Chronological
เนบูคัดเนสซาร์มาที่ยูดาห์
24 ในช่วงยุคสมัยของเยโฮยาคิม กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ของบาบิโลนบุกเข้ามาในแผ่นดิน และเยโฮยาคิมก็รับใช้เขาเป็นเวลาสามปี แต่แล้วเยโฮยาคิมเปลี่ยนใจและกบฏต่อเนบูคัดเนสซาร์ 2 พระยาห์เวห์ส่งชาวบาบิโลน ชาวอารัม ชาวโมอับและชาวอัมโมนให้เข้ามาสู้รบกับเยโฮยาคิม พระองค์ส่งพวกเขาให้มาทำลายยูดาห์ตามคำพูดของพระยาห์เวห์ ที่เคยประกาศไว้ ผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
3 สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับยูดาห์ตามคำสั่งของพระยาห์เวห์แน่ ที่พระองค์สั่งให้กำจัดพวกเขาให้พ้นไปจากสายตาของพระองค์ เนื่องจากบาปทั้งหลายของมนัสเสห์และสิ่งต่างๆที่เขาได้ทำไป 4 รวมทั้งการทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ต้องไหลนองด้วย เพราะมนัสเสห์ได้ทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ได้ไหลนองไปทั่วเยรูซาเล็ม พระยาห์เวห์ก็เลยไม่ยอมยกโทษให้
5 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเยโฮยาคิมและทุกสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของพวกกษัตริย์แห่งยูดาห์ 6 เยโฮยาคิมตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และเยโฮยาคีนลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
7 กษัตริย์ของประเทศอียิปต์ไม่ได้ยกทัพออกมาจากประเทศของเขาอีก เพราะกษัตริย์ของบาบิโลนเข้ายึดเอาดินแดนที่เคยเป็นของกษัตริย์อียิปต์ ตั้งแต่ลำธารของอียิปต์ไปจนกระทั่งถึงแม่น้ำยูเฟรติส
เนบูคัดเนสซาร์ยึดเยรูซาเล็ม
(2 พศด. 36:9-10)
8 เยโฮยาคีนมีอายุสิบแปดปี เมื่อเขาเป็นกษัตริย์ และเขาครองราชย์อยู่ในเยรูซาเล็มเป็นเวลาสามเดือน แม่ของเขามีชื่อว่าเนหุชทา นางเป็นลูกสาวของเอลนาธันที่มาจากเยรูซาเล็ม 9 เยโฮยาคีนได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์เหมือนกับที่พ่อของเขาทำ
10 ในเวลานั้น บรรดาข้าราชการของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ของบาบิโลนเคลื่อนทัพเข้ามาใกล้เยรูซาเล็มและได้ปิดล้อมเมืองไว้ 11 ตัวเนบูคัดเนสซาร์เองก็ขึ้นมาถึงเมืองเยรูซาเล็ม ในขณะที่พวกข้าราชการของเขากำลังปิดล้อมเมืองอยู่ 12 กษัตริย์เยโฮยาคีนของยูดาห์ แม่ของเขา เหล่าผู้รับใช้ของเขา เหล่าขุนนางและบรรดาเจ้าหน้าที่ในวังของเขา ต่างก็มอบตัวต่อกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ในปีที่แปด[a] ที่กษัตริย์บาบิโลนครองราชย์ เขาจับตัวเยโฮยาคีนไว้เป็นเชลย
13 เนบูคัดเนสซาร์ขนเอาสมบัติทั้งหมดไปจากวิหารของพระยาห์เวห์ และจากวังของกษัตริย์ และเอาเครื่องใช้ทองคำที่กษัตริย์ซาโลมอนของอิสราเอลได้สร้างไว้ให้กับวิหารของพระยาห์เวห์ ตัดเป็นชิ้นๆ ทั้งหมดนี้ได้เกิดขึ้นตามที่พระยาห์เวห์ได้บอกไว้ล่วงหน้า 14 เนบูคัดเนสซาร์กวาดคนในเยรูซาเล็มไปเป็นเชลยจนหมด ไม่ว่าจะเป็นพวกเจ้าหน้าที่ นักรบ และพวกช่างแกะสลักและพวกช่างฝีมือทั้งหลาย รวมทั้งหมดหนึ่งหมื่นคน เหลือไว้แต่พวกคนที่ยากจนที่สุดของแผ่นดิน 15 เนบูคัดเนสซาร์จับตัวเยโฮยาคีนไปไว้ที่บาบิโลน รวมทั้งแม่ของเขา พวกเมียทั้งหลายของเขา ตลอดจน พวกเจ้าหน้าที่ของเขา และคนระดับผู้นำของแผ่นดิน เขาจับคนพวกนี้จากเยรูซาเล็มไปไว้ที่บาบิโลน 16 กษัตริย์บาบิโลนยังกวาดต้อนพวกนักรบที่แข็งแกร่ง ที่พร้อมสำหรับการศึก ทั้งหมดเจ็ดพันคน และพวกช่างแกะสลักและช่างฝีมือทั้งหลายรวมหนึ่งพันคนไปไว้ที่บาบิโลนด้วย 17 เนบูคัดเนสซาร์ได้ให้มัทธานิยาห์ที่เป็นน้าของเยโฮยาคีนขึ้นเป็นกษัตริย์แทน และเปลี่ยนชื่อเขาเป็นเศเดคียาห์
เศเดคียาห์ปกครองยูดาห์
(2 พศด. 36:11-17; ยรม. 52:1-3)
18 เศเดคียาห์มีอายุยี่สิบเอ็ดปี ตอนที่ขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองราชย์อยู่ในเยรูซาเล็มสิบเอ็ดปี แม่ของเขาชื่อว่าฮามุทาลเป็นลูกสาวของเยเรมียาห์ นางมาจากลิบนาห์ 19 เศเดคียาห์ได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่เยโฮยาคิมเคยทำมาก่อน 20 พระยาห์เวห์โกรธเยรูซาเล็มและยูดาห์มากจนถึงกับขับไล่พวกเขาออกไปให้พ้นหน้าของพระองค์
เยรูซาเล็มแตก
(2 พศด. 36:18-21; ยรม. 52:3-30)
ในเวลานั้น เศเดคียาห์ได้กบฏต่อกษัตริย์บาบิโลน
25 ต่อมาในวันที่สิบ เดือนสิบ ปีที่เก้าที่เศเดคียาห์เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์และกองทัพทั้งหมดของเขาได้ยกมาที่เยรูซาเล็มและล้อมเมืองเอาไว้ และได้สร้างเนินดินสำหรับบุกขึ้นโจมตีไว้รอบกำแพงเมือง
2 พวกเขาล้อมเมืองเยรูซาเล็มอยู่จนถึงปีที่สิบเอ็ดที่เศเดคียาห์เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ 3 ในวันที่เก้า เดือนสี่ ความอดอยากในเมืองนั้นก็แสนสาหัส ถึงขั้นไม่มีอาหารให้กับประชาชนกินกัน 4 ในที่สุดกองทัพของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็บุกทะลวงกำแพงเข้ามาได้ ในคืนนั้นกษัตริย์เศเดคียาห์และทหารทั้งหมดของเขาก็หนีออกไปทางประตูที่อยู่ระหว่างกำแพงสองชั้น ใกล้ๆสวนของกษัตริย์ ถึงแม้พวกบาบิโลนจะปิดล้อมเมืองอยู่ แต่กษัตริย์เศเดคียาห์พร้อมกับพวกทหารของเขาก็หนีไปตามทางที่มุ่งไปสู่ทะเลทรายอารบา
5 ทหารบาบิโลนไล่ตามกษัตริย์เศเดคียาห์ไป แล้วก็จับตัวเขาได้ในที่ราบของเมืองเยริโค แล้วทหารของเขาต่างพากันทิ้งเขาหนีกระเจิดกระเจิงไป
6 พวกทหารบาบิโลนจึงจับกุมตัวกษัตริย์ไว้ และนำตัวไปให้กับกษัตริย์บาบิโลนที่ริบลาห์ แล้วกษัตริย์บาบิโลนก็ตัดสินโทษเขา 7 พวกทหารบาบิโลนได้ฆ่าพวกลูกชายของเศเดคียาห์ต่อหน้าเขา และควักดวงตาทั้งสองข้างของเศเดคียาห์ แล้วเอาโซ่ล่ามเขาไว้ พาไปที่บาบิโลน
8 ในวันที่เจ็ดเดือนที่ห้า[b] ซึ่งเป็นปีที่สิบเก้าที่เนบูคัดเนสซาร์เป็นกษัตริย์แห่งบาบิโลน เนบูซาระดานหัวหน้าทหารองครักษ์ ที่เป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกษัตริย์ ได้มาที่เยรูซาเล็ม 9 เขาได้เผาวิหารของพระยาห์เวห์ วังของกษัตริย์ และบ้านเรือนทั้งหมดในเยรูซาเล็ม เขาเผาบ้านที่ใหญ่โตทุกหลังลงหมด
10 แล้วกองทัพทั้งหมดของบาบิโลนที่มากับหัวหน้าองครักษ์ ก็ทลายกำแพงรอบเมืองเยรูซาเล็มลง 11 แล้วเนบูซาระดานก็กวาดต้อนคนที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมือง และคนที่เคยทิ้งเมืองไปเข้ากับกษัตริย์บาบิโลน ไปบาบิโลนจนหมด 12 แต่เขาได้ทิ้งคนจนที่สุดไว้ในแผ่นดิน เพื่อดูแลไร่องุ่นและทุ่งนา
13 เสาทองสัมฤทธิ์ที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ รวมทั้งแท่นบูชาเคลื่อนที่ และขันทะเลทองสัมฤทธิ์ที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ พวกทหารบาบิโลนก็ทุบเป็นชิ้นๆ แล้วขนเอาทองสัมฤทธิ์กลับไปที่บาบิโลน 14 แล้วพวกบาบิโลนก็ขนเอา พวกหม้อ พลั่ว กรรไกรตัดไส้ตะเกียง ชามสำหรับเครื่องหอม และเครื่องใช้ทองสัมฤทธิ์ที่ใช้ในวิหารไปด้วย
15 รวมทั้งพวกกระถางใส่ขี้เถ้า และพวกชามใส่เลือดของเครื่องสัตวบูชา หัวหน้าองครักษ์เอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำจากทองและเงิน เพราะอยากได้ทองและเงินนั้น
16 ส่วนทองสัมฤทธิ์ที่ได้จาก เสาสองต้น ขันทะเล และพวกแท่นบูชาเคลื่อนที่ ที่กษัตริย์ซาโลมอนได้สร้างไว้สำหรับวิหารของพระยาห์เวห์นั้น หนักเกินกว่าที่จะชั่งได้
17 เสาต้นหนึ่งสูงสิบแปดศอก บนยอดเสายังมีหัวเสาทองสัมฤทธิ์สูงสามศอกวางอยู่ ประดับด้วยตาข่ายและพวกลูกทับทิมที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ล้อมรอบ เสาอีกต้นหนึ่งกับตาข่ายของมันก็ทำแบบเดียวกัน
18 จากวิหาร เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ ได้จับตัวเสไรอาห์ หัวหน้านักบวช และเศฟันยาห์รองหัวหน้านักบวช และผู้ดูแลประตูวิหารสามคน 19 จากในเมือง เขาได้จับแม่ทัพคนหนึ่งที่เคยดูแลทหาร พร้อมกับที่ปรึกษาห้าคนของกษัตริย์ที่เขาเจอในเมือง และเลขาที่เป็นแม่ทัพที่เป็นคนเกณฑ์ทหาร และผู้ชายอีกหกสิบคนที่พบในเมืองนั้น
20 แล้วเนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ ก็ได้ต้อนคนพวกนี้ทั้งหมดไปหากษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ริบลาห์ 21 กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ฆ่าพวกเขาในริบลาห์ในเขตฮามัทนั้นเอง อย่างนี้ พวกยูดาห์ก็ถูกกวาดต้อนออกไปจากแผ่นดินของตน
เกดาลิยาห์เจ้าเมืองยูดาห์
(ยรม. 40:5-41:3)
22 แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ได้แต่งตั้งเกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมที่เป็นลูกชายของชาฟาน ขึ้นเป็นเจ้าเมืองปกครองคนที่ยังเหลืออยู่ในแผ่นดินยูดาห์ ที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้เหลือทิ้งไว้
23 เมื่อพวกแม่ทัพนายกองคือ อิชมาเอลลูกชายเนธานิยาห์ โยฮานันลูกชายคาเรอาห์ เสไรอาห์ลูกชายทันหุเมทชาวเนโทฟาห์ และยาอาซันยาห์ลูกชายคนตระกูลมาอาคาห์ รวมทั้งคนของเขาได้ข่าวว่ากษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้แต่งตั้งให้เกดาลิยาห์เป็นเจ้าเมือง พวกเขาและคนของพวกเขาต่างก็พากันมาหาเกดาลิยาห์ที่เมืองมิสปาห์ 24 แล้วเกดาลิยาห์ก็ได้สาบานกับพวกเขาและคนของพวกเขาว่า “อย่ากลัวพวกเจ้าหน้าที่คนบาบิโลนเลย มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้และรับใช้กษัตริย์แห่งบาบิโลนเถิด แล้วพวกท่านก็จะอยู่เย็นเป็นสุข”
25 แต่ต่อมาในเดือนที่เจ็ด อิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ที่เป็นลูกชายของเอลีชามา ที่มีเชื้อกษัตริย์ มาพร้อมกับคนของเขาสิบคน ได้เข้าโจมตีเกดาลิยาห์และฆ่าเขาและคนยูดาห์พร้อมกับคนบาบิโลนที่อยู่กับเกดาลิยาห์ที่เมืองมิสปาห์ 26 แล้วพวกแม่ทัพนายกองรวมทั้งคนทั้งหมด ตั้งแต่คนต่ำต้อยไปจนถึงคนสำคัญ ต่างก็พากันหนีไปอยู่ที่อียิปต์ เพราะกลัวคนบาบิโลน
เยโฮยาคีนได้รับเกียรติในบาบิโลน
(ยรม. 52:31-34)
27 ในวันที่ยี่สิบเจ็ด เดือนสิบสอง ซึ่งเป็นปีที่สามสิบเจ็ด[c] ที่กษัตริย์เยโฮยาคีนแห่งยูดาห์ถูกจับไปเป็นเชลยนั้น เอวิลเมโรดักขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งบาบิโลน เขาได้ปล่อยกษัตริย์เยโฮยาคีนออกจากคุก
28 กษัตริย์เอวิลเมโรดักพูดกับกษัตริย์เยโฮยาคีนอย่างสุภาพ และให้เขานั่งในที่สำคัญกว่ากษัตริย์องค์อื่นๆที่อยู่กับกษัตริย์เอวิลเมโรดักในบาบิโลน
29 กษัตริย์เยโฮยาคีนถอดชุดนักโทษของพระองค์ออก แล้วได้กินอาหารร่วมกับกษัตริย์เอวิลเมโรดักทุกวันตลอดชีวิตของเขา
30 กษัตริย์เอวิลเมโรดักก็ให้เงินและอาหารกับกษัตริย์เยโฮยาคีนใช้กินใช้จ่ายในทุกวัน ไปจนตลอดชีวิตของเขา
กษัตริย์เยโฮอาหาสปกครองยูดาห์
(2 พกษ. 23:30-35)
36 และประชาชนชาวยูดาห์ก็ยกเยโฮอาหาสลูกชายของโยสิยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์ในเมืองเยรูซาเล็มต่อจากพ่อของเขา 2 เยโฮอาหาสมีอายุยี่สิบสามปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มได้สามเดือน 3 กษัตริย์เนโคของประเทศอียิปต์ได้ปลดเขาออกจากบัลลังก์ในเยรูซาเล็ม และบีบบังคับให้ชาวยูดาห์ส่งส่วยเป็นเงินหนักประมาณสามตันครึ่ง และทองคำหนักประมาณสามตันครึ่ง 4 กษัตริย์เนโคของประเทศอียิปต์ตั้งเอลียาคิมน้องชายของเยโฮอาหาสขึ้นเป็นกษัตริย์เหนือยูดาห์และเยรูซาเล็ม และเปลี่ยนชื่อของเอลียาคิมเป็นเยโฮยาคิม แต่เนโคได้เอาตัวเยโฮอาหาสพี่ชายของเอลียาคิมไปที่ประเทศอียิปต์
กษัตริย์เยโฮยาคิมปกครองยูดาห์
(2 พกษ. 23:36-24:7)
5 เยโฮยาคิมมีอายุยี่สิบห้าปีเมื่อเขาเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสิบเอ็ดปี เขาได้ทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา
6 กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้เข้าโจมตีเขาและจับตัวเขาล่ามโซ่ทองสัมฤทธิ์และพาไปที่บาบิโลน 7 เนบูคัดเนสซาร์ยังได้ขนเอาพวกเครื่องใช้ออกมาจากวิหารของพระยาห์เวห์ และขนไปไว้ที่วิหารของเขาที่บาลิโลนด้วย 8 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของเยโฮยาคิม สิ่งที่น่ารังเกียจที่เขาได้ทำและสิ่งต่างๆที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเขา ได้ถูกจดบันทึกไว้ในหนังสือพงศ์กษัตริย์ของอิสราเอลและยูดาห์ และเยโฮยาคีนลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากเขา
กษัตริย์เยโฮยาคีนปกครองยูดาห์
(2 พกษ. 24:8-17)
9 เยโฮยาคีนมีอายุสิบแปดปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเยรูซาเล็มสามเดือน[a] เขาทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ 10 ในฤดูใบไม้ผลิ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ส่งคนไปพาตัวเขามาที่บาบิโลนพร้อมกับพวกเครื่องใช้ที่มีค่าจากวิหารของพระยาห์เวห์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ให้เศเดคียาห์ อาของเยโฮยาคีนขึ้นเป็นกษัตริย์เหนือยูดาห์และเยรูซาเล็มแทนเขา
กษัตริย์เศเดคียาห์ปกครองยูดาห์
(2 พกษ. 24:18-20; ยรม. 52:1-3)
11 เศเดคียาห์มีอายุยี่สิบเอ็ดปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสิบเอ็ดปี 12 เขาทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และไม่ยอมถ่อมตัวและไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ที่ผ่านมาทางเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า
เมืองเยรูซาเล็มถูกทำลาย
13 เศเดคียาห์กบฏต่อกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ก่อนหน้านี้ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์บังคับให้เขาสาบานโดยอ้างชื่อของพระเจ้าว่าเขาจะจงรักภักดีต่อบาบิโลน แต่ต่อมาเขาเริ่มดื้อดึงและใจแข็งกระด้าง ไม่ยอมหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของชนชาติอิสราเอล 14 ยิ่งกว่านั้น พวกผู้นำทั้งหลายของเหล่านักบวชและประชาชนก็ยิ่งไม่ซื่อสัตย์มากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาไปทำตามการกระทำที่น่าขยะแขยงของชนชาติอื่นๆและทำให้วิหารของพระยาห์เวห์ที่พระองค์ได้ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองเยรูซาเล็มนั้นต้องเสื่อมไป 15 พระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเขา ส่งคำพูดมาถึงพวกเขาผ่านทางพวกผู้ส่งข่าวของพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะพระองค์ไม่อยากทำลายประชาชนของพระองค์และสถานที่อาศัยของพระองค์ 16 แต่พวกเขากลับล้อเลียนพวกผู้ส่งข่าวพระเจ้าเหล่านั้น พวกเขาดูถูกคำพูดของพระองค์ เย้ยหยันพวกผู้พูดแทนพระเจ้า จนในที่สุดพระยาห์เวห์ก็ทนไม่ไหว พระองค์โกรธประชาชนของพระองค์จนไม่มีอะไรสามารถหยุดความโกรธของพระองค์ได้ 17 พระองค์ได้ยกกษัตริย์ของชาวบาบิโลนขึ้นมาต่อต้านเขา กษัตริย์บาบิโลนได้ฆ่าพวกคนหนุ่มของพวกเขาตายด้วยดาบในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และไม่ไว้ชีวิตใครเลยแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มคนสาว คนชราหรือแม้แต่คนแก่ พระเจ้าได้มอบพวกเขาทั้งหมดไว้ในเงื้อมมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ 18 เขาได้ขนเอาข้าวของเครื่องใช้ออกจากวิหารของพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ และยังเอาสมบัติในวิหารของพระยาห์เวห์และสมบัติของกษัตริย์กับพวกเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์ไปจนหมดด้วย 19 พวกเขาจุดไฟเผาวิหารของพระเจ้าและทำลายกำแพงเยรูซาเล็มลง พวกเขายังเผาพวกวังทั้งหมดและทำลายของมีค่าทุกอย่าง 20 ที่นั่น กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้กวาดต้อนเอาคนที่ยังมีชีวิตเหลือรอดจากคมดาบกลับไปที่บาบิโลนเพื่อไปเป็นทาสของเขากับพวกลูกชายของเขา จนกว่าอาณาจักรเปอร์เซียจะมาตั้งแทนอาณาจักรบาบิโลน 21 ดังนั้นสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้บอกกับคนอิสราเอลผ่านมาทางเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าก็เกิดขึ้นจริง ที่ว่า “สถานที่นี้จะต้องถูกทิ้งให้รกร้างอยู่เป็นเวลาเจ็ดสิบปี เพื่อแผ่นดินจะได้หยุดพัก ชดเชยให้กับปีที่เจ็ดเหล่านั้น[b] ที่คนยูดาห์ไม่ยอมหยุดหว่านพืช”
22 ในปีแรก[c]ที่ไซรัสขึ้นมาเป็นกษัตริย์ของเปอร์เซีย พระยาห์เวห์ดลใจให้กษัตริย์ไซรัสออกคำสั่งไปทั่วอาณาจักรของเขาและจดมันไว้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพื่อให้สำเร็จตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่พูดผ่านมาทางเยเรมียาห์ ข้อความที่กษัตริย์ไซรัสป่าวประกาศออกไปนั้น คือ
23 “กษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียพูดว่าอย่างนี้
‘พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้ให้อาณาจักรทั้งหมดบนโลกนี้แก่เรา พระองค์ได้แต่งตั้งให้เราเป็นผู้สร้างวิหารให้กับพระองค์ในเมืองเยรูซาเล็ม ที่อยู่ในยูดาห์ บัดนี้ ใครก็ตามท่ามกลางพวกเจ้าที่เป็นชนชาติของพระองค์ สามารถกลับไปเยรูซาเล็มได้ ขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าสถิตอยู่กับเจ้า’”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International