Chronological
ดาเนียลฝันถึงสัตว์สี่ชนิด
7 ในปีแรกที่เบลชัสซาร์ขึ้นเป็นกษัตริย์ของบาบิโลน ในขณะที่ดาเนียลนอนหลับอยู่บนเตียง เขาก็ได้เห็นนิมิตในความฝัน หลังจากนั้นเขาก็จดสิ่งที่เขาเห็นในความฝันนั้น 2 ดาเนียลเขียนว่า
“คืนหนึ่งในขณะที่ผมกำลังเห็นนิมิต ในทันใดนั้นผมก็เห็นลมที่มาจากทั้งสี่ทิศกำลังพัดอยู่ และสายลมเหล่านั้นกำลังปลุกปั่นน้ำในทะเลอันยิ่งใหญ่ 3 แล้วสัตว์ขนาดใหญ่สี่ตัวก็โผล่ขึ้นมาจากทะเล แต่ละตัวมีลักษณะแตกต่างกันไป 4 สัตว์ตัวแรกดูเหมือนสิงโต ที่มีปีกเหมือนนกอินทรี พอผมจ้องมองมัน ปีกของมันก็ถูกกระชากหลุดไป แล้วสิงโตตัวนี้ก็ถูกยกขึ้นจากพื้น ขึ้นมายืนสองขาเหมือนกับมนุษย์ แล้วมันก็ได้รับจิตใจของมนุษย์
5 จากนั้นผมก็เห็นสัตว์อีกตัวหนึ่ง สัตว์ตัวที่สองนี้ดูเหมือนหมี มันขยับตัวข้างหนึ่งขึ้น ในปากของมันคาบกระดูกซี่โครงสามซี่ มันได้รับคำสั่งว่า ‘ลุกขึ้นซะ แล้วกินเนื้อให้มากๆ’
6 หลังจากนั้นผมก็มองเห็นสัตว์อีกตัวหนึ่ง สัตว์ตัวนี้เหมือนเสือดาว ที่มีปีกเหมือนนกอยู่สี่ปีกบนหลังของมัน และมีหัวสี่หัว มันได้รับการแต่งตั้งให้ปกครองอาณาจักรแห่งหนึ่ง
7 หลังจากนั้น ขณะที่ผมกำลังจ้องมองนิมิตในฝันในคืนนั้น ผมก็เห็นสัตว์ตัวที่สี่ มันดูน่าสยดสยอง มีพลังมหาศาล และมีฟันเหล็กที่ใหญ่โต มันกินและบดเคี้ยวสัตว์ต่างๆมากมาย และเหยียบย่ำเศษที่เหลือนั้นใต้เท้า มันดูแตกต่างจากสัตว์ตัวก่อนๆและมันมีเขาสิบเขา
8 ขณะที่ผมกำลังจ้องมองเขาของมัน จู่ๆก็มีเขาเล็กๆอีกเขาหนึ่งงอกออกมาท่ามกลางเขาอื่นๆและดันเขาสามเขาที่มีอยู่ก่อนแล้วหลุดไป เขาอันเล็กนี้ มีดวงตาเหมือนดวงตามนุษย์ และมีปากที่คุยโม้โอ้อวด
การลงโทษสัตว์ตัวที่สี่
9 ขณะที่ผมกำลังจ้องมองอยู่ ก็มีการจัดวางบัลลังก์ต่างๆเข้าที่ของมัน
และพระองค์ผู้นั้นที่อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ได้มานั่งบนบัลลังก์อันหนึ่ง
เสื้อผ้าของพระองค์สีขาวเหมือนหิมะ
ผมของพระองค์ก็ขาวเหมือนขนแกะที่สะอาด
บัลลังก์ของพระองค์เป็นเปลวไฟ
ล้อของบัลลังก์ก็เป็นไฟที่ลุกโชติช่วง
10 มีไฟไหลออกมาเป็นลำธารจากตรงหน้าพระองค์
มีทูตสวรรค์เป็นร้อยล้านองค์ มายืนคอยรับใช้พระองค์
มีคนหลายร้อยล้านคนมายืนคอยรับใช้พระองค์
ศาลก็เริ่มเปิดพิจารณาคดี
และหนังสือทั้งหลายก็ถูกเปิดออก
11 ผมได้มองดูสิ่งเหล่านั้น ตั้งแต่เวลาที่ผมได้ยินเขาอันเล็กนั้นคุยโม้โอ้อวด จนถึงเวลาที่สัตว์ตัวที่สี่นั้นถูกฆ่าและเหวี่ยงทิ้งลงไปในไฟ 12 ส่วนสัตว์ที่เหลืออีกสามตัว ก็ถูกยึดเอาอำนาจที่ใช้ปกครองอาณาจักรไป แต่ได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
13 เมื่อผมเพ่งมองสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดในนิมิตตอนกลางคืน จู่ๆก็มีท่านผู้หนึ่งที่ดูเหมือนมนุษย์[a] มาพร้อมกับกลุ่มเมฆบนท้องฟ้า ท่านผู้นี้ได้เข้ามาถึงพระองค์ผู้นั้นที่อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ท่านผู้นี้ก็ถูกนำตัวให้เข้ามาใกล้พระองค์ผู้นั้น 14 แล้วท่านผู้นี้ก็ได้รับสิทธิอำนาจ สง่าราศี และตำแหน่งกษัตริย์ ชนทุกชาติทุกภาษาจะคอยรับใช้ท่านผู้นี้ สิทธิอำนาจของท่านผู้นี้จะดำรงอยู่ตลอดไปไม่มีวันสิ้นสุด ตำแหน่งกษัตริย์ของท่านผู้นี้จะไม่มีวันถูกทำลาย
ความหมายของนิมิตของดาเนียล
15 แล้วผม ดาเนียล ก็เริ่มกลุ้มใจ เพราะนิมิตพวกนี้ที่อยู่ในหัวของผมทำให้ผมตกใจกลัว
16 ผมเดินเข้าไปหาผู้รับใช้คนหนึ่งในหมู่ผู้รับใช้ที่ยืนอยู่ที่นั่นและถามเขาว่า
‘เรื่องทั้งหมดนี้จริงๆแล้วหมายความว่าอะไรครับ’
เขาพูดกับผมและอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผมฟัง
17 ‘สัตว์ใหญ่สี่ตัวนี้ หมายถึงอาณาจักรสี่อาณาจักรที่จะขึ้นมามีอำนาจบนโลกนี้ 18 และหลังจากนั้นพวกผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ผู้สูงสุด ก็จะได้รับตำแหน่งกษัตริย์และจะครอบครองตลอดไป’
19 แล้วตอนนั้นผมก็อยากรู้ความหมายที่แท้จริงของสัตว์ตัวที่สี่ที่ดูแตกต่างไปจากตัวอื่นๆแถมยังดูน่าสยดสยอง มีพลังมหาศาล มีฟันเหล็ก และกงเล็บทองแดง มันบดเคี้ยวสัตว์ทั้งหลาย และเหยียบย่ำเศษที่เหลือไว้ใต้เท้าของมัน
20 แล้วผมก็อยากรู้ด้วยว่าเขาทั้งสิบบนหัวของมัน หมายถึงอะไร และเขาอันสุดท้ายที่ดันเขาสามเขาที่ขึ้นอยู่ก่อน คือเขาอันที่มีดวงตาและปากที่คุยโม้โอ้อวดตัวเอง และมันดูโดดเด่นกว่าตัวอื่นๆ
21 ในขณะที่ผมกำลังจ้องดูอยู่นั้นเอง เขาอันนั้นก็เริ่มทำสงครามกับเหล่าผู้ศักดิ์สิทธิ์และยังชนะพวกเขาอีกด้วย 22 จนกระทั่งพระองค์ผู้นั้นที่อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว มาถึง และให้ความเป็นธรรมกับเหล่าผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ผู้สูงสุด และเวลานั้นก็มาถึงเมื่อเหล่าผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้รับตำแหน่งกษัตริย์
23 และผู้รับใช้คนนั้นก็อธิบายให้ผมฟังว่า
‘สัตว์ตัวที่สี่ก็หมายถึงว่าจะมีอาณาจักรที่สี่ที่แตกต่างจากอาณาจักรที่มีมาก่อน อาณาจักรนี้จะเขมือบทั้งโลกและเหยียบย่ำบดขยี้โลกนั้น
24 ส่วนเขาทั้งสิบของมันก็คือกษัตริย์สิบองค์ของอาณาจักร หลังจากกษัตริย์สิบองค์นี้แล้ว ก็จะมีกษัตริย์อีกองค์หนึ่งมา ที่ต่างจากกษัตริย์องค์ก่อนๆและกษัตริย์องค์นี้ก็จะมาโค่นล้มกษัตริย์สามองค์แรก
25 กษัตริย์องค์นี้จะพูดไม่ดีเกี่ยวกับพระเจ้าสูงสุดและจะข่มเหงเหล่าผู้ศักดิ์สิทธิ์ไปเป็นเวลาช้านาน
กษัตริย์องค์นี้จะพยายามเปลี่ยนแปลงเวลาของเทศกาลต่างๆและกฎเกณฑ์ต่างๆและเหล่าผู้ศักดิ์สิทธิ์จะต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์องค์นี้ หนึ่งปี สองปี และครึ่งปี
26 แล้วศาลก็เริ่มเปิดพิจารณาคดี และกษัตริย์องค์นี้จะถูกโค่นอำนาจและถูกทำลายอย่างราบคาบ
27 หลังจากนั้น ตำแหน่งกษัตริย์ สิทธิอำนาจ รวมทั้งความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรทุกอาณาจักรในโลกจะถูกมอบให้กับกลุ่มคนพวกนั้นที่เป็นของเหล่าผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ผู้สูงสุด กลุ่มคนพวกนั้นจะครอบครองตำแหน่งกษัตริย์ไปชั่วนิจนิรันดร์ และผู้มีอำนาจทุกคนจะต้องรับใช้และเชื่อฟังพวกเขา’
28 เรื่องที่ผมฝันก็จบลงอย่างนี้ สำหรับตัวผม ดาเนียล ความฝันนี้ทำให้ผมตกใจกลัวจนหน้าซีด แต่ผมก็เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ”
ดาเนียลเห็นนิมิตที่มีแกะตัวผู้และแพะ
8 ในปีที่สามที่กษัตริย์เบลชัสซาร์ขึ้นครองราชย์ ผม ดาเนียลก็ได้เห็นนิมิตอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้เห็นนิมิตครั้งแรกไปแล้ว
2 ในนิมิตผมเห็นตัวผมเองอยู่ในเขตของวัง วังนี้อยู่ที่เมืองสุสา ในจังหวัดเอลาม ในนิมิตนั้นผมเห็นตัวผมเองกำลังอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำอุลัย
3 ผมเงยหน้าขึ้นมาเห็นแกะตัวผู้ตัวหนึ่งยืนอยู่ริมแม่น้ำ มันมีเขาสูงใหญ่คู่หนึ่ง เขาข้างหนึ่งยาวกว่าอีกข้างหนึ่ง เขาข้างที่ยาวกว่านั้นงอกขึ้นมาทีหลัง
4 ผมเห็นแกะตัวผู้ตัวนั้นวิ่งตะลุยไปทางตะวันตก ทางเหนือ และทางใต้ ไม่มีสัตว์ตัวไหนต้านทานมันได้ ไม่มีสัตว์ตัวไหนสามารถยืนขวางมันได้ และไม่มีใครสามารถที่จะช่วยเหยื่อของมันได้ มันทำทุกอย่างตามที่มันอยากทำ และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
5 ขณะที่ผมจ้องมองอยู่นั้น ก็มีแพะตัวผู้ มาจากทางทิศตะวันตก เหาะข้ามไปเหนือพื้นผิวโลก เท้าของมันไม่ได้แตะพื้นเลย แพะตัวผู้นี้มีเขาที่โดดเด่นมากอยู่ระหว่างตาของมัน 6 แล้วมันก็วิ่งห้อเต็มกำลังไปที่แกะผู้ที่มีสองเขาที่ยืนอยู่ริมแม่น้ำ ที่ผมเห็นก่อนหน้านี้ 7 ผมเห็นมันวิ่งเข้าใส่แกะผู้ตัวนั้นอย่างแรง ตอนที่มันพุ่งชนนี้ ทำให้เขาทั้งสองของแกะตัวผู้นั้นหัก แกะตัวผู้นั้นก็ไม่สามารถต่อสู้กับมันได้ แพะตัวผู้นี้ก็เหวี่ยงแกะนั่นลงกับพื้น แล้วกระทืบซ้ำ ไม่มีใครช่วยแกะตัวผู้นั้นให้พ้นจากพละกำลังของมันได้เลย
8 จากนั้นแพะตัวผู้ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น แต่ในขณะที่มันมีกำลังถึงจุดสูงสุดนั้น เขาอันใหญ่ของมันได้หักไป แล้วมีเขาที่โดดเด่นสี่อันงอกขึ้นมาแทนที่[b] เขาทั้งสี่อันนี้ แต่ละอันชี้ไปคนละทิศ 9 มีเขาเล็กๆอันหนึ่งงอกออกมาจากเขาอันหนึ่งในสี่อันนี้ เขาเล็กๆนี้ได้งอกขึ้นมาใหญ่โตมุ่งไปทางทิศใต้ มุ่งไปทางทิศตะวันออก และมุ่งไปยังที่ที่สวยงาม[c] 10 เขาอันนี้งอกขึ้นไปถึงสวรรค์ มันเหวี่ยงเอาดวงดาวและดาวเคราะห์ต่างๆล่วงลงมาบนโลก แล้วก็เหยียบย่ำพวกมัน 11 เขาอันนี้แข็งแกร่งขึ้น และได้ท้าทายพระเจ้า ผู้เป็นจอมทัพสวรรค์ และมันได้เอาเครื่องเผาบูชาประจำวันของพระองค์ไป และทำลายวิหารของพระองค์ด้วย 12 การมีอำนาจเหนือเครื่องเผาบูชาประจำวันของพระเจ้าถือว่าเป็นการกบฏ แต่พระเจ้าจะปล่อยให้กองทัพนั้นทำอย่างนั้น และกองทัพนั้นจะเหวี่ยงความจริงลงบนพื้นโลก และกองทัพนั้นก็จะสำเร็จในทุกเรื่องที่มันทำ
13 ผมได้ยินผู้ศักดิ์สิทธิ์ท่านหนึ่งพูดขึ้น แล้วผู้ศักดิ์สิทธิ์อีกท่านหนึ่งก็ถามผู้ศักดิ์สิทธิ์ท่านที่พูดขึ้นนั้นว่า
“สิ่งต่างๆเหล่านี้ในภาพนิมิต จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน แล้วเครื่องเผาบูชาประจำวันนี้จะถูกยกเลิกไปอีกนานแค่ไหน การกบฏที่มุ่งทำลายนี้จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน พระเจ้าจะปล่อยให้วิหารตกอยู่ในกำมือของศัตรูไปอีกนานแค่ไหน และกองทัพสวรรค์จะถูกเหยียบย่ำไปอีกนานแค่ไหน”
14 ท่านบอกกับผมว่า “มันจะเป็นอย่างนี้ไปอีก สองพันสามร้อยเย็นและเช้า[d] แล้ววิหารนั้นก็จะได้รับการฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม”[e]
ความหมายของนิมิตนั้น
15 ตอนที่ผมดาเนียล กำลังดูนิมิตอยู่นั้น และพยายามจะเข้าใจความหมายของมัน จู่ๆก็มีผู้หนึ่งดูเหมือนมนุษย์มายืนอยู่ข้างหน้าผม
16 แล้วผมก็ได้ยินเสียงมนุษย์ ออกมาจากเหนือบนแม่น้ำอุลัยว่า “กาเบรียล[f] อธิบายนิมิตนี้ให้ชายคนนั้นฟังหน่อยสิ”
17 ผู้นั้นก็เลยเดินตรงมาที่ผมยืนอยู่ เมื่อเขาเข้ามาใกล้ ผมก็ตกใจกลัวจนล้มลงซบหน้าลงกับพื้น เขาบอกกับผมว่า “มนุษย์เอ๋ย ให้รู้ไว้เถอะว่า นิมิตนั้นเป็นเรื่องของเวลาของจุดสิ้นสุดนั้น”
18 ในขณะที่ท่านกำลังพูดกับผมนั้น ผมกำลังนอนซบหน้าอยู่กับพื้น แล้วผมก็เคลิ้มหลับไป แต่ท่านก็มาสะกิดผมและพยุงให้ผมลุกขึ้นยืน
19 แล้วพูดว่า “ฟังนะ เรากำลังจะบอกเจ้าว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อช่วงเวลาแห่งความโกรธแค้นของพระเจ้าใกล้จะถึงจุดจบนั้น เมื่อเวลาที่ได้กำหนดไว้นั้นมาถึง มันก็จะถึงจุดสิ้นสุด
20 แกะผู้ที่มีสองเขาที่เจ้าเห็นนั้นหมายถึงพวกกษัตริย์ของอาณาจักรมีโดเปอร์เซีย
21 ส่วนแพะตัวผู้นั้น หมายถึงอาณาจักรของกรีซ เขาอันใหญ่ที่อยู่ระหว่างดวงตาของมันก็คือกษัตริย์องค์แรก 22 เขาอันนั้นที่หักไปในขณะที่มีอีกสี่เขางอกขึ้นมาแทนนั้น ก็คืออาณาจักรสี่อาณาจักร ที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่กษัตริย์องค์แรกนั้นตายไป แต่ทั้งสี่อาณาจักรนี้จะไม่แข็งแรงเท่ากับกษัตริย์องค์แรก
23 เมื่อเวลาครอบครองของพวกเขาใกล้สิ้นสุดลง และเมื่อพวกเขาได้ทำชั่วอย่างสุดๆแล้ว แล้วกษัตริย์ที่ดูโหดเหี้ยมและเก่งกาจในการหลอกลวง จะขึ้นมายึดอำนาจ 24 พระองค์จะมีพลังแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่มากเท่ากษัตริย์องค์แรก พระองค์จะทำลายล้างอย่างน่าตกตะลึง พระองค์จะสำเร็จในทุกสิ่งที่พระองค์ทำ พระองค์จะทำลายหลายคนของพวกผู้ศักดิ์สิทธิ์
25 พระองค์จะหลอกลวงได้อย่างเก่งกาจ เพราะด้วยเล่ห์เหลี่ยมและอำนาจของพระองค์ พระองค์จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่างๆด้วยความกล้าหาญ พระองค์จะทำลายคนของพระเจ้าได้อย่างง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นพระองค์ก็จะต่อต้านจอมทัพผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด แต่กษัตริย์องค์นี้ก็จะถูกทำลาย โดยไม่ใช่เป็นฝีมือของมนุษย์เลย
26 คำอธิบายของนิมิตเกี่ยวกับเวลาเย็นและเวลาเหล่านั้นเชื่อถือได้ ส่วนเจ้า ดาเนียล ให้เก็บเรื่องนิมิตนี้ไว้เป็นความลับก่อน เพราะมันเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นอีกนานหลังจากนี้”
27 ผม ดาเนียล ได้ล้มป่วยลงหลายวัน จากนั้นถึงได้ลุกขึ้นกลับไปทำงานให้กษัตริย์เหมือนเดิม นิมิตนี้ทำให้ผมกลุ้มใจมาก เพราะผมไม่เข้าใจมัน
ดาเนียลอธิษฐาน
9 ในช่วงปีแรกของดาริอัส (ดาริอัสคนนี้เป็นลูกของเซอร์เซส[g]ผู้สืบเชื้อสายมาจากชาวมีเดียน ดาริอัสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ของพวกคาสดิม) 2 ในช่วงปีแรกที่ดาริอัสปกครองนั้น ผม ดาเนียลได้สังเกตในเอกสารต่างๆเกี่ยวกับเรื่องที่พระยาห์เวห์บอกกับเยเรมียาห์ ผู้พูดแทนพระองค์ ที่ว่า “เมืองเยรูซาเล็มจะต้องเป็นซากปรักหักพังอยู่อย่างนั้นไปจนกว่าจะครบเจ็ดสิบปี[h] ถึงจะมีการสร้างขึ้นมาใหม่”
3 ดังนั้นผมจึงตัดสินใจแสวงหาพระเจ้าองค์เจ้าชีวิตของผม ด้วยการอธิษฐาน ขอความเมตตาจากพระองค์ ในขณะที่ผมอดอาหาร สวมใส่ผ้ากระสอบไว้ทุกข์ และโรยขี้เถ้าบนหัว 4 ผมอธิษฐานกับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของผม และสารภาพบาป ผมพูดว่า
“ได้โปรดเถิด องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม ผู้ที่รักษาข้อตกลงของพระองค์ และแสดงความรักที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ กับคนที่รักพระองค์ ซึ่งก็คือคนที่ทำตามคำสั่งของพระองค์
5 พวกเราทำบาป ทำผิด และทำสิ่งที่ชั่วร้าย เราได้กบฏและเบือนหน้าหนีจากคำสั่งและกฎเกณฑ์ของพระองค์ 6 เราไม่ยอมฟังพวกผู้รับใช้ของพระองค์ พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่มาพูดตามคำสั่งของพระองค์ ที่พระองค์สั่งให้มาพูดกับกษัตริย์ของเรา พวกผู้นำ พวกพ่อของเรา และทุกคนในประเทศ
7 องค์เจ้าชีวิตเจ้าข้า พระองค์ทำถูกต้องแล้ว แต่เรานำความอับอายขายหน้ามาสู่พวกเราเองจนถึงทุกวันนี้ คือมาสู่คนยูดาห์ พลเมืองของเยรูซาเล็ม และชาวอิสราเอลทุกคน ทั้งใกล้และไกล มาสู่คนในทุกประเทศที่พระองค์ทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปนั้น หลังจากที่พวกเขาทรยศต่อพระองค์
8 ใช่แล้วพระยาห์เวห์ เราได้นำความอับอายมาสู่พวกเราเอง ทั้งพวกเรา พวกกษัตริย์ พวกผู้นำ และพวกพ่อของเรา เพราะพวกเราทุกคนได้ทำบาปต่อพระองค์
9 แต่องค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเรามีความเมตตาและให้อภัยพวกเราที่ได้กบฏต่อพระองค์ 10 เราไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา นั่นคือเราไม่ได้ใช้ชีวิตตามคำสอนของพระองค์ ที่พระองค์ให้กับเรา ผ่านมาทางพวกผู้รับใช้ของพระองค์ คือพวกผู้พูดแทนพระเจ้านั่นเอง 11 คนอิสราเอลทุกคนละเมิดคำสั่งสอนของพระองค์ และทำผิดที่ไม่ฟังพระองค์ ดังนั้นคำสาปแช่งและคำปฏิญาณ[i] ที่เขียนไว้ในกฎของโมเสส ผู้รับใช้ของพระเจ้า ได้ตกอยู่บนเรา เพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์
12 พระองค์ก็เลยทำตามที่พระองค์ขู่ไว้ว่า จะให้เกิดขึ้นกับพวกเรา และกับพวกผู้นำของเรา พระองค์นำความหายนะครั้งใหญ่มาใส่เรา ความหายนะที่เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มนั้นร้ายแรงมาก ไม่เหมือนกับความหายนะอันไหนเลยที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทั่วใต้ฟ้านี้ 13 ความทุกข์ยากที่ได้เขียนไว้ในกฎของโมเสส ก็ได้เกิดขึ้นกับเรา เหมือนกับที่ได้เขียนไว้ในกฎทุกอย่าง แต่พวกเราก็ไม่ได้พยายามที่จะทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราพอใจ ด้วยการหันจากการทำชั่วของเรา และเรียนรู้จากความซื่อสัตย์ของพระองค์
14 พระยาห์เวห์ได้เตรียมความหายนะนี้สำหรับเวลาที่เหมาะสม แล้วพระองค์ก็ให้มันตกลงมาบนเรา ทุกอย่างที่พระยาห์เวห์พระเจ้าได้ทำไปนั้นยุติธรรมแล้ว แต่เราไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์
15 และบัดนี้ ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าของเรา พระองค์เป็นผู้ที่นำคนของพระองค์ออกจากอียิปต์
ด้วยมืออันทรงพลังของพระองค์ ด้วยพลังอำนาจที่พระองค์ได้แสดงให้เห็นนั้น ทำให้พระองค์มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วจนถึงทุกวันนี้ เราได้ทำบาปและทำสิ่งที่ชั่วร้าย 16 องค์เจ้าชีวิตของข้าพระองค์ เพื่อเห็นแก่ความเมตตาปรานี ขอได้โปรดเลิกโกรธเยรูซาเล็มเมืองของพระองค์ ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ด้วยเถิด เพราะความเลวทรามของบรรพบุรุษของเราและความบาปของพวกเรานี่เองที่ทำให้ชนชาติอื่นๆทั้งหมดที่อยู่รอบข้างเกลียดชังเยรูซาเล็มและคนของพระองค์
17 บัดนี้ พระเจ้าของพวกเราได้โปรดฟังคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์ และคำอ้อนวอนขอความเมตตาของเขาด้วยเถิด ขอให้ใบหน้าของพระองค์ส่องสว่างลงมาบนวิหารที่ปรักหักพังนี้ด้วย เพื่อเห็นแก่พระองค์เอง 18 พระเจ้าของข้าพระองค์ โปรดเงี่ยหูฟัง โปรดเปิดตาดู ซากปรักหักพังของเมืองที่ผู้คนรู้ว่าเป็นของพระองค์ ที่เราขอความเมตตาต่อพระองค์นี้ ไม่ใช่เพราะเราดีและสมควรจะได้รับ แต่เพราะพระองค์มีความเมตตาสงสารต่างหาก 19 องค์เจ้าชีวิตของผม ได้โปรดฟังด้วย องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า ได้โปรดยกโทษให้ด้วย องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า ได้โปรดสนใจด้วย พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดทำตามที่ขอด้วย เพื่อเห็นแก่พระองค์เอง และโปรดอย่ารอช้าเลย ได้โปรดทำสิ่งนี้ เพราะผู้คนรู้ว่าทั้งคนพวกนี้และเมืองนี้เป็นของพระองค์”
นิมิตเรื่องเจ็ดสิบอาทิตย์
20 ในขณะที่ผมกำลังพูด อธิษฐาน และสารภาพความผิดบาปของผมเองและของชาวอิสราเอลคนของผมนั้น ขณะที่กำลังวิงวอนขอความเมตตาต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของผม ให้กับภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์นั้น 21 ในขณะที่ผมกำลังร้องอธิษฐานนั้นเอง กาเบรียล ผู้ชายคนที่ผมเห็นในนิมิตของผมก่อนหน้านี้ ก็ลอยมาหาผม ในช่วงการถวายเครื่องบูชาตอนเย็น 22 เขามาพูดกับผม เพื่อช่วยให้ผมเข้าใจ เขาพูดว่า “ดาเนียล เราได้มาที่นี่เดี๋ยวนี้ เพื่อช่วยให้เจ้าเข้าใจ 23 ในตอนที่เจ้าเริ่มอธิษฐานขอความเมตตานั้น พระเจ้าให้คำตอบ และเราก็ได้มาบอกมัน เพราะพระเจ้ารักเจ้ามาก ดังนั้นตั้งใจฟังคำตอบให้ดี และให้เข้าใจนิมิตนั้น
24 พระเจ้าให้เวลากับคนของเจ้าและเมืองศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเจ็ดสิบอาทิตย์[j] เจ็ดสิบอาทิตย์นี้มีไว้เพื่อให้พวกเจ้าหยุดการกบฏ ทำให้บาปนั้นสิ้นสุดลง ชำระความผิดบาปของพวกเจ้า และนำความยุติธรรมอันถาวรกลับมา ทำให้คนเห็นว่านิมิตที่ผู้พูดแทนพระเจ้ามาบอกนั้นเป็นจริง และเพื่อจะเจิมสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
25 ดาเนียล ให้รู้และเข้าใจไว้ด้วยว่า นับตั้งแต่เวลาที่ได้ออกคำสั่ง ให้ฟื้นฟูและสร้างเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ ไปจนถึงเวลาที่ผู้นำที่ถูกเจิมไว้มานั้น มีเจ็ดอาทิตย์ แล้วเวลาที่ใช้สร้างเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ รวมทั้งในลานกลางเมือง พร้อมกับคูป้องกันเมือง จะใช้เวลาหกสิบสองอาทิตย์ ในช่วงนี้จะเต็มไปด้วยปัญหามากมาย 26 และผู้นำที่ถูกเจิมไว้ก็จะถูกกำจัดไปและผู้นำคนนั้นจะไม่มีอำนาจเหนือเมืองและวิหารอีกต่อไป คนที่ติดตามผู้นำคนใหม่ในอนาคตก็จะทำตัวเลวร้าย จุดจบของผู้นำคนใหม่นั้นจะมาเหมือนกับน้ำท่วมทะลัก
พระเจ้าได้ออกคำสั่งให้เกิดการทำลายมากมายจนกว่าสงครามจะสิ้นสุดลง
27 ผู้นำคนใหม่นั้นจะทำสนธิสัญญาที่เข็มแข็งกับคนจำนวนมาก และในกลางอาทิตย์นั้น การถวายเครื่องบูชาและเซ่นไหว้จะถูกหยุดไป และจะมีสิ่งที่น่าขยะแขยงมาแทนที่ จนถึงจุดจบที่พระเจ้าสั่งให้มาท่วมท้นผู้ทำลายคนนั้น”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International