Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เอเสเคียล 24-27

เยรูซาเล็มเป็นหม้อที่เต็มไปด้วยเนื้อ

24 ในวันที่สิบเดือนสิบของปีที่เก้า[a]

คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้จดวันที่วันนี้ไว้ เพราะในวันนี้ กษัตริย์ของเมืองบาบิโลนได้มาปิดล้อมเมืองเยรูซาเล็มไว้

ให้เล่าเรื่องเปรียบเทียบนี้ให้กับครอบครัวขี้กบฏฟัง บอกพวกเขาว่า

‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
    ให้ตั้งหม้อทำอาหารไว้บนไฟ ตั้งไว้และเทน้ำใส่ลงไป
ให้ใส่เนื้อเป็นชิ้นๆลงไป
    เอาเนื้อชิ้นที่ดีๆทั้งหมด ทั้งส่วนสะโพกและส่วนขาหน้า
    แล้วใส่กระดูกที่ดีที่สุดลงไป
ให้เอาสัตว์ที่ดีที่สุดจากฝูงแพะแกะมาตัวหนึ่ง
    เอาไม้ฟืนมาสุมไว้ใต้หม้อเพื่อต้มชิ้นเนื้อต่างๆ
    และต้มกระดูกในหม้อนั้นไปด้วย’”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
“เมืองแห่งการฆ่าฟันกันนี้ น่าละอายจริงๆ
    ในหม้อใบนี้มีสิ่งสกปรกติดเกรอะกรังไปหมด
ขี้เกรอะพวกนี้ล้างไม่ออก
    ให้หยิบเนื้อในหม้อออกมาทีละชิ้นทีละชิ้น โดยไม่ต้องจับสลากเลือกว่าจะหยิบชิ้นไหนก่อน
เพราะว่าเลือดที่นางเยรูซาเล็มทำให้ไหลนองนั้น
    ยังอยู่ในท่ามกลางตัวนาง
นางเทเลือดออกมาไว้บนหิน
    นางไม่ได้เทลงบนดินที่ฝุ่นจะกลบปกปิดมันได้
เราวางเลือดที่นางได้ทำให้ตกนั้นไว้บนก้อนหิน
    เพื่อมันจะได้ไม่ถูกกลบ[b] จะได้ปลุกเร้าความโกรธของเราที่จะแก้แค้น”
ดังนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
“เมืองแห่งการฆ่าฟันกันนี้ น่าละอายจริงๆ
    เราจะสุมกองไม้ไว้ให้สูง
10 ให้สุมกองไม้ไว้
    และจุดไฟ
ต้มเนื้อให้สุก
    ผสมเครื่องเทศลงไป[c]
    และปล่อยให้กระดูกถูกเผาไป
11 แล้วตั้งหม้อเปล่าไว้บนกองถ่าน
    จนมันร้อนและทองแดงเริ่มระอุ
เพื่อความสกปรกของมันจะละลายออกมา
    และขี้เกรอะของมันจะถูกเผาไหม้ไปหมด

12 แต่เราก็ลงมือลงแรงเหนื่อยเปล่า
    เพราะขี้เกรอะอันหนาของมันก็ไม่หลุดออก
    แม้แต่ไฟก็ไม่สามารถเผาให้มันหลุดได้

13 ขี้เกรอะนั้นก็คือการร่านสวาทของเจ้า
    เราพยายามชำระล้างเจ้าแล้ว
แต่ขี้เกรอะของเจ้าก็ไม่ยอมออก
    เจ้าจะไม่มีวันสะอาดได้อีก
    จนกว่าเราจะระบายความเดือดดาลของเราใส่เจ้าจนหมดสิ้น

14 เรา ยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาไปแล้ว เวลาที่เราจะลงมือได้มาถึงแล้ว เราจะไม่ยับยั้งไว้อีก เราจะไม่สงสารและจะไม่เปลี่ยนใจ เราจะตัดสินโทษเจ้าตามวิธีการและการกระทำของเจ้า” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

เมียเอเสเคียลตาย

15 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 16 “เจ้าลูกมนุษย์ ในช่วงเวลาอันสั้น เราจะเอาแก้วตาดวงใจ[d]ของเจ้าไปอย่างกระทันหัน อย่าเศร้าโศกหรือร้องไห้หรือให้น้ำตาตกเลย 17 ครวญครางอย่างเงียบๆอย่าไว้ทุกข์ให้กับคนตาย ให้โพกผ้าที่หัว และใส่รองเท้าสานไว้ตามปกติ อย่าเอาผ้าปิดใต้จมูกลงมา[e] หรือกินอาหารตามประเพณีของคนไว้ทุกข์”

18 ดังนั้น ในตอนเช้าผมก็พูดกับประชาชนเหมือนเคย พอตกเย็นเมียของผมก็ตาย วันรุ่งขึ้น ผมก็ทำตามที่ได้รับคำสั่งมา 19 แล้วประชาชนก็ถามผมว่า

“ที่ท่านทำอย่างนี้ ท่านจะไม่บอกพวกเราหรือ ว่ามันหมายถึงอะไร”

20 ผมจึงพูดกับพวกเขาว่า “คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 21 ‘ให้บอกกับครอบครัวชาวอิสราเอลว่า นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เรากำลังจะทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราเสื่อมไป คือป้อมปราการที่เจ้าภาคภูมิใจนั้น มันเป็นแก้วตาดวงใจของเจ้าและเป็นสิ่งที่เจ้าหลงรัก ส่วนพวกลูกชายลูกสาวของเจ้าที่เจ้าไม่ได้เอามาด้วย จะถูกฆ่าฟันด้วยดาบ

22 แล้วในเวลานั้น พวกเจ้าก็จะทำเหมือนกับที่เอเสเคียลทำ พวกเจ้าจะไม่เอาผ้าปิดใต้จมูกลงมา และจะไม่กินอาหารตามประเพณีของคนไว้ทุกข์

23 เจ้าจะโพกผ้าไว้บนหัว และสวมรองเท้าสานไว้ตามปกติ เจ้าจะไม่ไว้ทุกข์หรือร้องไห้ แต่เจ้าจะเหี่ยวแห้งร่วงโรยไปเพราะบาปต่างๆของเจ้า และเจ้าจะคร่ำครวญอยู่ในหมู่ของพวกเจ้ากันเอง 24 เอเสเคียลจะเป็นตัวอย่างให้แก่พวกเจ้า พวกเจ้าจะทำอย่างที่เขาทำ เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น แล้วเจ้าจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต”’”

25 “และเจ้าลูกมนุษย์ ในวันที่เราทำลายป้อมปราการของพวกเขา ที่เป็นความชื่นบานและความภาคภูมิใจของพวกเขา มันเป็นแก้วตาดวงใจของพวกเขา และความปรารถนาของหัวใจพวกเขา และเราจะเอาลูกชายลูกสาวของพวกเขาไปด้วย 26 ในวันนั้นผู้รอดชีวิตคนหนึ่งจากเยรูซาเล็มจะมาบอกข่าวนี้กับเจ้า 27 ในเวลานั้นปากของเจ้าจะเปิดออก เจ้าจะพูดกับเขาและจะไม่เป็นใบ้อีก ดังนั้นเจ้าจะเป็นตัวอย่างให้แก่ประชาชน แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”

ชาวอัมโมนจะถูกลงโทษ

25 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้หันหน้าไปที่ชาวอัมโมนและพูดแทนเราต่อต้านพวกเขา ให้บอกพวกเขาว่า ‘ให้ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตให้ดี นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “พวกเจ้าร้องไชโย ตอนที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราถูกทำให้เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป ตอนที่แผ่นดินอิสราเอลถูกทิ้งร้างและตอนที่ชาวยูดาห์ถูกเนรเทศไป” ดังนั้นเราจะมอบพวกเจ้าให้เป็นสมบัติของพวกคนทางตะวันออก พวกเขาจะตั้งค่ายและปักเต็นท์ไว้ท่ามกลางพวกเจ้า พวกเขาจะกินผลไม้และดื่มนมของพวกเจ้า

เราจะเปลี่ยนเมืองรับบาห์ให้เป็นทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงอูฐ และเปลี่ยนเมืองอัมโมนให้เป็นสถานที่พักผ่อนของแกะ แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “พวกเจ้าตบมือและกระทืบเท้าด้วยความรื่นเริงยินดี ด้วยจิตใจที่มุ่งร้ายต่อแผ่นดินอิสราเอล ดังนั้นเราจะยื่นมือของเราออกลงโทษพวกเจ้า และมอบพวกเจ้าให้กับชนชาติต่างๆ เป็นของที่ปล้นมาได้ เราจะตัดเจ้าออกจากชนชาติทั้งหลาย และจะทำลายพวกเจ้าให้หมดไปจากประเทศต่างๆ เราจะทำลายพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”

ชาวโมอับและชาวเสอีร์จะถูกลงโทษ

นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “โมอับและเสอีร์ได้พูดว่า ‘ดูสิ ครอบครัวของชาวยูดาห์ก็เหมือนกับชนชาติอื่นๆ’ ดังนั้นเราจะทำให้เมืองหน้าด่านทางปีกขวาของโมอับล้มลง คือ เมืองเบธเยชิโมท เมืองบาอัลเมโอน และเมืองคิริยาธาอิม ที่เป็นศักดิ์ศรีของแผ่นดินนี้ 10 เราจะมอบโมอับพร้อมกับชาวอัมโมนให้เป็นสมบัติแก่ประชาชนทางตะวันออก เพื่อผู้คนจะได้ลืมไปเลยว่าพวกเขาเคยเป็นชนชาติมาก่อน 11 และเราจะลงโทษโมอับ แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”

ชาวเอโดมจะถูกลงโทษ

12 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เอโดมได้แก้แค้นอย่างโหดเหี้ยมต่อครอบครัวชาวยูดาห์ พวกเขาจึงมีความผิดอย่างร้ายแรง” 13 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เราจะยื่นมือของเราออกมาลงโทษเอโดม เราจะฆ่าทั้งคนและสัตว์ในประเทศนั้น เราจะทิ้งมันให้รกร้าง ผู้คนจะล้มตายลงด้วยดาบ ตั้งแต่เมืองเทมานไปจนถึงเมืองเดดาน 14 เราจะแก้แค้นเอโดมด้วยมือของชาวอิสราเอล และพวกเขาจะลงโทษเอโดมตามความโกรธและความเดือดดาลของเรา แล้วชาวเอโดมจะได้รู้ว่าเป็นเราเองที่แก้แค้นพวกเขา” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

ชาวฟีลิสเตียจะถูกลงโทษ

15 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ชาวฟีลิสเตียทำตัวเป็นศัตรูกับยูดาห์มาตลอดตั้งแต่สมัยโบราณ พวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น และได้ทำการแก้แค้นอย่างโหดเหี้ยม ด้วยจิตใจที่มุ่งร้ายหมายทำลาย” 16 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เราจะยื่นมือของเราออกลงโทษชาวฟีลิสเตีย เราจะตัดชาวเคเรธีออก และทำลายพวกที่ยังหลงเหลืออยู่ตามชายฝั่งทะเล 17 เราจะทำการแก้แค้นอันยิ่งใหญ่ต่อพวกเขา และจะลงโทษพวกเขาด้วยความเดือดดาลของเราและเมื่อเราแก้แค้นพวกเขา พวกเขาจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”

เมืองไทระจะถูกลงโทษ

26 ในปีที่สิบเอ็ด[f] วันที่หนึ่งของเดือน

คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ เมืองไทระได้ร้องไชโยใส่เมืองเยรูซาเล็ม และยังพูดอีกว่า ‘เมืองที่เป็นประตูไปสู่ชนชาติต่างๆได้ถูกทำลายลงแล้ว และมันได้ถูกมอบให้กับข้าแล้ว เนื่องจากเมืองนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง ความอยากของข้าก็ได้สมใจแล้ว’”

ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เมืองไทระ เราคือศัตรูของเจ้า เราจะทำให้ชนชาติมากมายถาโถมใส่เจ้า อย่างทะเลทำให้คลื่นของมันถาโถมใส่ฝั่ง

พวกเขาจะทำลายกำแพงเมืองไทระ และจะพังพวกหอคอยในเมืองลง เราจะขูดทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้ออกจนหมดเกลี้ยง กลายเป็นหินโล่งเตียน เมืองไทระจะกลายเป็นเกาะสำหรับตากอวน เราได้ลั่นคำพูดไปแล้ว”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เมืองนี้จะกลายเป็นของที่ปล้นมาสำหรับชาติต่างๆ และหมู่บ้านทั้งหลายที่ขึ้นกับมัน ที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ จะถูกทำลายล้างด้วยดาบ แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”

กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์จะโจมตีไทระ

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เราจะให้เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์ของเมืองบาบิโลน ซึ่งเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย มาโจมตีเมืองไทระจากทางทิศเหนือ เขาจะมาพร้อมกับม้าและรถรบ ทหารม้าและกองทัพอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร เขาจะทำลายหมู่บ้านทั้งหลายที่ขึ้นกับมัน บนแผ่นดินใหญ่ด้วยดาบ เขาจะตั้งป้อมต่อสู้กับเจ้า และสร้างเนินดินขึ้นถึงยอดกำแพงเจ้า และเขาจะยกพวกโล่ขึ้นบังจากการตอบโต้ของเจ้า เขาจะเอาท่อนซุงทะลวงกำแพงเมือง และเอาขวานของเขาฟันหอคอยต่างๆของเจ้าลง 10 ม้าของเขามีมากเสียจนฝุ่นฟุ้งตลบเจ้าไปหมด กำแพงของเจ้าจะสั่นสะเทือนไปด้วยเสียงดังกึกก้องของทหารม้า รถลาก และรถรบ เมื่อเขาผ่านเข้าไปตามประตูเมืองของเจ้า อย่างกับคนที่เข้าเมืองตอนที่กำแพงแตก 11 กีบม้าทั้งหลายของเขาจะเหยียบย่ำถนนทุกสายของเจ้า เขาจะฆ่าประชาชนของเจ้าด้วยดาบ และเสาหลักอันแข็งแกร่งทั้งหลายของเจ้าจะล้มลงกับดิน 12 พวกเขาจะปล้นทรัพย์สมบัติของเจ้าและแย่งชิงสินค้าของเจ้า พวกเขาจะพังกำแพงของเจ้าและทุบบ้านเรือนที่สวยงามทั้งหลายของเจ้าทิ้ง และพวกเขาจะโยนก้อนหิน ท่อนไม้ และซากอิฐ ลงทะเล 13 เราจะทำให้เสียงเพลงของเจ้าที่ดังกึกก้องอยู่นั้นสิ้นสุดลง และจะไม่มีใครได้ยินเสียงพิณของเจ้าอีกต่อไป 14 เราจะทำให้เจ้าเป็นหินโล่งเตียน กลายเป็นที่สำหรับตากอวน เจ้าจะไม่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกแล้ว เพราะเรา ยาห์เวห์ได้ลั่นคำพูดไว้แล้ว” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

ชนชาติอื่นๆจะร้องไห้ให้กับเมืองไทระ

15 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดกับเมืองไทระ “แผ่นดินตามชายฝั่งทะเลจะต้องสั่นสะเทือนด้วยเสียงล่มสลายของเจ้า ตอนที่ผู้บาดเจ็บร้องคร่ำครวญ ตอนที่ผู้คนถูกฆ่าฟันในเมืองของเจ้า 16 แล้วเจ้าชายทั้งหลายของเมืองตามชายฝั่งทะเลนั้น จะก้าวลงจากบัลลังก์ของพวกเขา และถอดเสื้อคลุมยาวกับเสื้อผ้าที่เย็บปักถักร้อยอย่างสวยงามออก พวกเขาจะเอาความกลัวมานุ่งห่มแทนและนั่งอยู่บนพื้นดิน เขาจะตัวสั่นเทาตลอดเวลา เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้านี้ 17 แล้วพวกเขาจะร้องเพลงไว้อาลัยที่เกี่ยวกับเจ้าและพูดกับเจ้าว่า

‘เมืองที่มีชื่อเสียงเลื่องลือเอ๋ย
    เจ้าสูญหายไปแล้ว
เจ้าถูกกวาดไปจากทะเล
    เจ้าเคยเป็นเมืองมหาอำนาจบนท้องทะเล
เจ้ากับพลเมืองของเจ้า
    เคยทำให้ทุกคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินใหญ่นั้นหวาดกลัว
18 เดี๋ยวนี้ แผ่นดินตามชายฝั่งทะเลต่างสั่นเทิ้มด้วยความกลัวในวันที่เจ้าล้มลง
    หมู่เกาะทั้งหลายต่างตกใจกลัวกับการล่มสลายของเจ้า’”

19 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เมื่อเราทำให้เจ้ากลายเป็นเมืองร้าง เหมือนกับเมืองที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เมื่อเรานำความลึกของมหาสมุทรเข้ามาไว้บนเจ้า และน้ำของมันได้ไหลทะลักเข้าท่วมเจ้าแล้ว 20 เราจะกดเจ้าให้จมดิ่งลงไปอยู่กับพวกที่อยู่ในหลุมลึก จะให้ไปอยู่กับพวกคนที่ตายไปนานแล้ว เราจะทำให้เจ้าอาศัยอยู่ในโลกเบื้องล่าง เหมือนซากปรักหักพังของสมัยดึกดำบรรพ์ พร้อมกับพวกที่อยู่ในหลุมลึก จะไม่มีใครอาศัยอยู่ในเจ้าอีก เจ้าจะไม่มีศักดิ์ศรีในแดนของคนเป็น 21 เราจะนำเจ้าไปสู่จุดจบที่น่าสะพรึงกลัว และจะไม่มีเจ้าอีกต่อไป ถึงจะมีคนหา ก็จะไม่พบเจ้าอีกแล้ว” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

เมืองไทระ ประตูสู่ทะเล

27 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้ร้องเพลงไว้อาลัยสำหรับเมืองไทระ

ให้พูดกับเมืองไทระที่ตั้งอยู่ที่ทางออกสู่ทะเลและเป็นเมืองค้าขายของชนชาติต่างๆตามชายฝั่งทะเลทั้งหลายว่า

‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
ไทระเอ๋ย เจ้าพูดว่า
    “ฉันงามหมดจด”
พรมแดนของเจ้าอยู่ที่กลางทะเล
    ช่างก่อสร้างได้สร้างเจ้าให้มีความงามหมดจด
พวกเขาเอาไม้สนที่มาจากเสนีร์[g]
    มาสร้างเป็นแผ่นกระดานของเจ้า
พวกเขาเอาไม้สนซีดาร์มาจากเลบานอน
    มาสร้างเสากระโดงเรือของเจ้า
พวกเขาเอาไม้โอ๊กมาจากบาชาน
    มาสร้างกรรเชียงของเจ้า
พวกเขาใช้ไม้สนที่มาจากชายฝั่งไซปรัส
    มาสร้างดาดฟ้าเรือของเจ้าและฝังด้วยงาช้าง
พวกเขาเอาผ้าลินินที่เย็บอย่างสวยงามจากประเทศอียิปต์มาทำใบเรือของเจ้า
    และใบเรือนั้นได้ใช้เป็นธงสำหรับเจ้า
    กันสาดของเจ้าที่มาจากชายฝั่งเอลีชาห์เป็นสีน้ำเงินและสีม่วง
ผู้คนจากไซดอนและอารวัดเป็นคนพายเรือให้เจ้า
    ไทระเอ๋ย ต้นหนที่มีความชำนาญทั้งหลายต่างอยู่บนเรือของเจ้า
มีช่างผู้ใหญ่ที่ชำนาญงานของเกบาล[h] อยู่บนเรือของเจ้า
    พวกเขาคอยชันยาอุดรอยรั่วของเรือ
เรือทุกลำในทะเลและกะลาสีเรือทุกคน
    ต่างมาที่นี่เพื่อซื้อขายสินค้ากับเจ้า

10 ชาวเปอร์เซีย ชาวลูดและชาวพูตก็เป็นทหารรับใช้อยู่ในกองทัพของเจ้า

พวกเขาแขวนโล่กับหมวกเหล็กเอาไว้บนกำแพงของเจ้าทำให้เจ้าดูงดงาม

11 ชาวอารวัดและชาวเฮเลคเดินไปเดินมาอยู่บนกำแพงทุกด้านของเจ้า

ชาวกามัดอยู่ตามหอคอยของเจ้า พวกเขาแขวนโล่ไว้รอบๆกำแพงของเจ้า

พวกเขาทำให้เจ้างามหมดจด

12 ทารชิช ไปมาค้าขายกับเจ้า เพราะเจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล

พวกเขาเอาเงิน เหล็ก ดีบุกและตะกั่วมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า 13 ประเทศกรีซ

ทูบัลและเมเชคได้มาค้าขายกับเจ้า

พวกเขาเอาทาสและข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากทองสัมฤทธิ์มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า

14 ชาวเบธโทการมาห์[i] เอาม้าใช้งาน ม้าศึกและล่อมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า

15 ชาวโรเดส[j] มาค้าขายกับเจ้า และเมืองตามชายฝั่งทะเลต่างก็เป็นลูกค้าของเจ้า

พวกเขาเอางาช้างกับไม้มะเกลือมาจ่ายเป็นค่าสินค้าให้กับเจ้า

16 ชาวอารัม[k] มาทำการค้ากับเจ้า เป็นเพราะเจ้ามีสินค้ามากมายมหาศาล

พวกเขาเอาพลอยสีน้ำเงินอมเขียว ผ้าสีม่วง ผ้าปักลาย ผ้าลินินอย่างดี ปะการัง และทับทิมมาแลกกับสินค้าของเจ้า

17 ยูดาห์กับอิสราเอลก็มาค้าขายกับเจ้า

พวกเขาเอาข้าวสาลีจากเมืองมินนิทและขนมหวาน[l] น้ำเชื่อมผลไม้ น้ำมันและยาสมุนไพร มาแลกกับสินค้าของเจ้า

18 ชาวดามัสกัสมาค้าขายกับเจ้าด้วย เขาเอาเหล้าองุ่นจากเมืองเฮลโบน และขนแกะจากเมืองซาฮาห์มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า

เป็นเพราะเจ้ามีสินค้ามากมายมหาศาล

19 ชาวดานและชาวกรีกจากเมืองอุซาลได้ค้าขายกับเจ้า พวกเขาเอาเหล็กหล่อ เครื่องเทศ และอ้อยมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า 20 เมืองเดดานค้าขายผ้ารองอานกับเจ้า

21 ชาวอาระเบียและบรรดาเจ้าชายทั้งหลายแห่งเมืองเคดาร์ก็เป็นลูกค้าของเจ้า

พวกเขาเอาลูกแกะ แกะตัวผู้และแพะมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า

22 พวกพ่อค้าของเชบาและราอามาห์ก็ค้าขายกับเจ้า

พวกเขาเอาเครื่องเทศชั้นเยี่ยมนานาชนิด พลอยมีค่าต่างๆและทองคำ มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า 23 เมืองฮาราน คานเนห์และเอเดน รวมทั้งพ่อค้าของเชบา และของเมืองอัสชูรและคิลมาด ก็ค้าขายกับเจ้า

24 ในตลาดของเจ้า พวกเขาค้าขายเครื่องนุ่งห่มที่สวยงาม ผ้าสีน้ำเงิน งานเย็บปักและพรมหลายหลากสี ที่มีเชือกมัดขมวดเป็นปมไว้อย่างแน่นหนา

25 กองเรือของทารชิชทำหน้าที่ขนสินค้าให้กับเจ้า

ไทระเอ๋ย เจ้าเป็นเหมือนเรือ
    ที่เต็มไปด้วยสินค้าจนหนักอึ้งอยู่ใจกลางทะเล
26 ฝีพายของเจ้าพาเจ้าออกไปในทะเลลึก
    แต่ลมตะวันออกทำให้เจ้าอับปางที่ใจกลางทะเลนั้น
27 ความร่ำรวยของเจ้า สินค้า และของนำเข้าของเจ้า
    พวกลูกเรือ ต้นหน และช่างต่อเรือของเจ้า
พ่อค้าของเจ้ากับทหารทั้งหมดและคนอื่นๆทุกคนบนเรือ
    จะจมดิ่งลงใจกลางทะเลในวันที่เจ้าถูกทำลายนั้น

28 เมืองตามชายฝั่งจะสั่นไหว
    เมื่อต้นหนของเจ้าร้องตะโกนออกมา
29 ฝีพายที่พายเรือลำอื่นๆอยู่จะสละเรือ
    ทั้งลูกเรือและต้นหนจะไปยืนอยู่บนชายฝั่ง
30 พวกเขาจะตะโกนออกมาและร้องไห้อย่างขมขื่นสำหรับเจ้า
    พวกเขาจะโปรยดินลงบนหัวและเกลือกกลิ้งในกองขี้เถ้า
31 พวกเขาจะโกนผมออกให้กับเจ้า
    และจะสวมเสื้อผ้ากระสอบ
พวกเขาจะร้องไห้ให้กับเจ้าด้วยวิญญาณที่เจ็บปวดรวดร้าว
    และด้วยความเศร้าอันขมขื่น

32 ในขณะที่พวกเขาร้องคร่ำครวญให้กับเจ้า พวกเขาจะร้องเพลงไว้อาลัยสำหรับตัวเจ้าว่า

เคยมีใครเป็นเหมือนเมืองไทระบ้าง
    ตอนที่เธอเงียบจมหายไปในทะเล
33 เจ้าเคยทำให้ชนชาติต่างๆพึงพอใจเมื่อสินค้าของเจ้าออกสู่ทะเล
    เจ้าเคยทำให้กษัตริย์ทั้งหลายในโลกร่ำรวยด้วยทรัพย์สินอันมหาศาลและสินค้ามากมายของเจ้า

34 แต่ตอนนี้ ทะเลได้ทำให้เจ้าแตกอับปางในทะเลลึก
    ทั้งสินค้าและลูกเรือทั้งหมดของเจ้าต่างจมลงไปกับเจ้าด้วย
35 ทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองตามชายฝั่งต่างรู้สึกหวาดกลัวเพราะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า
กษัตริย์ทั้งหลายในเมืองเหล่านี้ต่างก็สะดุ้งตกใจ
    และใบหน้าของพวกเขาก็บิดเบี้ยวด้วยความกลัว
36 พวกพ่อค้าที่อยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งหลายผิวปากด้วยความตะลึงงัน
    เจ้าได้มาถึงจุดจบอันน่าสะพรึงกลัวและจะไม่มีเจ้าอีกต่อไป’”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International