Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เอสรา 4-6

ศัตรูที่ไม่ต้องการให้สร้างวิหารใหม่

1-2 เมื่อพวกศัตรูของยูดาห์และเบนยามิน ได้ยินว่าพวกเชลยที่กลับมากำลังสร้างวิหารของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลขึ้นมาใหม่ พวกเขาจึงมาพบเศรุบบาเบล และพวกหัวหน้าครอบครัว พวกศัตรูพูดว่า “ให้พวกเราช่วยท่านสร้างด้วยสิ เพราะเราก็นมัสการพระเจ้าของท่าน เหมือนกับท่าน และเราก็ได้ถวายเครื่องบูชาต่อพระองค์ ตั้งแต่วันที่กษัตริย์เอสารฮัดโดน[a] แห่งอัสซีเรีย นำพวกเรามาที่นี่”

แต่เศรุบบาเบล เยชูอา รวมทั้งพวกหัวหน้าครอบครัวที่เหลือในอิสราเอล พูดกับพวกเขาว่า “ไม่ต้องมาช่วยพวกเราสร้างวิหารให้กับพระเจ้าของเราหรอก เพราะพวกเราจะสร้างวิหารให้พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลเอง ตามที่กษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียสั่งพวกเราไว้”

เพราะอย่างนี้ ประชาชนที่อยู่ในแผ่นดินนั้น จึงได้พยายามทำให้คนยูดาห์หมดกำลังใจ และกลัวที่จะสร้างวิหาร คนเหล่านั้นยังได้ติดสินบนพวกเจ้าหน้าที่ของเปอร์เซีย ให้ขัดขวางพวกคนยิวมาตลอดตั้งแต่สมัยของกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซีย ไปจนถึงสมัยของกษัตริย์ดาริอัสแห่งเปอร์เซีย เพื่อไม่ให้คนยิวทำตามแผนของพวกเขาที่จะสร้างวิหาร ในรัชกาลของกษัตริย์เซอร์ซีส[b] ในช่วงต้นรัชกาลของพระองค์ พวกศัตรูของคนยิว ได้เขียนคำฟ้องร้องพวกชาวยิว ที่อาศัยอยู่ในยูดาห์และเยรูซาเล็ม

ศัตรูต่อต้านการสร้างเยรูซาเล็มใหม่

เรื่องแบบนี้ต่อมาก็เกิดขึ้นอีกในรัชกาลของกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส[c] เมื่อ บิชลาม มิทเรดาท และทาเบเอล รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของพวกเขา ได้เขียนคำร้องต่อกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสแห่งเปอร์เซีย ข้อความนั้นเขียนเป็นภาษาอารเมค และได้รับการแปลออกมา (เรื่องราวต่อไปนี้เขียนเป็นภาษาอารเมค[d])

[e] เรฮูม ผู้เป็นเจ้าเมือง[f] และชิมชัยผู้เป็นเลขาธิการ ได้เขียนจดหมายเพื่อต่อต้านเมืองเยรูซาเล็ม ส่งไปให้กับกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส มีใจความว่า

จากเรฮูม ผู้เป็นเจ้าเมือง และชิมชัย ผู้เป็นเลขาธิการ รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของพวกเขา พวกผู้พิพากษา พวกทูตทั้งหลาย พวกเจ้าหน้าที่ พวกชาวเปอร์เซีย ชาวเอเรก ชาวบาบิโลน ชาวสุสาซึ่งก็คือชาวเอลาม 10 และจากพวกที่เหลืออยู่ คือพวกที่อาเชอร์บานิปอล[g] ผู้ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงได้ขับไล่ออกจากประเทศของพวกเขา อาเชอร์บานิปอลให้คนพวกนี้ไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองต่างๆของสะมาเรีย และในส่วนอื่นๆที่เหลือของแม่น้ำยูเฟรติสฝั่งตะวันตก

11 (นี่คือสำเนาจดหมาย ที่พวกเขาส่งไปให้กษัตริย์อารทาเซอร์ซีส)

ถึง กษัตริย์อารทาเซอร์ซีส

จาก พวกผู้รับใช้ของพระองค์ ประชาชนที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส

12 ขอเรียนให้กษัตริย์ทราบว่า พวกชาวยิวที่มาจากพระองค์ที่ได้มาหาพวกเรานั้น ตอนนี้พวกเขาได้ขึ้นไปที่เมืองเยรูซาเล็มและกำลังก่อสร้างเมืองชั่วร้ายนั้นขึ้นมาใหม่ เป็นเมืองที่ชอบก่อการกบฏ พวกเขากำลังสร้างกำแพงให้แล้วเสร็จ และกำลังซ่อมแซมพวกฐานรากอยู่

13 ขอเรียนให้กษัตริย์ทราบว่า ถ้าเมืองนั้นถูกสร้างขึ้นใหม่ และกำแพงเมืองถูกสร้างจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว พวกเขาจะไม่ยอมส่งเครื่องบรรณาการ ภาษี และส่วย และในที่สุดคลังหลวงก็จะขาดรายได้ไป

14 เนื่องจากเราไม่เคยลืมข้าวแดงแกงร้อนที่พระองค์เลี้ยงดูเรามา[h] เราจึงเห็นว่าเป็นการไม่สมควรที่จะให้เกียรติของพระองค์ต้องเสื่อมเสียไป ด้วยเหตุนี้เราจึงส่งสารนี้มาถึงพระองค์

15 เพื่อพระองค์จะได้ค้นดูสมุดบันทึกของบรรพบุรุษของพระองค์ ในสมุดบันทึกนี้พระองค์จะได้ค้นพบและเรียนรู้ว่า เมืองเยรูซาเล็มนั้น เป็นเมืองที่ชอบก่อการกบฏ ที่สร้างความเสียหายให้กับพวกกษัตริย์และประเทศต่างๆและมีการปลุกระดมให้ก่อการกบฏภายในเมืองนั้นมาเป็นเวลาช้านานแล้ว นั่นเป็นเหตุที่เมืองเยรูซาเล็มถึงได้ถูกทำลายไป

16 เราขอรายงานให้พระองค์รู้ว่า ถ้าเมืองนั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และกำแพงเมืองถูกสร้างจนเสร็จแล้ว พระองค์จะไม่ได้ครอบครองมณฑลฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติสอีกต่อไป

17 กษัตริย์จึงส่งสารตอบกลับมาว่า

“ถึงเรฮูม ผู้เป็นเจ้าเมือง และชิมชัย ผู้เป็นเลขาธิการ รวมทั้งเพื่อนร่วมงานทั้งหลายของท่านที่อยู่ในสะมาเรีย และส่วนอื่นๆของอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติส

ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข

18 ตอนนี้ จดหมายที่ท่านส่งมาถึงพวกเรา ได้แปลและอ่านให้เราฟังแล้ว 19 เราได้สั่งให้ทำการตรวจสอบ และพวกเขาก็พบว่า เมืองเยรูซาเล็มนั้นเคยลุกขึ้นต่อต้านพวกกษัตริย์มาช้านานแล้ว และเคยมีการกบฏรวมทั้งมีการก่อการจลาจลในเมืองนั้นด้วย 20 แต่เคยมีกษัตริย์ผู้เรืองอำนาจบางองค์ซึ่งปกครองเมืองเยรูซาเล็ม และควบคุมเมืองทั้งหมดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ กษัตริย์เหล่านี้ได้รับเครื่องบรรณาการ ภาษี และส่วย

21 ตอนนี้ ให้ท่านทั้งหลายออกคำสั่งให้คนยิวพวกนั้นหยุดทำงานนี้ เพื่อไม่ให้เมืองนั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่ จนกว่าเราจะออกคำสั่งให้สร้างได้ 22 ระวังให้ดี อย่าได้เพิกเฉยกับเรื่องนี้ เพื่อกษัตริย์จะได้ไม่ขาดรายได้อีกต่อไป”

23 พอได้อ่านสำเนาจดหมายของกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส ให้กับเรฮูมและชิมชัย ผู้เป็นเลขาธิการ รวมทั้งพวกเพื่อนร่วมงานของพวกเขาฟังแล้ว พวกเขาก็รีบไปหาพวกยิวที่เยรูซาเล็มทันที[i]

พวกเขาระงับการสร้างวิหาร

24 แล้วพวกเขาก็ใช้กำลังบีบบังคับให้พวกยิวหยุดทำงาน แล้วการสร้างวิหารของพระเจ้าในเมืองเยรูซาเล็มก็ถูกระงับลง และก็ไม่ได้สร้างต่ออีกเลย จนกระทั่งถึงปีที่สอง[j] ของกษัตริย์ดาริอัสแห่งเปอร์เซีย

ต่อมาผู้พูดแทนพระเจ้า คือ ฮักกัย[k] และเศคาริยาห์ลูกชายของอิดโด[l] ได้พูดแทนพระเจ้าต่อคนยิวที่อาศัยอยู่ในยูดาห์และในเมืองเยรูซาเล็ม ในนามของพระเจ้าแห่งอิสราเอลผู้ที่อยู่เหนือพวกเขาทั้งหลาย แล้วเศรุบบาเบล ลูกชายของเชอัลทิเอล และเยชูอา ลูกชายของโยซาดัก ก็เริ่มสร้างวิหารของพระเจ้าในเมืองเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ และผู้พูดแทนพระเจ้าทั้งสองคนนี้ก็ได้อยู่และคอยสนับสนุนพวกเขา ในเวลานั้น ทัทเธนัย ซึ่งเป็นเจ้าเมืองทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส และเชธาร์โบเซนัย รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของพวกเขา ก็ได้มาหาเศรุบบาเบล และคนที่อยู่กับเศรุบบาเบล และได้ถามพวกเขาว่า “ใครเป็นคนอนุญาตให้เจ้าสร้างวิหารนี้ขึ้นมาใหม่และทำงานไม้พวกนี้จนเสร็จ” พวกเขายังถามต่อไปอีกว่า “พวกคนงานที่สร้างตึกนี้มีชื่อว่าอะไรบ้าง”

แต่พระเจ้าได้สอดส่องดูแลพวกผู้อาวุโสของชาวยิวอยู่ และทัทเธนัยกับพรรคพวกไม่สามารถหยุดชาวยิวเหล่านั้นให้เลิกทำงานได้ ในช่วงที่พวกเขาส่งรายงานไปยังกษัตริย์ดาริอัส และกษัตริย์มีคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ตอบกลับมา

นี่คือสำเนาจดหมายที่ ทัทเธนัย เจ้าเมืองทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส และเชธาร์โบเซนัย รวมทั้งบรรดาเพื่อนร่วมงาน ที่เป็นผู้ตรวจราชการเมือง ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ ได้ส่งไปถึงกษัตริย์ดาริอัส พวกเขาส่งรายงานไปให้กับกษัตริย์ และในจดหมายนั้นมีใจความว่าอย่างนี้ คือ

ถึง กษัตริย์ดาริอัส ขอให้พระองค์อยู่เย็นเป็นสุข

ขอให้พระองค์รู้ไว้เถิดว่า พวกเราได้ไปยังมณฑลยูดาห์เพื่อไปยังวิหารของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งกำลังถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยหินก้อนใหญ่ ส่วนท่อนไม้ก็กำลังติดตั้งบนฝาผนัง งานนี้กำลังดำเนินไปอย่างขยันขันแข็งและก้าวหน้าเป็นอย่างดี ในกำมือของพวกเขา

แต่เมื่อพวกเราไต่ถามพวกผู้อาวุโสเหล่านั้นว่า “ใครเป็นคนอนุญาตให้สร้างวิหารนี้ขึ้นใหม่ และใครสั่งให้ทำงานไม้พวกนี้จนเสร็จ” 10 เราได้ถามชื่อคนงานเหล่านั้นด้วย เพื่อพวกเราจะได้แจ้งให้พระองค์ทราบ เพื่อว่าเราจะได้จดรายชื่อของพวกคนเหล่านั้นที่เป็นหัวหน้าของพวกเขาไว้ 11 พวกเขาตอบพวกเรามาอย่างนี้ว่า

“พวกเราคือผู้รับใช้ของพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก และพวกเรากำลังสร้างวิหารขึ้นมาใหม่ ซึ่งเคยสร้างมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน โดยกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอิสราเอล 12 แต่เป็นเพราะบรรพบุรุษของเรา ได้ทำให้พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์โกรธ พระองค์จึงมอบพวกเขาให้ตกไปอยู่ในกำมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์[m] แห่งบาบิโลนชาวเคลเดีย และกษัตริย์ก็ได้ทำลายวิหารแห่งนี้ลง และจับตัวประชาชนไปเป็นเชลยที่บาบิโลน 13 แต่ในปีแรกของรัชกาลกษัตริย์ไซรัสแห่งบาบิโลน พระองค์ได้มีคำสั่งให้สร้างวิหารของพระเจ้าแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ 14 ยังมีเครื่องใช้ทองคำและเงินของวิหารของพระเจ้า ที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ขนย้ายออกมาจากวิหารในเมืองเยรูซาเล็ม และเอาไปวางไว้ในวิหารของบาบิโลน กษัตริย์ไซรัสได้เคลื่อนย้ายเครื่องใช้เหล่านั้นจากวิหารของบาบิโลน ไปมอบให้ชายที่ชื่อเชชบัสซาร์ ซึ่งพระองค์ได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง

15 กษัตริย์ไซรัสได้สั่งเชชบัสซาร์ว่า

‘ให้เอาเครื่องใช้เหล่านี้ไปเก็บไว้ในวิหารในเมืองเยรูซาเล็ม และให้สร้างวิหารของพระเจ้าขึ้นมาใหม่บนสถานที่ตั้งเดิม’ 16 แล้วเชชบัสซาร์คนนั้น ก็ได้มาวางรากฐานให้วิหารของพระเจ้าในเมืองเยรูซาเล็ม และตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ วิหารก็ได้รับการก่อสร้างเรื่อยมาแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

17 ตอนนี้ ถ้าพระองค์อยากจะค้นดูบันทึกจากห้องเก็บเอกสารของวังที่อยู่ในบาบิโลน เพื่อตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ที่ กษัตริย์ไซรัสได้ออกคำสั่งให้สร้างวิหารของพระเจ้าในเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ แล้วจากนั้นพระองค์ค่อยส่งจดหมายมาให้กับพวกเรารู้ว่า พระองค์ตัดสินใจยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้”

คำสั่งของกษัตริย์ดาริอัส

กษัตริย์ดาริอัสจึงได้ออกคำสั่ง ให้พวกเขาค้นห้องเก็บเอกสารที่บาบิโลนใช้เก็บทรัพย์สมบัติ แล้วพวกเขาก็พบหนังสือม้วนหนึ่ง ที่ป้อมปราการในเอกบาทานา ซึ่งอยู่ในมณฑลมีเดีย และในหนังสือม้วนนั้นเขียนไว้ว่าอย่างนี้

บันทึกความจำ ในปีแรกของรัชกาลกษัตริย์ไซรัส กษัตริย์ไซรัสได้มีคำสั่งที่เกี่ยวกับวิหารของพระเจ้าในเมืองเยรูซาเล็มว่าอย่างนี้

ให้สร้างวิหารขึ้นมาใหม่ ในสถานที่ที่พวกเขาเคยถวายเครื่องบูชา และให้วางรากฐานให้เหมือนกับสภาพเดิม ให้มีความสูงหกสิบศอก และกว้างหกสิบศอก ให้สร้างด้วยหินใหญ่สามชั้น และสร้างด้วยไม้หนึ่งชั้น ให้คลังหลวงเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น พวกเครื่องใช้ทองคำและเงินของวิหารของพระเจ้า ที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้เอามาจากวิหารในเมืองเยรูซาเล็ม และเอามาไว้ที่บาบิโลนนั้น จะต้องส่งกลับคืนไปยังวิหารในเมืองเยรูซาเล็ม เอาไปไว้ในที่ของมัน และเก็บรักษาไว้ในวิหารของพระเจ้า

ดังนั้น ทัทเธนัยเจ้าเมืองมณฑลฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส และเชธาร์โบเซนัย รวมทั้งพวกท่านที่เป็นเพื่อนร่วมงานของพวกเขา ที่เป็นผู้ตรวจราชการของมณฑลฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส อยู่ให้ห่างจากที่นั่น อย่าไปรบกวนงานสร้างวิหารของพระเจ้า ปล่อยให้เจ้าเมืองของชาวยิวและพวกผู้อาวุโสของพวกเขา สร้างวิหารของพระเจ้าขึ้นมาใหม่บนพื้นที่เดิม

และตอนนี้ เราขอสั่งพวกท่านให้ช่วยพวกผู้อาวุโสของชาวยิวเหล่านั้น ที่กำลังสร้างวิหารของพระเจ้าขึ้นมาใหม่ ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างของคนพวกนี้ ให้จ่ายจากเงินหลวงทั้งหมด คือเงินที่เก็บได้จากภาษีของมณฑลฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส เพื่อพวกเขาจะได้ไม่ต้องหยุดงาน ให้จัดหาทุกสิ่งให้กับพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นพวกวัวหนุ่ม แกะตัวผู้ หรือลูกแกะ ที่ต้องใช้สำหรับถวายเป็นเครื่องเผาบูชาให้กับพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ หรือจะเป็นข้าวสาลี เกลือ เหล้าองุ่น หรือน้ำมัน ที่พวกนักบวชในเมืองเยรูซาเล็มขอ ก็ให้จัดหามาให้กับพวกเขาทุกๆวันอย่าให้ขาดเลย 10 เพื่อพวกเขาจะได้ถวายเครื่องบูชาอันมีกลิ่นหอมให้กับพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ และให้อธิษฐานเผื่อเราผู้เป็นกษัตริย์และพวกลูกชายของเรา

11 และถ้าใครไม่เชื่อฟังคำสั่งนี้ เราขอสั่งให้ดึงเสาไม้ค้ำบ้านของคนๆนั้นมาอันหนึ่ง และเอามาผูกคนๆนั้นและเฆี่ยนเขา และให้เอาบ้านของเขามาทำเป็นส้วมสาธารณะ

12 ขอให้พระเจ้า ที่ได้เลือกสถานที่นั้นให้เป็นที่นมัสการพระองค์ โค่นล้มกษัตริย์องค์ไหนๆหรือประชาชนกลุ่มใดก็ตาม ที่ฝ่าฝืนคำสั่งนี้ และอยากจะทำลายวิหารของพระเจ้าในเมืองเยรูซาเล็ม

เรา กษัตริย์ดาริอัส เป็นผู้ออกคำสั่งนี้เอง ให้เชื่อฟังคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด

วิหารสร้างเสร็จ

13 แล้วทัทเธนัย เจ้าเมืองฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส และเชธาร์โบเซนัย รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของพวกเขา ก็ทำทุกอย่างตามที่กษัตริย์ดาริอัสสั่ง 14 พวกผู้อาวุโสของชาวยิว ได้ก่อสร้างวิหารสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ภายใต้การพูดแทนพระเจ้าของฮักกัย ผู้พูดแทนพระเจ้า และเศคาริยาห์ลูกชายของอิดโด พวกเขาสร้างวิหารเสร็จตามคำสั่งของพระเจ้าแห่งอิสราเอล และตามคำสั่งของพวกกษัตริย์แห่งเปอร์เซีย คือไซรัส ดาริอัส และอารทาเซอร์ซีส 15 แล้ววิหารนี้ก็สร้างเสร็จในวันที่สามของเดือนอาดาร์[n] ในปีที่หกแห่งรัชกาลกษัตริย์ดาริอัส[o]

16 แล้วประชาชนของอิสราเอล รวมทั้งพวกนักบวช และพวกชาวเลวี และเชลยทุกคนที่ได้กลับมา ได้อุทิศวิหารนี้ให้กับพระเจ้า และพวกเขาก็มีความสุขมากที่ได้ทำอย่างนั้น

17 ในการอุทิศวิหารนี้ พวกเขาได้ถวายเครื่องบูชาโดยมีวัวตัวผู้หนึ่งร้อยตัว แกะตัวผู้สองร้อยตัว ลูกแกะสี่ร้อยตัว และเครื่องบูชาชำระล้างสำหรับอิสราเอลทั้งหมด คือแพะตัวผู้สิบสองตัว เผ่าละตัว 18 พวกเขาแต่งตั้งนักบวชให้อยู่ในแผนกต่างๆของพวกเขา และแต่งตั้งชาวเลวีให้อยู่ในแต่ละหน่วย เพื่อรับใช้ในวิหารของพระเจ้าในเมืองเยรูซาเล็ม ตามที่ได้เขียนไว้ในหนังสือของโมเสส

เทศกาลปลดปล่อย

19 [p] พวกชาวยิวที่กลับมาจากการเป็นเชลย ได้เฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อย ในวันที่สิบสี่ของเดือนแรก[q] 20 นักบวชทุกคนได้ชำระตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์แล้ว และชาวเลวีก็เป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยในสายตาผู้อื่น ดังนั้นชาวเลวีจึงฆ่าแกะในเทศกาลปลดปล่อย เพื่อชาวยิวทุกคนที่กลับจากการเป็นเชลย เพื่อพี่น้องทั้งหลายของเขาที่เป็นนักบวช และเพื่อตัวเขาเองด้วย 21 ประชาชนของอิสราเอลที่กลับจากการเป็นเชลย ได้กินอาหารในเทศกาลปลดปล่อยนี้ เหมือนกับคนอื่นๆทั้งหมดที่ได้แยกตัวเองออกจากสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์[r]ของพวกคนต่างชาติในแผ่นดิน เพื่อจะได้นมัสการพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล 22 พวกเขาได้เฉลิมฉลองเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อเป็นเวลาเจ็ดวันด้วยความยินดี เพราะพระยาห์เวห์ได้ทำให้พวกเขามีความสุข ที่พระองค์ได้เปลี่ยนทัศนคติของกษัตริย์อัสซีเรีย[s] ที่มีต่อพวกเขา ดังนั้นกษัตริย์ จึงได้ช่วยพวกเขาในการสร้างวิหารของพระเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอล

สดุดี 137

เยรูซาเล็มตอนเป็นเชลยในบาบิโลน

พวกเรานั่งอยู่ริมแม่น้ำทั้งหลายในบาบิโลน
    และร้องไห้เมื่อระลึกถึงศิโยน[a]
พวกเราได้แขวนพิณไว้
    บนต้นหลิวในเมืองนั้น
และที่นั่น พวกผู้จับกุมพวกเราเรียกให้พวกเราร้องเพลง
    พวกที่เยาะเย้ยพวกเราสั่งให้พวกเราสร้างความบันเทิงให้กับพวกเขา
พวกเขาสั่งว่า
    “ร้องเพลงเกี่ยวกับศิโยนให้พวกเราฟังสักเพลงซิ”

แต่พวกเราจะร้องเพลงของพระยาห์เวห์
    ในแผ่นดินของคนต่างชาตินี้ได้ยังไง
เยรูซาเล็มเอ๋ย ถ้าหากข้าพเจ้าลืมเจ้า
    ก็ขอให้มือขวาของข้าพเจ้านี้ลืมวิธีเล่นพิณเสีย
ขอให้ลิ้นของข้าพเจ้าติดอยู่ที่เพดานปาก
    ถ้าหากข้าพเจ้าลืมเจ้า
    หรือ ถ้าหากข้าพเจ้าไม่ได้ยกเจ้าให้สำคัญยิ่งกว่าสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขที่สุด
ข้าแต่พระยาห์เวห์ให้ระลึกถึงสิ่งที่คนเอโดมทำในวันที่เยรูซาเล็มพินาศ
    พวกเขาตะโกนว่า “พังมันลงมา พังมันลงมา ให้ถึงรากถึงโคน”

นางสาวบาบิโลนเอ๋ย ผู้ที่กำลังจะถูกทำลายไป
    คนที่ตอบแทนเจ้าอย่างสาสมกับที่เจ้าทำกับเรานั้นถือว่ามีเกียรติจริงๆ
คนที่จับพวกทารกของพวกเจ้าไปฟาดกับก้อนหินนั้น
    ถือว่ามีเกียรติจริงๆ

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International