่สนใจพวกแกะที่กำลังจะตาย จะไม่ไปตามหาตัวที่หลงหาย จะไม่เยียวยารักษาตัวที่บาดเจ็บ จะไม่เลี้ยงดูตัวที่แข็งแรง แต่จะกินเนื้อของตัวที่อ้วนพีเหล่านั้น และฉีกกินแม้แต่กีบเท้าของแกะพวกนั้น”
17 เฮ้ย เจ้าผู้เลี้ยงแกะที่ไร้ค่า
ผู้ที่ทอดทิ้งฝูงแกะ
ขอให้ดาบตีแขนของเจ้า
แทงตาข้างขวาของเจ้า
ขอให้แขนของเจ้าลีบไปอย่างสิ้นเชิง
ขอให้ตาข้างขวาของเจ้าบอดสนิท
ชาวเยรูซาเล็มจะเฉลิมฉลองกัน
12 ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ที่เกี่ยวกับอิสราเอล พระยาห์เวห์ผู้ขึงแผ่นฟ้าและตั้งรกรากแผ่นดินโลก ผู้ที่สร้างวิญญาณที่อยู่ในมนุษย์ พระองค์พูดว่า 2 “เรากำลังจะทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นถ้วยเหล้าองุ่น ที่ทำให้ชนชาติต่างๆที่อยู่ล้อมรอบเมาโซเซ และความทุกข์ทรมานนี้จะตกกับยูดาห์ด้วย เมื่อเยรูซาเล็มถูกล้อมไว้ 3 ในวันนั้นเราจะทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นหินที่หนักอึ้งที่ไม่มีใครยกไหว ทุกคนที่พยายามจะยกมันจะบาดเจ็บสาหัส และทุกๆชนชาติในโลกนี้จะรวมตัวกันมาต่อต้านมัน”
4 พระยาห์เวห์พูดว่า “แต่ในวันนั้น เราจะทำให้ม้าทุกตัวตกใจกลัว เราจะทำให้ทหารที่ขี่ทุกคนบ้าคลั่ง แต่เราจะคอยเฝ้าดูคนยูดาห์ และเราจะทำให้ม้าทุกตัวของศัตรูตาบอดไป 5 พวกผู้นำตระกูลต่างๆของยูดาห์จะคิดในใจว่า ‘ที่พลเมืองของเยรูซาเล็มเข้มแข็ง ก็เพราะพวกเขามีพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น เป็นพระเจ้านั่นเอง’” 6 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นเราจะทำให้พวกผู้นำตระกูลต่างๆของยูดาห์เป็นเหมือนถาดใส่ถ่านร้อนแดง เป็นเหมือนคบเพลิงท่ามกลางมัดฟาง พวกผู้นำนั้นจะเผาผลาญชนชาติทั้งหลายที่อยู่รอบๆทั้งซ้ายขวา และคนเยรูซาเล็มจะอยู่อย่างปลอดภัยต่อไปในที่ของเขาคือในเมืองเยรูซาเล็ม”
7 พระยาห์เวห์จะให้ชัยชนะกับตระกูลของยูดาห์ก่อน เพื่อเกียรติยศของครอบครัวดาวิดและความรุ่งโรจน์ของชาวเยรูซาเล็ม จะไม่เกินหน้าเกินตาเผ่าของยูดาห์ไป 8 ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะเป็นโล่ให้กับชาวเยรูซาเล็ม คนที่อ่อนแอที่สุดของพวกเขาก็จะเข้มแข็งเท่าดาวิด และครอบครัวของดาวิดก็จะเป็นเหมือนพระเจ้า เป็นเหมือนทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ที่นำหน้าพวกเขา
9 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นเราจะทำลายทุกชนชาติที่มาต่อต้านเยรูซาเล็ม
ชาวเยรูซาเล็มจะไว้ทุกข์ให้กับผู้ที่ถูกแทง
10 เราจะเทวิญญาณแห่งความเมตตาสงสารและการวิงวอนลงบนครอบครัวของดาวิดและลงบนชาวเยรูซาเล็ม พวกเขาจะแสวงหาการอภัยโทษจากเราผู้ที่พวกเขาแทง และพวกเขาจะร้องไห้เสียใจให้กับเรา เหมือนกับร้องไห้ให้กับลูกโทนที่ตายไป และพวกเขาจะร้องอย่างขมขื่นเหมือนกับร้องให้กับลูกหัวปีที่ตายไป 11 ในวันนั้นจะมีการไว้ทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ในเยรูซาเล็มเหมือนกับการไว้ทุกข์ให้กับฮาดัดริมโมน[k]ในที่ราบเมกิดโด 12-14 แต่ละตระกูลในแผ่นดินยูดาห์ ต่างคนต่างก็แยกกันไว้ทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลดาวิด ตระกูลนาธัน ตระกูลเลวี หรือตระกูลซีเมโอน รวมทั้งตระกูลอื่นๆที่เหลือทั้งหมด พวกผู้ชายและพวกเมียๆของเขา ต่างคนต่างแยกกันไว้ทุกข์ ไม่รวมกัน”
13 ในวันนั้นจะมีตาน้ำเกิดขึ้นมาให้กับครอบครัวของดาวิดและชาวเยรูซาเล็ม เป็นน้ำพุสำหรับชำระล้างความบาปและความไม่บริสุทธิ์
พวกรูปเคารพและผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมจะหมดไป
2 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า “ในวันนั้น เราจะลบชื่อต่างๆของพวกรูปเคารพทั้งหมดไปจากแผ่นดินนี้ และจะไม่มีใครระลึกถึงพวกมันอีกต่อไปแล้ว พวกผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมและวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์ เราจะไล่ให้พ้นไปจากแผ่นดิน 3 ถ้ามีใครที่ยังไม่ยอมหยุดพูดแทนพระเจ้าแบบผิดๆ พ่อแม่ที่ให้เขาเกิดมาจะพูดว่า ‘เจ้าจะต้องตาย เพราะเจ้าพูดผิดๆในนามของพระยาห์เวห์’ แล้วพ่อแม่ที่ให้เขาเกิดมาจะแทงเขาหากเขายังขืนพูดแทนพระเจ้าอีก 4 ในวันนั้น ผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมแต่ละคนจะละอายที่จะบอกคนอื่นว่าเขาเห็นอะไรในนิมิต และพวกเขาจะไม่ใส่เสื้อคลุมของผู้พูดแทนพระเจ้าที่ทำจากขน เพื่อหลอกลวงคนอื่นอีก 5 ผู้พูดแทนพระเจ้าแต่ละคนจะพูดว่า ‘ผมไม่ใช่ผู้พูดแทนพระเจ้า ผมเป็นแค่ชาวนา เพราะที่ดินนี้เป็นของผมตั้งแต่หนุ่มแล้ว’ 6 และถ้ามีคนถามเขาว่า ‘แล้วแผลเป็นที่หน้าอก[l]พวกนี้เกิดจากอะไร’ เขาจะตอบว่า ‘ผมได้รับบาดเจ็บที่บ้านเพื่อน’”
พระยาห์เวห์จะหลอมคนของพระองค์ให้บริสุทธิ์
7 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า
“ดาบเอ๋ยลุกขึ้นมา ต่อสู้กับผู้เลี้ยงของเรา ต่อสู้กับเพื่อนรักของเรา
ตีผู้เลี้ยง เพื่อแกะจะได้กระจัดกระจายไป
และเราจะลงโทษแกะตัวเล็กตัวน้อยเหล่านี้”
8 พระยาห์เวห์พูดว่า “คนสองในสามของแผ่นดินนี้จะถูกกำจัดและตายไป
และจะเหลือหนึ่งในสามในแผ่นดิน
9 เราจะเอาที่เหลือหนึ่งในสามนั้นใส่เข้าไปในไฟ เราจะหลอมพวกเขาเหมือนกับหลอมเงิน
เราจะทดสอบพวกเขาเหมือนกับทดสอบทองคำเพื่อให้มันบริสุทธิ์”
แล้วพวกเขาจะร้องขอให้เราช่วย
และเราจะตอบพวกเขาว่า “พวกเจ้าเป็นคนของเรา”
พวกเขาจะพูดว่า “พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของเรา”
พระยาห์เวห์จะเป็นกษัตริย์ของโลกนี้
14 ดูสิ วันเวลาของพระยาห์เวห์กำลังมา และของที่มีค่าของเจ้าที่ถูกปล้นไปจะถูกแบ่งตรงหน้าของเจ้า 2 เราจะรวบรวมชนชาติทั้งหมดมาต่อสู้กับเมืองเยรูซาเล็ม เมืองจะถูกยึด บ้านต่างๆจะถูกปล้น และผู้หญิงจะถูกข่มขืน ครึ่งหนึ่งของเมืองจะถูกจับไปเป็นเชลย แต่คนที่เหลือจะไม่ถูกกำจัดไปจากเมือง 3 แล้วพระยาห์เวห์ก็จะออกไปสู้รบกับชนชาติต่างๆเหล่านั้น เหมือนกับที่พระองค์ทำประจำในช่วงสงคราม 4 ในวันนั้น เท้าของพระองค์จะเหยียบอยู่บนภูเขามะกอกเทศ ที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเยรูซาเล็ม และภูเขามะกอกเทศจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก และจะมีหุบเขาที่กว้างมากเกิดขึ้นระหว่างกลาง ภูเขาซีกหนึ่งจะแยกไปทางเหนือ อีกซีกหนึ่งจะแยกไปทางใต้ 5 แล้วพวกเจ้าจะได้หนีไปในระหว่างหุบเขานี้ในภูเขาของพระยาห์เวห์ ซึ่งจะไปไกลถึงอาซาล[m] พวกเจ้าจะหนีเหมือนตอนที่หนีแผ่นดินไหวในช่วงที่อุสซียาห์เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของผมจะมาพร้อมกับพวกทูตสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
6-7 ในวันนั้นจะไม่ร้อนไม่หนาว ไม่มีน้ำค้างแข็งตัว แต่มันจะเป็นกลางวันตลอดเวลา (มีแต่พระยาห์เวห์เท่านั้นที่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่) จะไม่มีกลางวันหรือกลางคืน แต่จะมีแสงสว่างตลอดแม้แต่ในกลางคืน 8 ในวันนั้นน้ำจะไหลออกไปจากเมืองเยรูซาเล็ม น้ำครึ่งหนึ่งจะไหลไปลงทะเลตายทางทิศตะวันออก น้ำอีกครึ่งหนึ่งจะไหลไปลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางทิศตะวันตก มันจะไหลทั้งหน้าร้อนและหน้าหนาวไม่หยุดหย่อน 9 พระยาห์เวห์จะเป็นกษัตริย์ของโลกนี้ และในวันนั้นพระยาห์เวห์จะเป็นพระเจ้าเพียงองค์เดียวที่ผู้คนกราบไหว้ 10 แผ่นดินทั้งหมดรอบๆเมืองเยรูซาเล็ม จะกลายเป็นที่ราบจากเกบาถึงริมโมนทางตอนใต้ของเยรูซาเล็ม แต่เมืองเยรูซาเล็มยังจะสูงเด่นและตั้งอยู่ในที่เดิมของมัน คือจากประตูเบนยามินไปถึงประตูตรงหัวมุม ที่เคยมีประตูมาก่อน และจากหอคอยฮานันเอลไปจนถึงบ่อย่ำองุ่นทั้งหลายของกษัตริย์ 11 ประชาชนจะอาศัยอยู่ที่นั่น และมันจะไม่ถูกสาปแช่งให้โดนทำลายอีกต่อไป และเยรูซาเล็มก็จะอยู่อย่างปลอดภัย
12 ต่อไปนี้จะเป็นภัยพิบัติที่พระยาห์เวห์จะทำให้เกิดขึ้นกับทุกคนที่มาทำสงครามกับเยรูซาเล็ม คือ พระองค์จะทำให้ร่างของศัตรูเน่าคาขาที่ยังยืนอยู่ ดวงตาของศัตรูก็จะเน่าคาเบ้า ลิ้นก็จะเน่าคาปาก 13 ในวันนั้นพระยาห์เวห์จะทำให้พวกเขาสับสนวุ่นวาย พวกเขาจะสู้รบกันอย่างประชิดตัว 14 แม้แต่คนยูดาห์จะมาต่อสู้กับเมืองเยรูซาเล็ม และทรัพย์สมบัติของชนชาติทั้งหมดรอบข้างก็จะถูกรวบรวมมา มันจะมีจำนวนมหาศาล ทั้งทองคำ เงิน และเสื้อผ้า 15 ภัยพิบัติอย่างเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นกับม้า ล่อ อูฐและลา รวมทั้งสัตว์ทุกตัวที่อยู่ในค่ายพวกนั้นก็จะเจอภัยพิบัติแบบเดียวกัน
16 ทุกคนจากทุกชนชาติที่เคยโจมตีเยรูซาเล็ม ที่รอดจากภัยพิบัติ จะขึ้นมาเยรูซาเล็มทุกๆปี เพื่อนมัสการกษัตริย์คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น และจะร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลอยู่เพิง 17 ถ้ามีเผ่าไหนในโลกนี้ ไม่ยอมขึ้นมาเยรูซาเล็มเพื่อนมัสการกษัตริย์คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ก็จะไม่มีฝนตกลงมาให้กับพวกเขา 18 ถ้าประชาชนของอียิปต์ไม่ยอมขึ้นมาเมืองเยรูซาเล็ม พระยาห์เวห์ก็จะให้ภัยพิบัติที่เคยเกิดกับชนชาติอื่นๆที่ไม่ยอมขึ้นมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลอยู่เพิง เกิดขึ้นกับคนอียิปต์พวกนั้นด้วย 19 นี่จะเป็นโทษของคนอียิปต์ และชนทุกชาติที่ไม่ยอมขึ้นมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลอยู่เพิง
20 ในวันนั้น แม้แต่กระพรวนที่ติดม้า จะมีคำจารึกว่า “เป็นของศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระยาห์เวห์” และพวกหม้อหุงต้มในวิหารของพระยาห์เวห์ จะต้องถือว่าศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกับชามประพรมต่างๆที่ตั้งอยู่ต่อหน้าแท่นบูชา 21 หม้อหุงต้มทุกๆใบในเยรูซาเล็มและในยูดาห์จะต้องศักดิ์สิทธิ์ให้กับพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น คนทั้งหมดที่เอาสัตว์มาถวายเป็นเครื่องบูชา จะสามารถมาใช้หม้อหุงต้มเหล่านี้ไปต้มเนื้อจากเครื่องบูชาที่พวกเขานำมาถวาย ในวันนั้นจะไม่มีพวกพ่อค้ามาขายหม้อหุงต้มศักดิ์สิทธิ์ในวิหารของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นอีกต่อไป
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International