Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เอเสเคียล 46-48

กฎระเบียบต่างๆสำหรับผู้ครอบครองและประชาชน

46 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด

“ประตูลานด้านในที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกนั้น ให้ปิดมันไว้ตลอดหกวันทำงานนั้น แต่ในวันหยุดทางศาสนาและวันพระจันทร์ใหม่ ให้เปิดมันไว้ ผู้ครอบครองอิสราเอลจะต้องเข้ามาจากด้านนอกโดยผ่านทางระเบียงของประตูทางเข้า และมายืนอยู่ข้างเสาประตู พวกนักบวชต้องเอาเครื่องเผาบูชาของผู้ครอบครอง และพวกเครื่องสังสรรค์บูชาของเขา มาถวายให้กับเรา ผู้ครอบครองต้องกราบไหว้อยู่ที่ธรณีประตูทางเข้า แล้วถึงค่อยออกไป แต่อย่าเพิ่งปิดประตูจนกว่าจะถึงตอนเย็น ทุกๆวันหยุดทางศาสนาและทุกๆวันพระจันทร์ใหม่ ประชาชนในแผ่นดินต้องมากราบไหว้อยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ที่ทางเข้าของประตูนั้น

เครื่องเผาบูชาที่ผู้ครอบครอง นำมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ในวันหยุดทางศาสนานั้น จะต้องประกอบไปด้วย ลูกแกะผู้หกตัว และแกะผู้หนึ่งตัว ทุกตัวต้องไม่มีตำหนิใดๆ

เขาต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชหนึ่งเอฟาห์[a] พร้อมกับแกะผู้ตัวนั้น และถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชเท่าที่อยากจะถวาย พร้อมกับลูกแกะเหล่านั้น แต่เขาต้องถวายน้ำมันหนึ่งฮินสำหรับเมล็ดพืชแต่ละเอฟาห์

ในวันพระจันทร์ใหม่นั้น เขาต้องถวายวัวหนุ่มหนึ่งตัว พร้อมกับลูกแกะหกตัว และแกะผู้หนึ่งตัว ทุกตัวต้องไม่มีตำหนิใดๆ

เขาต้องจัดหาเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชหนึ่งเอฟาห์ถวายพร้อมกับวัวผู้ตัวนั้น และถวายเมล็ดพืชหนึ่งเอฟาห์ไปพร้อมกับแกะผู้ตัวนั้นด้วย และให้ถวายเมล็ดพืชเท่าที่เขาอยากจะถวาย พร้อมกับพวกลูกแกะ แต่เขาต้องถวายน้ำมันหนึ่งฮิน[b] สำหรับเมล็ดพืชแต่ละเอฟาห์

เมื่อผู้ครอบครองเข้ามา เขาต้องเดินผ่านระเบียงของประตูทางเข้า และต้องออกไปทางประตูเดียวกัน

เมื่อประชาชนในแผ่นดินนั้น มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ในงานเทศกาลต่างๆที่ได้กำหนดไว้ คนที่เข้ามาทางประตูทิศเหนือเพื่อมานมัสการเรา จะต้องออกไปทางประตูทิศใต้ และคนที่เข้ามาทางประตูทิศใต้จะต้องออกไปทางประตูทิศเหนือ ห้ามเข้าออกโดยใช้ประตูเดียวกัน แต่ต้องเข้าออกโดยใช้ประตูที่อยู่ตรงข้ามกัน

10 ผู้ครอบครองจะต้องอยู่ท่ามกลางประชาชน ประชาชนเข้าออกตอนไหน ผู้ครอบครองก็ต้องเข้าออกตอนนั้นด้วย

11 ทั้งงานเทศกาลและงานเลี้ยงทั้งหลายที่ได้กำหนดขึ้น ต้องมีเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช หนึ่งเอฟาห์ถวายพร้อมกับวัวผู้หนึ่งตัว

และเมล็ดพืชอีกหนึ่งเอฟาห์ถวายพร้อมกับแกะผู้หนึ่งตัว

และถวายเมล็ดพืชเท่าที่เขาอยากจะถวาย พร้อมกับพวกลูกแกะ พร้อมกับน้ำมันหนึ่งฮินสำหรับเมล็ดพืชแต่ละเอฟาห์

12 เมื่อผู้ครอบครองจัดหาเครื่องบูชาด้วยความสมัครใจมาให้กับพระยาห์เวห์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องสังสรรค์บูชาก็ตาม จะต้องเปิดประตูที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกให้กับเขา เขาจะถวายเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องสังสรรค์บูชา เหมือนกับที่เขาถวายในวันหยุดทางศาสนา แล้วเขาจะออกไป และหลังจากที่เขาออกไปแล้ว ให้ปิดประตู

กฎระเบียบเรื่องเครื่องบูชาประจำวัน

13 ทุกๆเช้า ผู้ครอบครองต้องจัดหาลูกแกะอายุหนึ่งปีที่ไม่มีตำหนิใดๆมาเป็นเครื่องเผาบูชาให้แก่พระยาห์เวห์

14 ผู้ครอบครองยังต้องจัดหาเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชหนึ่งส่วนหกเอฟาห์ กับน้ำมันหนึ่งส่วนสามฮิน เพื่อทำให้แป้งนุ่ม ร่วมกับการถวายเครื่องเผาบูชานี้ การถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชให้แก่พระยาห์เวห์นั้น เป็นกฎที่ต้องทำตลอดไป

15 เขาจะต้องถวายลูกแกะ เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและน้ำมัน ให้กับเราในทุกๆเช้า นี่เป็นกฎสำหรับเครื่องเผาบูชาที่ทำกันตามปกติทุกๆวัน”

กฎระเบียบเรื่องการยกมรดกของผู้ครอบครองแผ่นดิน

16 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด

“ถ้าผู้ครอบครองมอบของขวัญจากกองมรดกให้กับลูกชายคนหนึ่งคนใดของเขา มรดกนั้นจะตกเป็นของลูกหลานของลูกชายคนนั้นด้วย มันจะเป็นสมบัติที่ตกทอดกันต่อๆไป

17 แต่ ถ้าผู้ครอบครองมอบของขวัญจากกองมรดกให้กับคนรับใช้คนหนึ่งคนใดของเขา คนรับใช้คนนั้นจะเก็บของนั้นไว้ได้จนถึงปีแห่งการปลดปล่อยแล้วของนั้นก็จะกลับไปสู่ผู้ครอบครองคนนั้นเหมือนเดิม มรดกของผู้ครอบครองจะตกทอดไปสู่ลูกชายของผู้ครอบครองเท่านั้น มันเป็นสมบัติของลูกหลานของเขา

18 ผู้ครอบครองต้องไม่ไปแย่งชิงมรดกของประชาชน

หรือขับไล่ประชาชนออกจากที่ดินของพวกเขา

ผู้ครอบครองต้องยกมรดกที่เป็นของเขาเองให้กับพวกลูกชายของเขา เพื่อประชาชนของเราจะได้ไม่ต้องถูกไล่ออกจากที่ดินของพวกเขา”

กฎระเบียบเรื่องครัวของวิหาร

19 แล้วชายผู้นั้นได้นำผมผ่านไปที่ทางเข้าที่อยู่ด้านข้างของประตูที่จะไปสู่บรรดาห้องศักดิ์สิทธิ์ซึ่งหันหน้าไปทางทิศเหนือ ห้องเหล่านั้นคือห้องของพวกนักบวช เขาได้พาผมไปดูสถานที่แห่งหนึ่ง ที่อยู่ปลายสุดทางด้านทิศตะวันตก 20 เขาพูดกับผมว่า “นี่คือสถานที่ที่พวกนักบวชจะใช้ต้มเครื่องบูชาชดเชย และเครื่องบูชาชำระล้าง และอบเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช เพื่อพวกเขาจะได้ไม่ต้องเอาเครื่องบูชาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ออกไปที่ลานด้านนอก ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อประชาชนได้”[c]

21 แล้วเขาได้นำผมไปที่ลานด้านนอก และพาผมเดินผ่านไปทั้งสี่มุมของลาน และแต่ละมุมก็มีลานเล็กอีกลานหนึ่ง

22 ลานเล็กที่อยู่ตามมุมทั้งสี่ของลานด้านนอกนี้ มีขนาดยาวสี่สิบศอกและกว้างสามสิบศอก ลานเล็กที่อยู่ติดกับทั้งสี่มุมนี้มีขนาดเท่ากันหมด

23 บริเวณโดยรอบด้านในของลานเล็กทั้งสี่ลานนั้น มีส่วนที่ยื่นออกมาจากกำแพง ส่วนที่ยื่นออกมานั้นก่อขึ้นจากหิน และมีที่ก่อไฟอยู่ด้านล่างโดยรอบ

24 ชายผู้นั้นได้พูดกับผมว่า “สถานที่เหล่านี้คือพวกครัวที่พวกผู้ที่รับใช้อยู่ในวิหาร ใช้ต้มพวกเครื่องบูชาของประชาชน”

แม่น้ำที่ ไหลมาจากวิหาร

47 ชายผู้นั้นได้พาผมกลับมาที่ประตูทางเข้าวิหาร

และผมได้เห็นน้ำไหลออกมาจากใต้ธรณีประตูของวิหาร ไหลไปทางทิศตะวันออก (เพราะวิหารหันหน้าไปทางทิศตะวันออก) น้ำไหลลงมาจากทางด้านทิศใต้ของธรณีประตูของวิหาร และไหลผ่านทางด้านทิศใต้ของแท่นบูชา

แล้วชายผู้นั้นได้นำผมออกมา โดยใช้ประตูทิศเหนือ และพาผมอ้อมไปทางด้านนอกไปถึงประตูด้านนอกที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และน้ำนั้นได้ไหลออกมาจากทางทิศใต้ของประตูนั้น

ชายผู้นั้นเดินไปทางทิศตะวันออกพร้อมกับถือสายวัดเส้นหนึ่งในมือ เขาวัดสายน้ำได้หนึ่งพันศอก แล้วเขาพาผมลุยน้ำที่ลึกถึงตาตุ่ม

เขาวัดสายน้ำได้อีกหนึ่งพันศอก และเขาพาผมเดินลุยน้ำที่ลึกถึงหัวเข่า

เขาวัดสายน้ำได้อีกหนึ่งพันศอก และเขาพาผมเดินลุยน้ำที่ลึกถึงเอว

เขาวัดสายน้ำได้อีกหนึ่งพันศอก แต่ตอนนี้มันคือแม่น้ำสายหนึ่งที่ผมลุยข้ามไปไม่ได้ เพราะน้ำขึ้นสูงและลึกมากจนไม่มีใครลุยข้ามไปได้นอกจากจะว่ายน้ำข้ามไป

ชายผู้นั้นถามผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ เจ้าได้สังเกตเรื่องเหล่านี้หรือเปล่า”

แล้วเขาก็พาผมกลับไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ

เมื่อผมมาถึงที่นั้น

ผมได้เห็นต้นไม้จำนวนมากขึ้นอยู่ริมแม่น้ำทั้งสองฝั่ง

ชายผู้นั้นได้พูดกับผมว่า

“แม่น้ำสายนี้ไหลไปที่แคว้นทางทิศตะวันออกและไหลไปที่อาราบา[d] และไหลลงสู่ทะเลตายและทำให้ทะเลตายกลายเป็นน้ำจืด

แม่น้ำนี้ไหลผ่านที่ไหน ก็จะมีสิ่งมีชีวิตมาอาศัยอยู่ที่นั่น จะมีปลาอยู่มากมาย เพราะเมื่อน้ำนี้ไหลลงทะเล มันจะทำให้น้ำเค็มกลายเป็นน้ำจืด ดังนั้น ไม่ว่าแม่น้ำสายนี้จะไหลผ่านที่ใด ก็จะมีสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมาอาศัยอยู่ที่นั่น

10 ชาวประมงจะยืนอยู่ตามริมฝั่ง ตั้งแต่เอนเกดีไปจนถึงเอนเอกลาอิม จะมีที่มากมายให้ทอดแห จะมีปลามากมายหลายชนิดเหมือนกับปลาที่มีอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

11 แต่น้ำตามหนองตามบึงจะไม่เป็นน้ำจืด มันจะถูกทิ้งไว้ให้เป็นเกลือ 12 ต้นไม้ทุกชนิดที่ให้ผล จะเจริญเติบโตอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำ ใบไม้ของมันจะไม่แห้งเหี่ยว และจะออกผลไม่หยุดหย่อน มันจะออกผลให้ทุกๆเดือน เพราะน้ำจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่านพวกมัน ผลของมันจะใช้เป็นอาหาร และใบของมันจะใช้เป็นยารักษา”

การแบ่งที่ดินให้กับสิบสองเผ่าของอิสราเอล

13 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด

“ต่อไปนี้คือเขตแดนที่ดินที่เจ้าต้องแบ่งไว้เป็นมรดกให้กับสิบสองเผ่าของอิสราเอล โยเซฟจะได้สองส่วน

14 เจ้าต้องแบ่งมันให้กับพวกเขาอย่างเท่าเทียมกัน

เพราะเราได้ยกมือสาบานไว้ว่าจะให้มันกับบรรพบุรุษของเจ้า ที่ดินนี้จะเป็นมรดกของเจ้า

15 ต่อไปนี้จะเป็นเขตแดนของที่ดิน

เขตแดนทางทิศเหนือ เริ่มจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปตามถนนเฮทโลน ผ่านทางเข้าเมืองฮามัทจนถึงเศดัด 16 ต่อไปจนถึงเบโรธาห์และสิบราอิม (ซึ่งติดอยู่กับเขตแดนของดามัสกัสกับฮามัท) ไปจบที่ฮาเซอร์ฮัททิโคน ซึ่งติดกับเขตแดนของเฮาราน

17 ดังนั้นเขตแดนทางทิศเหนือ เริ่มจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงฮาซาเรโนน (ซึ่งอยู่เหนือเขตแดนของเมืองดามัสกัส และอยู่ใต้เขตแดนของฮามัท)

18 เขตแดนทางทิศตะวันออก จะทอดยาวไประหว่างเฮารานกับเมืองดามัสกัส และเรียบแม่น้ำจอร์แดนลงไปทางใต้ ซึ่งแยกระหว่างเขตแดนของกิเลอาดกับแผ่นดินของชาวอิสราเอล และจะเลยทะเลตายไปทางใต้ไกลถึงเมืองทามาร์

19 เขตแดนทางทิศใต้ เส้นเขตแดนจะเริ่มจากเมืองทามาร์ทอดยาวไปจนถึงพวกตาน้ำแห่งเมรีบาห์คาเดช แล้วเลาะไปตามลำธารของอียิปต์ ไปจบที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

20 เขตแดนทางทิศตะวันตก จะขนานไปกับชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนขึ้นไปทางเหนือ ไปจนถึงจุดที่อยู่ตรงข้ามกับทางเข้าเมืองฮามัท

21 เจ้าต้องแบ่งที่ดินในหมู่พวกเจ้า ตามเผ่าต่างๆของอิสราเอล 22 เจ้าต้องแบ่งมันให้เป็นมรดกกับตัวพวกเจ้าเอง และกับชาวต่างชาติที่มาตั้งรกรากอยู่ในหมู่พวกเจ้า และมีลูกหลาน เจ้าต้องถือว่าพวกเขาเป็นชาวอิสราเอลโดยกำเนิด พวกเจ้าต้องจัดแบ่งมรดกให้กับพวกเขาในท่ามกลางชนเผ่าของอิสราเอลด้วย 23 พวกเจ้าจะต้องแบ่งมรดกให้กับเขา ไม่ว่าพวกเขาจะตั้งรกรากอยู่ท่ามกลางชนเผ่าใดของอิสราเอลก็ตาม”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

ที่ดินสำหรับเผ่าต่างๆของอิสราเอล

48 “ต่อไปนี้คือรายชื่อของเผ่าต่างๆของอิสราเอลกับที่ดินที่พวกเขาจะได้รับ

เริ่มจากทางทิศเหนือ ชนเผ่าดานจะได้รับส่วนหนึ่ง คือส่วนที่เลียบไปตามถนนเฮทโลนไปจนถึงทางเข้าเมืองฮามัท ไปจนถึงฮาซาเรโนน (ซึ่งติดกับเขตแดนทางด้านเหนือของเมืองดามัสกัส ที่อยู่ถัดจากเมืองฮามัท) เริ่มจากเขตแดนด้านตะวันออกยาวไปจนถึงด้านตะวันตก

ชนเผ่าอาเชอร์จะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของดาน

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

ชนเผ่านัฟทาลีได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของอาเชอร์

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

ชนเผ่ามนัสเสห์จะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของนัฟทาลี

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

ชนเผ่าเอฟราอิมจะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของมนัสเสห์

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

ชนเผ่ารูเบนจะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเอฟราอิม

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

ชนเผ่ายูดาห์จะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของรูเบน

ทอดยาวจากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

เขตพิเศษ

ส่วนที่ถัดจากเขตแดนของยูดาห์ลงมา จากทางทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก จะเป็นส่วนของแผ่นดินที่เจ้าต้องแยกออกมาเป็นพิเศษ ซึ่งมีความกว้างสองหมื่นห้าพันศอกและมีความยาวจากทางตะวันออกไปถึงตะวันตกเท่ากับส่วนแบ่งของแต่ละเผ่า จะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ตรงกลางของที่ดินแปลงนี้

เขตพิเศษที่เจ้าต้องถวายให้กับพระยาห์เวห์ จะมีความยาวสองหมื่นห้าพันศอกและกว้างสองหมื่นศอก[e]

10 ส่วนแบ่งที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ที่เจ้าได้แยกออกไว้ต่างหาก จะถูกจัดสรรให้กับกลุ่มต่อไปนี้ สำหรับพวกนักบวช จะได้รับเขตที่ดินที่มีความยาวสองหมื่นห้าพันศอกทางด้านเหนือและด้านใต้และกว้างหนึ่งหมื่นศอกทางด้านตะวันตกและตะวันออก และมีที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์อยู่ตรงกลาง

11 เฉพาะพวกนักบวชที่เป็นลูกหลานของศาโดกเท่านั้น ที่จะได้รับส่วนแบ่งอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เพราะ พวกนี้ได้รับการเลือกให้มาเป็นนักบวชที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำหน้าที่เฝ้ายามให้กับเรา และไม่ได้หันเหไปจากเรา ตอนที่พวกชาวเลวีอื่นๆและชาวอิสราเอลหลงไปจากเรา

12 ที่ดินส่วนนี้จะเป็นของขวัญพิเศษที่มอบให้แก่พวกนักบวชนี้ ส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของเขตศักดิ์สิทธิ์ เป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ที่อยู่ถัดจากเขตของชาวเลวีขึ้นไป

13 ติดกับเขตแดนของนักบวชนั้น ชาวเลวีจะได้รับส่วนแบ่ง ขนาดยาวสองหมื่นห้าพันศอกและกว้างหนึ่งหมื่นศอก

รวมขนาดทั้งหมดของเขตแดนนั้นยาวสองหมื่นห้าพันศอก กว้างสองหมื่นศอก

14 พวกเขาต้องไม่ขายหรือเอามันไปแลกเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็ตาม มันเป็นที่ดินส่วนที่ดีที่สุดและต้องไม่ตกไปอยู่ในมือของคนกลุ่มอื่น เพราะมันเป็นส่วนศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์

ส่วนที่เป็นที่ดินของเมือง

15 พื้นที่ส่วนที่เหลือที่กว้างห้าพันศอก ยาวสองหมื่นห้าพันศอกนั้น จะไว้สำหรับใช้ประโยชน์ทั่วไปของชุมชน คือใช้เป็นที่อยู่อาศัย และใช้เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ตัวเมืองจะตั้งอยู่ตรงกลางของส่วนนี้ 16 เมืองนี้จะเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่า คือทั้งทิศเหนือใต้ออกตก มีความยาวสี่พันห้าร้อยศอกเท่ากันหมด

17 ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์จะยื่นออกไปจากเมืองสองร้อยห้าสิบศอกทั้งทิศเหนือใต้ออกตก

18 ส่วนพื้นที่ที่เหลือทางด้านตะวันออกและตะวันตกของเมือง ที่ติดกับเขตแดนของส่วนศักดิ์สิทธิ์ มีขนาดยื่นออกไปหนึ่งหมื่นศอกทั้งสองด้าน

พื้นที่ส่วนนี้จะใช้สำหรับปลูกพืชผลเพื่อเป็นอาหารให้กับพวกคนงานในเมือง

19 พวกคนงานที่อยู่ในเมือง จะมาเพาะปลูกในพื้นที่นี้ พวกเขาจะมาจากเผ่าทั้งหลายของอิสราเอล

20 ดังนั้นจุดศูนย์กลางของเขตศักดิ์สิทธิ์นี้ จะเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่าขนาดสองหมื่นห้าพันศอก เจ้าจะต้องแยกส่วนนี้ออกมาให้กับเรา และให้เป็นที่ตั้งของเมืองด้วย

21 ส่วนที่เหลือทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ที่ถัดจากส่วนศักดิ์สิทธิ์และที่ดินของเมืองออกไปนั้นจะตกเป็นของผู้นำของอิสราเอล มันจะยื่นออกไปสองหมื่นห้าพันศอกทั้งสองด้าน พื้นที่ทั้งสองแห่งนี้ที่ขนานกับเขตแดนของเผ่าอื่น จะตกเป็นของผู้นำอิสราเอล และจะมีส่วนศักดิ์สิทธิ์กับวิหารศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงกลางระหว่างสองแปลงนี้ 22 ดังนั้นที่ดินของชาวเลวีและที่ดินของเมืองจะขั้นกลางระหว่างที่สองแปลงของผู้นำอิสราเอล ที่ดินของผู้นำอิสราเอลจะตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนของเผ่ายูดาห์และเผ่าเบนยามิน

23 ส่วนชนเผ่าที่เหลือมีเขตแดนดังนี้คือ

ชนเผ่าเบนยามินจะได้รับส่วนถัดลงมา

ทอดยาวจากด้านตะวันออกไปถึงด้านตะวันตก

24 ชนเผ่าสิเมโอนจะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าเบนยามินลงมา

ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

25 ชนเผ่าอิสสาคาร์จะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าสิเมโอนลงมา

ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

26 ชนเผ่าเศบูลุนจะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าอิสสาคาร์ลงมา

ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

27 ชนเผ่ากาดจะได้รับส่วนหนึ่ง

คือส่วนที่ถัดจากเขตแดนของเผ่าเศบูลุนลงมา

ทอดยาวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตก

28 พรมแดนทางใต้ของชนเผ่ากาดจะทอดยาวจากเมืองทามาร์ไปจนถึงพวกตาน้ำแห่งเมรีบาห์คาเดช แล้วเลาะไปตามลำธารแห้งของอียิปต์ไปจบที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

29 นี่คือที่ดินที่เจ้าต้องจัดแบ่งเพื่อให้เป็นมรดกแก่ชนเผ่าต่างๆของอิสราเอล และนั่นคือสัดส่วนที่พวกเขาจะได้รับ”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

พวกประตูเมืองของเยรูซาเล็ม

30 ต่อไปนี้จะเป็นพวกประตูของเมืองเยรูซาเล็ม

เริ่มต้นจากทิศเหนือซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก

31 ประตูสามประตูทางทิศเหนือ ตั้งชื่อตามเผ่าของรูเบน ยูดาห์และเลวี

32 ทางทิศตะวันออกซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก จะมีสามประตูที่ตั้งชื่อตามเผ่าของโยเซฟ เบนยามินและดาน

33 ทางทิศใต้ซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก จะมีสามประตูที่ตั้งชื่อตามเผ่าของสิเมโอน อิสสาคาร์และเศบูลุน

34 ทางทิศตะวันตกซึ่งยาวสี่พันห้าร้อยศอก จะมีสามประตูที่ตั้งชื่อตามเผ่ากาด อาเชอร์และนัฟทาลี

35 รวมระยะทางโดยรอบของกำแพงเมือง จะมีความยาวหนึ่งหมื่นแปดพันศอก และนับตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป เมืองนี้จะมีชื่อว่า “พระยาห์เวห์อยู่ที่นั่น”[f]

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International